แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-25 01:37:03

ซูหนี่ตื่นตั้งแต่ยังไม่สว่างนางรับล้างหน้าแปรงฟันเข้าครัวเตรียมอาหารไว้ให้ทุกคนแล้วสะพายตะกร้าขึ้นเขาไป นางกำลังจะเดินออกจากประตูบ้านอยู่แล้วแต่ จ้าวหนิงหลงกับเด็กแฝดทั้งสองก็โผล่หน้าออกมาจากเรือนทันที

"ทะ ท่าน ทำให้ข้าตกใจหมด" นางยกมือขึ้นลูบหน้าอก

"แล้วทำไมถึงได้ตื่นเช้ากันเช่นนี้ เฉิงเออร์ อันเออร์ไปนอนต่อเถิดลูก" ซูหนี่เดินเข้าไปจูงมือเด็กน้อยจะพาเขากลับขึ้นเตียงนอน

"ท่านแม่พวกข้าจะไปกับท่าน" หนิงเฉิงพูดขึ้น หนิงอันพยักหน้าอย่างเห็นด้วยแม้เขาจะง่วงนอนแต่จะไม่ยอมเด็ดขาดวันนี้ต้องได้ไปกับท่านแม่

"ใช่ พวกข้าจะไปด้วย" เมื่อจ้าวหนิงหลงพูดจบ ซูหนี่ก็หันไปถลึงตาใส่เขา

"ท่านจะพาลูกไปทรมานเพื่อเหตุใด ข้าไปไม่นานก็กลับแล้ว" จ้าวหนิงหลงเดินเข้ามาดึงตะกร้าไปจากนางแล้วอุ้มเฉิงเออร์ขึ้นเดินออกไป

"เดี๋ยวก่อน ข้าจะเตรียมอาหารไปด้วย" ซูหนี่รีบวิ่งเข้าไปจัดอาหารใส่ปิ่นโตเพื่อเตรียมขึ้นเขา หนิงหลงเห็นว่านางต้องอุ้มหนิงอันด้วยเขาจึงนำอาหารไปใส่ไว้ในตะกร้าด้านหลัง

ซูหนี่ถอนหายใจอย่างปลงตก นางอุ้มอันเออร์ขึ้นแนบอกให้เขาได้นอนต่ออีกหน่อย ทั้งสี่คนมุ่งหน้าขึ้นเขา โดยช่วงแรกเป็นหนิงหลงที่เดินนำ พอถึงทางแยกนางก็เปลี่ยนมาเป็นคนนำแทน เมื่อเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ หนิงหลงยังแปลกใจที่นางใจกล้าเดินขึ้นเขาคนเดียวแล้วยังแยกมาทางที่ชาวบ้านไม่มากัน

"เจ้ามาไกลถึงเพียงนี้ทุกครั้งเลยหรือ" 

"หากไม่เดินลึกเข้าไปไหนเลยจะเหลืออะไรไว้ให้เก็บไปกินได้ สัตว์ป่ารอบนอกกับชั้นกลางก็แทบจะไม่มีเหลือแล้ว หากจะหาเนื้อให้ลูกก็ต้องเข้าไปที่ชั้นในเท่านั้น" 

"แล้วเจ้าไม่กลัวเสือหรือหมีเลยหรือ" ซูหนี่หันไปมองค้อนเขา เข้าป่าจะพูดถึงเสือเพื่อสิ่งใด

"ไม่เคยเจอ ทางนี้ไม่นับเป็นป่าชั้นใน เป็นเพียงป่าชั้นกลางแต่อยู่คนละด้านกับหมู่บ้านเท่านั้น" หนิงหลงมองนางอย่างพิจารณา ซูหนี่คนเดิมไม่มีทางคิดเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน

"พักก่อนดีหรือไม่" เขาเห็นนางพูดไปหอบไป เหงื่อออกเต็มหน้าผาก

"ไม่ ไม่เป็นไร ด้านหน้า ก็ถึงแล้ว" เป็นจริงอย่างที่นางว่าเดินต่อไปไม่ถึงหนึ่งเค่อก็ถึงแล้ว (1เค่อ = 15 นาที)

ซูหนี่ค่อยๆนั่งลงเพราะในอ้อมแขนนางหนิงอันยังคงหลับอยู่ หนิงหลงส่งน้ำให้นาง นางกล่าวขอบคุณเขาเบาๆ 

"ท่านหิวแล้วหรือไม่ข้าจะเตรียมอาหารให้ก่อน" เพราะตอนนี้เลยเวลาที่พวกเขากินมื้อเช้ากันมาแล้ว

"รอลูกตื่นก่อนก็ได้" นางถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วนำไปปูที่ใต้ต้นไม้เพื่อให้หนิงเฉิงและหนิงอันนอนรอ

"เจ้าทำอันใด" หนิงหลงที่หันมาเห็นก็พูดเสียงเข้มขึ้น

"ก็รองพื้นให้ลูกนอนสบายๆไง" เขาอยากจะจับนางมาตีนัก ที่ไม่ระวังตัวเลยหากอยู่ต่อหน้าบุรุษอื่นแล้วนางทำเช่นนี้แค่คิดเขาก็ปวดหัวแล้ว แบบนี้ยิ่งปล่อยนางไปใช้ชีวิตคนเดียวไม่ได้ หากนางไม่ใช่ซูหนี่คนเดิมมีความเป็นไปได้ที่นางจะไม่กลับบ้านเดิมของนาง

"ไม่ต้อง ข้าจัดการเอง" หนิงหลงถอดเสื้อตัวนอกของเขาแทน แล้วว่างลูกทั้งสองลงไปนอน

ซูหนี่เริ่มขุดถั่งเช่า โดยมีหนิงหลงยืนมองอยู่ข้างๆ

"เจ้ากำลังขุดสิ่งใด" นางโบกมือเรียกให้เขามาดูใกล้ แล้วส่งถั่งเช่าให้เขาดูพร้อมสอนว่าต้องขุดอย่างไรไม่ให้เสียหาย

"เจ้ารู้จักสิ่งนี้ได้อย่างไร" หนิงหลงเคยเห็นถั่งเช่าในตำราแพทย์ที่เขาเคยศึกษาในช่วงสั้นๆตอนที่ท่านย่าป่วย แต่เขานึกไม่ถึงว่านางจะรู้จักด้วย

"เห็นว่าแปลกดีก็เลยจะลองนำไปขายที่ร้านยา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะรับซื้อหรือเปล่า" เขารู้ว่านางโกหกแต่ไม่ได้พูดออกมา หนิงหลงเขยิบเขาไปใกล้ซูหนี่อย่างแนบเนียน เขาได้กลิ่นกายของนางซึ่งต่างจากกลิ่นของซูหนี่คนเดิม หากชายใดได้กลิ่นนี้คงจะลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น

"ใกล้เกินไปแล้ว" ซูหนี่พูดขึ้นเมื่อหนิงหลงซ้อนตัวอยู่ด้านหลังของนาง จนลมหายใจของเขาเป่ารดต้นคอของนาง นางหดคอลงอย่างขนลุก 

"สามีภรรยากันจะใกล้ชิดกันก็เป็นเรื่องปกติ" หนิงหลงกดเสียงต่ำลงเพื่อปกปิดอาการเขินอาย

"เหอะ ท่านเกลียดข้าปานนั้น แล้วเราก็หย่ากันแล้วจะพูดเรื่องสามีภรรยากันได้อย่างไร" หนิงหลงลืมไปเลยว่าเขาเขียนหนังสือหย่าให้นางไปแล้ว

"ตอนนี้เจ้ายังอยู่เรือนเดียวกับข้า คนนอกมองมาก็ยังคงเป็นภรรยาข้าอยู่"

"ไม่ต้องสนคนนอก หากเจ้าจะสานต่อกับลี่อินก็ทำได้เลย ข้าไม่ว่าอันใด" นางโบกมืออย่างไม่สนใจ

"อย่าพูดถึงลี่อินอีก ข้ากับนางไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว" น้ำเสียงของเขาเริ่มแสดงออกมาไม่พอใจ ซูหนี่ก็ค้านที่จะสนใจ

"ได้ได้ ข้าไม่พูดถึงนางในดวงใจเจ้าแล้ว มาช่วยขุดสิ จะได้รีบกลับ" เขาอยากจะบอกกับนางว่าลี่อินไม่ใช่นางในดวงใจของเขา แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกไป

ทั้งสองขุดไม่ได้ไม่นานหนิงเฉิงกับหนิงอันก็ตื่นนอน ซูหนี่จึงพาเด็กทั้งสองไปล้างหน้าบ้วนปากที่ริมลำธาร จากนั้นนางก็เตรียมอาหารให้พวกเขาได้กิน เพราะนางกินมาแล้ว จึงเดินไปขุดต่อ เพราะเหลืออีกไม่มากแล้วจะได้รีบกลับกัน หากนางมาเองอาจจะไม่รีบเช่นนี้แต่เป็นเพราะหนิงเฉิงกับหนิงอันมาด้วยนางจึงต้องเร่งมือให้เร็วขึ้น

หนิงหลงที่เรียกให้นางพักก่อนแต่นางไม่ยินยอมเขาจึงรีบกินข้าวเพื่อจะได้ไปช่วยนางอีกแรง ถั่งเช่าไม่ได้ขุดยาก แต่ที่ยากคือต้องคอยมองหาว่ามันอยู่ตรงไหน ซูหนี่ปล่อยให้หนิงหลงขุดไปก่อน นางเก็บจานชามไปล้างแล้วกำชับให้หนิงเฉิง หนิงอันนั่งเล่นกันในสายตาของนาง นางจึงไปขุดต่อ

"กลับเลยดีหรือไม่" หนิงหลงที่เห็นนางขุดไปมองเด็กทั้งสองไปก็เห็นใจ หากนางมาคนเดียวคงไม่ต้องพะวงถึงเพียงนี้ เป็นเขาที่อยากจะตามมาเอง

"ท่านไปนั่งกับลูกได้หรือไม่" ซูหนี่เอ่ยถามเขาขึ้น เขารู้ว่านางเป็นห่วงหนิงเฉิงกับหนิงอันมากกว่ามารดาแท้ๆของเด็กน้อยอีก หนิงหลงเรียกเด็กทั้งสองให้เดินมาหาตน พร้อมทั้งขุดไปแล้วสอนเขาไปด้วย ซูหนี่จึงขุดได้เร็วขึ้นเพราะไม่มีเรื่องให้ห่วงแล้ว

เมื่อนางเห็นว่าใกล้มื้อเที่ยงแล้วจึงจะเดินออกไปหาอะไรให้พวกเขากิน อาหารที่นำมาก็หมดลงไปแล้ว

"ท่านอยู่กับลูกก่อนเดี๋ยวข้ามา ห้ามเดินไปไหนเด็ดขาด" เพราะนางหยิบธนูไปด้วยเลยกลัวว่าหากเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่มีอาวุธป้องกันตัว 

หนิงหลงหัวเราะเสียงเบากับท่าทางจริงจังของนาง นางคงลืมไปว่าเขาเป็นบุรุษ ถึงจะเก่งขนาดฆ่าเสือไม่ได้แต่เขาก็มีวรยุทธ์มากพอที่จะปกป้องครอบครัวของตน

ซูหนี่เดินออกไปไม่ไกลนางก็พบกับไก่ป่าลูกธนูในมือสามดอกเตรียมขึ้นสายทีละดอกลูกธนูพุ่งออกไปเข้าเป้าทุกดอก ไก่ป่าอวบอ้วนสามตัวก็ได้มาอยู่ในมือนาง แต่นางก็ยังคงหาไข่ป่าด้วย เด็กๆต้องได้กินไข่ทุกวันถึงจะดี

นางเอาเสื้อห่อไข่ไว้แล้วรีบเดินกลับไปที่พวกเขารออยู่ หนิงหลงก่อกองไฟเตรียมไว้แล้วเขารู้ว่านางต้องได้อะไรติดมือมา ไม่ใช่ว่าเขาจะล่าสัตว์ไม่เป็นแต่เป็นเพราะนางอยากทำสิ่งใดเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปห้าม และเขาก็อยากจะรู้ว่านางมีความสามารถมากขนาดไหน จากที่เขาเห็นดูเหมือนนางจะทำเป็นแทบจะทุกอย่าง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 10

    ซูหนี่กลับมาถึงก็จัดการทำอาหารทันที นางทำไก่ย่างสองตัวกับน้ำแกงไข่ให้เด็กแฝดทั้งสองด้วย เมื่อทั้งสี่กินกันจนอิ่มแล้วก็มุ่งหน้าลงเขาทันทีระหว่างทางยังแวะเก็บผลไม้อีกด้วย เพราะครั้งที่แล้วนางเก็บไปฝากเด็กทั้งสองเพียงไม่นานผลไม้ทั้งหมดก็ลงไปอยู่ในท้องของเด็กแฝดแถมยังมาออดอ้อนให้นางะามาเก็บอีกด้วย ครั้งนี้จึงเก็บกลับไปมากหน่อยเมื่อถึงบ้านซูหนี่ยังมีเวลาเหลือที่จะจัดการกับถั่งเช่าก่อนที่จะทำอาหารเย็น นางล้างจนสะอาดแล้วนำไปตากแดด หนิงเฉิงกับหนิงอันจะเรียกว่าช่วยก็พูดไม่ได้เต็มปากเพราะตอนนี้ทั้งคู่เสื้อผ้าเปียกปอนกันเหมือนลูกหมาตกน้ำ ซูหนี่อยากจะห้ามแต่เห็นแววตาที่มองมาก็กลืนคำพูดลงคอไป กว่าที่นางจะจัดการทุกอย่างเสร็จ แล้วจับเด็กน้อยอาบน้ำเข้านอน นางก็แทบจะหมดแรงเสียแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อเดินเท้าเข้าเมืองอีก ซูหนี่หัวถึงหมอนนางก็หลับทันทีเช้านี้นางยังคงทำเช่นเหมือนเช่นเคย เมื่อเตรียมอาหารเสร็จก็อาบน้ำเพื่อเตรียมตัวออกจากบ้าน ซูหนี่ลองค้นตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเงินที่ร่างเดิมเก็บไว้ หากจะให้นางไปขอค่าเข้าเมืองจากจ้าวหนิงหลงนางก็ไม่กล้า ในตู้เสื้อผ้ามีถุงเงินซ่อนอยู่ นับดูก็พบว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 11

    จ้าวหนิงหลงนำตำราไปส่งที่ร้านก่อน ซูหนี่กับเด็กทั้งสองรออยู่ด้านนอกเพียงไม่นานเขาก็กลับออกมา พร้อมกับตำราชุดใหม่ที่จะต้องนำกลับไปคัด ซูหนี่มองจ้าวหนิงหลงอย่างเห็นใจ เขาต้องคัดตำราเพื่อหาค่าใช้จ่ายรวมไปถึงค่าเดินทางที่ต้องไปสอบ แล้วยังต้องทบทวนตำราที่จะต้องไปสอบด้วย หากให้นางลองเป็นตัวละครจ้าวหนิงหลงก็คงอยากจะฆ่าซูหนี่คนเดิมให้ตายเหมือนกัน เพราะนางไม่ทำงานก็แล้วไป ไม่ดูแลลูกแล้วยังจะทุบตีเด็กทั้งสอง ไหนจะวางแผนจับบัณฑิตคนอื่นอีก จ้าวหนิงหลงพาซูหนี่เดินไปที่โรงหมอจือชาง เพราะเขาซื้อยาให้ท่านย่าของเขาเป็นประจำจนคุ้นเคยกับท่านหมอที่นั่นเป็นอย่างดี ระหว่างที่จ้าวหนิงหลงกำลังออกจากร้านตำรา กลุ่มบัณฑิตสามคนก็เดินมาที่ร้านตำรา"หนิงหลง สบายดีหรือไม่" บัณฑิตหนุ่มในชุดสีฟ้า ชุดที่เขาสวมใส่ล้วนเป็นผ้าไหมเนื้อดี"ข้าสบายดี" ซูหนี่สังเกตเห็นว่าจ้าวหนิงหลงมิค่อยอยากจะพูดคุยด้วยสักเท่าไหร่ แม้แต่นางกับเด็กๆเขาก็ไม่แนะนำให้รู้จัก"พวกข้ามาหาซื้อตำราอ่านเพิ่ม แล้วเจ้าเล่าเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว" บัณฑิตหนุ่มท่าทางหยิ่งยะโส เอ่ยถามเหมือนอยากจะถากถางจ้าวหนิงหลงเสียมากกว่าทั้งสามคนล้วนแสดงท่าทีเหมือนถือต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 12

    เมื่อมีเงินในมือก็ต้องใช้ ทนอดมาได้หลายวัน วันนี้ขอซื้อของให้เต็มที่แล้วกัน ซูหนี่ก็ซื้อทุกอย่างเต็มที่อย่างที่ใจนางนึกจริงๆ ข้าวสาร แป้งขาว ธัญพืช เกลือ น้ำตาล เครื่องปรุงที่ในร้านมีนางซื้ออย่างละชั่ง เนื้อหมู กระดูกหมู เนื้อสามชั้น ผัก ผักดอง ฯลฯ คือนางซื้อเยอะมากจริงๆ ตอนแรกนางจะให้หนิงหลงพาเด็กๆไปนั่งรอที่โรงน้ำชา ทั้งคนโตและเด็กต่างไม่ยอม นางสงสารที่เด็กแฝดต้องเดินเยอะขนาดนี้จึงพาไปซื้อเสื้อผ้าเป็นอย่างสุดท้าย นางเลือกร้านธรรมดาเพราะร้านใหญ่ๆให้การต้อนรับที่ไม่ดี นางไม่อยากจะให้เด็กแฝดโดนขับไล่ออกจากร้านเพราะจะเกิดภาพจำที่ไม่ดีกับเด็กเล็ก ทั้งสี่ได้เสื้อผ้ากันคนละห้าชุด รองเท้าสองคู่ ผ้าห่มอีกสี่ผืน ตอนแรกจ้าวหนิงหลงจะไม่ยอมให้นางซื้อให้เพราะนางให้เงินเขามาแล้ว แต่นางคิดว่าซื้อให้ทุกคนจะไม่ซื้อให้เขาคนเดียวก็ดูจะใจดำเกินไป อีกอย่างหากวันใดที่นางจากไปแล้วเขาเกิดคิดแค้นเรื่องเก่าที่ร่างนี้ทำไว้ก็ยังมีเรื่องดีให้ได้นึกถึงจะได้ไม่ต้องตามฆ่านางจ้าวหนิงหลงต้องไปจ้างรถม้าเพื่อขนของกลับหมู่บ้าน ระหว่างที่รอรถม้าไปรับของซูหนี่ก็ชวนทุกคนไม่หาข้าวกลางวันกิน"เฉิงเออร์ อันเออร์พวกเจ้าอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 13

    ซูหนี่เข้าไปอยู่ในห้องกับเด็กๆ เมื่อนางคิดได้แล้วก็นำของที่ซื้อออกมาจัดการ แยกเสื้อผ้ากับผ้าห่มของทุกคนออกแล้วเก็บส่วนของตนเองเรียบร้อย นางก็นำของไปให้จ้าวหนิงหลง เขายังคงนั่งคัดตำราที่ริมหน้าต่างในห้องเช่นที่ทำอยู่ทุกวัน นิ้วเรียวยาวที่จับพู่กันเขียนลงในตำรา กลิ่นน้ำหมึกที่อบอวลอยู่ภายในห้อง แสงแดดที่ส่องตกกระทบบนใบหน้า แม้นางจะเคยแสดงร่วมกับพระเอกระดับแนวหน้ามาหลายคนแต่ก็ยังอดชื่นชมไม่ได้ว่าเขามีใบหน้าที่ชวนให้หลงใหลจริงๆ นางเสียดายแทนเจ้าของร่างเดิมเสียจริง ได้ของดีมาแล้วแต่ไม่ดูแลให้ดีจนกลายเป็นว่าตนเองต้องตายด้วยมือของเขา แต่มือเรียวที่ดูดีคู่นั้นจะสามารถฆ่าคนได้จริงหรือ นางถอนหายใจแล้วเคาะประตู"ข้านำของที่ซื้อมาให้ ท่านจะเก็บเองหรือให้ข้าช่วย" "เจ้าทำได้เลย" นางพูดไปอย่างนั้นไม่ได้คิดที่จะทำให้จริงเสียหน่อย เขาพูดโดยที่ไม่ได้ละสายตาหรือหยุดเขียนเลย แต่เขาก็ทำเช่นนี้กับนางตั้งแต่ที่ได้มาอยู่ในร่างนี้แล้วซูหนี่เดินเข้าไปเปลี่ยนเครื่องนอนที่เตียงของเขา เก็บเสื้อผ้าใส่ในตู้ให้ ทุกการกระทำของนางพยายามที่จะไม่ส่งเสียงดังรบกวนเขาเกินไป แต่ที่นางไม่รู้คือ จ้าวหนิงหลงไม่ได้คัดตำราแล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 14

    จ้าวหนิงหลงออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปคุยเรื่องกลับเข้าไปเรียนต่อที่สำนักศึกษา แม้เขาจะหยุดเรียนไปสามปี แต่เขาก็ศึกษาตำราเป็นประจำเรื่องนี้จึงไม่น่าเป็นห่วง อีกอย่างเขาเป็นถึงพระเอกของเรื่องนี้จะไปห่วงเขาก็ใช่ที่ ต้องห่วงตัวเองดีที่สุด หากทุกอย่างยังเป็นไปตามนิยาย ไม่ใช่นางต้องตายในอีกไม่นานนี้หรือนางยังคงทำทุกอย่างเช่นทุกวัน ตอนไปซักผ้าก็พาเด็กๆไปด้วย นางจึงมีความคิดหากซื้อที่เพิ่มให้ถึงลำธารหลังบ้านต่อไปก็ดึงน้ำมาใช้ได้โดยไม่ต้องเดินมาซักผ้าที่แม่น้ำ ที่นางมมาซักผ้าที่แม่น้ำที่ไกลจากลำธารหลังบ้านเพราะนางอยากจะฟังข่าวสารของหมู่บ้านจากหญิงสาวที่มาซักผ้า เพราะนางไม่มีความทรงจำเรื่องในหมู่บ้านนี้เลย แล้วทุกครั้งที่นางมาก็จะได้ฟังเพียง บ้านไหนแต่งบุตรหลาน หลังไหนทะเลาะกัน เพียงเท่านั้น ไม่มีใครที่จะสนใจชวนนางคุยหรือคุยเรื่องของนางต่อหน้านาง เพราะร่างเดิมที่นิสัยร้ายกาจทำให้ชาวบ้านทั้งหวาดกลัวทั้งรังเกียจ แต่วันนี้มีคนใจกล้าพูดเรื่องของนาง"โอโยวว เกิดขยันอันใดขึ้นมาถึงได้มาซักผ้าที่นี่ได้" นางแม่หมูคนนี้เป็นใครนางก็ไม่รู้จัก จึงทำไม่สนใจเสียงกระซิบกระซาบพูดคุยกันว่านางเปลี่ยนไปดังไม่หยุด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 15

    จ้าวหนิงหลงออกจากบ้านไปเรียนแล้วกลับมาอีกทีเป็นเวลาของมื้อเย็นแล้ว เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ซูหนี่สบายใจที่สุดก็ว่าได้ ที่ไม่ต้องคอยระวังตัว เพราะสายตาของจ้าวหนิงหลงเหมือนจะมองทะลุเข้าไปถึงจิตวิญญาณของนางได้เลยตอนนี้นางจึงมีอยากจะหาอะไรทำเพิ่ม ที่นางคิดไว้คือนางอยากทำสบู่ ในยุคนี้แม้จะใช้ฝักจ้าวเจี่ยวอาบน้ำ สระผม ซักผ้า แต่ความรู้สึกของนางคือมันไม่สะอาด นางจึงคิดที่จะลองทำก่อน เรื่องนี้คงต้องรบกวนให้จ้าวหนิงหลงช่วยหาของที่จะต้องใช้ แล้วยังต้องหาช่างไม้ทำพิมพ์สำหรับใส่สบู่อีกด้วยตอนที่กินอาหารมื้อเย็นนางบอกเขาเรื่องที่จะให้เขาช่วย เขาก็รับปากอย่างดี เขาให้นางวาดแบบพิมพ์ที่ต้องใช้ให้ เขาจะหาช่างไม้ทำให้เอง ส่วนปูนขาวต้องใช้เวลาเสียหน่อยแต่ไม่ใช่จะหาไม่ได้เพียงแต่ตระกูลที่มีจะเป็นตระกูลใหญ่เสียมากกว่า"หากขอให้ท่านหมอตู้ช่วยจะได้หรือไม่" ก็นางไม่รู้จักใครนอกจากหมอตู้อีกแล้ว"ไม่ต้อง ข้ามีสหายตระกูลทหารอยู่ เขาช่วยได้" ในเมื่อเขาจะจัดการให้นางก็รอเพียงอย่างเดียว"มีอีกเรื่องที่ข้าอยากรบกวน คือข้าอยากฝากให้ท่านนำเงินไปให้บ้านท่านแม่ได้หรือไม่"ถึงนางจะไม่ใช่ลูกของเขาแต่อยู่ในร่างนี้เมื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 16

    เกาหยวนไปเช่าเกวียนในหมู่บ้านให้ไปส่งน้องสาวของตน นางเกาซินยังอาลัยอาวรณ์ไม่อยากให้บุตรสาวกลับจนนางต้องรับปากว่าจะมาหาบ่อยๆ ทั้งหมดจึงได้ขึ้นเกวียนกลับหมู่บ้านถงสือเพราะกินข้าวเย็นกันมาแล้ววันนี้นางจึงไม่ต้องเข้าครัวเอง ซูหนี่จับเด็กๆอาบน้ำ แล้วนางก็ไปอาบตาม อาจตะเป็นที่เล่นกับเกาชวนจนเหนื่อยเด็กแฝดเมื่อล้มตัวลงนอนไม่รอให้ซูหนี่เล่านิทานก็หลับกันทันทีจ้าวหนิงหลงที่เดินมาดูลูกเมื่อเห็นทั้งคู่หลับแล้วเขาก็เดินออกไป แต่ซูหนี่เรียกเขาไว้เสียก่อน"วันนี้ขอบคุณท่านมาก" นางขอบคุณเขาจากใจที่ช่วยให้นางผ่านความกังวลเรื่องครอบครัวไปได้"ไม่เป็นไร ทำไมเจ้าเพียงกลับบ้านเดิมถึงต้องกังวลเช่นนั้น" นางกรอกตาอย่างไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไรดี มือทั้งสองของนางเริ่มบีบนิ้วอีกแล้วเมื่อจ้าวหนิงหลงเห็นนางเป็นเช่นนั้นก็ไม่รอฟังคำตอบ เขาเดินออกจากห้องของนางเพื่อกลับห้องตนเองทันที ที่เขาถามเพียงอยากจะให้นางเปิดใจคุยกับเขาเท่านั้น แต่อาจจะเร็วเกินไปจึงทำให้นางตกใจส่วนซูหนี่ที่กังวลกับคำถามของเขาก็เริ่มอยู่ไม่เป็นสุขกลัวว่าถ้าเขารู้ว่านางมาจากต่างมิติแล้วมาอยู่ในร่างนี้ เขาจะคิดว่านางเป็นปีศาจแล้วจับนางเผาทั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 17

    สองวันหลังจากที่สบู่กวนร้อนได้ที่ นางนำออกมาให้ทุกคนในครอบครัวได้ลองใช้ ตัวนางที่ได้ลองใช้ก็รู้สึกว่าใกล้เคียงกับสบู่ทำมือในยุคของนาง แม้จะไม่มีกลิ่นหอม แต่ก็นับว่าสำเร็จ หากจะให้มีกลิ่นหอมนางยังต้องสกัดน้ำหอมจากดอกไม้อีก จึงเอาไว้ก่อนค่อยๆทำไป"เป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ" ซูหนี่ถามจ้าวหนิงหลงทันทีที่เขาออกมาจากห้องน้ำ หากไม่กลัวเขาคิดว่านางเป็นโรคจิตนางคงไปยืนเฝ้าเขาที่หน้าห้องน้ำแล้ว"ดียิ่ง" เพียงแค่นี้ก็ทำให้นางมีกำลังใจที่จะทำการค้าครั้งนี้แล้ว จ้าวหนิงหลงรู้สึกทึ่งกับความสามารถของนางมาก ถึงเขาจะไม่ได้อยู่ช่วยนาง เพราะนางบอกบางขั้นตอนอันตรายไม่อยากให้คนอื่นเข้าใกล้ แต่ทุกครั้งที่เห็นนางตั้งใจทำ เขาเห็นถึงความตั้งใจจริงของนางซูหนี่ปรึกษาจ้าวหนิงหลงนางอยากจะสร้างห้องเพิ่มเพื่อเก็บสบู่โดยเฉพาะซึ่งเขาก็เห็นดีด้วย เพราะในบ้านมีห้องว่างอีกแค่หนึ่งห้องก็ใช้เก็บของไปแล้ว หากสบู่ที่นางทำเพิ่มจำนวนมากขึ้นคงไม่มีที่เก็บแล้วจ้าวหนิงหลงจำได้ว่าฮูหยินของท่านอาจารย์ของตนนั้นมีร้านเครื่องหอมอยู่ด้วยเขาจึงขอสบู่จากซูหนี่ไปให้ท่านอาจารย์ของเขาได้ลองใช้ หากใช้แล้วถูกใจการค้าครั้งนี้นางก็ไม่ต้องออกไปห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29

บทล่าสุด

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   ตอนพิเศษ

    องค์รัชทายาทจ้องมองจ้าวหนิงหลงอย่างขอร้อง จ้าวหนิงหลงถอนหายใจก่อนจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง เขารู้เรื่องเจ้าเมืองหานกับสิ่งที่บุตรสาวของเขาทำแล้ว แต่อยากจะรู้ว่าองค์รัชทายาทจะทำอย่างไร แต่เรื่องที่บุตรสาวของตนเสียใจเป็นเรื่องจริง บิดาอย่างเขาทนเห็นไม่ได้เขาเลี้ยงนางมาแทบจะอมไว้ในปาก หากนางต้องเจ็บปวดเช่นนี้เขายอมให้นางแต่งออกไปกับคนธรรมดาเสียดีกว่าองค์รัชทายาทที่ได้รู้เจียวเจียวอยู่ที่ใดก็ไม่รั้งรออีก เขารีบออกจากวังไปพบนางทันที "เจ้ารอรับราชโองการได้เลยหนิงหลง ครั้งนี้เจิ้นยังยอมให้อวี่เออร์ไม่แต่งอนุเข้าตำหนัก เจ้าก็คงต้องยอมถอยก้าวหนึ่งได้แล้วกระมัง" ฮ่องเต้ถลึงตาใส่จ้าวหนิงหลงอย่างไม่สบอารมณ์ซูหนี่กับซูฉีมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม สุดท้ายก็ต้องยินยอมเช่นนี้ แล้วตาเฒ่าของตนจะดื้อด้านตั้งแต่แรกกันทำไมเซี่ยเฟยอวี่ที่ควบม้าเร็วโดยไม่หยุดพักตลอดสองชั่วยามก็มาถึงเรือนพักอากาศของตระกูลจ้าว เขาให้คนไปแจ้งจ้าวเหว่ยว่าบิดาเขาเรียกตัวกลับด่วน เพราะที่จวนเกิดปัญหา ส่วนตัวเขาได้รับอนุญาตให้มาแก้ไขเรื่องที่ซูเจียวเข้าใจผิดจ้าวเหว่ยแม้ไม่อยากจะเชื่อเซี่ยเฟยอวี่แต่ก็จับผิดเขาไม่ได้จึงรีบกลับจวน

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   ตอนพิเศษ

    เวลาสามปีที่ผ่านมา เซี่ยเฟยอวี่ส่งจดหมายมาไม่ได้ขาด จ้าวซูเจียวตอนนี้เป็นสาวสะพรั่ง ไม่ว่าจะก้าวเดินไปที่ใดล้วนแต่ได้รับความสนใจ จนหลังๆนางเบื่อสายตาที่แทะโลมของบุรุษกักขฬะที่ไม่กลัวบิดาของนางควักลูกตาทั้งหลาย จึงเลือกที่จะอยู่ในจวนหรือไม่ก็ไปเที่ยวเล่นที่ตำหนักองค์หญิงฟางเซียนที่ตอนนี้แต่งราชบุตรเขยจนมีท่านชายน้อยแล้ว"เจ้ารู้หรือยังว่าองค์รัชทายาทจะเสด็จกลับเมืองหลวงแล้ว" ฟางเซียนกล่าวกับซูเจียวที่หยอกล้อบุตรของตนอยู่ นางพยักหน้ารับรู้แต่มิได้พูดสิ่งใด เซี่ยเฟยอวี่ส่งข่าวให้นาง ตอนนี้เขาคงจะถึงกลางทางแล้ว แต่เรื่องคืนนั้นที่เขาลอบเข้ามาพบนางไม่มีใครรู้ และเรื่องที่นางติดต่อกับเขาก็มีเพียงคนในครอบครัวที่รู้เท่านั้น นางจึงไม่พูดออกไปวันที่เซี่ยเฟยอวี่เสด็จกลับถึงเมืองหลวง นางไม่ได้ไปรอรับเขา แต่ข่าวลือที่องค์รัชทายาทพาสตรีแดนเหนือกลับมาด้วยเรื่องนี้นางย่อมได้ยิน จ้าวหนิงหลงแทงจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่เขาอยากจะเข้าไปพังตำหนักขององค์รัชทายาทแต่ก็ทำมิได้ บุตรชายทั้งสี่เช่นกัน งานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาครั้งนี้จ้าวซูเจียวมิยอมไป จ้าวหนิงหลงกับซูหนี่เห็นเช่นนั้นก็ปวดใจ ทุกคนต่างรู้ว่าบุตรสา

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   ตอนพิเศษ

    องค์รัชทายาทเสด็จมาเยี่ยมดูอาการของซูเจียวทุกวันแต่นางไม่ให้เขาเข้าพบ มีเพียงพี่ขายของนางที่หมุนเวียนออกมาต้อนรับเขาเท่านั้น เขาไม่เข้าใจว่านางทำเช่นนี้กับเขาเพื่ออันใดจนบุกเข้าไปถึงเรือนของนางเพื่อคำตอบซูหนี่สั่งให้บุตรชายทั้งสี่ของตนหลบทางให้องค์รัชทายาทเข้าไปพบจ้าวซูเจียว นางรู้ว่าบุตรสาวของตนเป็นเช่นเดียวกับตนหากเรื่องใดที่ไม่สมควรดึงดัน จ้าวซูเจียวจะถอยห่างทันที"เจียวเจียวเหตุใดเจ้าไม่ยอมพบหน้าข้า" เซี่ยเฟยอวี่มองนางในดวงใจอย่างปวดใจ นางหายป่วยมาเกือบเดือนแล้ว มิใช่ว่านางสบายดีตั้งแต่อาทิตย์แรกหรือ ทำไมต้องหลบหน้าตน"ถวายพระพรองค์รัชทายาทเพคะ หม่อมฉันกลัวนำโรคไปติดพระองค์จึงไม่ได้ออกไปต้อนรับเพคะ" ท่าทีที่ห่างเหินทำให้เซี่ยเฟยอวี่ปวดใจจนแทบคลั่ง นางไม่เคยพูดเป็นทางการเช่นนี้กับเขาเลยสักครั้งเมื่ออยู่เพียงลำพัง แต่วันนี้นางขีดเส้นชัดเจนมิให้เขาล่วงล้ำเข้าไป"เจียวเจียว เจ้าอย่าได้ทำเช่นนี้กับข้า" เขาทนไม่ได้หากนางหันหลังให้เขา นางคือความสดใสเดียวในชีวิตของเขา"พระองค์เลิกดึงดันเถิดเพคะ ตำแหน่งที่พระองค์ต้องการมอบให้หม่อมฉัน หม่อมฉันรับไม่ไหวจริงๆ หากพระองค์ไม่มีเรื่องอันใดแล้ว ห

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   ตอนพิเศษ

    "เจียวเจียว" เสียงเด็กหนุ่มวัยสิบสองหนาว ร้องเรียกจ้าวซูเจียวเสียงดังลั่นเมื่อเดินผ่านประตูจวนตระกูลจ้าวเข้ามา เซี่ยเฟยอวี่ องค์รัชทายาท แขกประจำจวนตระกูลจ้าว"พี่อวี่" เสียงเด็กน้อยวัยแปดหนาวร้องเรียกพร้อมวิ่งมาหาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เด็กน้อยตากลมโต ความงามที่หากนางเป็นที่สองในเมืองหลวงคงหาที่หนึ่งมิได้ นอกจวนจะลือว่านางอ่อนแอเปาะบางเพียงใด แต่ความจริงแล้วนางแข็งแรง สดใสร่าเริง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดที่นั่นล้วนแล้วแต่น่ามองไปเสียทุกอย่างองค์รัชทายาทในปีนี้ก็เริ่มมองหาพระชายาเพื่อหมั้นหมายแล้ว แต่เสนาบดีจ้าวยังคงมิใจอ่อนยอมให้เขาได้เข้าใกล้เจียวเจียวมากเกินไป วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาแอบหนีออกจากวังมาพบนาง เพียงได้เห็นรอยยิ้มของนาง ได้พูดคุย เรื่องต่างๆในวังที่แสนเบื่อหน่ายก็หายไปในพริบตาเพราะบิดาของนางไม่อยากให้บุตรสาวของตนโดนกักขังอยู่ในวังหลัง และไม่ต้องการให้ว่าที่บุตรเขยมีอนุหรือสาวใช้ข้างห้อง เมื่อมองตนเองแทบจะไม่มีความเป็นไปได้ที่จะได้ครอบครองตัวนางเมื่อจ้าวซูเจียวอายุได้สิบสามหนาว บิดาอย่างจ้าวหนิงหลงก็ขังนางไว้แต่ในจวนมิได้เสียแล้ว เจียวเจียวติดตามบิดามารดาและพี่ชายทั้งสี่เข้า

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 33

    จ้าวหนิงหลงพาซูหนี่ไปบ้านพักตากอากาศนอกเมือง เขาทิ้งบุตรชายทั้งสี่ไว้ที่เรือน แม้เหว่ยเออร์จะโวยวายเพียงใด บิดาเช่นเขาก็ไม่ยอมใจอ่อนพามาด้วย อันเออร์มองน้องชายจอมโง่ที่ได้แต่ร้องไห้ ตัวเขาก็เคยผ่านมาแล้ว น้ำตาไม่ทำให้ท่านพ่อใจอ่อนเรือนสี่ประสานหลังใหญ่ที่เขาได้รับพระราชทานจากฝ่าบาท ห้อมล้อมไปด้วยขุนเขาและสายน้ำ สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ได้รับการดูแลอย่างดี บ่อแช่น้ำร้อนมีกว้างขวางพอให้คนนับสิบลงไปแช่ได้ แต่ตอนนี้คนที่แช่มีเพียงสองสามีภรรยาเท่านั้นจ้าวหนิงหลงที่แช่น้ำรอภรรยารักอยู่ก่อนแล้ว ซูหนี่แม้จะบอกว่านางคลอดบุตรออกมาแล้วสี่คน แต่เขายังคงหลงใหลในความงามของนางอยู่เช่นเดิม ร่างกายทรวดทรงส่วนเว้าสวนโค้งของนางงดงามดั่งภาพวาด ยิ่งนางเยื้องย่างก้าวเดินเข้ามา เหมือนกันทุกก้าวเดินของนางกระแทกลงไปที่ใจของเขาเพียงเห็นแค่นั้น จ้าวหนิงหลงก็ลุกพรวดขึ้นจากน้ำอุ้มซูหนี่ลงน้ำทันที ไม่ต้องรอให้นางเอ่ยปากอนุญาตเขาที่แทบจะอดกลั้นไม่ไหวก็จู่โจมเสียแล้ว บทรักอันร้อนแรงใต้น้ำได้เริ่มขึ้นอย่างไม่รู้จบ เสียงอันน่าอับอายที่ดังไปทั่วก็ไม่ต้องอดกลั้นกลัวใครได้ยิน บ่าวที่ติดตามมาก็เป็นคนเก่าที่รู้งานอย่างดีตอน

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 32

    กว่าซูหนี่จะฟื้นขึ้นมาก็ผ่านมาสองวัน จ้าวหนิงหลงไม่ออกห่างจากนางเลย เขานั่งจับมือมองนางเช่นนั้นทั้งวันทั้งคืน เพราะกลัวว่าหากปล่อยมือนางเมื่อใดนางจะทิ้งเขาไปในที่ที่นางจากมา (ก็บอกแล้วว่ากลับไม่ได้แล้ว เห้อออ)เพียงลืมตาขึ้น ภาพแรกที่เห็น จ้าวหนิงหลงเริ่มมีหนวดขึ้นร่ำไร ดูดิบเถื่อนไปอีกแบบ "ท่านพี่" เสียงเบาราวยุงบินผ่านเรียกสติของจ้าวหนิงหลงให้กลับมาเขาดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด อยากจะหลอมนางให้อยู่ในกระดูกของเขา เมื่อซูหนี่บอกหิวน้ำ เขาถึงได้ปล่อยตัวนาง "ลูกละเจ้าคะ" "อยู่กับแม่นม เจ้าลุกไหวหรือไม่ กินอะไรเสียหน่อยแล้วข้าจะให้แม่นมพาลูกมาให้เจ้าดู" เขาเรียกให้คนยกอาหารมาให้ แล้วป้อนนางทีละคำ"ท่านต้องกินด้วย ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่กินแล้ว" นางรู้ว่าเขาคงไม่ยอมกินอะไรหรือลุกไปไหน นางลูบหน้าเขาอย่างปวดใจ เพียงสองวันเท่านั้นเขาดูซูบผอมไปเยอะจ้าวหนิงหลงต้องยอมกินกับนาง เขาป้อนนางคำตักใส่ปากตนเองคำ ตอนนี้อีกห้องที่แม่นมดูแลเด็กน้อยอยู่ เฉิงเออร์กับอันเออร์นั่งจ้องน้องสามกับน้องสี่ด้วยสายตาเคร่งขรึม เขาต้องกำราบน้องชายตั้งแต่เล็กๆ ยังไม่ออกมาก็ทำให้ท่านแม่เจ็บปวดจนแทบขาดใจ"พี่ใหญ่ ดูเจ้าสามเ

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 31

    องค์รัชทายาทและจ้าวหนิงหลงที่ยังคงแพ้ท้องแทนเมียจนกลายเป็นที่ขบขันของขุนนางทั้งหลาย องค์รัชทายาทอาเจียนแห้งทั้งวันจนทำให้เข้าประชุมขุนนางในท้องพระโรงไม่ได้ขุนนางที่อยู่ฝ่ายเดียวกับองค์ชายสาม องค์ชายห้าก็ถวายฎีการ้องเรียนองค์รัชทายาท กล่าวหาว่าพระองค์ใช้ข้ออ้างเรื่องป่วยไม่ทำราชกิจ พระองค์เพียงรอดูว่าฝ่ายไหนหางจะโผล่ก่อนกันเท่านั้นมิได้โต้แย้งแต่อย่างใดตอนนี้ราชสำนักแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย ด้วยโอรสสวรรค์มากความสามารถทุกคน ตอนนี้ก็รอดูเพียงใครจะเพลี่ยงพล้ำก่อนกัน องค์ชายสามโจมตีขุนนางฝ่ายองค์รัชทายาทโดยยัดข้อหาความผิดให้ เพราะตอนนี้องค์รัชทายาทไม่สามารถออกมาปกป้องพวกเขาได้ส่วนองค์ชายห้าที่ซ่องสุมกำลังไว้ รอให้องค์ชายทั้งสองสู้กันให้แล้วเสร็จตนจะนำกองกำลังเข้ายึดอำนาจทีหลัง แต่พวกเขาพลาดไปจุดหนึ่ง ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันยังคงพลานามัยแข็งแรงดี พระองค์รอดูว่าบุตรของตนคนใดจะเคลื่อนไหวก่อนกันจ้าวหนิงหลงยังคงแอบออกไปพบองค์รัชทายาทและคนของเสนาบดีเพื่อวางแผนตลบหลังองค์ชายทั้งสอง"พระองค์ทรงรอดูองค์ชายสามกับองค์ชายห้าเคลื่อนไหวเท่านั้น อย่าได้ทรงทำอะไรทั้งสิ้น เพราะฝ่าบาทกำลังจับตามองทุกพระองค์อยู่"

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 30

    เรื่องมงคลของจวนตระกูลจ้าวมาพร้อมกันติดๆ จ้าวหนิงหลงสอบจิ้นชื่อหน้าพระที่พักตร์ได้เป็นจ้วงหยวนสมใจ ของที่ตระกูลสวีจะร่วมแสดงความยินดีกับการตั้งครรภ์ของซูหนี่ต้องเพิ่มเข้าไปให้จ้วงหยวนคนใหม่ด้วยซูหนี่ที่แพ้ท้องก็ลุกขึ้นจัดการสิ่งใดไม่ได้เลยในช่วงนี้ นางยังแปลกใจที่ตอนแรกเพียงแค่ง่วงนอนอย่างเดียวเท่านั้น พอรู้ว่าตัวเองท้องก็แพ้ท้องทันที เหมือนเด็กในท้องจะกลั่นแกล้งมารดาของตน"ยินดีด้วยหนี่เออร์"สวีซูฉีมาเยี่ยมนางหลังจากที่ผ่านวันประกาศผลสอบมาได้สองวัน "เจ้าก็ต้องรีบตามข้ามาเร็วๆเสียแล้ว" ซูหนี่กล่าวเย้าซูฉี อีกไม่ถึงเดือนนางก็ต้องแต่งออกแล้วเช่นกันทั้งสองพูดคุยกันอีกไม่นานซูฉีก็ขอตัวกลับไปนางออกมานานไม่ได้เพราะต้องเตรียมตัวเรื่องงานแต่ง จ้าวหนิงหลงช่วงนี้ก็ต้องเดินสายขอบคุณเหล่าอาจารย์ และยังต้องเตรียมตัวเข้ารายงานตัวอีกด้วยขบวนแห่จ้วงหยวนคนใหม่รอบเมืองหลวงนั้นซูหนี่ต่อให้มีใจอยากจะไปดูแค่ไหนสภาพของนางก็ไม่อำนวยให้ไป อีกอย่างจ้าวหนิงหลงก็ไม่ยินยอมให้นางไปเบียดกับคนอื่นด้วย ถึงนางจะเสียดายที่ไม่ได้ชมแต่อันเออร์กับเฉิงเออร์ก็นำกลับมาเล่าให้ฟังว่าบิดาสง่างามเพียงใดเมื่ออยู่บนหลังม้าเดิ

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 29

    พรุ่งนี้จะเป็นวันที่จ้าวหนิงหลงต้องเข้าสอบ ซูหนี่ก็จัดของให้เรียบร้อยอย่างดี"หนี่หนี่" เมื่ออยู่สองคนเขาจะเรียกนางเช่นนี้เสมอ ซูหนี่มองค้อนอย่างรู้ทัน "จะสอบอยู่แล้วท่านยังไม่ละเว้นข้าอีกหรือ" "ต้องห่างเจ้าหลายวัน ข้าปวดใจยิ่งนัก" คำพูดเช่นนี้นางได้ยินจนเบื่อ สุดท้ายก็ต้องยอมเขาอยู่ดี"วันนี้ท่านกินน้อยลงหน่อย พรุ่งนี้จะเข้าสอบไม่ไหวเสียก่อน" ถึงนางจะห้ามเขาเช่นไร หรือร้องขอให้เขาหยุด เนื้อที่เข้าปากเสือไปแล้วย่อมไม่คายออกมา จ้าวหนิงหลงก็เช่นกัน เขาเคี่ยวกลำนางเช่นเวลาปกติ คำพูดของคุณชายเสเพลถูกดึงมาใช้ทั้งคืน หากนางยังไม่ยอมชมเขา เขาจะลงโทษนางอย่างถึงพริกถึงขิง"หากข้าลุกไปส่งท่านไม่ไหวก็อย่าได้พูดว่าก็แล้วกัน" นางเริ่มโมโหเขาแล้วที่ไม่ยอมปล่อยให้นางนอนเสียที "เจ้าไม่ต้องลุกไปส่งข้า เจ้านอนพักให้นานขึ้นเสียหน่อย" ทุกครั้งเขาก็พูดเช่นนี้ นางจะไม่ลุกได้อย่างไร เจ้าเด็กแสบได้มาน้ำตาคลอข้างเตียงคิดว่ามารดาป่วยอีก"ข้าอยากจะผูกเจ้าไว้กับตัวแล้วพาไปสนามสอบด้วย" จ้าวหนิงหลงถึงจะหยุดรังแกนางแล้วแต่เขาก็ยังคลอเคลียนางไม่เลิก นางอยากจะให้คนที่มองสามีนางอย่างเทิดทูนมาเห็นตอนที่เขาเป็นหมาน้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status