เมื่อได้ฟังเช่นนั้น.ใบหน้าของเซิ่งฟางสี่ก็บ่งบอกถึงความหวาดกลัว!หลังจากคิดอยู่นานก็ยังไม่เอ่ยคำใดออกมา!“ถอย! ตอนนี้ต้องรวบรวมกองกำลังทุกนายที่มีเพื่อหนีจากแคว้นกู่! ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อช่วยเหลือพี่ชายของเจ้า!”“นี่เป็นทางเดียวที่จะรอด!”เซิ่งฟางสี่ไม่มีเวลาที่จะเสียใจ!เซิ่งตงหยวนตกตะลึง.แต่เขาก็รู้ด้วยว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาวิกฤติ เขาจึงรีบไปรวบรวมกำลังคนโดยไม่รีรอ!ในไม่ช้าทหารม้าสองหมื่นนายก็มารวมตัวกัน จากนั้นเซิ่งฟางสี่และครอบครัวของเขาก็ละทิ้งอาณาจักรต้าอันไว้เบื้องหลัง!เขารู้ดีว่าถ้าพวกเขายังคงยึดมั่น ก็จะไม่สามารถยึดไว้ได้อยู่ดี วิธีเดียวที่พวกเขาทำได้คือต้องหลบหนี แล้วค่อยหาโอกาสเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในอนาคต!ไม่เช่นนั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน!การทำเช่นนี้เท่านั้นจึงจะทำให้มีโอกาสกลับมายิ่งใหญ่ได้!ส่วนอีกด้านหนึ่ง ไป๋ชิงชางและเซิ่งตงฉยงกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด และอากู่ต๋าก็มาถึงแล้ว!ทหารม้าหนึ่งแสนแปดหมื่นนาย ต่อทหารม้าหนึ่งแสนนาย!แม้ว่าเซิ่งตงฉยงจะเก่งกาจมาก แต่ก็ยังไม่อาจต้านทานได้!ขณะที่พวกเขากำลังรบราฆ่าฟันกันอยู่ข้างนอก หวังหยวนกำลังนั่งจิบชากับ
เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลเซิ่งจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้ ดังนั้นตระกูลไป๋และเมืองหวงย่อมจะไม่ต่อสู้กับตระกูลเซิ่งจนตาย เพราะเป็นการสิ้นเปลืองกำลังมากเกินไป!หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับผลประโยชน์มากเกินก็จะไม่สมดุล!โดยเฉพาะสำหรับเมืองหวง หากสูญเสียกองกำลังมากเกินไปในการยึดครองเมืองก็จะไม่คุ้มค่า!และอาจจะถูกตระกูลไป๋แย่งไปแทน!ดูเหมือนว่าตระกูลเซิ่งยังคงมีโอกาสหลบหนี!“ใช่แล้ว ถ้าเจ้าคิดอย่างรอบคอบ ตระกูลไป๋และเมืองหวงจะทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อฆ่าเซิ่งตงฉยงหรือไม่?”“นอกจากนี้ เซิ่งตงฉยงยังเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษด้วย ข้าเกรงว่าทั้งสองคนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”หลังจากที่หวังหยวนพูดเช่นนี้ เกาเล่อก็ไม่ปฏิเสธ!“เซิ่งตงฉยงมีพลังมากจริง ๆ ไม่ต้องพูดถึงฝีมือการต่อสู้ของเขา เพียงแค่ความสามารถในการบังคับบัญชากองทหารก็อยู่นอกเหนือการเข้าถึงของคนธรรมดาแล้ว!”“ยิ่งกว่านั้น คือเขามียอดฝีมือระดับปรมาจารย์มากมาย เราได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีเจ็ดหรือแปดคนที่ไม่ด้อยไปกว่าถังหม่างและต้าหู่!”เกาเล่อพูดด้วยสีหน้าหวาดเกรงแต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แม้ว่าพวกเขาจะไม่ทำลายล้างด้วยกำลังทั้งหมด และให้โอกาสเซ
เมื่อเกาเล่อได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ่งประทับใจมากขึ้น!แม้ว่าเขาจะรู้มานานแล้วว่าหวังหยวนเป็นอัจฉริยะ และพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเดินตามรอยของหวังหยวนแต่สำหรับเรื่องนี้ตอนนี้ เขายังคงคิดน้อยกว่าหวังหยวนมาก!การเคลื่อนไหวครั้งนี้น่าทึ่งมาก!ไม่เพียงแต่ทำลายตระกูลเซิ่งได้เท่านั้น แต่ยังทิ้งภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นกับตระกูลไป๋ไว้ด้วย!พวกเขาได้ครอบครองหนึ่งดินแดน และคลี่คลายปัญหาเรื่องตระกูลเซิ่งได้ แต่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ!เพราะอาณาจักรต้าอันไปรวมกับต้าเย่!จึงกลายเป็นเสี้ยนหนามใหม่ของพวกเขา!ทันใดนั้นนกพิราบสื่อสารก็มาส่งจดหมาย หลังจากที่เกาเล่ออ่านแล้วก็ยิ้ม“พี่หยวน เป็นไปอย่างที่ท่านบอกจริง ๆ สงครามจบลงแล้ว แต่เซิ่งฟางสี่ยกทัพหนึ่งแสนสองหมื่นนายมาช่วยเซิ่งตงฉยง สุดท้ายมีเพียงสี่หมื่นคนเท่านั้นที่หลบหนีไปได้!”“โดยเขตแดนที่พวกเขาหนีไปนั้นย่อมเป็นต้าเย่!”“เมื่อเป็นเช่นนี้เมืองหวงจึงล่าถอยทันที และไป๋ชิงชางก็ไม่กล้าไล่ตามเขาอีกต่อไป!”“พวกเขาต่างสูญเสียทหารม้าไปฝ่ายละสองหมื่น!”หลังจากที่เกาเล่อพูดจบ หวังหยวนก็หัวเราะ ดูเหมือนว่าอากู่ต๋าจะฉลาดมากเช่นกัน!ด้วยวิธีนี้จะทำให้พวกเข
นอกจากนี้ยังมีแคว้นกู่ด้วย!ซึ่งมันคือค่ายฐานของตระกูลเซิ่ง!ในขณะนี้ไป๋ชิงชางกลับไปยังเมืองหลวง หลังจากทิ้งกองทัพไว้ข้างหลังเพื่อรายงานสถานการณ์การต่อสู้ว่าสูญเสียทหารสองหมื่นนาย!แต่เซิ่งตงฉยงไม่ได้ตายในการต่อสู้ เพราะหนีรอดไปได้!ซ้ำยังหลบหนีไปทางต้าเย่ด้วย!“หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ตระกูลเซิ่งจะไม่มีโอกาสกลับมาอีก!”“แต่... พวกเขาจะไปเข้าร่วมฝ่ายต้าเย่ เรื่องนี้... มันช่าง... น่าปวดหัวเสียจริง!”ใบหน้าของไป๋เจิ้นถังเคร่งเครียดมาก!ไป๋ชิงชางได้ฟังเช่นนั้นก็สูดหายใจเข้า ทันใดนั้นก็เกิดความคิดแปลก ๆ ขึ้นในใจ“ท่านพ่อ ท่านคิดว่า… หวังหยวนจงใจจัดการทุกอย่างให้เป็นเช่นนี้หรือเปล่าขอรับ?”ทันทีที่ได้ยินประโยคดังกล่าว ไป๋เจิ้นถังและไป๋เฟยเฟยก็ตกตะลึง!โดยเฉพาะไป๋เจิ้นถัง!เขาพึมพำกับตัวเองว่า “หากหวังหยวนคาดการณ์มานานแล้ว... เช่นนั้นการคำนวณของเขาก็... โหดเหี้ยมเกินไป!!”เขาตกตะลึง สีหน้าบ่งบอกชัดว่าทำอะไรไม่ถูก!“หวังหยวนต้องจงใจเก็บเซิ่งตงฉยงไว้ให้กับต้าเย่ เพื่อทำให้ต้าเย่เป็นฝ่ายที่เราต้องกลัวที่สุด!”“ดังนั้น... เขาจะปลอดภัยอย่างแน่นอน...”ไป๋ชิงชางพูดด้วยสีหน้าตกตะ
เมื่อมาถึงจุดนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดเช่นนี้อีกแล้ว!เซิ่งฟางสี่เป็นคนที่ถือได้วางได้!แม้ว่าจะประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้สิ้นหวัง!อย่างน้อยก็ยังมีทหารม้าอีกสี่หมื่นนาย!ก่อนออกเดินทางมา เขายังได้เก็บทรัพย์สมบัติของตระกูลเซิ่งมาด้วยมากมาย!มีเงินก็มีโอกาสกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!แต่เรื่องนี้อาจไม่ง่ายถึงเพียงนั้น!อย่างน้อยมันก็ยากสำหรับเซิ่งฟางสี่ในตอนนี้!“ท่านพ่อ เราควรทำอย่างไรดีขอรับ? ที่นี่คือต้าเย่ ต้าเย่อาจรู้ว่าเรายึดเมืองหนึ่งได้แล้ว หากอู๋หลิงนำกองทัพจำนวนหกหมื่นนายมาด้วยตนเอง เราก็ไม่สามารถต้านทานเขาได้!”“และหากต้าเย่และตระกูลไป๋ร่วมมือกัน เราก็จะต้องตายอย่างแน่นอน!”เซิ่งตงฉยงรีบพูดด้วยสายตาเป็นกังวลเซิ่งฟางสี่ได้ฟังเช่นนั้นก็สูดหายใจเข้าแล้วพูดว่า “สำหรับแผนการในปัจจุบัน... เกรงว่าจะต้อง... เข้าร่วมกับต้าเย่!”...ในเวลาเดียวกัน ไป๋เหยียนเฟยก็อยู่ที่ห้องนอนในวังหลวงทันใดนั้นไป๋หลิงก็เข้ามาพร้อมกับพาอู๋หลิงมาด้วย ทั้งสองมีใบหน้าเคร่งเครียด!“เกิดอะไรขึ้น?”เมื่อไป๋เหยียนเฟยเห็นอู๋หลิงมาหา หัวใจของนางก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ถ้าอู๋หลิงมาแ
ก็ไม่อาจต้านทานได้ตลอดอยู่ดี!เมื่ออู๋หลิงได้ฟังเช่นนั้นจึงกล่าวว่า “ฮองเฮา เราควรพิจารณาเรื่องนี้อย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”เขาถามเช่นนี้ก็เพื่อสอบถามไป๋เหยียนเฟยว่าจะเก็บพวกเขาไว้หรือกำจัดทิ้ง!นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีก!ไป๋เหยียนเฟยยกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ตระกูลเซิ่งจะเจรจากับเรา บางทีจดหมายของพวกเขาอาจจะมาถึงแล้ว!”ทันทีที่ไป๋เหยียนเฟยพูดจบก็มีนางกำนัลมาที่หน้าประตู“ฮองเฮา มีจดหมายลับเพคะ”ไป๋หลิงได้ฟังเช่นนั้นจึงรีบไปหยิบจดหมายมาส่งให้ไป๋เหยียนเฟย!ไป๋เหยียนเฟยอ่านแล้วก็หัวเราะขึ้นมา“ดูสิ ตระกูลเซิ่งเลือกที่จะเข้าร่วมกับเรา”อู๋หลิงฟังแล้วจึงกล่าวว่า “ตระกูลเซิ่งมีความทะเยอทะยานมาโดยตลอด หากเราเก็บพวกเขาไว้ข้างกายจะเหมือนกับการเลี้ยงเสือไว้ข้างกายหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ไป๋เหยียนเฟยพยักหน้า “หากเป็นยามปกติ ข้าย่อมต้องสังหารตระกูลเซิ่งให้สิ้น!”“แต่ในสถานการณ์เช่นนี้เราไม่อาจตัดพวกตระกูลเซิ่งทิ้งไปได้!”“หากไม่มีพวกตระกูลเซิ่งคอยต่อสู้กับฝ่ายเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วจะเกิดสถานการณ์แบ่งแยกแตกออกเป็นสามอาณาจักรได้อย่างไร!”“แต่ว่า... ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ตระกูลเซิ่งรู้ดีว
หวังหยวนยังคงรู้สึกดีกับจีหย่งมากเพราะเมื่อหลายปีก่อนในดินแดนต้าเย่ จีหย่งเป็นคนที่เป็นมิตรกับเขามากที่สุด!เขาฉลาดมาก ฉลาดเสียจนน่าทึ่ง!เด็กอายุเพียงสิบขวบแต่มีสติปัญญาชาญฉลาดเช่นนี้ น่าเสียดายที่ฮ่องเต้ซิงหลงถูกตระกูลเซิ่งวางยาพิษไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้นจีหย่งอาจจะกลายเป็นฮ่องเต้ผู้เฉลียวฉลาดได้!“เตรียมบ้านไว้สักหลังแล้วพาพวกเขามาที่นี่”“ข้าอยากเจอพวกเขาด้วยตัวเอง”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เกาเล่อก็รีบไปจัดการในเวลานี้จีหย่ง เสียนกุ้ยเฟยและเหล่าข้ารับใช้อีกสองสามคนล้วนรู้สึกกังวล“ลูกเอ๋ย... พวก... พวกเรามาถึงเขตแดนของหวังหยวนแล้ว พวกเขาจะไม่ฆ่าเราใช่หรือไม่?”เสียนกุ้ยเฟยถามจีหย่งด้วยความกังวลจีหย่งส่ายหน้า “ท่านอาจารย์เป็นคนใจดีที่สุดที่ข้าเคยพบในโลกนี้ขอรับ”“เขา... ใจดีหรือ?”เสียนกุ้ยเฟยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าคำสองคำนี้มาได้อย่างไร!จีหย่งพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม“อืม อืม ไม่ต้องกังวลหรอกขอรับ เสด็จแม่ ท่านอาจารย์จะไม่ทำร้ายเรา”“หากอยู่ในเมืองหลิง พวกเราอาจจะได้มีชีวิตที่สงบสุขอย่างแท้จริงและอยู่ห่างไกลจากการแก่งแย่งชิงดี...”เมื่อจีหย่งพูดจบ เสียนกุ้
“เชิญนั่งก่อนเถิด เสียนกุ้ยเฟย”หวังหยวนมองไปที่เสียนกุ้ยเฟยแล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม“หลังจากนี้ท่านหวังอย่าได้เรียกข้าว่าเสียนกุ้ยเฟยอีกเลย เรียกข้าว่า... พี่หญิงจือเถอะ”ลูกชายของนางไม่คิดจะต่อสู้แย่งชิงแผ่นดินอีกต่อไป แล้วตำแหน่งเสียนกุ้ยเฟยของนางจะมีประโยชน์อะไร?“ฮ่า ฮ่า ได้เลย ขอเลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาสมาถึงของพวกเจ้า”หวังหยวนให้พวกเขานั่งลง จากนั้นทั้งสามก็เริ่มกินข้าวร่วมกันทั้งสองเพิ่งเคยกินของอร่อยเช่นนี้เป็นครั้งแรกจึงต่างก็ประหลาดใจมาก มื้อนี้เป็นมื้อที่เอร็ดอร่อยและมีความสุข“หย่งเอ๋อร์ ข้ามอบบ้านหลังนี้ให้เจ้าแล้ว ต่อไปนี้เจ้าจะมีที่อยู่แล้ว ว่าแต่เจ้ามีแผนอะไรบ้าง?”หวังหยวนถามขึ้น เมื่อจีหย่งได้ฟังเช่นนั้นก็ตอบด้วยรอยยิ้ม“เมื่อก่อนไม่มีแต่ตอนนี้มีแล้วขอรับ”หวังหยวนฟังแล้วก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วเริ่มอยากรู้“แผนอะไร?”จีหย่งตอบตามตรงว่า “ข้าอยากติดตามท่านอาจารย์... เพื่อเรียนรู้การทำธุรกิจขอรับ!”แน่นอนว่าเขาต้องมีหนทางเพื่อความอยู่รอด!เขาฉลาดถึงเพียงนี้ย่อมสามารถทำธุรกิจได้!หวังหยวนหัวเราะ “เจ้าเด็กน้อยเอ๋ย เจ้าช่างฉลาดยิ่งนัก ดี ถ้าเป็นเช่นนั้นอาจารย์ก