หากถูกทรมานอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาก็ยังพอจะทนได้อยู่แต่ไม่รู้ว่าจนทนได้ไหวอีกสักกี่ครั้งยิ่งไปกว่านั้น คือยังมีเครื่องมืออีกมากมายที่ยังไม่ได้ใช้!แต่ละอย่างล้วนน่ากลัวทั้งสิ้น!พูดตามจริงแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะไม่กลัว!แต่กลัวแล้วจะทำอย่างไรได้?ก็ไม่มีทางหลบหนีไปไหนได้อยู่แล้ว ดังนั้นคนที่สองจึงคิดว่าเอาเถิด อย่าคิดอะไรเลย บอกความจริงไปตรง ๆ เลยดีกว่าเมื่อได้ยินดังนั้น หวังหยวนจึงยกยิ้ม“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็เล่ามาได้เลย”บุคคลผู้นั้นรีบกล่าวขึ้นว่า “พวกเรา... พวกเราเพียงแค่ทำตามคำสั่งที่ได้รับมา คือให้มาสังหารคนที่ชื่อหวังหยวนที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราเป็นคนของเทียนไว่เทียนก็จริง แต่...”“เหตุใดจึงต้องสังหารท่าน เราไม่ทราบ อาจจะมีเหตุผลอื่นใดก็เป็นได้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่พวกข้าล่วงรู้!”“พวกข้าเป็นเพียงศิษย์นอกสำนัก ไม่มีฝีมือมากนัก เก่งกาจกว่าคนธรรมดาไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีพรสวรรค์ใด ๆ เลย ดังนั้น...”“คุณชายหวัง ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการบอกท่าน แต่พวกเราไม่ทราบจริง ๆ ว่าเหตุใดจึงต้องทำเช่นนี้!”ท่าทางของคนผู้นี้ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะพูดโกหกแต่คำถามก็เกิดขึ้นแล้ว!
“ในยามปกติพวกเขาจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน มีเพียงในโอกาสพิเศษเท่านั้นที่จะปรากฏตัว!”“มีเพียงไม่กี่คนในโลกนี้ที่จะมองออก มีหลายคนที่ซ่อนเร้นอยู่ในโลกนี้ ไม่ต้องพูดถึงพวกท่านหรอก แม้แต่พวกข้าเอง หากต้องระบุตัวก็คงจะมองไม่ออกเช่นกัน...” เมื่อได้ยินดังนั้น หวังหยวนก็เข้าใจแล้วเมื่อมองจากภายนอกแล้ว พวกเขาคงไม่มีความแตกต่างจากคนทั่วไปมากนัก!ดังนั้นจึงไม่ง่ายเลยที่จะแยกแยะ“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสามมาจากที่ใด สังกัดตระกูลหรือสำนักใด”ในเวลานี้หวังหยวนเอ่ยปากถาม คนทั้งสามฟังแล้วก็ลังเลเล็กน้อย“ว่าอย่างไร ไม่ยอมบอกหรือ?”หวังหยวนขมวดคิ้วพูดทันทีเมื่อเขากล่าวจบ คนทั้งสามก็ตัวสั่นแล้วจึงตอบว่า“พวกข้าเป็นเพียงกองกำลังของสำนักเล็ก ๆ ที่ชื่อว่าหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์”หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ ฟังดูแล้วเป็นชื่อที่ไพเราะ ค่อนข้างน่าสนใจ“ดี หากเป็นเช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสามก็ทำตัวให้ดีอยู่ที่นี่เถิด”หลังจากหวังหยวนพูดจบ พวกเขาก็ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วยังจะพูดอะไรได้อีก?หลังจากออกจากห้องแล้ว หวังหยวนก็จมดิ่งอยู่ในห้วงความคิดเพราะเรื่องนี้!หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์เป็
เมื่อหวังหยวนพูดจบแล้ว ทุกคนก็รีบพยักหน้า สถานการณ์ในขณะนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนยิ่งนักสำหรับหวังหยวนและทุกคน!หากไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้โดยเร็ว วิกฤตก็จะยังคงอยู่!ดังนั้นในใจของหวังหยวนจึงมีความคิดที่กล้าหาญผุดขึ้นมา!เขาจะไปที่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์!เพื่อดูว่าแท้จริงแล้วสถานที่แห่งนั้นคืออะไรกันแน่!แน่นอนว่าเรื่องนี้มีความเสี่ยง แต่หวังหยวนไม่กังวล!ในโลกนี้ไม่มีกล้องถ่ายรูป เขาแค่ปลอมตัวก็คงไม่มีใครจำได้!เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจของหวังหยวน ก็ยิ่งก่อให้เกิดความแน่วแน่มากขึ้นเรื่อย ๆเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น หวังหยวนก็เรียกเกาเล่อ ต้าหู่ เอ้อหู่ และถังหม่างมาแล้วเล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟัง!“อะไรนะ! พี่หยวน ท่านบอกว่าเราจะเป็นฝ่ายรุกโจมตีหรือ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พวกเขาก็ตกใจ!เมื่อต้องเผชิญกับศัตรูที่ทรงพลังเช่นนี้ การโจมตีเชิงรุกจะใจร้อนเกินไปหรือไม่!ต้องรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา!นี่คือความเป็นความตาย!หากเกิดเรื่องขึ้นก็คงสายเกินกว่าจะเสียใจ!“พี่หยวน ข้าคิดว่าท่านควรพิจารณาใหม่อีกครั้ง หากเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา... พวกเราคงรับมือไม่ไหว”เกาเล่อรีบพูดทั
ในปีนั้นตอนที่ต้องไปช่วยเอ้อหู่ หวังหยวนก็เดินทางไปยังเมืองหลวงต้าเย่เพียงลำพัง!ตอนนี้ถึงคราวที่เขาตกอยู่ในอันตราย พี่น้องกลุ่มนี้ก็ไม่มีใครยอมถอยหนี!แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!เป็นเรื่องยากที่ชีวิตนี้จะมีพี่น้องที่ดีสักสองสามคน แต่หวังหยวนมีพี่น้องที่ดีมากมายเช่นนี้ เขาจึงมีความสุขมาก!หลังจากตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว หวังหยวนก็ไปพบนักโทษสามคน แล้วถามหาที่ตั้งของหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ทันทีพวกเขาสามคนถึงกับอึ้งจนแทบพูดไม่ออก “คุณชายหวัง ท่านจะไปหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์หรือ นี่... นี่ไม่ใช่การหาเรื่องตายหรอกหรือ?”เมื่อหวังหยวนได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่บอกว่าตัวเองคือหวังหยวน แล้วใครจะรู้ล่ะ?”“ยิ่งกว่านั้นคือเหตุผลที่พวกเจ้ามาที่หมู่บ้านต้าหวัง ก็เพราะรู้ว่าข้าอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังไม่ใช่หรือ?”“หากข้าไม่อยู่ พวกเขาจะไปตามหาข้าที่ไหน?”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ทั้งสามคนก็พยักหน้าหากหวังหยวนไม่เปิดเผยตัวตน พวกเขาก็คงไม่รู้ว่าหวังหยวนเป็นใคร!แต่ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่การไปที่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ก็ยังเต็มไปด้วยอันตรายอยู่ดี เพราะหากถูกเปิดเผยตัวตนก็คงจะต้องตายอย่างแน่
หวังหยวนย่อมมีเหตุผลที่ทำให้กระทำเช่นนี้อันที่จริงแล้วหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์จะรู้ในไม่ช้าว่าภารกิจในครั้งนี้ล้มเหลว และจะต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป!ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น หมู่บ้านต้าหวังก็จะตกอยู่ในอันตรายดังนั้นหวังหยวนจึงต้องทิ้งกำลังคนไว้เฝ้าให้เพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่าหมู่บ้านต้าหวังจะปลอดภัย!หวังหยวนและคณะออกเดินทางแล้ว หลี่ซื่อหานและภรรยาของเขาอีกสองคนเป็นกังวลมาก แต่พวกนางก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้!สถานการณ์ในปัจจุบันไม่มีหนทางใดที่จะช่วยให้พวกเขาหลีกหนีได้!ดังนั้นหากจำเป็น พวกเขาก็ต้องทุ่มเททุกสิ่งที่มี!“พี่ซื่อหาน สามีจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอนใช่หรือไม่?”หูเมิ่งอิ๋งเอ่ยถามขึ้นในเวลานี้ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลหวงเจียวเจียวกัดริมฝีปากสีแดง ในใจนางก็กังวลเช่นเดียวกัน เพียงแต่นางไม่ได้พูดออกมานางรู้ดีถึงความเก่งกาจของคนในยุทธจักร จึงยิ่งรู้สึกตึงเครียดหลี่ซื่อหานเผยรอยยิ้มจาง “วางใจเถิด สามีจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน เขาจะต้องต่อสู้เพื่อพวกเราจนถึงที่สุด ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับใคร เขาก็จะไม่ย่อท้อแน่นอน!”“ข้าเชื่อมั่นในความสามารถและสติปั
“ผ่านไปครึ่งวันแล้วก็ยังไม่มีใครออกมาเลย เงียบจริง ๆ!”หวังอู่ขมวดคิ้วมองไปยังหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ที่อยู่ไกลออกไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์นี้เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แทบจะไม่เห็นผู้คนเข้าออกอยู่แล้วขอรับ”“ไม่รู้ว่าภายในสถานที่แห่งนี้จะเป็นอย่างไรกันแน่”“พี่หวัง ท่านว่า... สถานที่แห่งนี้จะเป็นเหมือนกับที่ลูกพี่บอกว่าเป็นถํ้าพยัคฆ์วังมังกรจริงหรือขอรับ?”ลูกน้องคนนั้นถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นหลังจากได้ฟังแล้ว หวังอู่ก็พยักหน้า“อย่าตั้งคำถามกับการตัดสินของลูกพี่ เขาบอกว่าใช่ก็ต้องใช่!”หวังอู่พูดจบ นัยน์ตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพจากนั้นพวกเขาก็เริ่มเดินพักผ่อนหย่อนใจ“พี่หวัง สถานที่แห่งนี้ดีจริง ๆ อากาศดี น้ำใส อาหารวันนี้ก็อร่อยด้วย!”“โดยเฉพาะเนื้อย่างนี้ ข้าชอบมากทุกครั้งที่ได้กินจริง ๆ!”เพื่อให้ลูกหลานเศรษฐีเหล่านี้มาที่นี่ หวังอู่จึงเตรียมอาหารอร่อย ๆ ไว้มากมาย“อาหารรสเลิศจะขาดสุราได้อย่างไร มาเถิด ดื่มกันเถิด พี่น้องทั้งหลาย!”หวังอู่พูดจบก็หัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็ดื่มกับทุกคนเขาเป็นคนที่ต้านท
เมื่อหวังอู่เคาะประตูอีกครั้งก็ยังไม่มีเสียงตอบรับทำให้หวังอู่ขมวดคิ้วและรู้สึกหงุดหงิดทันทีเกิดอะไรขึ้น!เหตุใดยังไม่เปิดประตูอีก!หวังอู่สูดหายใจเข้าลึก ๆ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เตรียมจะเข้าไปดูข้างในแต่ทันใดนั้นก็มีสายลมพัดผ่านมาเบา ๆ ทำให้หวังอู่ต้องหยุดชะงักไปชั่วครู่เขาได้กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ!กลิ่นนี้ทำให้เขาขมวดคิ้ว!“กลิ่นคาวเลือด! แม้จะจางมากแต่ก็มีอยู่!”หลังจากพูดประโยคนี้จบ หวังอู่ก็ไม่ลังเลที่จะพุ่งตัวทะยานเข้าไปในลานบ้านหลังนี้ทันทีทันทีที่เข้าไป สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป!เพราะตรงหน้าเขาเต็มไปด้วยศพนับไม่ถ้วน!เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่ามีอย่างน้อยยี่สิบหรือสามสิบศพ!เขาเดินเข้าไปตรวจสอบทันที แต่หลังจากตรวจสอบแล้ว เขาก็รู้สึกขนหัวลุก!แม้ว่าคนเหล่านี้จะตายไปแล้ว แต่การตายของพวกเขา...พิเศษมาก!ที่กลางหน้าผากของแต่ละคนมีจุดสีแดง!มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่เป็นเช่นนั้น แต่กลับมีเลือดไหลนองเต็มพื้น!และกลิ่นคาวเลือดก็มาจากพวกเขาเหล่านั้น!สีหน้าของหวังอู่เปลี่ยนไปอย่างมาก ใครจะคิดว่าคนหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์จะตายกันหมดในชั่วข้ามคืน!เป็นไปได้อย
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังอู่ก็ไม่ลังเลที่จะพูดว่า “เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตและเข้าใกล้หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ได้โดยไม่ให้คนอื่นแปลกใจ ข้าจึงตั้งใจไปเที่ยวพักผ่อนแถวนั้น เพราะที่นั่นมีทัศนียภาพที่สวยงามขอรับ”“ดังนั้นข้าจึงเชิญพวกคุณชายสองสามคนที่สนิทสนมกันไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันขอรับ!”“ระหว่างรับประทานอาหาร เนื้อก็หมด เพราะข้าตั้งใจเอาไปน้อยจะได้ทำทีว่าไปซื้อเนื้อที่นั่น ในป่ารกร้างย่อมไม่มีที่ไหนที่มีเนื้อเลย ข้าจึงเสนอให้ไปซื้อที่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เกาเล่อก็ตาเป็นประกายและพยักหน้าทันที“เจ้าหนุ่ม เจ้าเก่งมากเลยนะ ถือว่าเป็นแผนการที่ไร้ที่ติ คนทั่วไปมองไม่ออกจริง ๆ”“ปลอมตัวเป็นคนเมามาซื้อเนื้อ ใครจะมองออก แล้วก็ยังเป็นคุณชายหนุ่มที่มีชื่อเสียงในเมืองอีกด้วย ใช้ได้ ใช้ได้! เจ้าเล่าต่อสิ”เกาเล่ออดชมไม่ได้ เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังอู่ก็เล่าต่อว่า “หลังจากนั้นข้าก็ทำทีไปหาซื้อเนื้อ พวกท่านทั้งหลายลองทายดูว่า ข้าเห็นอะไร?”เมื่อหวังอู่พูดจบ ต้าหู่ก็อดใจไม่ไหว“รีบเล่ามาสิเจ้าเด็กนี่ จะพูดเยิ่นเย้อให้พวกข้าอยากรู้เช่นนี้เพื่ออะไร!”ต้าหู่จ้องหน้าเขา หวังอ
นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต
หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่
“ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า
แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้
“ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”
“ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล
ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด
“ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก
เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น