ผมอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคืนนั้น ที่ผมปวดท้องเหลือทน ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกก็ได้เห็นเธอ ผมจึงได้รู้ว่า เธอคือนางฟ้าในใจของผม เธอแบกผมขึ้นหลังด้วยความลำบาก แต่ก็ยังพาผมไปที่คลินิกสุดกำลัง ตั้งแต่วันนั้น ผมก็รอคอยที่จะได้พบเธออีกครั้ง ภายหลังได้เห็นวิดีโอที่พี่สาวของผมโพสต์ลงในบัญชีโซเชียล ซึ่งมีเธออยู่ในนั้นด้วย ผมจึงรู้ว่าเธอคือเพื่อนร่วมห้องเช่าคนนั้นของพี่สาวผม ผมจึงใช้ข้ออ้างว่าจะไปเที่ยวและไม่มีเงินด้วย ผมเองก็รู้ดีว่าพี่สาวขี้งกจะไม่ยอมควักเงินจ่ายค่าโรงแรมให้พวกเราพักเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้คืนนั้นเลยได้ค้างคืนด้วยอย่างเป็นธรรมชาติ ผมอดใจไม่ไหวจึงจูบเธอ ได้เห็นเธอพยักหน้ารับก็ไม่รู้ว่าผมมีความสุขมากแค่ไหน แต่ว่าต่อมาเธอบอกผมว่าผมยังไม่บรรลุนิติภาวะ และเธอเลี้ยงผมไม่ไหว เฮ้อ ใครอยากให้เธอเลี้ยงล่ะ แต่ถ้าเธอถือสาเรื่องที่ผมยังไม่บรรลุนิติภาวะ ผมก็จะรออีกนิด มันไม่ได้รอนานมากนัก แต่ในช่วงเวลาเหล่านี้ผมยังกังวลมากว่าจะมีคนมาแย่งเธอไป ถึงอย่างไรก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรีบร้อนเริ่มไปนัดบอดขนาดนั้น ดังนั้นผมเลยไปหาเธอเป็นครั้งคราว โชคดีที่เ
อายุยี่สิบห้าปี ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวผู้ชายสักคนนี่แหละตัวฉัน จู่ๆ หลินรั่วเพื่อนรักก็บอกว่าคืนนี้ต้องนอนเบียดเตียงเดียวกับผู้ชายสองคน ดวงตาของฉันเป็นประกาย แต่แสดงออกว่าลำบากใจหน่อย ๆ ทั้งที่ในใจกลับไม่ได้ลำบากใจนัก เพราะฉันเคยเจอนักเรียนชายสองคนนั้นแล้วครั้งหนึ่ง หนึ่งในนั้นมีรูปลักษณ์ตรงตามอุดมคติของฉันเลย ส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้า มีแนวกรามชัดเจนกว่าเป้าหมายในชีวิตของฉันเสียอีก ยังมีดวงตาคมคายแวววาวสุกใส นิ้วมือเรียวยาวช่วงขาก็ยาว... ไม่ว่าอะไรเขาก็ดีไปหมด แต่ฉันก็ทำได้แค่แอบมองหน้าเขาแล้วน้ำลายไหลเงียบ ๆ ไม่กล้าคิดเลยเถิดไปไกลกว่านั้น เพราะว่า เขาเป็นน้องชายแท้ ๆ ของหลินรั่ว อายุน้อยกว่าฉันถึงแปดปีเต็ม สิ่งสำคัญที่สุดคือ หลินเลี่ยนยังไม่บรรลุนิติภาวะ แม้ว่าภายนอกเขาดูไม่เหมือนเด็กแล้ว แต่ฉันยังต้องไม่ละอายใจต่อมโนธรรมของตัวเอง ส่วนที่ว่า ทำไมพวกเราสี่คนต้องมานอนเบียดกันบนเตียงเดียวเหรอ? เพราะว่า ฉันกับเพื่อนซี้ต่างก็จนมาก ดำรงชีวิตด้วยเงินเดือนที่พอจ่ายค่าเช่าและเลี้ยงปากท้องตัวเองได้เท่านั้น ทันทีที่หลินเลี่ยนและหลินลี่น้องชายทั้งสองคนของเธอได้ป
ราวกับผ่านไปนานนับศตวรรษ ในที่สุดคุณเพื่อนรักก็ออกมาจากห้องน้ำ นอนแทรกกลางระหว่างฉันกับหลินเลี่ยน เมื่อนั้นฉันจึงกล้านอนบ้าง สามพี่น้องกลุ่มนี้นอนหลับสบายใจเฉิบ เสียงหายใจเข้าออกดังขึ้นต่อเนื่อง ฉันเองก็ค่อย ๆ ผล็อยหลับไปท่ามกลางเสียงหายใจที่สม่ำเสมอนี้ ท้องฟ้าเริ่มมีแสงสลัว ขณะที่กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ฉันรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่นุ่มนวลกดลงบนริมฝีปากของฉัน เดี๋ยวแรงเดี๋ยวผ่อน ฉันรู้สึกว่าร่างกายร้อนขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มหายใจลำบากหน่อย ๆ เมื่อลืมตา เห็นใบหน้าของหลินเลี่ยนอยู่ตรงหน้าฉันเลย ริมฝีปากยังสัมผัสกับฉัน สองมือของเขาจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันไว้ ท่าทางคลุมเครือสุด ๆ สมองของฉันว่างเปล่าทันที ใบหน้าก็เหมือนเต็มไปด้วยเลือดคั่ง หากคนตรงหน้าไม่ใช่หลินเลี่ยน ฉันจะต้องรีบแจ้งตำรวจทันที แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถ้าเป็นเขา ฉันก็ไม่อยากต่อต้านเลยสักนิด แต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ฉันต้องรีบตั้งสติก่อน เพราะยังมีคนตัวใหญ่สองคนนอนอยู่ข้าง ๆ นี้เอง อีกอย่าง ทำไมฉันถึงมานอนข้างหลินเลี่ยนได้ล่ะ แต่อย่าเพิ่งสนใจมันนัก เพราะตอนนี้เด็กผู้ชายที่อยู่บนตัวฉันคนนี้ ด
แม้ว่าหน้าตาและการกระทำของเขาสามารถทำให้ฉันหลงใหลแทบบ้าได้ แต่เขายังคงความเป็นเด็กเอาไว้ในทุกอิริยาบถ ฉันรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหน ฉันถึงได้มองเขาอย่างแน่วแน่ “น้องชาย ไม่ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันยังหวังว่านายจะไตร่ตรองถึงการกระทำให้ชัดเจน หากนายทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ฉันสามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้” ดวงตาของเขามีร่องรอยของความมืดวาบผ่าน หลบสายตา ชักมือกลับไป ดูทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย “ยังมีอีกเรื่องนะน้องชาย ตอนนี้ฉันเลี้ยงนายไม่ไหวจริง ๆ ” ขณะนี้ร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาสูญเสียพลังงานไปอีกเล็กน้อย “คุณอาบน้ำก่อนเถอะพี่สาว ขอโทษด้วย” หลังจากหลินเลี่ยนออกไปแล้ว ฉันก็กลับมาเป็นปกติ อารมณ์สงบลงไม่น้อย เพียงแต่ว่า สิ่งที่ฉันเพิ่งพูดออกไปนั้น ไม่ค่อยดีเลยใช่หรือเปล่านะ เฮ้อ ลำบากใจจริง ๆ ฉันก็ไม่อยากทำร้ายหัวใจที่บอบบางของหนุ่มหล่อคนไหนเลย แปดโมงครึ่ง ฉันกับเพื่อนรักออกไปทำงาน ในฐานะเพื่อนสนิทที่ไม่มีความลับต่อกัน ฉันไม่รู้ว่าควรบอกความจริงกับเพื่อนดีไหม แต่ว่าก่อนจะถึงตรงนั้น ฉันยังมีคำถามอื่น บนรถบัส ฉันจ้องหน้าหล
สี่คนหนึ่งห้องค่อนข้างแออัดจริง ๆ หลังจากเลิกงานแล้วพวกฉันจึงพาน้องชายทั้งสองไปเดินเล่นตามทางและหลินรั่วปรึกษาว่าพรุ่งนี้จะให้พวกเขากลับบ้าน ดูเหมือนว่าหลินเลี่ยนไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามากนัก เขาไม่ค่อยคุยกับฉันสักเท่าไรด้วย แค่ยืนอยู่ข้างหลังฉันเท่านั้น อาจเพราะพวกเราสี่คนยืนอยู่ด้วยกัน กอปรกับที่ฉันทำตัวกลมกลืนเก่ง ทำให้ทั้งส่วนสูงและรูปร่างหน้าตาจึงค่อนข้างสะดุดตาเป็นพิเศษ ผู้คนที่สัญจรไปมาตามทางจึงมักจะมองมาที่พวกเรา แต่ใครก็ตามที่มีสายตาเฉียบแหลมจะเห็นว่า หญิงสาวที่เดินผ่านไปผ่านมาจะมองหลินเลี่ยนด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม ฉันหันกลับไปมองพวกนั้นอีกครั้ง แน่นอนว่ายังคงมองมาทางแผ่นหลังของหลินเลี่ยนพลางซุบซิบกัน มันน่าหงุดหงิดจริง ๆ พวกเราหาที่นั่งในร้านขนมหวานร้านหนึ่ง สาวน้อยสวมเครื่องแบบนักเรียนหญิงมัธยมปลายที่โต๊ะถัดไปมักจะมองมาที่นี่บ่อย ๆ ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ อาจเพราะหล่อนดูดีมาก ฉันนี่ก็แปลกคนจริง ๆ ขณะที่พร่ำบอกตัวเองว่าเรื่องระหว่างหลินเลี่ยนเป็นไปไม่ได้ อีกด้านหนึ่งก็ไม่รู้ว่าเกิดความรู้สึกวิกฤตได้อย่างไร ได้แต่หาข้ออ้างแล้วเ
ชายทะเลตอนกลางคืนลมแรงมาก ขากลับถึงได้รู้สึกหนาวสุด ๆ ฉันนึกไม่ถึงว่าตอนนั้นเขาจะถอดเสื้อคลุมตัวนอกมาสวมให้ฉัน และพาฉันกลับบ้านด้วยกัน หลังจากที่ฉันและเขาร่ำลากันครั้งนั้น ก็ไม่ได้เจอกันอีกเป็นปี ฉากเปลี่ยนไป ย้ายมาอยู่ในสถานที่ที่ฉันกับหลินรั่วเช่าอยู่ แต่ฉันหาเงินได้มากมายมหาศาล สามารถเลี้ยงดูเขาได้อย่างมั่นใจ หลินเลี่ยนยังอายุน้อยกว่าฉันเพียงหนึ่งปี และยังคงเป็นฉากเดียวกับเช้าวันนั้น แต่ไม่มีใครอยู่รอบ ๆ แล้ว พวกเราจุมพิตกัน แสดงความรักของตัวเองออกมาอย่างลึกซึ้ง********** เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฉันกลับมาอยู่ที่ห้องเช่าแล้ว รู้สึกว่าในห้องกว้างขึ้นไม่น้อย เพื่อนสนิทบอกว่าน้องชายทั้งสองคนกลับไปแล้ว เล่าให้ฉันฟังด้วยว่าเมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น เพราะไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่ใกล้ห้องน้ำนั้น จึงมักมีเหตุการณ์อนาจารเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อีกนิดเดียวฉันก็จะถูกคนชั่วล่วงเกิน โชคดีที่พอหลินรั่วกลับเข้าไปแล้วหลินเลี่ยนก็เดินออกมา มิฉะนั้นผลที่ตามมาคงยากเกินจะรับไหว ที่แท้ เสียงเคาะประตูหนัก ๆ นั้น เป็นของหลินเลี่ยน ครั้งนี้ เป็นเขาที่ช่วยฉันไว้ แต่แล้วอ
“นายไม่อายที่เลิกกับฉันกลางที่สาธารณะเนี่ยนะ นายนี่ตลกจริง ๆ ” ฉันหันหลังกลับอยากเดินจากไป แต่ถูกเขารั้งไว้ ฉันคิดจริง ๆ ว่าตอนนั้นฉันควรจะต้องตรวจสายตา ทำไมถึงชอบเขาได้ยังเป็นปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้ “ขอล่ะ ทำแบบนี้มันเสียมารยาทนะ” ไฟในใจก็ปะทุขึ้นมา แต่เขายังดึงดันที่จะจับมือฉันไว้ เมื่อหันไปมองอีกครั้ง ฉันกลับรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ หลินเลี่ยนกำลังยืนอยู่ตรงประตูพลางมองมาที่พวกเรา ไม่เจอกันหนึ่งปี เขาสูงขึ้นกว่าเดิมมาก การสวมเครื่องแบบนักเรียนไม่สามารถหยุดความหล่อของเขาได้ แต่เขากลับเห็นฉันในสภาพถูกดึงจนทนไม่ไหว เห็นเขาเดินตรงดิ่งมาทางฉัน ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ดึงฉันเข้าไปหา เขาไม่ปริปากพูดสักคำ แค่จับมือฉันแล้วพาเดินออกไป“จ้าวอินเฉียว เธอปฏิเสธฉันเพราะไอ้เด็กเหลือขอคนนี้เหรอ?” นัยน์ตาของหลินเลี่ยนมีความเดือดดาลที่ชัดเจนโดยไม่ต้องพูด เขาหันกลับไปอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ถูกฉันดึงไว้ “นายยืนตรงนี้แหละ” ฉันเดินไปหยุดตรงหน้าจี้เซิน “ฟังให้ดีนะ ฉันปฏิเสธนาย เพราะฉันเกลียดนาย” “อีกอย่าง เขาไม่ใช่เด็กเหลือขอ ต้องให้ยืนข้างนายเพื่อเปรียบเทียบไหม?
หลินเลี่ยนมาหยุดต่อหน้าฉัน ฉันยังไม่กล้าเงยหน้ามอง “พี่สาว ถึงตาคุณแล้ว” ฉันอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก แต่ก็นึกขอบคุณหลินรั่ว “โอ้ สายแล้วนายไปนอนก่อนเถอะ นายนอนบนเตียงนะ” ฉันหยิบเสื้อผ้าที่เตรียมไว้แล้วเดินเฉียดผ่านเขาไปเข้าห้องน้ำ นึกถึงเรื่องครั้งล่าสุดแล้ว ฉันไม่กล้าแอบคิดวางแผนการเจ้าเล่ห์อะไรอีก เช็ดเครื่องสำอางเสร็จ ฉันล้างหน้าห้าครั้งจริง ๆ อาบน้ำเสร็จ ฉันสวมชุดนอนตัวหนาที่สุด ฉันขยี้ผมให้ยุ่ง ๆ เข้าไว้ มองในกระจกอีกครั้ง ไม่เลว ฉันพอใจมาก หลังจากนั้นก็รออยู่ในห้องน้ำอีกนาน คิดว่ารอให้เขาหลับก่อนค่อยออกไปดีกว่า แต่ความจริงไม่ตรงกับที่ฉันคิด เสียงเคาะประตูที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ฉันตกใจวิญญาณแทบหลุดจากร่าง“จริงสิพี่สาว เสื้อผ้าที่ผมเปลี่ยนแล้วยังอยู่ในนั้น คุณออกมาแล้วผมจะเข้าไปซัก” ตอนนั้นเองที่ฉันสังเกตเห็นกางเกงชั้นในชายอยู่ในถุง นี่มัน จำเป็นจริง ๆ เหรอ? ชั่วขณะหนึ่งมีเสียงฟ้าร้องดังก้องในหัวของฉัน “พี่สาว?”“อ้อ ๆๆ ได้สิ” ไม่สนแล้ว ลุยเลยละกัน “พี่สาว ผมของคุณยุ่งมาก” หึหึหึ ฉันรู้ว่ามันยุ่งมาก ไม่ต้องให้นายบอก “