แชร์

บทที่ 1383

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อหวังหยวนได้ยินเช่นนี้ก็ถึงกับตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ!

วิธีร่วมสังวาส!

นี่มัน...

สุดท้ายแล้วก็เป็นเรื่องนี้เอง!

ใครจะไปคิดว่าเป็นวิธีร่วมสังวาส!

ทว่าหวังหยวนก็ยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม “พี่ชิงอี โปรดอย่าล้อข้าเล่นเลยขอรับ วิธีร่วมสังวาสหรือ? เชียนหลงเป็นถึงบุตรสาวของตระกูลเสวี่ย แห่งเทียนไว่เทียน นางมีฐานะสูงส่ง ข้าเองรู้ตัวดีว่าตนเองมีสถานะอย่างไรขอรับ”

“อีกอย่างคือต่อให้ข้าเต็มใจ แต่นางจะเต็มใจหรือไม่ก็ยังไม่รู้”

หลังจากที่พูดจบแล้ว โม่ชิงอีก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “เจ้ารู้จักเชียนหลงดีกว่าข้าหรืออย่างไร?”

“เช่นนั้นข้าจะบอกข่าวอีกอย่างให้เจ้ารู้ดีกว่า ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นคนฆ่าคนเหล่านี้ แต่กลับเป็นนางที่แบกรับบาปไว้เอง โดยบอกคนอื่นว่านางเป็นคนฆ่า!”

“และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น คือนางเป็นคนบอกให้ข้าฆ่า!”

เมื่อได้ฟังคำพูดของโม่ชิงอี หวังหยวนก็ตกใจ!

“อะไรนะ? ท่านว่าอย่างไรนะ? นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”

เขาแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง เชียนหลงเป็นคนฉลาดมาโดยตลอด นางจะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?

เขาไม่เข้าใจ!

“ความรู้สึกที่เชียนหลงมีต่อเจ้านั้นไม่มากก็น้อย เขาว่ากันว่านายทัพโกรธเกศาชั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1384

    นี่หมายความว่าอะไร?หรือว่าพวกเขาจะก่อให้เกิดความวุ่นวายภายใน?“ดูเหมือนว่าเจ้าจะเดาอะไรออกแล้ว ใช่แล้ว เทียนไว่เทียนและซานไว่ซานอาจจะต้องก่อสงครามนองเลือดอีกครั้งเหมือนเมื่อพันปีก่อน!”เมื่อโม่ชิงอีพูดถึงตรงนี้ แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า!พูดตามจริงแล้ว เรื่องเช่นนี้ช่างโหดเหี้ยมและเจ็บปวดนักตราบใดที่เป็นสงครามก็จะไม่มีผู้แพ้หรือผู้ชนะ เพราะไม่มีใครที่จะชนะได้อย่างแท้จริง!เมื่อถึงเวลานั้น ทุกฝ่ายก็จะพ่ายแพ้ทั้งสิ้น มิฉะนั้นก็คงจะไม่มีสงครามที่เทียนซานเมื่อพันปีก่อน!“โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งนี้ เรื่องที่ข้าให้ตำราฝึกยุทธ์กับเจ้า เรื่องนี้... ข้าแอบจัดการเองโดยไม่มีใครรู้ แต่เหตุใดถึงมีคนรู้ เรื่องนี้ข้าก็คิดไม่ตก!”โม่ชิงอีถอนหายใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกับหินก้อนหนึ่งที่กดทับหน้าอกของเขาไว้ ทำให้เขาหายใจไม่ออกพูดตามจริงแล้ว การให้ตำราฝึกยุทธ์กับหวังหยวนเป็นจุดสำคัญที่สุดที่ทำให้หวังหยวนตกอยู่ในวิกฤต!เดิมทีเขาตั้งใจให้หวังหยวนแอบฝึกฝน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะพาหวังหยวนเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์ และแอบร่วมรักกับเชียนหลง เพื่อช่วยนางรักษาอาการหนาวเย็นในร่างกาย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1385

    เมื่อโม่ชิงอีพูดจบแล้ว ก็หันไปมองหวังหยวนแล้วพูดต่อ“ตระกูลเสวี่ย ถึงแม้จะเป็นตระกูลผู้นำของเทียนไว่เทียน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บุคลากรก็ลดน้อยลง การต่อสู้ภายในก็รุนแรงมาก ลูกชายของตระกูลเสวี่ยไม่ว่าจะเป็นคนใดหรือทายาทคนใดก็ล้วนแต่โลภมาก”“เชียนหลง... เป็นเด็กดีและเป็นลูกศิษย์ของข้า ในใจข้าก็หวังให้นางมีความสุข”“อาจจะถึงขั้นที่ข้าอยากให้นางออกจากเทียนไว่เทียน แต่นาง... สถานะของนางนั้นมีความสำคัญมาก สำหรับนางแล้ว มีสองด่านที่ส่งผลกับความเป็นความตาย”“ด่านหนึ่งคือโรคหนาวเย็นในร่างกาย!”“อีกด่านหนึ่งคือความเป็นความตายในการประลองเทียนซาน!”“หากผ่านสองด่านนี้ไปได้ ข้าจะให้นางออกห่างจากเทียนไว่เทียน และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”“น่าเสียดายที่สองด่านนี้ยากเกินไป”หลังจากพูดจบประโยคนี้ หวังหยวนก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า“ว่าแต่คนของตระกูลปิงนั่นเป็นอัจฉริยะจริงหรือขอรับ?”หวังหยวนรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากเมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่ชิงอีก็ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า“เป็นอัจฉริยะ หญิงสาวนามว่าปิงหว่านโหรวผู้นี้เป็นอัจฉริยะโดยกำเนิด เพราะมีรากฐานที่ยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เกิด”“แต่เชียนหลง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1386

    นี่มัน...จะสุดยอดเกินไปแล้ว!“เจ้าต้องไปถึงขั้นปรมาจารย์เท่านั้นจึงจะช่วยเชียนหลงได้ สามเดือนนี้ ข้าจะฝึกฝนเจ้าอย่างหนักหน่วง ต้องเชื่อใจข้า เชื่อใจตัวเจ้าเอง และหากต้องการเคล็ดวิชามหาสุริยันนี้ ตราบใดที่เจ้าสามารถอดทนได้ ภายในสามเดือน เจ้าก็จะเหมือนหลุดพ้นจากความเป็นมนุษย์!”โม่ชิงอีมีความมั่นใจมาก!เขาเชื่อว่าหวังหยวนก็มีความมั่นใจเช่นกัน!“สามเดือน? เหตุใดต้องสามเดือนขอรับ?”หวังหยวนรู้สึกแปลกใจขึ้นมาหลังจากสามเดือนนี้ แน่นอนว่าต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น!“เรื่องนี้ข้าบอกเจ้าไม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะบอกเจ้าเอง”“ความจริงแล้วเรื่องที่บอกเจ้าไปในวันนี้ส่วนใหญ่ เชียนหลงเป็นคนให้ข้ามาบอกเจ้า”“นางอยากจะบอกกับเจ้าด้วยตัวเอง แต่ไม่มีโอกาสแล้ว”“นางต้องกลับไปยังเทียนไว่เทียนเพื่อถ่วงเวลาให้เจ้า!”“นางให้ข้าบอกเจ้าว่าให้เจ้าเลือกเอง หากเจ้าเลือกที่จะช่วยนาง สามเดือนนี้คือสามเดือนที่ข้าจะช่วยเจ้าพัฒนาความแข็งแกร่ง”“แต่หากเจ้าไม่เลือกที่จะช่วยนาง นางก็จะไม่เกลียดท่าน แล้วข้าก็จะรีบกลับไปอยู่ข้างนางทันที จากนั้นนางก็จะช่วยเจ้าจัดการเรื่องต่าง ๆ ต่อไป”“หรือแม้แต่... นางอาจจะ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1387

    ในห้วงเวลานี้ เชียนหลงเปรียบดั่งภูผาน้ำแข็งที่งดงาม ท่าทางเย็นชาราวกับอยู่ห่างไกลผู้คนนับพันลี้“พวกเขา... สมควรตายเจ้าค่ะ!”เชียนหลงเอ่ยปาก คำพูดนี้ทำให้ผู้คนเบื้องล่างตกใจอย่างมาก“อวดดี! เชียนหลง อย่าคิดว่าเจ้าเป็นนักพรตแห่งเทียนไว่เทียนแล้วจะสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบ!”“ถูกต้อง! หมายความว่าอย่างไรที่พวกเขาสมควรตาย! พวกเขาก็เป็นกองกำลังภายนอกของเทียนไว่เทียนเช่นกัน!”“เจ้าฆ่าพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลใด ๆ หากข่าวนี้แพร่ออกไป เทียนไว่เทียนของเราจะยืนหยัดในโลกได้อย่างไร?”“ถูกต้อง! ในฐานะนักพรต เจ้าควรมีเมตตาต่อกองกำลังทั้งหมดของเทียนไว่เทียน แต่เจ้ากลับใจคอโหดเหี้ยม สังหารพวกเขาจนสิ้นซาก เจ้ามีจุดประสงค์อันใด!”ผู้คนจำนวนมากเบื้องล่างต่างก็โกรธแค้นและตำหนิอย่างรุนแรง!เชียนหลงได้ยินดังนั้นจึงกล่าวอย่างเฉยชา “พวกเขาดูหมิ่นข้า ในฐานะนักพรต ข้ามีสิทธิ์ตัดสินชีวิตของพวกเขา!”“ดูหมิ่นหรือ? หมายความว่าอย่างไร?”ผู้คนจำนวนมากต่างก็ซักถามขึ้นมาทันทีเมื่อเสวี่ยโส่วจุนได้ยินคำพูดนี้ก็ถึงกับตะลึง “เชียนหลง เกิดอะไรขึ้น เจ้าเล่ามาโดยละเอียด”เชียนหลงจึงเล่าเรื่องราวออกมาแน่นอนว่าเป็นเรื่อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1388

    เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความเร็วนี้เร็วเกินไป และมีพลังทำลายล้างสูงมาก!ดังนั้นจึงไม่ต้องรีรอ เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหลบกระสุนได้ทันท่วงที!สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก!หากถูกปืนกระบอกนี้ยิงเข้า แม้ว่าเขาจะไม่ตาย แต่ก็ต้องได้รับบาดเจ็บหนัก!“หัวหน้าตระกูลหงมีพลังระดับปรมาจารย์ขั้นกลางยังต้องหลบหลีก หากข้าลอบโจมตีพวกเขา ใครจะสามารถต้านทานได้?”“ยิ่งกว่านั้น ระหว่างข้ากับท่านมีระยะห่างห้าเมตร ท่านยังมีเวลาตอบสนอง!”“แต่หากข้าอยู่ห่างจากท่านในระยะเพียงครึ่งเมตรล่ะ?”“ท่านจะยังสามารถต้านทานได้ง่ายดายเช่นนี้หรือ?”“แน่นอน หากท่านรู้ตัวก็ยังสามารถพลังยุทธ์ให้เป็นเจตจำนงเพื่อต้านทานได้ แต่หากท่านไม่รู้ล่ะ?”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตกใจอย่างมาก!ถูกต้องแล้ว!หากไม่รู้ตัวจะเกิดอะไรขึ้น?นั่นหมายความว่าต้องตายอย่างแน่นอน!“ของวิเศษช่างทรงพลังนัก เชียนหลง เจ้าได้สิ่งนี้มาจากที่ใด?”เสวี่ยโส่วจุนถามทันที เชียนหลงตอบว่า “ได้มาจากโลกมนุษย์เจ้าค่ะ”“สิ่งนี้มีอำนาจทำลายล้างสูง ข้าหามาได้หนึ่งอันเจ้าค่ะ”หลังจากเชียนหลงพูดจบ พวกเขาก็รู้สึกประหลาดใจแต่สำหรับสิ่งนี้ แม้ว่าจะตก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1389

    เสวี่ยโส่วจุนย่อมโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุดแน่นอนว่าความโกรธนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาจงใจแสดงออกมาให้เห็นเท่านั้น เพราะแท้จริงแล้วเรื่องนี้เขารู้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว!เพียงแต่มีน้อยคนนักที่จะล่วงรู้!บัดนี้ลูกสาวของเขาได้กระทำการต่าง ๆ มากมายเพื่อชายผู้นั้น เขาทราบดีว่ามีส่วนของความรักอยู่ด้วย และยิ่งกว่านั้นก็คือ...ความจำใจ!เพราะลูกสาวของเขาย่อมไม่ปรารถนาที่จะตายไปอย่างง่ายดาย หากมีโอกาสย่อมต้องดิ้นรนต่อสู้เป็นธรรมดา!ในเวลานี้ สิ่งที่เขากระทำได้ก็คือร่วมมือกับลูกสาวลูกสาวของเขาเป็นคนฉลาดเฉลียวหลักแหลม เมื่อได้กระทำการเช่นนี้ เขาเชื่อว่าย่อมมีหนทางใดหนทางหนึ่งเป็นแน่!ถึงแม้คำแก้ตัวนี้จะดูไม่สมบูรณ์นัก จนไม่อาจทำให้คนทั้งหลายปิดปากเงียบได้ เพราะทุกคนล้วนฟังออกว่าคำพูดเหล่านี้เป็นเท็จ! แต่หากพูดให้ดูมีเหตุผล แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเป็นคำเท็จ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน แล้วพวกเขาจะทำเช่นไรได้?ดังนั้นในเวลานี้เสวี่ยโส่วจุนจึงจงใจแสดงอำนาจของตนอย่างเต็มที่!เป็นไปตามคาด เมื่อคำพูดของเขาจบลง สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป ชายผู้เพิ่งกล่าววาจาเมื่อครู่ก็ไม่ได้เอ่ยปากอีกเพราะอย่างไรเสีย เสวี่ยโส่ว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1390

    เมื่อเชียนหลงนึกถึงหวังหยวนแล้วก็ยิ้มขึ้นมาทันที เสวี่ยโส่วจุนเห็นแล้วก็หรี่ตามองในฐานะพ่อย่อมมองออกว่าในเวลานี้ลูกสาวอยู่ในสภาพเช่นไร!นี่คือสภาพของคนที่ตกหลุมรัก“ลูกเอ๋ย เจ้าชอบเขาหรือ?”จู่.ๆ เสวี่ยโส่วจุนก็พูดขึ้นทันที เชียนหลงได้ยินก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งนางหลบสายตาพ่อ ภายในใจกำลังสับสนเมื่อเสวี่ยโส่วจุนเห็นเช่นนี้จึงยกยิ้ม จากนั้นก็พูดว่า “เชียนหลง เจ้าเป็นลูกสาวของพ่อ เจ้าหลอกพ่อไม่ได้หรอก ใจเจ้าอาจรักเขามานานแล้ว เพียงแต่เจ้าไม่ต้องการยอมรับ”“ไม่สำคัญ อีกไม่นานก็จะรู้ว่าชายผู้นี้เป็นคนดีหรือไม่”“ดูการเลือกของเขาเถิด เส้นทางแห่งการเป็นผู้แข็งแกร่งและการเข้ามาพัวพันกับความขัดแย้งครั้งนี้ต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมาก”“หากเขาทำเช่นนั้นเพื่อเจ้า ก็แสดงว่าเขา... มีความรู้สึกต่อเจ้าเช่นกัน”หลังจากที่เสวี่ยโส่วจุนพูดจบ เชียนหลงก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และไม่ได้เอ่ยคำใดในใจของนางก็ไม่รู้ว่าหวังหยวนจะตัดสินใจอย่างไร!ขณะเดียวกันที่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์หวังหยวนได้ตอบตกลงแล้ว ส่วนการฝึกฝนสามเดือนนี้จะโหดร้ายเพียงใด เขาไม่รู้เลยแต่สิ่งที่เขารู้ก็คือ หากเขามีความสามารถที่จะช

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1391

    เมื่อร่ำลาหมู่บ้านต้าหวังแล้ว หวังหยวนก็เดินทางออกจากที่นั่นแล้วไปพบกับโม่ชิงอี!“ดูเหมือนว่าเจ้าจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”โม่ชิงอีเอ่ยปาก หวังหยวนยกยิ้ม“ไม่มีอะไรต้องจัดการหรอกขอรับ พวกเขารู้ดีว่าต้องทำอะไร”“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่อยู่แล้ว พวกเขาก็ยังสามารถอยู่กันได้อย่างดี!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ โม่ชิงอีก็หัวเราะ“เยี่ยมยอด ไม่ว่าจะเป็นต้าเย่ อาณาจักรต้าเป่ยหรือว่าหมานอี๋ และเมืองหวง ก็ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเจ้า”“หากเจ้าต้องการรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวก็เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนัก!”หลังจากที่โม่ชิงอีพูดจบ หวังหยวนก็เพียงแค่ยิ้มในสายตาของคนทั่วไป ฮ่องเต้นั้นคือโอรสสวรรค์ เป็นตัวแทนแห่งความสูงส่ง!แต่ในยุทธภพแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่มีความหมาย“ไปกันเถิด เราจะไปยังสถานที่ที่เจ้าจะต้องฝึกต่อไป”“หวังหยวน การฝึกนั้นโหดร้ายนัก เจ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อม”โม่ชิงอีมองไปที่หวังหยวนแล้วหัวเราะหวังหยวนกะพริบตาแล้วพยักหน้า“ได้ขอรับ! ไม่มีปัญหา!”คุยกันจบแล้วทั้งสองก็ขี่ม้าคนละตัว ออกจากเมืองหลิงและข้ามเขตชายแดนไปอย่างรวดเร็ว!เพื่อมุ่งหน้าไปยังดินแดนของชนเผ่าเร่ร่อน!

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status