หลินตงเย่หยุดชะงักโดยฉับพลัน "นายหมายความว่าแฮ็กเกอร์ก็คือซีซี?""ไม่ใช่น้องแล้วจะเป็นใครไปได้ เมื่อครู่นี้ผมได้ทำการยืนยันแล้ว และน้องก็เป็นคนที่ผมสอนมาอีกด้วย ผมเข้าใจวิธีการเข้าไปนี้ดี นอกจากเธอแล้วไม่มีใครอีกแล้วล่ะครับ"หลินตงเย่รู้สึกสับสน ที่แท้ก็เป็นซีซีที่ได้บุกรุกเครือข่ายของบริษัทของเขานั่นเองเขาตกตะลึงอยู่นาน มองดูคอมพิวเตอร์แล้วพูดว่า "แล้วซีซีก็ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่เลวเลยๆ แม้แต่คนในบริษัทกลับทำอะไรเธอไม่ได้ มันน่าทึ่งเสียจริงๆ"ไม่เสียแรงที่เป็นน้องสาวของเขา ช่างฉลาดและน่ารักอะไรอย่างนี้!หลินตงเย่ที่มีสีหน้ามืดมนเมื่อครู่นี้ จู่ๆ ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ราวกับพ่อเฒ่าที่ใจดีอย่างไงอย่างงั้นทุกคนในออฟฟิศมองดูเจ้านายด้วยความกังวลใจ เกิดอะไรขึ้น?ทำไมสีหน้าของเจ้านายถึงเปลี่ยนไปทันทีหลังจากที่เขารับโทรศัพท์?หลินตงเย่วางสายโทรศัพท์ เขามองไปที่ผู้คนในแผนกรักษาความปลอดภัยด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งผยอง "เป็นอย่างไรบ้าง ได้เบาะแสอะไรจากแฮ็กเกอร์คนนั้นหรือเปล่า?"หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยตอบอย่างกล้าหาญว่า "ไม่เลยครับ อีกฝ่ายถอยออกไปแล้ว เราไม่พบที่อยู่ IP ของอีกฝ่าย และไม่ม
หลินซีรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไป เธอจึงรีบพูดขึ้นมาว่า "พี่ใหญ่คะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ คงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการเวนคืนชุมชนเก่านั้นหรอกนะคะ"หลินตงเย่หรี่ตาลงเล็กน้อย "เธอรู้ได้อย่างไร?"การแสดงออกของหลินซีดูไม่เป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่ "เพราะผู้คนที่อาศัยในชุมชนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนระดับรากหญ้า แล้วจะมีความสามารถแบบนี้ได้อย่างไรกันล่ะคะ? ดังนั้นฉันคิดว่าพี่ใหญ่น่าจะคิดมากไปเองนะคะ"เมื่อหลินตงเย่ได้ยินคำว่า "คนระดับรากหญ้า" เขาก็ขยับริมฝีปากบาง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "เธอคำก็ระดับรากหญ้าสองคำก็ระดับรากหญ้า หรือว่าเธอลืมกำพืดของตัวเองไปเสียแล้ว?"ทันใดนั้นการแสดงออกของหลินซีก็เปลี่ยนไปทันที และเธอก็ขัดจังหวะคำพูดของหลินตงเย่อย่างรวดเร็ว "พี่ใหญ่คะ นี่มันคนละเรื่องกันนะคะ เรื่องการเวนคืนนั้นให้ฉันเป็นคนจัดการเถอะค่ะ ฉันจะไม่ทำให้พี่ใหญ่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ"หลินตงเย่ไม่ใช่คนโง่ เขาเริ่มสงสัยแล้วว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากการเวนคืนอย่างแน่ๆเพราะท้ายที่สุดแล้ว ซีซีจะไม่แฮ็กเครือข่ายของบริษัทโดยไม่มีเหตุผล เขาเชื่อในอุปนิสัยของน้องสาวของตัวเองดีในเวลานี้ มีคนจากแผนกรักษาค
หลินซีก้มหน้าตลอดเวลาและไม่พูดไม่จา ลำพังตัวเธอก็ยากที่จะเอาตัวรอดอยู่แล้ว แล้วเธอจะพูดรับหน้าแทนชายคนนั้นได้อย่างไร ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของผู้ชายโง่คนนี้ที่จัดการเรื่องได้ไม่ดี จึงทำให้จ้าวซีซีมาตามถึงที่แบบนี้ได้!หลังจากที่ผู้จัดการแผนกถูกพาออกจากออฟฟิศ หลินซีก็พูดอย่างน่าสงสารว่า "พี่ใหญ่ เรื่องนี้ไว้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะนะ"ในฐานะคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิน เธอมีสิทธิ์เรื่องนี้ไม่ใช่หรือ?"หลินซี เธอไม่มีคุณสมบัติที่จะจัดการในเรื่องนี้ แล้วอีกอย่าง ทำไมเธอต้องพุ่งเป้าไปที่ใครเขาด้วย?"หลินตงเย่ไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำไมหลินซีถึงมุ่งเป้าไปที่ซีซี?หลินซีตอบด้วยใบหน้าที่เย็นชาว่า "เพราะว่าจ้าวซีซีเข้ามาแทรกแซงความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับฮั่วหานฮุย เธอเป็นใคร และฉันเป็นใคร ฉันแค่อยากจะเตือนเธอเล็กน้อยในครั้งนี้ก็เท่านั้นค่ะ"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว หลินตงเย่ก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการแข่งขันระดับนานาชาติไป๋ฮวาครั้งก่อนได้ ทั้งๆที่ซีซีเป็นที่หนึ่งแต่กลับจบลงที่อันดับสุดท้ายครั้งนั้นหลินซีบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ และเขาก็เชื่ออย่างนั้นแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เ
ตบฉาดนี้ของหลินตงเย่ ทำให้หลินซีตกตะลึงหลินซีมองไปยังผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าด้วยความไม่เชื่อ แล้วพูดด้วยดวงตาที่แดงก่ำว่า "พี่ใหญ่ นี่พี่ตบฉันงั้นเหรอ? พี่ตบฉันเพราะจ้าวซีซีอย่างนั้นเหรอ!"หลินซีคิดไม่ถึงเลยว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ไปได้!หลินตงเย่ดูจริงจัง เขาจ้องไปที่หลินซีอย่างเย็นชา "หลินซี ในฐานะคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิน เธอกลับปากร้ายได้ถึงขนาดนี้ การร่ำเรียนมารยาทในช่วงหลายปีที่ผ่านมามันไปไหนหมดแล้วล่ะ?"เมื่อครู่นี้เขาคิดว่าหลินซีได้ค้นพบตัวตนของซีซีแล้วเสียอีกแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า หลินซีอาจเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างซีซีกับพี่สามและพี่หกผิดไป แต่ถึงอย่างนั้น หลินซีก็ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดแบบนั้นเกี่ยวกับซีซีอยู่ดีหลินซีพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่า "พี่ใหญ่ เพราะฉันโกรธถึงพูดแบบนี้ออกไป อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ผิดอะไรด้วย""หุบปาก! เธอเป็นคนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแข่งขันระดับนานาชาติไป๋ฮวาครั้งล่าสุดใช่ไหม? หลินซี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานทั้งหมดของตระกูลหลิน! ถ้าฉันพบว่าเธอยังจะเข้าไปยุ่งอีกละก็ ฉันจะระงับบัตรเครดิตทุกใบของเธอซะ""พี่ใหญ่ พ
หรือว่าผู้จัดการจะถูกดุไปเมื่อครู่นี้?จ้าวซีซีจงใจชักสีหน้า "โอเค ในเมื่อเงินได้โอนเข้าบัญชีแล้ว ฉันก็ไม่ถือสาเอาความอะไรให้มาก""ขอบคุณครับคุณจ้าว ผมต้องขอโทษจริงๆเลยครับ"ผู้จัดการแผนกเวนคืนขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในไม่ช้า เสียงของหลินซีก็ดังมาจากข้างๆ เขา "เหอะ ช่างไร้ค่าเสียจริงๆ! ไอ้พวกอ่อน!"จ้าวซีซี เงยหน้าขึ้นมองและเห็นหลินซีเดินออกจากลิฟต์ด้วยท่าทางหยิ่งผยอง เธอจึงตอบเรียบๆไปว่า "นี่เขาเรียกว่าผิดแล้วก็แก้ไข""จ้าวซีซี อย่าคิดว่าแผนการเล็กๆน้อยๆของเธอในวันนี้ มันจะทำให้เธอชนะแล้วนะ""ไม่เลว อย่างน้อยฉันก็บรรลุเป้าหมายแล้วล่ะ"จ้าวซีซีมองไปยังนังดอกทองที่อยู่ตรงหน้า "หากครั้งต่อไปเธอยังใช้วิธีการที่สกปรกๆแบบนี้อีก เชื่อหรือไม่ สิ่งที่จะถูกเผยแพร่ออกไปก็คือวิดีโอ ไม่ใช่คลิปเสียงเพียงเท่านั้น เธอนะจะขอบคุณที่ช่วยรักษาหน้าตาของเธอไว้ถึงจะถูกนะ"หลังจากที่เธอพูดจบ หลินซีก็เดือดดาลเอาเสียมากๆ "จ้าวซีซี ฉันประเมินความสามารถของเธอในการล่อลวงผู้ชายต่ำไปจริงๆ และเธอก็สามารถหาแฮ็กเกอร์มาช่วยเธอทำสิ่งผิดกฎหมายได้อีกต่างหาก"จ้าวซีซีมองไปพร้อมกับกึ่งๆยิ้ม "ฉันไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพ
พี่สะใภ้ฉินอันจิ้งเป็นคนเดียวที่อยู่ในภาวะแห่งความสับสน บริษัทของตัวเองจะถูกซีซีแฮ็กเข้าไปได้อย่างไร?ที่สำคัญก็คือ พี่ชายที่สุดแสนจะประคบประหงมน้องสาวทั้งสองคนต่างก็ดีอกดีใจ ราวกับว่ากำลังจะเฉลิมฉลองวันปีใหม่อย่างไงอย่างงั้นหลินเป่ยออกมาอธิบายว่า ซีซีกำลังเรียนรู้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จากพี่รองหลินหนาน และสุดท้ายก็สรุปว่า [ดูเหมือนว่าน้องสาวจะก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วเลยนะ!]ฉินอันจิ้งยังคงงุนงงอยู่เล็กน้อย [แล้วทำไมซีซีจะต้องแฮ็กเข้าไปในระบบของบริษัทอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนั้นด้วยล่ะ หรือว่าเธอได้พบกับอะไรบางอย่าง?]หลินตงเย่อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างละเอียดและพี่หกหลินวู่เซิงก็โพล่งในกลุ่มออกมาว่า [นังบ้าหลินซีนั่น ถึงกับกล้ากลั่นแกล้งซีซี พี่ใหญ่เรื่องนี้พี่จะจัดการอย่างไร? หากต่อไปซีซีรู้แล้วละก็ พี่จะรับหน้าได้อย่างไร?]หลินตงเย่ตอบกลับไปว่า [ฉันรู้ ให้เวลาฉันหนึ่งสัปดาห์เพื่อจัดการกับเรื่องของหลินซี]และหลินเป่ยก็ถือโอกาสพูดออกมาว่า [ซีซี วางแผนที่จะกลับมาที่เมืองหนานเฉิง เพื่ออยู่กับเราหลังจากเรียนจบในอีกไม่กี่เดือน พี่ใหญ่ พี่ต้องรีบไปจัดการกับเรื่องของหลินซีนะ]ถึงตอน
ฉินเฟิงเดินออกมาในตอนเที่ยง "ซีซี เราไปกินข้าวเที่ยงกันเถอะ""ได้ค่ะ รุ่นพี่ ฉันจะเลี้ยงเองค่ะ ครั้งก่อนรุ่นพี่บาดเจ็บเพราะช่วยฉันเอาไว้ นานขนาดนี้แล้วฉันยังไม่รู้จะขอบคุณรุ่นพี่อย่างไรดีเลย""อยากจะขอบคุณฉันมันง่ายจะตายไป ก็ขอบคุณด้วยร่างกายก็พอแล้ว"ท่าทางของจ้าวซีซีดูอึดอัดเล็กน้อย วินาทีต่อมา ฉินเฟิงก็รีบพูดขึ้นมาว่า "แค่ล้อเล่นเท่านั้น เธออย่าจริงใจเลย ไปกินข้าวกันเถอะ"ในเวลานี้ หญิงวัยกลางคนก็เดินเข้ามา "ลูกรัก ลูกทำงานเสร็จแล้วเหรอ? แม่ตุ๋นซุปไก่มาให้ลูกโดยเฉพาะเลยนะ จะได้บำรุงร่างกายไงล่ะ""แม่ครับ แม่มาได้ยังไงเนี่ย? ผมบอกแล้วว่ากลางวันไม่กลับไปกินข้าวไม่ใช่เหรอครับ?"ฉินเฟิงขมวดคิ้ว เขารู้ว่าวันนี้จ้าวซีซีมาทำงานล่วงเวลาที่สตูดิโอ เขาก็เลยจงใจนัดจ้าวซีซีออกไปกินข้าวข้างนอกด้วยแบบนี้แต่คิดไม่ถึงเลยว่า แม่ของเขาจะมาหิ้วซุปไก่มาที่บริษัทจริงๆ นี่มันจะทำให้วุ่นวายมากขึ้นหรือเปล่า?"ลูกรัก นี่แม่ก็กลัวว่าลูกจะกินอะไรที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ที่บริษัท ก็เลยหิ้วซุปไก่มาแบบนี้ พอดีเลยหนูจ้าวก็อยู่ พวกหนูก็กินด้วยกันได้นี่นา"จ้าวซีซียิ้มอย่างกระอักกระอ่วนใจ "คุณป้าทานมื้อเที่ยง
จ้าวซีซีคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอฮั่วหานฮุยที่นี่ได้!บางครั้งโชคชะตามันก็ช่างบัดซบเสียจริงๆ!และในเวลานี้ แน่นอนว่าฉินเฟิงก็มองเห็นฮั่วหานฮุยด้วยเหมือนกัน จู่ๆ ดวงตาของเขาก็สดใสขึ้นมาไม่น้อยเลย นี่คือคู่หมั้นของคุณหนูใหญ่ตระกูลหลินไม่ใช่เหรอ?ทั้งสามคนพบกันที่ประตูร้านอาหาร และบรรยากาศก็ละเอียดอ่อนอย่างบอกไม่ถูกจ้าวซีซีรีบมองไปทางอื่นทันที พร้อมกับพูดว่า "ป้าฉินคะ เราเข้าไปทานอาหารในห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวกันก่อนดีกว่านะคะ"แต่ทว่า ฉินเฟิงกลับก้าวออกไป และเดินไปหาฮั่วหานฮุยเสียนี่ "สวัสดีครับคุณฮั่ว บังเอิญจริงๆ เลยนะครับ คุณก็มาทานอาหารที่ร้านนี้เหมือนกันหรือครับ"เมื่อจ้าวซีซีเห็นฉินเฟิงทักทายฮั่วหานฮุย หัวใจของเธอก็แทบจะกระโดดออกมา ฉินเฟิงไปรู้จักกับฮั่วหานฮุยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?เธอเงยหน้าขึ้นและพบกับชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาไร้ที่ติ โดยที่อีกฝ่ายก็เงยหน้ามามองเธอแวบหนึ่งด้วยเช่นกัน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างเรียบเฉย โดยไม่ได้พูดจากันแต่อย่างใดฉินเฟิงพยายามทุกวิถีทางเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับฮั่วหานฮุย เพราะนี่คือตระกูลฮั่วที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของเมืองนี้ หากตระกูลฮั่วให้ทรัพย