ที่นี่...เป็นแค่หมู่บ้านจริงหรือ?เขาถึงกับตกตะลึง!หมู่บ้านนี้จะหรูหราเกินไปหน่อยหรือไม่?ดูเหมือนว่าหมู่บ้านอื่นจะดูเสื่อมโทรมไปทันทีหากนำมาเทียบกัน ไม่ต้องพูดถึงทิวทัศน์ในหมู่บ้านนี้เลย เพราะเพียงแค่บ้านที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ทั้งหมด ก็ล้วนแต่เป็นบ้านหลังใหญ่ที่เป็นระเบียบ!และบ้านหลังใหญ่ทุกหลังยังมีหน้าต่างที่ทำจากแก้วด้วย!นี่มัน...นี่มันราคาเท่าไหร่กัน!ความจริงแล้วเมื่อหวังหยวนวางแผนสร้างหมู่บ้านต้าหวัง เขาวางแผนตามพื้นที่บ้านพักชานเมือง จึงทำให้ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามเป็นระเบียบ!บ้านทุกหลังมีสวนหย่อมขนาดเล็กและต้นไม้ต้นเล็กอยู่หน้าบ้าน และถนนหน้าบ้านทุกหลังก็สะอาดสะอ้านด้วย!ส่วนทิวทัศน์ในหมู่บ้านนั้น ทั้งนาข้าวและทุ่งข้าวสาลีถูกปลูกขึ้นมาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย!ดูแล้วเพลิดเพลินตา แถมยังให้ความรู้สึกเหมือนสวนสมัยใหม่อีกด้วย!สิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากที่สุด คือกลิ่นที่โชยอยู่ในหมู่บ้าน คือกลิ่นบางอย่างที่หอมเหมือนดอกไม้ ไม่เหมือนหมู่บ้านชนบทอื่นที่มีกลิ่นคล้ายมูลไก่และมูลเป็ดโชยไปทั่ว“หมู่... หมู่บ้านนี้ได้รับการดูแลอย่างดี!”ไป๋ชิงชางตกใจมาก แม้ว่าไป๋เฟยเฟยจะเคยม
ทุกสิ่งที่ได้รับรู้ผ่านทางสายตา ทำให้ไป๋ชิงชางตกตะลึง!เขาอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าและพูดด้วยความประหลาดใจ “คุณชายหวัง ท่านเป็นคนแปลกจริง ๆ การก่อสร้างที่นี่เหมือนแดนสวรรค์ ทำให้ข้าตกใจมาก!”เมื่อไป๋ชิงชางมาที่นี่ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะได้เห็นบ้านเรือนรูปทรงเช่นนี้ที่นี่ รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ที่ไม่เหมือนที่ใดด้วยหวังหยวนคิดวิธีการเช่นนี้ได้อย่างไร เขาเป็นคนแปลกอะไรเช่นนี้!และตัวอาคารที่นี่ก็สวยงามมากเสียจนพระราชวังเทียบไม่ได้เลย...“พี่ไป๋ วันนี้ท่านมาหาข้าด้วยเหตุอะไรหรือ?”หวังหยวนเชิญให้ไป๋ชิงชางและไป๋เฟยเฟยนั่งลงก่อน จากนั้นมองทั้งสองคนแล้วถามด้วยความสงสัยจู่ ๆ คำถามนี้ก็ทำให้ไป๋ชิงชางกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง หลังจากนิ่งอึ้งไปนานจากนั้นรีบพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณชายหวัง วันนี้ข้ามาหาท่าน ก็เพื่อมอบของขวัญอย่างหนึ่งให้ท่าน!”เขาชี้ไปยังม้าที่ไป๋เฟยเฟยกำลังจูงอยู่ แล้วพูดอย่างสุภาพ “นี่คือม้าเหงื่อโลหิตที่ข้าเลือกมาให้ท่านเป็นพิเศษ มันสามารถเดินทางไกลได้หลายพันลี้ภายในหนึ่งวัน โดยไม่ต้องหยุดพัก!”น้ำเสียงของเขาขณะพูดบ่งบอกว่ากำลังอึดอัดเล
ไป๋ชิงชางรับปิ้งย่างไม้นั้นมาถือไว้ด้วยสีหน้าค่อนข้างลังเลอันตราย อันตรายเกินไป!แต่ไป๋เฟยเฟยที่นั่งอยู่ข้างเขากลับไม่ได้คิดมากเลย เพราะนางเคยกินสิ่งนี้มานานแล้ว นางจึงชินกับมันแล้ว นางหยิบปิ้งย่างไม้หนึ่งขึ้นมา แล้วเริ่มกินทันทีไป๋ชิงชางเห็นดังนั้นจึงคลายความระแวง แล้วเริ่มกินปิ้งย่างเสียบไม้“อร่อยมาก!”ไป๋ชิงชางกินเข้าไปเยอะมาก และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ!เขามองหวังหยวนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า แล้วพูดขณะยิ้ม “ฮ่าฮ่า คุณชายหวัง คนเช่นท่านนั้นหาได้ยากจริง ๆ ในโลกนี้!”“ข้า ไป๋ชิงชาง และตระกูลไป๋โชคดีจริง ๆ ที่ได้รู้จักท่าน!”“ฮ่าฮ่า พี่ไป๋ชมกันเกินไปแล้ว”หวังหยวนมองไป๋ชิงชางด้วยรอยยิ้ม แล้วยื่นถุงกระดาษใบหนึ่งให้เขา“คุณชายหวัง สิ่งนี้คืออะไร?”ไป๋ชิงชางเปิดมันออกดูด้วยความสงสัย แล้วพบว่ามันคือวัตถุทรงสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่แต่ละก้อนห่อไว้ด้วยกระดาษน้ำมันสิ่งนั้นเป็นก้อนเล็กที่มีสีแดงสด น่าจะทำมาจากส่วนผสมมากมายที่มีกลิ่นหอม“นี่คือเครื่องเทศปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับหม้อไฟ”หวังหยวนชี้ไปยังหม้อไฟที่กำลังเดือดแล้วอธิบายด้วยรอยยิ้ม “หลังจากที่ท่านกลับไปแล้ว ท่านก็ยังสามารถกินมันได้ต
หวังหยวนรู้ดีว่าเมื่อตระกูลไป๋มาที่นี่ในวันนี้เพราะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น ซึ่งเขาพอจะเดาได้ราวหนึ่งหรือสองเรื่อง!ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องระวังให้ดี จะได้ไม่ต้องกังวล และไม่ต้องสูญเสีย!ไป๋ชิงชางมองหวังหยวนก่อนสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “คุณชายหวัง ตระกูลไป๋ของเราหวังว่าคุณชายหวังจะร่วมรับใช้ราชสำนัก!”เขาพูดประโยคนี้ด้วยเสียงดังและทรงพลัง เห็นได้ชัดว่าเขาหวังว่าหวังหยวนจะจงรักภักดีต่ออาณาจักรต้าเป่ยอย่างจริงใจ!เพราะความสามารถและความเก่งกาจของเขาเป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งแผ่นดิน!“คุณชายหวัง แม้ว่าตระกูลไป๋ของเราจะเพิ่งก่อตั้งอาณาจักรขึ้น แต่โปรดเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นของตระกูลไป๋ของเรา หากท่านสามารถเข้าร่วมราชสำนักได้ ท่านกับตระกูลไป๋ของเราจะได้ร่วมกันต่อสู้แบบร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกันได้!”“เหล่าชาวบ้านในหมู่บ้านต้าหวังจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่มีความพิเศษ และได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ในรุ่นต่อไป!”“บิดาของข้ากับข้ายังได้หารือเกี่ยวกับตำแหน่งทางการนี้แล้วด้วย มันคือตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี โดยจะมีอัครมหาเสนาบดีเพียงคนเดียวในอาณาจักรต้าเป่ยของเรา และนั่นก็คือท่าน ท่านว่าอ
ไป๋ชิงชางได้ฟังแล้วก็รู้ว่าไม่ว่าอย่างไรหวังหยวนก็คงไม่ยอมเขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดอีกครั้ง “คุณชายหวัง ในเมื่อท่านไม่สนใจตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี แล้ว... การร่วมธุรกิจล่ะ?”ไป๋ชิงชางต้องการทำธุรกิจกับหวังหยวน!เพราะสิ่งของของเขานั้นไม่ธรรมดา!สิ่งสำคัญที่สุดคืออาวุธร้ายแรงเหล่านั้น!“หากเป็นเรื่องธุรกิจย่อมได้! พี่ไป๋ ท่านบอกมาได้เลย!”หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้มทันที“คุณชายหวัง ข้าได้ยินมาว่าท่านมีอาวุธลับที่สามารถระเบิดได้ ทำให้สามารถสังหารศัตรูได้มากมายในคราวเดียว เมืองหวง หมานอี๋ และตระกูลเซิ่งล้วนพ่ายแพ้ด้วยอาวุธลับนี้ของท่าน!”“พวกเราตระกูลไป๋สนใจอยากรับซื้อเยอะเท่าที่ท่านมีเลย ว่าอย่างไร?”ไป๋ชิงชางเกิดความคิดนี้ขึ้นมา!แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติที่เขาจะอยากได้มาครอบครอง เพราะสิ่งนี้ดูเหมือนของที่ไม่น่าจะมีในโลกนี้!มันคืออาวุธสังหารที่แท้จริง!แต่หวังหยวนไม่ต้องการขายมันให้เขา!เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่ของที่ควรจะมีในโลกนี้ มันก้าวหน้าไปมาก จนการดำรงอยู่ของมันฝ่าฝืนกฎของโลกนี้ด้วยซ้ำเหตุผลที่หวังหยวนสร้างมันขึ้นมา ก็เพื่อใช้ปกป้องตัวเองเท่านั้น!แต่ถ้าพวกเขานำมันไปใช้อาจก
ไป๋ชิงชางมองหวังหยวนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ซึ่งทำให้หวังหยวนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งมีเรื่องจะขอคำแนะนำงั้นหรือ?เห็นได้ชัดว่านี่ต้องเป็นเรื่องสำคัญ“พี่ไป๋โปรดบอกมาได้เลย”หวังหยวนไม่มัวคิดมาก เขาถามไปตามตรงไป๋ชิงชางได้ฟังเช่นนั้นจึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วรีบกล่าว“คุณชายหวัง ข้ารู้ว่าท่านมีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและมีกลยุทธ์ที่ดีในการปกครองอาณาจักร ข้าจึงอยากถามท่านว่าจะทำให้อาณาจักรต้าเป่ยมีความมั่งคั่งในขณะนี้ได้อย่างไร เพราะหากทำได้ ราษฎรในอาณาจักรแห่งนี้จะสงบสุขและปลอดภัย!”หลังจากได้ฟังเช่นนี้ทุกคนก็ตกใจ!หญิงสาวทั้งสามไม่คาดคิดว่าไป๋ชิงชางจะถามคำถามนี้กับหวังหยวน!ตอนนี้เขาเป็นถึงไท่จื่อแห่งอาณาจักรต้าเป่ย แต่เขามาเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับปัญหานี้ เห็นได้ชัดว่าเขาเชื่อใจหวังหยวนเต็มที่!สำหรับไป๋เฟยเฟย นางก็มองหวังหยวนด้วยความอยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน เพราะนางสงสัยว่าหวังหยวนจะตอบอย่างไร!คำแนะนำที่เขาให้ต้าเย่นั้นพิเศษมาก แต่ก็น่าเสียดายที่ฮ่องเต้ซิงหลงในเวลานั้นไม่สามารถเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ จึงย่อมไม่ยอมรับแนวคิดจากเขาเลย!พ่อของนางก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน แต่เขากลับเพียงแค่
“ที่ข้ากำลังพูดถึงคือพูดโดยทั่วไป แน่นอนว่ามีผู้ชายบางคนที่เกิดมาพร้อมกับนิสัยละเอียด รอบคอบ และอดทนเช่นเดียวกับผู้หญิง แต่สุดท้ายก็เป็นส่วนน้อย”“งานบัญชีนั้นเป็นงานที่ต้องใช้เวลาจึงไม่อาจรีบร้อนได้”หลังจากที่หวังหยวนยกตัวอย่างนี้มาอธิบาย พวกเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจนี่คือความจริง!ผู้หญิงมีความละเอียดรอบคอบมากกว่าผู้ชายจริง ๆ!“สิ่งที่ข้าต้องการจะบอกคือผู้หญิงควรเรียนอ่านเขียนด้วย อย่าคิดว่าการขาดความสามารถของผู้หญิงถือเป็นคุณธรรม นั่นเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่!”“ดังนั้น... ข้าจึงคิดว่าผู้ชายและผู้หญิงควรเท่าเทียมกันในเรื่องการศึกษา!”“ผู้หญิงก็ต้องเล่าเรียนเพื่อให้รู้หนังสือด้วย!”“อีกประเด็นหนึ่ง คือการศึกษานี้ต้องเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย!”“ดังนั้นอาณาจักรจะต้องให้ทุนสนับสนุนจัดตั้งโรงเรียน จ้างอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้!”“ถึงตอนนั้นจะมีผู้สมัครเข้าสอบรับราชการจำนวนมากขึ้น โดยคนเก่งที่สุดเท่านั้นจึงจะถูกเลือก!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ไป๋ชิงชางก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า!หากทำเช่นนี้จริง ทุกคนใ
หลังจากที่หวังหยวนพูดจบเขาก็มองไป๋ชิงชาง!“จะเกิดอะไรขึ้น... ถ้าพวกเขารวย ท่านเองก็น่าจะทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นใช่หรือไม่?”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ สีหน้าของไป๋ชิงชางก็เปลี่ยนไปทันที!ในสถานการณ์เช่นนี้!แน่นอนว่าเขารู้!เพราะนี่มีสาเหตุมาจากการที่ตระกูลไป๋ร่ำรวย!เมื่อร่ำรวยแล้วก็จะเริ่มคิดกระหายเรื่องอื่น!หากมีตระกูลใดตระกูลหนึ่งที่แอบพัฒนาอยู่เบื้องหลัง และแผ่นดินยังคงไม่แน่นอน ต้าอันยังคงพัฒนาและมีคนบางกลุ่มแอบซ่อนสะสมกำลังทรัพย์มากขึ้นเรื่อง ๆ นั่นไม่ใช่เรื่องดี!“คุณชายหวัง ท่านทำให้ข้านึกได้จริง ๆ!”ไป๋ชิงชางสูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยสีหน้าตกใจ!“แน่นอนว่าสิ่งที่เรากำลังคาดหวังอยู่ตอนนี้คือความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เมื่อทุกคนร่ำรวย อาณาจักรจึงจะมั่งคั่งและมีอำนาจได้อย่างแท้จริง”“เปิดตลาดกว้างเพื่อเพิ่มรายได้ และให้ทุกคนสามารถสร้างรายได้ย่อมจะเกิดเสถียรภาพ และผู้คนจะหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ!”“จับปลาให้ มิสู้สอนให้จับปลา นี่คือความจริงที่ง่ายมาก”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ไป๋ชิงชางก็พยักหน้า “ใช่แล้ว ถูกต้องเลย!”“ดังนั้นความหมายของการกำกับดูแล ก็คือไม่ปล่อยให้มีการฉ้อฉลเกิ
“ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”
“ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล
ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด
“ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก
เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น
หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง
แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้
ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม
ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย