Share

บทที่ 1234

Author: ชวินเป่ยอี๋
โดยปกติแล้วกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาจะชอบเสแสร้งว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี รายงานแต่เรื่องดี ๆ ไม่รายงานเรื่องร้าย ๆ บางครั้งก็กระทำในสิ่งที่ทำให้ผู้อื่นโกรธแค้น

เจ้าเมืองคนก่อนถูกเนรเทศเพราะรับสินบนและคดโกง แต่ไม่คิดว่าเมื่อเขามาที่นี่แล้วจะต้องมาอยู่บนเส้นทางเดิมอีกครั้ง

“โอ๊ย!”

“บังอาจ เดินไม่ดูทางหรือไร?”

หวังหยวนที่กำลังคิดเรื่องต่าง ๆ อยู่ไม่ทันสังเกตเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินสวนทางมา เขาหน้าตาเศร้าหมองราวกับว่ากำลังประสบปัญหาอะไรบางอย่าง

อาการเหม่อลอยทำให้ไม่ทันเห็นหวังหยวนที่เดินสวนมา ในสายตาของเขาชายหนุ่มคนนี้ดูอ่อนแอมาก ไม่มีทีท่าว่าแข็งแกร่งเลย

เมื่อถูกต้าหู่ตวาดใส่ก็ตกใจจนแทบสิ้นสติ ครั้นมองเสื้อผ้าที่หวังหยวนสวมใส่แล้วก็คาดเดาได้ว่าเขาน่าจะเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลร่ำรวย

“ขอโทษ! ขอโทษจริง ๆ...”

ชายวัยกลางคนเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ๆ ไม่ว่าจะถูกหรือผิดก็ต้องขอโทษไว้ก่อน อีกอย่างหนึ่งคือพวกเขาเป็นคนยากจน จึงไม่กล้ามีปัญหาเกี่ยวข้องใด ๆ กับคนร่ำรวย

ด้วยความกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายข่มเหงอย่างโหดเหี้ยมหากไม่ระวัง จึงได้ขอโทษหวังหยวนที่ยืนอยู่ข้างหน้าด้วยใบหน้าเศร้าสลด

“หยุด หยุดนะ.
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
นายประสิทธิ์ สอนสุข
มันยังไม่หมดอีกหรือ ไอ้โฆษะนาที่มุมไม่มีเวลาบอก หมดไปสักทีเหอะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1235

    เขาได้แต่ยืนอยู่กับที่ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เมื่อเห็นสีหน้าอันน่าเวทนาของหวังหยวนแล้วก็อดสงสารไม่ได้ รู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้แตกต่างจากบุตรชายคนโตของตระกูลร่ำรวยคนอื่น ๆความเมตตาในใจแวบผ่านเข้ามา ชาวบ้านทุกคนล้วนมีความเมตตาที่บริสุทธิ์“คุณชาย หากไม่รังเกียจก็โปรดตามข้ากลับไป ที่บ้านมีเพียงผักดอง ไม่รู้พวกท่านจะกินกันได้หรือไม่”เมื่อชายวัยกลางคนพูดจบก็หันหลังแล้วเดินไปตามทางที่ไม่ไกลนัก แสดงท่าทางกระตือรือร้น แนะนำทิวทัศน์ของที่นี่ให้หวังหยวนและคนอื่น ๆ ตลอดทางทั้งยังเล่าตำนานต่าง ๆ มากมายในท้องถิ่น หวังหยวนฟังชายวัยกลางคนเล่าเรื่องตลอดทางต้าหู่เดินตามมาอย่างจำใจ ไม่รู้ว่าหวังหยวนกำลังคิดอะไรอยู่?“พี่ชาย ข้าเห็นว่าที่ดินอันอุดมสมบูรณ์มากมายในบริเวณนี้ถูกทิ้งร้างไว้ เหตุใดจึงไม่มีใครเพาะปลูกเลยเล่า?”หวังหยวนเดินมาไกลแล้วจึงถามคำถามที่อยู่ในใจ เมื่อแรกเริ่มกลัวว่าจะพูดจาตรงไปตรงมาเกินไปจนทำให้ชายวัยกลางคนหวาดระแวงตลอดทางชายวัยกลางคนแนะนำขนบธรรมเนียมประเพณีในท้องถิ่นให้กับพวกเขา ดูเหมือนว่าความหวาดระแวงจะไม่สูงเท่าช่วงแรก“เพาะปลูกหรือ? ใครเล่าจะกล้า?”“คุณชาย ข้าไม่กลัวที่จ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1236

    แม้แต่เชียนหลงซึ่งปกติจะวางท่าทีเงียบขรึมไม่แยแสอยู่เสมอ ยังอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น และอยากสัมผัสประเพณีการจัดงานรื่นเริงของที่นี่“ท่านทั้งสองอย่าไปสนใจความคึกคักเช่นนี้เลย นี่ไม่ใช่งานแต่งงานธรรมดา นั่นผู้ใหญ่บ้านตระกูลกวนของเรา เขากำลังจะแต่งงานกับอนุภรรยา”“ครอบครัวของพวกเขาเองก็ครอบครองที่ดินไว้ไม่น้อย ช่วงหลังมานี้ยังโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เพราะหวังผลประโยชน์บางอย่าง จึงให้พวกเราชาวบ้านเช่าที่ดินเหล่านี้”ชายวัยกลางคนรีบเรียกต้าหู่ที่กำลังจะออกไปดูความคึกคักทันที กลัวว่าหากคลาดสายตาเพียงครู่เขาจะก่อเรื่องขึ้นได้ แม้ว่าคนเหล่านี้จะดูมีฐานะก็ตามดั่งสุภาษิตที่กล่าวไว้ ว่ามังกรที่แข็งแกร่งก็ไม่สามารถกดหัวงูเห่าในท้องถิ่นได้ แม้ว่าจะมีความสามารถมากเพียงใดก็ใช่ว่าจะสามารถต่อกรกับผู้ใหญ่บ้านได้“แต่งงานกับอนุภรรยาหรือ?”หวังหยวนรู้สึกแปลกใจ ผู้ชายมีสามภรรยาสี่อนุก็เป็นเรื่องปกติ แต่อีกฝ่ายเป็นเพียงผู้ใหญ่บ้านตัวจ้อย กลับอู้ฟู่ถึงขั้นจัดงานแต่งงานกับอนุภรรยา ซึ่งชาวบ้านเหล่านี้ก็ดูเหมือนไม่ค่อยยินดีด้วยสักเท่าไหร่แม้แต่คนที่มีฐานะดีหน่อยยังแต่งอนุภรรยาอย่างน้อยสักหนึ่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1237

    “เมื่อแขกทุกคนมอบของขวัญแล้วก็พากันกลับไปเสีย ผู้ใหญ่บ้านจะจดจำของขวัญที่ทุกคนมอบให้ไว้อย่างแน่นอน วางใจเถิดว่าของที่เจ้าปรารถนาจะตกไปอยู่ในมือของเจ้าแน่”ผู้รับของขวัญไม่ได้กล่าววาจาใดเพิ่มเติม แต่ไล่ชาวบ้านเหล่านั้นกลับไปโดยทันที ใบหน้าของเขาแสดงความรำคาญราวกับเห็นฝูงแมลงวันเมื่อหวังหยวนเห็นเช่นนั้นก็ล้วงเงินออกมาจากอกเสื้อสองสามตำลึงวางไว้บนโต๊ะ แล้วเขียนชื่อลงในสมุดบัญชีอย่างลวก ๆ ผู้รับของขวัญมองเงินบนโต๊ะแล้วตาเป็นประกายชาวบ้านยากไร้เหล่านี้คงไม่มีปัญญามอบเงินให้ได้ แม้แต่เหรียญทองแดงก็ยังไม่มีให้ จึงได้แต่นำข้าวสารที่ไร้ค่ามาแสดงความยินดี“คุณชาย เชิญข้างใน เชิญข้างใน...”หวังหยวนโบกมือแล้วพาต้าหู่และเชียนหลงเข้าไปในประตูใหญ่ แม้จะเป็นเพียงการแต่งอนุภรรยา แต่ภายในก็ตกแต่งอย่างประณีตโคมไฟส่องสว่างทั่วบริเวณบ่งบอกถึงความรื่นเริง บนโต๊ะเลี้ยงมีทั้งไก่ เป็ด ปลา เนื้อสัตว์มากมาย ผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้ามารับประทานอาหารล้วนเป็นเศรษฐีมีชื่อเสียงในท้องถิ่นหวังหยวนและพรรคพวกเลือกหาที่นั่งในมุมที่เงียบสงบ พวกเขาเพียงต้องการดูว่าผู้ใหญ่บ้านมีอำนาจมากเพียงใด?ขูดรีดชาวบ้านอย่างโจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1238

    ไม่นึกเลยว่าคราวนี้จะมีคนไม่รู้จักที่ตายกล้าเข้ามาหาเรื่องอีก อยากเห็นนักว่าต้าหู่จะพบจุดจบอันน่าเศร้าเช่นไร?ฝูงชนที่มุงดูต่างนั่งชมเหตุการณ์อยู่เฉย ๆ พวกเขาชินกับเรื่องเช่นนี้เสียแล้วยิ่งกว่านั้นคือพวกเขายังรู้สึกว่านี่คือความบันเทิง ทุกครั้งที่เห็นภาพเช่นนี้ก็จะรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากใคร่เห็นชายหนุ่มตรงหน้าร้องไห้คร่ำครวญคุกเข่าขอความเมตตา ผู้ใหญ่บ้านสำหรับพวกเขาเป็นผู้ที่สูงส่งเกินเอื้อม“โครม ปัง...”ได้ยินเสียงดังสนั่น ผู้คนต่างหลับตาลงด้วยความตกใจ แล้วก็ลืมตาขึ้นด้วยความตื่นเต้น อยากจะดูว่าชายหนุ่มที่ก่อเรื่องก่อนหน้านี้ตายไปแล้วหรือยังแต่แล้วเรื่องที่ทำให้พวกเขาตกใจก็ปรากฏ พวกเขาเห็นชายหนุ่มที่พ่อบ้านของผู้ใหญ่บ้านเรียกตัวมาเมื่อครู่ ล้มลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นอย่างไม่รู้เป็นตายร้ายดีชายหนุ่มที่ก่อเรื่องยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางองอาจสง่างาม ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย“ใครกล้ามาหาเรื่องในงานแต่งงานของข้า หรือว่าไม่อยาก...”ชายวัยห้าสิบเศษเดินออกมาจากห้องด้านใน ทั่วทั้งร่างกายของเขาแผ่กลิ่นอายที่โหดเหี้ยมอย่างมาก ตัวไม่สูงนัก ใบหน้ามีรอยยิ้มแสยะอย่างชั่วร้าย“ไอ้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1239

    เมื่อสมาชิกตระกูลกวนเห็นเช่นนั้นต่างก็อึ้งไปชั่วครู่ และไม่อยากเชื่อสายตา!เด็กหนุ่มผู้นี้ช่างหยิ่งยโสเสียจริง!กวนเสี่ยวไห่ฮึดฮัดและตะโกนว่า “เจ้ากล้าทำร้ายข้า เชื่อหรือไม่ว่าหากบิดาของข้ามาถึง ย่อมจะฆ่าเจ้าให้ตายได้!”หวังหยวนไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย สั่งให้ต้าหู่มัดกวนเสี่ยวไห่ไว้ และมัดผู้ใหญ่บ้านไว้ด้วยเช่นกันจากนั้นหวังหยวนก็ก้าวไปยืนอยู่บนแท่นสูง มองไปที่คหบดีและชาวนาเหล่านั้นแล้วกล่าวว่า“ชาวบ้านทั้งหลาย บัดนี้กฎหมายใหม่ของเมืองหลิงได้ประกาศใช้แล้ว ทุกคนสามารถทำไร่ไถนาได้ ทุกคนสามารถค้าขายได้ สิ่งที่เราต้องการคือทำให้ทุกคนร่ำรวยและเข้มแข็ง!”“ไม่ใช่ปล่อยให้เพียงแค่คหบดีและตระกูลผู้มั่งคั่งไม่กี่ตระกูลร่ำรวย ชีวิตเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ ดังนั้นเราจึงควรสามัคคีกันเข้าไว้!”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ แม้ว่าเมืองหลิงจะไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีหมู่บ้านบนภูเขาห่างไกลที่มีลักษณะเช่นเดียวกันนี้มากมายเหลือเกิน กฎหมายใหม่ของหวังหยวนอาจประกาศใช้ได้ แต่เมื่อพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว บางพื้นที่ก็ห่างไกลจากเมืองหลวงเกินไป จึงไม่สามารถบังคับใช้ได้ทีเดียว!ท้ายที่สุดแล้ว หวังหยวนไม่มีคนมากมายน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1240

    เขาสามารถทำให้ทุกคนร่ำรวยได้ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องมีสมเหตุสมผล มีคุณธรรมและถูกกฎหมาย!หากกองเงินที่ได้มานั้นมาจากการเหยียบย่ำร่างของคนยากจน นั่นไม่ใช่เงินแต่เป็นเลือดต่างหาก!นั่นไม่ใช่หนทางแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ!นั่นไม่ใช่หนทางแสวงหาความร่ำรวย!หากเป็นพื้นที่อื่น หวังหยวนอาจไม่สนใจเนื่องด้วยไม่สามารถจัดการได้!แต่เมืองหลิงแห่งนี้เขาต้องเป็นผู้กำหนด!“พี่ชาย ข้าเข้าใจความหมายของท่าน ไม่ต้องกังวลเลย เรื่องนี้ข้ามีขอบเขตจริง ๆ!”หวังหยวนยกยิ้มเพื่อให้เขาสบายใจหลิวต้าฮั่นถอนหายใจและไม่พูดอะไรอีกไม่นานก็ใกล้จะถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ชาวบ้านจำนวนมากไม่กล้าอยู่ต่อ รีบแยกย้ายกลับบ้านไปต้าหู่ก็ไปจัดการธุระเช่นกัน ส่วนเชียนหลงนั่งอยู่ข้างหวังหยวนนางเฝ้ามองชายผู้นี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น“คุณชาย แม้ว่าท่านจะช่วยพวกเขาได้และความสามารถของท่านสามารถช่วยเหลือใครก็ได้จริง แต่...สิ่งที่ท่านทำนับว่าเป็นการละเมิดกฎของโลกนี้หรือไม่?”เมื่อเชียนหลงพูดจบ หวังหยวนก็เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ของนาง!“เจ้าหมายความว่า ข้าแทรกแซงพวกเขาใช่หรือไม่?”เมื่อหวังหยวนพูดจบ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1241

    เมื่อหวังหยวนเอ่ยคำถามนี้จบลง เชียนหลงก็ชะงักไปครู่หนึ่งนางไม่รู้ว่าเหตุใดหวังหยวนถึงได้ถามคำถามนี้ขึ้นมาในทันใด!ต้องรู้ก่อนว่าคำว่าชีวิตนั้นเป็นคำถามที่ยากที่สุดในยุคสมัยนี้แล้ว! เกรงว่าจะหาผู้ที่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนได้ยากนัก!แต่เชียนหลงเป็นคนฉลาด นางรู้ว่าเนื่องจากหวังหยวนถามคำถามนี้ขึ้นมา ทั้งยังถามในเวลานี้ด้วยแล้ว ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องตรงหน้าเป็นแน่!ดังนั้น...นางจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “คุณชาย ชีวิตนั้นยากเกินกว่าจะบรรยายได้ หากให้ข้ากล่าว… อาจจะกล่าวได้ว่าการได้อยู่อย่างสุขสบายนั้นสำคัญที่สุด”เมื่อเชียนหลงกล่าวจบ หวังหยวนก็ชะงักไปครู่หนึ่งสตรีผู้นี้กล่าวคำพูดที่ค่อนข้างลึกซึ้งเหมือนเขาไม่มีผิด!แต่ตัวเขานั้นมีประสบการณ์จากชาติก่อน จึงมีความคิดเช่นนี้ในชาติก่อนเขาใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับการเล่าเรียน ไม่ทันได้เสพสุขก็ตายไปเสียแล้วโชคดีที่ในชาตินี้มีจิตสำนึกจากชาติก่อนติดสอยห้อยตามมาด้วย ถึงรู้สึกว่าชาติก่อนของตนนั้นขาดทุนมากชาตินี้จึงต้องเสพสุขให้เต็มที่ทว่าเชียนหลงผู้นี้...เหตุใดจึงมีแนวคิดเช่นนี้ได้?ตามเหตุผลแล้วนางน่าจะชอบเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1242

    พวกเขามาถึงหมู่บ้านอย่างรวดเร็วพร้อมส่งเสียงคำรามเมื่อเห็นหวังหยวน และลูกชายของเขาที่ถูกจับมัดแขวนอยู่!“ไอ้สารเลว! ไอ้ชาติหมา ปล่อยลูกชายข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าฆ่าเจ้าแน่!”กวนเจิ้นสยงผู้เป็นหัวหน้าตระกูลกวนแค่นเสียงคำรามเบื้องหลังมีคนกว่าร้อยคนชักดาบใหญ่ออกมา บรรยากาศก้าวร้าวรุนแรงมาก!ชาวบ้านต่างตกใจกลัว วิ่งเตลิดด้วยความขวัญผวา!“ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย... ต้องฆ่าไอ้สุนัขตัวนี้ให้ได้ รวมถึงนังหญิงชั่วเหล่านี้ด้วย ต้องฆ่าให้หมด!”กวนเสี่ยวไห่พูด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น!หวังหยวนได้ยินคำกล่าวเช่นนี้ก็เพียงแค่ยิ้มรับ ต่างจากชาวบ้านที่กลัวมากจนคุกเข่าลงกับพื้น“นายท่านกวน ได้โปรดเถิด... อย่าทำร้ายพวกเรา!”“ใช่แล้ว... นายท่าน ได้โปรด...”พวกเขากลัวมาก หวาดกลัวอย่างที่สุด!“หึ! พวกเจ้าสมควรตายทั้งนั้น!”“ไอ้หนุ่ม เจ้าเป็นใคร กล้าแทรกแซงเรื่องกิจการภายในมณฑลงั้นหรือ? ไม่รู้หรือว่าที่นี่ข้าคือสวรรค์!”เขาเยาะเย้ยและเอ่ยด้วยความโกรธเมื่อหวังหยวนได้ยินดังนั้นก็หัวเราะร่า“เจ้าคือสวรรค์หรือ? ช่างน่าขัน!”ที่เมืองหลิงแห่งนี้ไม่มีสวรรค์ ชาวบ้านต่างหากที่เป็นสวรรค์!หาก

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status