Share

บทที่ 104

Author: เซียงปู้อี๋
ในขณะนี้เวินหนี่เหมือนถูกฟ้าผ่า ใบหน้าของเธอซีด ร่างกายของเธอแข็งทื่อ และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

เธออยากจะหนีออกไปจากสถานที่นี้ แต่เท้าของเธอรู้สึกเหมือนถูกตอกด้วยตะปู ไม่อาจละสายตาไปจากพวกเขาได้เลย

ไม่คิดเลยว่าแค่เธอมาเข้าห้องน้ำ พวกเขาจะพัฒนามาถึงจุดที่จูบกันได้แบบนี้แล้ว

เพียงแต่ในวินาทีต่อมา เย่หนานโจวก็ดึงมือของหวังอินออก

ดวงตาของเขาบังเอิญสบกับเวินหนี่ เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของพวกเขาสบกันในอากาศ เต็มไปด้วยความสงสัยและความเสียใจ

เย่หนานโจวไม่มีเวลาอธิบายอะไร ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงรักษาระยะห่างจากหวังอินและพูดอย่างเย็นชา

“คุณหวัง กรุณาให้เกียรติตัวเองด้วย”

หวังอินไล่ตามเขาออกมา

เมื่อเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่คนเดียว จึงอยากจะใกล้ชิดกับเขาให้มากขึ้น

เธอคิดว่าไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถปฏิเสธผู้หญิงสวยได้ และยังไม่เคยมีใครปฏิเสธเธอมาก่อนด้วย

ตราบใดที่เธอริเริ่ม เธอก็สามารถคว้าเย่หนานโจวได้

แม้ว่าจะเป็นเพียงความสัมพันธ์แบบคืนเดียว แต่เธอก็รู้สึกว่าคุ้มค่าแล้ว

ไม่คิดเลยว่าเขาจะดึงตัวเธอออก

บางทีนี่อาจเป็นวิธีกระตุ้นความต้องการ หวังอินไม่ได้คิดอะไรมาก แต่กลับยิ้มมุมปากแล้วม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 105

    ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่สามารถพัฒนาไปได้มากกว่านี้เธอจัดการอารมณ์ทั้งหมดก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม จากนั้นก็มองไปที่หวังอินที่ยืนอยู่ด้านหลัง “ประธานเย่ ในฐานะเลขาของคุณ ฉันจะไม่มองสิ่งที่ไม่ควรมอง และจะไม่ฟังสิ่งที่ฉันไม่ควรฟัง สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกคุณที่นี่ฉันจะเก็บเป็นความลับ ไม่พูดออกไปอย่างแน่นอนค่ะ”หวังอินเข้าใจอะไรบางสิ่งบางในทันที และเดินเข้าไปก่อนจะพูดว่า “ประธานเย่ เป็นเพราะมีคนอื่นอยู่ คุณเลยกังวลใช่ไหมคะ หากเป็นเช่นนั้น คน ๆ นี้คือเลขาของคุณ เธอต้องเข้มงวดกับคำพูดของตัวเองอย่างแน่นอน ฉันรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่คุณเย่ไม่มีเรื่องอื้อฉาวและไม่เคยเปิดเผยเรื่องแฟนสาว ฉันไม่จำเป็นต้องมีสถานะก็ได้ เรามาแอบคบกัน ตกลงไหมคะ?”เธอหลงรักเย่หนานโจวอยากอยู่ใกล้เขาและพิชิตใจเขาหากเขาสนใจเธอ เธอก็สามารถเป็นคนรักลับ ๆ ของเขาได้แบบนี้เขาคงไม่สามารถปฏิเสธได้แน่ ความห่างเหินและความเฉยเมยของเวินหนี่ทำให้เย่หนานโจวไม่พอใจมากพออยู่แล้ว ยังมีหวังอินที่มาพูดจาไร้สาระอยู่ข้างหูของเขาอีก มันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น สายตาเย็นชาของเขาเบี่ยงจากเวินหนี่ไปยังหวังอินเดิ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 106

    “ขอโทษค่ะคุณเย่ วันนี้เป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ได้เข้าไปห้ามไว้ทันเวลาจนทำให้คุณเย่ไม่พอใจ ฉันจะหลีกเลี่ยงไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตค่ะ” เวินหนี่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองอย่างรวดเร็วด้วยความกลัวว่าเขาจะโกรธและทะเลาะกันใหญ่โตเธอยอมรับความผิดพลาดอย่างรวดเร็วและไม่ได้โต้เถียงเขา เย่หนานโจวจึงพูดขึ้นอีกครั้ง “เธอรู้สึกตัวเร็วดีนี่ งั้นฉันขอถามเธอหน่อย ที่เธอทำแบบนั้นเป็นเพราะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว”การกระทำของเธอก่อนนี้เป็นเพราะเรื่องส่วนตัวเธอรู้สึกโศกเศร้า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เวินหนี่กล่าวขึ้น “แน่นอนว่าเป็นเพราะเรื่องงานค่ะ ตราบใดที่ฉันเป็นเลขาของประธานเย่ ฉันก็จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง คุณเย่ คุณหักเงินเดือนของฉันได้เลยค่ะ ฉันไม่มีข้อโต้แย้ง”“...”เย่หนานโจวพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง และเขาก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็หาความผิดของเธอไม่ได้และเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะสาวความยาวเย่หนานโจวเม้มริมฝีปาก ใบหน้าของเขามืดมนลง เขาปล่อยเธอและห่างเหินราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยพูดคุยกับเธอเวินหนี่รู้สึกโล่งใจและคิดว่าตัวเองผ่านการทดสอบแล้ว แต่เธอกลับเห็นว

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 107

    เธอลืมตาขึ้น เห็นเผยชิงเปิดประตูรถและเขย่าตัวเธอ เธอลุกขึ้นนั่งแล้วถามขึ้นว่า “มีอะไร?”“วันนี้ประธานเย่ดื่มหนักมาก แถมยังปลุกไม่ตื่นด้วยครับ” เผยชิงกล่าวเวินหนี่รีบมองไปและเห็นว่าเย่หนานโจวกำลังนอนหลับพิงพนักเก้าอี้ในตำแหน่งเดิม เขาหายใจอย่างมั่นคงและไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย บางทีเขาอาจจะดื่มมากเกินไปจนเหนื่อยและหลับไปแล้วแต่เขาไม่ค่อยเป็นแบบนี้ในความทรงจำของเธอ เขาไม่เคยเมาจนหลับลึกแบบนี้มาก่อน เมื่อเห็นว่ามาถึงประตูบ้านแล้ว เธอจึงพูดขึ้นว่า “ฉันจะเรียกให้คนมาพยุงเขาเข้าไป”“เผยชิง นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ” ทันใดนั้นเวินหนี่ก็ได้สติเผยชิงพยักหน้า “ครับ ฝากดูแลประธานเย่ด้วยนะครับ”เวินหนี่ลงจากรถแล้วรีบเข้าไปเรียกคนรับใช้ในบ้านให้ออกมาช่วยพยุงเย่หนานโจวเข้าไปหลังจากพยุงเขามาถึงห้องนอน เย่หนานโจวก็ถูกวางลงบนเตียง เวินหนี่รู้สึกหมดแรงเธอมองดูชายที่หมดสติอยู่บนเตียง ก่อนจะช่วยเขาถอดรองเท้า ถอดเสื้อสูทออกแล้วแขวนไว้บนไม้แขวนเสื้อเธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์รุนแรงจากบนตัวเขาดูเหมือนว่าจะดื่มไปเยอะจริง ๆ ทันใดนั้น เย่หนานโจวก็พลิกตัวและจับเวินหนี่ไว้ในอ้อมแขนโดยไม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 108

    เวินหนี่รีบเช็ดน้ำตาบนใบหน้า ทำตัวเองให้ดูปกติ จากนั้นก็มองไปที่เขา “วันนี้คุณดื่มไปไม่น้อย รีบนอนลงแล้วพักผ่อนเถอะค่ะ”เย่หนานโจวมองไม่ผิด เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามอีกขึ้นครั้ง “เมื่อกี้เธอร้องไห้เหรอ?”เวินหนี่ก้มศีรษะลงโดยไม่รู้ตัว “ฝุ่นเข้าตาน่ะค่ะ”เย่หนานโจวถามต่อ “ร้องไห้ทำไม?”เขาไม่ค่อยเห็นเธอหลั่งน้ำตา หากเธอร้องไห้แสดงว่าเธอจะต้องเสียใจมากดวงตาของเวินหนี่จับจ้องไปที่เขา เธอลังเลก่อนที่จะถามขึ้นว่า “เมื่อกี้ฉันเช็ดตัวให้คุณ และเห็นบาดแผลมากมายบนร่างกายของคุณ”“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณเคยได้รับบาดเจ็บมามากมายขนาดนี้”มือของเย่หนานโจวหยุดลง ที่แท้เธอก็ร้องไห้เพราะเขา เขาถามขึ้นอีกว่า “เธอสงสารฉันงั้นเหรอ?”คำพูดของเขาทำให้เวินหนี่ใจหวิวและเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง เธอตื่นตระหนกราวกับว่าความลับที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในใจของเธอกำลังจะถูกค้นพบ “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคนมีบาดแผลมากมายขนาดนี้ ตอนนั้นคงจะเจ็บไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ”เธอเป็นคนที่ต้องการการเตรียมใจล่วงหน้า แม้ว่าจะถูกแทงด้วยเข็มก็ตามยิ่งไม่ต้องพูดถึงการถูกยิงทันใดนั้นดวงตาของเย่หนานโจวก็อ่อนโยนขึ้น ไม่ได้มีความเฉยเมยแล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 109

    ราวกับว่าเขาไม่มีเกราะป้องกันต่อหน้าเธออีกต่อไปเธอคิดไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ แผ่นหลังแน่น ๆ ของเขาก็มีบาดแผลเช่นกัน มีรอยแผลเป็นเป็นเส้น ๆ ดูน่ากลัวมาก ทิ้งความงามที่ไม่สมบูรณ์ไว้บนร่างกายที่ไร้ที่ตินั้นเวินหนี่มองแผ่นหลังกว้างของเขา ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขาที่สามารถแบกตระกูลเย่เอาไว้ได้ แต่ใครจะคิดว่าบ่าของเขาต้องทนแบกรับอะไรมามากมายแค่ไหนมือของเธอแตะไปที่แผ่นหลังของเขา ร่างกายของเย่หนานโจวแข็งทื่อไปชั่วขณะ ดวงตาของเขาลุ่มลึก และไม่ได้ปฏิเสธสัมผัสของเธอ เพียงแค่บอกเธอด้วยเสียงแหบพร่าว่า “มันไม่เจ็บแล้ว”รอยแผลเป็นเหล่านั้นทำร้ายหัวใจเวินหนี่เธอยังคงเงียบและกำหมัดแน่นเขาไม่ต้องการพูดถึงมัน บางทีร่องรอยเหล่านี้อาจเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจทนได้หากมองย้อนกลับไปสำหรับเย่หนานโจวรวมไปถึงส่วนที่มีเธอด้วยเวินหนี่เม้มริมฝีปาก ถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วดึงมือออกเธอค้นพบว่าเย่หนานโจวยังคงมีความลับที่เธอไม่รู้เธอถึงกลับคิดว่า ตอนนั้นคือ “อาจ้าน” ไม่ใช่เย่หนานโจวเย่จื่อเองก็เคยพูดว่าไม่ชอบเย่ซูเฟินและยังบอกด้วยว่าเธอเลี้ยงดูเย่หนานโจวมาจนเติบใหญ่ เย่ซูเฟินไม่มีคุณสมบัติ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 110

    คำพูดดังกล่าวทำให้เวินหนี่ตกใจ เธอไม่เคยคิดเลยว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของเขาจูบของเขาลดต่ำลง จากอ่อนโยนไปสู่ความหนักหน่วงด้วยความหวงแหนของผู้ชาย ซึ่งทำให้เวินหนี่รู้สึกงุนงงอยู่พักหนึ่งเมื่อรู้สึกได้ถึงความเย็นบนร่างกาย เย่หนานโจวก็ปลดกระดุมชุดนอนของเธอแล้ว ความหนาวเย็นที่กัดกร่อนทำให้เธอได้สติขึ้นมาทันที เขามองดูหน้าท้องของเธอเล็กน้อย เธอสะดุ้งและรีบผลักเย่หนานโจวออกไปทันที “ไม่นะ!”เดิมทีเย่หนานโจมกำลังได้อารมณ์ เมื่อถูกเธอผลักออกอย่างแรงเขาก็สร่างเมาทันที เขามองดูการกระทำที่ใหญ่โตของเวินหนี่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและปกปิดเสื้อผ้าตัวเองอย่างแน่นหนา เขารู้สึกถึงการต่อต้านและรังเกียจการสัมผัสจากเขาดวงตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของเขาจางหายไปทันที ใบหน้าของเขาเย็นลง และเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เธอกำลังปกป้องร่างกายราวกับหยกไว้เพื่อลู่เซินหรือว่าอาจ้านกันล่ะ?”มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวที่ทำให้เธอมีปฏิกิริยารุนแรง และไม่อยากถูกเขาแตะต้องเช่นนี้นั่นก็เพื่อผู้ชายที่เธอชอบอยู่ในใจเวินหนี่ใช้มือลูบท้องตัวเอง เธอกำลังตั้งครรภ์ จึงไม่อาจทำ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 111

    เวินหนี่กินคำสุดท้ายเสร็จแล้วจึงวางส้อมลงเธอรู้ว่าเย่ซูเฟินได้สะสมความไม่พอใจมาเป็นเวลานานแล้วเย่หนานโจวไม่เชื่อฟังเย่ซูเฟินเพราะเธออยู่หลายครั้ง ซึ่งนั่นทำให้เย่ซูเฟินไม่พอใจเธอมากขึ้นเวินหนี่ยืนขึ้นและมองไปที่เย่ซูเฟิน “คุณแม่ จริง ๆ แล้วคุณไม่เคยคิดที่จะให้ฉันตั้งท้องลูกของหนานโจว อยู่แล้วสินะคะ”จู่ ๆ เธอก็พูดสิ่งนี้ขึ้นมาทำให้เย่ซูเฟินตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนจะจัดการอารมณ์ “เธอพูดถึงเรื่องนี้ทำไม”เวินหนี่กล่าวต่อ “คุณอยากให้ลู่ม่านเซิงเข้ามาในตระกูลขนาดนั้น แล้วจะอยากให้ฉันตั้งท้องลูกของเย่หนานโจวได้ยังไง? และคุณก็รู้ด้วยว่าเย่หนานโจวจะไม่แตะต้องฉัน แต่คุณก็ยังป้อนยาต้มเหล่านั้นให้กับฉัน บอกว่าฉันไม่ได้เรื่อง นั่นก็เป็นเพียงเพราะแค่อยากหาเรื่องมาดูถูกฉันก็เท่านั้น”คำพูดของเธอชัดเจนขนาดนี้แล้ว เย่ซูเฟินจึงหยุดเสแสร้ง “เธอรู้ก็ดี ลูกหลานตระกูลเย่ของเราจะมีสายเลือดของเธอได้ยังไงกัน” พอพูดเช่นนั้นแล้วเย่ซูเฟินก็รู้สึกได้ใจ เธอนั่งลงและพูดอย่างหยิ่งผยอง “คนที่หนานโจวชอบคือเซิงเซิง แน่นอนว่าเขาจะไม่มีทางแตะต้องเธอ เป็นเพราะตอนนั้นคุณปู่ตาบอดถึงได้ให้เขาแต่งงานกับเธอ ถ้าเขาไม่แต

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 112

    ประโยคนี้ทำให้เย่หนานโจวชะงัก และมองกลับไปที่เผยชิง “ผู้หญิงคนไหน?”ในฐานะผู้ส่งสาร เผยชิงรู้สึกเหมือนมีมีดจ่ออยู่คอเป็นคู่สามีภรรยากันแท้ ๆ ทำไมถึงได้ใช้ชีวิตกันแบบนี้ ภรรยาช่วยสามีตามหาคู่นอนส่วนสามีก็เก็บเรื่องแต่งงานเป็นความลับไม่ให้คนอื่นรู้ แต่ก็ใช่ว่าทั้งคู่จะไม่มีความรู้สึกใด ๆ ต่อกัน เขาไม่เข้าใจเลยสักนิดแต่เขาก็ถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ราวกับขนมปังกรอบแซนวิช ทุกวันต้องอยู่กับความหวาดระแวง“คนที่...นอนกับประธานเย่”หลังจากที่เผยชิงพูดสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจบนใบหน้าของเย่หนานโจวเย่หนานโจวยังคงไม่พอใจกับการปฏิเสธของเวินหนี่เมื่อวานนี้ แล้ววันนี้เธอยังพาตัวผู้หญิงคนนั้นมาหาเขาถึงที่อีกใจร้อนขนาดนั้นเลยเหรอ?อยากจะผลักเขาออกไป เมื่อเขาตกหลุมรักผู้หญิงคนอื่น เธอถึงจะพอใจอย่างนั้นสินะ!ใบหน้าหงุดหงิดของเย่หนานโจวถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็ง แต่เขายังคงสงบและพูดอย่างเย็นชา “รู้แล้ว บอกให้เธอรอก่อน!”เมื่อเวินหนี่กลับมายังไม่ทันจะวางกระเป๋าลง เผยชิงก็เข้ามาและพูดว่า “เลขาเวิน ประธานเย่บอกให้พวกคุณรออยู่ในห้องรับรองสักครู่ครับ!”หืม?“พวกคุณ?” เวินหนี่ไม่เข้าใจ

Latest chapter

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status