หลังจากที่ชายหนุ่มจากไปก็ได้ยินเพียงเสียงร้องโอดครวญจากทางด้านหลังส่วนเวินหนี่ที่กำลังหลับใหล เธอเองก็ฝันว่ามีปีศาจกำลังไล่ตามมาอยากจะวิ่งหนีออกไปแต่ก็ทำไม่ได้ เกิดความกลัวขนาดมหึมาที่กำลังกลืนกินจนทำให้เธอหายใจไม่ออกราวกับคนที่กำลังจะตายในไม่ช้าหญิงสาวสะอื้นในขณะที่น้ำตาไหลออกมาไม่หยุดเห็นแบบนั้นเย่หนานโจวจึงรีบใช้มือเช็ดน้ำตาออกให้เบา ๆ ตอนนี้ร่างบางตัวร้อนมากและเริ่มมีไข้หลี่ถิงเองก็กำลังนั่งร้องไห้อยู่ข้าง ๆ เดิมทีเธอกำลังจะออกไปขอความช่วยเหลือแต่พบกับเย่หนานโจวที่ทางเข้าเสียก่อน โชคดีที่เขามาถึงได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคงเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ หลี่ถิงร้องไห้แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “ท่านประธาน มันเป็นความผิดของฉันเองที่ดูแลพี่เวินหนี่ไม่ดี ตอนนี้พี่เวินหนี่น่าจะมีไข้ เรารีบส่งตัวไปโรงพยาบาลกันเถอะค่ะ”ตอนนี้เย่หนานโจวเยือกเย็นมากราวกับน้ำแข็งที่ไม่แยแสต่อมนูษย์คนไหน ก่อนจะพูดเพียงแค่ว่า “ไม่ เป่ยชิง พาเธอกลับบ้าน!”พูดจบเขาก็อุ้มเวินหนี่ขึ้นรถแล้วออกไปจากตรงนั้นทันทีหลี่ถิงยังคงร้องไห้แล้วโทษตัวเองอย่างควบคุมสติไม่ได้ เห็นอย่างนั้นเป่ยชิงจึงเข้ามาบอก “หยุดร
ทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปก็เห็นเวินหนี่กำลังนั่งถูตัวเองอย่างรุนแรงอยู่ในอ่างอาบน้ำ เธอไม่ส่งเสียงด้วยซ้ำเพราะกลัวว่าเขาจะได้ยิน“เวินหนี่ หยุด!”เย่หนานโจวรีบเข้าไปจับมือเล็กที่กำลังทำร้ายตัวเองไว้แน่นเวินหนี่มองเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ พยายามดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดจากพันธนาการ “อย่ามาจับตัวฉันนะ ตัวฉันสกปรก....”“เธอไม่ได้สกปรก” เย่หนานโจวเอ่ยแล้วใช้แขนแกร่งโอบรอบตัวเธอ ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายทำร้ายตัวเอง “เธอไม่ได้สกปรก”ในหัวของเวินหนี่มีแต่ภาพที่เธอถูกกดตัวลงบนโต๊ะ เท่านี้ภายในใจก็ก่อเกิดความรู้สึกขยะแขยงมากมาย สิ่งนี้เองที่ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองสกปรก ว่าแล้วหญิงสาวก็ส่ายหน้าทันที “อย่าปลอบใจฉันเลย ฉันรู้ว่าตัวฉันสกปรกไปแล้ว ขนาดฉันเองยังรู้สึกว่าตัวเองสกปรกเลย!”ร่างบางยังคงถูตัวเองต่อไปจนแดงเป็นจ้ำ ๆ“เวินหนี่”ไม่ว่าเขาจะตะโกนยังไงเธอก็ดูเหมือนจะไม่ได้ยินเวินหนี่ขัดถูทุกส่วนของร่างกายพลางตะโกนอย่างไม่มีสติซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ฉันมันตัวสกปรก ฉันต้องทำความสะอาดสิ!”“ฉัน...” เธอพยายามพูดประโยคเดิม ๆ ออกมา ทว่าปากบางที่สั่นเทานั้นก็ต้องหยุดลง เมื่อเย่หนานโจวก้มลงมาใกล้ สายตา
เวินหนี่คล้องแขนไว้ที่คอแกร่ง “ฉันอยากให้คุณอยู่กับฉัน”“ฉันจะอยู่นี่ไม่ไปไหนทั้งนั้น” เย่หนานโจวลูบแก้มนวลเบา ๆ “ตัวเธอแดงหมดแล้ว นอนเฉย ๆ อย่าขยับมากเดี๋ยวมันจะถลอกจนเป็นแผลรู้ไหม?”เวินหนี่มองเขา ในที่สุดเข้าใจว่าการแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเขาของลู่ม่านเซิงมีผลลัพธ์ยังไงเด็กที่ร้องไห้ก็จะได้รับลูกอมนี่เองเพียงเธอแสดงความอ่อนแอเล็กน้อย เขาก็จะแสดงความอ่อนโยนกับเธอทันที“โอเคค่ะ” เธอยอมปล่อยมือจากเขาแม้จะไม่ค่อยเต็มใจนักเย่หนานโจวห่มผ้าให้แล้วนั่งลงที่ขอบเตียง “หนาวไหม?”เธอส่ายหน้า “ไม่หนาวค่ะ”“เธอมีไข้ต่ำ ๆ” เขาแสดงความกังวลออกมา “เดี๋ยวจะช่วยเช็ดตัวให้เผื่อตัวจะเย็นลง”“คุณใจดีจริง ๆ” เธอมองเขาแล้วเอ่ยออกมาจากหัวใจคนฟังยิ้มแล้วบีบจมูกเล็กเบา ๆ เวินหนี่เองก็ไม่ได้หลบและมองเขาอยู่อย่างอ้อยอิ่งเธออยากจะเก็บความใจดีของเขาไว้ในใจตลอดไปทว่าเย่หนานโจวกลับพูดว่า “นี่สาวน้อย อย่าพูดว่าคนอื่นใจดีง่าย ๆ แบบนั้นสิ”เขาเพิ่มน้ำแข็งลงบนผ้าขนหนูแล้ววางลงบนหน้าผากเธอพลางเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ถ้าคนที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ใช่ฉันแล้ว ก็อย่าปล่อยให้ตัวเองถูกความใจดีของผู้ชายคนไหนมาหลอกเอาได้ล่ะ”
หลี่ถิงรีบตอบ “ไม่จริงนะ ฉันแทบไม่มีเวลาเลย ตอนที่ฉันออกไปฉันบังเอิญไปเจอประธานเย่กำลังเข้ามาพอดี พี่เวินหนี่ฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าประธานเย่จะมาที่นี่ แต่เท่าที่เห็นเขาดูเป็นห่วงพี่มากนะ”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้หลี่ถิงเองก็คิดว่ามันแปลกแล้วพูดต่อ “พี่เวินหนี่รู้ไหมว่าตอนนั้นประธานเย่ดูน่ากลัวแค่ไหน เขาแตกต่างไปอย่างกับคนละคนเลยล่ะ เขาทำให้ประธานหลี่เกือบพิการแล้วยังจัดการอย่างเด็ดขาดอีกรวมถึงคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องบางคนด้วย ประธานเย่โกรธมากแล้วเอาแต่กอดพี่เวินเหนี่ไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง”คำพูดของหลี่ถิงทำให้คนฟังต้องหยุดชะงัก อดไม่ได้ที่จะหยิบแก้วน้ำด้านข้างขึ้นมาดื่ม“พี่เวินหนี่ปกติแล้วประธานเย่เป็นคนที่ใส่ใจลูกน้องมากเลยใช่ไหม? ทำไมฉันไม่เคยรู้เลยล่ะ ถ้าฉันได้รับบาดเจ็บหรือตกอยู่ในอันตรายบ้างเขาจะสนใจขนาดนั้นเลยไหมนะ?” หลี่ถิงผู้ซึ่งไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวถามออกมา ก่อนจะพูดต่อ “แม้แต่ลูกน้องที่อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปียังไม่เคยเห็นเขากังวลด้วยขนาดนี้ พี่เวินหนี่คิดว่าประธานเย่ชอบพี่หรือเปล่า?”“แค่ก แค่ก แค่ก”น้ำที่กำลังไหลเข้าปากทำให้เวินหนี่สำลักออกมาอย่างรุนแรงเมื่อได้ยินหลี่ถิงถามอ
“เธอคงไม่คิดใช่ไหม? เวินหนี่น่ะต้องการไต่เต้าขึ้นไปให้สูง เธอเป็นเลขาของประธานเย่ก็จริงแต่เธอไม่ใช่ภรรยาที่แท้จริงของเขาหรอกนะ หลังจากที่ทำงานผ่านไปหลายปีก็ต้องมีความคิดที่จะต้องหาทางให้กับตัวเอง ด้วยความสวยที่มีก็เลยคิดอยากจะลองไปเป็นคนรักของประธานหลี่ดูบ้าง เธออาจจะไม่ใช่คนรักของประธานเย่แต่อย่างน้อยก็เป็นคนรักประธานหลี่ สุดท้ายเธอก็เลยจงใจกล่าวหาว่าประธานหลี่ข่มขืนตัวเอง น่าสมเพชจริง ๆ ที่ประธานหลี่จะต้องเข้าคุกด้วยเรื่องแบบนั้น!”“ปกติเวินหนี่เป็นคนใจดีนะ แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะใช้อุบายทำให้ประธานหลี่ต้องมีชีวิตที่ตกต่ำอย่างนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเธอถึงได้อยู่เคียงข้างประธานเย่ได้อยู่เสมอ ผู้หญิงคนนี้จะต้องมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรซ่อนไว้มากมายแน่นอน!”“ฮึ เพิ่งรู้เหรอว่าคนอย่างยัยเวินหนี่น่ะร้ายแค่ไหน? มองแวบเดียวฉันก็รู้แล้ว พวกเธอก็ลองมองดูสิว่าคนเก่าคนแก่ในบริษัทนี้มีใครเทียบเธอได้บ้าง คนมีความสามารถอย่างพี่หลินของเรา มีทั้งคุณสมบัติและประสบการณ์มากมายแบบนั้นยังสู้เล่ห์กลของยัยคนนี้ไม่ได้ มันก็เกินไปแล้วล่ะ! ถูกข่มขืน....”ปัง!เสียงประตูกระแทกกับผนังอย่างแรง เวินหนี่ปรากฎตัวอยู่ด้าน
เกาเหม่ยไม่ทันที่จะได้ตอบโต้ ใบหน้าเธอแดงเถือกเพราะแรงตบ หญิงสาวกรีดร้องออกมาอย่างไม่พอใจเธอไม่เคยรู้สึกแพ้ขนาดนี้มาก่อนจึงทำให้รู้สึกโกรธมากเวินหนี่จึงเอ่ยอย่างเย็นชา “ถ้าไม่ตบ เธอก็จะไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าการใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลเย่น่ะเป็นยังไง!”“เวินหนี่เธอกล้าดียังไงมาทำร้ายคนของฉัน!”เกิดความกลลาหลมากมาย ทุกคนจึงมามรวมตัวกันตรงนี้ด้วยความโกลาหลเมื่อเฉินเพ่ยหลินรู้เรื่องก็รีบตามเข้ามาแล้วได้เห็นฉากที่เวินหนี่กำลังตบคนของตัวเองพอดี หญิงสาวเบิกตากว้างแล้วรีบดึงทั้งสองคนแยกจากกันเวินหนี่ทำร้ายคนของเธอก็เหมือนทำร้ายตัวเธอด้วยเมื่อเกาเหม่ยเห็นว่ามีกำลังเสริมมา เธอก็ร้องโอดครวญเสียงดัง “พี่หลิน!”หญิงสาวปิดหน้าแล้วรีบวิ่งเข้าไปหาเฉินเพ่ยหลินทันที “เธอตบฉัน นี่มันมากเกินไปแล้ว!”เฉินเพ่ยหลินดึงเกาเหม่ยมาอยู่ข้างหลังตัวเองด้วยความโกรธสุดขีด “เธอบ้าไปแล้วเหรอ เย่อหยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ คิดว่าเพราะมีตระกูลเย่หนุนหลังก็เลยคิดว่าพวกเขาคือครอบครัวตัวเองจริง ๆ สินะ เราจำเป็นต้องฟังเธอด้วยงั้นเหรอ ทำไมถึงได้มาทำร้ายคนอื่นแบบนี้โดยไม่เห็นแก่หน้าฉันเลย!”เมื่อรู้สึกเจ็บที่มือข้างที่ใช้
คนอื่น ๆ ที่อยู่รอบข้างกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์ด้วยความตื่นเต้นทว่าก็เริ่มเห็นใจเวินหนี่ด้วยเช่นกันเธอเป็นเพียงเลขา ไม่ได้มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่เหนือไปกว่ารองประธานบริษัทอย่างแน่นอน นี่คงจะเป็นหายนะสำหรับเธอแน่!ไม่นานรองประธานเกาก็วิ่งเข้ามาหาเกาเหม่ย รู้สึกเสียใจและไม่พอใจที่หลานสาวของเขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ จึงรีบเข้ามาเพื่อยุติเรื่องราวที่เกิดขึ้น “ใครรังแกหลานของฉัน!”เกาเหม่ยชี้ไปที่เวินหนี่ที่ยังยืนนิ่งอยู่ในห้องน้ำ “เธอค่ะ เธอเป็นคนตบฉัน ขนาดลุงเห็นฉันมาตั้งแต่เด็กยังไม่ตีฉันเลย!”เฉินเพ่ยหลินยืนมองสถานการณ์ตรงหน้าอย่าเพลิดเพลินในขณะที่แสร้งทำตัวเป็นคนดีอย่างน่าสมเพช “รองประธานเกา ฉันขอโทษจริง ๆ ค่ะที่ไม่สามารถดูแลเกาเหมยได้เป็นอย่างดี แต่อำนาจในบริษัทนี้ของฉันก็น้อยเกินกว่าที่จะสู้ได้จริง ๆ ”คำพูดนี้ทำให้รองประธานเกาเข้าใจว่าแม้ตำแหน่งของเฉินเพ่ยหลิงและเวินหนี่จะเท่าเทียมแต่เฉินเพ่ยหลิงก็อาจจะถูกเวินหนี่ทำร้ายได้ด้วยอีกคนผู้หญิงที่ชื่อเวินหนี่คนนี้ดูท่าทางหยิ่งผยองเหลือเกินรองประธานเกาเองก็พอจะได้รับรู้เรื่องราวอื้อฉาวของเวินหนี่มาบ้าง เพราะเธอเป็นคนใกล้ชิดของประธานเย่เขา
เย่หนานโจวเดินเข้ามาพร้อมด้วยคนอีกกลุ่มหนึ่ง รัศมีอันน่าเกรงขามและเย็นชาของเขาทำให้ผู้คนรอบข้างต้องอยู่ห่างด้วยความยำเกรงเดิมเฉินเพ่ยหลินวางแผนที่จะทำให้เวินหนี่ต้องทุกข์ทรมานและไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ทว่าเย่หนานโจวดันกลับมาเสียก่อนมือของเธอค้างเติ่งอยู่ในอากาศ กำลังคิดว่าจะลงโทษเวินหนี่อย่างไรดีทันทีที่เย่หนานโจวมาถึงเธอก็รู้สึกกลัวจนไม่สามารถตบอีกฝ่ายได้“ประธานเย่!”พนักงานที่กำลังมุงต่างก็พากันแยกย้ายออกไปเย่หนานโจวเดินเข้ามามองสถานการณ์ความวุ่นวายตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าหล่อเหลาแสดงความเย็นชาในขณะที่สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบ ๆ “ถ้าไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ก็คงไม่เชื่อว่านี่คือบริษัทของผมเองไม่ใช่อาณาเขตของรองประธานเกา!”ใบหน้าของประธานเกาซีดเผือดและเปลี่ยนไป ความเย่อหยิ่งที่เคยมีลดลงด้วยคำพูดจากชายหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมลง “ไม่ ไม่มีอะไรหรอกครับท่านประธาน ก็แค่เวินหนี่เข้ามาทำร้ายร่างกายหลานสาวของผม ที่ตระกูลเกาไม่มีใครแตะต้องเธอเลยสักนิด หากว่าเธอทำผิดจริง ในฐานะลุงผมก็จะไม่สนับสนุนเธออยู่แล้ว แต่คนอย่างเวินหนี่นั้นเย่อหยิ่งเกินไป คนแบบนี้สมคว