นี่มัน...จะสุดยอดเกินไปแล้ว!“เจ้าต้องไปถึงขั้นปรมาจารย์เท่านั้นจึงจะช่วยเชียนหลงได้ สามเดือนนี้ ข้าจะฝึกฝนเจ้าอย่างหนักหน่วง ต้องเชื่อใจข้า เชื่อใจตัวเจ้าเอง และหากต้องการเคล็ดวิชามหาสุริยันนี้ ตราบใดที่เจ้าสามารถอดทนได้ ภายในสามเดือน เจ้าก็จะเหมือนหลุดพ้นจากความเป็นมนุษย์!”โม่ชิงอีมีความมั่นใจมาก!เขาเชื่อว่าหวังหยวนก็มีความมั่นใจเช่นกัน!“สามเดือน? เหตุใดต้องสามเดือนขอรับ?”หวังหยวนรู้สึกแปลกใจขึ้นมาหลังจากสามเดือนนี้ แน่นอนว่าต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น!“เรื่องนี้ข้าบอกเจ้าไม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะบอกเจ้าเอง”“ความจริงแล้วเรื่องที่บอกเจ้าไปในวันนี้ส่วนใหญ่ เชียนหลงเป็นคนให้ข้ามาบอกเจ้า”“นางอยากจะบอกกับเจ้าด้วยตัวเอง แต่ไม่มีโอกาสแล้ว”“นางต้องกลับไปยังเทียนไว่เทียนเพื่อถ่วงเวลาให้เจ้า!”“นางให้ข้าบอกเจ้าว่าให้เจ้าเลือกเอง หากเจ้าเลือกที่จะช่วยนาง สามเดือนนี้คือสามเดือนที่ข้าจะช่วยเจ้าพัฒนาความแข็งแกร่ง”“แต่หากเจ้าไม่เลือกที่จะช่วยนาง นางก็จะไม่เกลียดท่าน แล้วข้าก็จะรีบกลับไปอยู่ข้างนางทันที จากนั้นนางก็จะช่วยเจ้าจัดการเรื่องต่าง ๆ ต่อไป”“หรือแม้แต่... นางอาจจะ
ในห้วงเวลานี้ เชียนหลงเปรียบดั่งภูผาน้ำแข็งที่งดงาม ท่าทางเย็นชาราวกับอยู่ห่างไกลผู้คนนับพันลี้“พวกเขา... สมควรตายเจ้าค่ะ!”เชียนหลงเอ่ยปาก คำพูดนี้ทำให้ผู้คนเบื้องล่างตกใจอย่างมาก“อวดดี! เชียนหลง อย่าคิดว่าเจ้าเป็นนักพรตแห่งเทียนไว่เทียนแล้วจะสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบ!”“ถูกต้อง! หมายความว่าอย่างไรที่พวกเขาสมควรตาย! พวกเขาก็เป็นกองกำลังภายนอกของเทียนไว่เทียนเช่นกัน!”“เจ้าฆ่าพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลใด ๆ หากข่าวนี้แพร่ออกไป เทียนไว่เทียนของเราจะยืนหยัดในโลกได้อย่างไร?”“ถูกต้อง! ในฐานะนักพรต เจ้าควรมีเมตตาต่อกองกำลังทั้งหมดของเทียนไว่เทียน แต่เจ้ากลับใจคอโหดเหี้ยม สังหารพวกเขาจนสิ้นซาก เจ้ามีจุดประสงค์อันใด!”ผู้คนจำนวนมากเบื้องล่างต่างก็โกรธแค้นและตำหนิอย่างรุนแรง!เชียนหลงได้ยินดังนั้นจึงกล่าวอย่างเฉยชา “พวกเขาดูหมิ่นข้า ในฐานะนักพรต ข้ามีสิทธิ์ตัดสินชีวิตของพวกเขา!”“ดูหมิ่นหรือ? หมายความว่าอย่างไร?”ผู้คนจำนวนมากต่างก็ซักถามขึ้นมาทันทีเมื่อเสวี่ยโส่วจุนได้ยินคำพูดนี้ก็ถึงกับตะลึง “เชียนหลง เกิดอะไรขึ้น เจ้าเล่ามาโดยละเอียด”เชียนหลงจึงเล่าเรื่องราวออกมาแน่นอนว่าเป็นเรื่อง
เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความเร็วนี้เร็วเกินไป และมีพลังทำลายล้างสูงมาก!ดังนั้นจึงไม่ต้องรีรอ เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหลบกระสุนได้ทันท่วงที!สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก!หากถูกปืนกระบอกนี้ยิงเข้า แม้ว่าเขาจะไม่ตาย แต่ก็ต้องได้รับบาดเจ็บหนัก!“หัวหน้าตระกูลหงมีพลังระดับปรมาจารย์ขั้นกลางยังต้องหลบหลีก หากข้าลอบโจมตีพวกเขา ใครจะสามารถต้านทานได้?”“ยิ่งกว่านั้น ระหว่างข้ากับท่านมีระยะห่างห้าเมตร ท่านยังมีเวลาตอบสนอง!”“แต่หากข้าอยู่ห่างจากท่านในระยะเพียงครึ่งเมตรล่ะ?”“ท่านจะยังสามารถต้านทานได้ง่ายดายเช่นนี้หรือ?”“แน่นอน หากท่านรู้ตัวก็ยังสามารถพลังยุทธ์ให้เป็นเจตจำนงเพื่อต้านทานได้ แต่หากท่านไม่รู้ล่ะ?”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตกใจอย่างมาก!ถูกต้องแล้ว!หากไม่รู้ตัวจะเกิดอะไรขึ้น?นั่นหมายความว่าต้องตายอย่างแน่นอน!“ของวิเศษช่างทรงพลังนัก เชียนหลง เจ้าได้สิ่งนี้มาจากที่ใด?”เสวี่ยโส่วจุนถามทันที เชียนหลงตอบว่า “ได้มาจากโลกมนุษย์เจ้าค่ะ”“สิ่งนี้มีอำนาจทำลายล้างสูง ข้าหามาได้หนึ่งอันเจ้าค่ะ”หลังจากเชียนหลงพูดจบ พวกเขาก็รู้สึกประหลาดใจแต่สำหรับสิ่งนี้ แม้ว่าจะตก
เสวี่ยโส่วจุนย่อมโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุดแน่นอนว่าความโกรธนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาจงใจแสดงออกมาให้เห็นเท่านั้น เพราะแท้จริงแล้วเรื่องนี้เขารู้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว!เพียงแต่มีน้อยคนนักที่จะล่วงรู้!บัดนี้ลูกสาวของเขาได้กระทำการต่าง ๆ มากมายเพื่อชายผู้นั้น เขาทราบดีว่ามีส่วนของความรักอยู่ด้วย และยิ่งกว่านั้นก็คือ...ความจำใจ!เพราะลูกสาวของเขาย่อมไม่ปรารถนาที่จะตายไปอย่างง่ายดาย หากมีโอกาสย่อมต้องดิ้นรนต่อสู้เป็นธรรมดา!ในเวลานี้ สิ่งที่เขากระทำได้ก็คือร่วมมือกับลูกสาวลูกสาวของเขาเป็นคนฉลาดเฉลียวหลักแหลม เมื่อได้กระทำการเช่นนี้ เขาเชื่อว่าย่อมมีหนทางใดหนทางหนึ่งเป็นแน่!ถึงแม้คำแก้ตัวนี้จะดูไม่สมบูรณ์นัก จนไม่อาจทำให้คนทั้งหลายปิดปากเงียบได้ เพราะทุกคนล้วนฟังออกว่าคำพูดเหล่านี้เป็นเท็จ! แต่หากพูดให้ดูมีเหตุผล แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเป็นคำเท็จ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน แล้วพวกเขาจะทำเช่นไรได้?ดังนั้นในเวลานี้เสวี่ยโส่วจุนจึงจงใจแสดงอำนาจของตนอย่างเต็มที่!เป็นไปตามคาด เมื่อคำพูดของเขาจบลง สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป ชายผู้เพิ่งกล่าววาจาเมื่อครู่ก็ไม่ได้เอ่ยปากอีกเพราะอย่างไรเสีย เสวี่ยโส่ว
เมื่อเชียนหลงนึกถึงหวังหยวนแล้วก็ยิ้มขึ้นมาทันที เสวี่ยโส่วจุนเห็นแล้วก็หรี่ตามองในฐานะพ่อย่อมมองออกว่าในเวลานี้ลูกสาวอยู่ในสภาพเช่นไร!นี่คือสภาพของคนที่ตกหลุมรัก“ลูกเอ๋ย เจ้าชอบเขาหรือ?”จู่.ๆ เสวี่ยโส่วจุนก็พูดขึ้นทันที เชียนหลงได้ยินก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งนางหลบสายตาพ่อ ภายในใจกำลังสับสนเมื่อเสวี่ยโส่วจุนเห็นเช่นนี้จึงยกยิ้ม จากนั้นก็พูดว่า “เชียนหลง เจ้าเป็นลูกสาวของพ่อ เจ้าหลอกพ่อไม่ได้หรอก ใจเจ้าอาจรักเขามานานแล้ว เพียงแต่เจ้าไม่ต้องการยอมรับ”“ไม่สำคัญ อีกไม่นานก็จะรู้ว่าชายผู้นี้เป็นคนดีหรือไม่”“ดูการเลือกของเขาเถิด เส้นทางแห่งการเป็นผู้แข็งแกร่งและการเข้ามาพัวพันกับความขัดแย้งครั้งนี้ต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมาก”“หากเขาทำเช่นนั้นเพื่อเจ้า ก็แสดงว่าเขา... มีความรู้สึกต่อเจ้าเช่นกัน”หลังจากที่เสวี่ยโส่วจุนพูดจบ เชียนหลงก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และไม่ได้เอ่ยคำใดในใจของนางก็ไม่รู้ว่าหวังหยวนจะตัดสินใจอย่างไร!ขณะเดียวกันที่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์หวังหยวนได้ตอบตกลงแล้ว ส่วนการฝึกฝนสามเดือนนี้จะโหดร้ายเพียงใด เขาไม่รู้เลยแต่สิ่งที่เขารู้ก็คือ หากเขามีความสามารถที่จะช
เมื่อร่ำลาหมู่บ้านต้าหวังแล้ว หวังหยวนก็เดินทางออกจากที่นั่นแล้วไปพบกับโม่ชิงอี!“ดูเหมือนว่าเจ้าจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”โม่ชิงอีเอ่ยปาก หวังหยวนยกยิ้ม“ไม่มีอะไรต้องจัดการหรอกขอรับ พวกเขารู้ดีว่าต้องทำอะไร”“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่อยู่แล้ว พวกเขาก็ยังสามารถอยู่กันได้อย่างดี!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ โม่ชิงอีก็หัวเราะ“เยี่ยมยอด ไม่ว่าจะเป็นต้าเย่ อาณาจักรต้าเป่ยหรือว่าหมานอี๋ และเมืองหวง ก็ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเจ้า”“หากเจ้าต้องการรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวก็เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนัก!”หลังจากที่โม่ชิงอีพูดจบ หวังหยวนก็เพียงแค่ยิ้มในสายตาของคนทั่วไป ฮ่องเต้นั้นคือโอรสสวรรค์ เป็นตัวแทนแห่งความสูงส่ง!แต่ในยุทธภพแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่มีความหมาย“ไปกันเถิด เราจะไปยังสถานที่ที่เจ้าจะต้องฝึกต่อไป”“หวังหยวน การฝึกนั้นโหดร้ายนัก เจ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อม”โม่ชิงอีมองไปที่หวังหยวนแล้วหัวเราะหวังหยวนกะพริบตาแล้วพยักหน้า“ได้ขอรับ! ไม่มีปัญหา!”คุยกันจบแล้วทั้งสองก็ขี่ม้าคนละตัว ออกจากเมืองหลิงและข้ามเขตชายแดนไปอย่างรวดเร็ว!เพื่อมุ่งหน้าไปยังดินแดนของชนเผ่าเร่ร่อน!
โม่ชิงอีเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หัวหน้าเผ่าลี่ก็หัวเราะอย่างร่าเริง“เหล่าโม่ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว เหตุใดถึงไม่แวะเวียนมาเยี่ยมข้าบ้างเลยเล่า?”“หรือว่าข้าต้อนรับเจ้าไม่ดี?”หัวหน้าเผ่าลี่มีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งกำยำและมีผมสีดอกเลาดูเหมือนจะอายุห้าสิบกว่า แต่สภาพร่างกายนี้ แม้แต่คนอายุสามสิบก็ยังเทียบไม่ได้!“ฮ่าฮ่าฮ่า อย่าพูดเช่นนั้นเลย พี่ใหญ่ ข้ามาเยี่ยมเจ้าทุกครั้ง ข้าต้องนอนหลับไปหลายวันหลายคืน ไม่เคยอดใจได้เลย สุราของเจ้ามีฤทธิ์แรงเกินไป!”เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมาก หวังหยวนเองก็ประทับใจหัวหน้าเผ่าลี่เช่นกันร่างกายเช่นนี้น่าจะต่อยกระทิงตายได้ด้วยหมัดเดียวกระมัง!“ท่านผู้นี้คือ...”หัวหน้าเผ่าลี่มองไปที่หวังหยวนแล้วชะงักไปเล็กน้อย เพราะรู้สึกประหลาดใจ“ท่านผู้นี้คือ... สหายของข้าเอง ข้าพาเขามาที่นี่เพราะมีเรื่องสำคัญต้องทำ!”หลังจากที่โม่ชิงอีพูดประโยคนี้จบ หัวหน้าเผ่าลี่ก็ชะงักไปเล็กน้อย แล้วก็เกิดความอยากรู้อยากเห็น“เรื่องสำคัญหรือ? เรื่องอะไร!?”โม่ชิงอียกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ก็คือการฝึกฝนเขา ให้เขาฝึกเหมือนกับเผ่าลี่ของพวกเจ้า ข้าอยากให้เขาฝึกด้วยเป
“พี่หวังหยวน ว่าอย่างไร อยากจะลองหรือไม่?”ขณะนี้กู่หลางเอ่ยขึ้นทันใด คำพูดนี้ทำให้หวังหยวนกะพริบตาพวกคนนี้ล้วนแข็งแกร่งกันทั้งสิ้น หวังหยวนพูดตามตรงว่าเขายังขาดความมั่นใจอยู่มาก!กระนั้นเมื่อได้มาถึงเช่นนี้แล้ว หวังหยวนก็ย่อมไม่ลังเล!“ลองดู”กู่หลางได้ฟังดังนั้นก็กระโดดลงไปในน้ำทันที ก่อนมองหวังหยวนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “มาเถิด พี่หวังหยวน”หวังหยวนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกระโดดลงไปในน้ำ!น้ำนั้นไม่ลึกไม่ตื้น ลึกระดับไหล่พอดี!ทุกคนย่อมรู้กันดีว่าการออกแรงในน้ำนั้นลำบาก เพียงแค่เดินในน้ำก็ยากเย็นแสนเข็ญแล้ว นับประสาอะไรกับการต่อสู้!ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องเผชิญหน้ากับกู่หลางอีก!แม้หวังหยวนจะคิดเช่นนั้น แต่ก็ยังรีบตรงเข้าไปต่อสู้ทันทีแม้ความเร็วของเขาจะช้ามาก แต่ก็ยังมีพลังเหลือเฟือ ชาวเผ่าลี่จำนวนมากที่เห็นภาพนี้ต่างก็มองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ระวัง”กู่หลางหัวเราะ เขาเห็นว่าดวงตาของหวังหยวนเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะต่อสู้ จึงมองว่าหวังหยวนเป็นคนที่พอมีฝีมืออยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก!เขาจึงไม่ได้คิดจะต่อสู้จริงจัง!แต่กลับใช้ฝ่ามือตบลงไปที่ผิวน้ำอย่างแรงทันท