เมื่ออิ่มท้องแล้วมุกดาจึงได้เดินเล่นชมบ้านเมืองของเขา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มีโอกาสได้เดินทางมาเที่ยวที่เมืองจีน มันเป็นความฝันของเธอมานานแล้วนับจากค้นพบจดหมายและเอกสารในกล่องคุ๊กกี้ของผู้เป็นแม่ ขณะที่เดินทอดน่องมองดูวิถีชีวิตของผู้คนและร้านรวงตลอดสองข้างทางก็มองเห็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า เธอจึงได้เดินข้ามถนนตรงไปที่ถนนสาธารณะแห่งนั้น ในสวนนี้มีบึงน้ำขนาดใหญ่มาก มีนกกระยางบินไปมา และบางตัวก็กำลังเดินหาจับปลาอยู่ไม่ไกลจากตลิ่งมากนัก สนามกว้างเต็มไปด้วยสีเขียวขจีของผืนหญ้าที่ทอดยาวเป็นผืนใหญ่ มองดูสบายตายิ่งนัก และที่สวนนี้ก็มีทั้งต้นไม้ใหญ่และต้นไม้เล็ก รวมถึงดอกไม้สีสันหลากหลายที่จัดเอาไว้เป็นหมวดหมู่ มองดูสวยงามอย่างยิ่ง
มุกดาเดินดูรอบๆ พอเมื่อยขาก็ไปนั่งพักเหนื่อยที่เก้าอี้ริมทาง เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้เฝ้ามองดูผู้คนที่มาเดินออกกำลังกาย บ้างก็พาเด็กมาเดินเล่นและมาเล่นที่สนามเด็กเล่นของเด็กๆที่มีของเล่นของเด็กๆอยู่มุมหนึ่งของสวน และผู้สูงอายุหลายๆกลุ่มก็มาจับกลุ่มนั่งเล่นหมากรุกและบางคนก็มาส่งเสียงเชียร์เพื่อนฝูงที่กำลังคร่ำเคร่งเดินหมากรุกอยู่อย่างใจจดใจจ่อ มีเสียงหัวเราะและฮือฮาดังมาเป็นระยะ
บางคนก็กำลังร่ายรำมวยจีน บางคนก็นั่งเล่นเครื่องเล่นดนตรีของจีนที่เป็นลักษณะคล้ายซอของไทยอยู่ไม่น้อย เสียงเพลงจีนดังมาให้ได้ยิน ฟังดูก็ไพเราะไม่น้อย ขณะที่มุกดากำลังมองบรรยากาศรอบๆตัวอย่างเพลิดเพลินใจไม่น้อยนั้น อยู่ก็มีชายชราคนหนึ่งที่กำลังเดินอยู่บนถนนในสวน ที่เธอก็มองเห็นเขาอยู่เมื่อครู่แต่ก็ไม่ได้สนใจเขานัก เขาใช้ไม้เท้าพยุงเดินข้างหนึ่ง คล้ายกับผู้สูงอายุทั่วไป ที่ถึงวัยที่ต้องใช้ไม้เท้า แต่ชายชราคนนี้แต่งกายดี คงจะเป็นคนมีฐานะดีไม่น้อย
อยู่ๆ เมื่อเดินผ่านหน้ามุกดาเขาก็เซล้มลงบนพื้น เธอจึงได้รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วตรงไปช่วยพยุงเขาทันที “ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ฉันหน้ามืดแค่เล็กน้อย ” ชราคนนั้นบอกกับมุกดาเป็นภาษาจีน ขณะที่เธอช่วยเขาพยุงตัวลุกขึ้น ขณะนั้นก็มีชายสองคนที่แต่งกายคล้ายบอดี้การ์ดที่เธอเคยเห็นในหนังวิ่งตรงเข้ามาที่เธอกับชายคนนั้น “ นายท่านเป็นอะไรหรือไม่ครับ ” ชายสวมแว่นดำที่แต่งกายคล้ายบอดี้การ์ดถามขึ้นอย่างตกใจไม่น้อย ที่เห็นชายชราล้มลง และมีผู้หญิงสาววิ่งมาช่วยพยุงเขาขึ้นยืน
“ คุณตาจะไปนั่งก่อนไหมคะ ” มุกดาถามเขาเป็นภาษาจีน เพราะเธอนั้นสามารถสื่อสารภาษาจีนได้ เพราะเธอนั้นเรียนเอกภาษาจีน ชายชราส่ายหน้า “ ไม่เป็นไรแม่หนู ขอบใจมากนะ ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้ว อาหลงพาฉันไปขึ้นรถก่อน วันนี้เดินพอแล้ว คงถึงเวลากลับกันเสียที ” เขาหันไปออกคำสั่งกับชายคนหนึ่งในสองคนที่สวมสูทชุดสีดำด้วยกันทั้งคู่
แล้วชายคนนั้นก็เข้ามาพยุงร่างของชายชราจะพาเดินกลับไป “ ฉันไปก่อนนะแม่หนู ขอบใจมาก ” ชายชราหันมายิ้มให้กับมุกดาอย่างใจดี แล้วเขาก็ถูกชายทั้งสองช่วยกันพยุงพาเดินย้อนกลับไปตามทางเดิน แล้วลัดสนามหายไปจากสายตาของมุกดา หลังจากนั้นเธอจึงได้กลับมานั่งตรงเก้าอี้เหล็กริมข้างทางดังเดิน เฝ้ามองวิถีชีวิตผู้คนในสวนแห่งนี้อยู่อีกครู่ใหญ่ จึงได้ตัดสินใจว่าคงจะกลับไปรอแสงดาวที่ห้องจะดีกว่า แล้วเธอก็เดินออกมาจากสวนสาธารณะแห่งนั้น เดินทอดน่องย้อนกลับไปตามทางเดิมเพื่อกลับไปยังอพาร์ทเม้้นท์ของเพื่อนสาว
วันต่อมา มุกดาก็ได้งานทำแล้วที่คฤหาสน์ของตระกูลเสิ่น เพราะเมื่อเพื่อนสาวนำนายจ้างสามรายมาให้เธอเลือกซึ่งเธอดีใจมากที่หนึ่งในตัวเลือกของเธอนั้นแซ่เสิ่น เธอจึงตัดสินใจเลือกทำงานกับพวกเขา และ ใช่!! เธอแน่ใจว่าคงต้องใช้คำว่าคฤหาสน์เมื่อตอนนี้มายืนอยู่ที่รั้วบ้านของตระกูลเสิ่นแล้ว แสงดาวให้สามีขับรถพาเธอมาส่งไว้ที่ตรงนี้แล้ว เขาก็ขับรถต่อไปส่งพนักงานอีกคนที่บ้านหลังอื่น เขาไม่เป็นห่วงเธอนักเพราะมุกดาพูดภาษาจีนในระดับที่ใช้ได้ เขามอบเอกสารแนะนำตัวของเธอและบัตรประจำตัวของพนักงานให้กับเธอแล้ว จึงได้ลากลับไป เมื่อคืนแสงดาวได้มาบอกเธอว่าตกลงคอนเฟิร์มกับตระกูลเสิ่นแล้ว ส่งประวัติการทำงานของมุกดาไปให้พวกเขา และพวกเขาตกลง และนั่นทำให้มุกดาดีใจอย่างมาก ช่างบังเอิญเหลือเกิน เพราะเธอเองก็กำลังตามหาพ่อที่มีชื่อว่าเสิ่นจี้เทาอยู่เช่นกัน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่คนในตระกูลเสิ่นที่เธอกำลังจะเป็นทำงานกับเขานี่หรือไม่
เพราะคนแซ่เสิ่นก็น่าจะมีมากอยู่ แต่เธอคิดว่าไหนๆ เวลาก็ล่วงผ่านมาหลายปีแล้ว เธอไม่แน่ใจว่าจะหาเขาพบหรือไม่ แต่ก็คงจะต้องตามหา ขั้นแรกการหาคนก็คงจะต้องจ้างนักสืบเอกชนและคงจะต้องใช้เงิน เธอจึงคิดว่าจะทำงานที่นี่สักพักเพื่อเก็บเงินก่อน แล้วก็ค่อยออกตามหาพ่อก็ยังไม่สาย ระหว่างนี้เธอจะตามหาเท่าที่จะทำได้ด้วยตนเองไปก่อน
“ คุณคือผู้ช่วยพยาบาลที่จะมาดูแลคุณเสิ่นใช่หรือเปล่าคะ ” สตรีวัยกลางคนที่เป็นคนที่ออกมาพบเธอเมื่อมีคนไปเปิดประตูให้กับเธอแล้วพาเข้ามาพบหญิงวััยกลางคนนี้ “ ใช่ค่ะ นี่เป็นเอกสารแนะนำตัวค่ะ ดิฉันมาจาก…… “ มุกดาส่งเอกสารแนะนำตัวของเธอให้กับหญิงวัยกลางคนตรงหน้าที่รับเอกสารทั้งหมดไปตรวจดู แล้วขยับแว่นตาเล็กน้อย เมื่ออ่านเอกสารตรงหน้าเสร็จแล้ว เธอก็เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหวานของมุกดาอย่างพอใจ ” โอเค งานของคุณคือจะต้องดูแลคุณเสิ่นที่ตอนนี้ท่านมีวัยมากแล้ว ร่างกายไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก เป็นโรคหัวใจและได้ทำการผ่าตัดรักษาแล้ว แต่ก็ยังต้องมีคนคอยดูแลที่มีความรู้ในการดูแลผู้ป่วยอยู่บ้าง และคุณคงจะได้เรียนมาทางด้านนี้ คงจะดูแลท่านได้ดีกว่าสาวใช้ประจำตัวของท่าน " มุกดายิ้มให้หญิงกลางคนตรงหน้าที่ลักษณะเหมือนกับอาจารย์ปกครองไม่ผิดเพี้ยน
“ ใช่ค่ะ ดิฉันมีใบรับรองว่าผ่านการอบรมหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยมาแล้วค่ะ ทางศูนย์จึงได้ส่งดิฉันมาค่ะ ” มุกดารับรองกับหญิงตรงหน้า “ โอเค ฉันอ่านเอกสารรับรองตัวเธอแล้ว เอาละมุกดา เธอชืื่อมุกดาสินะ ออกเสียงยากจริงเรียกอาหลินจะได้ไหม ” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถาม มุกดาพยักหน้าอย่างว่าง่าย “ เรียกอาหลินก็ได้ค่ะ จะได้ออกเสียงง่ายๆ ” หญิงวัยกลางคนพยักหน้าอย่างพอใจ “ เอาละ ฉันจะให้คนไปส่งเธอที่ห้องพักนะ เธอพักที่ห้องด้านล่างจะได้สะดวกเวลาจะต้องดูแลคุณเสิ่นในตอนกลางคืนเผื่อท่านเรียกใช้ หรือมีเรื่องด่วน ปกติแล้วสาวใช้ทุกคนมีเรือนแถวให้พักอยู่ทางด้านหลัง แต่ของเธอเป็นกรณีพิเศษ เพราะคงจะต้องดูแลคุณเสิ่นก่อนเข้านอนด้วย คงจะต้องให้พักในเรือนนี้ เอาละตามอาเหยาไปนะ จัดข้าวของแล้วฉันจะพาเธอไปแนะนำตัวกับคุณเสิ่น ”
หลังจากนั้นมุกดาก็ตามสาวใช้ที่ชื่ออาเหยาไปที่ห้องพักของเธอ ที่ห้องนั้นดูเหมือนห้องในโรงแรมมากว่าจะเป็นห้องพักในบ้าน แต่ก็น่ะ ที่นี่เป็นคฤหาสน์ของคนที่น่าจะร่ำรวยมาก ทุกอย่างในบ้านของเขาก็ย่อมจะหรูหราแม้แต่ห้องพักของลูกจ้างอย่างเธอยังเหมือนกับพักอยู่ในโรงแรมเลย มุกดาคิดขณะที่สำรวจในห้องพักของตนเอง ขณะที่ลงมือจัดเสื้อผ้าเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ในห้อง ในห้องนี้แม้แต่ห้องน้ำยังดูหรูหรามีแต่สุขภัณฑ์ราคาแพงเลย แถมยังมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ไว้ให้นอนแช่ตัวอีกด้วย แค่นี้ทุกอย่างก็เลิศเลอสำหรับเธอมากแล้ว หากเป็นคอนโดที่ห้องประมาณนี้ ราคาค่าเช่าคงจะหลักหมื่นสำหรับที่เมืองไทย แต่ถ้าเป็นค่าเช่าที่นี่ก็คงจะแพงกว่าที่เมืองไทยอย่างแน่นอน มุกดาหันไปมองรอบๆอย่างพอใจ
หลังจากแม่บ้านที่แนะนำตัวในภายหลังว่าชื่อคุณฟางเหลียน และให้เรียกเธอว่าคุณฟางก็ได้ เธอเป็นแม่บ้านที่ดูแลตระกูลเสิ่นมานานแล้ว ตั้งแต่ยังสาวๆ และเธอมีห้องพักที่เรือนแถวด้านหลังที่เดียวกับสาวใช้ หากมีอะไรก็ให้ไปตามเธอได้ที่นั่น และเธอก็ให้นามบัตรเอาไว้หนึ่งใบเผื่อมีเรื่องฉุกเฉินในเวลากลางคืนก็ให้โทรหาเธอได้ จะได้สะดวกไม่ต้องวิ่งไปตามเธอที่ห้องพักที่ด้านหลัง เมื่อได้พบกับคุณเสิ่นในห้องพักของเขาที่ด้านบน ที่เป็นห้องชุดขนาดใหญ่มาก เขาพักอยู่ทางปีกหน้า ส่วนของหลานชายพักทางปีกหลัง นายใหญ่ของที่นี่มีแค่เพียงสองคนคือคุณเสิ่นหลิวหยางผู้ที่เธอต้องดูแลนี้ และเขาก็เป็นชายชราคนเดียวกับที่เธอได้วิ่งไปช่วยพยุงเขาตอนที่เขาเซล้มลงที่สวนสาธารณะ เขายิ้มอย่างยินดีเมื่อเห็นหน้าของเธอ และขอบอกขอบใจเธออีกยกใหญ่ และนั่นทำให้มุกดาดีใจไม่น้อยที่นายจ้างเป็นคนที่เธอได้ช่วยเอาไว้เมื่อวานนี้ และเขาก็ดูเป็นคนที่ใจดีมากอีกด้วย หลังจากนั้นคุณฟางก็พาไปเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคุณเสิ่น และอธิบายกับเธอเรื่องยาประจำตัวของเขาทั้งหมดอย่างละเอียดจนเธอเข้าใจดีแล้วเพราะเขาจะต้องกินมันทุกวัน เพื่อรักษาอาการอย่างต่อเน
“ ว้าย !! ” มุกดาร้องอุทานขณะที่ร่างอวบอิ่มของเธอกำลังจะหงายหลังล้มแต่ก็มีแขนแข็งแกร่งคู่หนึ่งที่รั้งร่างของเธอเอาไว้และดึงเข้าหาตัวของเขาเพื่อพยุงเธอขึ้นจากท่าที่พร้อมจะหงายหลังล้มลมไป และนั่นทำให้ร่างอวบอิ่มของเธอแนบเข้ากับอกแกร่งที่เธอรู้แล้วว่าน่าจะเป็นผู้ชาย ขณะที่มุกดาตกใจและยกมือขึ้นเพื่อจะดันอกของเขาให้ออกห่างจากร่างของเธออยู่นั้น ดวงตาทั้งสองมองสบกันและใบหน้านั้นก็เลื่อนเข้ามาใกล้จะเพียงชั่ววินาที ริมฝีปากของมุกดาก็มีริมฝีปากหนาที่ร้อนรุ่มคู่หนึ่งเข้าบดขยี้ เธอพยายามบิดหน้าหนีการกระทำที่จาบจ้วงนั้น แต่ริมฝีปากล่างก็ถูกขบเม้มทำให้เธอเผลอร้องอุทานและนั่นทำให้ลิ้นสากที่ร้อนรุ่มนั้นสอดเข้ามาในริมฝีปากอิ่มของเธอ และเข้าทั้งดูดและเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กนุ่มนิ่มที่ไม่เคยเสียจูบให้กับชายใดมาก่อนของเธอในทันทีลิ้นสากนั่นทั้งดูดลิ้นเล็กและเข้าเกี่ยวพันมันจนมุกดาแทบจะขาดอากาศหายใจ เอวคอดของเธอถูกเขารั้งเอาไว้ ร่างกายของเธอกับผู้ชายคนนั้นแนบชิดกันจนแทบจะไม่มีช่องว่าง เขาจูบเธออย่างหิวกระหายและเธอรู้สึกถึงกลิ่นเหล้าในปากที่ร้อนรุ่มของเขา “ อื้อ…. อย่า อ่าาา อ่าา . ” เธอพยายามจะขัดขืนแต่ด้วย
มุกดาสาวน้อยจากเชียงใหม่เธอเรียนจบปริญญาตรีตามที่ตั้งใจเอาไว้แล้ว ระหว่างเรียนเธอก็ทำงานพิเศษไปด้วยเพื่อเก็บเงินเอาไว้ทำตามความฝันของเธอ และเมื่อทุกอย่างพร้อมเธอก็ตัดสินใจจะบินไปทำตามความฝันเธอด้วยการตามหาพ่อที่แท้จริง เพราะตั้งแต่เกิดมามุกดาไม่เคยพบพ่อของตนเองเลยสักครั้ง แม่ของเธอนั้นตอนแรกบอกกับเธอว่าพ่อของเธอนั้นเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เธอยังไม่คลอด แต่ต่อมาไม่นานเธอพบรูปถ่ายใบเก่าของผู้ชายคนหนึ่งและเอกสารบางอย่าง รวมถึงจดหมายที่ผู้ชายคนนั้นเคยส่งมาให้กับแม่ มันเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมกับเช็คฉบับเก่าๆ ฉบับหนึ่งที่แม่ไม่เคยนำไปขึ้นเงินเลย แม้ตัวหนังสือในเช็คฉบับนั้นลางเลือนไปตามกาลเวลา สิ่งเหล่านั้นถูกเก็บเอาไว้ในกล่องใส่คุ๊กกี้ที่แม่ของเธอเองก็อาจจะลืมมันไปแล้วว่าเก็บเอาไว้ตรงที่ใด วันนั้นเธอช่วยแม่รื้อค้นข้าวของในตู้เก็บของใบเก่าเพื่อจะเปลี่ยนเป็นใบใหม่ที่เธอเพิ่งจะซื้อต่อจากเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ย้ายข้าวของกลับบ้านไปแล้ว จึงได้ขายเฟอร์นิเจอร์ในอพาร์ทเม้นท์ที่หาซื้อมาใหม่เพิ่มเติมให้กับเธอในราคาถูก เพราะไม่อยากจะขนย้ายกลับไปที่บ้านเดิมแล้ว เมื่อมุกดาย้ายข้าวข้าวของในตู้ใบเก่าไปใส่ในตู้
“ ว้าย !! ” มุกดาร้องอุทานขณะที่ร่างอวบอิ่มของเธอกำลังจะหงายหลังล้มแต่ก็มีแขนแข็งแกร่งคู่หนึ่งที่รั้งร่างของเธอเอาไว้และดึงเข้าหาตัวของเขาเพื่อพยุงเธอขึ้นจากท่าที่พร้อมจะหงายหลังล้มลมไป และนั่นทำให้ร่างอวบอิ่มของเธอแนบเข้ากับอกแกร่งที่เธอรู้แล้วว่าน่าจะเป็นผู้ชาย ขณะที่มุกดาตกใจและยกมือขึ้นเพื่อจะดันอกของเขาให้ออกห่างจากร่างของเธออยู่นั้น ดวงตาทั้งสองมองสบกันและใบหน้านั้นก็เลื่อนเข้ามาใกล้จะเพียงชั่ววินาที ริมฝีปากของมุกดาก็มีริมฝีปากหนาที่ร้อนรุ่มคู่หนึ่งเข้าบดขยี้ เธอพยายามบิดหน้าหนีการกระทำที่จาบจ้วงนั้น แต่ริมฝีปากล่างก็ถูกขบเม้มทำให้เธอเผลอร้องอุทานและนั่นทำให้ลิ้นสากที่ร้อนรุ่มนั้นสอดเข้ามาในริมฝีปากอิ่มของเธอ และเข้าทั้งดูดและเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กนุ่มนิ่มที่ไม่เคยเสียจูบให้กับชายใดมาก่อนของเธอในทันทีลิ้นสากนั่นทั้งดูดลิ้นเล็กและเข้าเกี่ยวพันมันจนมุกดาแทบจะขาดอากาศหายใจ เอวคอดของเธอถูกเขารั้งเอาไว้ ร่างกายของเธอกับผู้ชายคนนั้นแนบชิดกันจนแทบจะไม่มีช่องว่าง เขาจูบเธออย่างหิวกระหายและเธอรู้สึกถึงกลิ่นเหล้าในปากที่ร้อนรุ่มของเขา “ อื้อ…. อย่า อ่าาา อ่าา . ” เธอพยายามจะขัดขืนแต่ด้วย
หลังจากแม่บ้านที่แนะนำตัวในภายหลังว่าชื่อคุณฟางเหลียน และให้เรียกเธอว่าคุณฟางก็ได้ เธอเป็นแม่บ้านที่ดูแลตระกูลเสิ่นมานานแล้ว ตั้งแต่ยังสาวๆ และเธอมีห้องพักที่เรือนแถวด้านหลังที่เดียวกับสาวใช้ หากมีอะไรก็ให้ไปตามเธอได้ที่นั่น และเธอก็ให้นามบัตรเอาไว้หนึ่งใบเผื่อมีเรื่องฉุกเฉินในเวลากลางคืนก็ให้โทรหาเธอได้ จะได้สะดวกไม่ต้องวิ่งไปตามเธอที่ห้องพักที่ด้านหลัง เมื่อได้พบกับคุณเสิ่นในห้องพักของเขาที่ด้านบน ที่เป็นห้องชุดขนาดใหญ่มาก เขาพักอยู่ทางปีกหน้า ส่วนของหลานชายพักทางปีกหลัง นายใหญ่ของที่นี่มีแค่เพียงสองคนคือคุณเสิ่นหลิวหยางผู้ที่เธอต้องดูแลนี้ และเขาก็เป็นชายชราคนเดียวกับที่เธอได้วิ่งไปช่วยพยุงเขาตอนที่เขาเซล้มลงที่สวนสาธารณะ เขายิ้มอย่างยินดีเมื่อเห็นหน้าของเธอ และขอบอกขอบใจเธออีกยกใหญ่ และนั่นทำให้มุกดาดีใจไม่น้อยที่นายจ้างเป็นคนที่เธอได้ช่วยเอาไว้เมื่อวานนี้ และเขาก็ดูเป็นคนที่ใจดีมากอีกด้วย หลังจากนั้นคุณฟางก็พาไปเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคุณเสิ่น และอธิบายกับเธอเรื่องยาประจำตัวของเขาทั้งหมดอย่างละเอียดจนเธอเข้าใจดีแล้วเพราะเขาจะต้องกินมันทุกวัน เพื่อรักษาอาการอย่างต่อเน
เมื่ออิ่มท้องแล้วมุกดาจึงได้เดินเล่นชมบ้านเมืองของเขา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มีโอกาสได้เดินทางมาเที่ยวที่เมืองจีน มันเป็นความฝันของเธอมานานแล้วนับจากค้นพบจดหมายและเอกสารในกล่องคุ๊กกี้ของผู้เป็นแม่ ขณะที่เดินทอดน่องมองดูวิถีชีวิตของผู้คนและร้านรวงตลอดสองข้างทางก็มองเห็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า เธอจึงได้เดินข้ามถนนตรงไปที่ถนนสาธารณะแห่งนั้น ในสวนนี้มีบึงน้ำขนาดใหญ่มาก มีนกกระยางบินไปมา และบางตัวก็กำลังเดินหาจับปลาอยู่ไม่ไกลจากตลิ่งมากนัก สนามกว้างเต็มไปด้วยสีเขียวขจีของผืนหญ้าที่ทอดยาวเป็นผืนใหญ่ มองดูสบายตายิ่งนัก และที่สวนนี้ก็มีทั้งต้นไม้ใหญ่และต้นไม้เล็ก รวมถึงดอกไม้สีสันหลากหลายที่จัดเอาไว้เป็นหมวดหมู่ มองดูสวยงามอย่างยิ่ง มุกดาเดินดูรอบๆ พอเมื่อยขาก็ไปนั่งพักเหนื่อยที่เก้าอี้ริมทาง เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้เฝ้ามองดูผู้คนที่มาเดินออกกำลังกาย บ้างก็พาเด็กมาเดินเล่นและมาเล่นที่สนามเด็กเล่นของเด็กๆที่มีของเล่นของเด็กๆอยู่มุมหนึ่งของสวน และผู้สูงอายุหลายๆกลุ่มก็มาจับกลุ่มนั่งเล่นหมากรุกและบางคนก็มาส่งเสียงเชียร์เพื่อนฝูงที่กำลังคร่ำเคร่งเดินหมากรุกอยู่อย่างใจจดใจจ่อ มีเสียงห
มุกดาสาวน้อยจากเชียงใหม่เธอเรียนจบปริญญาตรีตามที่ตั้งใจเอาไว้แล้ว ระหว่างเรียนเธอก็ทำงานพิเศษไปด้วยเพื่อเก็บเงินเอาไว้ทำตามความฝันของเธอ และเมื่อทุกอย่างพร้อมเธอก็ตัดสินใจจะบินไปทำตามความฝันเธอด้วยการตามหาพ่อที่แท้จริง เพราะตั้งแต่เกิดมามุกดาไม่เคยพบพ่อของตนเองเลยสักครั้ง แม่ของเธอนั้นตอนแรกบอกกับเธอว่าพ่อของเธอนั้นเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เธอยังไม่คลอด แต่ต่อมาไม่นานเธอพบรูปถ่ายใบเก่าของผู้ชายคนหนึ่งและเอกสารบางอย่าง รวมถึงจดหมายที่ผู้ชายคนนั้นเคยส่งมาให้กับแม่ มันเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมกับเช็คฉบับเก่าๆ ฉบับหนึ่งที่แม่ไม่เคยนำไปขึ้นเงินเลย แม้ตัวหนังสือในเช็คฉบับนั้นลางเลือนไปตามกาลเวลา สิ่งเหล่านั้นถูกเก็บเอาไว้ในกล่องใส่คุ๊กกี้ที่แม่ของเธอเองก็อาจจะลืมมันไปแล้วว่าเก็บเอาไว้ตรงที่ใด วันนั้นเธอช่วยแม่รื้อค้นข้าวของในตู้เก็บของใบเก่าเพื่อจะเปลี่ยนเป็นใบใหม่ที่เธอเพิ่งจะซื้อต่อจากเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ย้ายข้าวของกลับบ้านไปแล้ว จึงได้ขายเฟอร์นิเจอร์ในอพาร์ทเม้นท์ที่หาซื้อมาใหม่เพิ่มเติมให้กับเธอในราคาถูก เพราะไม่อยากจะขนย้ายกลับไปที่บ้านเดิมแล้ว เมื่อมุกดาย้ายข้าวข้าวของในตู้ใบเก่าไปใส่ในตู้