โม่ชิงอีจึงพูดออกมาสองคำ“อาวุธ!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หวังหยวนก็เข้าใจในทันทีที่แท้ก็คืออาวุธ!ใช่แล้ว ไม่ว่าทักษะต่อสู้ของเขาจะเก่งกาจเพียงใดก็สู้กับอาวุธไม่ได้!แต่เมื่อพูดถึงอาวุธ หวังหยวนก็ไม่เคยกลัวใคร!เขามีปืนอยู่ในมือ ใครจะสู้ได้?“ดังนั้นต่อไปนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่องอาวุธกัน ข้ารู้จักปรมาจารย์ด้านอาวุธอยู่คนหนึ่งที่เก่งกาจมาก แต่สิ่งที่เขาเก่งที่สุดคือกระบอง วิชากระบองของเขาเคยโด่งดังไปทั่วทั้งเทียนไว่เทียนและซานไว่ซาน ดังนั้นเจ้าต้องไปเรียนวิชากระบอง เข้าใจหรือไม่?”โม่ชิงอีพูดตามตรง แต่หวังหยวนกลับไม่ได้สนใจมากนักวิชากระบองนี้เก่งกาจจริง ๆ คำที่ว่า “หมัดอาจจะสู้แรงหนุ่มไม่ได้ แต่ไม้ในมือคนแก่ย่อมทรงพลัง” นั้นเป็นความจริง หากใช้กระบองได้ดีก็ไม่ต่างอะไรกับเก่งกาจวิชาดาบเลยยิ่งไปกว่านั้น คือมันยังมีพลังทำลายล้างที่รุนแรงอีกด้วย!เมื่อรวมกับวิธีการทำอาวุธพิเศษของหวังหยวนแล้ว เขาก็คงไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วแต่เขาก็ยังถามขึ้นโดยไม่รู้ตัว“ว่าแต่พี่ชิงอี วัสดุที่พวกท่านใช้ทำอาวุธนั้นเป็นเพียงเหล็กกล้าหรือเปล่าขอรับ? มันจะคมเท่าดาบราชวงศ์ถังของข้าหรือไม่?”เมื่อพูดเช
โม่ชิงอีพาหวังหยวนออกจากป่ารกร้างแห่งนั้นอย่างรวดเร็วหวังหยวนคิดว่าพวกเขากำลังจะไปยังสถานที่ลับแห่งใดแห่งหนึ่งแต่คราวนี้กลับมาถึงประตูภูเขาแห่งหนึ่งเมื่อมองจากระยะไกล ที่แห่งนี้ดูเหมือนกับค่ายลึกลับแห่งหนึ่ง แต่มีแผ่นป้ายขนาดใหญ่จารึกอักษรสามตัวไว้สำนักเซียนกระบอง!หวังหยวนถึงกับตกตะลึง หากไม่รู้ว่ามาเพื่อเรียนวิชากระบอง เขาก็คงคิดว่ามาที่สำนักของหมอดูเสียแล้ว!“ที่นี่หรือขอรับ?”หวังหยวนกะพริบตาถามโม่ชิงอีพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ที่นี่แหละ อย่าได้ดูถูกสถานที่ที่ดูเสื่อมโทรมเช่นนี้ เพราะสำนักเซียนกระบองเคยเป็นหนึ่งในสำนักของเทียนไว่เทียน ทักษะกระบองของพวกเขานั้นหาผู้ใดเทียบในใต้หล้าไม่ได้ เพราะมีความพิเศษมาก”“แต่ประมุขของพวกเขา... กลายเป็นคนอ่อนแอไปแล้ว วิชากระบองของพวกเขาจึงค่อย ๆ สูญหายไป จนกระทั่งถึงปัจจุบัน แทบไม่มีผู้ใดเข้าร่วมสำนักเซียนกระบองได้”“ดังนั้นประมุขสำนักจึงบอกกับข้าว่าหากมีผู้มีพรสวรรค์พิเศษให้พาตัวมา แล้วเขาจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อถ่ายทอดคัมภีร์ลับให้”เมื่อโม่ชิงอีพูดจบ หวังหยวนจึงเข้าใจแต่ว่าคนอ่อนแอหรือ?แล้วจะสอนวิชากระบองให้เขาได้อย่างไร?
กล่าวจบเหล่ากุ้นก็โยนห่อผ้าห่อหนึ่งให้หวังหยวนหวังหยวนไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากเปิดออกแล้วก็ถึงกับตะลึงทันใดข้างในนี้เป็นชุดเกราะก็จริง!แต่ว่าชุดเกราะนี้มันช่างแปลกประหลาดนัก!มีเพียงหมวกเหล็กใบหนึ่งกับกางเกงในเหล็กตัวหนึ่งนอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วงั้นหรือ?“นี่... นี่คือชุดเกราะหรือขอรับ?”หวังหยวนมีสีหน้างุนงง ทันทีที่เขาพูดจบ เหล่ากุ้นก็หัวเราะขึ้นมาทันที“แน่นอนสิ นี่ก็คือชุดเกราะไงเล่า เป็นอย่างไร ชุดเกราะนี้ดีใช่หรือไม่”“มาเถิด เจ้าหนุ่มน้อย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ รีบสวมเข้าไปเถิด อย่ามัวถามหาเหตุผลอยู่เลย”เหล่ากุ้นพูดกลั้วหัวเราะ ทำให้หวังหยวนถึงกับพูดไม่ออกแต่เมื่อคิดดูแล้วก็ยังคงสวมเข้าไปต้องบอกว่ากางเกงในเหล็กนี้แนบกระชับดีเหลือเกิน แต่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอย่างที่คิดหมวกเหล็กก็มีขนาดพอดีเช่นกันจากนั้นเหล่ากุ้นก็หยิบกระบองสองอันที่ดูแข็งแรง แต่ความจริงแล้วทำจากผ้าฝ้ายออกมาโดยภายในกระบองผ้าเหล่านี้มีกระบองหนาเท่ากับนิ้วมือเพียงอันเดียวส่วนด้านนอกหุ้มด้วยผ้าฝ้าย หากตีโดนก็จะไม่เจ็บมากนัก“ข้าจะใช้สิ่งนี้สอนเจ้า จงเก็บไว้ให้ดี”เหล่ากุ้นโยนกระบองอันหนึ่ง
แม้ว่าหวังหยวนจะเพิ่งเข้ามาในยุทธภพได้ไม่นาน แต่เขาก็พอจะรู้เรื่องการต่อสู้มาบ้าง!มีเพียงผู้หญิงเท่านั้นที่จะใช้กลวิธีเล็งโจมตีเป้าหมายตรงหว่างขาของคู่ต่อสู้เมื่อต่อสู้กับผู้ชาย!ลามกอนาจาร!ช่างลามกอนาจารยิ่งนัก!หวังหยวนถึงกับพูดไม่ออก หากรู้เช่นนี้แต่แรก เขาคงไม่เรียนวิชากระบองนี้!หากต้องใช้วิธีนี้ในการต่อสู้จริง คนที่หน้าไม่หนาพอคงไม่สามารถใช้ได้!สีหน้าของหวังหยวนดูไม่ดีนัก เหล่ากุ้นก็เหมือนจะรู้สึกได้ แต่ก็ไม่ได้สนใจ“เหอๆ เจ้าหนุ่มน้อยรู้สึกเขินอายนิดหน่อย แต่ไม่เป็นอะไร ค่อย ๆ ฝึกไป”เหล่ากุ้นเก็บกระบองแล้วหัวเราะคิกคักหวังหยวนตั้งใจจะบอกโม่ชิงอีว่าจะไม่เรียนที่นี่แล้วแต่ใครจะรู้ว่าโม่ชิงอีที่เพิ่งยืนอยู่ตรงนี้เมื่อครู่นี้ได้จากไปแล้วหวังหยวนรู้สึกหงุดหงิดมาก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นว่า “ท่านผู้อาวุโส ข้าคิดว่าวิชากระบองนี้ดูเหมือนจะไม่เหมาะกับข้า... ดังนั้น... ข้าขอไม่เรียนแล้วได้หรือไม่ขอรับ?”หวังหยวนไม่อยากเรียนจริง ๆแม้ว่าจะเรียนรู้แล้ว จะเอาไปใช้อย่างไร?เขาไม่คิดจะใช้วิชากระบองเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนมากมายแน่นอน“เอ๊ะ? ฮ่าฮ่าฮ่า ได้ ได้
ขณะที่เขากำลังสงสัย เหล่ากุ้นก็หัวเราะอย่างร่าเริงโดยไม่สนใจหวังหยวนในเวลานี้กลุ่มหญิงสาวได้ถอดเสื้อผ้าออกแล้ว กำลังลงไปในน้ำและเริ่มอาบน้ำพวกนางเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานเมื่อเหล่ากุ้นเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะคิกคัก จากนั้นอุ้มหวังหยวนขึ้นมา แล้วโยนลงไปในทะเลสาบเสียงดังตูม!หวังหยวนแทบคลั่ง!ตอนนี้เขาเปลือยกายอยู่!มิหนำซ้ำที่นี่ยังมีแต่ผู้หญิงกำลังอาบน้ำอยู่ด้วย!นี่...นี่เป็นการซ้ำเติมสองชั้น!น่าเสียดายที่...ไม่ว่าเขาจะคิดหาวิธีแก้สถานการณ์มากเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!ฟิ้ว…!ตูม…!หวังหยวนตกลงไปในน้ำในทะเลสาบขณะนี้หญิงสาวเหล่านั้นก็ตกใจมาก พวกนางส่งเสียงกรีดร้องแล้วรีบขึ้นฝั่ง“คนโรคจิต!”“คนลามก!”“กล้ามาแอบดูพวกเราอาบน้ำ!”หญิงสาวเหล่านั้นตกใจมาก ต่างรีบสวมเสื้อผ้าหวังหยวนอยากจะร้องไห้ สาว ๆ ทั้งหลาย ข้าไม่ได้มองเลยนะ!เขาไม่ได้มองจริง ๆ เขาหลับตาตลอดเวลา!ทันใดนั้นหญิงสาวคนหนึ่งก็พูดว่า“ไม่ใช่แล้ว! ดูเขาสิ ร่างกายของเขาแข็งทื่อเชียว!”“เอ๊ะ? หรือว่าจะถูกใครสกัดจุด?”“เขาจะจมน้ำตายหรือเปล่า?”“จะช่วยเขาหรือไม่?”หญิงสาวหลายคนลังเล แต่เมื่อคิดดูดี ๆ แล
“เจ้ากล่าวเช่นนี้แล้วพวกข้าจะต้องเชื่อเจ้าหรือ!”“ถูกต้อง!”“แต่เราไม่สามารถทิ้งเขาไว้ที่นี่ได้ หากสัตว์ป่ามาพบเข้าคงไม่ดีแน่!”“ฮึ่ม! พาไปหาเหล่ากุ้นที่สำนักเซียนกระบอง แล้วขอคำอธิบายกันเถิด!”กล่าวจบ หญิงงามทั้งหลายก็มัดตัวหวังหยวนอย่างแน่นหนา แล้วช่วยกันหามเขาไปที่สำนักเซียนกระบองหวังหยวนไม่เคยอับอายขายหน้าถึงเพียงนี้มาก่อนในชีวิต!เขาเกลียดเหล่ากุ้นผู้นั้นแทบตาย!ชายชราคนนั้นกล้าทำเช่นนี้กับเขาจริง ๆไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงสำนักเซียนกระบอง จากนั้นหวังหยวนก็ถูกโยนลงพื้นอย่างแรงหญิงงามทั้งหลายตะโกนทันที“เหล่ากุ้น! ตาแก่ลามก ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”“ถูกต้อง รีบออกมาเลย!”พวกนางร้องเอะอะโวยวาย ขณะที่เหล่ากุ้นเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางงัวเงีย“โอ้ นี่เหล่านางฟ้าแสนสวยแห่งสำนักเจ็ดสีไม่ใช่หรือ? ไฉนเจ้าทั้งหลายจึงมาหาข้า?”เหล่ากุ้นแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่หวังหยวนกลับโกรธจนแทบคลั่งเหล่ากุ้นผู้นี้ต้องการสิ่งใดกันแน่ โยนความผิดให้เขาหรือ?“เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”หญิงงามทั้งหลายชี้ไปที่หวังหยวนเหล่ากุ้นจึงมองไปที่หวังหยวน แล้วชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะกระโดดเข้ามาหา“โอ้โฮ ศิษ
“การโกรธเป็นเรื่องดี แสดงว่าความละอายของเจ้าค่อย ๆ ลดลงแล้ว”เหล่ากุ้นพอใจยิ่งนัก หวังหยวนฟังแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “ข้าได้บอกท่านแล้วว่าข้าจะไม่เรียนอย่างแน่นอน!”“ข้าจะจากไปจากที่นี่!”เหล่ากุ้นได้ยินดังนั้นจึงกล่าวว่า “ได้เลย แต่หากข้าไม่ปลดสกัดจุดของเจ้า เจ้าจะจากไปได้อย่างไร?”หวังหยวนได้ยินดังนั้นก็แทบจะกระอักเลือดออกมาหลังจากพิจารณาแล้ว เขาก็ยังรู้สึกว่าควรทำให้ตาแก่ผู้นี้ไว้ใจก่อนจึงกล่าวว่า “เช่นนั้น... เช่นนั้นข้าจะเรียนก็ได้! ท่านปลดสกัดจุดของข้าก่อน”เหล่ากุ้นได้ยินดังนั้นก็ยกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ได้ ตกลงกันแล้วนะ”กล่าวจบก็ปลดสกัดจุดของหวังหยวนทันทีทันใดนั้นหวังหยวนก็กระโดดขึ้นจากพื้น ไม่เอ่ยคำใดทั้งนั้น รีบกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเตรียมจากไปทันที“เฮ้ย เฮ้ย เจ้าไม่ได้บอกว่าจะอยู่ที่นี่เพื่อเรียนวิชากระบองหรือ?”เหล่ากุ้นเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นหวังหยวนได้ยินแล้วก็เยาะหยัน “ข้าหลอกท่าน ท่านเป็นตาแก่ที่ไม่น่าเคารพเลยสักนิด ข้าจะไม่เรียนกับท่านหรอก!”“อยากให้ข้าเรียนวิชากระบอง แต่ท่านกลับทำให้ข้าอับอายเช่นนี้ ข้าไม่เคยอับอายถึงเพียงนี้ม
หวังหยวนไม่คิดเลยว่าเมื่อดื่มสุราหมดจอกแล้ว ตนเองจะมึนงงจนสิ้นสติไป!ในวันต่อมา หวังหยวนรู้สึกราวกับว่าตนเองอยากจะตายเพราะตาแก่เหล่ากุ้นนั่น!หวังหยวนรู้ดีว่าวิชากระบองนี้หาผู้ใดเทียบเทียมได้ยาก แต่ทว่ากลับแสนจะลามก เขาจึงไม่ชอบสามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดการฝึกฝนอันโหดหินของหวังหยวนก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว!ในดินแดนรกร้างแห่งหนึ่งมีพรรคเล็ก ๆ นามว่าพรรคหุบเขาทมิฬตั้งอยู่มาช้านาน ด้วยพึ่งพาอาศัยอำนาจของประมุขพรรคผู้มีพลังระดับปรมาจารย์ขั้นกลาง ทำให้เหล่าศิษย์ในพรรคต่างก็กระทำการอันไม่ชอบธรรมหญิงสาวในเมืองโดยรอบต่างก็ไม่กล้าออกจากบ้านเรือน ต้องอยู่แต่ในบ้านก็ต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว เพราะเกรงว่าจะต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนเหล่านี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประมุขพรรคไปจับตัวตัวหญิงสาวพรหมจรรย์หลายคน เพื่อจะนำเลือดบริสุทธิ์ของพวกนาง มาช่วยให้ประมุขพรรคไปถึงระดับที่สูงขึ้น ในเวลานี้เองที่การฝึกฝนของหวังหยวนได้สิ้นสุดลงแล้ว เขาได้รับคำสั่งจากโม่ชิงอีให้มาฝึกฝนที่นี่ เพื่อพิสูจน์ผลลัพธ์จากการฝึกฝนในสามเดือนที่ผ่านมา ร่างในชุดดำกระโจนลงมาจากท้องฟ้า และกระบองในมือของเขานำพาความกดดัน