แชร์

บทที่ 213

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-18 07:12:57
เมื่อโจวเสี่ยวหลินเห็นสายตาของลู่ม่านเซิงในตอนนี้ มันแตกต่างไปจากตอนแรกที่เธอทำท่าทีอบอุ่นสนิทสนมกับตนโดยสิ้นเชิง

สีหน้าของโจวเสี่ยวหลินพลันซีดเผือดลงทันที

"คุณหลอกใช้ฉัน!"

โจวเสี่ยวหลินพูดขึ้นด้วยความโกรธ "คุณจงใจพูดเรื่องพวกนั้นให้ฉันฟัง จงใจทำให้ฉันลงมือ แล้วสุดท้ายก็ปัดความรับผิดชอบ คนที่โหดร้ายจริง ๆ คือคุณต่างหาก"

เธอเข้าใจแล้วว่าลู่ม่านเซิงเข้าหาเธอด้วยความตั้งใจจะหลอกใช้

ลู่ม่านเซิงยังเคยซื้อเสื้อผ้าเด็กให้เธอ ทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองได้รับการดูแล ทั้งหมดเพื่อกำจัดอุปสรรคในอนาคตของตนเอง

ความจริงแล้วทุกคำพูดที่ลู่ม่านเซิงพูดล้วนเป็นแผนการเพื่อผลักโจวเสี่ยวหลินเข้าสู่ความหายนะ

ถ้ากำจัดเวินหนี่ได้ โจวเสี่ยวหลินต้องติดคุก ลู่ม่านเซิงก็จะอยู่อย่างสบายใจ

"คุณนี่แสดงเก่งจริง!" โจวเสี่ยวหลินร้องออกมาอย่างคับแค้น "แกล้งทำเป็นชอบฉัน ทำเหมือนใส่ใจฉัน ทำเหมือนเป็นคนดีและใจกว้าง"

ลู่ม่านเซิงจิบน้ำชาอย่างเยือกเย็น คำพูดพวกนี้สำหรับเธอไม่ต่างจากคำชมเสียด้วยซ้ำ

"ตอนนี้ยังคิดจะทำร้ายลูกของฉันอีก" โจวเสี่ยวหลินกุมท้องแล้วส่ายหน้า "คุณไม่อาจยอมรับว่าฉันมีลูกกับพี่หนานโจว คุณมันเป็นผู้หญ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 214

    แม้จนวาระสุดท้าย โจวเสี่ยวหลินก็ยังคงยึดติดกับลูกเธอเชื่อมั่นว่าการมีลูกจะสามารถยกระดับสถานะของตนเองได้เธอเชื่อว่าการมีลูกจะทำให้เธอมีอำนาจและได้รับการนับถือ ดังที่คนบอกว่า “แม่ได้ดีเพราะลูก” แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดก็เป็นเพียงฝันลม ๆ แล้ง ๆหลังจากพูดคำเหล่านั้นออกมา โจวเสี่ยวหลินก็หยุดหายใจ ดวงตายังคงเบิกกว้าง ไม่มีแม้แต่โอกาสได้หลับตาลงอย่างสงบ เธอตายตาไม่หลับเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาถึงที่เกิดเหตุ โจวเสี่ยวหลินก็สิ้นใจไปแล้วตำรวจได้ล้อมพื้นที่เกิดเหตุด้วยแถบกั้นเพื่อเป็นเขตห้ามเข้า ลู่ม่านเซิงถูกตำรวจพยุงลงมา ผมของเธอกระเซอะกระเซิง ใบหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยเลือดและน้ำตายังคงเอ่อคลออยู่ในดวงตา ร่างกายของเธอสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ตำรวจพยายามปลอบโยนเธอ บอกให้เธออย่ากลัวน้ำตาของลู่ม่านเซิงค่อย ๆ ไหลลงมาอย่างช้า ๆ ขณะที่เธอแสดงท่าทางตกใจสุดขีด ผู้ช่วยของเธอมาถึงที่เกิดเหตุ ลู่ม่านเซิงจึงโผเข้ากอดและร้องไห้ออกมาอย่างหนักขณะเดียวกัน เวินหนี่ที่เพิ่งได้รับข่าวและรีบมาที่เกิดเหตุก็พบว่าทุกอย่างได้จบลงแล้วเวินหนี่เห็นเพียงร่างไร้วิญญาณของโจวเสี่ยวหลินในที่เกิดเหตุ ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 215

    คนร้ายที่ฆ่าอาของเวินหนี่ตายไปแล้ว เรื่องนี้จึงไม่จำเป็นต้องสืบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติมอะไรอีกคดีดูเหมือนจะจบลงเพียงเท่านี้"คุณลู่ คำให้การของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว รีบไปทำแผลเถอะครับ" ตำรวจพูดอย่างห่วงใยผู้ช่วยของลู่ม่านเซิงเสริมขึ้น "พี่เซิงใจดีเกินไปแล้ว ทั้งที่ตัวเองยังบาดเจ็บแท้ ๆ ยังไม่ยอมไปโรงพยาบาล ดันมาให้ปากคำที่สถานีตำรวจก่อนอีก"ลู่ม่านเซิงที่ดูอ่อนล้า น้ำตาคลอเบ้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า "อย่าพูดเลย ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราไปโรงพยาบาลกันเถอะ" ผู้ช่วยจึงพยุงเธอเดินออกไปอย่างอ่อนแรง แต่เธอก็ยังคงฝืนตัวเองไว้พวกเธอเจอเวินหนี่เข้าพอดี ลู่ม่านเซิงหันไปมองแล้วเอ่ยขึ้น "บังเอิญจริง ๆ เจอกันที่สถานีตำรวจแบบนี้"เวินหนี่สังเกตเห็นว่ามือของลู่ม่านเซิงมีแผล และเสื้อผ้าของเธอเต็มไปด้วยเลือด "เรื่องบังเอิญดูเกิดขึ้นบ่อยนะ มีคนตกลงมาตาย แถมตกลงมาจากห้องของเธอ"ลู่ม่านเซิงหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทำเป็นไม่รู้เรื่อง "เธอหมายถึงผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"เธอยืนอย่างสงบ และพูดต่อ "เด็กคนนั้นมาหาฉันไม่รู้เพราะอะไร แถมยังจะฆ่าฉันอีก น่ากลัวมาก ฉันได้ยินมาว่าเธอทำผิดกฎหมายมาด้วยใช่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-19
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 216

    "เผยชิง รีบพาเธอไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!" เย่หนานโจวสั่ง"ได้ครับ ประธานเย่" เผยชิงรับคำสั่งทันทีและรีบเข้ามาจัดการลู่ม่านเซิงหันไปมองเย่หนานโจว "พี่จะไม่ไปกับฉันเหรอ?"เขาตอบ "ที่นี่ยังมีเรื่องต้องจัดการ เดี๋ยวจะไปหาที่โรงพยาบาลทีหลัง"เมื่อได้ยินว่าเขาจะไปเยี่ยมทีหลัง ลู่ม่านเซิงถึงได้รู้สึกสบายใจขึ้น "ก็ได้ งั้นฉันจะรอ ฉันจะไปโรงพยาบาลก่อน"หลังจากพูดจบ เธอเหลือบมองเวินหนี่อีกครั้งเวินหนี่ไม่ได้พูดอะไร เธอรู้ดีว่าเย่หนานโจวทุ่มเทให้ลู่ม่านเซิงมาตลอด ไม่ใช่แค่วันนี้ที่เขาเป็นห่วงแบบนี้ ยิ่งลู่ม่านเซิงบาดเจ็บหนัก เขาก็ห่วงเป็นธรรมดาเธอทำได้แค่ยืนมอง ไม่อาจพูดอะไรได้"เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?" เย่หนานโจวหันมาถามเวินหนี่อย่างกะทันหันเวินหนี่ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงปกติ "ตอนฉันไปถึงโจวเสี่ยวหลินก็ตายแล้วตำรวจบอกว่าถ้าไม่มีผู้ต้องสงสัยคนอื่น คดีการตายของอาก็คงจะปิดลงเท่านี้""ตำรวจแน่ใจเหรอว่าเป็นโจวเสี่ยวหลิน?"เวินหนี่พยักหน้า "แน่ใจ ตำรวจยืนยันแล้ว พอตอนนี้คนตายไปแล้ว ทุกอย่างก็จบ"ความโกรธและความแค้นที่เธอเคยมีก็ค่อย ๆ เลือนหายไป เร็วกว่าที่ตัวเธอเองคิดเอาไว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-20
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 217

    "ที่บริษัทมีงานต้องจัดการ เรื่องของอาเธอก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าปล่อยให้การงานสะดุด" น้ำเสียงของเย่หนานโจวไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธสำหรับเวินหนี่ นอกจากเป็นภรรยาในนามแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งบทบาท นั่นคือเลขานุการของเย่หนานโจว การทำงานคือสิ่งที่เธอเลี่ยงไม่ได้ แม้ชีวิตส่วนตัวจะยุ่งเหยิง แต่ก็ต้องทำงานต่อไปวันนี้เหมือนจะเป็นวันสุดท้ายของเธอที่บริษัทแล้ว อย่างไรก็ตามเธอจะทำงานให้ครบตามที่กำหนด เพราะไม่มีใครไม่อยากได้เงิน การไม่ไปทำงานหมายความว่าจะถูกหักเงินแถมตอนนี้ที่กลับบ้านเกิดไปหลายวัน เวินหนี่ก็ใช้วันหยุดของเธอหมดแล้ว เมื่อถึงเวลาที่เธอจะลาออกจากบริษัทตระกูลเย่แล้วหางานใหม่ เธอต้องวางแผนเส้นทางชีวิตใหม่อีกครั้ง หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เวินหนี่ก็ตอบว่า “ได้ค่ะ ประธานเย่”เมื่อได้ยินคำตอบที่พอใจ เย่หนานโจวจึงหันสายตาไปข้างหน้าแล้วเดินนำ เวินหนี่เดินตามเขามาทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม พวกเขาไม่ได้มีบทบาทเป็นสามีภรรยากัน แต่กลับมาเป็นเพียงเจ้านายกับลูกน้องตามที่เคยเป็นเพียงแค่เย่หนานโจวส่งสายตา เวินหนี่ก็รู้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร และเธอก็จัดการส่งสิ่งนั้นให้เขาทันที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-21
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 218

    เย่หนานโจวขมวดคิ้วแน่นและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ไม่ใช่ว่าพวกเธออยู่ในห้องกันเป็นสิบนาทีเหรอ? ทำไมถึงไม่มีใครเข้าไปเลย? จนสุดท้ายผู้หญิงคนนั้นถึงได้ตกลงมาตาย""ในห้องมีแค่พี่เซิงกับโจวเสี่ยวหลิน ฉันคิดว่าพวกเธอแค่คุยกันธรรมดา เลยไม่ได้คิดอะไรมาก ส่วนพวกบอดี้การ์ดที่คอยดูแลพี่เซิง วันนั้นพี่เซิงให้พวกเขาพักกันหมดพอดีค่ะ" ผู้ช่วยตอบด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย กลัวว่าจะโดนเย่หนานโจวตำหนิ เพราะว่าตัวเองเป็นผู้ช่วยของลู่ม่านเซิง แต่ในเวลาสำคัญกลับไม่ได้ช่วยดูแลความปลอดภัยมากพอเย่หนานโจวถามต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ใครเป็นคนแจ้งตำรวจ? ตำรวจถึงได้มาถึงเร็วขนาดนั้น"เมื่อดูจากความรวดเร็วของตำรวจ ไม่น่าเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะมีคนเห็นโจวเสี่ยวหลินทำร้ายลู่ม่านเซิงแล้วถึงแจ้งตำรวจ น่าจะมีการแจ้งล่วงหน้าไว้ก่อนหน้านั้นผู้ช่วยลังเลและไม่พูดอะไร เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแจ้งตำรวจ เธอรู้เมื่อได้ยินเสียงรถตำรวจแล้ว "ฉันเป็นคนแจ้งตำรวจเอง" ลู่ม่านเซิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแอ น้ำตายังคงไหลลงมาไม่หยุด เธอใช้กระดาษทิชชูเช็ดน้ำตา "ตอนนั้นโจวเสี่ยวหลินเหมือนคนบ้าไปแล้ว เธอพูดเรื่องแปลก ๆ มากมาย บอกว่าตัวเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-22
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 219

    เย่หนานโจวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “เวินหนี่ถามก็เพื่อประโยชน์ของลู่ม่านเซิง เรื่องมันไปไกลเกินกว่าจะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ เพราะว่าลู่ม่านเซิงเป็นศูนย์กลางหลักในเรื่องนี้ พอเรื่องแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็จะต้องมีคนมากมายที่จะตั้งคำถามมากกว่าสิ่งที่เวินหนี่ถามไป เราต้องหาวิธีปิดปากคนพวกนั้นให้ได้!”ลู่ม่านเซิงเป็นคนดัง การที่เธอถูกทำร้าย ไม่ใช่แค่เรื่องของคนธรรมดาที่ได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นเรื่องที่จะถูกเผยแพร่ในสื่อและถูกพูดถึงในวงกว้าง เมื่อมีลู่ม่านเซิงเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจแบบนี้ พวกสื่อต้องกัดไม่ปล่อยแน่ลู่ม่านเซิงรู้ดีว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นข่าวใหญ่ และเธอจะต้องขึ้นหน้าหนึ่งของสื่อแน่นอน แต่ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นก็อาจจะได้คลอดลูกของเย่หนานโจว ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่อาจยอมรับได้! ไม่มีผู้หญิงคนไหนคู่ควรกับการมีลูกของเย่หนานโจวนอกจากเธอเท่านั้นถ้าโจวเสี่ยวหลินเพียงแค่สูญเสียลูกไปมันก็คงดี เพราะเธอรู้ว่าเย่หนานโจวไม่มีวันรักโจวเสี่ยวหลิน ผู้หญิงคนนั้นเป็นได้เพียงแค่ตัวแทนเท่านั้น แต่โจวเสี่ยวหลินกลับคิดฝันสูงเกินไป และยังคิดที่จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของเธอลู่ม่านเซิงไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-23
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 220

    ในมุมมองของเผยชิง เขาเห็นว่าเย่หนานโจวกับลู่ม่านเซิงไม่มีอะไรเกินเลย ทุกครั้งพวกเขาก็รักษาระยะห่าง แม้จะมีข่าวลือหนาหูว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน แต่เขาเองก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น ถึงจะมีอะไรระหว่างทั้งสองคนที่เขาไม่รู้ แต่เขาแน่ใจว่านั่นไม่ใช่ความรักเวินหนี่แค่ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "คุณเผย ทำไมจู่ ๆ ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาคะ? คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอคะ? วันนั้นคุณก็อยู่ ไม่นานเราสองคนจะหย่ากันอยู่แล้ว"มาอธิบายตอนนี้ไม่มีความหมายอีกแล้ว เพราะการที่เย่หนานโจวเปิดบริษัทบันเทิงเพื่อสนับสนุนลู่ม่านเซิง มันชัดเจนมากว่าลู่ม่านเซิงสำคัญกับเขามากกว่าคนอื่นเผยชิงรู้ดีถึงสถานการณ์ระหว่างเวินหนี่กับเย่หนานโจว แต่ก็ยังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่น่าจะเย็นชาขนาดนั้น เขาจึงถามขึ้นอย่างระมัดระวัง "ขอถามเรื่องส่วนตัวสักหน่อยได้ไหมครับ? ผมไม่ได้อยากละลาบละล้วง คุณอยากหย่ากับประธานเย่จริง ๆ เหรอ?"คำถามนี้ทำให้เวินหนี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งในอดีต แน่นอนว่าเธอไม่อยากหย่า เธอทุ่มเทให้เย่หนานโจวมานานหลายปี เธอใฝ่ฝันให้การแต่งงานของพวกเขาเป็นชีวิตคู่ที่มีความสุข แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 221

    เผยชิงเองก็แปลกใจเล็กน้อยกับการตัดสินใจของเธอเพราะเขาเห็นถึงการเติบโตของเธอทีละขั้นตั้งแต่ที่เธอมาทำงานที่เย่กรุ๊ปจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากทำงานร่วมกันมาหลายปี จึงรู้สึกใจหายที่จู่ ๆ เธอก็จะจากไปอย่างกะทันหันแต่สุดท้ายแล้ว มันก็เป็นความปรารถนาส่วนตัวของเวินหนี่เผยชิงถามขึ้นว่า “คุณตัดสินใจดีแล้วจริง ๆ เหรอครับ?”เวินหนี่ยิ้มบาง ดวงตาของเธอสงบนิ่งมาก โดยไม่มีทีท่าว่าเธอขบคิดเรื่องนี้มานานแค่ไหนเธอเพียงแต่จำเป็นต้องปล่อยวางบางสิ่งบางอย่าง จึงต้องทำใจและจากไปนี่คือทางเลือกที่เธอไตร่ตรองดีแล้วเพราะคนเราก็ต้องเลือกที่จะรักตัวเองก่อนเวินหนี่ตอบ “ฉันตัดสินใจดีแล้วค่ะ”เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นนกหลายตัวบินว่อนอยู่บนนั้น เธอเองก็โหยหาอิสรภาพเช่นกัน “จะอยู่ในเย่กรุ๊ปตลอดไปไม่ได้หรอก ฉันเองก็ต้องลองออกไปดูโลกภายนอกบ้าง”เผยชิงเคารพการตัดสินใจของเวินหนี่ “ครับ หวังว่าในอนาคตคุณจะมีความสุข”เวินหนี่มองเผยชิงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันจะต้องมีความสุขแน่นอนค่ะ”ขณะนั้นเอง เย่หนานโจวเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยเขาไม่รู้บทสนทนาของทั้งสองคนแต่เมื่อเดินออกมาก็เห็นว่าพวกเขาพูดคุยกันอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status