แชร์

บทที่ 1054

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อเสียงประหลาดใจของต้าหู่ดังขึ้น หวังหยวนก็ยกยิ้ม

“แม้ว่าจะไม่แน่ใจนัก แต่ก็อาจป้องกันไม่ให้เซิ่งตงฉยงจัดการกับเราได้”

หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ต้าหู่ก็หัวเราะทันที

“พี่หยวน บอกข้ามาเถอะว่าเราควรทำอย่างไร?”

หวังหยวนหรี่ตาพูด “กลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคน!”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทุกคนก็งุนงงเพราะไม่เข้าใจความหมาย

กลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคนที่ว่านี้เป็นอย่างไร?

มันหมายความว่าอะไร?

หวังหยวนไม่ได้ตอบ เพียงแค่ยกยิ้มมีเลศนัย

ขณะที่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นที่นี่ ลึกเข้าไปในวังหลวง ไป๋เจิ้นถังเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้ม

หลังจากที่เขาจากไปแล้ว ดวงตาของไป๋เหยียนเฟยก็ฉายแววรู้สึกผิด

ตอนนี้ไป๋หลิงเข้ามาพูดอย่างระมัดระวัง “ฮองเฮา พระองค์... ตอบตกลงแล้วจริงหรือเพคะ? ในกรณีนี้... ไท่จื่อจะควบคุมแผ่นดินได้อย่างไรเพคะ?”

นางฟังบทสนทนาอยู่ตลอด จึงรับรู้เงื่อนไขระหว่างพวกเขา พูดตามตรง...

มันน่าตกใจมาก!

นางคิดว่าฮองเฮาจะไม่มีทางยอมตกลง

แต่ไม่คิดเลยว่าฮองเฮาจะยอมตกลงไปแล้ว!

“หลิงเอ๋อร์ ตระกูลไป๋ไม่ได้ขออะไรมาก ไม่มีอะไรมากไปกว่าการยอมจำนน เมื่อแผ่นดินสงบลง ลูกชายของข้าจะได้ครองราชย์เป็นฮ่องเต้และมีชีวิตที่มั่ง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1055

    ตราบใดที่มีการรบกวนเช่นนี้อยู่ ต้าเย่ก็จะเป็นเหมือนจอกแหนที่ได้แต่ไหลไปตามสายน้ำ เพราะข้อจำกัดของทั้งสามฝ่ายเหมือนหมาป่าชั่วร้ายสามตัวที่ต่างจับตาดูเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นนี้!“ในเรื่องนี้ เสนาบดีฝ่ายซ้ายและเสนาบดีฝ่ายขวาได้คิดวิธีแก้ปัญหาให้ข้า ซึ่งเป็นทางออกที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าคืออะไร?”ในเวลานี้ไป๋เหยียนเฟยพูดอีกครั้ง อู๋หลิงได้ฟังแล้วก็ตกใจวิธีแก้ปัญหาหรือ?เรื่องนี้ยังสามารถหาทางแก้ไขได้หรือ?มันเป็นสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้!ต้าเย่ไม่มีกองกำลัง ปัญหาทั้งภายในและภายนอกรุมเร้า แม้ว่าจะสามารถเอาชนะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ แต่ก็ยังมีอีกสองฝ่ายอยู่ข้างนอกอีกหนึ่ง และอยู่ข้างในอีกหนึ่ง กลายเป็นสามเหลี่ยมแห่งหายนะไปแล้ว!แก้ไขได้ยากจริง ๆ!“ฮองเฮาโปรดอธิบายให้ชัดเจนด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”อู๋หลิงรีบพูดด้วยความอยากรู้ว่าพวกเขายังสามารถทำอะไรได้อีกบ้างไป๋เหยียนเฟยได้ยินเช่นนี้จึงกล่าวว่า “วิธีการที่พวกเขาเสนอนั้นง่ายมาก ขอความช่วยเหลือจากตระกูลไป๋”หลังจากพูดจบ อู๋หลิงขมวดคิ้วทันทีเขารู้เรื่องความบาดหมางระหว่างตระกูลไป๋กับฮองเฮา แล้วตระกูลไป๋จะช่วยได้อย่างไร?เรื่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1056

    หลังจากได้ฟังเช่นนี้ อู๋หลิงก็ยิ่งสับสนมากขึ้น!นี่คือ...หมายความว่าอย่างไร?ฮองเฮาพูดเรื่องเหล่านี้เพื่ออะไร?เหตุใดถึงบอกว่านางไม่ผิดหวัง?หรือว่า...นางไม่ได้เห็นด้วยหรือ? แค่ทดสอบเขาเท่านั้นหรือ?“ฮองเฮา พระองค์หมายความว่าอย่างไร?”อู๋หลิงสับสนมากจนรีบถามไป๋เหยียนเฟยได้ยินเช่นนี้จึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดตามตรง “อู๋หลิง ข้าไม่เคยทรยศต่อต้าเย่ ไม่เคยทรยศต่อฮ่องเต้ผู้ล่วงลับไปแล้ว ทั้งที่เป็นมาโดยตลอด และในอนาคตตลอดไป แต่ว่า... ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า!”หลังจากที่ไป๋เหยียนเฟยพูดเช่นนี้ อู๋หลิงก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก“ฮองเฮา กระหม่อมยังไม่เข้าใจ”ไป๋เหยียนเฟยสูดหายใจ แล้วพูดว่า “ข้าได้แอบพบกับพี่ชายของข้า และข้อตกลงให้เขายอมช่วยเหลือเรา เมื่อเรื่องนี้สำเร็จและแผ่นดินสงบ ก็จะปล่อยให้เขาเข้ามารับช่วงปกครองต้าเย่ต่อ!”“นี่คือสิ่งที่ข้าสัญญาไว้ แต่... ข้าแกล้งสัญญาเท่านั้น เจ้าเข้าใจหรือไม่?”หลังจากพูดเช่นนี้ อู๋หลิงก็ตกใจทันที“นี่... นี่มันคือการชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านไม่ใช่หรือ? ถ้าตระกูลไป๋เข้ามาแทรกแซงราชสำนักแล้ว ก็คงยากที่จะกำจั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1057

    ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลไป๋นี้ยังคงเป็นตระกูลที่ไป๋เหยียนเฟยเติบโตขึ้นมา นางจะสามารถทำลงคอได้จริงหรือ?ไป๋เหยียนเฟยหัวเราะ ขณะน้ำตาไหลอาบแก้ม“ข้าไม่ได้อยากตัดสินใจทำเช่นนี้เลย แต่เจ้าต้องการให้ข้าละทิ้งต้าเย่ไปหรือ? ความจริงข้าสามารถทำได้”“มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการแบกคนไร้ความสามารถไว้บนหลัง มันไม่สำคัญสำหรับข้า อย่างน้อยถ้าปล่อยให้แผ่นดินเป็นหน้าที่ของตระกูลไป๋ ทั้งข้าและชางเอ๋อร์ก็ยังสามารถมีชีวิตที่ปลอดภัยได้”“แต่ข้าสัญญากับฮ่องเต้ผู้ล่วงลับไปแล้วว่าจะปกป้องต้าเย่ของตระกูลจี ข้าไม่อาจผิดสัญญาได้!”“ถ้าเจ้าเต็มใจจะช่วยข้า ข้าก็ขอขอบคุณจากใจจริง”“แต่ถ้าเจ้าไม่เต็มใจจะช่วยข้า ข้าก็จะไม่เสียใจ”ไป๋เหยียนเฟยมองอู๋หลิงแล้วพูดตามตรง หลังจากพูดเช่นนี้ อู๋หลิงก็ถอนหายใจ ครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะพยักหน้า“เรื่องนี้… กระหม่อมจะจัดการเอง”อู๋หลิงตอบ เขาไม่มีเหตุผลจะปฏิเสธไม่เพียงแต่เพื่อความมั่นคงของแผ่นดินเท่านั้น แต่ยังเพื่อความไว้วางใจของบิดาของเขาด้วยอู๋หลิงจึงเห็นด้วย แม้ว่าจะมีความละอายใจมากก็ตามในขณะนี้ เมื่อไป๋เจิ้นถังออกจากวังหลวง และกลับมายังจวนตระกูลไป๋ เขาก็กำลังนึกถึงเรื

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1058

    เมื่อไป๋เฟยเฟยนึกถึงหวังหยวน รอยยิ้มจางพลันปรากฏบนใบหน้า นัยน์ตาฉายแววสนุกสนานไป๋เจิ้นถังได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้า แล้วพูดว่า “นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก หวังหยวนกำลังจะโจมตีเซิ่งตงฉยง ขณะที่ฝ่ายเราเองก็กำลังจะเริ่มดำเนินการกับตระกูลเซิ่ง”ไป๋เฟยเฟยตกใจเมื่อได้ยินเช่นนี้“ท่านพ่อ ท่านจะให้พี่ชายลงมือหรือเจ้าคะ?”ไป๋เจิ้นถังส่ายหน้าทันที “ไม่ พ่อยังไม่อยากเปิดเผยพลังของพี่ชายของเจ้า หากเซิ่งตงฉยงถูกหวังหยวนแทรกแซง จะไม่มีกองกำลังพร้อมรบประจำในสามแคว้นของตระกูลเซิ่ง”“ตราบใดที่เรามีทหารม้าห้าหมื่นนาย เราก็สามารถกวาดล้างตระกูลเซิ่งได้”“ติดต่ออาของเจ้า บอกให้นางขอความช่วยเหลือจากอู๋หลิงอย่างเต็มที่ ส่วนฝ่ายเราจะเริ่มดำเนินการอย่างลับ ๆ เข้าโจมตีตระกูลเซิ่งจากทั้งสองทาง!”ไป๋เจิ้นถังพูดเสียงดังด้วยสีหน้าเย็นชาแม้แต่เซิ่งฟางสี่ก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะเคลื่อนไหวในตอนนี้!ในเวลาเดียวกัน หวังหยวนก็ตั้งรกรากอยู่ในเมืองหยาง พวกเขามีเพียงสิบคนเท่านั้น การซ่อนตัวอยู่ในเมืองหยางอันกว้างใหญ่แห่งนี้จึงเป็นเรื่องง่ายสิ่งแรกที่หวังหยวนทำ คือการใช้นกพิราบสื่อสารส่งจดหมายถึงหมานต๋าถูเนื่องจากเขาต้องกา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1059

    พูดตามตรงคือ...มันมากเกินไปแล้ว!สิ่งที่หมานต๋าถูเกลียดที่สุดคือตระกูลเซิ่ง!ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องยึดดินแดน เขาคงอยากจะนำทัพทหารม้าหมานอี๋ทั้งหมดไปสังหารตระกูลเซิ่ง!ฆ่าล้างบางให้หมด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต!“สั่งการให้เอ้อร์ฮานำทหารม้าห้าหมื่นนายไปซุ่มโจมตีชายแดน เพื่อรอเข้าร่วมกองกำลังของหวังหยวน!”หมานต๋าถูออกคำสั่งทันที หลังจากนั้น กองทัพหมานอี๋ห้าหมื่นนายก็เริ่มเคลื่อนตัวไปยังชายแดนเมืองสู่!ซึ่งทางฝ่ายเซิ่งตงฉยงก็ทราบข่าวนี้แล้ว“คุณชายใหญ่ หมานอี๋ได้ยกทัพมาแล้ว มีกันห้าหมื่นคน อาจบุกโจมตีเมืองสู่ของเราขอรับ!”หลังจากที่ไส้ศึกมารายงานข่าว แม่ทัพหลายคนในกระโจมใหญ่ก็เริ่มพูดกันทีละคน“คุณชายใหญ่ หมานอี๋ตั้งใจแน่วแน่มากจนกล้ายกทัพมาบุกเมืองสู่!”“ใช่ขอรับ คุณชายใหญ่ กองทัพสามหมื่นนายของพวกเรา สามารถสังหารทหารทั้งห้าหมื่นนายของฝ่ายเขาได้แน่นอน!”เหล่าแม่ทัพไม่เกรงกลัวเลย!แต่กลับยิ่งมีความฮึกเหิมในการต่อสู้มากขึ้น!ด้วยการกระทำเช่นนี้ คงคาดหวังว่าจะสามารถกวาดล้างตระกูลเซิ่งทั้งหมดได้!เมื่อได้ฟังแล้ว เซิ่งตงฉยงก็ยกยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าเข้าใจสิ่งที่พวกเจ้าพูด ไม่ต้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1060

    ณ ชายแดนเมืองสู่เซิ่งตงฉยงนำกองทหารม้าสามหมื่นนายมาตั้งค่ายรวมตัวกันที่นี่ในเวลานี้ เอ้อร์ฮาฝั่งตรงข้ามก็ทราบข่าวแล้วว่าเซิ่งตงฉยงกำลังตั้งค่ายที่นี่ขณะนี้ใบหน้าของรองขุนพลที่อยู่ข้างกายเอ้อร์ฮาก็เคร่งเครียดทันที จากนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เซิ่งตงฉยงผู้นี้กล้ามาตั้งค่ายที่นี่จริง ๆ!”ความกังวลและความสับสนปรากฏบนใบหน้าของเขา เขามองเอ้อร์ฮาอย่าร้อนรน แล้วพูดอย่างกังวล “เช่นนั้นเราควรทำอย่างไรดีขอรับ เซิ่งตงฉยงนำทหารม้ามาสามหมื่นนาย มีคนมากมายจนเราไม่มีทางเอาชนะพวกเขาได้...”เมื่อเห็นรองขุนพลที่ตื่นตระหนก และมีร่องรอยของความสับสนในดวงตา เอ้อร์ฮาก็ยกยิ้มจางพลางโบกมือเบา ๆ แล้วพูดว่า “ฮ่าฮ่า ไม่มีปัญหาหรอก!”“ชายที่ชื่อเซิ่งตงฉยงคนนั้น ถ้าเขากล้าบุกมาที่นี่ เขาจะต้องตายแน่นอน!”“เอ๊ะ?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของรองขุนพลของเอ้อร์ฮาก็ฉายแววประหลาดใจสายตาเขาบ่งบอกว่าลังเล ก่อนจะถามด้วยความสับสน “เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้เล่าขอรับ?”ใบหน้าของเอ้อร์ฮาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขาบ่งบอกว่าไม่แยแส ขณะพูดด้วยรอยยิ้ม “เพราะจุดประสงค์ของข้าคือการล่อพวกเขามาที่นี่”“หากพวกเขากล้าบุกเข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1061

    เมื่อเซิ่งตงฉยงได้ยินเช่นนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นระเบิดเสียงหัวเราะทันทีนัยน์ตาเขาฉายแววเย่อหยิ่ง หัวเราะเสร็จก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ฮ่าฮ่า เจ้ายังกล้าพูดเช่นนั้นกับข้าอีก ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นพวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริง ๆ”สายตาของเซิ่งตงฉยงเต็มไปด้วยความดูหมิ่นและการเสียดสี เขาถามอย่างเหน็บแนม “เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าครั้งที่แล้วข้าเอาชนะเจ้าได้อย่างไร?”ทันทีที่ได้ยินเซิ่งตงฉยงพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้ว ใบหน้าของเอ้อร์ฮาก็กลายเป็นเคร่งเครียดอย่างมากดวงตาของเขาฉายแววมืดมน ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ครั้งที่แล้วมันเป็นเพียงเพราะโชคของเจ้าเท่านั้น”“เจ้าคิดว่าเจ้ามีโอกาสโชคดีเช่นนั้นได้ทุกครั้งหรือ?”ดวงตาของเซิ่งตงฉยงฉายแววดุร้าย เขากำหมัดแน่น มีสีหน้าดุดันขณะพูดเย้ย “ครั้งสุดท้ายข้าได้ไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับไม่รีบหนีกลับไปอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ทว่ายังกล้ารนหาที่ตายที่นี่อีกงั้นหรือ?”“ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว หากเจ้ารนหาที่ตายเองเช่นนี้ จงอย่าโทษข้าว่าไร้ความปรานีกับเจ้าก็แล้วกัน!”ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงโหดเหี้ยมมาก สายตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1062

    ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงเต็มไปด้วยความโกรธ ขณะนี้เขารู้สึกว่าเขาหงุดหงิดเพราะเจ้าเด็กชื่อเอ้อร์ฮาคนนี้มาก เขาอยากจะจับตัวอีกฝ่ายมาถลกหนังทั้งเป็น แล้วกรีดเลือดออกมาดื่ม และทรมานเขาให้ตายอย่างโหดเหี้ยม!ทันใดนั้นใบหน้าของเอ้อร์ฮาก็จริงจัง เขาขมวดคิ้วพูดอย่างมีเลศนัย “หากสู้กันจริง เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก เจ้าแค่รนหาที่ตายที่นี่เท่านั้น”“บอกเลยว่าด้วยทหารห้าหมื่นคนของเจ้านั้น แม้ว่าจะมีมาเพิ่มอีกห้าหมื่นคน เจ้าก็ยังไม่เหมาะที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี หากข้าต้องการสังหารเจ้า มันเป็นเรื่องง่ายที่ไม่ต้องใช้ความพยายามเลย!”คำพูดของเอ้อร์ฮาทำให้ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงมืดมนกว่าเดิมใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจจนถึงกับตะคอกว่า “เจ้าหนู จะตะโกนอยู่ที่นี่อีกนานเพียงใด?”“ตัวเจ้าเองมีความสามารถระดับใด เจ้าไม่รู้ตัวหรือ มายืนพูดเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ให้เสียเวลาจะมีประโยชน์อะไร?”ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงมีรอยยิ้มเย็นชาน่าสะพรึงกลัว ดวงตาของเขาดูมืดมน ขณะกล่าวว่า “ถ้าเจ้ามีความสามารถจริง วันนี้เจ้าจะต่อสู้กับข้าอีกครั้งหรือไม่?”“วันนี้ลองดูอีกครั้ง ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะข้าได้จริง ๆ ก็ยังไม่สายเกินไปที

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status