แชร์

บทที่ 1296

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เกาเล่อส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง เขาเตรียมใจแล้วหรือ?

เกรงว่าคงไม่ได้เตรียมใจหรอก!

“ดี เช่นนั้นข้าจะบอกแล้วนะ เจ้ารู้หรือไม่ว่า... หงหยิ่งเป็น... คนของเซิ่งตงฉยง!”

เกาเล่อพูดตามตรง เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้เฉินอวิ๋นจื้อตกตะลึง!

เขาตกใจจนนิ่งอึ้งไปหลายวินาที จากนั้นก็หันกลับไปมองบนเตียง แต่ก็ไม่มีใครอยู่ที่นั่น!

ทันใดนั้นสมองของเขาก็เข้าใจอะไรบางอย่างทันที!

ดึกดื่นถึงเพียงนี้แล้ว เกาเล่อมาที่นี่แต่กลับไม่เห็นหงหยิ่ง!

นั่นหมายความว่ามีเหตุผลเดียวเท่านั้น!

นั่นก็คือหงหยิ่ง...

“หงหยิ่ง นาง... นาง... ตายแล้วหรือ...”

เมื่อเฉินอวิ๋นจื้อพูดถามขึ้นมาเขาก็ตัวสั่นสะท้าน!

เขากังวลมาก กลัวมาก!

เขาเป็นห่วงหงหยิ่งจริง ๆ!

แต่ก็กลัว...

ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณชาย

“หงหยิ่งไม่ตาย นางเพียงแค่ได้รับบาดเจ็บ คุณชายก็ไม่เป็นอะไร ข้ามาตามเจ้าเพราะคุณชายให้เจ้าไป ชีวิตของหงหยิ่งนั้น... คุณชายบอกว่าให้ฟังความคิดเห็นของเจ้า”

“เพราะนางเป็นผู้หญิงที่เจ้ารัก...”

หลังจากที่เกาเล่อพูดจบ ใบหน้าของเฉินอวิ๋นจื้อก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด!

หากใครกล้าลงมือกับคุณชาย เขาไม่ลังเลที่จะฆ่าให้ตาย!

แต่คนคนนี้...

เป็น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1297

    เมื่อหวังหยวนอธิบายจบลง เฉินอวิ๋นจื้อก็ตกใจขึ้นมาทันที!แท้จริงแล้ว...ยังมีเรื่องราวอีกมากมายอยู่เบื้องหลัง!แต่เขาไม่เคยรู้เรื่องเหล่านี้เลย!“เหล่าเฉิน ขอโทษจริง ๆ พวกข้าเชื่อใจเจ้าโดยเปิดเผยความลับทั้งหมดให้รู้ แต่จู่ ๆ นางก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างเจ้า แถมยังเป็นคนมีฝีมืออีก พวกข้าจึงจำเป็นต้องระมัดระวังไว้ก่อน ดังนั้น... ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อเจ้าหรือเพื่อตัวนาง พวกข้าจึงคอยเฝ้าระวังมาโดยตลอด”“ผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงกันข้ามกับที่คาดหมาย ข้าเองก็รู้สึกสิ้นหวังเช่นกัน ข้าจับหงหยิ่งได้แล้ว นางเป็นผู้หญิงที่เจ้ารัก เจ้าจะตัดสินอย่างไรก็ได้!”“หากคำนึงถึงความผูกพันครั้งนี้ ข้าจะให้นางมีชีวิตอยู่ก็ได้!”“แต่หาก... เจ้ารู้สึกว่านางเป็นศัตรู หลอกลวงความรู้สึกของเจ้ามาตลอด เจ้าจะฆ่านางก็ได้!”“ไม่ว่าเจ้าจะตัดสินใจเช่นไร พวกข้าก็จะยอมรับ!”“ที่ข้าไม่ฆ่านางทันที ก็เพราะไม่ต้องการให้เจ้าและข้ามีความขัดแย้งกันในใจ!”“เพราะเจ้าเป็นดั่งพี่น้องของข้า ข้ามองเจ้าเป็นเหมือนน้องชายแท้ ๆ ข้าหวังให้เจ้ามีความสุข!”“ดังนั้นเจ้าจะเลือกทางใดก็ได้! อย่าได้รู้สึกเป็นภาระเลย!”หวังหยวนตบไหล่เฉินอวิ๋นจื้อ ต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1298

    “แต่ข้าถือว่าเขาเป็นเหมือนพี่น้อง ชายผู้หนึ่งที่สามารถลงมือกับสตรีอันเป็นที่รักได้ หัวใจของเขาจะเป็นเช่นไรนั้นคงไม่ต้องคิด!”“แน่นอน สตรีผู้นี้หลอกลวงเขา แต่กระนั้นความรู้สึกเหล่านั้นก็ยังคงมีอยู่ อย่างน้อยก่อนที่จะรู้ความจริง เฉินอวิ๋นจื้อก็มีความสุขมาก!”“ข้าไม่ต้องการให้เขาฝังความรู้สึกนั้นไปด้วยมือของตัวเอง!”เมื่อหวังหยวนพูดจบ พวกเขาก็เข้าใจ!แท้จริงแล้ว...ไม่ใช่เพื่อหงหยิ่ง แต่เพื่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นซึ่งไม่ได้เกิดในคนคนเดียวเท่านั้น!“สามี ไม่รู้ว่าเฉินอวิ๋นจื้อจะเข้าใจความรู้สึกนี้ของท่านหรือไม่...”ในเวลานี้หวงเจียวเจียวพูดด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน ดวงตาของนางแฝงไปด้วยความหมองเศร้าหวังหยวนไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพียงแค่เฝ้ามองเงียบ ๆส่วนเฉินอวิ๋นจื้อในเวลานี้ได้เดินเข้าไปแล้ว เมื่อเห็นหงหยิ่งที่ถูกมัดอยู่ในนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววโศกเศร้าอย่างที่สุด!สตรีผู้นี้ควรจะเป็นภรรยาของเขา เป็นคนที่เขาจะปกป้องไปตลอดชีวิตแต่ว่า...ในเวลานี้กลับกลายเป็นศัตรูของเขา!คิดแม้กระทั่งจะฆ่าเจ้านายของเขาด้วยซ้ำ!หงหยิ่งก็เห็นเฉินอวิ๋นจื้อเช่นกัน ในเวลานี้หากจะบอกว่าอารมณ์ของนางไม่สั่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1299

    สายตาของเฉินอวิ๋นจื้อเต็มไปด้วยความอาลัยและความอดทนอย่างเต็มที่!หงหยิ่งได้ฟังแล้วนัยน์ตาก็ฉายแววฝืนใจ แต่ไม่นานก็กลับมาเย็นชาเช่นเดิม!“เฉินอวิ๋นจื้อ เจ้าเป็นคนโง่หรือไร? ข้าบอกเลยว่าข้าไม่เคยชอบเจ้าเลย ข้าเพียงแค่หลอกใช้ประโยชน์จากเจ้า เจ้า เข้าใจหรือไม่!”“ฆ่าข้าเสียเถิด ไม่เช่นนั้นข้าจะหาโอกาสฆ่าคุณชายของเจ้าให้ได้ จงจำคำข้าไว้!”บัดนี้หงหยิ่งปรารถนาความตายที่สุด เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินอวิ๋นจื้อ นางก็โศกเศร้าจนแทบใจสลาย กล่าวตามตรงคือนางกำลังสับสนและเจ็บปวดมากทุกคำพูดของเฉินอวิ๋นจื้อเปรียบเสมือนมีดแหลมคมที่แทงทะลุหัวใจของนาง!ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้นางทรมานเหลือเกิน!ความตายอาจเป็นจุดจบที่ดีที่สุดสำหรับนาง!แต่เฉินอวิ๋นจื้อไม่ได้สนใจหงหยิ่ง กลับกล่าวต่อไปว่า“ข้าฝึกฝนวิทยายุทธ์มาตั้งแต่เด็ก ข้าเป็นเด็กกำพร้า อาจารย์ของข้าเป็นผู้เลี้ยงดูข้ามา ท่านสอนข้าหลายสิ่ง แต่... อาจารย์ของข้ากลับสิ้นชีพด้วยน้ำมือของคนต่ำช้า!”“บุคคลผู้นั้น ข้ายังจำได้จนถึงทุกวันนี้ เขาเป็นเศรษฐีในท้องถิ่น เมื่ออาจารย์ของข้ายึดมั่นในความยุติธรรมและทำร้ายเขาเพราะเขารังแกชาวบ้าน เขาจึงว่าจ้างคนจำนวนมากม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1300

    รู้เพียงแค่ว่า...ต้องทำภารกิจให้สำเร็จ!ภารกิจแล้วภารกิจเล่า!บางทีอาจเพื่อให้ได้มาซึ่งการยอมรับจากชายคนนั้น หรืออาจเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของชายคนนั้นแต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม นางได้ผ่านความเป็นความตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดก็มาถึงวันนี้เฉินอวิ๋นจื้อกล่าวว่านางทำให้เขาได้เกิดใหม่เป็นครั้งที่สาม!แล้วตัวนางเองล่ะ?เมื่อได้อยู่ร่วมกับเฉินอวิ๋นจื้อ นางได้สัมผัสอย่างแท้จริงว่าชีวิตที่เรียบง่ายคืออะไร!แม้ว่าจะไม่ร่ำรวยนักแต่ก็อิ่มท้องและอบอุ่น ไม่เคยมีเรื่องใดให้ต้องกังวล!กล่าวโดยแท้จริง คือนางชื่นชอบชีวิตและเพลิดเพลินกับชีวิตเช่นนี้มาก!แต่นางก็รู้ว่า...สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ของนาง...นางเหนื่อยล้า นางไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไร ดังนั้น...นางจึงเลือกที่จะตาย!ตายแล้วจึงจะจบ!เมื่อตายแล้ว บางทีอาจจะหลุดพ้นได้อย่างแท้จริง!“เฉินอวิ๋นจื้อ เจ้าฆ่าข้าเถิด ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ข้าเหนื่อยมาก...”“จริง ๆ นะ ข้าเบื่อหน่ายชีวิตในตอนนี้ ข้าเกลียดตัวเองในตอนนี้...”“ขอร้องล่ะ ฆ่าข้าเถิด หากชาติหน้ามีอยู่จริง ข้า... ข้ายินดีจะอยู่กับเจ้า...”จู่ ๆ หงหยิ่งก็เอ่ยขึ้น เมื่อเฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1301

    หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ทั้งเฉินอวิ๋นจื้อและหงหยิ่งก็ต่างตกตะลึงพวกเขาทั้งสองย่อมไม่รู้ว่าหวังหยวนต้องการจะสื่ออะไร แต่ก็ยังพยักหน้า“เหล่าเฉิน เจ้ากับแม่นางหงหยิ่งยังมีหนทางที่จะเดินโดยไม่จำเป็นต้องตาย”เมื่อหวังหยวนพูดจบ หงหยิ่งก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และมองหวังหยวนด้วยความสงสัย“แม่นางหงหยิ่ง ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ เจ้าคิดว่าเหตุใดข้าจึงจะปล่อยเจ้าไป เหตุผลก็ยังคงเป็นเหตุผลเดิม เฉินอวิ๋นจื้อเป็นพี่น้องของข้า ข้าหวังให้พี่น้องของข้ามีความสุข”“หากวันนี้เจ้าไม่มีความรู้สึกใด ๆ ต่อพี่น้องของข้า พูดตามตรงข้าก็จะฆ่าเจ้า แม้ว่าพี่น้องของข้าจะเกลียดข้า ข้าก็ไม่สนใจ”“แต่ข้าเห็นได้ว่าเจ้าเองก็มีความรู้สึกต่อพี่น้องของข้า ดังนั้นข้าจึงคิดว่าควรจะต่อสู้เพื่อพวกเจ้าทั้งสอง!”“สิ่งที่เจ้ากังวลก็คือตระกูลเซิ่ง”“ผู้ที่ตระกูลเซิ่งส่งมาในครั้งนี้ตายหมดแล้ว ไม่มีใครรอดชีวิต ดังนั้นความเป็นความตายของเจ้าจึงไม่มีใครรู้!”เมื่อหวังหยวนพูดจบ หงหยิ่งก็ตกใจแต่ก็ยังคงลังเล“ข้า... ข้า...”นางต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา ส่วนหวังหยวนยกยิ้ม“เจ้าไม่ต้องพูดอะไรหรอก ข้ารู้ว่าเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1302

    พูดตามตรงว่าเมื่อได้ยินหวังหยวนบอกว่าจะไม่ฆ่านาง เพราะเห็นแก่ความเป็นพี่น้องกับเฉินอวิ๋นจื้อ!นางไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจก็ยังไม่ค่อยเชื่อ!แต่ตอนนี้...นางเชื่อแล้ว!เขาจะให้นางไปที่หมู่บ้านต้าหวัง ที่นั่นไม่ใช่ดินแดนของเขาหรอกหรือ?นางเป็นยอดฝีมือ แม้ว่าเฉินอวิ๋นจื้อจะแข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ไม่คุ้นเคยกับทักษะการต่อสู้ของนาง หากนางตั้งใจจะจัดการกับหวังหยวนและคนอื่น ๆ อันที่จริงก็มีโอกาสมาก!แม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังพูดเช่นนี้อีก แสดงให้เห็นว่าเขาคิดอย่างไร!“ท่าน... ท่านไม่กลัว... ว่าข้าจะทำร้ายท่านหรือ?”หงหยิ่งตกใจและอดไม่ได้ที่จะถามหวังหยวนหัวเราะและอดไม่ได้ที่จะตอบว่า “กลัวสิ แน่นอนว่ากลัว”“ในเมื่อกลัว แล้วเหตุใดจึงมีเมตตากับข้าเช่นนี้ หากข้าทำให้ท่านผิดหวังล่ะ?”หงหยิ่งถามขึ้นหวังหยวนได้ยินเช่นนั้นก็เพียงแค่ยิ้มแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “เจ้าไม่ได้ทำให้ข้าผิดหวังหรอก เจ้าทำให้ตัวเองผิดหวังต่างหาก!”“หากเจ้าฆ่าข้า ฆ่าพวกข้าทุกคน สิ่งที่เจ้าจะได้รับก็คือชีวิตแบบเดิม หรือแม้แต่เจ้าฆ่าข้าแล้ว เจ้าก็ออกจากหมู่บ้านต้าหวังไม่ได้ และเจ้าจะต้องตาย!”“ทั้ง ๆ ที่สามารถใช้ชีวิตอย่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1303

    ขณะนี้ หวงเจียวเจียวและหวังหยวนกำลังนอนอยู่บนเตียง หวงเจียวเจียวถามด้วยรอยยิ้ม“สามี วันนี้ท่านช่าง... มีเมตตาเหลือเกิน”หวงเจียวเจียวพูดจบ หวังหยวนก็นิ่งอึ้งไปก่อนถามว่า“เป็นอะไรไป? เจ้าจะว่าข้าเสแสร้งหรือไร?”หวงเจียวเจียวรีบส่ายหน้า “ไม่ ไม่ ไม่ คนอื่นอาจเสแสร้ง แต่สามีไม่เคยเป็นเช่นนั้น!”“สิ่งที่ท่านพูด ท่านย่อมทำได้เสมอ... ข้า... ซาบซึ้งใจนัก”หวงเจียวเจียวหน้าแดง ซบลงบนอกของหวังหยวน“หืม แม่ตัวแสบ คืนนี้ยังไม่ได้ทำสิ่งที่ควรทำเลยไม่ใช่หรือ? สามีมาแล้ว!”หวังหยวนเห็นหวงเจียวเจียวเป็นเช่นนี้ก็กระโจนเข้าใส่นางทันทีในขณะนี้ความสุขสมล่องลอยไปทั่วทั้งห้อง เสียงแห่งความสุขก็ดังไปทั่ว“โอ๊ย... เมื่อวานนี้เพิ่งจะ...”หวงเจียวเจียวจะสู้ แต่ไม่นานก็พ่ายแพ้!คืนนี้จะเป็นค่ำคืนแห่งความหฤหรรษ์โดยแท้!นอกจากทั้งสองแล้ว หงหยิ่งและเฉินอวิ๋นจื้อที่อยู่ในห้องก็กำลังเร่าร้อน!“เรา... เป็นสามีภรรยากันแล้ว...”“คืนแต่งงานยังไม่ได้เข้าหอ... วันนี้จึง...”เฉินอวิ๋นจื้อกอดหงหยิ่งแล้วพูดขึ้นอย่างแผ่วเบาหงหยิ่งไม่ลังเลเลย การต่อสู้ระหว่างทั้งสองครั้งนี้หนักหน่วงกว่าของหวังหยวนเสียอีก!

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1304

    เมื่อเจ้ากระทรวงกรมพระคลังจ้าวจือจิ้งพูดเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็แฝงไปด้วยความลังเลหวังหยวนมองเขาและพูดว่า “ใต้เท้าจ้าว จะไม่มีใครกล้าคิดร้ายกับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยหรอกใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวจือจิ้งก็ถอนหายใจ และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เรื่องเช่นนี้พูดยากพ่ะย่ะค่ะ...แต่เมื่อมีท่านอ๋องเสด็จมาด้วยก็คงไม่มีใครกล้าแตะต้อง”“แต่ว่า...หลิงหนานมีเศรษฐีอยู่มากมาย นายอำเภอในท้องถิ่นก็อยู่ห่างไกลจากราชสำนัก และพวกเขาก็มีกำลังคนมากมาย ดังนั้น... จึงไม่ง่ายนักที่จะจัดการ!”สิ่งที่จ้าวจือจิ้งกังวลก็คือเรื่องนี้!หากเงินนี้สามารถแจกจ่ายกระจายออกไปสู่มือของผู้ประสบภัย ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้!แต่กลัวว่า...หลายคนจะไม่ยอมทำงาน!เพราะเมื่อไม่เห็นผลประโยชน์ก็ไม่ยอมทำงาน!หวังหยวนก็เข้าใจดี จึงพยักหน้าแล้วยกยิ้ม“เข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าบางงานจะไม่ง่ายนักที่จะดำเนินการ”“เช่นนั้นดีแล้ว เอาเงินช่วยเหลือของเราออกมาหนึ่งในสามก่อน แล้วให้แก่เจ้าเมืองและเศรษฐีในท้องถิ่น บอกพวกเขาว่าจะมีเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมในภายหลัง และเมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีผลประโยชน์!”“ให้พวกเขาช่วยเราจัดการเรื่องนี้ก่

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1870

    “ขอเพียงท่านไว้ชีวิตข้า เงินเหล่านี้ล้วนเป็นของท่าน!”“ถือเสียว่าข้าขอขมาลาโทษ!”หวังหยวนเย้ยหยัน หรือว่าเจ้าผู้นี้คิดว่าเงินทองซื้อได้ทุกอย่าง?หวังหยวนเตะเข้าที่ข้อมือของเขา ตั๋วเงินปลิวว่อน ผู้คนที่มุงดูต่างกรูกันเข้ามาแย่งชิง!สถานการณ์ช่างอลหม่าน!เฉินเทียนรู้สึกราวกับหัวใจถูกบีบ!เงินจำนวนมากถูกคนอื่นแย่งชิงไปหมดแล้วหรือ?ในใจเขาจะรู้สึกดีได้อย่างไร?“ท่านผู้นำ จะจัดการกับมันอย่างไรดีขอรับ?”เกาเล่อที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้ว“พาตัวเขาไปหาตระกูลเฉิน ข้าอยากรู้ว่าเฉินเจิ้นหนานผู้นี้มีความสามารถมากเพียงใด!”“ถึงกล้าปล่อยให้ลูกชายอาละวาดในเมืองอู่เจียง!”หวังหยวนกล่าวอย่างเย็นชาหากเขามาไม่ถึงที่นี่คงไม่ยุ่งเรื่องวุ่นวายของชาวบ้านเช่นนี้ แต่ในเมื่อเขามาถึงเมืองอู่เจียงแล้ว ที่นี่ก็เป็นเขตของเขา เมื่อพบเจอคนพาล ย่อมไม่อาจปล่อยไปได้ง่าย ๆ!เหงื่อเม็ดโตหยดลงมาจากหน้าผากของเฉินเทียนไม่หยุดขอเพียงไม่เอาชีวิตเขาก็ยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์ไม่ว่าหวังหยวนจะมีความสามารถล้นฟ้าหรือไม่ เมื่อไปถึงตระกูลเฉิน หวังหยวนย่อมไม่สามารถทำอะไรได้แน่นอน!ในเมืองอู่เจียง ไม่มีใครไม่ให้เกียรติ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1869

    เฉินเทียนที่เพิ่งถูกหวังหยวนสั่งสอนวิ่งนำหน้าคนกลุ่มหนึ่งมา ปรากฏว่าเขาพาบ่าวไพร่มาล้อมพวกหวังหยวนไว้เกาเล่อมองไปที่หวังหยวน ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยเท่าที่เขาจำได้ เขาไม่เคยเห็นเฉินเทียนมาก่อน จู่ ๆ อีกฝ่ายก็มาหาเรื่องพวกเขาหรือว่าเป็นเพราะหวังหยวน?แต่หวังหยวนเพิ่งมาถึงเมืองอู่เจียง จะสร้างศัตรูเร็วเช่นนี้เลยหรือ?หวังหยวนไม่ได้อธิบาย เพียงแต่จ้องมองไปที่เฉินเทียนแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “ไม่มีเวลาสนใจเจ้า รีบไสหัวไปซะ!”“ไม่เช่นนั้นก็จงรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง!”ได้ยินเช่นนั้น เฉินเทียนไม่เพียงไม่กลัว กลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา!เขาชี้หน้าหวังหยวนแล้วกล่าวเยาะเย้ย “สมองเจ้าโดนลาเตะมาหรือ?”“เจ้าดูสิว่าที่นี่คือที่ใด!”“ดูฐานะของข้าด้วย!”“ข้าเป็นคนของตระกูลเฉิน!”“ในเมืองอู่เจียง นอกจากสามตระกูลใหญ่แล้ว แม้แต่ผู้ว่าราชการเมือง เมื่อเจอข้าก็ยังต้องพูดจาด้วยความเคารพ!”“เจ้าเป็นใครไม่ทราบ?”สีหน้าของเกาเล่อพลันเปลี่ยนไปทั่วทั้งใต้หล้ามีสักกี่คนที่กล้าพูดกับหวังหยวนเช่นนี้ ช่างบังอาจนัก!ในพริบตาก็เห็นเขาวิ่งไปหาเฉินเทียนอย่างรวดเร็ว และเตะเข้าที่หน้าอกของเฉินเทียน!เฉินเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1868

    แม้แต่หวังหยวนก็ไม่กล้ากระโดดลงมาจากชั้นสามโดยง่าย !แต่เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะประเมินแม่นางหรูเยียนต่ำเกินไป นางกลับเหาะหนีไปต่อหน้าต่อตา!ช่างน่าเจ็บใจยิ่งนัก!“ดูท่าต้องหาวิธีอื่นแล้ว!”หวังหยวนพึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็เตรียมลงไปชั้นล่างอย่างไรเสีย ตอนนี้ก็จำใบหน้าของแม่นางหรูเยียนได้แล้ว แค่บอกกล่าวกับเกาเล่อ ต่อไปก็ยังสามารถตามหาตัวนางได้นางคิดหนี มีหรือจะง่ายดาย?ไม่มีทางหนีรอดพ้นฝ่ามือของเขาไปได้!หวังหยวนตัดสินใจแน่วแน่ จากนั้นก็เดินลงไปชั้นล่างในขณะนี้แม่นางหรูเยียนกระโดดลงมาจากชั้นสาม และกำลังหลบอยู่ในตรอกแห่งหนึ่งโชคดีที่นางเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาและใบหน้ายังคลุมด้วยผ้าขาว ไม่มีใครจำนางได้ จึงไม่เกิดความวุ่นวายใด ๆ“ข้าจำเจ้าได้ หวังหยวนใช่หรือไม่?”“เจ้ารอข้าก่อนเถิด!”“ฟ้ายังมีตา วันหน้าข้าจะกลับมาแก้แค้นเจ้า!”“ถึงตอนนั้นข้าจะให้เจ้าคุกเข่าต่อหน้าข้าแล้วก้มหัวขอขมาข้า!”“เพื่อให้เจ้ารู้ว่า การบังอาจรุกรานข้ามีผลเช่นไร!”แม่นางหรูเยียนพูดต่ออีกสองสามประโยค จากนั้นไม่เอ่ยคำใดอีก เดินลึกเข้าไปในตรอกอย่างรวดเร็ว!ในเมืองอู่เจียง หวังหยวนมีอำนาจล้นฟ้า หากเขาต้อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1867

    “เจ้าช่างสมควรตายจริง ๆ...” แม่นางหรูเยียนกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของหวังหยวนที่ดูจริงจังไร้ซึ่งการล้อเล่น นางก็ทำได้เพียงสะกดกลั้นความโกรธไว้นางครุ่นคิดด้วยความลังเลชั่วครู่ ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ว่ามาเถิด ท่านปรารถนาจะรู้เรื่องใดจากข้า?”หวังหยวนเผยยิ้มมุมปาก “ไม่ยากเลย ข้าเพียงต้องการรู้ที่ตั้งของพรรคทมิฬเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ ข้าไม่จำเป็นต้องรู้อะไรทั้งสิ้น”“เจ้าเชื่อมั่นศรัทธาในพรรคทมิฬมากและเชื่อมั่นในความสามารถของสาวกพรรคทมิฬ ต่อให้เจ้าจะบอกที่ตั้งแก่ข้า เจ้าก็คงมั่นใจว่าเบื้องบนย่อมรับมือได้ ดังนั้นการเปิดเผยเรื่องนี้ก็ไม่มีผลอะไรไม่ใช่หรือ?” แม่นางหรูเยียนมีสีหน้าเคร่งเครียด นางไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะวางแผนโจมตีพรรคทมิฬ! หากเขารู้ที่ตั้งฐานทัพของพรรคทมิฬ พรรคทมิฬคงไม่รอดพ้นเงื้อมมือเขาเป็นแน่! ยิ่งช่วงนี้สาวกพรรคทมิฬได้ออกอาละวาดทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้าด้วย ไม่ใช่แค่หวังหยวน แม้แต่ราชวงศ์ต้าเย่และต้าเป่ยต่างก็ต้องการกำจัดพรรคทมิฬให้สิ้นซาก!หวังหยวนและคนเหล่านั้นต่างยืนอยู่ฝ่ายเดียวกันหากพวกเขาร่วมมือกัน พรรคทมิฬคงถึงคราวต้องลำบาก...

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

DMCA.com Protection Status