“พวกเจ้าจะเป็นอะไรได้นอกจากขยะ? สามคนรุมคนแก่อย่างข้าเพียงคนเดียว แต่ต่อสู้กันมาตั้งนานก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป คาดว่าเทียนไว่เทียนของพวกเจ้าคงจะรู้สึกว่าด้อยกว่าซานไว่ซานของเรากระมัง!”เมื่อนักพรตเฒ่าชุดดำหยุดนิ่ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยหวังหยวนและอีกสองคนไม่ได้ตอบโต้เพราะคนผู้นี้เก่งกาจยิ่งนัก เขามีวิธีการโจมตีเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง“ความสามารถของเจ้าไม่ได้สูงส่งอันใด แต่กลับปากเก่งนัก มาที่นี่คนเดียว คงคิดจะฆ่าพวกเราสามคนเพียงลำพัง แต่ผ่านมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ว่าเสียแรงเปล่าหรือ?”พี่ชิงอีเผยรอยยิ้มหยันบนใบหน้า คนผู้นี้ช่างโอหังและในที่สุดก็จะต้องตายเพราะความเย่อหยิ่งของตนเอง“จะเสียแรงเปล่าหรือไม่นั้น รอให้ถึงตอนนั้นค่อยรู้ก็ได้ไม่ใช่หรือ? ข้าเป็นเพียงคนชรา หากพวกเจ้าสามคนถูกข้าสังหารก็คงจะน่าอับอายยิ่งนัก แถมยังมีสตรีศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย ข้าจะไม่มีวันปล่อยพวกเจ้าไปอย่างง่ายดายแน่นอน!”เดิมทีตอนแรกที่เขามาที่นี่ก็เพียงเพื่อฆ่าหวังหยวนเท่านั้น ส่วนคนอื่นจะตายหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขา เพราะเพียงแค่ฆ่าหัวหน้าได้ ลูกสมุนก็จะแตกพ่ายไปด้วยแต่เมื่
หวังหยวนและเสวี่ยเชียนหลงซ่อนตัวเงียบกริบอยู่ในป่าลึกตอนนี้นักพรตเฒ่าชุดดำได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้มีพิษหรือไม่ แต่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเขามีลางสังหรณ์ไม่ดี หากยังคงต่อสู้ต่อไปจะถูกศัตรูเอาชนะเขาได้หรือไม่?แม้ว่านักพรตเฒ่าชุดดำจะมั่นใจในความสามารถของตนเอง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธลับแล้ว เคล็ดวิชาที่ชอบธรรมทั้งมวลก็แทบจะไร้ประโยชน์พี่ชิงอีไม่ได้ให้โอกาสเขาพัก เขาโจมตีอย่างสุดกำลัง นักพรตเฒ่าชุดดำจึงจำใจหยิบอาวุธของตนขึ้นมาต่อสู้กับพี่ชิงอีอีกครั้งหวังหยวนที่รอคอยจัวหวะอยู่ด้านข้าง เขาไม่รู้ว่าหวังหยวนและภรรยาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน นั่นหมายความว่ามีอันตรายลึกลับกำลังรอเขาอยู่“พวกเจ้าช่างกล้าได้กล้าเสียจริง ๆ แค่ข้าไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด พวกเจ้าจึงเริ่มย่ามใจกันแล้วใช่หรือไม่? หวังหยวน เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าอยู่ที่ไหน? อย่างไรเสียก็ไม่พ้นซ่อนตัวอยู่ในป่าเป็นแน่ เจ้าคอยอยู่เถิด ข้าจะตามจับเจ้ามาเดี๋ยวนี้แหละ!”นักพรตเฒ่าชุดดำผลักพี่ชิงอีออกไปอย่างแรง ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว และนั่นเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการหวังห
“ท่านนักพรต ท่านไม่เคยได้ยินคำพูดที่ว่ากลศึกย่อมไม่เกี่ยงวิธีบ้างหรือ? ข้าไม่ได้คิดจะทำร้ายท่าน ตราบใดที่ท่านแลกเปลี่ยนข้อมูลบางอย่างกับข้า แล้วข้าจะปล่อยท่านไป”หวังหยวนเป็นคนยุติธรรมเสมอ เมื่อได้ยินคำพูดของหวังหยวน นักพรตเฒ่าชุดดำก็พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา ก่อนหันหน้าไปทางอื่นอย่างดื้อรั้น และไม่ตอบคำถามของหวังหยวนเมื่อเห็นท่าทางแข็งขืนของเขา หวังหยวนจึงวางแผนที่จะทิ้งเขาไว้ที่นี่เพียงลำพังจากนั้นหวังหยวนก็ลุกขึ้นยืนพูดคุยกับเสวี่ยเชียนหลงและพี่ชิงอีสองสามคำ แล้วหันหลังเตรียมจะจากไปนักพรตเฒ่าชุดดำเพิ่งจะตระหนักได้ว่าเขากำลังจะถูกทอดทิ้ง หวังหยวนจะไม่พาเขาไปด้วยอย่างแน่นอน และจะไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆเชือกเหล่านี้ทายาพิษไว้ ร่างกายของเขาอ่อนแรงจนไม่สามารถขยับได้ หากมีสัตว์ป่ามาที่นี่แล้วกินเขา เขาก็ไม่สามารถต่อต้านได้เลยยิ่งไปกว่านั้น ท้องฟ้าก็ค่อย ๆ มืดลง ซึ่งเป็นเวลาที่สัตว์ป่าออกหากิน“น่าเสียดายนัก ฝีมือยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ แต่สุดท้ายต้องกลับมาตายที่นี่ ช่างน่าเศร้าเสียจริง แต่เจ้าวางใจได้ เมื่อข้ากลับไป ข้าจะเล่าเรื่องการสละชีพอย่างกล้าหาญของเจ้าให้สำนักซานไว่ซานฟัง เจ้าไม่ต
“ท่านแน่ใจหรือว่าจะไม่ยอมบอกความจริง? หากท่านไม่ยอมบอก พวกข้าก็จะไม่คาดคั้น ข้อมูลเหล่านี้ข้าสามารถไปสืบหาเองได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องการให้โอกาสท่านเท่านั้น ท่านควรใช้โอกาสนี้ให้ดี”เมื่อเห็นว่านักพรตเฒ่าชุดดำไม่ยอมให้ความร่วมมือ หวังหยวนก็หันหลังทำท่าเตรียมจะจากไปทันทีนักพรตเฒ่าชุดดำรู้สึกตื่นตระหนก เขาถอนหายใจก่อนจะเปิดเผยความจริงออกมา“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเจ้าแต่แรกอยู่แล้ว ความจริงเป็นเช่นนี้ ตามข้อตกลงของเรา ไป๋ชิงชางควรจะฆ่าไป๋เฟยเฟยไปเสีย แต่ด้วยความที่เขาไม่กล้าลงมือ จึงได้กักขังน้องสาวของเขาไว้ และรับปากกับพวกข้าว่าจะไม่ปล่อยนางออกมาเด็ดขาด และสิ่งที่ไป๋เฟยเฟยรู้ก็จะไม่มีใครได้รู้อีก!”ไม่น่าเชื่อว่าคนจากซานไว่ซานจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ถึงกับจะให้ไป๋ชิงชางฆ่าน้องสาวของตัวเองได้ลงคอเรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างไร? พี่น้องทั้งสองคนรักใคร่กันมากเสมอ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ไป๋ชิงชางเลือกที่จะกักขังน้องสาวของตนไว้ในวังหลวงตลอดชีวิต แทนที่จะปล่อยให้นางตาย!มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า ทนอยู่ยากลำบากก็ยังดีกว่าสิ้นลมแท้จริงแล้วหวังหยวนเคยไม่เข้าใจความหมายของคำกล่าวนี้ แต่บัดนี้เขาเข้าใจ
“ใต้เท้า ข้าสำนึกผิดแล้วขอรับ ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว ข้าทำไปเพียงเพื่อเอาตัวรอด จึงได้พูดเรื่องเหล่านั้นออกมา หากข้ารู้ว่าเรื่องเหล่านั้นจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อพวกพ้อง ข้าจะไม่กล้าพูดออกมาเด็ดขาด ขอใต้เท้าโปรดเมตตา ให้โอกาสข้าได้ชดเชยความผิดด้วยเถิดขอรับ!”นักพรตเฒ่าชุดดำพูดคำเหล่านี้ออกมาแบบไม่หยุดหายใจ แต่ในวินาทีต่อมา เลือดแดงฉานก็สาดกระเซ็นไปทั่วผู้เป็นหัวหน้าไม่คิดจะให้โอกาสเขาได้อธิบาย เพราะเขาได้ทรยศต่อพวกพ้องไปแล้ว จะไถ่โทษอย่างไรได้อีกหลังจากจัดการศพของนักพรตเฒ่าชุดดำแล้ว เป้าหมายของพวกเขาก็เปลี่ยนไปที่หวังหยวนอีกครั้งหวังหยวนรู้เรื่องมากเกินไป จึงต้องฆ่าพวกเขาและจับตัวสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนไว่เทียนมาให้ได้!“พวกเจ้ายังยืนงงอยู่เพื่ออะไร? รีบไปจับตัวพวกเขากลับมาเดี๋ยวนี้ ฆ่าพวกผู้ชายทุกคนได้ แต่ต้องจับเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ กลับมา เข้าใจหรือไม่?”หัวหน้าไม่สนใจความปลอดภัยของผู้อื่น เขาต้องการเพียงสตรีศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น เพราะเมื่อได้สตรีศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว พวกเขาจะมีไพ่ตายไว้ต่อกรกับเทียนไว่เทียนบัดนี้พวกเขาได้เปิดศึกกับเทียนไว่เทียนแล้ว และอีกฝ่ายก็รู้ถึงแผนการของพวกเขา
ขณะที่ก้าวเดินเข้าไปข้างในนั้น หวังหยวนก็สังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างระมัดระวังเกรงกลัวนักว่าจะมีเหล่าจอมยุทธ์พุ่งออกมาล้อมพวกเขาไว้จากประตูห้องใดห้องหนึ่ง หรือไม่ก็ปล่อยอาวุธลับออกมาโจมตีนอกจากหวังหยวนแล้ว ยังมีผู้อื่นที่ชำนาญในการใช้อาวุธลับอีกด้วยพวกเขาเดินมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ยังไม่พบภรรยาสามคนของเขาจนกระทั่งหวังหยวนเดินมาถึงห้องของพวกนาง เขารู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีเมื่อผลักประตูห้องออกอย่างแผ่วเบา ผลปรากฏว่ามีฝุ่นฟุ้งกระจายออกมาจำนวนมากหวังหยวนรีบปกป้องเสวี่ยเชียนหลงที่อยู่ด้านหลังของเขา“ระวัง!”เมื่อเห็นว่ามีมือสังหารพุ่งออกมาจากในห้อง และในมือถือมีดสั้นพุ่งเข้าใส่หวังหยวนเสวี่ยเชียนหลงก็ร้องเสียงหลง แล้วก้าวมาขวางหน้าหวังหยวน โชคดีที่พี่ชิงอีตอบสนองได้อย่างว่องไว จึงสามารถช่วยชีวิตทั้งสองคนไว้ได้เมื่อมือสังหารปรากฏตัว หวังหยวนก็มองเห็นภรรยาทั้งสามกับลูกที่ถูกจับมัดไว้ในห้องแตะใครก็ได้ แต่อย่าได้แตะต้องภรรยาของเขา!เช่นนั้นแล้วก็เตรียมตัวตายแบบไร้ที่ฝังศพได้เลย!หวังหยวนจัดระเบียบร่างกายของตนเองใหม่ แล้วหยิบกระบองออกมาเตรียมต่อสู้กับมือสังหารผู้นี้เขาบอ
ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ เมื่อมือสังหารพุ่งเข้าใส่หวังหยวน หวังหยวนก็รีบดึงอาวุธลับออกจากเอวของตนเอง แล้วเล็งไปที่หน้าผากของมือสังหารมือสังหารหลบได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็ยังมีรอยถลอกเล็กน้อยที่แก้มสีหน้าของมือสังหารค่อย ๆ กลายเป็นเย็นชาขึ้น เมื่อมองหวังหยวน สายตานั้นเต็มไปด้วยเจตนามุ่งสังหารบัดนี้ไม่ใช่เรื่องของหวังหยวนเพียงคนเดียวแล้ว พี่ชิงอีต้องลงมือ ไม่เช่นนั้นหวังหยวนคงสู้มือสังหารผู้นี้ไม่ได้แน่ทั้งสองคนร่วมมือกันและเอาชนะมือสังหารผู้นี้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อต้องการล้วงข้อมูลเกี่ยวกับซานไว่ซานจากปากของเขาแต่คนผู้นี้กลับกัดยาพิษฆ่าตัวตาย หวังหยวนลืมตรวจดูในปากของเขาจึงไม่สามารถขัดขวางเขาได้เมื่อมือสังหารตายไปแล้ว ก็คงต้องวางแผนในระยะยาวจากเหตุการณ์นี้ หวังหยวนต้องเสริมสร้างการป้องกันภายนอกให้แข็งแกร่งขึ้น ไม่ให้พวกเขาฉวยโอกาสเข้ามาได้อีกในช่วงเวลานี้ หวังหยวนจึงตัดสินใจว่าจะไม่ออกจากบ้านง่าย ๆ ต้องเฝ้าอยู่ที่บ้านเพื่อคอยสังเกตสถานการณ์ภายนอกอย่างใกล้ชิด และปล่อยให้พวกเขาก่อเรื่องไปก่อนหวังหยวนกลับเข้าไปในห้องเพื่อแกะเชือกที่มัดภรรยาทั้งสามออก แล้วดึงสิ่งที่อุดปา
แม้ว่าไป๋ฝูซานจะมีฝีมือฉกาจฉกรรจ์ แต่เหตุใดไป๋ชิงชางจึงไม่ได้นำทัพออกศึกด้วยตนเอง?เมื่อพิจารณาจากการกระทำของเขาแล้ว หากได้ตัดสินใจออกศึกครั้งใหญ่เช่นนี้ แน่นอนว่าจะต้องนำทัพด้วยตนเอง เพราะนั่นเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เขาวางใจได้ทว่าบัดนี้ดูเหมือนว่าจะมีเงื่อนงำบางประการซ่อนเร้นอยู่“ทางด้านต้าเย่มีกลยุทธ์รับมือเช่นไร?”หวังหยวนแตะนิ้วเบา ๆ บนโต๊ะ สายตาจับจ้องไปที่เกาเล่อ“ย่อมมีแน่นอนขอรับ พวกเขาได้ส่งแม่ทัพผู้หนึ่งซึ่งไม่ใช่บุคคลธรรมดา นามว่าเซิ่งตงฉยงให้นำทัพ”หวังหยวนเคยได้ยินกิตติศัพท์ของบุรุษผู้นี้มาบ้าง เขาคนนี้เป็นผู้ที่มีฝีมือฉกาจฉกรรจ์มากมายนัก ในสนามรบนั้นเขาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิตแม้ว่าจะยึดได้เมืองมาหนึ่งเมือง แต่เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของตนเอง บางครั้งเขาก็เลือกที่จะสังหารหมู่คนในเมืองนั้นเสีย!ไม่คาดคิดว่าบุรุษทั้งสองนี้จะได้มาเผชิญหน้ากัน ดูเหมือนว่าการศึกครั้งนี้จะต้องมีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก“ไป จัดคนไปเฝ้าดูที่สนามรบ หากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ที่ผิดปกติขึ้น จงรีบรายงานมายังข้าโดยทันที และให้รายงานให้ข้ารู้ทุกวัน”หวังหยวนสั่งการเกาเล่อให้รายงานทุกวัน
“แต่น่าเสียดายที่วีรบุรุษเช่นเจ้ากลับติดตามเจ้านายที่ไม่คู่ควร จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้!”“ข้าขอเตือนอีกครั้ง หากเจ้ายินดีมาอยู่กับข้าหรือบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้าอีก!”หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใดแค่นี้ก็สาสมแล้วลั่วเฉินน่าสงสารยิ่งกว่าโอวหยางอวี่ อย่างน้อยโอวหยางอวี่ยังได้ตายอย่างรวดเร็ว!แต่ลั่วเฉินเล่า?ตอนนี้ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด สภาพของเขาย่ำแย่มาก มีลมหายใจอยู่ก็เหมือนรอวันตายการมีชีวิตอยู่ยังทรมานยิ่งกว่าการตาย!“เลิกคิดเถิด!”“ข้าจะไม่ยอมแพ้!”ลั่วเฉินใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนด้วยความโกรธ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตามใจเจ้า”“ข้าอยากรู้ว่ากระดูกเจ้าจะแข็งได้สักกี่น้ำ”พูดจบหวังหยวนก็ไม่เสียเวลากับลั่วเฉิน พาหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากคุกระหว่างทาง ทั้งสองไม่ได้หันไปมองตานสยงเฟยต่อไปแค่เค้นถามลั่วเฉินก็พอแล้ว หากไม่ได้ผลค่อยไปหาตานสยงเฟย!เพราะตานสยงเฟยจัดการยากกว่าลั่วเฉินมาก!ตานสยงเฟยรู้ดีว่าที่ซ่อนทรัพย์สมบัติคือเครื่องช่วยชีวิตของเขา ตราบใดที่เขายังปากแข็ง หวังหยวนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้!นี่คือประโยชน์อย่างเดียวของเขา!เขาต้องเก็บไพ่ตายใบนี้ไว้ ไม
“อะแฮ่ม”หวังหยวนกระแอม แล้วรีบแต่งตัว ไม่ได้ตอบคำถามของหลิ่วหรูเยียนจะให้เขาตอบเช่นไร?หรือว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจ?แต่เมื่อนึกถึงภรรยาหลายคนที่บ้านก็รู้สึกหนักใจ เพิ่งจะแต่งงานกับเสวี่ยเชียนหลงยังไม่ถึงปี ก็มีหญิงงามมาเพิ่มอีกคน แล้วจะอธิบายกับภรรยาอย่างไร!แต่จะเดินจากไปง่าย ๆ เลยก็คงไม่ดีหรือไม่?หวังหยวนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงต้องตัดสินใจในภายหลัง“จริงสิ”“ข้าต้องไปที่คุก เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่?”หวังหยวนมองหลิ่วหรูเยียน แล้วเอ่ยถาม“แน่นอน!”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าอยากเห็นลั่วเฉินถูกทรมานเพื่อระบายความแค้น!”ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคุกต่งอวี่รีบเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นหวังหยวนก็โค้งคำนับ แล้วกล่าวว่า“ท่านผู้นำ!”“เมื่อคืนข้าอยู่ที่นี่ตลอด ใช้บทลงโทษต่าง ๆ นานากับลั่วเฉินจนเขาบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับปากแข็งไม่ยอมปริปากเลยขอรับ!”“หากไม่ใช่เพราะเขาใกล้จะตายเต็มทน เราคงไม่ปล่อยให้เขาพักหรอกขอรับ”ต่งอวี่กล่าวด้วยความโกรธช่างน่าโมโหนัก!เขาใช้ความอำมหิตไปเกือบหมดแล้ว แต่ลั่วเฉินก็ยังปากแข็ง!ปากอย่างกับแม่กุญแจ!ยากที่จะแงะออกจริงๆ!เขารู้สึกหนัก
ต่งอวี่รับคำแล้วพาลั่วเฉินไปที่คุกก็แค่พวกกระดูกแข็งเท่านั้น!หากใช้การทรมานเข้าช่วยก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครทนได้ กระดูกจะแข็งเพียงใดกัน?หากทนได้ แสดงว่าแค่ทรมานไม่มากพอ!“ข้าคิดว่าเขาคงไม่ยอมเปิดปาก”“แม้ว่าท่านจะฆ่าเขา เขาก็คงไม่บอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ”หลิ่วหรูเยียนเดินไปข้างหวังหยวน มองคนพาตัวลั่วเฉินออกไป แล้วกล่าวต่อว่า “เขาไม่ใช่คนอย่างโอวหยางอวี่ นับว่าเป็นขุนพลที่กล้าหาญและซื่อสัตย์“หวังหยวนพยักหน้า เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?แต่จำต้องลองดูสักครั้ง“เจ้าจัดการโอวหยางอวี่ไปแล้วหรือ?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามด้วยรอยยิ้ม“ใช่แล้ว”“เขายังหวังจะให้นึกถึงความสัมพันธ์ในอดีต ใช้คำพูดโน้มน้าวข้า แต่น่าเสียดายตอนนี้ใจข้าแข็งดั่งหิน ต้องการแค่ล้างแค้นให้บิดามารดา ทวงความยุติธรรมให้พวกท่านเท่านั้น!”“ในสายตาข้า ชีวิตคนของพรรคทมิฬไร้ค่า!”“ไม่ต้องพูดถึงโอวหยางอวี่ แม้แต่ตานสยงเฟย ข้าก็จะฆ่าเขา!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างหนักแน่นความแค้นในการฆ่าบิดาไม่อาจลืมเลือน จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?หวังหยวนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี”“แต่หล
“เพียะ เพียะ เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนไม่พูด เพียงแค่ยกมือขึ้นตบหน้าโอวหยางอวี่หลายครั้งจนหน้าบวมปูด!ทหารหลายคนที่อยู่ข้าง ๆ ต่างมองโอวหยางอวี่ด้วยสายตาเย็นชาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะตัวเขาเอง!แต่ต้องยอมรับว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นสตรีที่แข็งแกร่ง ไม่ควรไปยั่วยุนาง!“เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ข้าจึงจะให้เจ้าตายอย่างสงบ!”“ไม่เช่นนั้นข้าจะทรมานเจ้าให้การมีชีวิตยังดีกว่าตาย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวด้วยความโกรธแค้นคนของพรรคทมิฬล้วนไม่ใช่คนดีสักคน ฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง!ตอนนี้นางแค่อยากฆ่าคนระดับสูงของพรรคทมิฬให้หมด!“น้องหรูเยียน...”โอวหยางอวี่ตะโกนอีกครั้ง แต่หลิ่วหรูเยียนลงดาบตัดหัวเขาขาดในดาบเดียว!คนชั่วช้าคนหนึ่งจบชีวิตลง!“หัวหน้าองครักษ์คนหนึ่งจากในสี่คน! ก็แค่นี้!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ ไม่เอ่ยคำใด นางโยนดาบทิ้ง แล้วเดินไปหาหวังหยวนตอนนี้หวังหยวนกำลังเผชิญหน้ากับลั่วเฉิน“หรูเยียนกลับมาแล้ว โอวหยางอวี่คงตายแล้ว”“คนเช่นนั้น ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”หวังหยวนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มลั่วเฉินหัวเราะลั่น แล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว! คนทรยศ ขี้ขลาดเช่นนั้น ไม่ฆ่าเขา แล้วจะฆ่าใคร?”“เ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“