แชร์

บทที่ 214

ผู้แต่ง: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
แม้จนวาระสุดท้าย โจวเสี่ยวหลินก็ยังคงยึดติดกับลูก

เธอเชื่อมั่นว่าการมีลูกจะสามารถยกระดับสถานะของตนเองได้

เธอเชื่อว่าการมีลูกจะทำให้เธอมีอำนาจและได้รับการนับถือ

ดังที่คนบอกว่า “แม่ได้ดีเพราะลูก”

แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดก็เป็นเพียงฝันลม ๆ แล้ง ๆ

หลังจากพูดคำเหล่านั้นออกมา โจวเสี่ยวหลินก็หยุดหายใจ ดวงตายังคงเบิกกว้าง ไม่มีแม้แต่โอกาสได้หลับตาลงอย่างสงบ

เธอตายตาไม่หลับ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาถึงที่เกิดเหตุ โจวเสี่ยวหลินก็สิ้นใจไปแล้ว

ตำรวจได้ล้อมพื้นที่เกิดเหตุด้วยแถบกั้นเพื่อเป็นเขตห้ามเข้า

ลู่ม่านเซิงถูกตำรวจพยุงลงมา ผมของเธอกระเซอะกระเซิง ใบหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยเลือดและน้ำตายังคงเอ่อคลออยู่ในดวงตา ร่างกายของเธอสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

ตำรวจพยายามปลอบโยนเธอ บอกให้เธออย่ากลัว

น้ำตาของลู่ม่านเซิงค่อย ๆ ไหลลงมาอย่างช้า ๆ ขณะที่เธอแสดงท่าทางตกใจสุดขีด

ผู้ช่วยของเธอมาถึงที่เกิดเหตุ ลู่ม่านเซิงจึงโผเข้ากอดและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

ขณะเดียวกัน เวินหนี่ที่เพิ่งได้รับข่าวและรีบมาที่เกิดเหตุก็พบว่าทุกอย่างได้จบลงแล้ว

เวินหนี่เห็นเพียงร่างไร้วิญญาณของโจวเสี่ยวหลินในที่เกิดเหตุ

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 215

    คนร้ายที่ฆ่าอาของเวินหนี่ตายไปแล้ว เรื่องนี้จึงไม่จำเป็นต้องสืบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติมอะไรอีกคดีดูเหมือนจะจบลงเพียงเท่านี้"คุณลู่ คำให้การของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว รีบไปทำแผลเถอะครับ" ตำรวจพูดอย่างห่วงใยผู้ช่วยของลู่ม่านเซิงเสริมขึ้น "พี่เซิงใจดีเกินไปแล้ว ทั้งที่ตัวเองยังบาดเจ็บแท้ ๆ ยังไม่ยอมไปโรงพยาบาล ดันมาให้ปากคำที่สถานีตำรวจก่อนอีก"ลู่ม่านเซิงที่ดูอ่อนล้า น้ำตาคลอเบ้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า "อย่าพูดเลย ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราไปโรงพยาบาลกันเถอะ" ผู้ช่วยจึงพยุงเธอเดินออกไปอย่างอ่อนแรง แต่เธอก็ยังคงฝืนตัวเองไว้พวกเธอเจอเวินหนี่เข้าพอดี ลู่ม่านเซิงหันไปมองแล้วเอ่ยขึ้น "บังเอิญจริง ๆ เจอกันที่สถานีตำรวจแบบนี้"เวินหนี่สังเกตเห็นว่ามือของลู่ม่านเซิงมีแผล และเสื้อผ้าของเธอเต็มไปด้วยเลือด "เรื่องบังเอิญดูเกิดขึ้นบ่อยนะ มีคนตกลงมาตาย แถมตกลงมาจากห้องของเธอ"ลู่ม่านเซิงหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทำเป็นไม่รู้เรื่อง "เธอหมายถึงผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"เธอยืนอย่างสงบ และพูดต่อ "เด็กคนนั้นมาหาฉันไม่รู้เพราะอะไร แถมยังจะฆ่าฉันอีก น่ากลัวมาก ฉันได้ยินมาว่าเธอทำผิดกฎหมายมาด้วยใช่

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 216

    "เผยชิง รีบพาเธอไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!" เย่หนานโจวสั่ง"ได้ครับ ประธานเย่" เผยชิงรับคำสั่งทันทีและรีบเข้ามาจัดการลู่ม่านเซิงหันไปมองเย่หนานโจว "พี่จะไม่ไปกับฉันเหรอ?"เขาตอบ "ที่นี่ยังมีเรื่องต้องจัดการ เดี๋ยวจะไปหาที่โรงพยาบาลทีหลัง"เมื่อได้ยินว่าเขาจะไปเยี่ยมทีหลัง ลู่ม่านเซิงถึงได้รู้สึกสบายใจขึ้น "ก็ได้ งั้นฉันจะรอ ฉันจะไปโรงพยาบาลก่อน"หลังจากพูดจบ เธอเหลือบมองเวินหนี่อีกครั้งเวินหนี่ไม่ได้พูดอะไร เธอรู้ดีว่าเย่หนานโจวทุ่มเทให้ลู่ม่านเซิงมาตลอด ไม่ใช่แค่วันนี้ที่เขาเป็นห่วงแบบนี้ ยิ่งลู่ม่านเซิงบาดเจ็บหนัก เขาก็ห่วงเป็นธรรมดาเธอทำได้แค่ยืนมอง ไม่อาจพูดอะไรได้"เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?" เย่หนานโจวหันมาถามเวินหนี่อย่างกะทันหันเวินหนี่ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงปกติ "ตอนฉันไปถึงโจวเสี่ยวหลินก็ตายแล้วตำรวจบอกว่าถ้าไม่มีผู้ต้องสงสัยคนอื่น คดีการตายของอาก็คงจะปิดลงเท่านี้""ตำรวจแน่ใจเหรอว่าเป็นโจวเสี่ยวหลิน?"เวินหนี่พยักหน้า "แน่ใจ ตำรวจยืนยันแล้ว พอตอนนี้คนตายไปแล้ว ทุกอย่างก็จบ"ความโกรธและความแค้นที่เธอเคยมีก็ค่อย ๆ เลือนหายไป เร็วกว่าที่ตัวเธอเองคิดเอาไว

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 217

    "ที่บริษัทมีงานต้องจัดการ เรื่องของอาเธอก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าปล่อยให้การงานสะดุด" น้ำเสียงของเย่หนานโจวไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธสำหรับเวินหนี่ นอกจากเป็นภรรยาในนามแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งบทบาท นั่นคือเลขานุการของเย่หนานโจว การทำงานคือสิ่งที่เธอเลี่ยงไม่ได้ แม้ชีวิตส่วนตัวจะยุ่งเหยิง แต่ก็ต้องทำงานต่อไปวันนี้เหมือนจะเป็นวันสุดท้ายของเธอที่บริษัทแล้ว อย่างไรก็ตามเธอจะทำงานให้ครบตามที่กำหนด เพราะไม่มีใครไม่อยากได้เงิน การไม่ไปทำงานหมายความว่าจะถูกหักเงินแถมตอนนี้ที่กลับบ้านเกิดไปหลายวัน เวินหนี่ก็ใช้วันหยุดของเธอหมดแล้ว เมื่อถึงเวลาที่เธอจะลาออกจากบริษัทตระกูลเย่แล้วหางานใหม่ เธอต้องวางแผนเส้นทางชีวิตใหม่อีกครั้ง หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เวินหนี่ก็ตอบว่า “ได้ค่ะ ประธานเย่”เมื่อได้ยินคำตอบที่พอใจ เย่หนานโจวจึงหันสายตาไปข้างหน้าแล้วเดินนำ เวินหนี่เดินตามเขามาทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม พวกเขาไม่ได้มีบทบาทเป็นสามีภรรยากัน แต่กลับมาเป็นเพียงเจ้านายกับลูกน้องตามที่เคยเป็นเพียงแค่เย่หนานโจวส่งสายตา เวินหนี่ก็รู้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร และเธอก็จัดการส่งสิ่งนั้นให้เขาทันที

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 218

    เย่หนานโจวขมวดคิ้วแน่นและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ไม่ใช่ว่าพวกเธออยู่ในห้องกันเป็นสิบนาทีเหรอ? ทำไมถึงไม่มีใครเข้าไปเลย? จนสุดท้ายผู้หญิงคนนั้นถึงได้ตกลงมาตาย""ในห้องมีแค่พี่เซิงกับโจวเสี่ยวหลิน ฉันคิดว่าพวกเธอแค่คุยกันธรรมดา เลยไม่ได้คิดอะไรมาก ส่วนพวกบอดี้การ์ดที่คอยดูแลพี่เซิง วันนั้นพี่เซิงให้พวกเขาพักกันหมดพอดีค่ะ" ผู้ช่วยตอบด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย กลัวว่าจะโดนเย่หนานโจวตำหนิ เพราะว่าตัวเองเป็นผู้ช่วยของลู่ม่านเซิง แต่ในเวลาสำคัญกลับไม่ได้ช่วยดูแลความปลอดภัยมากพอเย่หนานโจวถามต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ใครเป็นคนแจ้งตำรวจ? ตำรวจถึงได้มาถึงเร็วขนาดนั้น"เมื่อดูจากความรวดเร็วของตำรวจ ไม่น่าเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะมีคนเห็นโจวเสี่ยวหลินทำร้ายลู่ม่านเซิงแล้วถึงแจ้งตำรวจ น่าจะมีการแจ้งล่วงหน้าไว้ก่อนหน้านั้นผู้ช่วยลังเลและไม่พูดอะไร เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแจ้งตำรวจ เธอรู้เมื่อได้ยินเสียงรถตำรวจแล้ว "ฉันเป็นคนแจ้งตำรวจเอง" ลู่ม่านเซิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแอ น้ำตายังคงไหลลงมาไม่หยุด เธอใช้กระดาษทิชชูเช็ดน้ำตา "ตอนนั้นโจวเสี่ยวหลินเหมือนคนบ้าไปแล้ว เธอพูดเรื่องแปลก ๆ มากมาย บอกว่าตัวเ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 219

    เย่หนานโจวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “เวินหนี่ถามก็เพื่อประโยชน์ของลู่ม่านเซิง เรื่องมันไปไกลเกินกว่าจะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ เพราะว่าลู่ม่านเซิงเป็นศูนย์กลางหลักในเรื่องนี้ พอเรื่องแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็จะต้องมีคนมากมายที่จะตั้งคำถามมากกว่าสิ่งที่เวินหนี่ถามไป เราต้องหาวิธีปิดปากคนพวกนั้นให้ได้!”ลู่ม่านเซิงเป็นคนดัง การที่เธอถูกทำร้าย ไม่ใช่แค่เรื่องของคนธรรมดาที่ได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นเรื่องที่จะถูกเผยแพร่ในสื่อและถูกพูดถึงในวงกว้าง เมื่อมีลู่ม่านเซิงเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจแบบนี้ พวกสื่อต้องกัดไม่ปล่อยแน่ลู่ม่านเซิงรู้ดีว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นข่าวใหญ่ และเธอจะต้องขึ้นหน้าหนึ่งของสื่อแน่นอน แต่ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นก็อาจจะได้คลอดลูกของเย่หนานโจว ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่อาจยอมรับได้! ไม่มีผู้หญิงคนไหนคู่ควรกับการมีลูกของเย่หนานโจวนอกจากเธอเท่านั้นถ้าโจวเสี่ยวหลินเพียงแค่สูญเสียลูกไปมันก็คงดี เพราะเธอรู้ว่าเย่หนานโจวไม่มีวันรักโจวเสี่ยวหลิน ผู้หญิงคนนั้นเป็นได้เพียงแค่ตัวแทนเท่านั้น แต่โจวเสี่ยวหลินกลับคิดฝันสูงเกินไป และยังคิดที่จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของเธอลู่ม่านเซิงไ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 220

    ในมุมมองของเผยชิง เขาเห็นว่าเย่หนานโจวกับลู่ม่านเซิงไม่มีอะไรเกินเลย ทุกครั้งพวกเขาก็รักษาระยะห่าง แม้จะมีข่าวลือหนาหูว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน แต่เขาเองก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น ถึงจะมีอะไรระหว่างทั้งสองคนที่เขาไม่รู้ แต่เขาแน่ใจว่านั่นไม่ใช่ความรักเวินหนี่แค่ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "คุณเผย ทำไมจู่ ๆ ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาคะ? คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอคะ? วันนั้นคุณก็อยู่ ไม่นานเราสองคนจะหย่ากันอยู่แล้ว"มาอธิบายตอนนี้ไม่มีความหมายอีกแล้ว เพราะการที่เย่หนานโจวเปิดบริษัทบันเทิงเพื่อสนับสนุนลู่ม่านเซิง มันชัดเจนมากว่าลู่ม่านเซิงสำคัญกับเขามากกว่าคนอื่นเผยชิงรู้ดีถึงสถานการณ์ระหว่างเวินหนี่กับเย่หนานโจว แต่ก็ยังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่น่าจะเย็นชาขนาดนั้น เขาจึงถามขึ้นอย่างระมัดระวัง "ขอถามเรื่องส่วนตัวสักหน่อยได้ไหมครับ? ผมไม่ได้อยากละลาบละล้วง คุณอยากหย่ากับประธานเย่จริง ๆ เหรอ?"คำถามนี้ทำให้เวินหนี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งในอดีต แน่นอนว่าเธอไม่อยากหย่า เธอทุ่มเทให้เย่หนานโจวมานานหลายปี เธอใฝ่ฝันให้การแต่งงานของพวกเขาเป็นชีวิตคู่ที่มีความสุข แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 221

    เผยชิงเองก็แปลกใจเล็กน้อยกับการตัดสินใจของเธอเพราะเขาเห็นถึงการเติบโตของเธอทีละขั้นตั้งแต่ที่เธอมาทำงานที่เย่กรุ๊ปจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากทำงานร่วมกันมาหลายปี จึงรู้สึกใจหายที่จู่ ๆ เธอก็จะจากไปอย่างกะทันหันแต่สุดท้ายแล้ว มันก็เป็นความปรารถนาส่วนตัวของเวินหนี่เผยชิงถามขึ้นว่า “คุณตัดสินใจดีแล้วจริง ๆ เหรอครับ?”เวินหนี่ยิ้มบาง ดวงตาของเธอสงบนิ่งมาก โดยไม่มีทีท่าว่าเธอขบคิดเรื่องนี้มานานแค่ไหนเธอเพียงแต่จำเป็นต้องปล่อยวางบางสิ่งบางอย่าง จึงต้องทำใจและจากไปนี่คือทางเลือกที่เธอไตร่ตรองดีแล้วเพราะคนเราก็ต้องเลือกที่จะรักตัวเองก่อนเวินหนี่ตอบ “ฉันตัดสินใจดีแล้วค่ะ”เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นนกหลายตัวบินว่อนอยู่บนนั้น เธอเองก็โหยหาอิสรภาพเช่นกัน “จะอยู่ในเย่กรุ๊ปตลอดไปไม่ได้หรอก ฉันเองก็ต้องลองออกไปดูโลกภายนอกบ้าง”เผยชิงเคารพการตัดสินใจของเวินหนี่ “ครับ หวังว่าในอนาคตคุณจะมีความสุข”เวินหนี่มองเผยชิงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันจะต้องมีความสุขแน่นอนค่ะ”ขณะนั้นเอง เย่หนานโจวเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยเขาไม่รู้บทสนทนาของทั้งสองคนแต่เมื่อเดินออกมาก็เห็นว่าพวกเขาพูดคุยกันอย

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 222

    ดูเหมือนว่าเขากำลังสร้างปัญหาให้เธอ แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นหรือเธออาจจะคิดมากไปเอง เธอตามเข้าไปในรถเมื่อรถสตาร์ต เย่หนานโจวนั้นถือแท็บเล็ตไว้ในมือและบรรยากาศก็เงียบเหมือนในตอนแรกเวินหนี่เองก็รู้สึกได้ว่าตั้งแต่ที่เธอกลับมาจากบ้านเกิด ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาก็ห่างเหินและเย็นชาขึ้นมากดูเหมือนว่าเย่หนานโจวจงใจห่างเหินกับเธอ อาจเป็นเพราะลู่ม่านเซิงสินะเย่หนานโจวมองแท็บเล็ตโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ บนใบหน้า เขาใช้นิ้วเรียวลากหน้าจอและพูดขึ้นนิ่ง ๆ “มันดึกแล้ว ฉันจะพาเธอไปส่ง”กว่าพวกเขาจะออกมาจากโรงพยาบาลก็ดึกแล้ว เวินหนี่ไม่อยากรบกวนเย่หนานโจวเดี๋ยวเขาจะอธิบายเรื่องนี้กับลู่ม่านเซิงไม่ได้ แล้วก็จะเป็นความผิดของเธออีก เธอต้องพยายามหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดพวกนี้“ไม่เป็นไรค่ะ รถของฉันจอดอยู่ที่สถานีตำรวจ คุณไปส่งฉันที่นั่นก็พอ ฉันขับรถกลับเองได้ค่ะ” เธอปฏิเสธทันทีเย่หนานโจวเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาของเขาเย็นชา แต่นิ้วยังคงแตะหน้าจอสองสามครั้งอย่างหงุดหงิด ก่อนจะปิดแท็บเล็ตลงในที่สุด เขาแสดงอารมณ์ฉุนเฉียว ราวกับว่าจงใจให้เธอเห็นเวินหนี่รู้ว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นจ

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 468

    “ไม่ใช่ค่ะ” เวินหนี่ตอบสีหน้าของเย่หนานโจวเปลี่ยนไปและเขาก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ใกล้จะเป็นอดีตภรรยาแล้วครับ!”คุณหมอถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำตอบ เขาจึงรีบตอบไปว่า “ผู้ป่วยมีอาการกระทบกระเทือนเล็กน้อยและกระดูกมือร้าว เธอจะหายดีหลังจากพักผ่อนสักระยะหนึ่ง พวกคุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป”นี่เป็นเรื่องที่ดี เวินหนี่ตอบไปทันที “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”“ด้วยความยินดีครับ”ทั้งสองตามเย่จื่อเข้าไปในวอร์ดเวินหนี่เห็นว่าริมฝีปากของเย่จื่อดูแห้งผาก ดังนั้นจึงรีบหาน้ำอุ่นมา และชุบด้วยสำลีก่อนจะเช็ดให้ชุ่มชื้นเย่หนานโจวเฝ้าดูจากด้านข้างในวอร์ดมีคนไม่มากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยเวินหนี่ไม่วางใจ ดังนั้นเธอจึงนั่งลงตรงข้ามเขาอีกครั้ง โดยมุ่งเน้นไปที่การเฝ้าเย่จื่อหลังจากที่เฝ้าได้สักพัก เธอก็รู้สึกง่วงจนเปลือกตาสั่น จากนั้นเธอก็เผลอฟุบหลับไปเมื่อเวินหนี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะความตกใจ เธอฝันว่ามันมืดสนิทและอยู่ในพื้นที่แคบ ๆกลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น แม้แต่ในความฝันก็ยังไม่ปล่อยเธอไป เธอมักจะฝันแบบนี้ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลยเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีเสื้อคลุม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 467

    หรือว่าเขาจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว?เธอเคยได้ยินเย่จื่อพูดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ได้คิดถึงเหตุผลบางทีเย่หนานโจวอาจรู้มานานแล้ว จึงเข้าใจโดยปริยาย“เวินหนี่”ลู่เซินเข้ามาหาเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พักสักหน่อยไหม เดี๋ยวร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะ”เวินหนี่ยืนนานแล้วและรู้สึกปวดหลัง แต่เธออยากรอให้เย่จื่อออกมา จึงนั่งลงข้าง ๆ “ฉันอยากรอจนกว่าคุณอาจะฟื้น”“ผมจะรอเป็นเพื่อนคุณเอง” ลู่เซินพูดขึ้นอีกครั้งเวินหนี่พยักหน้าไปทางเขาร่างสูงของเย่หนานโจวเอนตัวไปที่กรอบประตูและเหลือบมองความกังวลของลู่เซินที่มีต่อเวินหนี่ ดวงตานั้นแทบจะมีน้ำล้นออกมาได้ และเวินหนี่ก็ดูเหมือนพร้อมยอมรับน้ำใจของเขาคลื่นแห่งความกระสับกระส่ายโจมตีร่างกายของเย่หนานโจวอีกครั้งดวงตาของเขาเย็นขึ้นและจงใจเตะเก้าอี้ข้าง ๆ ให้มีเสียงนั่นคือเก้าอี้ที่ลู่เซินนั่งอยู่ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง เย่หนานโจวก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “โทษที บังเอิญเตะโดนเข้าน่ะ!”“ไม่เป็นไร” ลู่เซินไม่ได้ติดใจอะไรเย่หนานโจวกลับพูดขึ้นอีกว่า “ตรงนี้คือพื้นที่รอสำหรับญาติ ไม่ทราบว่าคุณลู่มาที่นี่ทำไมกัน ที่บริษัทของคุณไม่ยุ่งเหรอครับ?”

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 466

    เขาไม่ได้โต้เถียงกับเธอ และเพิกเฉยต่อเสียงร้องไห้ของเธอสำหรับเขา น้ำตาของเย่ซูเฟินนั้นไร้ค่าเย่ซูเฟินในฐานะผู้หญิง เมื่อเห็นความเฉยชาของสามี มันก็ค่อย ๆ ทำลายแนวป้องกันในใจของเธอทีละน้อยและโวยวายขึ้นอย่างอารมณ์ร้อน “พูดมาสิ ทำไมถึงไม่พูดล่ะ ในสายตาของคุณ เย่จื่อสำคัญกว่าฉันใช่ไหม ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ เย่เหว่ยถิง คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!”เธอร้องไห้จนตาแดง อยากให้สามีเอาใจใส่เธอบ้างแค่หันมามองเธอสักครั้งก็สามารถสงบความโกรธและความกังวลของเธอได้เย่เหว่ยถิงเงียบและทำเหมือนเย่ซูเฟินคือคนแปลกหน้าอย่างเย็นชาเย่หนานโจวมองการอยู่ร่วมกันของพวกเขา เขาเห็นสิ่งนี้จนชินจึงไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆสำหรับเขา พวกเขาคือพ่อแม่ของตนเพียงในนามเท่านั้นการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้เขาชินมานานแล้วถึงขั้นทำให้เขารู้สึกไม่แยแสเย่เหว่ยถิงทนเย่ซูเฟินไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงลุกขึ้นและพูดกับเย่หนานโจวว่า “ฉันจะลงไปแล้ว ถ้าเย่จื่อฟื้นค่อยบอกฉัน!”เย่หนานโจวลดสายตาลงด้วยสายตาเย็นชาและไม่ตอบอะไรเย่เหว่ยถิงเองก็ไม่ได้รอคำตอบจากเขา เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับเย่หนานโจว เขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 465

    เมื่อเห็นความเฉยเมยของเขา เย่ซูเฟินจึงพูดขึ้นว่า “หนานโจว!”เย่หนานโจวไม่ต้องการฟังเธออีกและเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาเย่ซูเฟินต้องการพูดอะไรบางอย่างกับเย่หนานโจว แต่ลู่ม่านเซิงร้องไห้และถูกรังแก เธอจึงไปไหนไม่ได้ และทำได้เพียงเดินไปพยุงลู่ม่านเซิง “เซิงเซิงลุกขึ้นเถอะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว”ลู่ม่านเซิงถูกพยุงขึ้น เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟิน “คุณป้า หนูมันน่ารำคาญมากจนทุกคนไม่ชอบใช่ไหมคะ!”“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ฉันชอบเธอ ทุกคนต่างก็ชอบเธอ”เย่ซูเฟินตบหลังลู่ม่านเซิงเพื่อปลอบเธอลู่ม่านเซิงยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟินเห็นแบบนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ดูเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ ใครจะกล้าไปว่าอะไรเธอได้ ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลและมีคนอยู่มากมาย เวินหนี่คงอยากจะฉีกหน้ากากของลู่ม่านเซิงออกเพื่อดูว่าเธอจะเสแสร้งได้สักแค่ไหน แน่นอน เธอรู้ดีว่าไม่ว่าลู่ม่านเซิงจะจริงหรือเท็จแค่ไหน เย่ซูเฟินก็จะยังคงปกป้องเธอความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอดูเหมือนไม่ชัดเจนเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้น “เย่จื่อเป็นยังไงบ้าง?”เวินหนี่เงยหน้าขึ้นมองและเห็นเย่เหว่ยถิงเดินเข้ามาเขาสวมชุดสูทแ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 464

    ขณะที่เย่ซูเฟินกำลังปกป้องลู่ม่านเซิง เวินหนี่ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชาเมื่อเย่ซูเฟินเห็นเวินหนี่พูดแบบนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า “เวินหนี่ เซิงเซิงเป็นถึงขนาดนี้แล้ว อย่าอาศัยโอกาสนี้ซ้ำเติมเธออีก!”ปฏิกิริยาแรกของเธอคือปกป้องคนที่อ่อนแอไว้เวินหนี่เดินเข้าไป เห็นลู่ม่านเซิงร้องไห้หนักและดูอ่อนแอจนเกินบรรยาย “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ พวกคุณมีใครกังวลเกี่ยวกับคุณอาบ้าง สิ่งที่คุณกังวลคือกลัวว่าลูกชายจะไม่เอา ส่วนลู่ม่านเซิงเธอกล้วว่าถูกกล่าวโทษเลยมาเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารที่นี่ ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าคุณผลักคุณอาลงมา และลู่ม่านเซิงก็น่าจะเป็นผู้ที่ยุยง!”คุณอาถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทำให้เวินหนี่ไม่ต้องการไว้หน้าพวกเธอ “อย่ามาพูดจาไร้สาระ!” เย่ซูเฟินตวาด “ฉันผลักเย่จื่อก็จริง แต่ฉันแค่ผลักเบา ๆ ทำไมเธอถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าเย่จื่อจงใจล้มลงไปเอง”เวินหนี่มองไปที่เย่ซูเฟิน “แรงผลักของคุณมันไม่ได้เบา เราทุกคนต่างก็เห็น”เมื่อเย่ซูเฟินเห็นท่าทีของเวินหนี่ น้ำเสียงของเธอก็ดังมากยิ่งขึ้น “เวินหนี่ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้ ยังไงฉันก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่สามีขอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 463

    “ไม่ใช่นะ…” เย่ซูเฟินกล่าว “ลูกยังเป็นลูกชายของแม่ แม่เสียใจมากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้ให้ลูก…”“ผมไม่ต้องการมันแล้ว” ดวงตาของเย่หนานโจวเย็นชา “การเรียกคุณว่าแม่มันคือความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และคุณก็ควรจะพอใจได้แล้ว!”เย่ซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าวและพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ลูกจะทำกับแม่แบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเป็นเหมือนพ่อของลูก ไม่อย่างนั้นแม่พาลูกกลับมามันจะมีความหมายอะไร!”เย่หนานโจวพูดอย่างเย็นชา “หากมีผม การเอาชนะใจสามีของคุณมันถึงจะมีความหมาย แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของคุณมันไร้ประโยชน์!”ทุกคำพูดเหมือนมีดที่ทิ่มแทงใจของเย่ซูเฟินในตอนนั้นการแต่งงานของเธอกับเย่เหว่ยถิงนั้นค่อนข้างน่าขัน เป็นเพียงเพราะเธอดื้อดึงที่จะแต่งงานกับเขาเย่เหว่ยถิงไม่ได้รักเธอเลย ตรงกันข้ามเขาเกลียดเธอเธอคิดว่าตราบใดที่เธอแต่งงานกับเขา เย่เหว่ยถิงก็จะเป็นของเธอเมื่อเรื่องราวมันเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขได้ มีอะไรที่จะผ่านไปไม่ได้อีก?แต่เธอคิดง่ายเกินไป เย่เหว่ยถิงไม่กลับบ้านและปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในห้องที่อ้างว่างเธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจสามีแม้กระทั่ง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 462

    “หนานโจว”ในระหว่างที่โต้เถียงกับเย่จื่ออยู่นั้นเย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นเขา และเธอก็ตกใจเล็กน้อยเวินหนี่เองก็มองไปและเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเย็นชาและดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับสิ่งที่พวกเธอพูดกลับกัน เขากลับยอมรับความจริงนี้อย่างสงบนิ่งเย่จื่อตกใจเมื่อเห็นดวงตาของเย่หนานโจวในขณะนี้ สิ่งที่เธอเสียใจคือการที่เธอหุนหันพลันแล่นพูดออกไปว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเย่ซูเฟิน เพราะมันถือเป็นการโจมตีเขาเธอมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอมองเพียงเย่หนานโจว “หนานโจว…”เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไรมากเขาเพียงแค่รู้ว่าพวกเธอมาที่สุสานและอาจจะเกิดเรื่องขึ้น เขาจึงเป็นกังวลและแวะเข้ามาดูหน่อยเท่านั้น เย่ซูเฟินโกรธมากขึ้น “เย่จื่อ เธอกำลังพูดอะไร เธอจะให้ฉันมีความสุขไม่ได้เลยใช่ไหม เธอมันสมควรตายจริง ๆ!”เธอผลักเย่จื่ออย่างแรงความสนใจของเย่จื่อมุ่งไปที่เย่หนานโจว ความโกรธของเธอลดลงมากและลดความเกรี้ยวกราดลง ในใจคิดแต่ว่ามันจะสร้างบาดแผลให้เขาหรือไม่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นการกระทำของเย่ซูเฟินและเธอก็ถูกผลักลงบันไดไปทันทีสติของเวินหนี่ยังไม่ทันกลับมาจากการที่เย่หนานโจวไม่ใช่ลูกแท้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 461

    “ดังนั้นเธอจึงทำทุกอย่างเพื่อทำลายครอบครัวทีละครอบครัว! เธอไม่เคยคิดถึงความผิดของตัวเองเลย!”“ฉันไม่ผิด!” เย่ซูเฟินพูดอย่างเดือดดาล “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอบีบบังคับฉันเอง!”เมื่อเห็นว่าทุกคนอารมณ์ร้อน ลู่ม่านเซิงจึงเกลี้ยกล่อมจากด้านข้าง “คุณอา อย่าเถียงกับคุณป้าเลยค่ะ เธอแค่หุนหันพลันแล่นไปเท่านั้น ฉันไม่เป็นไรค่ะ และฉันก็ไม่ได้โทษคุณอาเลย คุณป้าพวกคุณต่างก็ถอยคนละก้าวเถอะนะคะ”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” เย่จื่อมองไปที่ลู่ม่านเซิง และพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ถ้าเธอไม่ได้โทษฉัน แล้วจะเล่าให้เย่ซูเฟินฟังทำไม เธออยากให้เย่ซูเฟินออกหน้าให้ไม่ใช่เหรอ? เสแสร้งแกล้งทำ ภายนอกดูใสซื่อ แต่ภายในคิดไม่ซื่อ ฉันล่ะเกลียดคนแบบเธอที่สุด!”เมื่อเห็นแบบนั้นเย่ซูเฟินก็ผลักเธอทันที “เธอกำลังดุใคร รู้ว่าเซิงเซิงสูญเสียการได้ยิน แต่ยังแอบพูดไม่ดีลับหลังเธอ เธอมันชั่วร้ายแค่ไหนกัน?!”“ถึงฉันจะชั่วร้ายแต่ก็ไม่ได้ขาดคุณธรรมเหมือนเธอ!” เย่จื่อก็ผลักกลับคืนไปเช่นกัน“เธอลงมือกับฉันงั้นเหรอ?”เย่ซูเฟินจ้องเธอด้วยความโกรธ “วันนี้มีเธอก็ไม่มีฉัน!”“ลองดูสิว่าฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ไหม!”เย่จื่อไม่พูดพล่ำทำเพลงเข้าไปต

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 460

    เย่จื่อไม่คาดคิดว่าเย่ซูเฟินจะโทรมาหาเธอ ซึ่งทำให้เธออารมณ์เดือดขึ้นทันที "ทำไม? หรือว่าเป็นลู่ม่านเซิงที่บอกอะไรกับเธอ ฉันจัดการเธอแล้วยังไงล่ะ!""ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?" เย่ซูเฟินพูดด้วยความโกรธ เพราะอยากจะจัดการกับเย่จื่อให้ได้"ฉันต้องบอกด้วยเหรอ? คิดว่าเธอเป็นใคร!" เย่จื่อไม่สนใจที่จะเคี้ยวเมล็ดแตงโมแล้ว ปัดมันออกไปพร้อมกับกำลังมองหาที่ระบายความโกรธเย่ซูเฟินหัวเราะเยาะ "กลัวสินะ กลัวฉันจะหาตัวเจอ ฉันรู้แล้วว่าโรงงานเสริมความงามของเธอโดนพังเสียหายหมด ตอนนี้ถึงกับต้องหลบซ่อนตัวเหมือนเต่าหดหัวแล้ว!""ฉันเนี่ยนะกลัว? ฉันเคยกลัวเธอสักครั้งไหม! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแต่งงานกับเย่เว่ยถิง ฉันไม่เคยนับเธอเป็นคนของตระกูลเย่ด้วยซ้ำ!" เย่จื่อตอบกลับอย่างกระแทกกระทั้น"งั้นก็ออกมาสิ มาสู้กันต่อหน้า!" เย่ซูเฟินท้าทาย"ก็ได้ ออกมาก็ออกมา เย่ซูเฟิน ถ้าเธออยากจะตัดขาดกับฉันจริง ๆ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว!" พูดจบ เย่จื่อก็ตัดสายทิ้งและหยิบกระเป๋าขึ้น เตรียมออกไปข้างนอกทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น เวินหนี่รีบพูดขึ้น "คุณอาคะ คุณอาจะไปไหนคะ หนูจะไปด้วย"เย่จื่อหันมามองเวินหนี่ "เธอไม่ต้องไป เย่ซูเฟิ

DMCA.com Protection Status