คุณเหนือเริ่มจูบหนักขึ้นและมือของเขาก็เริ่มไต่ไปมาเหมือนปลาหมึก ฉันจึงต้องรีบหยุดทุกอย่างเอาไว้ ก่อนที่มันจะเลยเถิดด้วยการดันแผงอกแกร่งให้ออกห่าง“รินเป็นประจำเดือนนะคะ” ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องให้ฉันพูดคำนี้ซ้ำอยู่เรื่อย“ฉันก็อยากจะลองว่ามันจะรู้สึกยังไง” คุณเหนือกระตุกยิ้มมุมปากแล้วโน้มใบหน้าลงมาอีกครั้งเขาพูดออกมาแบบนั้นมันน่าเกลียดจริงๆ นะ บ้าไปแล้วหรือยังไง“บะ บ้าเหรอคะ” ครั้งนี้ฉันรีบขยับตัวหนี กลัวว่าคุณเหนือจะทำอย่างที่พูดจริงๆหมับ!! คุณเหนือโอบเอวของฉันแล้วก้มหน้าลงมาใกล้ๆ จากนั้นเขาก็พูด “ฉันรอได้”“ไม่เห็นต้องรอเลยนี่คะ รินก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวของคุณเหนือสักหน่อย” ฉันแกะมือคุณเหนือออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย“แต่ฉันต้องการแค่เธอ” คุณเหนือจ้องฉันสายตาดุดัน “เลิกพูดสักทีว่าฉันต้องไปหาผู้หญิงคนไหน”“…….”คุณเหนือปล่อยกอดออก ฉันพูดแค่นั้นถึงกับต้องโกรธเลยหรือไง“วันนี้ฉันจะออกไปธุระข้างนอก”“ค่ะ”“เธอต้องไปกับฉัน”“ปะ ไปทำไมคะ รินไม่อยากถูกพนักงานคนอื่นมอง…” จริงๆ ตอนนี้พนักงานในบริษัทคนอื่นๆ ก็คงมองฉันในด้านลบไปแล้วแหละคุณเหนือไม่ได้บอกอะไรแถมยังไล่ให้ฉันมาเก็บของบนโต๊ะทำงานเพื่
ริมฝีปากของฉันถูกคุณเหนือดูดเม้มช้าๆ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ บรรจงจูบสลับกับขบเม้มและไล้เลียไปทั่วกลีบปากอย่างอ่อนโยน“เอาลิ้นออกมาสิ”ฉันค่อยๆ แลบลิ้นออกมาตามคำสั่ง คุณเหนือจึงใช้เรียวลิ้นของตัวเองตวัดลงมาเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นของฉัน ก่อนที่เขาจะดูดดุนมันเบาๆ แล้วสอดแทรกเข้ามาภายในโพรงปาก“อื้ม” เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นในลำคอ พร้อมกับมือที่สอดเข้ามาใต้แผ่นของฉันเพื่อปลดตะขอเสื้อใน แล้วเลื่อนลงมาถอดแพนตี้ข้างล่างเพียงไม่นานฉันก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเขาริมฝีปากหนาผละออกไป พร้อมๆ กับที่คุณเหนือโน้มใบหน้าลงมาขบกัดและทิ้งรอยแดงเอาไว้ที่ลำคอของฉัน“พะ พอแล้วค่ะที่คอรินมีแต่รอยแดงเต็มไปหมดแล้ว” ถึงจะห้ามออกไปแต่คุณเหนือก็ไม่คิดจะเชื่อฟัง แถมเขายังทำเป็นหูทวนลมแล้วพรมจูบไปทั่วใบหน้าคมคายเลื่อนต่ำลงมาจนอยู่ในระดับเดียวกันกับหน้าอก สองมือหนากอบกุมประคองเต้านมอวบ ก่อนจะใช้เรียวลิ้นละเลงเลียยอดถันสลับกันอย่างมูมมาม“อ๊า~” ฉันแอ่นกายขึ้นแล้วครางออกมาเบาๆ ความเสียวซ่านที่กำลังก่อตัวขึ้นพรากสติของฉันไปจนสิ้น ถึงแม้จะถูกฟันคมงับลงมาที่หน้าอกแรงๆ หลายต่อหลายจุด ทว่าฉันกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บ ตรงกันข้าม ฉันเสียวซ่า
มาถึงที่ไทยคุณเหนือก็ให้คนขับรถมาส่งฉันกับน้องสาวที่คอนโดเพราะเขามีธุระด่วนต้องรีบไปจัดการ คอนโดนี้ที่คุณเหนือซื้อให้ แล้วเขาก็บอกว่าจะมารับแต่ฉันปฏิเสธไปพร้อมกับบอกว่าจะนั่งแท็กซี่กลับเอง“โหย! พี่รินทำไมห้องถึงกว้างแล้วก็สวยขนาดนี้ล่ะคะ” นาลินหันขวับมามองหน้าฉัน “พี่รินเอาเงินที่ไหนมาซื้อคอนโดหรูขนาดนี้อยู่”“พะ พี่ทำงานดีคุณเหนือก็เลยยกห้องนี้ให้ เขาเอ็นดูพี่น่ะ”“คุณเหนือดูเป็นคนใจดีจังเลยนะคะพี่ริน ขนาดพี่รินเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานเขายังใจดีมาก”“อะ อื้อ” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่านาลินไม่ได้สงสัยอะไรมากไปกว่านี้“ว่าแต่ทำไมในห้องไม่มีของใช้หรือพวกเสื้อผ้าของพี่รินเลยล่ะคะ”“พี่ คือพี่เอาลงไปซักไว้น่ะ”จบคำพูดของฉันนาลินก็เดินไปเปิดดูตู้เสื้อผ้า “นี่พี่รินซักผ้าหมดตู้เลยเหรอคะ”“อื้อ พอดีนานๆ พี่จะซักที่น่ะ ช่วงนี้ก็ยุ่งๆ ด้วย”“อ๋อ”“คืนนี้หนูอยากนอนกับพี่ริน” นาลินเดินมากอดฉันแล้วเงยหน้าขึ้นมองอย่างออดอ้อน“ขอบคุณนะคะที่ทำให้หนูกลับมามีชีวิตที่สดใสอีกครั้ง ^_^”“พี่ก็ขอบคุณเธอเหมือนกันนะที่เข้มแข็งสู้กับโรคร้ายจนชนะได้ ^_^”“หมอที่นั่นเขาเก่งมากจริงๆ ค่ะ แถมยังดูแลหนู
ฉันเดินออกมาหน้าห้องแล้วปิดประตู เพราะกลัวว่านาลินจะได้ยินเข้า“คุณเหนือกลับไปก่อนนะคะ รินขอร้อง” สีหน้าของคุณเหนือในตอนนี้เหมือนว่าเขากำลังเมินคำขอร้องของฉันอยู่“คุณเหนือ”“ฉันง่วง” เขาตอบมาแค่สั้นๆ“ง่วงแล้วทำไมไม่ไปนอนที่บ้านล่ะคะ จะมาหารินทำไม”“ฉันนอนที่นี่ไม่ได้ ?”“มะ ไม่ได้ค่ะ รินบอกแล้วไงว่านาลินอยู่ในห้อง”“แต่คอนโดนี้ฉันเป็นคนจ่าย ฉันก็มีสิทธิ์จะนอน”“แต่ไม่ใช่เวลาแบบนี้นะคะ” คุณเหนือเอื้อมมือจะมาเปิดประตูห้อง ฉันจึงรีบผลักมือเขาออก “คุณเหนือไม่เข้าใจรินเลยใช่ไหมคะ”“หรือเธอจะให้ฉันเป็นคนพูดกับน้องสาวของเธอเอง” คุณเหนือหยุดพูดจากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าลงมา “…ว่าเธอเป็นอะไรกับฉัน”“มะ หมายความว่ายังไงคะ”ลมหายใจร้อนผ่าวของคุณเหนือกระทบลงมาใส่ใบหน้าของฉัน “นี่เธอไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งกันแน่ว่าริน”ฉันกำมือทั้งสองข้างแน่นพร้อมกับเม้มปาก หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเลยตอนนี้“ยะ อย่าทำแบบนั้นเลยค่ะ”“ถ้าไม่อยากให้ฉันพูดก็เปิดประตูห้อง”ตอนนี้ฉันต้องเลือก ไม่ว่าจะเลือกทางไหนมันก็ไม่เป็นผลดีทั้งนั้น เฮ้อ…สรุปแล้วฉันก็ต้องเลือกเปิดประตูให้คุณเหนือเข้ามาในห้อง ทางเลือกนี้คงจะดี
หลังจากเลิกงานคุณเหนือก็พาฉันมาที่บ้านของเขา เขากลายเป็นคนเงียบขรึมอีกแล้ว ตั้งแต่ออกจากบริษัทจนกระทั่งถึงบ้านไม่พูดอะไรเลยสักคำ“รินอยู่ได้ถึงหกโมงเย็นนะคะ เดี๋ยวนาลินจะสงสัยเอา” ฉันเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องของคุณเหนือแล้วคำพูดของฉันทำให้คุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนที่ร่างของฉันจะถูกดันให้มาชนเข้ากับกำแพงห้องคุณเหนือใช้มือข้างหนึ่งยกขึ้นมายันกับกำแพงห้องไว้ ส่วนมืออีกข้างของเขาก็จับปลายคางฉันให้เงยขึ้นฉันมองคุณเหนืออย่างไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไร และในตอนนี้สายตาของเขาก็กำลังมองฉันอยู่ เราทั้งคู่ต่างจ้องมองกันอยู่นาน จนในที่สุดคุณเหนือก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน“สักวันน้องสาวของเธอก็ต้องรู้ คิดว่าจะปิดได้ตลอดหรือไง”“แต่ตอนนี้รินยังไม่พร้อมจะบอกนี่คะ”“แค่พูดว่าเป็นแฟนฉันมันยากตรงไหน ?”ตึกตัก! ตึกตัก! คำพูดของคุณเหนือทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงอีกแล้ว“กะ ก็มันไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ รินไม่กล้าพูดหรอกค่ะ”“หรือเธออยากจะเป็นแฟนฉันจริงๆ ?”“มะ ไม่ค่ะ รินไม่กล้าคิดแบบนั้น…” ฉันรีบหลบสายตาเมื่อถูกถามแบบนั้นคำตอบของฉันมันขัดจากความรู้สึก ทั้งที่จริงแล้วฉันต้องการ แต่ก็ต้องพูดปฏิเสธออกไป
แกร็ก! เสียงเปิดประตูห้องเข้ามา ทำให้ฉันหันไปมองและได้เห็นว่าคนที่เดินเข้ามาในห้องคือคุณเหนือ “ขะ เข้ามาทำไมคะ ออกไปนะ” ฉันออกปากไล่ เมื่อคุณเหนือเดินมาหยุดข้างๆ กับฉัน “คิดถึงเมีย” พูดจบคุณเหนือก็ดึงฉันเข้าไปสวมกอดแน่น นี่เขาดูไม่ออกเลยหรือไงว่าสถานการณ์ตอนนี้มันไม่ปกติน่ะ “เธอบอกน้องสาวหรือยัง ว่าเธอเป็นแฟนของฉัน”“คุณเหนือ” ฉันเบิกตากว้างเมื่อเขาพูดมาแบบนั้น ฉันไปตกลงตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาพูดเองทั้งนั้น พอเห็นคุณเหนือกอดแล้วพูดกับฉันแบบนั้นนาลินก็แสดงสีหน้าออกมาว่าไม่พอใจเอามากๆ ทำให้ฉันต้องรีบผลักคุณเหนือให้ออกห่าง เมื่อฉันผลักคุณเหนือออกไปแล้วนาลินเธอก็เดินมาหยุดข้างๆ กับคุณเหนือแล้วพูด “หนูรู้ว่าพี่รินไม่ใช่แฟนของคุณเหนือ พี่รินขายตัวให้คุณเหนือ”คุณเหนือเงียบ เขามองหน้านาลินแต่ไม่ได้พูดอะไร นาลินจึงพูดต่อ “หนูยังเด็กกว่า และก็สดกว่าพี่รินนะคะ”ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองว่าจะได้ยินนาลินพูดแบบนั้นออกมา ตั้งแต่เด็กจนโตฉันมักจะตามใจน้องสาวตลอด ของเล่นทุกชิ้นของฉันถ้านาลินอยากได้ฉันก็จะยกให้ ถึงนาลินจะเป็นเด็กเอาแต่ใจในบางครั้ง แต่ไม่ใช่แบบตอนนี้ “แล้วยังไง ?” คุณเหนือถามกั
คุณเหนือลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหาฉัน แต่สิ่งที่ฉันทำคือถอยหนี ฉันรู้ใจตัวเอง รู้ดีว่าต้องการเขา และมันก็ดีใจมากที่ได้ยินความในใจแบบนั้น แต่ก็อย่างที่ฉันพูดไปว่าในตอนนี้อะไรๆ มันก็ยังไม่ลงตัว“แค่จะกอดก็ไม่ได้ ?” คุณเหนือเลิกคิ้วถาม พอฉันไม่ตอบหัวคิ้วของเขาก็ค่อยๆ ขมวดเข้าหากันเป็นปม “จะเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่”“คุณเหนือกลับไปก่อนนะคะ ถ้าคุณเหนืออยู่ที่นี่นาลินคงจะยิ่งโกรธ”“ฉันรู้ว่าเธอรักน้องสาว แต่การที่เธอไล่ฉันแบบนี้มันเหมือนเธอไม่ได้รักฉัน” พูดจบคุณเหนือก็ทำหน้าเย็นชาใส่เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมา จากนั้นก็เดินไปที่ริมระเบียง แล้วจุดบุหรี่มวนสูบฉันไม่รู้จะต้องอธิบายยังไงให้คุณเหนือเข้าใจ ฉันอยากให้เขาเข้าใจโดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรเลยท่าทางของคุณเหนือและสายตาของเขา บ่งบอกว่าเขากำลังตัดพ้อฉันอยู่ ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินไปที่ริมระเบียงห้อง“มาทำไมกลับเข้าห้องไป” คุณเหนือไล่ฉันทันที เขาใช้มือที่คีบบุหรี่อยู่ไพล่ไปด้านหลังของตัวเอง“รินรอกลับเข้าห้องพร้อมคุณเหนือค่ะ”“ฉันสูบบุหรี่ จะมายืนเฝ้าทำไม”“ก็สูบต่อสิคะ”คุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เขา
#บริษัท คำพูดของนาลินทำให้ฉันเครียดแทบไม่มีกระจิตกระใจจะทำงาน เพราะสมองมันเอาแต่คิดฟุ้งซ่านจนแทบจะระเบิด ฉันไม่ตอบอะไรกับนาลินทั้งนั้น และฉันก็ไม่สามารถเลือกได้ จะว่าฉันเห็นแก่ตัวก็ได้ ฉันไม่ต้องการที่จะปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง ฉันอยากจะทำตามที่นาลินขอ แต่ฉันรู้ตัวเองดีว่าไม่มีทางปฏิเสธคุณเหนือได้ ฉันรักเขา….“ดอกไม้ครับ” ฉันที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ก็ต้องสะดุ้งเพราะ จู่ๆ ก็มีคนเอาช่อกุหลาบมายื่นให้ ดูจากการแต่งตัวแล้วคงจะเป็นพนักงานที่ร้าน “ขะ ของฉันเหรอคะ” ฉันถามกลับผู้ชายที่ยื่นช่อกุหลาบมาให้“ใช่ครับ”เมื่อฉันรับช่อกุหลาบมาผู้ชายคนส่งก็รีบออกไป กุหลาบสีแดงสดส่งกลิ่นเฉพาะตัวของมัน ฉันพยายามมองหาโน้ตเผื่อจะมีแนบมาด้วยแต่ก็ไม่มี หลังจากที่มีคนมาส่งดอกไม้ให้ฉันไม่นานคุณเหนือก็เดินมา ฉันจึงรีบเอาช่อกุหลาบแอบไว้เพราะกลัวว่าจะถูกเขาใจผิด คุณเหนือเดินมาหยุดที่โต๊ะทำงานของฉัน จากนั้นเขาก็ถาม “ชอบไหม ?”“…คะ ?” ฉันขมวดคิ้วเป็นปม มาถึงก็ถามว่าชอบไหมเลย ฉันจะไปเข้าใจได้ยังไง “กุหลาบช่อนั้น ทำไมวางไว้แบบนั้น”“อะ เอ่อคือ รินไม่รู้ว่าของใคร ไม่รู้ว่าใครส่งให้จริงๆ นะคะ” ฉันต้องรีบปฏิเสธอ