แชร์

บทที่ 1271

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หวังหยวนยกยิ้มจางก่อนจะพยักหน้า

“แน่นอนว่าเป็นความจริง ไทเฮาประชวร ต้องไปรักษาครึ่งปี ดังนั้น... เพื่อไม่ให้เมืองหวงแห่งนี้วุ่นวาย ข้าจึงต้องมา”

หวังหยวนไม่ได้ปิดบังเฉินอวิ๋นจื้อ เมื่อเฉินอวิ๋นจื้อได้ยินเช่นนั้นจึงรู้สึกประหลาดใจ

“ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง ได้ยินข่าวลือมาบ้าง แต่ไม่คิดเลยขอรับว่าจะเป็นจริง”

“คุณชาย ขณะนี้ท่านอยู่ที่นี่ยังไม่ปลอดภัยนัก จะให้เปิดองค์กรเครือข่ายผีเสื้อทั้งหมดหรือไม่ขอรับ?”

เฉินอวิ๋นจื้อถามขึ้นตามตรง หวังหยวนที่ได้ยินเช่นนั้นก็โบกมือ

“ไม่เป็นอะไร ข้าปกป้องตนเองได้”

“ยิ่งกว่านั้นคือแม้จะเปิดทั้งหมด และมีคนมากมายเพียงใด ที่นี่ก็คือเมืองหลวงของเมืองหวงอยู่ดี!”

“ทหารองครักษ์เมืองหวงและองครักษ์เงาร่วมกันสอดส่องดูแลอยู่แล้ว พวกเราอย่าเพิ่งเปิดเผยตัวตนมากเกินไป ไม่เช่นนั้นอาจถูกถอนรากถอนโคนได้!”

หลังจากหวังหยวนกล่าวจบ เฉินอวิ๋นจื้อก็พยักหน้า

ทั้งสามพูดคุยกันสักครู่แล้วเฉินอวิ๋นจื้อก็จากไป

เมื่อเขากลับถึงที่พักก็พบว่าหงหยิ่งกำลังทำอาหารอยู่!

หงหยิ่งในเวลานี้มีใบหน้าเปื้อนยิ้ม เจตนาฆ่าฟันในสีหน้าท่าทางน้อยลงไปมาก

ไม่เพียงเท่านั้น ในเวลานี้บนใบหน้าของนางยั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1272

    ในช่วงแรกเฉินอวิ๋นจื้อยังตั้งใจจะจับตาดูสองสามครั้ง แต่ก็พบว่าหลังจากที่หงหยิ่งออกไปแล้วก็ไม่เกิดอะไรขึ้นจึงขี้เกียจที่จะสนใจ!เพียงแต่ว่าครั้งนี้เขาไม่คิดว่าหงหยิ่งจะออกจากที่นี่ไปแต่ไม่ได้ไปซื้อของ นางกลับเดินเข้าไปในตรอกแห่งหนึ่ง ไม่นานก็เข้าไปในบ้านร้างหงหยิ่งเพิ่งจะเข้าไปก็เห็นชายหนุ่มในชุดแดงนั่งอยู่ที่นั่น“ท่านพี่!”เมื่อหงหยิ่งเห็นชายผู้นี้ก็รีบเรียกทันทีชายผู้นี้ไม่ใช่คนอื่น เขาเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเซิ่งตงฉยง!หงซา!“น้องสาว ไม่ได้เจอกันเสียนาน!”หงซากล่าว เมื่อได้ยินเช่นนั้นหงหยิ่งก็รีบกล่าวว่า“พี่ชาย ข้ารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว พวกท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่? คุณชายใหญ่... สบายดีหรือไม่?”หงหยิ่งรู้ว่าเมืองหวงและตระกูลไป๋ร่วมมือกันจัดการกับตระกูลเซิ่ง ทำให้ตระกูลเซิ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพึ่งพาต้าเย่!สำหรับเรื่องนี้หงหยิ่งรู้สึกโกรธแค้นมาก เพียงแต่ว่าแม้จะโกรธแค้นก็ไร้ประโยชน์!หลังจากนั้น...นางคนเดียวก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้“ทุกอย่างเรียบร้อยดี น้องสาว พี่เป็นห่วงเจ้านัก”“เพียงแต่ว่าบัดนี้ตระกูลเซิ่งทำได้เพียงก้มหัวให้กับต้าเย่เท่านั้น ไม่ว่าจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1273

    เจตนาของเซิ่งตงฉยงนั้นเรียบง่ายมาก เพียงแค่หวังว่าเมื่อหวังหยวนตายไปแล้ว โลกทั้งใบจะต้องวุ่นวายอย่างแน่นอน!อย่างง่ายที่สุดก็คือเมืองหวงจะต้องสั่นคลอน!หากหวังหยวนตายที่นี่ แล้วโยนความผิดให้เมืองหวง เมืองหลิงจะต้องไม่ยอมอย่างแน่นอน!เมื่อถึงเวลานั้นย่อมต้องมีผู้ติดตามของหวังหยวนที่ต้องการจัดการกับเมืองหวง!นอกจากนี้หากหวังหยวนตาย เมืองหลิงก็จะต้องรับเคราะห์ไปด้วย!เพราะเมื่อหวังหยวนยังอยู่ อาจทำให้พวกเขาไม่กล้าลงมือ แต่หากไม่มีหวังหยวนแล้ว พวกเขาย่อมไม่ปล่อยเมืองหลิงไปอย่างง่ายดายแน่นอน!ไม่ว่าจะเป็นตระกูลไป๋ ต้าเย่หรือแม้แต่พวกหมานอี๋!ล้วนเป็นเช่นนั้น!การมีอยู่ของหวังหยวนนั้นเปรียบเสมือนกำแพงอันแข็งแกร่งสำหรับทั้งโลก!การที่พวกเขาจะก้าวข้ามหวังหยวนไปได้นั้นยากเย็นยิ่งนัก!ดังนั้น...หวังหยวนต้องตาย!มีเพียงกรณีนี้เท่านั้น โลกทั้งใบถึงจะวุ่นวายอีกครั้ง!และตระกูลเซิ่งก็ย่อมมีหนทางที่จะจับปลาในน้ำขุ่น!“ข้าเข้าใจแล้ว!”หงหยิ่งพยักหน้าทันที หลังจากพูดจบ หงซาจึงกล่าวขึ้นว่า“แต่เรื่องนี้เจ้าต้องทำอย่างระมัดระวังที่สุด อย่าให้ใครรู้ว่าเป็นฝีมือเจ้า จะดีที่สุดถ้า... โยนควา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1274

    เมื่อถึงเวลานั้นก็จะฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย!“ข้า... ข้าจะไปบอกคุณชายเดี๋ยวนี้!”ตอนนี้เฉินอวิ๋นจื้อรีบพูด แล้วรีบเดินทางไปหาหวังหยวนอีกครั้งเขาเพิ่งจะกลับไปจากที่นี่ แต่ตอนนี้กลับมาอีกครั้ง ทำให้หวังหยวนและเกาเล่ออึ้งไปครู่หนึ่ง“เอ๊ะ? เฉินอวิ๋นจื้อ เจ้ากลับมาอีกแล้วหรือ?”เกาเล่อถามด้วยความแปลกใจ“คือ... คือว่า... ข้ามีเรื่องอยากปรึกษาคุณชายขอรับ!”เฉินอวิ๋นจื้อหายใจหอบ หลังจากพูดประโยคนี้จบก็ทำให้เกาเล่ออึ้งไป“มีเรื่องอะไรก็พูดมาเถิด”หวังหยวนไม่ได้สนใจ บอกให้เขาพูดมาตามตรง“เป็นเช่นนี้ขอรับคุณชาย ท่านมาพอดี ข้า... ข้าอยากแต่งงานกับหงหยิ่ง จึงอยากขอให้ท่าน... ช่วยมาเป็นพยานให้ด้วยขอรับ!”เฉินอวิ๋นจื้อตื่นเต้นมาก แต่เมื่อเกาเล่อได้ฟังเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วแล้วรีบพูดว่า “เฉินอวิ๋นจื้อ สถานะของเจ้าไม่เหมือนคนอื่น เกรงว่าจะจัดงานใหญ่โตไม่ได้กระมัง?”“อีกทั้ง... เจ้ากับหงหยิ่งอยู่ด้วยกันมานานแล้ว ในสายตาของทุกคน พวกเจ้าก็เป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว...”หลังจากที่เกาเล่อพูดจบ เฉินอวิ๋นจื้อก็พยักหน้า “ข้าเข้าใจ จะไม่จัดงานใหญ่โตหรอก เพียงแค่... ขอให้มีพยานสักคนขอรับ”ความคิดของเฉิน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1275

    หวงเจียวเจียวมาถึงเมืองหวงและเข้ามาในจวนอ๋องเป่ยหลิงของหวังหยวนอย่างรวดเร็วเมื่อนางเดินเข้ามา หวังหยวนถึงกับตะลึง!“เจียวเจียว!”หวังหยวนไม่คิดว่าหวงเจียวเจียวจะมา!“สามี!”หวงเจียวเจียวดีใจมากที่ได้พบหวังหยวน นางรีบวิ่งเข้าไปกอดเขา“เจ้ามาได้อย่างไร? ไม่ได้บอกข้าล่วงหน้าเลยหรือ?”หวังหยวนกอดหวงเจียวเจียวแล้วถามอย่างสงสัย หวงเจียวเจียวได้ยินดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่ซื่อหานและพี่เมิ่งอิ๋งเป็นห่วงท่าน แต่พวกนางไม่กล้ามาหา จึงให้ข้ามาแทน”หวงเจียวเจียวพูดด้วยรอยยิ้ม หวังหยวนฟังแล้วจึงยิ้มทันที เขารู้ว่าหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ เป็นห่วงเขา แต่ก็ไม่สามารถมาหาได้ เพราะต้องมีคนเฝ้าที่เมืองหลิงธุรกิจมากมายก็ต้องทำดังนั้น...หวงเจียวเจียวจึงเหมาะสมที่สุด เพราะนางเป็นคนเมืองหวงตั้งแต่แรก และตำแหน่งของนางที่นี่ก็สูงส่งมาก เป็นถึงธิดาของอ๋องหลงซี ซึ่งก็ถือว่าเป็นองค์หญิงเช่นกันหากมีนางอยู่ด้วยก็สามารถช่วยเหลือเขาได้หลายอย่างหวังหยวนยิ้มและไม่ได้เอ่ยคำใดอีก ยิ่งกว่านั้นคือเขาก็คิดถึงพวกนางเหมือนกัน หวงเจียวเจียวมาดูแลเขาได้ก็ถือว่าดีไม่น้อย“แต่เจ้ามาที่นี่เอง พวกนางทั้งสอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1276

    “ลูกพี่ คุณชายไม่มาด้วยหรือ?”เฉินอวิ๋นจื้อรู้สึกประหลาดใจมากเกาเล่อได้ยินดังนั้นก็ตอบว่า “เดิมทีจะมาแล้ว แต่จู่ ๆ อ๋องหลงซีก็มาหารือธุระด้วย คุณชายจึงไม่สะดวกที่จะปฏิเสธ ยิ่งกว่านั้นคือสถานะของเจ้าก็ไม่ธรรมดาด้วย ดังนั้น... คุณชายจึงให้ฮูหยินมาแสดงความยินดีแทน”ในเวลานี้เกาเล่อพูดด้วยรอยยิ้ม เมื่อพูดจบ หวงเจียวเจียวก็พูดว่า“เหล่าเฉิน นานแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน นี่คงจะเป็นภรรยาของเจ้าใช่หรือไม่”เฉินอวิ๋นจื้อมีความสุขมาก รีบพูดว่า “นี่คือภรรยาของข้าเอง ฮูหยินโปรดอย่าได้หยอกล้อเลยขอรับ”“ฮ่าฮ่า โชคดีจริง ๆ นะเหล่าเฉิน หลังจากนี้เจ้าต้องดูแลนางให้ดีนะเข้าใจหรือไม่? นางอุตส่าห์เดินทางมาจากอาณาจักรต้าอันเพื่อมาอยู่ที่นี่กับเจ้า ถือว่าเป็นการยอมละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนของตน ถ้าหากเจ้าทำตัวไม่ดีกับนาง ข้าจะเป็นคนแรกที่ไม่ปล่อยเจ้าไป!”หวงเจียวเจียวพูดพลางจับมือหงหยิ่งและหัวเราะแม้ว่าสีหน้าของหงหยิ่งจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังคงยิ้มอยู่นางไม่คิดว่าจะโชคร้ายถึงเพียงนี้ หวังหยวนไม่มา!เดิมทีนางเตรียมกลวิธีสังหารไว้แล้ว!นางคิดแม้กระทั่งว่าจะฆ่าเฉินอวิ๋นจื้อ เกาเล่อและหวังหยวนให้หมด!ให

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1277

    หงหยิ่งหน้าแดงก่ำ สุราแรงเหลือเกิน ตอนนี้นางเริ่มเมาเล็กน้อยแล้ว!“ไม่... ไม่ดื่มแล้ว ข้า...”หงหยิ่งรีบพูด หากดื่มต่อไปอีกคงจะเกิดเรื่องเป็นแน่!แต่เกาเล่อเพียงแค่ยกยิ้มแล้วพูดว่า “น้องสะใภ้ สุราแก้วนี้ข้าขอมอบให้แด่เจ้าทั้งสอง ขอให้แก่เฒ่าด้วยกัน ครองรักกันตลอดไป!”กล่าวจบ เกาเล่อก็หยิบสุราธรรมดาอีกแก้วขึ้นมายกซดรวดเดียว!จากนั้นก็มองไปที่เฉินอวิ๋นจื้อและหงหยิ่ง“ขอบคุณขอรับพี่ใหญ่!”เฉินอวิ๋นจื้อไม่พูดพร่ำทำเพลง ดื่มสุรากระดูกเสือหมดไปอีกถ้วยส่วนหงหยิ่ง...ก็ได้แต่ฝืนใจดื่มตอนนี้เกาเล่อเหลือบมองไปที่หวงเจียวเจียว ซึ่งนางเองก็เข้าใจที่จริงแล้วการกระทำเช่นนี้ไม่ได้เกินเลยสำหรับพวกเขาเพราะคู่บ่าวสาวล้วนต้องดื่มสุรากระดูกเสือ!และนางกับเขาเพิ่งจะดื่มไปสักเท่าไหร่กันเชียว ตามปกติแล้วเมื่อมีแขกเหรื่อมาร่วมงานมากมาย ก็ล้วนต้องฉลองให้ด้วยสุราแม้ว่าพวกเขาจะสงสัยหงหยิ่ง แต่หากสตรีผู้นี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย การกระทำเช่นนี้ของพวกเขาก็ไม่ถือว่าเป็นการวางแผนทำร้ายหญิงสาวที่ยินยอมแต่งงานกับชายหนุ่มแล้วเข้าห้องหอกัน จะยังต้องใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์ทางกายอีกหรือ?ยิ่งไปกว่านั้น หา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1278

    เกาเล่อที่อยู่ด้านนอกได้ยินทุกสิ่งอย่างชัดเจน!สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที!“หงหยิ่ง... แท้จริงแล้ว... มีปัญหา!”เกาเล่อพึมพำจบก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ในใจเต็มไปด้วยความลังเลว่าจะฆ่านางเลยดีหรือไม่!เพราะนางเป็นหญิงสาวที่เพิ่งแต่งงานกับสามี ทั้งที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน แต่กลับไม่ยอมให้ร่วมหอ ทั้งยังถึงขั้นทำให้สามีหมดสติด้วย!ค่ำคืนแรกหลังแต่งงานมีค่าดั่งทอง หากไม่ทำจะถือเป็นลางไม่ดี!เหตุใดนางจึงต้องทำให้เฉินอวิ๋นจื้อหมดสติด้วย?หลังจากสงสัยเพราะประเด็นนี้แล้ว เขาก็แอบจากไปอย่างเงียบเชียบหลังจากเกาเล่อกลับไปแล้ว ก็เล่าเรื่องนี้ให้หวังหยวนฟัง!หวังหยวนได้ฟังเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่นในทันที!“ทุบเฉินอวิ๋นจื้อจนหมดสติหรือ!”เรื่องนี้ทำให้สีหน้าของหวังหยวนไม่ดีเลย!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนในโลกนี้ แต่เขาก็เข้าใจดีว่าในโลกนี้คืนแรกแห่งการแต่งงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในคืนนี้ตราบใดที่ทั้งสองยินยอมแต่งงานกัน ก็ย่อมไม่มีใครไม่เต็มใจ!แน่นอนว่าเว้นแต่จะมีสถานการณ์พิเศษ แต่ทั้งสองต่างก็แต่งงานด้วยความสมัครใจ และยังดื่มสุรากระดูกเสือร่วมกันด้วย ก็ยิ่งน่าจะได้ร่วมสุขกันในคื

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1279

    เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด เมื่อหวังหยวนตัดสินใจแล้วก็ไม่ได้เก็บมาคิดมากอีกความคิดของเขาทั้งหมดจดจ่ออยู่ที่วังหลวงเพราะเจิ้งกุ้ยเหรินยังคงถูกกักบริเวณระหว่างการสอบสวน!เพียงแต่ว่าอ๋องหลงซียังไม่เห็นความผิดปกติใด ๆ ในช่วงนี้ เจิ้งกุ้ยเหรินผู้นี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดเลยเช่นกัน!เรื่องนี้อ๋องเจิ้นตงได้ลงมือใช้กลอุบายหลากหลาย!ในเวลานี้อ๋องเจิ้นตงได้เรียกหวังหยวน อ๋องหลงซีและอ๋องถูหนานมาประชุมกันทั้งสี่คน เพื่อปรึกษากันว่าจะจัดการกับเจิ้งกุ้ยเหรินอย่างไรเมื่อหวังหยวนและอ๋องหลงซีได้ยินเช่นนั้นก็สบตากัน แววตาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ไม่ได้เอ่ยคำใดมากนักทันใดนั้นอ๋องเจิ้นตงก็เอ่ยขึ้นว่า“แม้ว่าข้อเท็จจริงจะยังไม่ชัดเจนนัก แต่... คนข้างกายของเจิ้งกุ้ยเหรินเป็นผู้วางยาพิษด้วยตนเอง แต่หลังจากนั้นก็ได้ฆ่าตัวตาย ข้าคิดว่าเป็นกลอุบายของเจิ้งกุ้ยเหริน ฮึ่ม! ต้องการใช้เรื่องเช่นนี้ปกปิดความผิดของตนเอง คิดจะปิดบังพวกเรา ช่างเป็นความคิดที่เพ้อฝันยิ่งนัก!”“ดังนั้นตอนนี้เราต้องลงโทษเจิ้งกุ้ยเหรินแล้ว!”อ๋องเจิ้นตงเอ่ยขึ้นตามตรงด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเมื่ออ๋องถูหนานได้ฟังเช่นน

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1870

    “ขอเพียงท่านไว้ชีวิตข้า เงินเหล่านี้ล้วนเป็นของท่าน!”“ถือเสียว่าข้าขอขมาลาโทษ!”หวังหยวนเย้ยหยัน หรือว่าเจ้าผู้นี้คิดว่าเงินทองซื้อได้ทุกอย่าง?หวังหยวนเตะเข้าที่ข้อมือของเขา ตั๋วเงินปลิวว่อน ผู้คนที่มุงดูต่างกรูกันเข้ามาแย่งชิง!สถานการณ์ช่างอลหม่าน!เฉินเทียนรู้สึกราวกับหัวใจถูกบีบ!เงินจำนวนมากถูกคนอื่นแย่งชิงไปหมดแล้วหรือ?ในใจเขาจะรู้สึกดีได้อย่างไร?“ท่านผู้นำ จะจัดการกับมันอย่างไรดีขอรับ?”เกาเล่อที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้ว“พาตัวเขาไปหาตระกูลเฉิน ข้าอยากรู้ว่าเฉินเจิ้นหนานผู้นี้มีความสามารถมากเพียงใด!”“ถึงกล้าปล่อยให้ลูกชายอาละวาดในเมืองอู่เจียง!”หวังหยวนกล่าวอย่างเย็นชาหากเขามาไม่ถึงที่นี่คงไม่ยุ่งเรื่องวุ่นวายของชาวบ้านเช่นนี้ แต่ในเมื่อเขามาถึงเมืองอู่เจียงแล้ว ที่นี่ก็เป็นเขตของเขา เมื่อพบเจอคนพาล ย่อมไม่อาจปล่อยไปได้ง่าย ๆ!เหงื่อเม็ดโตหยดลงมาจากหน้าผากของเฉินเทียนไม่หยุดขอเพียงไม่เอาชีวิตเขาก็ยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์ไม่ว่าหวังหยวนจะมีความสามารถล้นฟ้าหรือไม่ เมื่อไปถึงตระกูลเฉิน หวังหยวนย่อมไม่สามารถทำอะไรได้แน่นอน!ในเมืองอู่เจียง ไม่มีใครไม่ให้เกียรติ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1869

    เฉินเทียนที่เพิ่งถูกหวังหยวนสั่งสอนวิ่งนำหน้าคนกลุ่มหนึ่งมา ปรากฏว่าเขาพาบ่าวไพร่มาล้อมพวกหวังหยวนไว้เกาเล่อมองไปที่หวังหยวน ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยเท่าที่เขาจำได้ เขาไม่เคยเห็นเฉินเทียนมาก่อน จู่ ๆ อีกฝ่ายก็มาหาเรื่องพวกเขาหรือว่าเป็นเพราะหวังหยวน?แต่หวังหยวนเพิ่งมาถึงเมืองอู่เจียง จะสร้างศัตรูเร็วเช่นนี้เลยหรือ?หวังหยวนไม่ได้อธิบาย เพียงแต่จ้องมองไปที่เฉินเทียนแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “ไม่มีเวลาสนใจเจ้า รีบไสหัวไปซะ!”“ไม่เช่นนั้นก็จงรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง!”ได้ยินเช่นนั้น เฉินเทียนไม่เพียงไม่กลัว กลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา!เขาชี้หน้าหวังหยวนแล้วกล่าวเยาะเย้ย “สมองเจ้าโดนลาเตะมาหรือ?”“เจ้าดูสิว่าที่นี่คือที่ใด!”“ดูฐานะของข้าด้วย!”“ข้าเป็นคนของตระกูลเฉิน!”“ในเมืองอู่เจียง นอกจากสามตระกูลใหญ่แล้ว แม้แต่ผู้ว่าราชการเมือง เมื่อเจอข้าก็ยังต้องพูดจาด้วยความเคารพ!”“เจ้าเป็นใครไม่ทราบ?”สีหน้าของเกาเล่อพลันเปลี่ยนไปทั่วทั้งใต้หล้ามีสักกี่คนที่กล้าพูดกับหวังหยวนเช่นนี้ ช่างบังอาจนัก!ในพริบตาก็เห็นเขาวิ่งไปหาเฉินเทียนอย่างรวดเร็ว และเตะเข้าที่หน้าอกของเฉินเทียน!เฉินเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1868

    แม้แต่หวังหยวนก็ไม่กล้ากระโดดลงมาจากชั้นสามโดยง่าย !แต่เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะประเมินแม่นางหรูเยียนต่ำเกินไป นางกลับเหาะหนีไปต่อหน้าต่อตา!ช่างน่าเจ็บใจยิ่งนัก!“ดูท่าต้องหาวิธีอื่นแล้ว!”หวังหยวนพึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็เตรียมลงไปชั้นล่างอย่างไรเสีย ตอนนี้ก็จำใบหน้าของแม่นางหรูเยียนได้แล้ว แค่บอกกล่าวกับเกาเล่อ ต่อไปก็ยังสามารถตามหาตัวนางได้นางคิดหนี มีหรือจะง่ายดาย?ไม่มีทางหนีรอดพ้นฝ่ามือของเขาไปได้!หวังหยวนตัดสินใจแน่วแน่ จากนั้นก็เดินลงไปชั้นล่างในขณะนี้แม่นางหรูเยียนกระโดดลงมาจากชั้นสาม และกำลังหลบอยู่ในตรอกแห่งหนึ่งโชคดีที่นางเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาและใบหน้ายังคลุมด้วยผ้าขาว ไม่มีใครจำนางได้ จึงไม่เกิดความวุ่นวายใด ๆ“ข้าจำเจ้าได้ หวังหยวนใช่หรือไม่?”“เจ้ารอข้าก่อนเถิด!”“ฟ้ายังมีตา วันหน้าข้าจะกลับมาแก้แค้นเจ้า!”“ถึงตอนนั้นข้าจะให้เจ้าคุกเข่าต่อหน้าข้าแล้วก้มหัวขอขมาข้า!”“เพื่อให้เจ้ารู้ว่า การบังอาจรุกรานข้ามีผลเช่นไร!”แม่นางหรูเยียนพูดต่ออีกสองสามประโยค จากนั้นไม่เอ่ยคำใดอีก เดินลึกเข้าไปในตรอกอย่างรวดเร็ว!ในเมืองอู่เจียง หวังหยวนมีอำนาจล้นฟ้า หากเขาต้อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1867

    “เจ้าช่างสมควรตายจริง ๆ...” แม่นางหรูเยียนกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของหวังหยวนที่ดูจริงจังไร้ซึ่งการล้อเล่น นางก็ทำได้เพียงสะกดกลั้นความโกรธไว้นางครุ่นคิดด้วยความลังเลชั่วครู่ ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ว่ามาเถิด ท่านปรารถนาจะรู้เรื่องใดจากข้า?”หวังหยวนเผยยิ้มมุมปาก “ไม่ยากเลย ข้าเพียงต้องการรู้ที่ตั้งของพรรคทมิฬเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ ข้าไม่จำเป็นต้องรู้อะไรทั้งสิ้น”“เจ้าเชื่อมั่นศรัทธาในพรรคทมิฬมากและเชื่อมั่นในความสามารถของสาวกพรรคทมิฬ ต่อให้เจ้าจะบอกที่ตั้งแก่ข้า เจ้าก็คงมั่นใจว่าเบื้องบนย่อมรับมือได้ ดังนั้นการเปิดเผยเรื่องนี้ก็ไม่มีผลอะไรไม่ใช่หรือ?” แม่นางหรูเยียนมีสีหน้าเคร่งเครียด นางไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะวางแผนโจมตีพรรคทมิฬ! หากเขารู้ที่ตั้งฐานทัพของพรรคทมิฬ พรรคทมิฬคงไม่รอดพ้นเงื้อมมือเขาเป็นแน่! ยิ่งช่วงนี้สาวกพรรคทมิฬได้ออกอาละวาดทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้าด้วย ไม่ใช่แค่หวังหยวน แม้แต่ราชวงศ์ต้าเย่และต้าเป่ยต่างก็ต้องการกำจัดพรรคทมิฬให้สิ้นซาก!หวังหยวนและคนเหล่านั้นต่างยืนอยู่ฝ่ายเดียวกันหากพวกเขาร่วมมือกัน พรรคทมิฬคงถึงคราวต้องลำบาก...

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

DMCA.com Protection Status