ผู้ชายคนนั้นเขามองหน้าฉันแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะตวัดสายตามองคุณเหนือแล้วพูด “เธอไม่ได้บอกมึง ?”“เธอมีอะไรปิดบังฉัน ?” คุณเหนือหันมาถามกับฉันเสียงแข็ง ในตอนนี้ฉันได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ ไม่เข้าใจว่าผู้ชายตรงหน้าต้องการอะไร ทำไมเขาถึงได้พูดแบบนั้นออกมา “อ่า! วารินอย่าลืมข้อเสนอของฉันแล้วกัน”ขะ เขารู้จักชื่อฉันด้วย ผู้ชายคนนี้อันตรายมากกว่าที่คิดเอาไว้“ไอ้ติณ!!” คุณเหนือกัดฟันพูด ฉันถึงได้รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าชื่อ ‘ติณ’หมับ!! ฝ่ามือใหญ่คว้ามาจับแขนของฉันแล้วออกแรงกระชากอย่างแรง ทำให้ร่างของฉันเซจนเกือบจะล้ม“คุณเหนือรินเจ็บ โอ๊ย~”ในตอนนี้คุณเหนือไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เขาลากตัวฉันออกมาจากตรงนั้น แถมไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าในตอนนี้จะมีใครมองเราบ้าง เขากำลังโกรธจนควบคุมสติตัวเองไม่ได้ “คุณเหนือใจเย็นๆ ก่อนนะคะ” ฉันพยายามบอกเผื่อคุณเหนือจะรับฟังบ้าง แต่เสียงของฉันมันไร้ประโยชน์ คุณเหนือลากตัวฉันมาที่ลานจอดรถ เขาเปิดประตูทางเบาะโดยสารด้านหลังแล้วเหวี่ยงร่างของฉันเข้าไปด้านใน ก่อนจะเอาตัวเองเข้ามาในรถแล้วปิดประตู ยังไม่ทันที่จะหายเจ็บตรงข้อแขนที่ถูกกระชาก คุณเหนือก็กระชากอีกครั้ง “เธอปิดบังอ
หลังจากเก็บของเสร็จคุณเหนือพาฉันกลับมาที่บ้าน ก่อนจะสั่งลูกน้องให้เอาของๆ ฉันไปเก็บไว้ที่ชั้นสี่ ซึ่งตัวคุณเหนือเองอยู่ชั้นห้าฉันเข้าใจว่าเขาต้องการความเป็นส่วนตัว ฉันเองก็เหมือนกัน“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวถึงเวลาฉันจะให้คนไปตามมากินข้าว”“แล้วคุณเหนือจะไปไหนเหรอคะ”“ขึ้นห้อง”คุณเหนือเดินเข้าไปในลิฟต์ฉันจึงรีบวิ่งตามเขาเข้าไปแล้วกดที่ชั้นสี่“พะ พรุ่งนี้รินเอารถไปเองนะคะ”“อื้ม”จู่ๆ ผู้ชายคนนี้เขาก็เงียบขรึม ฉันตามอารมณ์ไม่ทันอีกแล้วล่ะสิเมื่อประตูลิฟต์ถูกเปิดออกฉันก็เดินออกมาก่อนที่ประตูลิฟต์นั้นจะปิดลง ภายในชั้นสี่มีห้องนอนแค่ห้องเดียว และทุกอย่างถูกจัดคล้ายๆ กับชั้นห้าพอเข้ามาในห้องฉันก็จัดการเอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าไปแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้า เสร็จแล้วก็เตรียมตัวจะอาบน้ำ แต่จู่ๆ ก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ฉันทำให้คุณเหนือไม่พอใจ หากปล่อยไว้คงไม่ใช่เรื่องที่ดี เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันจึงถอดชุดนักศึกษาที่ตัวเองสวมใส่ออก แล้วหยิบชุดคอสเพลย์ที่คุณเหนือเคยชื้อให้ขึ้นมาวางเรียงกันบนเตียงฉันยืนเลือกอยู่นานว่าจะใส่ชุดไหนดี จนกระทั่งตัดสินใจหยิบชุดคอสเพลย์ที่มันคล้ายคลึงกับชุดนักเรียน
ใบหน้าของฉันมันชาเมื่อได้ยินคำพูดที่คุณเหนือเพิ่งพ่นมันออกมา“ถ้าอย่างนั้นก็ให้รินกลับไปอยู่ที่คอนโดเหมือนเดิมสิคะ”“ทำไม ?” คุณเหนือขมวดคิ้ว สายตาของเขามันดุดันมากกว่าทุกครั้ง“ที่คุณเหนือให้รินมาอยู่ด้วย มันก็เหมือนการล้ำเส้นไม่ใช่เหรอคะ”“ให้เธอมาอยู่ด้วย กับการที่เธอมายุ่งเรื่องของฉัน มันไม่เหมือนกันนะวาริน”ฉันลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ มันมีความรู้สึกบางอย่างที่กำลังสั่งการในสมอง ฉันไม่อยากให้คุณเหนือไปเจอกับผู้หญิงคนนั้นที่โทรมาหาเขา…ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นยืนจากน้ำทั้งที่ในตอนนี้ร่างกายยังเปลือยเปล่าอยู่ พอคุณเหนือเห็นเขาก็เบือนหน้าหนีทำเหมือนไม่อยากจะมอง ทั้งที่เมื่อกี้เราเพิ่งจะทำอะไรๆ ด้วยกันอยู่“ถ้ารินขอให้คุณเหนืออยู่กับริน คุณเหนือจะอยู่ไหมคะ”“……” คำถามของฉันมันไร้ซึ่งคำตอบจากผู้ชายตรงหน้าพอเห็นเขาเงียบหัวใจดวงน้อยของฉันมันก็เริ่มเต้นรัวเป็นจังหวะที่เจ็บปวด ที่ผ่านมาฉันไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้รักเขาได้เลย และในตอนนี้ฉันก็กำลังหลงรักผู้ชายที่ไม่ควรรักฉันเดินไปสวมกอดคุณเหนือไว้แน่น ถึงแม้จะรู้ดีว่าความรู้สึกแบบนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้น และรู้ดีว่าสักวันฉันต้องเจ็บปวดเพราะสถานะที่เป็
ฉันก้มหน้าลงพยายามบอกกับตัวเองว่าอย่ามอง ห้ามมองคุณเหนือกับผู้หญิงคนนั้นเด็ดขาด แต่สุดท้ายแล้วก็ห้ามตัวเองไม่ได้ ฉันเงยหน้าขึ้นและก็ยังเห็นผู้หญิงคนนั้นเธอกอดคุณเหนืออยู่ แต่คุณเหนือก็ยังไม่ยอมกอดตอบ มันก็ดีแล้ว หากว่าฉันเห็นคุณเหนือกอดเธอตอบ ความรู้สึกมันคงจะเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกหลายเท่า ในหัวของฉันมันมีแต่คำถาม เธอคือใคร มีสิทธิ์อะไรมากอดเขาแบบนั้น เธอสำคัญกับคุณเหนือหรือเปล่า สายตาของฉันมองภาพตรงหน้าจนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นเธอผละกอดออก เธอพูดอะไรบางอย่างพร้อมกับหยดน้ำตาที่มันไหลลงมาอาบแก้ม สายตาของคุณเหนือที่มองเธอไม่ได้ดุร้ายแบบที่มองฉัน เหมือนกับว่าผู้หญิงคนนี้เธอคือคนสำคัญของเขา….คุณเหนือหันมองมาตรงที่ฉันนั่ง แววตาที่แสนเย็นชาไร้ความรู้สึกนั้นกำลังทำให้ฉันเจ็บปวด ไม่รู้ว่าเผลอกำมือแน่นตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีมันก็สั่นไปหมดทั้งตัว ฉะ ฉันควรจะออกไปจากรถดีไหม ไม่อยากให้เขาทั้งคู่อยู่ด้วยกันแบบนั้นอีกพอคิดได้แบบนั้นมันก็มีคำถามเกิดขึ้นว่าฉันมีสิทธิ์อะไร ตัวฉันเองไม่มีสิทธิ์ไปห้ามไม่ว่าคุณเหนือจะอยู่กับใคร คำว่าพิเศษที่เขามอบให้มันไม่ได้หมายความว่าฉันจะมีสิทธิ์ ก็แค่พิเศษ แ
ฉันมองคุณเหนืออย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำกับฉันขนาดนี้“จะยืนอยู่ทำซากอะไรอีกฮะ!!”ฉันกลั้นน้ำตาเอาไว้จากนั้นก็รีบวิ่งขึ้นห้อง หากให้ยืนต่อไปก็คงจะถูกคุณเหนือสาดคำพูดร้ายๆ ใส่ไปมากกว่านี้พอเข้ามาในห้องนอนสิ่งแรกที่ทำคือเข้าห้องน้ำมาล้างแผลที่ถูกเศษแก้วกระเด็นใส่ที่เท้าของตัวเอง เลือดไหลออกมาไม่ยอมหยุดแถมปากแผลยังกว้างอีกด้วย“อึก~” ในขณะที่กำลังล้างแผลอยู่น้ำตามันก็ไหลลงมาอาบแก้ม มันทั้งเจ็บที่แผลและเจ็บที่หัวใจฉันทำผิดอะไรนักหนาเขาถึงได้ใจร้ายกับฉันนักแผลของฉันดูแล้วคงต้องเย็บแน่ๆ แต่ฉันคงไม่มีหน้าลงไปขอให้คุณเหนือพาไปโรงพยาบาลหรอก ในตอนนี้พึ่งตัวเองคงดีที่สุดฉันปาดน้ำตาออกจากแก้ม จากนั้นก็หยิบกุญแจรถเพื่อที่จะขับไปที่โรงพยาบาล โดยที่คุณเหนือยังดื่มอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองฉันที่เดินผ่านแต่ไม่ได้ปริปากถามอะไรสักคำ ทั้งที่ฉันเดินจนแทบจะไม่ไหว มันปวดที่เท้าเอามากๆ#โรงพยาบาลไม่เคยคิดว่าจะต้องได้มาโรงพยาบาลเวลาเกือบจะตีสามแบบนี้ ดีหน่อยที่ไม่ต้องรอคิวมาถึงบอกว่าเป็นอะไรมาพยาบาลก็ให้มารอทำแผลในห้องเลย“พี่ต้องเต” ฉันเรียกชื่อคนที่เดินมาหยุดตรงหน้า พี่ต้องเตเป็นเพื่อนในกลุ่
น้ำมนต์เธอมองฉันแล้วก็จับมือของฉันพร้อมกับบีบเบาๆ ก่อนจะพูด “ฉันรู้นะว่าเธอฝืนยิ้มอยู่น่ะ”“……” เมื่อถูกท้วงแบบนั้นหยดน้ำตามันก็ไหลลงมาอาบแก้ม ไม่อาจจะกลั้นไว้ได้อีกต่อไป ฉันจึงรีบยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาทันที มันรู้สึกอายที่ต้องมาร้องไห้แบบนี้ต่อหน้าคนอื่น“ฉันว่าตอนนี้เฮียคงไม่ได้คิดอะไรกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว”“แล้วคุณเหนือก็ไม่ได้คิดอะไรกับฉันด้วย ฉันรู้ตัวเองดีว่าสถานะคืออะไร ฉันไม่ควรรู้สึกอะไรทั้งนั้น”“รินอย่าพูดแบบนั้นสิ ฉันว่าเฮียออกจะหวงเธอมากๆ เลยนะ”“เขาไม่ได้หวงเพราะรู้สึกดีกับฉัน ที่หวงเพราะฉันคือของเล่นชิ้นโปรดของเขาต่างหาก”“…ริน” น้ำมนต์เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อได้ฟังคำตอบจากฉันฉันรู้ทุกอย่างและฉันก็ไม่ได้อยากจะหลอกตัวเองว่าคุณเหนือรู้สึกดี ตอนนี้ฉันแค่ต้องพยายามหยุดคิด หยุดฟุ้งซ่าน หยุดทุกความรู้สึกเอาไว้“ฉันเห็นใจเธอจังวาริน”“…..”“เอางี้ดีไหมฉันแนะนำเพื่อนของฉันให้ ว่าที่นักบินเชียวนะ”ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ผู้หญิงที่เปื้อนมลทินแบบฉันไม่เหมาะสมกับใครทั้งนั้น”“รินทำไมถึงดูถูกตัวเองแบบนั้นล่ะ เราทุกคนมีคุณค่าของตัวเองนะ”“เธอก็รู้ว่าตอนนี้ฉันเป็นอะไร ถ้าหมดสัญญากับคุณเ
ฉันกัดริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือด รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อหลุดปากพูดบ้าๆ แบบนั้นออกไปคุณเหนือลุกขึ้นมาจากเตียง เขากระชากแขนฉันอย่างแรงเพื่อจะเอาคำตอบ “ฉันถามว่าเธอหมายถึงใคร!!”“ระ รินเจ็บ” ฉันพยายามแกะมือคุณเหนือออก แต่เขากลับจ้องเขม็งแล้วบีบแขนฉันแรงขึ้น “คุณเหนือรินเจ็บ”“เธอรู้อะไรมา ?”“น้ำมนต์เธอบอกรินว่าผู้หญิงที่ชื่อลดาเธอเคยเป็นคนที่คุณเหนือรัก” ฉันพูดตามความจริง ในเมื่อหลุดพูดออกมาแบบนั้นแล้วคุณเหนือค่อยๆ ปล่อยมือออกไปจากแขนของฉัน เขานิ่งไปเลย“รินว่าเธอคงไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณเหนือเคยรักหรอกค่ะ ในตอนนี้คุณเหนือก็ยังรักเธออยู่”“……”“รินอยากให้คุณเหนือทำกับรินแบบผู้หญิงคนอื่นๆ รินไม่อยากได้ความพิเศษอะไรทั้งนั้น”“ทำไม ?”“รินมีความรู้สึก รินรักเป็น เจ็บเป็น”ฉันพูดออกไปน้ำเสียงสั่นเครือ วันนี้ฉันตัดสินใจพูดความรู้สึกของตัวเองให้ผู้ชายตรงหน้าได้รับรู้ และกล้าบอกอย่างไม่อาย ฉันอยากจะขอร้องให้เขาหยุดทำเหมือนว่าฉันสำคัญสักที ในเมื่อหัวใจของเขายังมีผู้หญิงคนนั้นอยู่“รินไม่อยากรักคุณเหนือ อึก~” ฉันก้มหน้าสะอื้นออกมาเบาๆ “เพราะรินรู้ว่ายังไงรินก็เป็นได้แค่นางบำเรอ”“……”“คุณเหนือช่
หลังจากที่พูดคำนั้นออกไป สายตาอำมหิตของคุณเหนือก็จ้องเขม็งมาที่ใบหน้าของฉันทันที ฉันรู้ว่าไม่ควรพูดแบบนั้น แต่ในบางความรู้สึกมันก็อยากจะหลุดพ้นจากเขา“มึงได้ยินหรือยังไอ้เหนือ” ผู้ชายคนนั้นถาม ก่อนที่เขาจะมองหน้าฉัน “ขึ้นรถไปกับฉัน”หมับ! สิ้นสุดคำพูดของผู้ชายคนนั้น คุณเหนือก็กระชากแขนฉันอย่างแรง ทั้งที่ฉันยังไม่ทันจะได้ก้าวขาเดินไปหาผู้ชายคนนั้นเลยด้วยซ้ำ“มึงไม่มีสิทธิ์เอาผู้หญิงของกูไปไหนทั้งนั้น”“มึงก็ได้ยินว่าเธออยากมาอยู่กับกู”“ถ้ากูไม่อนุญาตมึงก็ไม่มีสิทธิ์เอาผู้หญิงคนนี้ไป!!”คุณเหนือประกาศเสียงกร้าว จากนั้นเขาก็ลากตัวฉันให้เดินตามมาที่รถในขณะที่ฝนกำลังตกหนัก ทำให้ฉันเปียกไปทั้งตัว คุณเหนือเองก็เหมือนกันแถมการที่เขาลากฉันแบบนั้นมันยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บแผลที่เท้าของตัวเองเอามากๆพอมาถึงที่รถคุณเหนือก็ผลักร่างของฉันมากระแทกกับฝากระโปรง เขากดร่างของฉันให้นอนราบ เม็ดฝนมันตกมากระทบผิวทำให้รู้สึกเจ็บแสบไปหมดทั่วทั้งใบหน้า“ออกมาข้างนอกทำไม หรือเธอนัดกับมันไว้จริงๆ” คุณเหนือเค้นถามเสียงดัง เขายังคงกดร่างฉันให้นอนราบไม่ยอมให้ลุกขึ้น“รินจะไปนัดเขาได้ยังไง”“เธอจะบอกว่าเป็นเรื่องบังเอ