แชร์

บทที่ 1405

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ในช่วงครึ่งเดือนที่เหลือ หวังหยวนฝึกฝนก้าวระเบิดทุกวัน

เขารู้ดีว่าการโลภมากเกินไปจะไม่เกิดผลดี ดังนั้นในช่วงครึ่งเดือนนี้ เขาจึงฝึกฝนเพียงวิชานี้เท่านั้น

แต่ความก้าวหน้าของหวังหยวนนั้นรวดเร็วมาก ส่งผลให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ในระหว่างฝึกก้าวระเบิด ตอนท้ายเขาสามารถใช้มันบนลำต้นของต้นไม้ได้

พรุ่งนี้จะถึงกำหนดเวลาสามสิบวัน หวังหยวนรู้ว่าเขาต้องจากไปแล้ว

แม้ว่าในตอนกลางวัน ชายชราจะเป็นคนบ้า แต่ในตอนกลางคืนเขาก็กลับมาเป็นคนปกติ สอนสั่งเขาอย่างจริงจัง ไม่เคยละเลย

ซึ่งเรื่องทำให้หวังหยวนรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

“ท่านอาจารย์ ท่านจะไปกับข้าหรือไม่ขอรับ?”

“หรือว่าจะอยู่ที่นี่ต่อ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายชราก็หัวเราะแล้วกล่าวว่า “ย่อมต้องอยู่ที่นี่สิ ข้าจะออกไปทำอะไรได้”

“อีกอย่างหนึ่ง อย่าบอกเรื่องของข้ากับใคร รวมถึงโม่ชิงอีด้วย เข้าใจหรือไม่?”

แม้ว่าหวังหยวนจะไม่รู้ว่าเขาต้องการทำอะไร แต่ก็พยักหน้ารับคำ

“ข้าเข้าใจแล้วขอรับท่านอาจารย์”

ชายชราได้ฟังแล้วก็หัวเราะ

“หยวนเอ๋อร์ อาจารย์ขอบอกเจ้าว่าตอนนี้เจ้าได้เข้ามาพัวพันกับเรื่องยุ่งยากนี้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เจ้าอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1406

    โม่ชิงอีจึงพูดออกมาสองคำ“อาวุธ!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หวังหยวนก็เข้าใจในทันทีที่แท้ก็คืออาวุธ!ใช่แล้ว ไม่ว่าทักษะต่อสู้ของเขาจะเก่งกาจเพียงใดก็สู้กับอาวุธไม่ได้!แต่เมื่อพูดถึงอาวุธ หวังหยวนก็ไม่เคยกลัวใคร!เขามีปืนอยู่ในมือ ใครจะสู้ได้?“ดังนั้นต่อไปนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่องอาวุธกัน ข้ารู้จักปรมาจารย์ด้านอาวุธอยู่คนหนึ่งที่เก่งกาจมาก แต่สิ่งที่เขาเก่งที่สุดคือกระบอง วิชากระบองของเขาเคยโด่งดังไปทั่วทั้งเทียนไว่เทียนและซานไว่ซาน ดังนั้นเจ้าต้องไปเรียนวิชากระบอง เข้าใจหรือไม่?”โม่ชิงอีพูดตามตรง แต่หวังหยวนกลับไม่ได้สนใจมากนักวิชากระบองนี้เก่งกาจจริง ๆ คำที่ว่า “หมัดอาจจะสู้แรงหนุ่มไม่ได้ แต่ไม้ในมือคนแก่ย่อมทรงพลัง” นั้นเป็นความจริง หากใช้กระบองได้ดีก็ไม่ต่างอะไรกับเก่งกาจวิชาดาบเลยยิ่งไปกว่านั้น คือมันยังมีพลังทำลายล้างที่รุนแรงอีกด้วย!เมื่อรวมกับวิธีการทำอาวุธพิเศษของหวังหยวนแล้ว เขาก็คงไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วแต่เขาก็ยังถามขึ้นโดยไม่รู้ตัว“ว่าแต่พี่ชิงอี วัสดุที่พวกท่านใช้ทำอาวุธนั้นเป็นเพียงเหล็กกล้าหรือเปล่าขอรับ? มันจะคมเท่าดาบราชวงศ์ถังของข้าหรือไม่?”เมื่อพูดเช

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1407

    โม่ชิงอีพาหวังหยวนออกจากป่ารกร้างแห่งนั้นอย่างรวดเร็วหวังหยวนคิดว่าพวกเขากำลังจะไปยังสถานที่ลับแห่งใดแห่งหนึ่งแต่คราวนี้กลับมาถึงประตูภูเขาแห่งหนึ่งเมื่อมองจากระยะไกล ที่แห่งนี้ดูเหมือนกับค่ายลึกลับแห่งหนึ่ง แต่มีแผ่นป้ายขนาดใหญ่จารึกอักษรสามตัวไว้สำนักเซียนกระบอง!หวังหยวนถึงกับตกตะลึง หากไม่รู้ว่ามาเพื่อเรียนวิชากระบอง เขาก็คงคิดว่ามาที่สำนักของหมอดูเสียแล้ว!“ที่นี่หรือขอรับ?”หวังหยวนกะพริบตาถามโม่ชิงอีพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ที่นี่แหละ อย่าได้ดูถูกสถานที่ที่ดูเสื่อมโทรมเช่นนี้ เพราะสำนักเซียนกระบองเคยเป็นหนึ่งในสำนักของเทียนไว่เทียน ทักษะกระบองของพวกเขานั้นหาผู้ใดเทียบในใต้หล้าไม่ได้ เพราะมีความพิเศษมาก”“แต่ประมุขของพวกเขา... กลายเป็นคนอ่อนแอไปแล้ว วิชากระบองของพวกเขาจึงค่อย ๆ สูญหายไป จนกระทั่งถึงปัจจุบัน แทบไม่มีผู้ใดเข้าร่วมสำนักเซียนกระบองได้”“ดังนั้นประมุขสำนักจึงบอกกับข้าว่าหากมีผู้มีพรสวรรค์พิเศษให้พาตัวมา แล้วเขาจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อถ่ายทอดคัมภีร์ลับให้”เมื่อโม่ชิงอีพูดจบ หวังหยวนจึงเข้าใจแต่ว่าคนอ่อนแอหรือ?แล้วจะสอนวิชากระบองให้เขาได้อย่างไร?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1408

    กล่าวจบเหล่ากุ้นก็โยนห่อผ้าห่อหนึ่งให้หวังหยวนหวังหยวนไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากเปิดออกแล้วก็ถึงกับตะลึงทันใดข้างในนี้เป็นชุดเกราะก็จริง!แต่ว่าชุดเกราะนี้มันช่างแปลกประหลาดนัก!มีเพียงหมวกเหล็กใบหนึ่งกับกางเกงในเหล็กตัวหนึ่งนอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วงั้นหรือ?“นี่... นี่คือชุดเกราะหรือขอรับ?”หวังหยวนมีสีหน้างุนงง ทันทีที่เขาพูดจบ เหล่ากุ้นก็หัวเราะขึ้นมาทันที“แน่นอนสิ นี่ก็คือชุดเกราะไงเล่า เป็นอย่างไร ชุดเกราะนี้ดีใช่หรือไม่”“มาเถิด เจ้าหนุ่มน้อย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ รีบสวมเข้าไปเถิด อย่ามัวถามหาเหตุผลอยู่เลย”เหล่ากุ้นพูดกลั้วหัวเราะ ทำให้หวังหยวนถึงกับพูดไม่ออกแต่เมื่อคิดดูแล้วก็ยังคงสวมเข้าไปต้องบอกว่ากางเกงในเหล็กนี้แนบกระชับดีเหลือเกิน แต่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอย่างที่คิดหมวกเหล็กก็มีขนาดพอดีเช่นกันจากนั้นเหล่ากุ้นก็หยิบกระบองสองอันที่ดูแข็งแรง แต่ความจริงแล้วทำจากผ้าฝ้ายออกมาโดยภายในกระบองผ้าเหล่านี้มีกระบองหนาเท่ากับนิ้วมือเพียงอันเดียวส่วนด้านนอกหุ้มด้วยผ้าฝ้าย หากตีโดนก็จะไม่เจ็บมากนัก“ข้าจะใช้สิ่งนี้สอนเจ้า จงเก็บไว้ให้ดี”เหล่ากุ้นโยนกระบองอันหนึ่ง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1409

    แม้ว่าหวังหยวนจะเพิ่งเข้ามาในยุทธภพได้ไม่นาน แต่เขาก็พอจะรู้เรื่องการต่อสู้มาบ้าง!มีเพียงผู้หญิงเท่านั้นที่จะใช้กลวิธีเล็งโจมตีเป้าหมายตรงหว่างขาของคู่ต่อสู้เมื่อต่อสู้กับผู้ชาย!ลามกอนาจาร!ช่างลามกอนาจารยิ่งนัก!หวังหยวนถึงกับพูดไม่ออก หากรู้เช่นนี้แต่แรก เขาคงไม่เรียนวิชากระบองนี้!หากต้องใช้วิธีนี้ในการต่อสู้จริง คนที่หน้าไม่หนาพอคงไม่สามารถใช้ได้!สีหน้าของหวังหยวนดูไม่ดีนัก เหล่ากุ้นก็เหมือนจะรู้สึกได้ แต่ก็ไม่ได้สนใจ“เหอๆ เจ้าหนุ่มน้อยรู้สึกเขินอายนิดหน่อย แต่ไม่เป็นอะไร ค่อย ๆ ฝึกไป”เหล่ากุ้นเก็บกระบองแล้วหัวเราะคิกคักหวังหยวนตั้งใจจะบอกโม่ชิงอีว่าจะไม่เรียนที่นี่แล้วแต่ใครจะรู้ว่าโม่ชิงอีที่เพิ่งยืนอยู่ตรงนี้เมื่อครู่นี้ได้จากไปแล้วหวังหยวนรู้สึกหงุดหงิดมาก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นว่า “ท่านผู้อาวุโส ข้าคิดว่าวิชากระบองนี้ดูเหมือนจะไม่เหมาะกับข้า... ดังนั้น... ข้าขอไม่เรียนแล้วได้หรือไม่ขอรับ?”หวังหยวนไม่อยากเรียนจริง ๆแม้ว่าจะเรียนรู้แล้ว จะเอาไปใช้อย่างไร?เขาไม่คิดจะใช้วิชากระบองเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนมากมายแน่นอน“เอ๊ะ? ฮ่าฮ่าฮ่า ได้ ได้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1410

    ขณะที่เขากำลังสงสัย เหล่ากุ้นก็หัวเราะอย่างร่าเริงโดยไม่สนใจหวังหยวนในเวลานี้กลุ่มหญิงสาวได้ถอดเสื้อผ้าออกแล้ว กำลังลงไปในน้ำและเริ่มอาบน้ำพวกนางเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานเมื่อเหล่ากุ้นเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะคิกคัก จากนั้นอุ้มหวังหยวนขึ้นมา แล้วโยนลงไปในทะเลสาบเสียงดังตูม!หวังหยวนแทบคลั่ง!ตอนนี้เขาเปลือยกายอยู่!มิหนำซ้ำที่นี่ยังมีแต่ผู้หญิงกำลังอาบน้ำอยู่ด้วย!นี่...นี่เป็นการซ้ำเติมสองชั้น!น่าเสียดายที่...ไม่ว่าเขาจะคิดหาวิธีแก้สถานการณ์มากเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!ฟิ้ว…!ตูม…!หวังหยวนตกลงไปในน้ำในทะเลสาบขณะนี้หญิงสาวเหล่านั้นก็ตกใจมาก พวกนางส่งเสียงกรีดร้องแล้วรีบขึ้นฝั่ง“คนโรคจิต!”“คนลามก!”“กล้ามาแอบดูพวกเราอาบน้ำ!”หญิงสาวเหล่านั้นตกใจมาก ต่างรีบสวมเสื้อผ้าหวังหยวนอยากจะร้องไห้ สาว ๆ ทั้งหลาย ข้าไม่ได้มองเลยนะ!เขาไม่ได้มองจริง ๆ เขาหลับตาตลอดเวลา!ทันใดนั้นหญิงสาวคนหนึ่งก็พูดว่า“ไม่ใช่แล้ว! ดูเขาสิ ร่างกายของเขาแข็งทื่อเชียว!”“เอ๊ะ? หรือว่าจะถูกใครสกัดจุด?”“เขาจะจมน้ำตายหรือเปล่า?”“จะช่วยเขาหรือไม่?”หญิงสาวหลายคนลังเล แต่เมื่อคิดดูดี ๆ แล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1411

    “เจ้ากล่าวเช่นนี้แล้วพวกข้าจะต้องเชื่อเจ้าหรือ!”“ถูกต้อง!”“แต่เราไม่สามารถทิ้งเขาไว้ที่นี่ได้ หากสัตว์ป่ามาพบเข้าคงไม่ดีแน่!”“ฮึ่ม! พาไปหาเหล่ากุ้นที่สำนักเซียนกระบอง แล้วขอคำอธิบายกันเถิด!”กล่าวจบ หญิงงามทั้งหลายก็มัดตัวหวังหยวนอย่างแน่นหนา แล้วช่วยกันหามเขาไปที่สำนักเซียนกระบองหวังหยวนไม่เคยอับอายขายหน้าถึงเพียงนี้มาก่อนในชีวิต!เขาเกลียดเหล่ากุ้นผู้นั้นแทบตาย!ชายชราคนนั้นกล้าทำเช่นนี้กับเขาจริง ๆไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงสำนักเซียนกระบอง จากนั้นหวังหยวนก็ถูกโยนลงพื้นอย่างแรงหญิงงามทั้งหลายตะโกนทันที“เหล่ากุ้น! ตาแก่ลามก ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”“ถูกต้อง รีบออกมาเลย!”พวกนางร้องเอะอะโวยวาย ขณะที่เหล่ากุ้นเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางงัวเงีย“โอ้ นี่เหล่านางฟ้าแสนสวยแห่งสำนักเจ็ดสีไม่ใช่หรือ? ไฉนเจ้าทั้งหลายจึงมาหาข้า?”เหล่ากุ้นแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่หวังหยวนกลับโกรธจนแทบคลั่งเหล่ากุ้นผู้นี้ต้องการสิ่งใดกันแน่ โยนความผิดให้เขาหรือ?“เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”หญิงงามทั้งหลายชี้ไปที่หวังหยวนเหล่ากุ้นจึงมองไปที่หวังหยวน แล้วชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะกระโดดเข้ามาหา“โอ้โฮ ศิษ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1412

    “การโกรธเป็นเรื่องดี แสดงว่าความละอายของเจ้าค่อย ๆ ลดลงแล้ว”เหล่ากุ้นพอใจยิ่งนัก หวังหยวนฟังแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “ข้าได้บอกท่านแล้วว่าข้าจะไม่เรียนอย่างแน่นอน!”“ข้าจะจากไปจากที่นี่!”เหล่ากุ้นได้ยินดังนั้นจึงกล่าวว่า “ได้เลย แต่หากข้าไม่ปลดสกัดจุดของเจ้า เจ้าจะจากไปได้อย่างไร?”หวังหยวนได้ยินดังนั้นก็แทบจะกระอักเลือดออกมาหลังจากพิจารณาแล้ว เขาก็ยังรู้สึกว่าควรทำให้ตาแก่ผู้นี้ไว้ใจก่อนจึงกล่าวว่า “เช่นนั้น... เช่นนั้นข้าจะเรียนก็ได้! ท่านปลดสกัดจุดของข้าก่อน”เหล่ากุ้นได้ยินดังนั้นก็ยกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ได้ ตกลงกันแล้วนะ”กล่าวจบก็ปลดสกัดจุดของหวังหยวนทันทีทันใดนั้นหวังหยวนก็กระโดดขึ้นจากพื้น ไม่เอ่ยคำใดทั้งนั้น รีบกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเตรียมจากไปทันที“เฮ้ย เฮ้ย เจ้าไม่ได้บอกว่าจะอยู่ที่นี่เพื่อเรียนวิชากระบองหรือ?”เหล่ากุ้นเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นหวังหยวนได้ยินแล้วก็เยาะหยัน “ข้าหลอกท่าน ท่านเป็นตาแก่ที่ไม่น่าเคารพเลยสักนิด ข้าจะไม่เรียนกับท่านหรอก!”“อยากให้ข้าเรียนวิชากระบอง แต่ท่านกลับทำให้ข้าอับอายเช่นนี้ ข้าไม่เคยอับอายถึงเพียงนี้ม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1413

    หวังหยวนไม่คิดเลยว่าเมื่อดื่มสุราหมดจอกแล้ว ตนเองจะมึนงงจนสิ้นสติไป!ในวันต่อมา หวังหยวนรู้สึกราวกับว่าตนเองอยากจะตายเพราะตาแก่เหล่ากุ้นนั่น!หวังหยวนรู้ดีว่าวิชากระบองนี้หาผู้ใดเทียบเทียมได้ยาก แต่ทว่ากลับแสนจะลามก เขาจึงไม่ชอบสามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดการฝึกฝนอันโหดหินของหวังหยวนก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว!ในดินแดนรกร้างแห่งหนึ่งมีพรรคเล็ก ๆ นามว่าพรรคหุบเขาทมิฬตั้งอยู่มาช้านาน ด้วยพึ่งพาอาศัยอำนาจของประมุขพรรคผู้มีพลังระดับปรมาจารย์ขั้นกลาง ทำให้เหล่าศิษย์ในพรรคต่างก็กระทำการอันไม่ชอบธรรมหญิงสาวในเมืองโดยรอบต่างก็ไม่กล้าออกจากบ้านเรือน ต้องอยู่แต่ในบ้านก็ต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว เพราะเกรงว่าจะต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนเหล่านี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประมุขพรรคไปจับตัวตัวหญิงสาวพรหมจรรย์หลายคน เพื่อจะนำเลือดบริสุทธิ์ของพวกนาง มาช่วยให้ประมุขพรรคไปถึงระดับที่สูงขึ้น ในเวลานี้เองที่การฝึกฝนของหวังหยวนได้สิ้นสุดลงแล้ว เขาได้รับคำสั่งจากโม่ชิงอีให้มาฝึกฝนที่นี่ เพื่อพิสูจน์ผลลัพธ์จากการฝึกฝนในสามเดือนที่ผ่านมา ร่างในชุดดำกระโจนลงมาจากท้องฟ้า และกระบองในมือของเขานำพาความกดดัน

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status