แชร์

บทที่ 1438

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“คุณชายเจิ้งไม่จำเป็นต้องรอคำตอบจากข้าหรอก ข้าบอกได้เลยว่าข้าไม่ยอมรับข้อเสนอของท่าน และจะไม่มีวันยอมรับด้วย”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ไม่สะทกสะท้านของหวังหยวน คุณชายเจิ้งก็กำมือแน่น แต่ไม่ได้หันกลับมา เพียงแค่ยกยิ้มแล้วโบกมือก่อนเดินจากไป

หลังจากที่คุณชายเจิ้งจากไป เสวี่ยเชียนหลงก็มองหวังหยวนด้วยความเป็นห่วง หวังหยวนจึงยิ้มให้เพื่อให้นางสบายใจ

“เขาเป็นอะไรของเขา? เหตุใดถึงมาที่จวน ท่านทะเลาะกับเขาเมื่อครู่นี้หรือเจ้าคะ? หากคนรับใช้ไม่มาบอก ข้าก็ไม่รู้เรื่องเลย”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก เขาแค่มาพูดอะไรบางอย่างที่ไม่สำคัญเท่านั้น”

หวังหยวนไม่คิดจะบอกเสวี่ยเชียนหลงถึงสิ่งที่คุณชายเจิ้งพูดเมื่อครู่นี้ เพราะจะยิ่งทำให้นางเครียดโดยใช่เหตุ

เสวี่ยเชียนหลงรู้สึกกังวลใจอยู่แล้วที่เขาจะเข้าร่วมการประลองเพื่อจับคู่ หากนางรู้เรื่องนี้เข้า นางคงยิ่งไม่อยากให้เขาเข้าร่วม

“หากเกิดอะไรขึ้น ท่านก็บอกข้าล่วงหน้าเถิด ข้ารู้ว่าสำหรับท่านแล้วอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ว่าที่นี่คือจวนของข้า หากเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น ข้าก็จะต้องรับผิดชอบเจ้าค่ะ”

“สบายใจเถิด เรื่องแค่นี้สำหรับข้าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แถมชายคนนี้ก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1439

    “ไม่ธรรมดาเลย”เพียงแค่ดูลีลาการต่อสู้ของนักฆ่าผู้นี้ก็รู้ว่าฝีมือย่อมเหนือกว่าเขาทว่ากลับเย่อหยิ่งเกินไป และนั่นอาจกลายเป็นจุดอ่อน“เช่นนั้นก็มาพิสูจน์กันเถิดว่าคำกล่าวของข้าเป็นจริงหรือเป็นเท็จ!”นักฆ่าเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีทันใด เขากระทำราวกับเล่นสนุกกับหวังหยวน ไม่ได้มุ่งหมายสังหารดุจดังก่อนหน้าความผิดพลาดนี้เองที่เปิดโอกาสให้หวังหยวนหวังหยวนรีบกลับเข้าไปในห้อง แล้วหยิบกระบองของตนออกมา“ฮ่าฮ่าฮ่า! อาวุธของเจ้าคงไม่ใช่ไม้กระบองอันนี้กระมัง?”เมื่อนักฆ่าเห็นหวังหยวนถือกระบองอยู่ในมือก็ระเบิดเสียงหัวเราะเสียงหัวเราะของเขาก้องกังวานไปทั่วทั้งลานบ้านพักเวลาล่วงเลยมานานเช่นนี้ก็ยังไม่มีคนรับใช้คนใดมาที่นี่หรือว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นที่แห่งอื่นด้วย จึงทำให้คนรับใช้ทุกคนต้องไปที่นั่น?หวังหยวนฮึดฮัด อย่าได้ดูถูกไม้กระบองนี้ ต่อไปนี้มันอาจทำให้เจ้าต้องเจ็บปวดจนแทบคลานไม่ไหว!“ไม้กระบองอันนี้ก็เพียงพอที่จะจัดการเจ้าแล้ว!”การต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะอุบัติขึ้น การโจมตีของหวังหยวนรวดเร็วมาก แต่ทิศทางการโจมตีของเขากลับมุ่งไปที่ส่วนล่างอาจเป็นเพราะรับรู้ถึงเจตนาของหวังหยวน สีหน้าข

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1440

    เมื่อแน่ใจแล้วว่ามือสังหารได้จากไปแล้ว เสวี่ยเชียนหลงจึงรีบรุดไปอยู่ข้างหวังหยวน แล้วมองรอยฟกช้ำที่ข้อมือของหวังหยวนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดนางเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่ต้องการให้หวังหยวนเข้ามาพัวพันกับเรื่องวุ่นวายนี้“เป็นความผิดของข้าเอง หากไม่ใช่เพราะข้า ท่านก็คงไม่ต้องได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ คุณชาย หากเป็นไปได้ ขอท่านจงกลับไปเถิด อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของข้าอีกเลย!”กล่าวจบ นัยน์ตาของเสวี่ยเชียนหลงก็มีน้ำตาคลอ นางทนไม่ได้ที่จะเห็นหวังหยวนเสี่ยงชีวิตเพื่อตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความแข็งแกร่งของนางในขณะนี้ ย่อมไม่อาจปกป้องหวังหยวนในเทียนไว่เทียนได้เหล่าหัวหน้าตระกูลของแปดตระกูลใหญ่ต่างก็มักจะส่งมือสังหารมาลอบสังหารหวังหยวนในสถานที่ต่าง ๆ“เชียนหลง เจ้าพูดอะไร? ข้าจะละเลยเจ้าได้อย่างไร แม้ว่าเราทั้งสองจะไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน แต่เจ้าก็ยังเป็นน้องสาวของข้า เมื่อเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ ข้าจะละทิ้งเจ้าได้อย่างไร เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรหนักหนา เพียงแค่รอยฟกช้ำเล็กน้อยเท่านั้น”หวังหยวนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ พลางโบกมือของตนเองไปมาเพื่อแสดงว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไร เขายังคงเค

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1441

    หลังจากกล่าวจบ เสวี่ยเชียนหลงก็รีบจากไปทั้งห้องเหลือเพียงหวังหยวนและนักพรตชิงอี“พี่ชิงอี ดูสิ ท่านทำให้คนอื่นตกใจกลัวจนหนีไปแล้ว”หวังหยวนกล่าวกับพี่ชายด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง“ศิษย์ของข้าคนนี้ดีทุกอย่าง ยกเว้นหน้าบางเกินไป หากต่อไปได้แต่งงานกับเจ้าจริง ๆ คงต้องฝึกฝนให้ดีเสียหน่อย”พี่ชิงอีลูบเคราของตนเองด้วยความเสียดายหลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันเรื่องการแข่งขันรอบที่สอง โดยไม่รู้ว่าครั้งนี้แปดตระกูลใหญ่จะผลักดันใครขึ้นมาเป็นคู่ต่อสู้ของหวังหยวน“ผู้ที่อยู่ในแปดตระกูลใหญ่ล้วนมีวิทยายุทธ์ระดับสูง และหลายคนก็อยู่เหนือเจ้า ด้วยหลักการที่ยุติธรรมและเที่ยงธรรม พวกเขาน่าจะส่งคนที่มีวิทยายุทธ์ใกล้เคียงกับเจ้ามาแข่งขัน แต่ก็อาจจะเป็นการต่อสู้แบบผสมผสานก็ได้”นักพรตชิงอีช่วยวิเคราะห์ให้หวังหยวนฟัง หวังหยวนพยักหน้าน่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะแปดตระกูลใหญ่คงไม่ทำเรื่องที่ไม่น่าดูเนื่องจากมีผู้คนมากมายเฝ้าดูอยู่ และผลการแข่งขันครั้งนี้ก็จะประกาศออกไปสู่สาธารณชนด้วยสิ่งที่ทำให้นักพรตชิงอีกังวลมากที่สุด คือหากมีใครในกลุ่มนั้นจงใจปกปิดวิทยายุทธ์ของตนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1442

    เป็นไปได้อย่างไร เสวี่ยเชียนหลงเป็นผู้หญิงที่เขาหมายปอง เขาจะไม่ยอมให้ชายอื่นมาแย่งไปง่าย ๆ!ดังนั้นวันนี้เขาจึงไปที่จวนแห่งนั้นเพื่อสืบหาข้อมูลแต่เพิ่งเจอหน้าหวังหยวนก็ถูกยั่วยุเสียแล้ว แถมหวังหยวนยังไม่แสดงความเคารพต่อเขาแม้แต่น้อยหลังจากที่เจอเขา บ่งบอกว่าเป็นคนไร้มารยาทอย่างแท้จริงผู้ชายเช่นนี้จะคู่ควรกับสตรีสูงศักดิ์ในดวงใจของเขาได้อย่างไร?หลังจากออกจากจวนเสวี่ย เขาก็เปลี่ยนมาใส่ชุดดำและสวมหน้ากากทันที เพราะต้องการจะลอบสังหารหวังหยวนแต่ไม่คิดว่าหวังหยวนจะมีวิทยายุทธ์ที่เก่งกาจ ต่อสู้กับเขาได้อย่างสูสี เขาเกือบจะได้เปรียบหวังหยวนหลายครั้ง แต่สุดท้ายเสวี่ยเชียนหลงก็มาพอดีเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวตนถูกเปิดเผย เขาจึงต้องรีบหนีมาก่อน“บัดซบ! เป็นแค่คนชั้นต่ำที่มาจากดินแดนโลกมนุษย์ เหตุใดถึงคิดว่าตัวเองจะได้ครอบครองสตรีสูงศักดิ์!”คุณชายเจิ้งปาทุกสิ่งในห้องของเขาลงกับพื้น เสียงดังสนั่นดึงดูดความสนใจของผู้เป็นบิดา“ลูกชายของพ่อ เจ้าเป็นอะไรไป? เหตุใดพ่อถึงได้ยินจากคนรับใช้ว่าเจ้าเพิ่งกลับมาจากข้างนอก มีใครทำให้เจ้าโกรธเคืองหรือ?”หัวหน้าตระกูลเจิ้งรักลูกชายคนเล็กของเขามาก อาจเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1443

    เมื่อเสวี่ยโส่วจุนประกาศกฎเกณฑ์เสร็จสิ้นแล้ว หวังหยวนก็ยืนอยู่กลางเวที จากนั้นชายหนุ่มคนอื่น ๆ ก็ทยอยขึ้นมายืนบนเวทีเช่นกัน“เจ้าคือหวังหยวนสินะ ดูแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลย แต่เหตุใดตัวเจ้าถึงได้มีกลิ่นเหม็นเช่นนี้ล่ะ?”“พี่หวัง กลิ่นอะไรหรือ?”“จะกลิ่นอะไรเล่า ก็กลิ่นเหม็นสาบจากแดนมนุษย์ธรรมดาสามัญน่ะสิ ฮ่าฮ่าฮ่า!”คนเหล่านี้ไม่สนใจฐานะของหวังหยวน พวกเขาต่างพูดล้อเลียนเขาอย่างสนุกปากหวังหยวนมองคนเหล่านี้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาเหลือบมองพวกเขาคร่าว ๆ ก็สามารถสรุปได้ว่าระดับการบ่มเพาะของพวกเขาน่าจะใกล้เคียงกับเขา ซึ่งก็คือปรมาจารย์ขั้นต้นแต่มีคนหนึ่งที่หวังหยวนให้ความสนใจเป็นพิเศษ นั่นก็คือชายสวมหน้ากากที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชายผู้นี้มีระดับการบ่มเพาะระดับใดกันแน่นั่นหมายความว่าชายผู้นี้มีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าหวังหยวนหรือเปล่า?แต่การทดสอบครั้งนี้ ทั้งแปดตระกูลใหญ่และเสวี่ยโส่วจุนก็ได้ประกาศไปแล้วว่าจะคัดเลือกคนที่ระดับใกล้เคียงกับเขามา จึงไม่น่าจะเกิดความผิดพลาดเช่นนั้นได้หวังหยวนเงยหน้าขึ้นมองไปยังนักพรตชิงอีที่นั่งอยู่ด้านบนนักพรตชิงอีพยักหน้าใ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1444

    ชายหนุ่มทั้งแปดคนปลอบใจกันเองราวกับกำลังสะกดจิตตัวเองว่าหวังหยวนไม่น่ากลัว หวังหยวนไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมายอันที่จริงจากการดูชายผู้นั้นเมื่อครู่ก็พอจะรู้ได้ ว่าความสามารถของหวังหยวนไม่ได้ธรรมดาอย่างที่พวกเขาเห็นอาจเป็นเพราะยังมีการประลองเพื่อหาคู่รออยู่ข้างหน้า หวังหยวนจึงยังคงเก็บซ่อนความสามารถของตัวเองเอาไว้ให้มากที่สุดชายหนุ่มสี่คนโจมตีหวังหยวนจากด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้ายและด้านขวา มีชายคนหนึ่งที่ต้องการโจมตีหวังหยวนจากด้านบนด้วยเขากระโดดขึ้นไป จากนั้นก็เปลี่ยนท่าทางของตัวเอง คมดาบพุ่งตรงไปที่กระหม่อมของหวังหยวนแต่หวังหยวนใช้กระบองของตนหมุนไปรอบเอวเพื่อจัดการชายทั้งสี่คนที่โจมตีมาจากด้านข้างได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็เหลือเพียงชายคนนี้ที่อยู่ด้านบนหวังหยวนหลบไปด้านข้าง จากนั้นจึงใช้กระบองยกขึ้นสกัด“โอ๊ย!”“เจ็บจะตายแล้ว!”ชายทั้งห้าคนที่ถูกฟาดจนล้มลงไปกองกับพื้นต่างก็ร้องโอดโอย พวกเขารู้สึกเหมือนร่างกายของตัวเองกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงเจ้าหวังหยวนคนนี้โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่พวกเขาแค่ต้องการแสดงฝีมือเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดหวังหยวนถึงได้จะลงมือฆ่าพวกเขาหวังหยว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1445

    ชายสวมหน้ากากออกแรงเพียงเล็กน้อยก็ผลักให้หวังหยวนกระเด็นออกไปไกลหวังหยวนถอยหลังไปหลายเมตรกว่าจะทรงตัวได้ เขาหายใจหอบถี่ชายผู้นี้ซ่อนเร้นความสามารถที่แท้จริงไว้จริง ๆ ระดับการบ่มเพาะของเขาต้องสูงกว่าหวังหยวนอย่างน้อยหนึ่งขั้น!แต่ผู้คนในสนามกลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ แม้แต่เสวี่ยโส่วจุนก็ยังไม่รู้สึกถึงความผิดปกตินั่นหมายความว่าชายผู้นี้ยังไม่ได้ใช้ความสามารถที่แท้จริงของตน และยังคงซ่อนระดับการบ่มเพาะของตนอยู่เพราะหากถูกจับได้ เขาก็อาจจะถูกเสวี่ยโส่วจุนตัดสินให้พ่ายแพ้ในทันทีขณะที่หวังหยวนยังไม่ทันตั้งตัว ชายสวมหน้ากากก็ปรากฏตัวขึ้นข้างเขาอีกครั้ง แล้วถีบเข้าที่ท้องของเขา หวังหยวนจึงกระเด็นออกไปอีกครั้งการถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้หวังหยวนยืนแทบไม่ไหว เขาพยายามใช้กระบองของตนเองยันตัวขึ้นมาอีกครั้งแต่ทุกครั้งที่เขาลุกขึ้น ชายสวมหน้ากากก็จะเข้ามาโจมตีเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า“เจ้ามีฝีมือแค่นี้เองหรือ?”เมื่อได้ยินเสียงพูดดูหมิ่นเย้ยหยันนี้ หวังหยวนก็รู้ในทันทีว่าชายผู้นี้เป็นใคร นี่มันนายน้อยแห่งตระกูลเจิ้งไม่ใช่หรือ?ไม่แปลกใจเลยที่เขาต้องสวมหน้ากากเข้าแข่งขัน อาจเป็นเพราะกลัวว่า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1446

    แต่เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อผลการแข่งขันครั้งนี้ หวังหยวนจึงตัดสินใจถามเสวี่ยโส่วจุนอีกครั้ง“ถูกต้องแล้ว ตราบใดที่เจ้าสามารถเอาชนะได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ถือว่าเจ้าชนะ”เมื่อได้รับคำตอบจากเสวี่ยโส่วจุน หวังหยวนก็สบายใจขึ้น เขาใช้กระบองของตนเองฟาดดาบของชายสวมหน้ากาก“หวังหยวน เจ้าทำให้ข้าขบขันยิ่งนัก เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะข้าได้ด้วยอาวุธลับเช่นนั้นหรือ ระหว่างเรามีความแตกต่างอย่างมาก ระดับการบ่มเพาะของข้าสูงกว่าเจ้าถึงหนึ่งขั้นเลยนะ!”ชายสวมหน้ากากมีสีหน้าดูถูก ขณะวางดาบไว้บนบ่าอย่างไม่แยแสแต่หวังหยวนกลับไม่สนใจเขา เขาโยนกระบองในมือทิ้งไปทางด้านข้างในทันที“เหตุใดเจ้าจึงโยนอาวุธของตนเองทิ้ง? หรือว่าเจ้ารู้สึกว่าตนเองไม่มีโอกาสชนะแล้วจึงคิดจะยอมแพ้? หากเจ้าคุกเข่าลงและขอให้ข้าไว้ชีวิต ข้าอาจจะเมตตาทำให้เจ้าสมหวังก็ได้”เมื่อนายน้อยแห่งตระกูลเจิ้งเห็นการกระทำของหวังหยวน เขาก็คิดว่าหวังหยวนกำลังจะยอมแพ้แต่ไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะบิดคอของตนเองและเหยียดขาออก เหมือนกับว่าเตรียมที่จะต่อสู้กับเขาด้วยมือเปล่านายน้อยแห่งตระกูลเจิ้งเริ่มสับสนแล้ว หวังหยวนคิดจะทำอะไรกันแน่?เสวี่ยเชียนหล

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status