“นายไม่อายที่เลิกกับฉันกลางที่สาธารณะเนี่ยนะ นายนี่ตลกจริง ๆ ” ฉันหันหลังกลับอยากเดินจากไป แต่ถูกเขารั้งไว้ ฉันคิดจริง ๆ ว่าตอนนั้นฉันควรจะต้องตรวจสายตา ทำไมถึงชอบเขาได้ยังเป็นปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้ “ขอล่ะ ทำแบบนี้มันเสียมารยาทนะ” ไฟในใจก็ปะทุขึ้นมา แต่เขายังดึงดันที่จะจับมือฉันไว้ เมื่อหันไปมองอีกครั้ง ฉันกลับรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ หลินเลี่ยนกำลังยืนอยู่ตรงประตูพลางมองมาที่พวกเรา ไม่เจอกันหนึ่งปี เขาสูงขึ้นกว่าเดิมมาก การสวมเครื่องแบบนักเรียนไม่สามารถหยุดความหล่อของเขาได้ แต่เขากลับเห็นฉันในสภาพถูกดึงจนทนไม่ไหว เห็นเขาเดินตรงดิ่งมาทางฉัน ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ดึงฉันเข้าไปหา เขาไม่ปริปากพูดสักคำ แค่จับมือฉันแล้วพาเดินออกไป“จ้าวอินเฉียว เธอปฏิเสธฉันเพราะไอ้เด็กเหลือขอคนนี้เหรอ?” นัยน์ตาของหลินเลี่ยนมีความเดือดดาลที่ชัดเจนโดยไม่ต้องพูด เขาหันกลับไปอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ถูกฉันดึงไว้ “นายยืนตรงนี้แหละ” ฉันเดินไปหยุดตรงหน้าจี้เซิน “ฟังให้ดีนะ ฉันปฏิเสธนาย เพราะฉันเกลียดนาย” “อีกอย่าง เขาไม่ใช่เด็กเหลือขอ ต้องให้ยืนข้างนายเพื่อเปรียบเทียบไหม?
หลินเลี่ยนมาหยุดต่อหน้าฉัน ฉันยังไม่กล้าเงยหน้ามอง “พี่สาว ถึงตาคุณแล้ว” ฉันอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก แต่ก็นึกขอบคุณหลินรั่ว “โอ้ สายแล้วนายไปนอนก่อนเถอะ นายนอนบนเตียงนะ” ฉันหยิบเสื้อผ้าที่เตรียมไว้แล้วเดินเฉียดผ่านเขาไปเข้าห้องน้ำ นึกถึงเรื่องครั้งล่าสุดแล้ว ฉันไม่กล้าแอบคิดวางแผนการเจ้าเล่ห์อะไรอีก เช็ดเครื่องสำอางเสร็จ ฉันล้างหน้าห้าครั้งจริง ๆ อาบน้ำเสร็จ ฉันสวมชุดนอนตัวหนาที่สุด ฉันขยี้ผมให้ยุ่ง ๆ เข้าไว้ มองในกระจกอีกครั้ง ไม่เลว ฉันพอใจมาก หลังจากนั้นก็รออยู่ในห้องน้ำอีกนาน คิดว่ารอให้เขาหลับก่อนค่อยออกไปดีกว่า แต่ความจริงไม่ตรงกับที่ฉันคิด เสียงเคาะประตูที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ฉันตกใจวิญญาณแทบหลุดจากร่าง“จริงสิพี่สาว เสื้อผ้าที่ผมเปลี่ยนแล้วยังอยู่ในนั้น คุณออกมาแล้วผมจะเข้าไปซัก” ตอนนั้นเองที่ฉันสังเกตเห็นกางเกงชั้นในชายอยู่ในถุง นี่มัน จำเป็นจริง ๆ เหรอ? ชั่วขณะหนึ่งมีเสียงฟ้าร้องดังก้องในหัวของฉัน “พี่สาว?”“อ้อ ๆๆ ได้สิ” ไม่สนแล้ว ลุยเลยละกัน “พี่สาว ผมของคุณยุ่งมาก” หึหึหึ ฉันรู้ว่ามันยุ่งมาก ไม่ต้องให้นายบอก “
ตื่นขึ้นพร้อมฝันที่สลายไป ฉากที่เปลี่ยนไปเพียงสั้นๆ นั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงอะไร คืนวันหยุดสุดสัปดาห์ หลังจากที่เขากลับโรงเรียน ฉันก็เริ่มครุ่นคิดว่าจะสามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ไหม อย่าปล่อยให้ตัวเองเหนื่อยกับเงินเดือนอันน้อยนิด เริ่มไถดูวิดีโอเพื่อแสวงหาแรงบันดาลใจ ทันทีนั้นก็มีบัญชีที่คุ้นเคยมาก ๆ มากดติดตามฉัน ฉันตกใจมากจนโยนโทรศัพท์ลงบนเตียง สิ่งที่บล็อกเกอร์คนนี้โพสต์ทั้งหมดคือวิดีโอกล้ามหน้าท้องของตัวเองจากมุมต่าง ๆ และเป็นหนึ่งในลิสต์รายชื่อหนุ่มหล่อที่ฉันติดตามด้วย ฉันมักจะน้ำลายสอกับวิดีโอเหล่านี้อยู่บ่อยครั้ง ทำไมวันนี้จู่ ๆ ถึงมากดติดตามฉัน คงไม่ใช่เพราะมือลั่นหรอกนะ ฉันเริ่มเลื่อนดูหน้าโฮมเพจของเขาอีกครั้ง แต่ละวิดีโอมีคนกดถูกใจไม่ต่ำกว่าล้านครั้ง ก็ไม่แปลก ปัจจุบันนี้ใครๆ ก็ชอบเสพสื่อประเภทนี้ บล็อกเกอร์เหล่านี้คงจะทำเงินได้ไม่น้อยแต่ในขณะที่เลื่อนดูเรื่อย ๆ ฉันก็นึกถึงหลินเลี่ยนขึ้นมา ดูคล้ายกับในวิดีโอนี้มาก น้องชายรูปร่างดีจริง ๆ ฉันเดินไปที่หน้ากระจกตั้งพื้น โพสต์ท่าทางให้เห็นส่วนเว้า ที่จริงแล้ว รูปร่างของฉันก็ดีมาก
แต่ฉันไม่ได้ยินคำตอบของเขา ตอนที่นั่งอยู่ในโซนผู้ปกครอง มีเพื่อนร่วมชั้นสุดหล่อคนหนึ่งมารินน้ำให้พวกเราด้วย เขานั่งตรงที่ว่างข้าง ๆ ฉัน เลิกคิ้วขึ้นมอง “คุณกับหลินเลี่ยนคบกันได้ยังไงครับ เขาอวดพวกเราทุกวันว่าแฟนเขาดูดีมาก” น้ำที่ฉันกำลังดื่มเข้าปากแทบจะพุ่งออกมา “เขาบอกพวกนายแบบนั้นเหรอ” “ใช่ครับ เมื่อครู่นี้เขายังอวดกับพวกเราอยู่เลย ไอ้หมอนี่ เมื่อพูดถึงคุณก็จะยิ้มจนหุบปากไม่ได้เลย” สรุปว่า ฉันไปเป็นแฟนกับเขาได้อย่างไร? หลินเลี่ยนตีชายหนุ่มสุดหล่อคนนั้นจากด้านหลัง เขารีบยกที่นั่งให้อีกฝ่าย ยังไม่ลืมขยิบตาให้ตอนที่จากไปด้วย หลินเลี่ยนนั่งลงข้างฉัน “เมื่อครู่เขาชวนคุณคุยเหรอ?” “ไอ้หมอนั่นเลวมาก คงจะเห็นว่าคุณสวยเลยเข้ามาชวนคุย คุณไม่ต้องสนใจเขา” ใบหน้าของฉันมีแต่ความข้องใจ “น้องชาย เย็นนี้พี่สาวของนายชวนนายไปกินข้าว ฉันคงไม่ไปแล้ว อีกเดี๋ยวฉันเรียกรถให้นายนะ” ฉันเบาเสียงลง “แล้วก็ พี่สาวคนนี้ไม่อยากถูกดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์จริง ๆ ”******** หลังเสร็จพิธีจบการศึกษา ฉันก็แยกกับเขา บนรถบัส อาทิตย์ตกดินสะท้อนอยู่ตรงหน้าต่าง
เขาไม่ต่างจากสัตว์ป่าที่ถูกขังอยู่ในกรงเป็นเวลานาน ขณะที่สำรวจร่างกายของฉันอย่างบ้าคลั่ง ก็ระดมจูบบนใบหน้าฉันอย่างเอาแต่ใจ ด้วยรักปักใจลึกซึ้ง ฉันก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ เริ่มตอบสนองต่อเขา อุณหภูมิร้อนฉ่าเหมือนตกไปในเตาไฟ ฉันยังเป็นฝ่ายรุกเข้าหาแล้วถอดเสื้อแจ็กเก็ต กลับถูกเขากดไว้ ทำอะไรอยู่ สถานการณ์นี้คงไม่ได้หยุดลงตรงนี้ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นฉันจะอับอายมากแค่ไหน ฉันมึนงง มองเขาผละตัวออกจากฉัน เดินไปที่ริมหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน ดึงปิดผ้าม่าน จากนั้นก้าวใหญ่ ๆ มาหาฉันทันที ไม่รอให้ฉันได้ตอบสนอง เสื้อผ้าของฉันก็ถูกถอดออก กอดรัดฟัดเหวี่ยง ดุเดือดเป็นพิเศษ หลังจากนั้นสักพัก เขาก็พาฉันไปที่เตียง คลื่นลูกหนึ่งม้วนมาอีกระลอกไม่จบสิ้น ที่แท้ชีวิตคนเรายังสามารถมีช่วงเวลาที่สุขสุดยอดเช่นนี้ได้ แต่หลังจากนั้น ฉันกลับตกตะลึงอยู่บนเตียง ผ่านไปนานกว่าจะตระหนักว่าทำอะไรลงไป ความละอายใจทำให้ต้องมุดผ้าห่มหนีไม่กล้าโผล่ออกมา “พี่สาว พี่สาว?” เขาตะโกนเรียกข้างหูฉันผ่านผ้าห่ม ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาเรียกฉันแบบนั้นทำให้ฉันรู้สึกละอายใจสุด ๆ อาจเพ
เมื่อได้สติกลับมาก็สายเกินไปแล้ว เพื่อนรักมีกุญแจของที่นี่ และห้องเดี่ยวเล็ก ๆ นี้ แค่เปิดประตูเข้ามาก็เห็นได้ทั้งหมด ฉากยิ่งใหญ่ฉากนี้... ฉันผลักหลินเลี่ยนเข้าใต้ผ้าห่มอย่างดุเดือด แล้วหัวเราะแหย ๆ ให้หลินรั่ว “แม่เจ้า จ้าวอินเฉียว เธอซ่อนผู้ชายไว้เหรอ” “น้องชายฉันล่ะ ฉันเพิ่งบอกให้เขาล่วงหน้ามาก่อน เธอคงไม่ได้ไล่เขาไปหรอกนะ” “เดี๋ยว ๆๆๆ รองเท้าคู่นี้ไม่ใช่ของน้องชายฉันเหรอ” “รั่วรั่ว ขอสามนาที เธอไปรออยู่นอกประตูก่อนได้ไหม” เห็นเธอกุมหน้าผากเดินออกไป ฉันกับหลินเลี่ยนรีบใส่เสื้อผ้า เก็บกวาดเล็กน้อยแล้วรีบบอกให้หลินรั่วเข้ามา หลินรั่วอยากจะเข้ามาดึงหูของหลินเลี่ยน แต่ถูกฉันขวางไว้ข้างหน้า “เริ่มถือหางกันแล้วเหรอ?” หลินเลี่ยนอยู่ข้างหลังและจับชายเสื้อของฉันไว้ หลินรั่วมองไปที่น้องชายแบบหมดคำจะพูด บรรยากาศดูตึงเครียดมาก แต่ทันใดนั้นเธอก็ยิ้มออกมา ถามฉันว่า “เป็นความสมัครใจของเธอไหม?” ฉันพยักหน้า “เยี่ยมเลย จ้าวอินเฉียว ในที่สุดเธอก็มีวันนี้ จากนี้ไปเรียกฉันว่าพี่สาวนะ”“ฉันจะบอกให้ว่าไอ้ตัวแสบหาเงินได้มากมายแต่ไม่ยอมให้ฉันสักแดงเดียว ที่
ผมอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคืนนั้น ที่ผมปวดท้องเหลือทน ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกก็ได้เห็นเธอ ผมจึงได้รู้ว่า เธอคือนางฟ้าในใจของผม เธอแบกผมขึ้นหลังด้วยความลำบาก แต่ก็ยังพาผมไปที่คลินิกสุดกำลัง ตั้งแต่วันนั้น ผมก็รอคอยที่จะได้พบเธออีกครั้ง ภายหลังได้เห็นวิดีโอที่พี่สาวของผมโพสต์ลงในบัญชีโซเชียล ซึ่งมีเธออยู่ในนั้นด้วย ผมจึงรู้ว่าเธอคือเพื่อนร่วมห้องเช่าคนนั้นของพี่สาวผม ผมจึงใช้ข้ออ้างว่าจะไปเที่ยวและไม่มีเงินด้วย ผมเองก็รู้ดีว่าพี่สาวขี้งกจะไม่ยอมควักเงินจ่ายค่าโรงแรมให้พวกเราพักเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้คืนนั้นเลยได้ค้างคืนด้วยอย่างเป็นธรรมชาติ ผมอดใจไม่ไหวจึงจูบเธอ ได้เห็นเธอพยักหน้ารับก็ไม่รู้ว่าผมมีความสุขมากแค่ไหน แต่ว่าต่อมาเธอบอกผมว่าผมยังไม่บรรลุนิติภาวะ และเธอเลี้ยงผมไม่ไหว เฮ้อ ใครอยากให้เธอเลี้ยงล่ะ แต่ถ้าเธอถือสาเรื่องที่ผมยังไม่บรรลุนิติภาวะ ผมก็จะรออีกนิด มันไม่ได้รอนานมากนัก แต่ในช่วงเวลาเหล่านี้ผมยังกังวลมากว่าจะมีคนมาแย่งเธอไป ถึงอย่างไรก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรีบร้อนเริ่มไปนัดบอดขนาดนั้น ดังนั้นผมเลยไปหาเธอเป็นครั้งคราว โชคดีที่เ
อายุยี่สิบห้าปี ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวผู้ชายสักคนนี่แหละตัวฉัน จู่ๆ หลินรั่วเพื่อนรักก็บอกว่าคืนนี้ต้องนอนเบียดเตียงเดียวกับผู้ชายสองคน ดวงตาของฉันเป็นประกาย แต่แสดงออกว่าลำบากใจหน่อย ๆ ทั้งที่ในใจกลับไม่ได้ลำบากใจนัก เพราะฉันเคยเจอนักเรียนชายสองคนนั้นแล้วครั้งหนึ่ง หนึ่งในนั้นมีรูปลักษณ์ตรงตามอุดมคติของฉันเลย ส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้า มีแนวกรามชัดเจนกว่าเป้าหมายในชีวิตของฉันเสียอีก ยังมีดวงตาคมคายแวววาวสุกใส นิ้วมือเรียวยาวช่วงขาก็ยาว... ไม่ว่าอะไรเขาก็ดีไปหมด แต่ฉันก็ทำได้แค่แอบมองหน้าเขาแล้วน้ำลายไหลเงียบ ๆ ไม่กล้าคิดเลยเถิดไปไกลกว่านั้น เพราะว่า เขาเป็นน้องชายแท้ ๆ ของหลินรั่ว อายุน้อยกว่าฉันถึงแปดปีเต็ม สิ่งสำคัญที่สุดคือ หลินเลี่ยนยังไม่บรรลุนิติภาวะ แม้ว่าภายนอกเขาดูไม่เหมือนเด็กแล้ว แต่ฉันยังต้องไม่ละอายใจต่อมโนธรรมของตัวเอง ส่วนที่ว่า ทำไมพวกเราสี่คนต้องมานอนเบียดกันบนเตียงเดียวเหรอ? เพราะว่า ฉันกับเพื่อนซี้ต่างก็จนมาก ดำรงชีวิตด้วยเงินเดือนที่พอจ่ายค่าเช่าและเลี้ยงปากท้องตัวเองได้เท่านั้น ทันทีที่หลินเลี่ยนและหลินลี่น้องชายทั้งสองคนของเธอได้ป