ชายหนุ่มขยับตัวเข้าไปใกล้หญิงสาวอย่างเชื่องช้า ทิวาจ้องมองใบหน้าของเขาอย่างระแวง กระโดดลงจากเตียงไปอีกฝั่งก่อนจะหยิบหมอน และปาใส่เขาด้วยความรุนแรง แต่มีหรือที่ชายหนุ่มจะกลัว ปล่อยให้เธอปาหมอนทุกอย่างใส่จนหมดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดินเข้ามาหาเธอ
"อย่าเข้ามานะ"
"เธอยังไม่รู้สินะ ว่าการทำให้ฉันได้รับบาดเจ็บมันผู้นั้นจะต้องโดนอะไรบ้าง แต่สำหรับผู้หญิงที่สวยอย่างเธอ ฉันไม่ลงโทษโดยการใช้ความรุนแรงให้เสียมือหรอก ทำอย่างอื่นดีกว่า จริงไหม..."
ทิวาสายหน้าเล็กน้อย ใบหน้าในตอนนี้ตื่นตระหนกเริ่มกลัวเขาเอามากๆ และก่อนหน้านี้เธอก็ใช้กำลังกับเขาไปเยอะ คิดว่าจะหยุดแต่ไม่เลยยิ่งเป็นการไปยั่วโมโหเขาให้โกรธมากยิ่งขึ้น หญิงสาวรีบส่ายหน้าทันทีก่อนจะวิ่งหนีเขาด้วยความทุรนทุราย
"อย่าเข้ามานะคะหนูขอร้อง หนูทำแผลให้คุณดีไหมคะ หรือจะลงโทษหนูยังไงก็ได้ ให้ไปล้างจานทำความสะอาด ถูพื้น ทำสวน หนูทำได้หมดเลยค่ะ บอกว่าอย่าทำแบบนี้เลยนะคะหนูกลัว"
หญิงสาวยกมือไหว้เขาเพื่ออ้อนวอนขอความเห็นใจ แต่ทว่าชายหนุ่มไม่มีความคิดที่จะเอ็นดูเธอเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ที่เจอกันเธอก็เออออพูดอยู่คนเดียว หาว่าเขาฆ่าพ่อของเธอบ้าง และคิดจะมาฆ่าเขาคืน ซึ่งเรื่องนี้เขายังไม่ได้ทำอะไรผิดเพราะฉะนั้นไม่มีทางยอมเด็ดขาด
แต่ประเด็นถัดมาคือพ่อของเธอสั่งเสียเอาไว้ก่อนจะสิ้นลมหายใจ ขอร้องให้เขาปกป้องยัยเด็กนี่ ซึ่งไม่คิดเลยว่าจะต้องรับมาเลี้ยงเป็นภาระ แต่ไหนๆก็พากลับมาแล้วเขาจะช่วยดูแลเอง แต่ก็มีข้อแม้นะ ว่าเธอเองก็ต้องตอบแทนบุญคุณในครั้งนี้ของเขาเหมือนกัน เขาให้ที่พักอาศัยและปกป้องจากอันตราย เธอก็ต้องให้ความสุขกับเขา เพราะของฟรีไม่มีในโลกใบนี้หรอก
"มานี่เดี๋ยวนี้ คนอย่างเธอไม่มีทางหนีฉันพ้นหรอก"
พูดจบเขาก็กระโจนเข้าไปโอบกอดหญิงสาวเอาไว้ ทิวาตื่นกลัวทั้งมือไม้ และเท้ายกขึ้นถีบเขาดีดดิ้นไปมาเพื่อให้ตัวเองหลุดรอดออกไปได้ เขาอุ้มเธอมาโยนลงบนเตียงนอน จากนั้นก็ลากขาของเธอทั้งสองข้างเข้าหาตัว ชายหนุ่มขึ้นไปคร่อมตัวของเธอเอาไว้ และใช้ขาทั้งสองข้างทาบทับเดียวขาของเธอทางซ้ายและขวา
"กรี๊ดดดดดด"
หญิงสาวกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น เธอใช้มือทั้งสองข้างที่ว่างทั้งข่วนและตบตีเขาอย่างไม่คิดชีวิต คริสโตเฟอร์พยายามหลบการกระทำของเธอ แต่ก็ยังเผลอโดนลูกหลง และตอนนี้หน้าอกของเขามีรอยข่วนเล็บมือของเธออยู่หลายแผล ไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้มันจะแสบมากขนาดนี้ ทั้งตัวช้ำไปแทบทุกส่วนแล้ว
"สงสัยเธอจะอยากโดนดีสินะ หึ... เดี๋ยวฉันจะจัดให้สาสมเลย"
พูดจบชายหนุ่มก็ใช้มือทั้งสองข้างจับคอเสื้อของเธอ จากนั้นก็กระชากให้ฉีกออกจากกัน ทั้งที่ชุดนักศึกษามีกระดุมติดอยู่ เขาเลือกที่จะฉีกมันออกเพราะว่าไม่มีเวลาที่จะมาแกะกระดุมให้ทีละเม็ด
"กรี๊ดดด คุณจะทำอะไรหนู อย่านะ!"
เธอเอามือข้างที่ว่างปกปิดเรือนร่างของตัวเอง ซึ่งตอนนี้อกอึ๋มตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเขาทั้งสองข้าง โชคยังดีที่มีชุดชั้นในบดบังอยู่ มึงทำให้เขายังไม่เห็นเม็ดทับทิมสีชมพูสีสวย
"ปิดทำไม เดี๋ยวฉันก็เห็นหมดแล้ว"
ชายหนุ่มพูดจบก็ทำการถอดชั้นในของเธอออก หญิงสาวพยายามยืดเยื้ออ้อนวอนขอร้องให้เขาหยุดการกระทำพวกนี้ แต่ทว่ามันสายไปเสียแล้ว เพราะว่าเธอยั่วโมโหเขามากจนเกินไป กลายตอนนี้ตบะแตกไม่ฟังใครแล้ว
"อย่าทำหนูเลยนะคะหนูขอโทษ คุณตีหนูก็ได้ค่ะ จะได้หายกันไง"
"ฉันไม่ให้อภัย"
พูดจบเขาก็กระชากชุดชั้นในของเธอขาดออกจากกัน เคยให้เห็นเม็ดทับทิมสีชมพูเป็นไตแข็งตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า เขาจับข้อมือของเธอทั้งสองข้างขึ้นไปวางไว้เหนือหัว จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนโลมเลียเม็ดทับทิมสีชมพูลากไล่จากข้างซ้ายเลื่อนไปถึงขวา ชายหนุ่มระรัวลิ้นจนหญิงสาวรู้สึกแปลกกับตัวเอง ภายในใจคัดค้านไม่ให้เขาทำ ทว่าร่างกายกลับแน่นิ่งยินยอมให้เขากระทำซะอย่างนั้น
"อื้อ..."
"เสียวเหรอ หึ"
ทิวาเริ่มรู้สึกว่าร่างกายร้อนระอุเหมือนมีไฟแผดเผา ให้ความรู้สึกร้อนรุ่มจนแทบทนไม่ไหว และยิ่งลิ้นร้อนระรัวเข้ามายังเม็ดทับทิมสีชมพู ก็ทำให้เธอรู้สึกเสียวซ่านและตื่นกลัวกับการกระทำของเขาในเวลาเดียวกัน เหมือนเธอจะได้สติพยายามดีดดิ้นเพื่อให้เขาหยุดการกระทำนั้น แต่ทว่าหนุ่มกลับกลั่นแกล้งด้วยการดูดดึงจนหญิงสาวถึงกับเบิกตากว้าง
"คะ...คุณ อ๊ะ"
หญิงสาวเหมือนจะหลุดจากพันธนาการของเขา ใช้เท้าถีบหน้าท้องเขาอย่างแรงจนชายหนุ่มถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
"เชี่ยเอ๊ย! นี่เธอกล้าถีบฉันเหรอ มานี่"
ชายหนุ่มโสดออกมาอย่างหัวเสีย ใช้มือดึงข้อเท้าของเธอเข้ามาใกล้ จากนั้นก็ใช้มือถอดกระโปรงของหญิงสาวออก ทิวาใช้มือตบตีชายหนุ่มอย่างไม่หยุดยั้ง เขาพยายามอดทนและสามารถถอดชุดของเธอออกได้จนหมด
แล้วตอนนี้ร่างบางเปรยเปล่าอยู่ตรงหน้าเขา บอกเลยว่าผู้หญิงคนนี้ซ่อนรูปมาก หน้าอกเต็มไม้เต็มมือ ดีดดิ้นทีหนึ่งถึงกับกระเพื่อม หลอกล่อให้เขาอยากเข้าหา เรือนร่างเป็นรูปทรงสวยงาม สะโพกหนาน่าจับกระแทกแรงๆ เอาเป็นว่าตอนนี้เขามีอารมณ์เป็นอย่างมาก และถ้าตอนนี้ไม่ได้ระบายใส่ผู้หญิงตรงหน้า เขาจะต้องหงุดหงิดไปหลายวันแน่นอน
"อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะหนูขอร้อง หนูไม่ได้ตั้งใจจะตีคุณเลยสักนิด หนูแค่ตกใจค่ะ"
หญิงสาวพยายามแก้ตัวให้ตัวเองถูก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เธอจะทำตัวน่ารักกว่านี้ ไม่เอาไม้ทุบเขาจนไหลช้ำแบบนั้นหรอกถ้ารู้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
"เธอท้าทายฉันเองนะ ถ้าเธอทำตัวน่ารัก และอยู่กับฉันดีๆก็จะไม่โดนแบบนี้ และนี่เป็นบทลงโทษที่เธอกล้าคิดที่จะทำร้ายนายใหญ่อย่างฉัน แล้วก็จำบทเรียนในวันนี้ไว้ด้วย ว่าการที่เธอคิดร้ายต่อฉันมันจะต้องโดนอะไรบ้าง"
พูดจบเขาก็กระชากเรียวขาทั้งสองข้างเข้าหาตัว ทิวาพยายามใช้มือปิดบังเรือนร่าง ถึงแม้ว่ามันจะน้อยนิด แต่เธอก็ยังรู้สึกเขินอายที่ต้องเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าผู้ชาย
ร่างบางเริ่มตัวสั่นไหว เธอเริ่มรู้ชะตากรรมตัวเองแล้วว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เธออายุ 20 ปีแล้วไม่ใช่เด็กๆ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยต้องชายใดมาก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่รู้ว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำมันคืออะไร
"เรามาคุยกันดีๆมั้ยคะ แบบว่าเจรจากันไง"
"ไม่อ่ะ โตเป็นควายขนาดนี้แล้วจะมากลัวอะไรกับเรื่องพวกนี้อีก ทำอย่างกับไม่เคยไปได้ ไม่ต้องมาแอ๊บฉันไม่ชอบ...!"
เสียงการไล่ล่ายังคงดังขึ้นไม่มีหยุดหย่อน ใบหน้านิ่งนั่งอยู่บนรถตู้คันหรู จ้องมองไปยังชายฉกรรจ์สองคนที่กำลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต เหตุผลเพราะว่ามากู้เงินกับเขาเป็นจำนวนเงินห้าล้านบาท แต่ทว่าไม่มีปัญญาหาเงินมาคืน จึงจำเป็นต้องหนีหัวซุกหัวซุนและถูกเขาส่งลูกน้องตามไล่ล่าแบบนี้"ไม่ต้องฆ่าพวกมันนะ และถ้าเหนื่อยก็พักก่อน มีแรงค่อยมาล่ามันต่อ"เขาตะโกนออกไปนอกรถ ออกคำสั่งกับลูกน้องที่ยืนถือปืนอยู่ข้างนอก จากนั้นก็หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบจ้องมองเบื้องหน้าด้วยความเพลิดเพลิน การไล่ล่าเป็นของหวานสำหรับเขา คนรวยแบบคริสโตเฟอร์ เอริกัน ไม่ได้มีความอยากได้เงินคืน แต่การได้เห็นคนที่วิ่งหนีด้วยใบหน้าตื่นกลัว มันทำให้เขารู้สึกสนุกและคอยไล่ล่าไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุดพักริมฝีปากหนาจิบไวน์ในแก้วอย่างเอร็ดอร่อย วางลงตรงที่วางก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดเล่นไปเรื่อยเปื่อย ระหว่างที่รอลูกน้องกลับมาที่รถเสียงประตูรถถูกเปิดออก พายัพลูกน้องคนสนิทที่สุดของเขายืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพนายใหญ่"นายใหญ่ครับ""มีอะไร""ตอนนี้พวกมันหนีเข้าในเมือง ผมว่าอาจจะต้องหยุดการไล่ล่าแต่เพียงเท่านี้นะครับ""ไม่สน
คริสโตเฟอร์อุ้มหญิงสาวเข้าไปในรถ โดยที่เธอไม่ได้สมยอมแต่อย่างใด ขณะที่เขาพยายามจับเธอยัดเข้าไปในรถ เธอเองก็ร้องโวยวายออกมาขอความช่วยเหลือจากคนข้างนอก แต่ทว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่แถวนี้เลย คิดว่าน่าจะบังเอิญผ่านมาทั้งสองคน แต่ว่าเด็กคนนั้นน่าจะเดินออกไปไหนสักที่หนึ่ง และคนเป็นพ่อคงถูกใครสักคนฆ่าตาย เมื่อพวกเขาผ่านมาทางนี้ก็ไม่เห็นใครยืนอยู่แล้ว"กรี๊ดดดด ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยหนูที คนนิสัยไม่ดีจะจับตัวหนูไปค่ะ""ฉันบอกว่าหนวกหูไง เด็กน่ารำคาญพูดมากอยู่นั่นแหละ ฉันไม่ชอบ"ชายหนุ่มสบถออกมา ก่อนจะเอามือปิดปากหญิงสาวเพื่อให้เธอหยุดส่งเสียงดัง เสียงร้องอู้อี้ของเธอยังคงน่ารำคาญสำหรับเขา แต่ถ้าไม่เอามือปิดไว้แบบนี้เธอก็จะร้องโวยวายไม่เลิก และเสียงของผู้หญิงมันน่ารำคาญสำหรับเขาจะตาย ทั้งแหลมทั้งแสบแก้วหูน่าหงุดหงิดเป็นที่สุด"อ๋อยอู๋อะ"หญิงสาวพยายามสั่งให้เขาปล่อยมือออกจากริมฝีปากของเธอ ในตอนนี้เธอนั่งอยู่เคียงข้างเขาโดยที่ชายหนุ่มเอามือปิดปากเธอไม่ยอมปล่อย และยิ่งส่งเสียงดังมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งบีบรัดให้แน่นขึ้นไปอีก"ถ้าเธอหยุดโวยวายเมื่อไหร่ฉันจะปล่อย"หญิงสาวเริ่มนิ่งเพราะว่าอยากจะ
หญิงสาวหันซ้ายมองขวาอย่างรู้สึกกลัว ภายในห้องมืดสนิทไร้แสงไฟ แม้กระทั่งแสงแดดยังไม่ลอดผ่านเข้ามาเลยแม้แต่น้อย กล่องกระจัดกระจายตามพื้นทำให้หญิงสาวรู้สึกระแวงไปหมด เธอพยายามเคาะประตูให้คนข้างนอกได้ยิน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย"ปล่อยหนูออกไปเดี๋ยวนี้นะคะ คุณไม่มีสิทธิ์มาขังหนูไว้ที่นี่นะ"เธอพยายามตะโกนเรียกชายหนุ่ม แต่ทว่าเขาสั่งไม่ให้ลูกน้องคนไหนเข้าไปช่วยแม้แต่คนเดียว และถ้าใครขัดคำสั่งก็จะถูกลงโทษ"นายใหญ่ครับข้างในมืดมากผมเกรงว่าเธอจะ...""ไม่ต้องกลัวหรอกแค่นั้นเอง ถ้ารู้สึกเงียบๆก็ค่อยปล่อยออกมา แต่ว่าตอนนี้ฤทธิ์เยอะสั่งสอนให้รู้สำนึกสักหน่อยดีกว่า แล้วพวกตำรวจเก็บศพพ่อยัยเด็กนี้ไปหรือยัง""ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลครับ จากผลชันสูตรจากโรงพยาบาล เห็นว่ากระสุนเข้าไปเกือบห้านัด ไม่ได้โดนจุดสำคัญแต่ว่าเสียเลือดมาก ทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็เลยเสียชีวิต"เขานิ่งเงียบไปอย่าใช้ความคิด ผู้ชายที่ถูกยิงรู้จักเขาก็ไม่ค่อยแปลกเท่าไหร่ แต่เอาจริงเขาก็อดสงสัยไม่ได้เพราะภาพลักษณ์ข้างนอกเขาไม่ได้เป็นมาเฟีย เป็นแค่นักธุรกิจเจ้าของภัตตาคารอาหารยุโรป allergan ภาพลักษณ์ภายนอกคือนักธุรกิจ แต่เบื้อ
ชายหนุ่มขยับตัวเข้าไปใกล้หญิงสาวอย่างเชื่องช้า ทิวาจ้องมองใบหน้าของเขาอย่างระแวง กระโดดลงจากเตียงไปอีกฝั่งก่อนจะหยิบหมอน และปาใส่เขาด้วยความรุนแรง แต่มีหรือที่ชายหนุ่มจะกลัว ปล่อยให้เธอปาหมอนทุกอย่างใส่จนหมดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดินเข้ามาหาเธอ"อย่าเข้ามานะ""เธอยังไม่รู้สินะ ว่าการทำให้ฉันได้รับบาดเจ็บมันผู้นั้นจะต้องโดนอะไรบ้าง แต่สำหรับผู้หญิงที่สวยอย่างเธอ ฉันไม่ลงโทษโดยการใช้ความรุนแรงให้เสียมือหรอก ทำอย่างอื่นดีกว่า จริงไหม..."ทิวาสายหน้าเล็กน้อย ใบหน้าในตอนนี้ตื่นตระหนกเริ่มกลัวเขาเอามากๆ และก่อนหน้านี้เธอก็ใช้กำลังกับเขาไปเยอะ คิดว่าจะหยุดแต่ไม่เลยยิ่งเป็นการไปยั่วโมโหเขาให้โกรธมากยิ่งขึ้น หญิงสาวรีบส่ายหน้าทันทีก่อนจะวิ่งหนีเขาด้วยความทุรนทุราย"อย่าเข้ามานะคะหนูขอร้อง หนูทำแผลให้คุณดีไหมคะ หรือจะลงโทษหนูยังไงก็ได้ ให้ไปล้างจานทำความสะอาด ถูพื้น ทำสวน หนูทำได้หมดเลยค่ะ บอกว่าอย่าทำแบบนี้เลยนะคะหนูกลัว"หญิงสาวยกมือไหว้เขาเพื่ออ้อนวอนขอความเห็นใจ แต่ทว่าชายหนุ่มไม่มีความคิดที่จะเอ็นดูเธอเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ที่เจอกันเธอก็เออออพูดอยู่คนเดียว หาว่าเขาฆ่าพ่อของเธอบ้าง และคิดจ
หญิงสาวหันซ้ายมองขวาอย่างรู้สึกกลัว ภายในห้องมืดสนิทไร้แสงไฟ แม้กระทั่งแสงแดดยังไม่ลอดผ่านเข้ามาเลยแม้แต่น้อย กล่องกระจัดกระจายตามพื้นทำให้หญิงสาวรู้สึกระแวงไปหมด เธอพยายามเคาะประตูให้คนข้างนอกได้ยิน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย"ปล่อยหนูออกไปเดี๋ยวนี้นะคะ คุณไม่มีสิทธิ์มาขังหนูไว้ที่นี่นะ"เธอพยายามตะโกนเรียกชายหนุ่ม แต่ทว่าเขาสั่งไม่ให้ลูกน้องคนไหนเข้าไปช่วยแม้แต่คนเดียว และถ้าใครขัดคำสั่งก็จะถูกลงโทษ"นายใหญ่ครับข้างในมืดมากผมเกรงว่าเธอจะ...""ไม่ต้องกลัวหรอกแค่นั้นเอง ถ้ารู้สึกเงียบๆก็ค่อยปล่อยออกมา แต่ว่าตอนนี้ฤทธิ์เยอะสั่งสอนให้รู้สำนึกสักหน่อยดีกว่า แล้วพวกตำรวจเก็บศพพ่อยัยเด็กนี้ไปหรือยัง""ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลครับ จากผลชันสูตรจากโรงพยาบาล เห็นว่ากระสุนเข้าไปเกือบห้านัด ไม่ได้โดนจุดสำคัญแต่ว่าเสียเลือดมาก ทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็เลยเสียชีวิต"เขานิ่งเงียบไปอย่าใช้ความคิด ผู้ชายที่ถูกยิงรู้จักเขาก็ไม่ค่อยแปลกเท่าไหร่ แต่เอาจริงเขาก็อดสงสัยไม่ได้เพราะภาพลักษณ์ข้างนอกเขาไม่ได้เป็นมาเฟีย เป็นแค่นักธุรกิจเจ้าของภัตตาคารอาหารยุโรป allergan ภาพลักษณ์ภายนอกคือนักธุรกิจ แต่เบื้อ
คริสโตเฟอร์อุ้มหญิงสาวเข้าไปในรถ โดยที่เธอไม่ได้สมยอมแต่อย่างใด ขณะที่เขาพยายามจับเธอยัดเข้าไปในรถ เธอเองก็ร้องโวยวายออกมาขอความช่วยเหลือจากคนข้างนอก แต่ทว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่แถวนี้เลย คิดว่าน่าจะบังเอิญผ่านมาทั้งสองคน แต่ว่าเด็กคนนั้นน่าจะเดินออกไปไหนสักที่หนึ่ง และคนเป็นพ่อคงถูกใครสักคนฆ่าตาย เมื่อพวกเขาผ่านมาทางนี้ก็ไม่เห็นใครยืนอยู่แล้ว"กรี๊ดดดด ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยหนูที คนนิสัยไม่ดีจะจับตัวหนูไปค่ะ""ฉันบอกว่าหนวกหูไง เด็กน่ารำคาญพูดมากอยู่นั่นแหละ ฉันไม่ชอบ"ชายหนุ่มสบถออกมา ก่อนจะเอามือปิดปากหญิงสาวเพื่อให้เธอหยุดส่งเสียงดัง เสียงร้องอู้อี้ของเธอยังคงน่ารำคาญสำหรับเขา แต่ถ้าไม่เอามือปิดไว้แบบนี้เธอก็จะร้องโวยวายไม่เลิก และเสียงของผู้หญิงมันน่ารำคาญสำหรับเขาจะตาย ทั้งแหลมทั้งแสบแก้วหูน่าหงุดหงิดเป็นที่สุด"อ๋อยอู๋อะ"หญิงสาวพยายามสั่งให้เขาปล่อยมือออกจากริมฝีปากของเธอ ในตอนนี้เธอนั่งอยู่เคียงข้างเขาโดยที่ชายหนุ่มเอามือปิดปากเธอไม่ยอมปล่อย และยิ่งส่งเสียงดังมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งบีบรัดให้แน่นขึ้นไปอีก"ถ้าเธอหยุดโวยวายเมื่อไหร่ฉันจะปล่อย"หญิงสาวเริ่มนิ่งเพราะว่าอยากจะ
เสียงการไล่ล่ายังคงดังขึ้นไม่มีหยุดหย่อน ใบหน้านิ่งนั่งอยู่บนรถตู้คันหรู จ้องมองไปยังชายฉกรรจ์สองคนที่กำลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต เหตุผลเพราะว่ามากู้เงินกับเขาเป็นจำนวนเงินห้าล้านบาท แต่ทว่าไม่มีปัญญาหาเงินมาคืน จึงจำเป็นต้องหนีหัวซุกหัวซุนและถูกเขาส่งลูกน้องตามไล่ล่าแบบนี้"ไม่ต้องฆ่าพวกมันนะ และถ้าเหนื่อยก็พักก่อน มีแรงค่อยมาล่ามันต่อ"เขาตะโกนออกไปนอกรถ ออกคำสั่งกับลูกน้องที่ยืนถือปืนอยู่ข้างนอก จากนั้นก็หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบจ้องมองเบื้องหน้าด้วยความเพลิดเพลิน การไล่ล่าเป็นของหวานสำหรับเขา คนรวยแบบคริสโตเฟอร์ เอริกัน ไม่ได้มีความอยากได้เงินคืน แต่การได้เห็นคนที่วิ่งหนีด้วยใบหน้าตื่นกลัว มันทำให้เขารู้สึกสนุกและคอยไล่ล่าไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุดพักริมฝีปากหนาจิบไวน์ในแก้วอย่างเอร็ดอร่อย วางลงตรงที่วางก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดเล่นไปเรื่อยเปื่อย ระหว่างที่รอลูกน้องกลับมาที่รถเสียงประตูรถถูกเปิดออก พายัพลูกน้องคนสนิทที่สุดของเขายืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพนายใหญ่"นายใหญ่ครับ""มีอะไร""ตอนนี้พวกมันหนีเข้าในเมือง ผมว่าอาจจะต้องหยุดการไล่ล่าแต่เพียงเท่านี้นะครับ""ไม่สน