แชร์

บทที่ 1075

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เพียงแค่วันเดียวแต่ก็พ่ายแพ้แล้วหรือ?

ต่อให้พวกนั้นจะยื่นคอให้ตัดเอง เวลาเพียงแค่วันเดียวก็ไม่พอ!

ยิ่งไปกว่านั้น คือหวังหยวนไปหากองกำลังมากมายมาจากไหน?

“หวังหยวนก็ลักลอบฝึกทหารด้วยหรือ? ตระกูลเซิ่งมีทหารสามหมื่นคน ถ้าต้องการเอาชนะพวกเขาให้ได้ภายในหนึ่งวัน เขาจะต้องมีอย่างน้อยห้าหมื่นนาย! เขาไปหาคนมากมายมาจากไหน!”

ไป๋เจิ้นถังรีบถาม ไป๋เฟยเฟยได้ฟังเช่นนี้จึงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “หวังหยวนไม่มีกองกำลังมากนัก ข้าคิดว่าเขาคงอาศัยความช่วยเหลือของหมานอี๋”

ไป๋เจิ้นถังฟังแล้วจึงพยักหน้า ก่อนพูดว่า “ก็คงจะเป็นเช่นนั้น แต่พ่อยังไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเขาจะสามารถเอาชนะเซิ่งตงฉยงได้ คนผู้นี้... มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมเหนือใครในโลก ถ้าเขามาช่วยตระกูลไป๋ได้ก็คงดีไม่น้อย!”

ไป๋เฟยเฟยพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านพ่อไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าค่ะ หวังหยวนกับข้าเป็นสหายกัน ในอนาคตจะไม่มีทางเป็นศัตรูกันอย่างแน่นอน!”

ไป๋เจิ้นถังมองลูกสาวด้วยสายตามีเลศนัย “เป็นสหายกัน... เท่านั้นยังไม่เพียงพอหรอก คงจะดีถ้าเจ้าทั้งสองได้เป็นสามีภรรยากัน”

หวังหยวนเป็นอัจฉริยะ ไป๋เจิ้นถังย่อมหวังว่าลูกสาวจะได้แต่งงานกับคนเก่งเช่นนี้ และยังหวั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1076

    ในถิ่นทุรกันดารแห่งหนึ่ง เซิ่งตงฉยงนำทัพทหารพ่ายศึกนับพันคนหนีไปตามทางอย่างบ้าคลั่งเซิ่งตงฉยงขี่ม้านำขบวนหักร้างถางพง ในขณะที่กลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็รีบติดตามมาอย่างรวดเร็วรองขุนพลที่อยู่ข้างกายเซิ่งตงฉยงมีสีหน้าจริงจัง ขณะพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “คุณชาย ตอนนี้เราควรทำอย่างไรดีขอรับ ตอนนี้เราควรไปที่ใด?”ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงเต็มไปด้วยฝุ่นดินสกปรก ไม่เหลือเค้าความหยิ่งทะนงดังเดิมเขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ พื้นที่รกร้างว่างเปล่า หลังจากลังเลอยู่นาน เขาก็เลือกเส้นทางหนึ่ง“ไปทางนี้!”คนกลุ่มหนึ่งที่ติดตามเซิ่งตงฉยงรีบเดินทางไปตามทางข้างหน้านั้นอย่างรวดเร็ว รองขุนพลที่อยู่ข้างเขาลังเล และอดไม่ได้ที่จะถามเซิ่งตงฉยงด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “คุณชาย ตอนนี้พวกเราหมดหวังแล้ว ควรทำอย่างไร…”เมื่อได้ฟังเช่นนี้ ตอนนี้สีหน้าของเซิ่งตงฉยงกลับกลายเป็นจริงจังมากสายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด หลังจากลังเลสักพัก เขาก็พูดว่า “บางทีเราน่าจะต้องเผยไพ่ตายของเราแล้ว”รองขุนพลฟังแล้วก็อดตกใจไม่ได้สายตาของเขาเต็มไปด้วยความลังเล ขณะถามอย่างประหม่า “คุณชาย ท่านคิดว่าสิ่งที่หวังหยวนพูดเป็นเรื่องจริงหรือ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1077

    ราวกับคิดว่าเนื้อกระต่ายนั้นคือหวังหยวน!เมื่อรองขุนพลที่อยู่ข้างเขาเห็นว่าในที่สุดเซิ่งตงฉยงก็ยอมกินอาหารแล้ว ใบหน้าของเขาจึงดีใจทันที จากนั้นเขาก็เริ่มกินด้วยเช่นกันเป็นเวลาหลายวันแล้วที่พวกเขาอยู่ในสภาพตึงเครียดหนักหน่วง และในที่สุดพวกเขาก็มีเวลาพักผ่อน รองขุนพลจึงนึกอยากจะยึดเวลานี้ให้นานขึ้น เพื่อพักผ่อนให้เต็มที่แต่ทันใดนั้น เซิ่งตงฉยงก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบดังมาจากระยะไกลสีหน้าของเซิ่งตงฉยงกลายเป็นจริงจังมาก สายตาดุดันจ้องมองไปในระยะไกลอย่างจริงจังเขาส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ข้างหลังเขาเงียบ ขณะมองไปในระยะไกลด้วยสายตาเคร่งขรึม หลายคนมายืนอยู่ข้างเซิ่งตงฉยงพลางมองไปยังทุ่งหญ้าในระยะไกลอย่างระมัดระวัง พวกเขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ในหญ้าหนาทึบนั้นเสมอเซิ่งตงฉยงเหงื่อออกโซมกายขณะหายใจแรง สีหน้าของเขาจริงจังเป็นพิเศษ เขาหยิบธนูและลูกธนูในมือขึ้นมาเล็งไปที่พงหญ้าในระยะไกลแต่ทันใดนั้นเสียงย่ำหญ้าแห้งดังกรอบแกรบก็เริ่มดังขึ้น!ทหารสวมชุดเกราะกลุ่มหนึ่งรีบกระโจนออกมาจากกองหญ้าผู้นำคืออู๋หลิงนั่นเอง!เมื่อเซิ่งตงฉยงเห็นอู๋หลิงก็มีสีหน้าเคร่งเครียดมาก นัยน์ตาของเขาเต็มไปด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1078

    เมื่อเสียงสั่งการของอู๋หลิงดังขึ้น พลหน้าไม้ก็เข้าประจำตำแหน่งทันที!ทันใดนั้น คันธนูและลูกธนูก็ทะยานออกไปทั่วท้องฟ้า มุ่งเป้าไปที่ฝ่ายเซิ่งตงฉยง!ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงตื่นตระหนก!พวกเขาทำได้เพียงพยายามต้านทานอย่างสุดกำลังเท่านั้น มีกำลังพลอยู่หนึ่งพันคน และเพิ่งประสบกับการต่อสู้อันหนักหน่วงมาด้วย ทั้งยังเดินทางมาแล้วทั้งวัน ผลก็คือเมื่อถูกอู๋หลิงซุ่มโจมตีตอนนี้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะต้านทาน!เซิ่งตงฉยงเจ็บปวดมาก เมื่อเขาเห็นว่าคนของเขานับพันคนถูกฆ่าตายหรือได้รับบาดเจ็บทันที!เขาต้องการหลบหนี แต่มันยากมากในเวลานี้ ทั่วบริเวณถูกรายล้อมไปด้วยข้าศึกนับหมื่น จึงไม่มีทางที่จะหลบหนีได้!เมื่ออู๋หลิงเห็นดังนั้น จึงโบกมืออีกครั้ง เหล่าทหารนับหมื่นจึงรีบรุดไปข้างหน้านี่เป็นการสังหารหมู่ฝ่ายเดียว คนของเซิ่งตงฉยงถูกสังหารจนราบคาบภายในเวลาเพียงสิบนาที มีคนเหลืออยู่เพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น!เมื่ออู๋หลิงโบกมือทุกคนก็เข้าไปล้อมรอบอีกฝ่ายไว้“เซิ่งตงฉยง ยอมแพ้เสีย เจ้าหมดทางหนีแล้ว”ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีทางหนีรอดไปได้ ถ้าสู้ก็มีทางเดียวคือต้องตาย!“อู๋หลิง ตอนนี้ข้าอยากจะถามเจ้าอย่างหนึ่ง เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1079

    อู๋หลิงส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แต่ข้ามักจะรู้สึกว่าเซิ่งตงฉยงมีบางอย่างผิดปกติ”“ผิดปกติหรือขอรับ?”รองขุนพลคนสนิทสับสนมาก ไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร“ใช่ เขา... ดูสงบมากเกินไป”อู๋หลิงตอบ รองขุนพลได้ฟังคำตอบแล้วกลับยกยิ้ม“ท่านขุนพล ข้าคิดว่าท่านคงคิดมากไปแล้วขอรับ ตอนนี้เขาเป็นหมูในอวยแล้วย่อมต้องสงบเสงี่ยม หรือพูดอีกอย่างก็คือ อาจจะกำลังหดหู่จนจิตตกไปแล้วก็ได้ขอรับ”“เพราะฝ่ายเราจะยึดแคว้นกู่ได้อย่างแน่นอน ตอนนี้เขาคงไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากสิ้นหวัง”รองขุนพลไม่ได้คิดมากเรื่องนี้ เพราะสถานการณ์มาถึงจุดนี้แล้วจะเกิดปัญหาได้อย่างไร?ในสายตาของเขาเซิ่งตงฉยง เขาต้องรู้สึกว่าฝ่ายเขาเพลี่ยงพล้ำแล้ว ไม่มีทางคิดหนีได้อีกแต่อู๋หลิงกลับปฏิเสธ!“แม้ว่าข้ากับเซิ่งตงฉยงจะไม่ได้เจอกันบ่อยนัก แต่ข้าก็ยังรู้จักเขาดี เขาไม่ใช่คนยอมแพ้โดยง่าย!”“แต่เขากลับสงบเกินไป ข้ารู้สึกอยู่เสมอว่ากำลังจะมีเรื่องร้ายบางอย่างเกิดขึ้น!”หลังจากที่อู๋หลิงพูดเช่นนั้น เขาก็พูดอีกครั้ง “จงระมัดระวังตลอดทาง อย่าปล่อยให้มีช่องโหว่”ในเวลาเดียวกัน ไป๋เจิ้นถังจัดขบวนทัพนอกประตูเมือง และถ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1080

    ไป๋เจิ้นถังมีความศรัทธาอู๋หลิงมาก!หมื่นคนต่อพันคนยังชนะได้ เขาต้องสามารถจับเซิ่งตงฉยงได้แน่นอน!เขาจึงคิดว่าเซิ่งตงฉยงไม่มีทางหนีรอดไปได้แน่นอน!ไป๋เฟยเฟยกหรี่ตาลง นางเห็นด้วยกับความคิดของพ่อ!อู๋หลิงเติบโตเคียงข้างอู๋มู่มาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับอิทธิพลจากทุกสิ่งที่เขาเห็นและได้ยินจากพ่อเท่านั้น แต่เขายังเคยทำศึกด้วยตัวเองมานับไม่ถ้วน!เขามีพรสวรรค์ด้านสงครามที่หายาก!การจับเซิ่งตงฉยงจึงน่าจะเป็นเรื่องง่าย!เมื่อคิดเช่นนี้สองพ่อลูกก็รู้สึกโล่งใจอย่างยิ่งขณะเดียวกัน หลังจากที่เซิ่งฟางสี่กลับถึงบ้าน เซิ่งตงหยวนกับน้องชายก็รู้สึกกังวลมาก“ท่านพ่อ พี่ใหญ่พ่ายแพ้แล้วจริงหรือขอรับ?”เซิ่งฟางสี่สูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยสายตาเย็นชา“แม้ว่าพ่อจะไม่รู้ว่าฉยงเอ๋อร์พ่ายแพ้ได้อย่างไร แต่ดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน หากไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้ว!”เมื่อสองพี่น้องได้ฟังเช่นนี้ก็หน้าเสียทันที!“นี่... นี่เราควรทำอย่างไรดีขอรับท่านพ่อ มีคนจากฝ่ายต้าเย่อย่างอู๋หลิงอยู่ข้างนอก ถ้าพี่ใหญ่กลับมาไม่ได้ พวกเรา... จะไม่ตกอยู่ในหายนะหรือขอรับ?”มีทหารอย่างน้อยแปดหมื่นนายล้อมอยู่ข้างนอก แม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1081

    อู๋หลิงตะคอกอย่างเย็นชา ความอึดอัดในใจของเขาทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ!“อู๋หลิง ในชีวิตเจ้ายังไม่เคยพ่ายแพ้ คราวนี้เจ้าจะไม่เพียงแค่พ่ายแพ้เท่านั้น แต่เจ้ายังจะต้องตายด้วยน้ำมือของข้าอีกด้วย!”“ตอนนี้ข้าให้โอกาสเจ้าฆ่าข้า ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครล้างแค้นให้เจ้า”เซิ่งตงฉยงพูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งทำให้ใบหน้าของอู๋หลิงเคร่งเครียดมากกว่าเดิม“เซิ่งตงฉยง เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าเจ้ากำลังพูดอะไรออกมา?”“เจ้าอยากจะเอาชนะข้าหรือ? ตอนนี้เจ้าเป็นนักโทษของข้าแล้ว แล้วเจ้าจะเอาชนะข้าได้อย่างไร?”แม้ว่าอู๋หลิงจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่เขาก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเซิ่งตงฉยงไปเอาความมั่นใจมาจากไหน!เมื่อได้ฟังเช่นนี้ เซิ่งตงฉยงก็ระเบิดเสียงหัวเราะ“ประเดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง!”“โอ้... ไม่สิ... ตอนนี้...เจ้าก็จะได้รู้แล้ว!”หลังจากที่เซิ่งตงฉยงพูดจบ อู๋หลิงก็สัมผัสได้ถึงเจตนามุ่งสังหารที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง!เจตนามุ่งสังหารนั้นชวนให้หนาวเหน็บ!ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบ วินาทีต่อมาลูกธนูจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้ามาทางนี้ทันที!ขณะเดียวกันในป่าทึบ จู่ ๆ ร่างในชุดดำสิบร่างก็ทะยานออกมา แล้วมายืนหน้ากรงขังเซิ่งต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1082

    เซิ่งตงฉยงมองอู๋หลิงด้วยสายตายั่วยุ!ส่วนอีกสิบเอ็ดคนกำลังคุกเข่าลงตรงหน้าเซิ่งตงฉยงในขณะนี้“คุณชาย ท่านต้องลำบากเสียแล้ว”ผู้นำในชุดสีแดงถอดผ้าคลุมหน้าออกเผยให้เห็นใบหน้างดงาม“ไม่ลำบากนักหรอก ก็แค่... เมื่อครู่นี้ที่ข้าพ่ายแพ้แล้ว ทำได้เพียงรอให้พวกเจ้ามาจัดการ เฮ้อ...”เซิ่งตงฉยงไม่อยากจะใช้พลังลับนี้เลย!นี่คือเส้นสนกลในของตระกูลเซิ่ง!มรดกตกทอดที่แท้จริง!“หงหยิ่ง คราวนี้มีคนมากี่คน?”เซิ่งตงฉยงถาม เมื่อผู้นำหญิงได้ฟังก็ตอบทันที “สามหมื่นเจ้าค่ะ”เซิ่งตงฉยงพยักหน้า “กองกำลังทหารม้าสามหมื่น... แต่คราวนี้ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้เขาสูญเสียกองกำลังทั้งสามหมื่นนี้แน่นอน!”“ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นที่แคว้นกู่?”หลังจากที่เซิ่งตงฉยงพูดจบแล้ว หงหยิ่งก็ตอบด้วยความเคารพ “ยังคงยึดฐานที่มั่นไว้ได้ ตระกูลไป๋และต้าเย่จะยังไม่อาจบุกเข้าไปได้อีกสักระยะหนึ่ง”เซิ่งตงฉยงฟังแล้วก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ“เยี่ยมมาก พวกเจ้าทั้งสิบคนไปจับเป็นอู๋หลิงมา ส่วนหงหยิ่ง ข้าจะให้เจ้าทำภารกิจลับ!”เซิ่งตงฉยงมองหงหยิ่งด้วยสายตาเย็นชาอย่างยิ่ง“คุณชายโปรดบอกมาได้เลยเจ้าค่ะ”“ช่วยไปฆ่าใครคนหนึ่งให้ข้า เขา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1083

    นกพิราบสื่อสารตัวดังกล่าวร่อนลงไปเกาะอยู่หน้าโต๊ะของเขานกพิราบสื่อสารตัวนี้มีปลอกขาสีแดงดำอยู่ที่เท้า เมื่อเห็นนกพิราบสื่อสารตัวนี้ เซิ่งฟางสี่ก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหยิบจดหมายออกมาจากนกพิราบสื่อสารหลังจากอ่านข้อความสั้น ๆ บนนั้นแล้วเซิ่งฟางสี่ก็มีสีหน้าเย็นชา“หวังหยวน... หวังหยวนผู้ประเสริฐ สังหารกองกำลังของลูกชายข้าไปสามหมื่นนาย จนทำให้เขาเกือบตายด้วยน้ำมือของอู๋หลิง!”เซิ่งฟางสี่ขมวดคิ้วพลังที่ซ่อนอยู่ของตระกูลเซิ่งไม่เคยถูกนำมาเปิดเผย ดั่งถูกซ่อนเร้นอยู่ในความมืด เพียงแค่รอช่วงเวลาสำคัญที่จะสร้างความแตกต่าง!สำหรับเซิ่งตงฉยง มันเป็นเพียงกลอุบายของเซิ่งฟางสี่!พวกเขาทุกคิดว่ากองกำลังของเซิ่งตงฉยงคือไพ่เด็ดของตระกูลเซิ่งแต่ทุกคนคิดผิด เพราะนี่คือกลอุบายที่เซิ่งฟางสี่จัดไว้ให้พวกเขาคิดเช่นนั้น!คนสามหมื่นคนเหล่านั้น ถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือที่ต้องความพยายามอย่างมากในการฝึกฝนการสูญเสียพวกคนไปถึงสามหมื่นคนจึงทำให้โศกเศร้ามากแต่โชคดีที่เหตุการณ์นี้ยังไม่ก่อให้เกิดความยุ่งเหยิง หรือกล่าวอีกทางคือมันยังคงอยู่ใต้การควบคุมของเขา!ทันทีที่เซิ่งตงฉยงปรากฏตัว เซิ่งฟางสี่ได้วางแ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status