เมื่อได้ฟังเช่นนั้น.ใบหน้าของเซิ่งฟางสี่ก็บ่งบอกถึงความหวาดกลัว!หลังจากคิดอยู่นานก็ยังไม่เอ่ยคำใดออกมา!“ถอย! ตอนนี้ต้องรวบรวมกองกำลังทุกนายที่มีเพื่อหนีจากแคว้นกู่! ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อช่วยเหลือพี่ชายของเจ้า!”“นี่เป็นทางเดียวที่จะรอด!”เซิ่งฟางสี่ไม่มีเวลาที่จะเสียใจ!เซิ่งตงหยวนตกตะลึง.แต่เขาก็รู้ด้วยว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาวิกฤติ เขาจึงรีบไปรวบรวมกำลังคนโดยไม่รีรอ!ในไม่ช้าทหารม้าสองหมื่นนายก็มารวมตัวกัน จากนั้นเซิ่งฟางสี่และครอบครัวของเขาก็ละทิ้งอาณาจักรต้าอันไว้เบื้องหลัง!เขารู้ดีว่าถ้าพวกเขายังคงยึดมั่น ก็จะไม่สามารถยึดไว้ได้อยู่ดี วิธีเดียวที่พวกเขาทำได้คือต้องหลบหนี แล้วค่อยหาโอกาสเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในอนาคต!ไม่เช่นนั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน!การทำเช่นนี้เท่านั้นจึงจะทำให้มีโอกาสกลับมายิ่งใหญ่ได้!ส่วนอีกด้านหนึ่ง ไป๋ชิงชางและเซิ่งตงฉยงกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด และอากู่ต๋าก็มาถึงแล้ว!ทหารม้าหนึ่งแสนแปดหมื่นนาย ต่อทหารม้าหนึ่งแสนนาย!แม้ว่าเซิ่งตงฉยงจะเก่งกาจมาก แต่ก็ยังไม่อาจต้านทานได้!ขณะที่พวกเขากำลังรบราฆ่าฟันกันอยู่ข้างนอก หวังหยวนกำลังนั่งจิบชากับ
เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลเซิ่งจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้ ดังนั้นตระกูลไป๋และเมืองหวงย่อมจะไม่ต่อสู้กับตระกูลเซิ่งจนตาย เพราะเป็นการสิ้นเปลืองกำลังมากเกินไป!หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับผลประโยชน์มากเกินก็จะไม่สมดุล!โดยเฉพาะสำหรับเมืองหวง หากสูญเสียกองกำลังมากเกินไปในการยึดครองเมืองก็จะไม่คุ้มค่า!และอาจจะถูกตระกูลไป๋แย่งไปแทน!ดูเหมือนว่าตระกูลเซิ่งยังคงมีโอกาสหลบหนี!“ใช่แล้ว ถ้าเจ้าคิดอย่างรอบคอบ ตระกูลไป๋และเมืองหวงจะทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อฆ่าเซิ่งตงฉยงหรือไม่?”“นอกจากนี้ เซิ่งตงฉยงยังเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษด้วย ข้าเกรงว่าทั้งสองคนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”หลังจากที่หวังหยวนพูดเช่นนี้ เกาเล่อก็ไม่ปฏิเสธ!“เซิ่งตงฉยงมีพลังมากจริง ๆ ไม่ต้องพูดถึงฝีมือการต่อสู้ของเขา เพียงแค่ความสามารถในการบังคับบัญชากองทหารก็อยู่นอกเหนือการเข้าถึงของคนธรรมดาแล้ว!”“ยิ่งกว่านั้น คือเขามียอดฝีมือระดับปรมาจารย์มากมาย เราได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีเจ็ดหรือแปดคนที่ไม่ด้อยไปกว่าถังหม่างและต้าหู่!”เกาเล่อพูดด้วยสีหน้าหวาดเกรงแต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แม้ว่าพวกเขาจะไม่ทำลายล้างด้วยกำลังทั้งหมด และให้โอกาสเซ
เมื่อเกาเล่อได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ่งประทับใจมากขึ้น!แม้ว่าเขาจะรู้มานานแล้วว่าหวังหยวนเป็นอัจฉริยะ และพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเดินตามรอยของหวังหยวนแต่สำหรับเรื่องนี้ตอนนี้ เขายังคงคิดน้อยกว่าหวังหยวนมาก!การเคลื่อนไหวครั้งนี้น่าทึ่งมาก!ไม่เพียงแต่ทำลายตระกูลเซิ่งได้เท่านั้น แต่ยังทิ้งภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นกับตระกูลไป๋ไว้ด้วย!พวกเขาได้ครอบครองหนึ่งดินแดน และคลี่คลายปัญหาเรื่องตระกูลเซิ่งได้ แต่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ!เพราะอาณาจักรต้าอันไปรวมกับต้าเย่!จึงกลายเป็นเสี้ยนหนามใหม่ของพวกเขา!ทันใดนั้นนกพิราบสื่อสารก็มาส่งจดหมาย หลังจากที่เกาเล่ออ่านแล้วก็ยิ้ม“พี่หยวน เป็นไปอย่างที่ท่านบอกจริง ๆ สงครามจบลงแล้ว แต่เซิ่งฟางสี่ยกทัพหนึ่งแสนสองหมื่นนายมาช่วยเซิ่งตงฉยง สุดท้ายมีเพียงสี่หมื่นคนเท่านั้นที่หลบหนีไปได้!”“โดยเขตแดนที่พวกเขาหนีไปนั้นย่อมเป็นต้าเย่!”“เมื่อเป็นเช่นนี้เมืองหวงจึงล่าถอยทันที และไป๋ชิงชางก็ไม่กล้าไล่ตามเขาอีกต่อไป!”“พวกเขาต่างสูญเสียทหารม้าไปฝ่ายละสองหมื่น!”หลังจากที่เกาเล่อพูดจบ หวังหยวนก็หัวเราะ ดูเหมือนว่าอากู่ต๋าจะฉลาดมากเช่นกัน!ด้วยวิธีนี้จะทำให้พวกเข
นอกจากนี้ยังมีแคว้นกู่ด้วย!ซึ่งมันคือค่ายฐานของตระกูลเซิ่ง!ในขณะนี้ไป๋ชิงชางกลับไปยังเมืองหลวง หลังจากทิ้งกองทัพไว้ข้างหลังเพื่อรายงานสถานการณ์การต่อสู้ว่าสูญเสียทหารสองหมื่นนาย!แต่เซิ่งตงฉยงไม่ได้ตายในการต่อสู้ เพราะหนีรอดไปได้!ซ้ำยังหลบหนีไปทางต้าเย่ด้วย!“หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ตระกูลเซิ่งจะไม่มีโอกาสกลับมาอีก!”“แต่... พวกเขาจะไปเข้าร่วมฝ่ายต้าเย่ เรื่องนี้... มันช่าง... น่าปวดหัวเสียจริง!”ใบหน้าของไป๋เจิ้นถังเคร่งเครียดมาก!ไป๋ชิงชางได้ฟังเช่นนั้นก็สูดหายใจเข้า ทันใดนั้นก็เกิดความคิดแปลก ๆ ขึ้นในใจ“ท่านพ่อ ท่านคิดว่า… หวังหยวนจงใจจัดการทุกอย่างให้เป็นเช่นนี้หรือเปล่าขอรับ?”ทันทีที่ได้ยินประโยคดังกล่าว ไป๋เจิ้นถังและไป๋เฟยเฟยก็ตกตะลึง!โดยเฉพาะไป๋เจิ้นถัง!เขาพึมพำกับตัวเองว่า “หากหวังหยวนคาดการณ์มานานแล้ว... เช่นนั้นการคำนวณของเขาก็... โหดเหี้ยมเกินไป!!”เขาตกตะลึง สีหน้าบ่งบอกชัดว่าทำอะไรไม่ถูก!“หวังหยวนต้องจงใจเก็บเซิ่งตงฉยงไว้ให้กับต้าเย่ เพื่อทำให้ต้าเย่เป็นฝ่ายที่เราต้องกลัวที่สุด!”“ดังนั้น... เขาจะปลอดภัยอย่างแน่นอน...”ไป๋ชิงชางพูดด้วยสีหน้าตกตะ
เมื่อมาถึงจุดนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดเช่นนี้อีกแล้ว!เซิ่งฟางสี่เป็นคนที่ถือได้วางได้!แม้ว่าจะประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้สิ้นหวัง!อย่างน้อยก็ยังมีทหารม้าอีกสี่หมื่นนาย!ก่อนออกเดินทางมา เขายังได้เก็บทรัพย์สมบัติของตระกูลเซิ่งมาด้วยมากมาย!มีเงินก็มีโอกาสกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!แต่เรื่องนี้อาจไม่ง่ายถึงเพียงนั้น!อย่างน้อยมันก็ยากสำหรับเซิ่งฟางสี่ในตอนนี้!“ท่านพ่อ เราควรทำอย่างไรดีขอรับ? ที่นี่คือต้าเย่ ต้าเย่อาจรู้ว่าเรายึดเมืองหนึ่งได้แล้ว หากอู๋หลิงนำกองทัพจำนวนหกหมื่นนายมาด้วยตนเอง เราก็ไม่สามารถต้านทานเขาได้!”“และหากต้าเย่และตระกูลไป๋ร่วมมือกัน เราก็จะต้องตายอย่างแน่นอน!”เซิ่งตงฉยงรีบพูดด้วยสายตาเป็นกังวลเซิ่งฟางสี่ได้ฟังเช่นนั้นก็สูดหายใจเข้าแล้วพูดว่า “สำหรับแผนการในปัจจุบัน... เกรงว่าจะต้อง... เข้าร่วมกับต้าเย่!”...ในเวลาเดียวกัน ไป๋เหยียนเฟยก็อยู่ที่ห้องนอนในวังหลวงทันใดนั้นไป๋หลิงก็เข้ามาพร้อมกับพาอู๋หลิงมาด้วย ทั้งสองมีใบหน้าเคร่งเครียด!“เกิดอะไรขึ้น?”เมื่อไป๋เหยียนเฟยเห็นอู๋หลิงมาหา หัวใจของนางก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ถ้าอู๋หลิงมาแ
ก็ไม่อาจต้านทานได้ตลอดอยู่ดี!เมื่ออู๋หลิงได้ฟังเช่นนั้นจึงกล่าวว่า “ฮองเฮา เราควรพิจารณาเรื่องนี้อย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”เขาถามเช่นนี้ก็เพื่อสอบถามไป๋เหยียนเฟยว่าจะเก็บพวกเขาไว้หรือกำจัดทิ้ง!นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีก!ไป๋เหยียนเฟยยกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ตระกูลเซิ่งจะเจรจากับเรา บางทีจดหมายของพวกเขาอาจจะมาถึงแล้ว!”ทันทีที่ไป๋เหยียนเฟยพูดจบก็มีนางกำนัลมาที่หน้าประตู“ฮองเฮา มีจดหมายลับเพคะ”ไป๋หลิงได้ฟังเช่นนั้นจึงรีบไปหยิบจดหมายมาส่งให้ไป๋เหยียนเฟย!ไป๋เหยียนเฟยอ่านแล้วก็หัวเราะขึ้นมา“ดูสิ ตระกูลเซิ่งเลือกที่จะเข้าร่วมกับเรา”อู๋หลิงฟังแล้วจึงกล่าวว่า “ตระกูลเซิ่งมีความทะเยอทะยานมาโดยตลอด หากเราเก็บพวกเขาไว้ข้างกายจะเหมือนกับการเลี้ยงเสือไว้ข้างกายหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ไป๋เหยียนเฟยพยักหน้า “หากเป็นยามปกติ ข้าย่อมต้องสังหารตระกูลเซิ่งให้สิ้น!”“แต่ในสถานการณ์เช่นนี้เราไม่อาจตัดพวกตระกูลเซิ่งทิ้งไปได้!”“หากไม่มีพวกตระกูลเซิ่งคอยต่อสู้กับฝ่ายเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วจะเกิดสถานการณ์แบ่งแยกแตกออกเป็นสามอาณาจักรได้อย่างไร!”“แต่ว่า... ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ตระกูลเซิ่งรู้ดีว
หวังหยวนยังคงรู้สึกดีกับจีหย่งมากเพราะเมื่อหลายปีก่อนในดินแดนต้าเย่ จีหย่งเป็นคนที่เป็นมิตรกับเขามากที่สุด!เขาฉลาดมาก ฉลาดเสียจนน่าทึ่ง!เด็กอายุเพียงสิบขวบแต่มีสติปัญญาชาญฉลาดเช่นนี้ น่าเสียดายที่ฮ่องเต้ซิงหลงถูกตระกูลเซิ่งวางยาพิษไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้นจีหย่งอาจจะกลายเป็นฮ่องเต้ผู้เฉลียวฉลาดได้!“เตรียมบ้านไว้สักหลังแล้วพาพวกเขามาที่นี่”“ข้าอยากเจอพวกเขาด้วยตัวเอง”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เกาเล่อก็รีบไปจัดการในเวลานี้จีหย่ง เสียนกุ้ยเฟยและเหล่าข้ารับใช้อีกสองสามคนล้วนรู้สึกกังวล“ลูกเอ๋ย... พวก... พวกเรามาถึงเขตแดนของหวังหยวนแล้ว พวกเขาจะไม่ฆ่าเราใช่หรือไม่?”เสียนกุ้ยเฟยถามจีหย่งด้วยความกังวลจีหย่งส่ายหน้า “ท่านอาจารย์เป็นคนใจดีที่สุดที่ข้าเคยพบในโลกนี้ขอรับ”“เขา... ใจดีหรือ?”เสียนกุ้ยเฟยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าคำสองคำนี้มาได้อย่างไร!จีหย่งพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม“อืม อืม ไม่ต้องกังวลหรอกขอรับ เสด็จแม่ ท่านอาจารย์จะไม่ทำร้ายเรา”“หากอยู่ในเมืองหลิง พวกเราอาจจะได้มีชีวิตที่สงบสุขอย่างแท้จริงและอยู่ห่างไกลจากการแก่งแย่งชิงดี...”เมื่อจีหย่งพูดจบ เสียนกุ้
“เชิญนั่งก่อนเถิด เสียนกุ้ยเฟย”หวังหยวนมองไปที่เสียนกุ้ยเฟยแล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม“หลังจากนี้ท่านหวังอย่าได้เรียกข้าว่าเสียนกุ้ยเฟยอีกเลย เรียกข้าว่า... พี่หญิงจือเถอะ”ลูกชายของนางไม่คิดจะต่อสู้แย่งชิงแผ่นดินอีกต่อไป แล้วตำแหน่งเสียนกุ้ยเฟยของนางจะมีประโยชน์อะไร?“ฮ่า ฮ่า ได้เลย ขอเลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาสมาถึงของพวกเจ้า”หวังหยวนให้พวกเขานั่งลง จากนั้นทั้งสามก็เริ่มกินข้าวร่วมกันทั้งสองเพิ่งเคยกินของอร่อยเช่นนี้เป็นครั้งแรกจึงต่างก็ประหลาดใจมาก มื้อนี้เป็นมื้อที่เอร็ดอร่อยและมีความสุข“หย่งเอ๋อร์ ข้ามอบบ้านหลังนี้ให้เจ้าแล้ว ต่อไปนี้เจ้าจะมีที่อยู่แล้ว ว่าแต่เจ้ามีแผนอะไรบ้าง?”หวังหยวนถามขึ้น เมื่อจีหย่งได้ฟังเช่นนั้นก็ตอบด้วยรอยยิ้ม“เมื่อก่อนไม่มีแต่ตอนนี้มีแล้วขอรับ”หวังหยวนฟังแล้วก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วเริ่มอยากรู้“แผนอะไร?”จีหย่งตอบตามตรงว่า “ข้าอยากติดตามท่านอาจารย์... เพื่อเรียนรู้การทำธุรกิจขอรับ!”แน่นอนว่าเขาต้องมีหนทางเพื่อความอยู่รอด!เขาฉลาดถึงเพียงนี้ย่อมสามารถทำธุรกิจได้!หวังหยวนหัวเราะ “เจ้าเด็กน้อยเอ๋ย เจ้าช่างฉลาดยิ่งนัก ดี ถ้าเป็นเช่นนั้นอาจารย์ก
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห