หวงเจียวเจียวมาถึงเมืองหวงและเข้ามาในจวนอ๋องเป่ยหลิงของหวังหยวนอย่างรวดเร็วเมื่อนางเดินเข้ามา หวังหยวนถึงกับตะลึง!“เจียวเจียว!”หวังหยวนไม่คิดว่าหวงเจียวเจียวจะมา!“สามี!”หวงเจียวเจียวดีใจมากที่ได้พบหวังหยวน นางรีบวิ่งเข้าไปกอดเขา“เจ้ามาได้อย่างไร? ไม่ได้บอกข้าล่วงหน้าเลยหรือ?”หวังหยวนกอดหวงเจียวเจียวแล้วถามอย่างสงสัย หวงเจียวเจียวได้ยินดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่ซื่อหานและพี่เมิ่งอิ๋งเป็นห่วงท่าน แต่พวกนางไม่กล้ามาหา จึงให้ข้ามาแทน”หวงเจียวเจียวพูดด้วยรอยยิ้ม หวังหยวนฟังแล้วจึงยิ้มทันที เขารู้ว่าหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ เป็นห่วงเขา แต่ก็ไม่สามารถมาหาได้ เพราะต้องมีคนเฝ้าที่เมืองหลิงธุรกิจมากมายก็ต้องทำดังนั้น...หวงเจียวเจียวจึงเหมาะสมที่สุด เพราะนางเป็นคนเมืองหวงตั้งแต่แรก และตำแหน่งของนางที่นี่ก็สูงส่งมาก เป็นถึงธิดาของอ๋องหลงซี ซึ่งก็ถือว่าเป็นองค์หญิงเช่นกันหากมีนางอยู่ด้วยก็สามารถช่วยเหลือเขาได้หลายอย่างหวังหยวนยิ้มและไม่ได้เอ่ยคำใดอีก ยิ่งกว่านั้นคือเขาก็คิดถึงพวกนางเหมือนกัน หวงเจียวเจียวมาดูแลเขาได้ก็ถือว่าดีไม่น้อย“แต่เจ้ามาที่นี่เอง พวกนางทั้งสอ
“ลูกพี่ คุณชายไม่มาด้วยหรือ?”เฉินอวิ๋นจื้อรู้สึกประหลาดใจมากเกาเล่อได้ยินดังนั้นก็ตอบว่า “เดิมทีจะมาแล้ว แต่จู่ ๆ อ๋องหลงซีก็มาหารือธุระด้วย คุณชายจึงไม่สะดวกที่จะปฏิเสธ ยิ่งกว่านั้นคือสถานะของเจ้าก็ไม่ธรรมดาด้วย ดังนั้น... คุณชายจึงให้ฮูหยินมาแสดงความยินดีแทน”ในเวลานี้เกาเล่อพูดด้วยรอยยิ้ม เมื่อพูดจบ หวงเจียวเจียวก็พูดว่า“เหล่าเฉิน นานแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน นี่คงจะเป็นภรรยาของเจ้าใช่หรือไม่”เฉินอวิ๋นจื้อมีความสุขมาก รีบพูดว่า “นี่คือภรรยาของข้าเอง ฮูหยินโปรดอย่าได้หยอกล้อเลยขอรับ”“ฮ่าฮ่า โชคดีจริง ๆ นะเหล่าเฉิน หลังจากนี้เจ้าต้องดูแลนางให้ดีนะเข้าใจหรือไม่? นางอุตส่าห์เดินทางมาจากอาณาจักรต้าอันเพื่อมาอยู่ที่นี่กับเจ้า ถือว่าเป็นการยอมละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนของตน ถ้าหากเจ้าทำตัวไม่ดีกับนาง ข้าจะเป็นคนแรกที่ไม่ปล่อยเจ้าไป!”หวงเจียวเจียวพูดพลางจับมือหงหยิ่งและหัวเราะแม้ว่าสีหน้าของหงหยิ่งจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังคงยิ้มอยู่นางไม่คิดว่าจะโชคร้ายถึงเพียงนี้ หวังหยวนไม่มา!เดิมทีนางเตรียมกลวิธีสังหารไว้แล้ว!นางคิดแม้กระทั่งว่าจะฆ่าเฉินอวิ๋นจื้อ เกาเล่อและหวังหยวนให้หมด!ให
หงหยิ่งหน้าแดงก่ำ สุราแรงเหลือเกิน ตอนนี้นางเริ่มเมาเล็กน้อยแล้ว!“ไม่... ไม่ดื่มแล้ว ข้า...”หงหยิ่งรีบพูด หากดื่มต่อไปอีกคงจะเกิดเรื่องเป็นแน่!แต่เกาเล่อเพียงแค่ยกยิ้มแล้วพูดว่า “น้องสะใภ้ สุราแก้วนี้ข้าขอมอบให้แด่เจ้าทั้งสอง ขอให้แก่เฒ่าด้วยกัน ครองรักกันตลอดไป!”กล่าวจบ เกาเล่อก็หยิบสุราธรรมดาอีกแก้วขึ้นมายกซดรวดเดียว!จากนั้นก็มองไปที่เฉินอวิ๋นจื้อและหงหยิ่ง“ขอบคุณขอรับพี่ใหญ่!”เฉินอวิ๋นจื้อไม่พูดพร่ำทำเพลง ดื่มสุรากระดูกเสือหมดไปอีกถ้วยส่วนหงหยิ่ง...ก็ได้แต่ฝืนใจดื่มตอนนี้เกาเล่อเหลือบมองไปที่หวงเจียวเจียว ซึ่งนางเองก็เข้าใจที่จริงแล้วการกระทำเช่นนี้ไม่ได้เกินเลยสำหรับพวกเขาเพราะคู่บ่าวสาวล้วนต้องดื่มสุรากระดูกเสือ!และนางกับเขาเพิ่งจะดื่มไปสักเท่าไหร่กันเชียว ตามปกติแล้วเมื่อมีแขกเหรื่อมาร่วมงานมากมาย ก็ล้วนต้องฉลองให้ด้วยสุราแม้ว่าพวกเขาจะสงสัยหงหยิ่ง แต่หากสตรีผู้นี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย การกระทำเช่นนี้ของพวกเขาก็ไม่ถือว่าเป็นการวางแผนทำร้ายหญิงสาวที่ยินยอมแต่งงานกับชายหนุ่มแล้วเข้าห้องหอกัน จะยังต้องใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์ทางกายอีกหรือ?ยิ่งไปกว่านั้น หา
เกาเล่อที่อยู่ด้านนอกได้ยินทุกสิ่งอย่างชัดเจน!สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที!“หงหยิ่ง... แท้จริงแล้ว... มีปัญหา!”เกาเล่อพึมพำจบก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ในใจเต็มไปด้วยความลังเลว่าจะฆ่านางเลยดีหรือไม่!เพราะนางเป็นหญิงสาวที่เพิ่งแต่งงานกับสามี ทั้งที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน แต่กลับไม่ยอมให้ร่วมหอ ทั้งยังถึงขั้นทำให้สามีหมดสติด้วย!ค่ำคืนแรกหลังแต่งงานมีค่าดั่งทอง หากไม่ทำจะถือเป็นลางไม่ดี!เหตุใดนางจึงต้องทำให้เฉินอวิ๋นจื้อหมดสติด้วย?หลังจากสงสัยเพราะประเด็นนี้แล้ว เขาก็แอบจากไปอย่างเงียบเชียบหลังจากเกาเล่อกลับไปแล้ว ก็เล่าเรื่องนี้ให้หวังหยวนฟัง!หวังหยวนได้ฟังเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่นในทันที!“ทุบเฉินอวิ๋นจื้อจนหมดสติหรือ!”เรื่องนี้ทำให้สีหน้าของหวังหยวนไม่ดีเลย!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนในโลกนี้ แต่เขาก็เข้าใจดีว่าในโลกนี้คืนแรกแห่งการแต่งงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในคืนนี้ตราบใดที่ทั้งสองยินยอมแต่งงานกัน ก็ย่อมไม่มีใครไม่เต็มใจ!แน่นอนว่าเว้นแต่จะมีสถานการณ์พิเศษ แต่ทั้งสองต่างก็แต่งงานด้วยความสมัครใจ และยังดื่มสุรากระดูกเสือร่วมกันด้วย ก็ยิ่งน่าจะได้ร่วมสุขกันในคื
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด เมื่อหวังหยวนตัดสินใจแล้วก็ไม่ได้เก็บมาคิดมากอีกความคิดของเขาทั้งหมดจดจ่ออยู่ที่วังหลวงเพราะเจิ้งกุ้ยเหรินยังคงถูกกักบริเวณระหว่างการสอบสวน!เพียงแต่ว่าอ๋องหลงซียังไม่เห็นความผิดปกติใด ๆ ในช่วงนี้ เจิ้งกุ้ยเหรินผู้นี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดเลยเช่นกัน!เรื่องนี้อ๋องเจิ้นตงได้ลงมือใช้กลอุบายหลากหลาย!ในเวลานี้อ๋องเจิ้นตงได้เรียกหวังหยวน อ๋องหลงซีและอ๋องถูหนานมาประชุมกันทั้งสี่คน เพื่อปรึกษากันว่าจะจัดการกับเจิ้งกุ้ยเหรินอย่างไรเมื่อหวังหยวนและอ๋องหลงซีได้ยินเช่นนั้นก็สบตากัน แววตาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ไม่ได้เอ่ยคำใดมากนักทันใดนั้นอ๋องเจิ้นตงก็เอ่ยขึ้นว่า“แม้ว่าข้อเท็จจริงจะยังไม่ชัดเจนนัก แต่... คนข้างกายของเจิ้งกุ้ยเหรินเป็นผู้วางยาพิษด้วยตนเอง แต่หลังจากนั้นก็ได้ฆ่าตัวตาย ข้าคิดว่าเป็นกลอุบายของเจิ้งกุ้ยเหริน ฮึ่ม! ต้องการใช้เรื่องเช่นนี้ปกปิดความผิดของตนเอง คิดจะปิดบังพวกเรา ช่างเป็นความคิดที่เพ้อฝันยิ่งนัก!”“ดังนั้นตอนนี้เราต้องลงโทษเจิ้งกุ้ยเหรินแล้ว!”อ๋องเจิ้นตงเอ่ยขึ้นตามตรงด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเมื่ออ๋องถูหนานได้ฟังเช่นน
“อากู่ต๋า หน้าที่ของท่านก็คือการปกป้องชายแดน เรื่องในวังหลวงเกรงว่าท่านคงจะลงมือจัดการไม่ได้ ดังนั้น... พวกเราทั้งสองก็ไม่ต้องมาสร้างความวุ่นวายที่นี่แล้ว ปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเองเถิด”เมื่อพูดจบ หวังหยวนก็หัวเราะแล้วจากไปพร้อมกับอากู่ต๋าซึ่งภาพนี้ทำให้สีหน้าของอ๋องเจิ้นตงดูไม่สู้ดีนัก แต่ก็พูดอะไรไม่ออกเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องที่ทหารองครักษ์เมืองหวงและองครักษ์เงาต้องสืบสวน หากพวกเขาตรวจสอบไม่ได้ก็เป็นปัญหาของพวกเขาหวังหยวนและอากู่ต๋าไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบที่นี่ ดังนั้นเมื่อพวกเขาจากไป อ๋องเจิ้นตงจึงไม่ได้พูดอะไรมาก“อ๋องหลงซี ท่านตั้งใจจะถ่วงเวลาเรื่องนี้จริงหรือ?”อ๋องเจิ้นตงเอ่ยถาม อ๋องหลงซีฟังแล้วก็หัวเราะทันที“อ๋องเจิ้นตง ท่านคิดจริงหรือว่าองครักษ์เงาของข้าจะสืบสวนเรื่องนี้ไม่พบ?”น้ำเสียงของอ๋องหลงซีเรียบเฉยมาก เมื่ออ๋องเจิ้นตงได้ยินก็ขมวดคิ้ว หัวใจสั่นสะท้านขึ้นมาทันที!เพราะประโยคนี้มีความหมายแฝงเร้นอยู่มากมาย!“อ๋องหลงซี ท่านสืบสวนพบแล้ว เหตุใดจึงไม่ลงโทษอีก? หรือว่ายังต้องการปกป้องเจิ้งกุ้ยเหรินอยู่?”อ๋องเจิ้นตงยังพูดเช่นนี้อีก อ๋องหลงซีจึงหัวเราะขึ้นแล้วกล
อ๋องหลงซีก็หัวเราะทันทีและอดพูดไม่ได้ว่า “คนของท่านหรือ? อ๋องเจิ้นตง ที่นี่ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง คนของท่านมาจากที่ใดกัน?”“คนของท่านล้วนเป็นคนของไทเฮาและไท่จื่อ!”“ข้าขอบอกความจริงแก่ท่านว่าก่อนที่ทหารองครักษ์ผู้นี้จะติดตามท่าน เขาเคยเป็นคนของหน่วยองครักษ์เงาของพวกข้า!”“บอกตามตรงว่ามีหลายเรื่องที่ข้าไม่ประสงค์จะกล่าวออกมา เพราะต้องการรักษาสมดุลของทุกอย่างไว้ และต้องการให้โอกาสแก่ท่านด้วย!”“ไม่เช่นนั้นข้าก็สามารถจับกุมท่านเพื่อให้ไทเฮาลงโทษได้”“แต่ว่า...หลังจากที่ฮ่องเต้องค์ก่อนและอ๋องเซ่อเป่ยสิ้นพระชนม์ เหลือเพียงพวกเราพี่น้องสามคน ข้าก็ไม่ต้องการ... ให้ท่านต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน!”“ดังนั้น...อ๋องเจิ้นตง บางสิ่งบางอย่างไม่ควรกระทำ ท่านก็อย่าดื้อรั้นต่อไปเลย!”“ไม่เช่นนั้นผู้ที่จะต้องบาดเจ็บสาหัสก็คือตัวท่านเอง เชื่อข้าเถิด!”“ยิ่งกว่านั้นคือเมื่อไทเฮาจากไป ท่านได้มอบอำนาจอันยิ่งใหญ่ไว้ในมือของหวังหยวน หากเขาจะสังหารท่านเพราะเรื่องนี้! ก็ไม่มีผู้ใดสามารถขัดขวางได้!”“เมื่อไทเฮาเสด็จกลับมา ท่านก็จะไม่แก้แค้นให้แก่ท่าน บุคคลอื่นท่านอาจจะไม่ใส่ใจได้ แต่หวังหยวน...
เมื่อหวังหยวนพูดจบ อ๋องถูหนานก็เข้าใจแล้ว ขณะที่ยังคงประหลาดใจก็ถอนหายใจเมื่อคิดว่าอ๋องเจิ้นตงผู้นี้มีปัญหาจริง ๆ!ครั้งก่อนยังได้รับการอภัยโทษไปแล้ว แต่แล้วเขาเล่า?ยังคงไม่สำนึกผิด กลับก่อเรื่องเช่นนี้อีก ยากที่จะเข้าใจได้จริง ๆ!“อ๋องเจิ้นตงมีความทะเยอทะยานอย่างยิ่ง ท่านเรียกข้าออกมา อ๋องหลงซีคงจะได้เปิดอกพูดกับเขาแล้วกระมัง?”อ๋องถูหนานพูดจบ หวังหยวนก็พยักหน้า“น่าจะเป็นเช่นนั้น ไม่ทราบว่าอ๋องหลงซีจะสามารถโน้มน้าวเขาได้หรือไม่ หากโน้มน้าวไม่ได้ คนผู้นี้... เห็นทีต้องลงมือจัดการเสียแล้ว!”หลังจากที่หวังหยวนพูดเช่นนี้ อ๋องถูหนานก็พยักหน้า“เรื่องที่ไทเฮาจากไปแล้วให้เจิ้งกุ้ยเหรินและอันกุ้ยเหรินร่วมกันดูแลวังชั้นใน แล้วให้พวกเราทั้งสี่ร่วมกันปกครองนั้น!”“ก็เพื่อรักษาสมดุล หากมีเพียงพวกเราสามคน เรื่องนี้... คงจะยิ่งวุ่นวายยิ่งขึ้น!”อ๋องถูหนานรู้จุดประสงค์ของไทเฮามานานแล้ว การให้สี่คนร่วมกันบริหารราชการแผ่นดินย่อมดีกว่าสามคนเพราะหากในสามคนนี้ สองคนร่วมมือกันก็จะกลายเป็นผู้ครอบงำราชสำนักไม่ใช่หรือ!สี่ท่านอย่างน้อยก็มีหวังหยวนและอ๋องหลงซีที่จะไม่ทำเช่นนั้น!เช่นนี้อย่างน้อ