เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังอู่ก็ไม่ลังเลที่จะพูดว่า “เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตและเข้าใกล้หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ได้โดยไม่ให้คนอื่นแปลกใจ ข้าจึงตั้งใจไปเที่ยวพักผ่อนแถวนั้น เพราะที่นั่นมีทัศนียภาพที่สวยงามขอรับ”“ดังนั้นข้าจึงเชิญพวกคุณชายสองสามคนที่สนิทสนมกันไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันขอรับ!”“ระหว่างรับประทานอาหาร เนื้อก็หมด เพราะข้าตั้งใจเอาไปน้อยจะได้ทำทีว่าไปซื้อเนื้อที่นั่น ในป่ารกร้างย่อมไม่มีที่ไหนที่มีเนื้อเลย ข้าจึงเสนอให้ไปซื้อที่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เกาเล่อก็ตาเป็นประกายและพยักหน้าทันที“เจ้าหนุ่ม เจ้าเก่งมากเลยนะ ถือว่าเป็นแผนการที่ไร้ที่ติ คนทั่วไปมองไม่ออกจริง ๆ”“ปลอมตัวเป็นคนเมามาซื้อเนื้อ ใครจะมองออก แล้วก็ยังเป็นคุณชายหนุ่มที่มีชื่อเสียงในเมืองอีกด้วย ใช้ได้ ใช้ได้! เจ้าเล่าต่อสิ”เกาเล่ออดชมไม่ได้ เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังอู่ก็เล่าต่อว่า “หลังจากนั้นข้าก็ทำทีไปหาซื้อเนื้อ พวกท่านทั้งหลายลองทายดูว่า ข้าเห็นอะไร?”เมื่อหวังอู่พูดจบ ต้าหู่ก็อดใจไม่ไหว“รีบเล่ามาสิเจ้าเด็กนี่ จะพูดเยิ่นเย้อให้พวกข้าอยากรู้เช่นนี้เพื่ออะไร!”ต้าหู่จ้องหน้าเขา หวังอ
เมื่อหวังหยวนกล่าวจบ ทุกคนก็เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ในทันทีระหว่างทางมีหวังอู่เป็นผู้นำทาง ส่วนหวังหยวนและคนอื่น ๆ ติดตามอยู่เบื้องหลังไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงที่หมายแล้วกระโจนข้ามกำแพงเข้าไปทันทีทันใดนั้นทุกคนก็ต้องตกตะลึง!ลานบ้านเต็มไปด้วยศพเกลื่อนกลาดจริง ๆ!สถานที่แห่งนี้ห่างไกลผู้คน หากมีเสียงต่อสู้ใด ๆ เกิดขึ้นก็ยากยิ่งนักที่จะมีผู้ได้ยินทว่าวิธีการสังหารนั้นรุนแรงเกินไป ทรงพลังเสียจนหวังหยวนนึกหวาดกลัว!บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น!บางคนกำดาบ บางคนถือหอก เรียกได้ว่ามีอาวุธครบมือ!บริเวณโดยรอบก็มีข้าวของแตกกระจายเมื่อหวังหยวนสังเกตศพเหล่านั้นก็พบว่าบางศพมีจุดแดงที่หน้าผาก แต่บางศพก็เครื่องในแตกกระจายศพเหล่านี้จึงมีความแตกต่างกัน!ผู้ที่อ่อนแอคงถูกสังหารด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!แต่ผู้ที่แข็งแกร่งก็ยังพยายามต่อสู้ได้!ดังนั้นสภาพศพจึงแตกต่างกัน!“ตายกันหมดแล้วจริง ๆ พี่หยวน คราวนี้ท่านก็ปลอดภัยแล้วสินะขอรับ!”ต้าหู่ดีใจขึ้นมาทันที เรื่องเช่นนี้สมควรแก่การเฉลิมฉลอง!แต่ว่า...ในใจของหวังหยวนยังคงมีความกังวลแฝงอยู่เพราะเ
คนคนเดียวฆ่าคนไปมากมายถึงเพียงนี้ และหลายคนก็ถูกสังหารด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!เขาเป็นยอดฝีมือระดับไหนกันแน่!“อาจารย์ชิงอี ข้าขอถามเหตุผลได้หรือไม่ขอรับ?”หวังหยวนรีบถาม เมื่ออาจารย์ชิงอีได้ยินเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “อย่าเรียกอาจารย์ชิงอี อาจารย์ชิงอีตลอดเวลาเลย ข้าชื่อโม่ชิงอี ต่อไปนี้เจ้าเรียกข้าว่าพี่ชิงอีก็ได้ การเติมคำว่าอาจารย์ ทำให้ข้าดูเหมือนเป็นผู้ฝึกตนจริง ๆ”หลังจากที่โม่ชิงอีพูดจบก็พูดต่อ “ส่วนเหตุผลนั้น ประเดี๋ยวข้าจะบอกเจ้าเป็นการส่วนตัว ตอนนี้ข้าต้องบอกเรื่องอื่นให้พวกเจ้าได้รู้ก่อน”“เกี่ยวกับเรื่องของวิทยายุทธ!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวังหยวนและคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงวิทยายุทธหรือ?เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวิทยายุทธอย่างไร!แต่พวกเขาไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงแค่ตั้งใจฟังขณะนี้โม่ชิงอีลุกขึ้นยืน จากนั้นจึงค่อย ๆ อธิบายว่า “เส้นทางวิทยายุทธนั้นยาวนานและเกี่ยวข้องอย่างมากกับพรสวรรค์และความเพียร!”“สิ่งที่เรียกว่าการฝึกฝนก็คือการนำพลังจากฟ้าดินเข้าสู่ร่างกาย ดูดซับแก่นแท้ของสุริยันจันทรา ดูดซับพลังจากเมฆสีม่วงทิศบูรพา”“หมุนเวียนพลังลมปราณทั้งใหญ่และเล็กในจุดสำคัญข
หลังจากที่โม่ชิงอีกล่าวจบก็สะบัดนิ้วทันที พลังลมปราณพุ่งออกไปฉับพลัน!ทันใดนั้นแผ่นหินด้านข้างก็กลายเป็นรูในทันใด!ทั้งสามคนที่เห็นภาพนี้ต่างก็ตะลึงงัน!ใช้พลังด้วยการสะบัดนิ้วเบา ๆ เพียงครั้งเดียว!ก็เจาะทะลุแผ่นหินได้!ถ้าสะบัดนิ้วใส่หัวใครสักคนจะไม่ทำให้หัวแตกกระจายไปเลยหรือ!“นี่คือการปล่อยพลังปราณภายในออกไป พลังปราณไม่เพียงแค่กักเก็บอยู่ในร่างกายเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้นอกร่างกายได้อีกด้วย ส่วนจะไกลแค่ไหน แข็งแกร่งแค่ไหน นั่นก็ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของแต่ละขั้น!”“แบ่งเป็นสามขั้นตอน ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง โดยพิจารณาจากความเข้มข้นของพลังปราณ!”“ตามตำรานั้นปรมาจารย์ขั้นสูงย่อมแข็งแกร่งที่สุด แต่ก็มีอัจฉริยะบางคนที่พรสวรรค์ล้ำเลิศ แม้จะอยู่ในปรมาจารย์ขั้นกลาง แต่ก็สามารถต่อสู้กับปรมาจารย์ขั้นสูงได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก”โม่ชิงอีกล่าวจบก็ยกยิ้มจาง แล้วมองไปที่ทั้งสามคน“ที่ข้าเพิ่งพูดไป เข้าใจกันหรือไม่?”หวังหยวนและคนอื่น ๆ ย่อมเข้าใจเพราะเขาสาธิตให้เห็นแล้วถ้าไม่เข้าใจก็คงจะโง่เขลาเกินไปแล้วกระมัง?“ไม่นึกเลยว่าวิชานี้จะมีขั้นตอนเช่นนี้ ข้า... ข้าไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน
“เหมือนกับเจตจำนงแห่งดาบ เหมือนกับเจตจำนงแห่งการฆ่า!”“ขอบเขตนั้นลึกลับมาก บางคนใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่สามารถก้าวข้ามได้ บางคนก็เข้าใจแจ่มแจ้งได้ในชั่วข้ามคืน”“ขั้นสวรรค์ทดสอบความสามารถในการรับรู้โดยกำเนิดที่แท้จริง”เมื่อโม่ชิงอีกล่าวจบ เขาก็โบกมือไปที่หนึ่ง ทันใดนั้นดาบราชวงศ์ถังในมือของต้าหู่ก็สั่น แล้วพลังปราณก็ดูดเข้ามา ดาบราชวงศ์ถังจึงตกไปอยู่ในมือของโม่ชิงอี!“นี่... นี่คือเจตจำนง!”เมื่อพูดจบเขาก็สะบัดดาบเบา ๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงดังออกมาจากดาบ!พลังดาบอันรุนแรงพวยพุ่งออกมา!“ดาบเล่มนี้... มีเจตจำนงแห่งการฆ่า!”เมื่อโม่ชิงอีพูดจบก็เคลื่อนไหวโดยไร้เสียง จากนั้นฟันดาบออกไปอย่างรุนแรง!ทำให้ดาบเล่มนี้ก็ระเบิดพลังดาบออกไปกว่าสิบเมตร ทำให้พื้นดินกลายเป็นร่องลึกในทันที!เรื่องนี้ทำให้พวกเขาต้องปรับความรู้ความเข้าใจใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง!พลังของดาบเล่มนี้ แม้แต่กระสุนปืนก็ยังต้านทานไม่ได้!หรือเรียกได้ว่าเร็วเกินไป เร็วกว่ากระสุนปืนเสียอีก!ในขณะที่ต้าหู่และเกาเล่อตกใจ หวังหยวนก็มีสีหน้าไม่สู้ดี!เพราะถ้าแม้แต่กระสุนปืนก็ยังเทียบไม่ได้ นั่นก็หมายความว่าปืนคาบศิลาของเขาจะทำให้
โม่ชิงอีจูงมือหวังหยวนออกจากที่แห่งนั้นมายังภูเขาที่รกร้างว่างเปล่าตรงข้าม ซึ่งที่นั่นมีพื้นที่กว้างขวางโม่ชิงอียืนอยู่บนยอดเขาพลางสูดลมหายใจเข้าลึก สีหน้าบ่งบอกถึงความกังวลเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองหวังหยวน“เจ้ารู้ว่าข้าจะมาหาเจ้าเพื่อพูดคุยกันตามลำพัง เจ้าคาดเดาอะไรได้บ้างหรือไม่?”หลังจากที่โม่ชิงอีพูดจบ หวังหยวนก็พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “หลังจากที่ท่านได้อธิบายเรื่องวิชากำลังภายในให้พวกข้าฟัง ท่านก็ต้องการชักนำให้พวกข้าก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการฝึกตน”“ข้าคิดว่าที่ท่านกวาดล้างหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับวิชากำลังภายในของข้าขอรับ!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ โม่ชิงอีก็ตาเป็นประกายแล้วหัวเราะออกมา“หวังหยวน เจ้าฉลาดมาก ฉลาดที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมา!”“ถูกต้อง พวกเขาจะฆ่าเจ้าเพราะวิชากำลังภายใน!”หวังหยวนสูดลมหายใจเข้าลึก เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ด้วย!ดูเหมือนว่าวิชากำลังภายในนี้จะมีบางอย่างผิดปกติ!ในเวลานี้โม่ชิงอีหันมามองหวังหยวนด้วยสีหน้าจริงจัง“หวังหยวน ที่จริงแล้วข้าอยากบอกเจ้าว่าข้าโกหกเจ้า ข้าหลอกลวงเจ้า ตำราฝึกยุทธ์ที่ข้าให้เจ้าไป ข้ามีเจตนาแอบแฝง และ... จะผ
“แม้แต่ข้าก็ยังมองไม่เห็น ดังนั้น... ข้าจึงคิดว่า... บางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตา!”โม่ชิงอีพูดมาถึงตรงนี้ก็สูดลมหายใจเข้าลึกพูดตามจริงแล้ว ในตอนนั้นเขาก็แค่เดิมพันไปเรื่อยเปื่อย ไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จ!หวังหยวนสามารถฝึกได้จริง ๆเรื่องนี้เขาไม่คาดคิดเลย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องนี้มีความหมายต่อเชียนหลงมาก!“เป็นอย่างนั้นเอง...”หวังหยวนพยักหน้า เขาเข้าใจแล้วที่แท้ก็เป็นเพราะเหตุผลนี้“ดังนั้น...ที่เทียนไว่เทียนไล่ล่าข้า ก็เพราะข้าฝึกวิชากำลังภายในนี้ จึงต้องการจะกำจัดข้าตั้งแต่ยังไม่ทันได้เติบโตใช่หรือไม่?”“เทียนไว่เทียนคงไม่โง่เขลาถึงเพียงนั้นกระมัง หากข้าเก่งกาจมากขึ้นจริง ๆ ข้าก็จะไม่หันกลับไปโจมตีเทียนไว่เทียน!”“ยิ่งไปกว่านั้น คือท่านกับเชียนหลงมีความสัมพันธ์กัน อย่างน้อยข้ากับนางก็เป็นสหายกัน”“ที่เรียกว่ามีเพื่อนเพิ่มขึ้นก็เหมือนมีหนทางเพิ่มขึ้น นี่... เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ? ฆ่าข้า... แล้วจะได้อะไร?”หวังหยวนไม่เข้าใจ เพียงเพราะเขาฝึกวิชาของพวกเขางั้นหรือ?หากเป็นเขา หวังหยวนจะไม่มีทางโกรธอย่างแน่นอน แต่จะดึงคนผู้นั้นมาเป็นพวกด้วยซ้ำ!เพราะเขารู้แล้วว่า
เมื่อหวังหยวนได้ยินเช่นนี้ก็ถึงกับตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ!วิธีร่วมสังวาส!นี่มัน...สุดท้ายแล้วก็เป็นเรื่องนี้เอง!ใครจะไปคิดว่าเป็นวิธีร่วมสังวาส!ทว่าหวังหยวนก็ยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม “พี่ชิงอี โปรดอย่าล้อข้าเล่นเลยขอรับ วิธีร่วมสังวาสหรือ? เชียนหลงเป็นถึงบุตรสาวของตระกูลเสวี่ย แห่งเทียนไว่เทียน นางมีฐานะสูงส่ง ข้าเองรู้ตัวดีว่าตนเองมีสถานะอย่างไรขอรับ”“อีกอย่างคือต่อให้ข้าเต็มใจ แต่นางจะเต็มใจหรือไม่ก็ยังไม่รู้”หลังจากที่พูดจบแล้ว โม่ชิงอีก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “เจ้ารู้จักเชียนหลงดีกว่าข้าหรืออย่างไร?”“เช่นนั้นข้าจะบอกข่าวอีกอย่างให้เจ้ารู้ดีกว่า ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นคนฆ่าคนเหล่านี้ แต่กลับเป็นนางที่แบกรับบาปไว้เอง โดยบอกคนอื่นว่านางเป็นคนฆ่า!”“และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น คือนางเป็นคนบอกให้ข้าฆ่า!”เมื่อได้ฟังคำพูดของโม่ชิงอี หวังหยวนก็ตกใจ!“อะไรนะ? ท่านว่าอย่างไรนะ? นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”เขาแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง เชียนหลงเป็นคนฉลาดมาโดยตลอด นางจะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?เขาไม่เข้าใจ!“ความรู้สึกที่เชียนหลงมีต่อเจ้านั้นไม่มากก็น้อย เขาว่ากันว่านายทัพโกรธเกศาชั