คนทั้งสามคนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา ยังคงไม่สนใจคำพูดของหวังหยวนแต่เมื่อหวังหยวนได้ยินคำพูดของพวกเขาก็หัวเราะออกมาทันที“ฮ่าฮ่า ช่างน่าสนใจ พวกเจ้ายังกล้าข่มขู่ข้าอีก”เมื่อหวังหยวนพูดจบก็มานั่งเก้าอี้จ้องมองคนทั้งสามด้วยสายตาเย็นชา“ต้าหู่ คนทั้งสามนี้เป็นคนแข็งกระด้างนัก จงต้อนรับพวกเขาให้ดี”หลังจากหวังหยวนพูดจบ ต้าหู่ก็พยักหน้าทันที“วางใจเถิด พี่หยวน ข้าจะลงมืออย่างมีขอบเขต จะไม่ให้ถึงตายแน่นอน!”“ข้าฆ่าหมูมาตั้งแต่เด็ก ย่อมรู้ขอบเขตมากที่สุดแล้ว!”“การฆ่าหมูและการฆ่าคนนั้นก็ไม่ต่างกัน ต้องลงมีดตรงไหน เลือดจึงจะไหลช้า ๆ แม้จะไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ทรมานมาก”“และทั้งสามคนนี้ก็ล้วนเป็นปรมาจารย์ ร่างกายแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว ข้าจะไม่ฆ่าพวกเขาหรอก”เมื่อต้าหู่พูดจบก็หยิบกล่องใบหนึ่งออกมาจากตู้ในห้องลับนี้ เมื่อเปิดออกก็พบเครื่องมือต่าง ๆ มากมายภายในมีทั้งเครื่องมือทำการเกษตร เครื่องมือใช้ในบ้าน และเข็มเหล็กขนาดต่าง ๆ สรุปแล้วก็คือมีเครื่องมือหลากหลายประเภท รวมแล้วไม่ต่ำกว่าสามสิบหรือสี่สิบชนิด“พี่หยวน ท่านดูเครื่องมือเหล่านี้สิ ข้าใช้สำหรับการลงโทษและบังคับให้สารภาพ มี
หากถูกทรมานอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาก็ยังพอจะทนได้อยู่แต่ไม่รู้ว่าจนทนได้ไหวอีกสักกี่ครั้งยิ่งไปกว่านั้น คือยังมีเครื่องมืออีกมากมายที่ยังไม่ได้ใช้!แต่ละอย่างล้วนน่ากลัวทั้งสิ้น!พูดตามจริงแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะไม่กลัว!แต่กลัวแล้วจะทำอย่างไรได้?ก็ไม่มีทางหลบหนีไปไหนได้อยู่แล้ว ดังนั้นคนที่สองจึงคิดว่าเอาเถิด อย่าคิดอะไรเลย บอกความจริงไปตรง ๆ เลยดีกว่าเมื่อได้ยินดังนั้น หวังหยวนจึงยกยิ้ม“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็เล่ามาได้เลย”บุคคลผู้นั้นรีบกล่าวขึ้นว่า “พวกเรา... พวกเราเพียงแค่ทำตามคำสั่งที่ได้รับมา คือให้มาสังหารคนที่ชื่อหวังหยวนที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราเป็นคนของเทียนไว่เทียนก็จริง แต่...”“เหตุใดจึงต้องสังหารท่าน เราไม่ทราบ อาจจะมีเหตุผลอื่นใดก็เป็นได้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่พวกข้าล่วงรู้!”“พวกข้าเป็นเพียงศิษย์นอกสำนัก ไม่มีฝีมือมากนัก เก่งกาจกว่าคนธรรมดาไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีพรสวรรค์ใด ๆ เลย ดังนั้น...”“คุณชายหวัง ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการบอกท่าน แต่พวกเราไม่ทราบจริง ๆ ว่าเหตุใดจึงต้องทำเช่นนี้!”ท่าทางของคนผู้นี้ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะพูดโกหกแต่คำถามก็เกิดขึ้นแล้ว!
“ในยามปกติพวกเขาจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน มีเพียงในโอกาสพิเศษเท่านั้นที่จะปรากฏตัว!”“มีเพียงไม่กี่คนในโลกนี้ที่จะมองออก มีหลายคนที่ซ่อนเร้นอยู่ในโลกนี้ ไม่ต้องพูดถึงพวกท่านหรอก แม้แต่พวกข้าเอง หากต้องระบุตัวก็คงจะมองไม่ออกเช่นกัน...” เมื่อได้ยินดังนั้น หวังหยวนก็เข้าใจแล้วเมื่อมองจากภายนอกแล้ว พวกเขาคงไม่มีความแตกต่างจากคนทั่วไปมากนัก!ดังนั้นจึงไม่ง่ายเลยที่จะแยกแยะ“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสามมาจากที่ใด สังกัดตระกูลหรือสำนักใด”ในเวลานี้หวังหยวนเอ่ยปากถาม คนทั้งสามฟังแล้วก็ลังเลเล็กน้อย“ว่าอย่างไร ไม่ยอมบอกหรือ?”หวังหยวนขมวดคิ้วพูดทันทีเมื่อเขากล่าวจบ คนทั้งสามก็ตัวสั่นแล้วจึงตอบว่า“พวกข้าเป็นเพียงกองกำลังของสำนักเล็ก ๆ ที่ชื่อว่าหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์”หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ ฟังดูแล้วเป็นชื่อที่ไพเราะ ค่อนข้างน่าสนใจ“ดี หากเป็นเช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสามก็ทำตัวให้ดีอยู่ที่นี่เถิด”หลังจากหวังหยวนพูดจบ พวกเขาก็ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วยังจะพูดอะไรได้อีก?หลังจากออกจากห้องแล้ว หวังหยวนก็จมดิ่งอยู่ในห้วงความคิดเพราะเรื่องนี้!หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์เป็
เมื่อหวังหยวนพูดจบแล้ว ทุกคนก็รีบพยักหน้า สถานการณ์ในขณะนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนยิ่งนักสำหรับหวังหยวนและทุกคน!หากไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้โดยเร็ว วิกฤตก็จะยังคงอยู่!ดังนั้นในใจของหวังหยวนจึงมีความคิดที่กล้าหาญผุดขึ้นมา!เขาจะไปที่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์!เพื่อดูว่าแท้จริงแล้วสถานที่แห่งนั้นคืออะไรกันแน่!แน่นอนว่าเรื่องนี้มีความเสี่ยง แต่หวังหยวนไม่กังวล!ในโลกนี้ไม่มีกล้องถ่ายรูป เขาแค่ปลอมตัวก็คงไม่มีใครจำได้!เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจของหวังหยวน ก็ยิ่งก่อให้เกิดความแน่วแน่มากขึ้นเรื่อย ๆเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น หวังหยวนก็เรียกเกาเล่อ ต้าหู่ เอ้อหู่ และถังหม่างมาแล้วเล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟัง!“อะไรนะ! พี่หยวน ท่านบอกว่าเราจะเป็นฝ่ายรุกโจมตีหรือ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พวกเขาก็ตกใจ!เมื่อต้องเผชิญกับศัตรูที่ทรงพลังเช่นนี้ การโจมตีเชิงรุกจะใจร้อนเกินไปหรือไม่!ต้องรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา!นี่คือความเป็นความตาย!หากเกิดเรื่องขึ้นก็คงสายเกินกว่าจะเสียใจ!“พี่หยวน ข้าคิดว่าท่านควรพิจารณาใหม่อีกครั้ง หากเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา... พวกเราคงรับมือไม่ไหว”เกาเล่อรีบพูดทั
ในปีนั้นตอนที่ต้องไปช่วยเอ้อหู่ หวังหยวนก็เดินทางไปยังเมืองหลวงต้าเย่เพียงลำพัง!ตอนนี้ถึงคราวที่เขาตกอยู่ในอันตราย พี่น้องกลุ่มนี้ก็ไม่มีใครยอมถอยหนี!แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!เป็นเรื่องยากที่ชีวิตนี้จะมีพี่น้องที่ดีสักสองสามคน แต่หวังหยวนมีพี่น้องที่ดีมากมายเช่นนี้ เขาจึงมีความสุขมาก!หลังจากตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว หวังหยวนก็ไปพบนักโทษสามคน แล้วถามหาที่ตั้งของหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ทันทีพวกเขาสามคนถึงกับอึ้งจนแทบพูดไม่ออก “คุณชายหวัง ท่านจะไปหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์หรือ นี่... นี่ไม่ใช่การหาเรื่องตายหรอกหรือ?”เมื่อหวังหยวนได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่บอกว่าตัวเองคือหวังหยวน แล้วใครจะรู้ล่ะ?”“ยิ่งกว่านั้นคือเหตุผลที่พวกเจ้ามาที่หมู่บ้านต้าหวัง ก็เพราะรู้ว่าข้าอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังไม่ใช่หรือ?”“หากข้าไม่อยู่ พวกเขาจะไปตามหาข้าที่ไหน?”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ทั้งสามคนก็พยักหน้าหากหวังหยวนไม่เปิดเผยตัวตน พวกเขาก็คงไม่รู้ว่าหวังหยวนเป็นใคร!แต่ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่การไปที่หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ก็ยังเต็มไปด้วยอันตรายอยู่ดี เพราะหากถูกเปิดเผยตัวตนก็คงจะต้องตายอย่างแน่
หวังหยวนย่อมมีเหตุผลที่ทำให้กระทำเช่นนี้อันที่จริงแล้วหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์จะรู้ในไม่ช้าว่าภารกิจในครั้งนี้ล้มเหลว และจะต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป!ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น หมู่บ้านต้าหวังก็จะตกอยู่ในอันตรายดังนั้นหวังหยวนจึงต้องทิ้งกำลังคนไว้เฝ้าให้เพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่าหมู่บ้านต้าหวังจะปลอดภัย!หวังหยวนและคณะออกเดินทางแล้ว หลี่ซื่อหานและภรรยาของเขาอีกสองคนเป็นกังวลมาก แต่พวกนางก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้!สถานการณ์ในปัจจุบันไม่มีหนทางใดที่จะช่วยให้พวกเขาหลีกหนีได้!ดังนั้นหากจำเป็น พวกเขาก็ต้องทุ่มเททุกสิ่งที่มี!“พี่ซื่อหาน สามีจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอนใช่หรือไม่?”หูเมิ่งอิ๋งเอ่ยถามขึ้นในเวลานี้ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลหวงเจียวเจียวกัดริมฝีปากสีแดง ในใจนางก็กังวลเช่นเดียวกัน เพียงแต่นางไม่ได้พูดออกมานางรู้ดีถึงความเก่งกาจของคนในยุทธจักร จึงยิ่งรู้สึกตึงเครียดหลี่ซื่อหานเผยรอยยิ้มจาง “วางใจเถิด สามีจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน เขาจะต้องต่อสู้เพื่อพวกเราจนถึงที่สุด ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับใคร เขาก็จะไม่ย่อท้อแน่นอน!”“ข้าเชื่อมั่นในความสามารถและสติปั
“ผ่านไปครึ่งวันแล้วก็ยังไม่มีใครออกมาเลย เงียบจริง ๆ!”หวังอู่ขมวดคิ้วมองไปยังหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์ที่อยู่ไกลออกไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “หมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์นี้เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แทบจะไม่เห็นผู้คนเข้าออกอยู่แล้วขอรับ”“ไม่รู้ว่าภายในสถานที่แห่งนี้จะเป็นอย่างไรกันแน่”“พี่หวัง ท่านว่า... สถานที่แห่งนี้จะเป็นเหมือนกับที่ลูกพี่บอกว่าเป็นถํ้าพยัคฆ์วังมังกรจริงหรือขอรับ?”ลูกน้องคนนั้นถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นหลังจากได้ฟังแล้ว หวังอู่ก็พยักหน้า“อย่าตั้งคำถามกับการตัดสินของลูกพี่ เขาบอกว่าใช่ก็ต้องใช่!”หวังอู่พูดจบ นัยน์ตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพจากนั้นพวกเขาก็เริ่มเดินพักผ่อนหย่อนใจ“พี่หวัง สถานที่แห่งนี้ดีจริง ๆ อากาศดี น้ำใส อาหารวันนี้ก็อร่อยด้วย!”“โดยเฉพาะเนื้อย่างนี้ ข้าชอบมากทุกครั้งที่ได้กินจริง ๆ!”เพื่อให้ลูกหลานเศรษฐีเหล่านี้มาที่นี่ หวังอู่จึงเตรียมอาหารอร่อย ๆ ไว้มากมาย“อาหารรสเลิศจะขาดสุราได้อย่างไร มาเถิด ดื่มกันเถิด พี่น้องทั้งหลาย!”หวังอู่พูดจบก็หัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็ดื่มกับทุกคนเขาเป็นคนที่ต้านท
เมื่อหวังอู่เคาะประตูอีกครั้งก็ยังไม่มีเสียงตอบรับทำให้หวังอู่ขมวดคิ้วและรู้สึกหงุดหงิดทันทีเกิดอะไรขึ้น!เหตุใดยังไม่เปิดประตูอีก!หวังอู่สูดหายใจเข้าลึก ๆ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เตรียมจะเข้าไปดูข้างในแต่ทันใดนั้นก็มีสายลมพัดผ่านมาเบา ๆ ทำให้หวังอู่ต้องหยุดชะงักไปชั่วครู่เขาได้กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ!กลิ่นนี้ทำให้เขาขมวดคิ้ว!“กลิ่นคาวเลือด! แม้จะจางมากแต่ก็มีอยู่!”หลังจากพูดประโยคนี้จบ หวังอู่ก็ไม่ลังเลที่จะพุ่งตัวทะยานเข้าไปในลานบ้านหลังนี้ทันทีทันทีที่เข้าไป สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป!เพราะตรงหน้าเขาเต็มไปด้วยศพนับไม่ถ้วน!เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่ามีอย่างน้อยยี่สิบหรือสามสิบศพ!เขาเดินเข้าไปตรวจสอบทันที แต่หลังจากตรวจสอบแล้ว เขาก็รู้สึกขนหัวลุก!แม้ว่าคนเหล่านี้จะตายไปแล้ว แต่การตายของพวกเขา...พิเศษมาก!ที่กลางหน้าผากของแต่ละคนมีจุดสีแดง!มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่เป็นเช่นนั้น แต่กลับมีเลือดไหลนองเต็มพื้น!และกลิ่นคาวเลือดก็มาจากพวกเขาเหล่านั้น!สีหน้าของหวังอู่เปลี่ยนไปอย่างมาก ใครจะคิดว่าคนหมู่บ้านหุบเขาธารสวรรค์จะตายกันหมดในชั่วข้ามคืน!เป็นไปได้อย
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห