ในปีนั้นตอนที่ต้องไปช่วยเอ้อหู่ หวังหยวนก็เดินทางไปยังเมืองหลวงต้าเย่เพียงลำพัง!ตอนนี้ถึงคราวที่เขาตกอยู่ในอันตราย พี่น้องกลุ่มนี้ก็ไม่มีใครยอมถอยหนี!แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!เป็นเรื่องยากที่ชีวิตนี้จะมีพี่น้องที่ดีสักสองสามคน แต่หวังหยวนมีพี่น้องที่ดีมากมายเช่นนี้ เขาจึงมีความสุขมาก!หลังจากตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว หวังหยวนก็ไปพบนักโทษสามคน แล้วถามหาที่ตั้งของหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ทันทีพวกเขาสามคนถึงกับอึ้งจนแทบพูดไม่ออก “คุณชายหวัง ท่านจะไปหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์หรือ นี่... นี่ไม่ใช่การหาเรื่องตายหรอกหรือ?”เมื่อหวังหยวนได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่บอกว่าตัวเองคือหวังหยวน แล้วใครจะรู้ล่ะ?”“ยิ่งกว่านั้นคือเหตุผลที่พวกเจ้ามาที่หมู่บ้านต้าหวัง ก็เพราะรู้ว่าข้าอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังไม่ใช่หรือ?”“หากข้าไม่อยู่ พวกเขาจะไปตามหาข้าที่ไหน?”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ทั้งสามคนก็พยักหน้าหากหวังหยวนไม่เปิดเผยตัวตน พวกเขาก็คงไม่รู้ว่าหวังหยวนเป็นใคร!แต่ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่การไปที่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ก็ยังเต็มไปด้วยอันตรายอยู่ดี เพราะหากถูกเปิดเผยตัวตนก็คงจะต้องตายอย่างแน่
หวังหยวนย่อมมีเหตุผลที่ทำให้กระทำเช่นนี้อันที่จริงแล้วหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์จะรู้ในไม่ช้าว่าภารกิจในครั้งนี้ล้มเหลว และจะต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป!ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น หมู่บ้านต้าหวังก็จะตกอยู่ในอันตรายดังนั้นหวังหยวนจึงต้องทิ้งกำลังคนไว้เฝ้าให้เพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่าหมู่บ้านต้าหวังจะปลอดภัย!หวังหยวนและคณะออกเดินทางแล้ว หลี่ซื่อหานและภรรยาของเขาอีกสองคนเป็นกังวลมาก แต่พวกนางก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้!สถานการณ์ในปัจจุบันไม่มีหนทางใดที่จะช่วยให้พวกเขาหลีกหนีได้!ดังนั้นหากจำเป็น พวกเขาก็ต้องทุ่มเททุกสิ่งที่มี!“พี่ซื่อหาน สามีจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอนใช่หรือไม่?”หูเมิ่งอิ๋งเอ่ยถามขึ้นในเวลานี้ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลหวงเจียวเจียวกัดริมฝีปากสีแดง ในใจนางก็กังวลเช่นเดียวกัน เพียงแต่นางไม่ได้พูดออกมานางรู้ดีถึงความเก่งกาจของคนในยุทธจักร จึงยิ่งรู้สึกตึงเครียดหลี่ซื่อหานเผยรอยยิ้มจาง “วางใจเถิด สามีจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน เขาจะต้องต่อสู้เพื่อพวกเราจนถึงที่สุด ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับใคร เขาก็จะไม่ย่อท้อแน่นอน!”“ข้าเชื่อมั่นในความสามารถและสติปั
“ผ่านไปครึ่งวันแล้วก็ยังไม่มีใครออกมาเลย เงียบจริง ๆ!”หวังอู่ขมวดคิ้วมองไปยังหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ที่อยู่ไกลออกไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์นี้เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แทบจะไม่เห็นผู้คนเข้าออกอยู่แล้วขอรับ”“ไม่รู้ว่าภายในสถานที่แห่งนี้จะเป็นอย่างไรกันแน่”“พี่หวัง ท่านว่า... สถานที่แห่งนี้จะเป็นเหมือนกับที่ลูกพี่บอกว่าเป็นถํ้าพยัคฆ์วังมังกรจริงหรือขอรับ?”ลูกน้องคนนั้นถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นหลังจากได้ฟังแล้ว หวังอู่ก็พยักหน้า“อย่าตั้งคำถามกับการตัดสินของลูกพี่ เขาบอกว่าใช่ก็ต้องใช่!”หวังอู่พูดจบ นัยน์ตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพจากนั้นพวกเขาก็เริ่มเดินพักผ่อนหย่อนใจ“พี่หวัง สถานที่แห่งนี้ดีจริง ๆ อากาศดี น้ำใส อาหารวันนี้ก็อร่อยด้วย!”“โดยเฉพาะเนื้อย่างนี้ ข้าชอบมากทุกครั้งที่ได้กินจริง ๆ!”เพื่อให้ลูกหลานเศรษฐีเหล่านี้มาที่นี่ หวังอู่จึงเตรียมอาหารอร่อย ๆ ไว้มากมาย“อาหารรสเลิศจะขาดสุราได้อย่างไร มาเถิด ดื่มกันเถิด พี่น้องทั้งหลาย!”หวังอู่พูดจบก็หัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็ดื่มกับทุกคนเขาเป็นคนที่ต้านท
เมื่อหวังอู่เคาะประตูอีกครั้งก็ยังไม่มีเสียงตอบรับทำให้หวังอู่ขมวดคิ้วและรู้สึกหงุดหงิดทันทีเกิดอะไรขึ้น!เหตุใดยังไม่เปิดประตูอีก!หวังอู่สูดหายใจเข้าลึก ๆ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เตรียมจะเข้าไปดูข้างในแต่ทันใดนั้นก็มีสายลมพัดผ่านมาเบา ๆ ทำให้หวังอู่ต้องหยุดชะงักไปชั่วครู่เขาได้กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ!กลิ่นนี้ทำให้เขาขมวดคิ้ว!“กลิ่นคาวเลือด! แม้จะจางมากแต่ก็มีอยู่!”หลังจากพูดประโยคนี้จบ หวังอู่ก็ไม่ลังเลที่จะพุ่งตัวทะยานเข้าไปในลานบ้านหลังนี้ทันทีทันทีที่เข้าไป สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป!เพราะตรงหน้าเขาเต็มไปด้วยศพนับไม่ถ้วน!เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่ามีอย่างน้อยยี่สิบหรือสามสิบศพ!เขาเดินเข้าไปตรวจสอบทันที แต่หลังจากตรวจสอบแล้ว เขาก็รู้สึกขนหัวลุก!แม้ว่าคนเหล่านี้จะตายไปแล้ว แต่การตายของพวกเขา...พิเศษมาก!ที่กลางหน้าผากของแต่ละคนมีจุดสีแดง!มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่เป็นเช่นนั้น แต่กลับมีเลือดไหลนองเต็มพื้น!และกลิ่นคาวเลือดก็มาจากพวกเขาเหล่านั้น!สีหน้าของหวังอู่เปลี่ยนไปอย่างมาก ใครจะคิดว่าคนหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์จะตายกันหมดในชั่วข้ามคืน!เป็นไปได้อย
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังอู่ก็ไม่ลังเลที่จะพูดว่า “เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตและเข้าใกล้หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ได้โดยไม่ให้คนอื่นแปลกใจ ข้าจึงตั้งใจไปเที่ยวพักผ่อนแถวนั้น เพราะที่นั่นมีทัศนียภาพที่สวยงามขอรับ”“ดังนั้นข้าจึงเชิญพวกคุณชายสองสามคนที่สนิทสนมกันไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันขอรับ!”“ระหว่างรับประทานอาหาร เนื้อก็หมด เพราะข้าตั้งใจเอาไปน้อยจะได้ทำทีว่าไปซื้อเนื้อที่นั่น ในป่ารกร้างย่อมไม่มีที่ไหนที่มีเนื้อเลย ข้าจึงเสนอให้ไปซื้อที่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เกาเล่อก็ตาเป็นประกายและพยักหน้าทันที“เจ้าหนุ่ม เจ้าเก่งมากเลยนะ ถือว่าเป็นแผนการที่ไร้ที่ติ คนทั่วไปมองไม่ออกจริง ๆ”“ปลอมตัวเป็นคนเมามาซื้อเนื้อ ใครจะมองออก แล้วก็ยังเป็นคุณชายหนุ่มที่มีชื่อเสียงในเมืองอีกด้วย ใช้ได้ ใช้ได้! เจ้าเล่าต่อสิ”เกาเล่ออดชมไม่ได้ เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังอู่ก็เล่าต่อว่า “หลังจากนั้นข้าก็ทำทีไปหาซื้อเนื้อ พวกท่านทั้งหลายลองทายดูว่า ข้าเห็นอะไร?”เมื่อหวังอู่พูดจบ ต้าหู่ก็อดใจไม่ไหว“รีบเล่ามาสิเจ้าเด็กนี่ จะพูดเยิ่นเย้อให้พวกข้าอยากรู้เช่นนี้เพื่ออะไร!”ต้าหู่จ้องหน้าเขา หวังอ
เมื่อหวังหยวนกล่าวจบ ทุกคนก็เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ในทันทีระหว่างทางมีหวังอู่เป็นผู้นำทาง ส่วนหวังหยวนและคนอื่น ๆ ติดตามอยู่เบื้องหลังไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงที่หมายแล้วกระโจนข้ามกำแพงเข้าไปทันทีทันใดนั้นทุกคนก็ต้องตกตะลึง!ลานบ้านเต็มไปด้วยศพเกลื่อนกลาดจริง ๆ!สถานที่แห่งนี้ห่างไกลผู้คน หากมีเสียงต่อสู้ใด ๆ เกิดขึ้นก็ยากยิ่งนักที่จะมีผู้ได้ยินทว่าวิธีการสังหารนั้นรุนแรงเกินไป ทรงพลังเสียจนหวังหยวนนึกหวาดกลัว!บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น!บางคนกำดาบ บางคนถือหอก เรียกได้ว่ามีอาวุธครบมือ!บริเวณโดยรอบก็มีข้าวของแตกกระจายเมื่อหวังหยวนสังเกตศพเหล่านั้นก็พบว่าบางศพมีจุดแดงที่หน้าผาก แต่บางศพก็เครื่องในแตกกระจายศพเหล่านี้จึงมีความแตกต่างกัน!ผู้ที่อ่อนแอคงถูกสังหารด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!แต่ผู้ที่แข็งแกร่งก็ยังพยายามต่อสู้ได้!ดังนั้นสภาพศพจึงแตกต่างกัน!“ตายกันหมดแล้วจริง ๆ พี่หยวน คราวนี้ท่านก็ปลอดภัยแล้วสินะขอรับ!”ต้าหู่ดีใจขึ้นมาทันที เรื่องเช่นนี้สมควรแก่การเฉลิมฉลอง!แต่ว่า...ในใจของหวังหยวนยังคงมีความกังวลแฝงอยู่เพราะเ
คนคนเดียวฆ่าคนไปมากมายถึงเพียงนี้ และหลายคนก็ถูกสังหารด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!เขาเป็นยอดฝีมือระดับไหนกันแน่!“อาจารย์ชิงอี ข้าขอถามเหตุผลได้หรือไม่ขอรับ?”หวังหยวนรีบถาม เมื่ออาจารย์ชิงอีได้ยินเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “อย่าเรียกอาจารย์ชิงอี อาจารย์ชิงอีตลอดเวลาเลย ข้าชื่อโม่ชิงอี ต่อไปนี้เจ้าเรียกข้าว่าพี่ชิงอีก็ได้ การเติมคำว่าอาจารย์ ทำให้ข้าดูเหมือนเป็นผู้ฝึกตนจริง ๆ”หลังจากที่โม่ชิงอีพูดจบก็พูดต่อ “ส่วนเหตุผลนั้น ประเดี๋ยวข้าจะบอกเจ้าเป็นการส่วนตัว ตอนนี้ข้าต้องบอกเรื่องอื่นให้พวกเจ้าได้รู้ก่อน”“เกี่ยวกับเรื่องของวิทยายุทธ!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวังหยวนและคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงวิทยายุทธหรือ?เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวิทยายุทธอย่างไร!แต่พวกเขาไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงแค่ตั้งใจฟังขณะนี้โม่ชิงอีลุกขึ้นยืน จากนั้นจึงค่อย ๆ อธิบายว่า “เส้นทางวิทยายุทธนั้นยาวนานและเกี่ยวข้องอย่างมากกับพรสวรรค์และความเพียร!”“สิ่งที่เรียกว่าการฝึกฝนก็คือการนำพลังจากฟ้าดินเข้าสู่ร่างกาย ดูดซับแก่นแท้ของสุริยันจันทรา ดูดซับพลังจากเมฆสีม่วงทิศบูรพา”“หมุนเวียนพลังลมปราณทั้งใหญ่และเล็กในจุดสำคัญข
หลังจากที่โม่ชิงอีกล่าวจบก็สะบัดนิ้วทันที พลังลมปราณพุ่งออกไปฉับพลัน!ทันใดนั้นแผ่นหินด้านข้างก็กลายเป็นรูในทันใด!ทั้งสามคนที่เห็นภาพนี้ต่างก็ตะลึงงัน!ใช้พลังด้วยการสะบัดนิ้วเบา ๆ เพียงครั้งเดียว!ก็เจาะทะลุแผ่นหินได้!ถ้าสะบัดนิ้วใส่หัวใครสักคนจะไม่ทำให้หัวแตกกระจายไปเลยหรือ!“นี่คือการปล่อยพลังปราณภายในออกไป พลังปราณไม่เพียงแค่กักเก็บอยู่ในร่างกายเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้นอกร่างกายได้อีกด้วย ส่วนจะไกลแค่ไหน แข็งแกร่งแค่ไหน นั่นก็ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของแต่ละขั้น!”“แบ่งเป็นสามขั้นตอน ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง โดยพิจารณาจากความเข้มข้นของพลังปราณ!”“ตามตำรานั้นปรมาจารย์ขั้นสูงย่อมแข็งแกร่งที่สุด แต่ก็มีอัจฉริยะบางคนที่พรสวรรค์ล้ำเลิศ แม้จะอยู่ในปรมาจารย์ขั้นกลาง แต่ก็สามารถต่อสู้กับปรมาจารย์ขั้นสูงได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก”โม่ชิงอีกล่าวจบก็ยกยิ้มจาง แล้วมองไปที่ทั้งสามคน“ที่ข้าเพิ่งพูดไป เข้าใจกันหรือไม่?”หวังหยวนและคนอื่น ๆ ย่อมเข้าใจเพราะเขาสาธิตให้เห็นแล้วถ้าไม่เข้าใจก็คงจะโง่เขลาเกินไปแล้วกระมัง?“ไม่นึกเลยว่าวิชานี้จะมีขั้นตอนเช่นนี้ ข้า... ข้าไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห