แชร์

บทที่ 1235

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เขาได้แต่ยืนอยู่กับที่ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เมื่อเห็นสีหน้าอันน่าเวทนาของหวังหยวนแล้วก็อดสงสารไม่ได้ รู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้แตกต่างจากบุตรชายคนโตของตระกูลร่ำรวยคนอื่น ๆ

ความเมตตาในใจแวบผ่านเข้ามา ชาวบ้านทุกคนล้วนมีความเมตตาที่บริสุทธิ์

“คุณชาย หากไม่รังเกียจก็โปรดตามข้ากลับไป ที่บ้านมีเพียงผักดอง ไม่รู้พวกท่านจะกินกันได้หรือไม่”

เมื่อชายวัยกลางคนพูดจบก็หันหลังแล้วเดินไปตามทางที่ไม่ไกลนัก แสดงท่าทางกระตือรือร้น แนะนำทิวทัศน์ของที่นี่ให้หวังหยวนและคนอื่น ๆ ตลอดทาง

ทั้งยังเล่าตำนานต่าง ๆ มากมายในท้องถิ่น หวังหยวนฟังชายวัยกลางคนเล่าเรื่องตลอดทาง

ต้าหู่เดินตามมาอย่างจำใจ ไม่รู้ว่าหวังหยวนกำลังคิดอะไรอยู่?

“พี่ชาย ข้าเห็นว่าที่ดินอันอุดมสมบูรณ์มากมายในบริเวณนี้ถูกทิ้งร้างไว้ เหตุใดจึงไม่มีใครเพาะปลูกเลยเล่า?”

หวังหยวนเดินมาไกลแล้วจึงถามคำถามที่อยู่ในใจ เมื่อแรกเริ่มกลัวว่าจะพูดจาตรงไปตรงมาเกินไปจนทำให้ชายวัยกลางคนหวาดระแวง

ตลอดทางชายวัยกลางคนแนะนำขนบธรรมเนียมประเพณีในท้องถิ่นให้กับพวกเขา ดูเหมือนว่าความหวาดระแวงจะไม่สูงเท่าช่วงแรก

“เพาะปลูกหรือ? ใครเล่าจะกล้า?”

“คุณชาย ข้าไม่กลัวที่จ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1236

    แม้แต่เชียนหลงซึ่งปกติจะวางท่าทีเงียบขรึมไม่แยแสอยู่เสมอ ยังอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น และอยากสัมผัสประเพณีการจัดงานรื่นเริงของที่นี่“ท่านทั้งสองอย่าไปสนใจความคึกคักเช่นนี้เลย นี่ไม่ใช่งานแต่งงานธรรมดา นั่นผู้ใหญ่บ้านตระกูลกวนของเรา เขากำลังจะแต่งงานกับอนุภรรยา”“ครอบครัวของพวกเขาเองก็ครอบครองที่ดินไว้ไม่น้อย ช่วงหลังมานี้ยังโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เพราะหวังผลประโยชน์บางอย่าง จึงให้พวกเราชาวบ้านเช่าที่ดินเหล่านี้”ชายวัยกลางคนรีบเรียกต้าหู่ที่กำลังจะออกไปดูความคึกคักทันที กลัวว่าหากคลาดสายตาเพียงครู่เขาจะก่อเรื่องขึ้นได้ แม้ว่าคนเหล่านี้จะดูมีฐานะก็ตามดั่งสุภาษิตที่กล่าวไว้ ว่ามังกรที่แข็งแกร่งก็ไม่สามารถกดหัวงูเห่าในท้องถิ่นได้ แม้ว่าจะมีความสามารถมากเพียงใดก็ใช่ว่าจะสามารถต่อกรกับผู้ใหญ่บ้านได้“แต่งงานกับอนุภรรยาหรือ?”หวังหยวนรู้สึกแปลกใจ ผู้ชายมีสามภรรยาสี่อนุก็เป็นเรื่องปกติ แต่อีกฝ่ายเป็นเพียงผู้ใหญ่บ้านตัวจ้อย กลับอู้ฟู่ถึงขั้นจัดงานแต่งงานกับอนุภรรยา ซึ่งชาวบ้านเหล่านี้ก็ดูเหมือนไม่ค่อยยินดีด้วยสักเท่าไหร่แม้แต่คนที่มีฐานะดีหน่อยยังแต่งอนุภรรยาอย่างน้อยสักหนึ่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1237

    “เมื่อแขกทุกคนมอบของขวัญแล้วก็พากันกลับไปเสีย ผู้ใหญ่บ้านจะจดจำของขวัญที่ทุกคนมอบให้ไว้อย่างแน่นอน วางใจเถิดว่าของที่เจ้าปรารถนาจะตกไปอยู่ในมือของเจ้าแน่”ผู้รับของขวัญไม่ได้กล่าววาจาใดเพิ่มเติม แต่ไล่ชาวบ้านเหล่านั้นกลับไปโดยทันที ใบหน้าของเขาแสดงความรำคาญราวกับเห็นฝูงแมลงวันเมื่อหวังหยวนเห็นเช่นนั้นก็ล้วงเงินออกมาจากอกเสื้อสองสามตำลึงวางไว้บนโต๊ะ แล้วเขียนชื่อลงในสมุดบัญชีอย่างลวก ๆ ผู้รับของขวัญมองเงินบนโต๊ะแล้วตาเป็นประกายชาวบ้านยากไร้เหล่านี้คงไม่มีปัญญามอบเงินให้ได้ แม้แต่เหรียญทองแดงก็ยังไม่มีให้ จึงได้แต่นำข้าวสารที่ไร้ค่ามาแสดงความยินดี“คุณชาย เชิญข้างใน เชิญข้างใน...”หวังหยวนโบกมือแล้วพาต้าหู่และเชียนหลงเข้าไปในประตูใหญ่ แม้จะเป็นเพียงการแต่งอนุภรรยา แต่ภายในก็ตกแต่งอย่างประณีตโคมไฟส่องสว่างทั่วบริเวณบ่งบอกถึงความรื่นเริง บนโต๊ะเลี้ยงมีทั้งไก่ เป็ด ปลา เนื้อสัตว์มากมาย ผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้ามารับประทานอาหารล้วนเป็นเศรษฐีมีชื่อเสียงในท้องถิ่นหวังหยวนและพรรคพวกเลือกหาที่นั่งในมุมที่เงียบสงบ พวกเขาเพียงต้องการดูว่าผู้ใหญ่บ้านมีอำนาจมากเพียงใด?ขูดรีดชาวบ้านอย่างโจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1238

    ไม่นึกเลยว่าคราวนี้จะมีคนไม่รู้จักที่ตายกล้าเข้ามาหาเรื่องอีก อยากเห็นนักว่าต้าหู่จะพบจุดจบอันน่าเศร้าเช่นไร?ฝูงชนที่มุงดูต่างนั่งชมเหตุการณ์อยู่เฉย ๆ พวกเขาชินกับเรื่องเช่นนี้เสียแล้วยิ่งกว่านั้นคือพวกเขายังรู้สึกว่านี่คือความบันเทิง ทุกครั้งที่เห็นภาพเช่นนี้ก็จะรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากใคร่เห็นชายหนุ่มตรงหน้าร้องไห้คร่ำครวญคุกเข่าขอความเมตตา ผู้ใหญ่บ้านสำหรับพวกเขาเป็นผู้ที่สูงส่งเกินเอื้อม“โครม ปัง...”ได้ยินเสียงดังสนั่น ผู้คนต่างหลับตาลงด้วยความตกใจ แล้วก็ลืมตาขึ้นด้วยความตื่นเต้น อยากจะดูว่าชายหนุ่มที่ก่อเรื่องก่อนหน้านี้ตายไปแล้วหรือยังแต่แล้วเรื่องที่ทำให้พวกเขาตกใจก็ปรากฏ พวกเขาเห็นชายหนุ่มที่พ่อบ้านของผู้ใหญ่บ้านเรียกตัวมาเมื่อครู่ ล้มลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นอย่างไม่รู้เป็นตายร้ายดีชายหนุ่มที่ก่อเรื่องยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางองอาจสง่างาม ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย“ใครกล้ามาหาเรื่องในงานแต่งงานของข้า หรือว่าไม่อยาก...”ชายวัยห้าสิบเศษเดินออกมาจากห้องด้านใน ทั่วทั้งร่างกายของเขาแผ่กลิ่นอายที่โหดเหี้ยมอย่างมาก ตัวไม่สูงนัก ใบหน้ามีรอยยิ้มแสยะอย่างชั่วร้าย“ไอ้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1239

    เมื่อสมาชิกตระกูลกวนเห็นเช่นนั้นต่างก็อึ้งไปชั่วครู่ และไม่อยากเชื่อสายตา!เด็กหนุ่มผู้นี้ช่างหยิ่งยโสเสียจริง!กวนเสี่ยวไห่ฮึดฮัดและตะโกนว่า “เจ้ากล้าทำร้ายข้า เชื่อหรือไม่ว่าหากบิดาของข้ามาถึง ย่อมจะฆ่าเจ้าให้ตายได้!”หวังหยวนไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย สั่งให้ต้าหู่มัดกวนเสี่ยวไห่ไว้ และมัดผู้ใหญ่บ้านไว้ด้วยเช่นกันจากนั้นหวังหยวนก็ก้าวไปยืนอยู่บนแท่นสูง มองไปที่คหบดีและชาวนาเหล่านั้นแล้วกล่าวว่า“ชาวบ้านทั้งหลาย บัดนี้กฎหมายใหม่ของเมืองหลิงได้ประกาศใช้แล้ว ทุกคนสามารถทำไร่ไถนาได้ ทุกคนสามารถค้าขายได้ สิ่งที่เราต้องการคือทำให้ทุกคนร่ำรวยและเข้มแข็ง!”“ไม่ใช่ปล่อยให้เพียงแค่คหบดีและตระกูลผู้มั่งคั่งไม่กี่ตระกูลร่ำรวย ชีวิตเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ ดังนั้นเราจึงควรสามัคคีกันเข้าไว้!”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ แม้ว่าเมืองหลิงจะไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีหมู่บ้านบนภูเขาห่างไกลที่มีลักษณะเช่นเดียวกันนี้มากมายเหลือเกิน กฎหมายใหม่ของหวังหยวนอาจประกาศใช้ได้ แต่เมื่อพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว บางพื้นที่ก็ห่างไกลจากเมืองหลวงเกินไป จึงไม่สามารถบังคับใช้ได้ทีเดียว!ท้ายที่สุดแล้ว หวังหยวนไม่มีคนมากมายน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1240

    เขาสามารถทำให้ทุกคนร่ำรวยได้ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องมีสมเหตุสมผล มีคุณธรรมและถูกกฎหมาย!หากกองเงินที่ได้มานั้นมาจากการเหยียบย่ำร่างของคนยากจน นั่นไม่ใช่เงินแต่เป็นเลือดต่างหาก!นั่นไม่ใช่หนทางแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ!นั่นไม่ใช่หนทางแสวงหาความร่ำรวย!หากเป็นพื้นที่อื่น หวังหยวนอาจไม่สนใจเนื่องด้วยไม่สามารถจัดการได้!แต่เมืองหลิงแห่งนี้เขาต้องเป็นผู้กำหนด!“พี่ชาย ข้าเข้าใจความหมายของท่าน ไม่ต้องกังวลเลย เรื่องนี้ข้ามีขอบเขตจริง ๆ!”หวังหยวนยกยิ้มเพื่อให้เขาสบายใจหลิวต้าฮั่นถอนหายใจและไม่พูดอะไรอีกไม่นานก็ใกล้จะถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ชาวบ้านจำนวนมากไม่กล้าอยู่ต่อ รีบแยกย้ายกลับบ้านไปต้าหู่ก็ไปจัดการธุระเช่นกัน ส่วนเชียนหลงนั่งอยู่ข้างหวังหยวนนางเฝ้ามองชายผู้นี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น“คุณชาย แม้ว่าท่านจะช่วยพวกเขาได้และความสามารถของท่านสามารถช่วยเหลือใครก็ได้จริง แต่...สิ่งที่ท่านทำนับว่าเป็นการละเมิดกฎของโลกนี้หรือไม่?”เมื่อเชียนหลงพูดจบ หวังหยวนก็เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ของนาง!“เจ้าหมายความว่า ข้าแทรกแซงพวกเขาใช่หรือไม่?”เมื่อหวังหยวนพูดจบ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1241

    เมื่อหวังหยวนเอ่ยคำถามนี้จบลง เชียนหลงก็ชะงักไปครู่หนึ่งนางไม่รู้ว่าเหตุใดหวังหยวนถึงได้ถามคำถามนี้ขึ้นมาในทันใด!ต้องรู้ก่อนว่าคำว่าชีวิตนั้นเป็นคำถามที่ยากที่สุดในยุคสมัยนี้แล้ว! เกรงว่าจะหาผู้ที่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนได้ยากนัก!แต่เชียนหลงเป็นคนฉลาด นางรู้ว่าเนื่องจากหวังหยวนถามคำถามนี้ขึ้นมา ทั้งยังถามในเวลานี้ด้วยแล้ว ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องตรงหน้าเป็นแน่!ดังนั้น...นางจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “คุณชาย ชีวิตนั้นยากเกินกว่าจะบรรยายได้ หากให้ข้ากล่าว… อาจจะกล่าวได้ว่าการได้อยู่อย่างสุขสบายนั้นสำคัญที่สุด”เมื่อเชียนหลงกล่าวจบ หวังหยวนก็ชะงักไปครู่หนึ่งสตรีผู้นี้กล่าวคำพูดที่ค่อนข้างลึกซึ้งเหมือนเขาไม่มีผิด!แต่ตัวเขานั้นมีประสบการณ์จากชาติก่อน จึงมีความคิดเช่นนี้ในชาติก่อนเขาใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับการเล่าเรียน ไม่ทันได้เสพสุขก็ตายไปเสียแล้วโชคดีที่ในชาตินี้มีจิตสำนึกจากชาติก่อนติดสอยห้อยตามมาด้วย ถึงรู้สึกว่าชาติก่อนของตนนั้นขาดทุนมากชาตินี้จึงต้องเสพสุขให้เต็มที่ทว่าเชียนหลงผู้นี้...เหตุใดจึงมีแนวคิดเช่นนี้ได้?ตามเหตุผลแล้วนางน่าจะชอบเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1242

    พวกเขามาถึงหมู่บ้านอย่างรวดเร็วพร้อมส่งเสียงคำรามเมื่อเห็นหวังหยวน และลูกชายของเขาที่ถูกจับมัดแขวนอยู่!“ไอ้สารเลว! ไอ้ชาติหมา ปล่อยลูกชายข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าฆ่าเจ้าแน่!”กวนเจิ้นสยงผู้เป็นหัวหน้าตระกูลกวนแค่นเสียงคำรามเบื้องหลังมีคนกว่าร้อยคนชักดาบใหญ่ออกมา บรรยากาศก้าวร้าวรุนแรงมาก!ชาวบ้านต่างตกใจกลัว วิ่งเตลิดด้วยความขวัญผวา!“ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย... ต้องฆ่าไอ้สุนัขตัวนี้ให้ได้ รวมถึงนังหญิงชั่วเหล่านี้ด้วย ต้องฆ่าให้หมด!”กวนเสี่ยวไห่พูด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น!หวังหยวนได้ยินคำกล่าวเช่นนี้ก็เพียงแค่ยิ้มรับ ต่างจากชาวบ้านที่กลัวมากจนคุกเข่าลงกับพื้น“นายท่านกวน ได้โปรดเถิด... อย่าทำร้ายพวกเรา!”“ใช่แล้ว... นายท่าน ได้โปรด...”พวกเขากลัวมาก หวาดกลัวอย่างที่สุด!“หึ! พวกเจ้าสมควรตายทั้งนั้น!”“ไอ้หนุ่ม เจ้าเป็นใคร กล้าแทรกแซงเรื่องกิจการภายในมณฑลงั้นหรือ? ไม่รู้หรือว่าที่นี่ข้าคือสวรรค์!”เขาเยาะเย้ยและเอ่ยด้วยความโกรธเมื่อหวังหยวนได้ยินดังนั้นก็หัวเราะร่า“เจ้าคือสวรรค์หรือ? ช่างน่าขัน!”ที่เมืองหลิงแห่งนี้ไม่มีสวรรค์ ชาวบ้านต่างหากที่เป็นสวรรค์!หาก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1243

    ผู้คนกว่าห้าสิบคนนั้นตายอย่างรวดเร็วเกินไป!รวดเร็วเสียจนหลายคนยังตั้งตัวไม่ทัน!พวกเขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น!เหตุใดคนเหล่านั้นจึงตายได้!เหตุการณ์นี้ทำให้แม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ยังตกใจจนพูดไม่ออก พวกเขาหวาดกลัวมาก!กวนเจิ้นสยงก็ไม่คาดคิดว่าคนของตนเองกว่าห้าสิบคนจากร้อยคนจะถูกปลิดชีวิตได้ในชั่วพริบตา!นี่มัน...นี่มันเกิดอะไรขึ้น เขาไม่อยากจะเชื่อเลย!สำหรับสถานการณ์เช่นนี้ หวังหยวนเพียงแค่ยกยิ้มจากนั้นก็มีคนสิบคนค่อย ๆ เดินออกมาจากบริเวณโดยรอบในมือของพวกเขานั้นถือปืนคาบศิลา!สิบคน!เผชิญหน้ากับร้อยคน ในพริบตาเดียวก็ฆ่าคนไปได้แล้วถึงห้าสิบคน!วิธีการเช่นนี้คงทำให้พวกเขาคาดไม่ถึง!แต่หวังหยวนรู้ว่านี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น!“เจ้า... เจ้าเป็นใคร!”กวนเจิ้นสยงตกใจจนพูดไม่ออก ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง!“ข้าก็คือ... หวังหยวน!”หวังหยวนตะคอกออกมาดังลั่น น้ำเสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว!เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ทุกคนก็ตกใจจนพูดไม่ออก!พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนผู้นี้...คือหวังหยวน!เจ้าผู้ครองเมืองหลิง!ผู้ที่ประกาศนโยบายใหม่ ซึ่งใ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1884

    สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปยังตงฟางฮั่นพลางเอ่ยถามขึ้นแม้เขาจะได้รับฟังเรื่องราวของเมืองอู่เจียงจากเกาเล่อมาบ้าง แต่ก็รู้เพียงผิวเผินเท่านั้นในเมืองอู่เจียงมีสี่ตระกูลใหญ่ ทั้งตระกูลเฉินและตระกูลซูล้วนรวมอยู่ในนั้น!แม้ทั้งสองตระกูลไม่ใช่ตระกูลที่รุ่งเรืองที่สุด แต่ก็มีบทบาทสำคัญในเมืองอู่เจียง!“ท่านหวังทราบหรือไม่ว่าตระกูลซูทำธุรกิจด้านใด?”ตงฟางฮั่นเอ่ยถามอย่างเชื่องช้า“ข้าได้ยินเกาเล่อรายงานว่าตระกูลซูทำธุรกิจขนส่งทางบก”“ว่ากันว่าในอดีต ซูหนานอัน หัวหน้าตระกูลซู เริ่มต้นจากการใช้รถเข็นสามล้อ แล้วค่อย ๆ สร้างฐานะขึ้นมา”“ต่อมาตระกูลซูก็เจริญรุ่งเรืองจนมีอำนาจดังเช่นทุกวันนี้”ทันใดนั้นหวังหยวนก็ตบหน้าผากตนเองอย่างแรง ราวกับนึกอะไรบางอย่างออกธุรกิจขนส่งทางบก!หากมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ ผลประโยชน์ของตระกูลซูย่อมเสียหาย พวกเขาจึงเป็นผู้ที่ต้องการขัดขวางโครงการนี้มากที่สุด!“ท่านตงฟางช่างเฉียบแหลมนัก!”หวังหยวนเอ่ยชมตงฟางฮั่นส่ายหน้ากล่าวว่า “บัดนี้ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นถูกต้องหรือไม่”“แต่ก็ควรไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง”“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเป็นถึงเจ้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1883

    “ข้าคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรพิจารณาว่าการสร้างเขื่อนกั้นน้ำไปขัดผลประโยชน์ของผู้ใด”“หากไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ อีกฝ่ายคงไม่ลงมือเช่นนี้”“เช่นนั้นพวกเราก็จะพบเป้าหมายได้โดยเร็ว”สมแล้วที่ตงฟางฮั่นเป็นบุคลากรที่ใคร ๆ ก็ต้องการ คำพูดของเขาทำให้หวังหยวนรู้สึกกระจ่าง!“เช่นนั้นเอง”“ตอนนี้พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่ม!”“กลุ่มแรกให้ฉุนอวี๋อันไปสืบหาตัวคนที่แอบเข้าใกล้บ่อน้ำเมื่อคืน!”“เพื่อตามหาตัวคนวางยา แล้วเค้นถามข้อมูลจากมันให้ได้!”“อีกกลุ่มหนึ่งต้องไปสืบในเมือง ดูว่าใครได้รับผลกระทบ ก็จะทำให้เรามุ่งเป้าหมายได้ถูกต้อง!”“ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องปลอบขวัญชาวบ้าน หากไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะอ้างเรื่องศาลเจ้ามังกรแล้วหยุดการทำงาน!”“เช่นนั้นจะทำให้การก่อสร้างล่าช้า!”ความคิดของหวังหยวนตรงกับคนอื่น ๆเพราะแท้จริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างเส้นทางคมนาคมทางน้ำเพื่อให้เมืองอู่เจียงพัฒนาจากนั้นก็จะสามารถพัฒนาเมืองหลิงได้!“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้นหรอก!”“ที่จริงข้าพอจะเดาออกแล้วว่าเป็นใคร”“ไม่ทราบว่าท่านหวังจะไปกับข้าหรือไม่?”ตงฟางฮั่นมองหวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1882

    ช่างเป็นเรื่องเหลวไหล!สิ่งที่เรียกว่าศรัทธาและเทพเจ้าก็เป็นเพียงที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อก็มี ไม่เชื่อก็ไม่มีสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ มีที่มาที่ไป หากมีเทพเจ้าและศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นจริง เหตุใดจึงมีผู้คนอดอยากยากไร้อยู่ทั่วทุกหนแห่ง?“ไร้สาระ!”หวังหยวนตำหนิ ฉุนอวี๋อันจึงไม่กล้าพูดต่อ“เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเป็นแน่”“หรือไม่ทุกคนติดโรคระบาดจึงเป็นเช่นนี้!”“รอข้าไปถึงแล้วค่อยว่ากัน!”หวังหยวนหลับตา ไม่พูดกับฉุนอวี๋อันอีกเพื่อไม่ให้ตนเองโมโหฉุนอวี๋อันงุนงง เขาเคยได้ยินชื่อโรคมากมาย แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องโรคระบาดมาก่อน!หรือจะเป็นโรคประหลาด?เมื่อเห็นหวังหยวนไม่สนใจ เขาก็เช็ดเหงื่อ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่นั่งเงียบไม่นานพวกหวังหยวนก็มาถึงเขตก่อสร้าง ชาวบ้านที่ได้ยินข่าวต่างมามุงดู สถานที่แห่งนี้ช่างคึกคักทางด้านตงฟางฮั่นอยู่ท่ามกลางฝูงชน กำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างตงฟางฮั่นเห็นหวังหยวนเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นเดินไปหาหวังหยวน“ท่านตงฟาง ข้าได้ยินเรื่องที่นี่แล้วจึงรีบมา”“ท่านมาก่อน พบเบาะแสอะไรหรือไม่?”ตงฟางฮั่นส่ายหน้า พลางขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ข้าให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1881

    ยามตะวันโด่งฟ้า หวังหยวนกับภรรยายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ“ท่าน!”“เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”“ท่านรีบออกมาเถิดขอรับ!”เสียงของฉุนอวี๋อันเต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเคาะประตูไม่หยุดปกติฉุนอวี๋อันเป็นคนรอบคอบ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียก่อนเสมอด้วยเหตุนี้ฉุนอวี๋อันจึงถูกมองว่าอ่อนแอ ไร้ความสามารถ เมืองอู่เจียงไม่เคยได้รับการจัดการอย่างดี และสี่ตระกูลใหญ่ก็มีอำนาจอยู่เหนือเขา!วันนี้เขากลับกล้ามาหาหวังหยวนถึงห้อง ทั้งยังมารบกวนการนอนของพวกเขา แสดงว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริง ๆ!หวังหยวนค่อย ๆ ยืดตัวบิดขี้เกียจ จากนั้นสวมเสื้อผ้าแล้วเปิดประตูมองไปที่ฉุนอวี๋อันเมื่อเห็นเขามีสีหน้าร้อนรนก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ฟ้าถล่มหรืออย่างไร?”อย่างไรเสียฉุนอวี๋อันก็เคยเป็นผู้ว่าราชการเมือง จึงจำเป็นต้องสงบนิ่ง ไม่หวั่นไหว แม้ภูผาจะถล่มก็ตามไม่เช่นนั้นหากเกิดเรื่องใดขึ้นมา ฉุนอวี๋อันจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้!แต่น่าเสียดายที่ฉุนอวี๋อันไม่ได้รับการฝึกฝน!โชคดีที่เขาเห็นข้อนี้ จึงให้ฉุนอวี๋อันลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1880

    “ต้องระมัดระวังทุกย่างก้าว”เกาเล่อรีบพยักหน้า“อีกอย่าง”“เจ้าไปเมืองผีครั้งนี้ต้องระวังตัวด้วย”“คำพูดของหลิ่วหรูเยียนเชื่อได้ แต่ก็ไม่ควรเชื่อทั้งหมด”“เมืองผีอาจไม่ใช่สถานที่ที่เราจะอยู่ได้ง่าย ๆ...”“หากพบเจอเรื่องยุ่งยากก็ปรึกษาข้าได้ตลอด อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม!”หวังหยวนกำชับอีกสองสามประโยคเกาเล่อเป็นมือขวาของเขา เขาย่อมไม่อยากให้เกาเล่อเป็นอันตราย ไม่เช่นนั้นหวังหยวนจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากบ่ายวันนั้น เกาเล่อเดินทางไปเมืองผีด้วยตัวเองส่วนหวังหยวนก็กลับไปที่พักหลี่ซื่อหานรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหวังหยวนเดินเข้ามา นางก็ยิ้มหวานเดินเข้ามาหา แล้วควงแขนหวังหยวนขณะกล่าวว่า “ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านกำลังทำอยู่ในช่วงนี้”“จะรับอนุภรรยาอีกแล้วหรือ?”หวังหยวนถึงกับหน้าเสียใครปากมาก เอาเรื่องนี้ไปบอกหลี่ซื่อหาน?ที่เขาไปหอนางโลมนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อสถานการณ์บ้านเมืองต่างหาก!“ในสายตาเจ้า ข้าเป็นผู้ชายที่เห็นผู้หญิงแล้วอดใจไม่ได้หรือ?”หวังหยวนจิบชา และกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์หลี่ซื่อหานยิ้มก่อนกล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน แต่คนอื่นไม่รู้จักนิสัยของท่าน อาจทำให้เกิด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1879

    “ข้าบอกก็ได้...”“เหตุใดต้องโหดเหี้ยมกับข้าด้วย?”“ข้าเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”หลิ่วหรูเยียนมองหวังหยวน ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงหวานมีเสน่ห์ “เจ้ารู้จักสถานที่แห่งหนึ่งทางตะวันตกที่ชื่อว่าเมืองผี หรือไม่?”“เมืองผี?”หวังหยวนส่ายหน้า ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่สายตาของเขามองไปที่เกาเล่อเกาเล่อเป็นหัวหน้าองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ ข้อมูลทั่วหล้าล้วนอยู่ในมือเขา หากแม้แต่เกาเล่อยังไม่รู้จัก แสดงว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ลับจริง ๆ!แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่าง คือหลิ่วหรูเยียนกำลังหลอกลวง!ทั้งหมดเป็นเพียงกลลวงของนาง!เกาเล่อเดินไปข้าง ๆ หวังหยวนแล้วกระซิบ “ข้ารู้จักเมืองผี...”“เดิมทีมันไม่ได้ชื่อเมืองผี ปัจจุบันมีชื่ออื่นแล้ว แต่เพราะเมื่อก่อนมีคนอดตายที่นั่นมากมาย มีข่าวลือว่ากลางดึกมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ จึงเรียกที่นั่นว่าเมืองผี”“แต่ที่จริงแล้วก็แค่เรื่องเล่าลือขอรับ”ฟังคำอธิบายของเกาเล่อแล้วหวังหยวนก็พยักหน้าจากนั้น ฃเขาก็มองไปที่หลิ่วหรูเยียนอีกครั้ง ก่อนกล่าวอย่างใจเย็น “เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าฐานทัพใหญ่ของพรรคทมิฬอยู่ในเมืองผีหรือ?”หลิ่วหรู

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1878

    ทันใดนั้นหวังหยวนก็ให้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อถอยไป ส่วนเขามานั่งยอง ๆ ตรงหน้าหลิ่วหรูเยียนมุมปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์ต่อรองกับข้าหรือ?”“ตอนนี้เจ้าอยู่ในมือข้า ตราบใดที่เจ้าทำตามที่ข้าต้องการ ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า ไม่ให้ใครมารังแกเจ้าได้”“แต่ถ้าเจ้ายังกล้าต่อรอง เจ้าก็ลองดู ว่าข้าจะทำเรื่องโหดร้ายอะไร”“แต่อย่าหาว่าข้าไม่เตือน หากเจ้าท้าทายข้า ทำให้ข้าหมดความอดทน ผลลัพธ์สุดท้ายคงคาดเดาได้...”“เจ้าจะต้องเสียใจแน่นอน”เมื่อเห็นแววตาจริงจังของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนก็อยากจะฆ่าเขานักเหตุใดนางจึงต้องมาเจอกับปีศาจตนนี้ด้วย?ช่างโชคร้ายเสียจริง!“ตกลง!”“เช่นนั้นเจ้าต้องปล่อยข้าก่อน”“เจ้าจับข้าไว้ด้วยตาข่ายเช่นนี้ ข้าอึดอัดจะตายแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วพูดหวังหยวนรับมีดสั้นจากสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อมาตัดตาข่ายใหญ่ตรงหน้าออก หลิ่วหรูเยียนจึงเป็นอิสระหวังหยวนกล่าวต่อ “ตอนนี้ข้าทำตามที่เจ้าต้องการแล้ว เจ้าควรจะบอกสิ่งที่ข้าอยากรู้ได้แล้วกระมัง?”เขาเองก็ใจกว้างพอหากไม่ใช่เพราะเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นผู้หญิง คงลงมือกับนางไปแล้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1877

    “เจ้าช่างเป็นคนต่ำทรามชั่วช้าเหลือเกิน!” หลิ่วหรูเยียนจะไม่เข้าใจสิ่งที่หวังหยวนจะสื่อได้อย่างไร ใบหน้านางซีดเผือดราวกับกระดาษ นัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจกลัวขณะตวาด!หญิงงามผู้มีชื่อเสียงในสถานเริงรมย์ แม้จะอยู่ในที่เช่นนั้น แต่ก็รักษาความบริสุทธิ์ไว้เสมอ ไม่เคยยอมให้ชายใดแตะต้องเรือนร่างอันงดงามของตน!แต่บัดนี้บุรุษผู้มีนามว่าหวังหยวนกลับใช้เรื่องนี้มาข่มขู่นาง เป็นการกระทำที่ชั่วช้าที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา!เหตุใดไม่รู้มาก่อนเลยว่าหวังหยวนน่ารังเกียจถึงเพียงนี้?“เจ้าไม่สมควรเป็นใหญ่ในแผ่นดิน!” “เจ้าเป็นแค่คนเลวทรามต่ำช้า!”“เช่นนั้นก็สังหารข้าเสีย การที่เจ้ามาล่วงละเมิดสตรีเช่นนี้ เจ้ายังถือว่าตนเป็นบุรุษผู้กล้าหาญได้อยู่หรือ?” “หากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ชื่อเสียงของเจ้าจะต้องเสื่อมเสียอย่างแน่นอนใช่หรือไม่?”นางพยายามอย่างตะโกนเพื่อที่จะเปลี่ยนใจหวังหยวนให้ได้ ทว่าใบหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกใด เขายืนกอดอกเอ่ยเสียงเรียบเฉย “เป็นเรื่องปกติที่จะใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพื่อปฏิบัติต่อผู้คนที่แตกต่างกัน”“หากเจ้าไม่ดื้อดึง ข้าก็คงไม่ต้องทำรุนแรงเช่นนี้ ข้าจะทำเช่นนี้กับ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1876

    “ข้าอยากรู้ว่าปากของนางกับมือของข้า อะไรจะแข็งกว่ากัน!”แม้จะเป็นเด็กกำพร้าก็ต้องหาวิธีง้างปากนางให้ได้!ไม่บรรลุเป้าหมายย่อมไม่หยุดยั้ง!ไม่นานหวังหยวนกับเกาเล่อก็มุ่งหน้าออกนอกเมืองที่หน้าศาลเจ้าเฉิงหวงหลิ่วหรูเยียนนั่งผิงไฟ ครุ่นคิดถึงแผนการต่อไปที่นางมาเมืองอู่เจียงนั้นเป็นเพราะคำสั่งของผู้นำระดับสูงในพรรคทมิฬ!เพื่อแทรกซึมเข้ามาในดินแดนศัตรู แล้วค่อย ๆ แผ่ขยายอำนาจไปยังเมืองหลิง!สาเหตุที่สาวกพรรคทมิฬแทรกซึมเข้ามาในดินแดนของหวังหยวน ไม่ใช่เพียงเพราะดินแดนของหวังหยวนเล็ก แต่เป็นเพราะหวังหยวนผู้นี้เป็นคนชาญฉลาดและรอบคอบ!หากเขาพบเบาะแสใดๆ ก็จะตามสืบจนเจอ และอาจนำพาหายนะมาสู่พวกเขา!แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!หวังหยวนเพิ่งจะสังเกตเห็นร่องรอยของสาวกพรรคทมิฬ ไม่คิดเลยว่าจะพบตัวหลิ่วหรูเยียน!จากนั้นค่อยสืบหาความลับของพรรคทมิฬ!เรื่องนี้ต้องระวังให้ดี!“เหตุใดนกพิราบสื่อสารยังไม่กลับมาอีกนะ?”“หรือว่าจะเกิดเรื่อง...”หลิ่วหรูเยียนที่นั่งอยู่หน้ากองไฟ สำรวจสถานการณ์นอกประตูด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักแม้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะซ่อนตัวอยู่ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของนาง!แต

DMCA.com Protection Status