แชร์

บทที่ 190

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-18 07:12:50
เย่หนานโจวขมวดคิ้ว “เมื่อกี้เธอหมดสติไป ตรวจให้แน่ใจหน่อยดีกว่า”

เวินหนี่ดึงเสื้อให้แน่นขึ้น มองไปที่เลือดบนมือของเขา “ฉันคิดว่าคุณน่าจะต้องตรวจมากกว่าฉันนะ”

เธอลงจากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วพูดต่อ “ฉันแค่มีแผลเล็ก ๆ ที่คอ แค่พันแผลก็พอแล้ว!”

“คุณหมอ ช่วยดูแผลให้คุณเย่ก่อนเถอะค่ะ”

เย่หนานโจวจ้องมองเวินหนี่ด้วยดวงตาที่หรี่แคบลง รู้สึกว่าเธอมีท่าทีแปลก ๆ และดูเหมือนเธอจะมีบางอย่างที่ปิดบังเขาอยู่

เธอบอกว่าไม่อยากตรวจร่างกาย แต่กลับแอบไปโรงพยาบาลเอกชน

นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?

คุณหมอเห็นว่าทั้งสองคนเริ่มมีความเห็นไม่ตรงกัน จึงพูดขึ้นว่า “คุณเย่ ผมว่าให้พวกเราเริ่มจากการทำแผลให้พวกคุณก่อนดีกว่า”

เย่หนานโจวไม่ตอบหมอในทันที แต่หันไปถามเวินหนี่แทน “เธอบอกว่าไม่อยากตรวจร่างกาย แต่กลับแอบไปโรงพยาบาลเอกชน นี่เธอกำลังปิดบังอะไรจากฉันหรือเปล่า?”

สายตาของเขาเริ่มเย็นชา และน้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความเย็นเฉียบ

เวินหนี่รู้สึกตึงเครียดในใจ แต่เธอยังคงแสร้งทำเป็นสงบนิ่งและจ้องตาเย่หนานโจวตอบกลับไปว่า

“ฉันไปโรงพยาบาลนั้นเพราะฉันใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัว แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากตรวจร่างกายเพราะฉันไม่มีอาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 191

    เวินหนี่ไม่คิดแบบนั้นแม้ว่าเธอจะเคยพูดดูถูกแบบนั้นใส่ลู่ม่านเซิงก็ตามแต่เธอก็พูดเพียงแค่เพื่อปกป้องตัวเองเท่านั้น“คุณก็รู้ว่าฉันมีคนที่ชอบในใจอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ?” เวินหนี่กล่าวเพียงประโยคเดียวก็ทำให้เย่หนานโจวถึงทางตัน เธอมีคนที่ชอบอยู่แล้วแต่เขาก็ไม่เคยเห็นผู้ชายคนนั้น!สิ่งนี้กลายเป็นปริศนาระหว่างพวกเขาใบหน้าของเย่หนานโจวเย็นชาแต่ก็พูดขึ้นว่า “เธอไม่จำเป็นต้องพูดถึงผู้ชายคนนั้น เมื่อถึงเวลาฉันก็จะปล่อยเธอไปเอง และต่อให้เธอไม่เอาใบหย่ามาให้ฉัน ฉันก็จะส่งมันไปถึงมือเธอเอง!”พวกเขารับทราบว่าจนกว่าสัญญาการแต่งงานจะสิ้นสุดลง ตอนนั้นพวกเขาถึงจะได้รับหุ้นเวินหนี่รู้ข้อนี้ดีและเธอให้ความร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดีถือซะว่านี่เป็นการตอบแทนเขาอย่างหนึ่งด้วย“ได้ค่ะ” เวินหนี่หยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะดูปฏิทิน “เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน หวังว่าเมื่อถึงเวลานั้นประธานเย่จะหาเวลาว่างมาได้นะคะ”เย่หนานโจวไม่ได้ตอบทั้งสองได้รับการทำแผลจากคุณหมอ บาดแผลของเวินหนี่ไม่ได้ลึกมาก แค่ผิวถลอก เธอรู้ว่าเวินเซี่ยนไม่ได้ต้องการฆ่าชีวิตเธอทั้งหมดนี้เกิดจากการยุแยงของผู้หญิงคนนั้นไม่นา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 192

    เธอรับมันมา นมยังอุ่นอยู่เลย ก่อนจะยกมันขึ้นดื่ม เป็นนมรสหวานและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ มันช่วยบรรเทาความกลัวของเธอ แต่ก็ทำให้รู้สึกโศกเศร้า“พักสักหน่อยเถอะ” เย่หนานโจวทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว “ฉันจะดูแลเรื่องฝั่งตำรวจให้เอง”เขาไม่อยากให้เวินหนี่เหนื่อยเกินไปคดีลักพาตัวร้ายแรงเช่นนี้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเขาเองก็ไม่มีเวลาจะพักผ่อนได้เวินหนี่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ไม่นานก็มีคนเข้ามา“หนีหนี่”“แม่คะ” เวินหนี่ตะโกนเรียกเติ้งจวนมาที่โรงพยาบาล และเห็นเวินหนี่นอนอยู่บนเตียงโดยมีบาดแผลที่คอ เธอร้องไห้ออกมาทันทีและเข้ามากอดลูก “เวินหนี่ คนเลวเวินเซี่ยนนั่นมันสมควรตาย มาลักพาตัวและข่มขู่ลูกได้ยังไง? ไอ้สารเลวทำให้ลูกฉันต้องทุกข์ทรมานขนาดนี้! ต่อไปครอบครัวเราจะไม่มีการติดต่อกับครอบครัวของพวกนั้นอีกเด็ดขาด! แม่ว่าพ่อของลูกไปแล้ว เป็นเพราะเขาเห็นแก่ความสัมพันธ์พี่น้องมากเกินไปเรื่องถึงได้เป็นแบบนี้! พ่อเองก็ได้สติแล้ว ไว้พ่อเขาจะไปจัดการกับอาเอง!”เวินจ้าวยืนอยู่ที่ประตู แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความทุกข์และความรู้สึกผิดเป็นเพราะเขาเห็นแก่ความสัมพัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 193

    “ก็ใช่น่ะสิ บางคนเกิดมาก็เพื่อเป็นคนเลว เวินเซี่ยนตายอย่างอนาถจริง ๆ เขาถูกหลานสาวตัวเองฆ่าตาย แถมยังไม่มีใครพูดอะไร น่าสงสารจริง ๆ”“ตำรวจว่ายังไงบ้าง? จะปล่อยให้คนตายไปเฉย ๆ อย่างนี้เหรอ?”“คนตายอย่างเปล่าประโยชน์ แค่ฝังดินเรื่องก็จบ”“นั่นมันไม่ยุติธรรมเลย ชีวิตคนทั้งคน แต่เวินหนี่กลับได้ผลประโยชน์ไปทั้งหมด!”เสียงเหล่านี้ทำให้ใบหน้าของเติ้งจวนบิดเบี้ยว “มันจะมากเกินไปแล้ว ยังไงก็เป็นญาติกันแต่กลับมานินทากันเนี่ยนะ!”พวกเขาแทบไม่ได้ติดต่อกับญาติเหล่านี้เลย อย่างมากก็เพียงแค่เคยทักทายกันผ่าน ๆ เท่านั้น เธอมองไปที่เวินหนี่แล้วพูดว่า “หนีหนี่ อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของพวกเขา เราไหว้เสร็จแล้วก็กลับกัน”เธอไม่อยากสร้างปัญหา หากไม่ใช่เพราะเวินหนี่อยากมา เธอก็คงไม่มา เวินหนี่ไม่เป็นอะไรเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกคนอื่นนินทาญาติบางคนนั้นแย่กว่าเพื่อนบ้านเสียอีกเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อไว้อาลัยอาของเธอเท่านั้น แต่มาเพื่อหาตัวฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังด้วยพอลงจากรถ ทุกสายตาต่างก็จับจ้องไปที่พวกเธอราวกับจะพูดว่ายังมีหน้ามาที่นี่อีกงั้นเหรอแต่การที่พวกเธอมาก็เป็นเพราะไม่ได้ทำเรื่องไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 194

    เหตุการณ์นี้กลายเป็นหัวข้อให้พวกเขานินทากันมากกว่าการกล่าวโทษคือความขมขื่นและความอิจฉาริษยาในใจในบรรดาพวกเขา คนที่ได้ดีที่สุดก็คือครอบครัวของเวินหนี่พวกเขาล้วนเป็นเพียงครอบครัวธรรมดา จะมีทางได้แต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวยได้อย่างไรพวกเขาไม่เคยได้เห็นชีวิตของตระกูลที่ร่ำรวยที่ตอนนี้เวินหนี่มีด้วยซ้ำความริษยาที่มีก็เปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง และพวกเขาก็ทนเห็นเธอได้ดีไม่ได้ รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมนามสกุลเวินเหมือนกันแล้วพวกเธอมีสิทธิ์อะไรที่แตกต่าง “ใช่ ตระกูลเวินของเราไม่มีที่ให้กับพวกคนสูงส่งอย่างพวกเธอหรอกนะ!”เวินจ้าวเคยชินกับการถูกซุบซิบนินทามานานแล้ว แต่เขาต้องการส่งเวินเซี่ยนอย่างสงบ “พวกเราไม่เคยมีความคิดแบบนั้น พวกเธอพูดเรื่องไร้สาระโดยที่ไม่รู้อะไรเลย! ฉันไม่อยากโต้เถียงกับพวกเธอ วันนี้ฉันมาส่งน้องชายของฉัน ละเว้นการซุบซิบนินทาหน่อยเถอะ!”“ไสหัวออกไปให้พ้นทุกคน พวกเราไม่ต้อนรับ และไม่ต้องการการกราบไหว้ของพวกแก!” จางลี่หงพูดเสียงดัง “ครอบครัวของพวกแกคือฆาตกร!”พวกเขาผลักครอบครัวของเวินหนี่ออกไปอย่างแรง“กลับไปที่เมืองใหญ่ของพวกนายเถอะ นายเคยคิดว่าเขาคือน้องชายด้วยงั้นเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 195

    ทุกคนเงียบลงอย่างพร้อมเพรียงกันก่อนจะมองไปยังที่มาของเสียงและเห็นรถหลายคันจอดอยู่ที่ด้านหลัง ร่างสูงสะดุดตาเดินเข้ามาชายคนนั้นสวมชุดสูทสีดำเทา ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาลุ่มลึกที่ดูเฉียบคม และรัศมีแห่งความห่างเหินที่ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้ แถมยังทำให้ผู้คนรู้สึกสะพรึงกลัว พวกเขาพร้อมใจกันแหวกทางออกเวินหนี่หันกลับมา รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเขา เขามาที่นี่ทำไมกัน?ความตึงเครียดในใจเธอคลายออกและเธอโยนสายยางในมือทิ้งไปเหตุการณ์เงียบไปครู่หนึ่ง และทันใดนั้นก็มีคนพูดขึ้นด้วยความโกรธ “คุณเป็นใคร? นี่เป็นเรื่องภายในตระกูลเวิน คุณเข้ามายุ่งได้ยังไง?”เย่หนานโจวมองบุคคลนั้นด้วยสายตาที่คมกริบคนผู้นั้นเงียบปากไปทันที พร้อมทั้งรู้สึกเย็นวาบไปทั่วแผ่นหลังเย่หนานโจวพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ผมเป็นสามีของเวินหนี่ คุณคิดว่าผมมีสิทธิ์เข้ามายุ่งหรือเปล่าล่ะ?”“สามีงั้นเหรอ?”พวกเขาตกใจและพูดขึ้นอย่างสงสัย “งั้นเธอก็แต่งงานเข้าตระกูลที่ร่ำรวยจริง ๆ น่ะสิ”พวกเขาหันไปมองที่ด้านนอกประตูซึ่งมีรถหรูจอดอยู่หลายคันแม้เป็นยี่ห้อที่พวกเขารู้จัก แต่แทบไม่เคยได้พบเห็นในชีวิตจริงพวกเขารู้ว่าบุคคล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 196

    ถึงจะไม่ได้มาพักที่นี่นาน แต่บ้านนี้ก็มีคนมาคอยทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆเวินจ้าวและเติ้งจวนเป็นคนที่รู้จักบุญคุณคน แม้จะรู้ว่าการแต่งงานของพวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่ก็ยังบอกให้เวินหนี่ไปขอบคุณเย่หนานโจวเย่หนานโจวกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเวินหนี่เทน้ำให้เขา “พ่อแม่บอกให้ฉันมาขอบคุณคุณน่ะค่ะ”“ไม่ต้องเกรงใจ”เวินหนี่นั่งลงข้างเขาและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเสียดสี “ฉันพูดเป็นครึ่งวันแต่พวกเขาก็ไม่ฟัง พอคุณพูดเพียงไม่กี่คำพวกเขาก็เชื่อซะงั้น เพราะฉันอ่อนแอเกินไปงั้นเหรอ? ทำไมพวกเขาถึงไม่เชื่อฉันแต่กลับเชื่อคุณกันล่ะ?”เธอไม่เข้าใจเธอคิดว่าสามารถจัดการเองได้แท้ ๆ แต่สุดท้ายก็เป็นเย่หนานโจวที่เข้ามาแก้ไขให้เย่หนานโจวดื่มน้ำอุ่นและฟังคำพูดของเวินหนี่ สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก และก็ไม่ได้แปลกใจกับเรื่องแบบนี้ “เธอต้องเข้าใจสิ่งหนึ่ง ธรรมชาติของมนุษย์นั้นน่าเกลียด โดยเฉพาะญาติของเธอเหล่านั้น พวกเขามองเห็นแต่สิ่งไม่ดีและจะไม่ยอมมองด้านดีของเธอ เธอเองก็อย่าใจอ่อนและขี้สงสารให้มากนัก คนที่น่าสงสารย่อมมีจุดน่ารังเกียจ ยิ่งพวกเขาเกลียดเธอมากเท่าไร แสดงว่าเขาไม่พอใจกับชีวิตของตัวเอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 197

    เมื่อเห็นเย่หนานโจวพูดแบบนั้น เวินหนี่จึงไม่ได้ปิดบังและพูดว่า “คุณปู่หาน หนูแต่งงานแล้วค่ะ ปู่ไม่จำเป็นต้องหาคู่ให้หนูแล้ว”“นี่คือสามีของหนีหนี่งั้นเหรอ!”ชายชรากลับรู้สึกมีความสุข ก่อนที่ผู้เฒ่าเวินจะจากไป เวินหนี่ยังคงเป็นเพียงนักเรียนอยู่เลย ตอนนี้เขาได้มาเห็นจึงอดไม่ได้ที่จะมองสำรวจเย่หนานโจวมากขึ้น ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “หน้าตาหล่อเหลาดูเป็นคนที่มีความสามารถ มองแวบเดียวก็รู้ว่าเขาเป็นคนเก่ง หนีหนี่มีสายตาที่เฉียบแหลมจริง ๆ!”“พวกเธอสองสามีภรรยาต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุขล่ะ การได้พบกันคือโชคชะตา และการได้มาอยู่ด้วยกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องรักษามันไว้ให้ดีล่ะ!” ชายชราพูดพล่าม แต่ก็เพราะหวังดีต่อพวกเขาเมื่อได้ยินแบบนั้น มุมปากของเย่หนานโจวก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเวินหนี่ไม่สามารถขัดจังหวะชายชราได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงรับฟังเงียบ ๆ เขาเองก็จะไปกินข้าวกับพวกเธอด้วย เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “เวินเซี่ยนคนนี้เนี่ยนะ โชคดีที่ผู้เฒ่าเวินจากโลกนี้ไปแล้ว ไม่งั้นหากเขารู้เรื่องนี้คงจะโกรธจนแทบบ้าแน่ ๆ!”เขาเองก็เฝ้าดูเวินเซี่ยนเติบโตมาเช่นกัน เมื่อมองดูเขาค่อย ๆ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 198

    เวินหนี่รับแก้วน้ำมา แล้วตอบรับเบา ๆ“หลานเขยของเราช่างเอาใจใส่ดีจริง ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็คิดถึงภรรยา!”การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเขาอยู่ในสายตาของทุกคนพวกเขาหัวเราะสนุกสนานและส่งเสียงเย้าแหย่ ซึ่งทำให้เวินหนี่ดูระมัดระวังตัวเล็กน้อยเย่หนานโจวยกแก้วเหล้าขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าผมต้องเอาใจภรรยาสิครับ”“โอ้ หลานเขยดีนี่จริง ๆ หากตาแก่ที่บ้านใส่ใจได้ครึ่งหนึ่งของเธอ ฉันกับเขาก็คงไม่ทะเลาะกันทุกวันแบบนี้!”“ฮ่าฮ่าฮ่า…”พวกเขาหัวเราะกันอย่างสนุกสนานเวินหนี่ไม่ได้พูดอะไรมาก เย่หนานโจวให้เกียรติเธอมากพอแล้ว ในสายตาของคนอื่น เธอแต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวย แถมสามียังเป็นคนเอาใจใส่ ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ต้องอิจฉาเวินหนี่ยังรู้สึกสับสนเล็กน้อยและถามว่า “ก่อนนี้ญาติเหล่านั้นยังเมินเฉยต่อฉันอยู่เลย แต่จู่ ๆ ก็ดูเป็นมิตรขึ้นมา คุณแอบไปทำอะไรมาหรือเปล่าคะ?”เย่หนานโจวดูเข้ากับญาติของเธอได้ดี จนดูเหมือนว่าเขาเคยสนทนากับพวกเขาบ่อย ๆ “ไม่มีอะไรหรอก แค่ให้ผลประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น” เย่หนานโจวกล่าวไม่น่าแปลกใจเลยเธอก็คิดอยู่ว่าทำไมคนอื่นจู่ ๆ ถึงได้ดูชื่นชอบเธอขึ้นมาขนาดนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status