ตอนนี้เป็นเวลาตีสาม ร่างกายของฉันมันบอบช้ำทั้งตัวจากการกระทำดิบเถื่อนของคุณเหนือ ในตอนนี้ฉันกำลังนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง ส่วนคุณเหนือกำลังใส่เสื้อผ้า ฉันค่อยๆ ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองเอาไว้พอใส่เสื้อผ้าเสร็จคุณเหนือก็เดินมานั่งลงบนเตียง เขาใช้มือปัดไรผมของฉันมาทัดไว้หลังใบหูให้ ก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบบอก “หวังว่าเธอจะไม่คิดอะไรโง่ๆ แบบวันนี้อีก” “…รินคิดผิดเอง” ฉันมองหน้าคุณเหนือแล้วพูดออกไป“หมายความว่ายังไง ?”“เปล่าค่ะ”“ต่อให้เธออยากจะไปจากฉันแค่ไหน เธอก็ทำไม่ได้ อย่าลืมสิตอนนี้ฉันเป็นเจ้าของชีวิตเธอ”“….ค่ะ”“ไอ้ติณเป็นศัตรูของฉัน หวังว่าเธอจะไม่ไปให้ท่ามันอีก” คุณเหนือขบกรามแน่น แววตาของเขามันแฝงไปด้วยความอำมหิต“รินขออะไรคุณเหนือสักอย่างได้ไหมคะ”“อะไร ?”“รินอยากให้คุณเหนือแบ่งเวลาไปหาผู้หญิงคนอื่นบ้าง รินไม่ไหวแล้วจริงๆ รินเจ็บไปทั้งตัวแล้ว” ฉันบอกคำนี้ออกไปด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด มันไม่ไหวแล้วจริงๆ ฉันไม่อยากมีอะไรกับเขาอีกแล้วคุณเหนือเงียบเขาไม่พูดอะไร ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกไปจากห้องให้หลังจากที่คุณเหนือออกไปจากห้องแล้วฉันก็ร้องไห้ออกมา แรงจ
ฉันดันคุณเหนือออกห่าง ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรเขาก็เห็นแก่ตัวเหมือนเดิม“อยากให้ฉันนอนเฝ้าหรือเปล่า ?” คุณเหนือขมวดคิ้วพร้อมกับคำถาม และมันทำให้คนที่ได้ยินอย่างฉันแปลกใจเอามากๆ“มะ ไม่ค่ะ รินอยากพักผ่อน”“คิดว่าฉันอยากทำอะไรตอนที่เธอป่วยอยู่หรือไง”ใช่! ฉันคิดแบบนั้น ขนาดเมื่อกี้เขายังใช้ปากงับหน้าอกของฉันเลย หากนอนด้วยคืนนี้ฉันอาจจะไม่รอด“ไม่ต้องคอยดูแลรินหรอกค่ะ”“ฉันไม่ใช่คนใจดำขนาดนั้น”“……” ฉันเบือนหน้าหนีไม่พูดอะไรต่อ คุณเหนือจึงจัดการใส่เสื้อให้หลังจากที่ใส่เสื้อผ้าให้ฉันเรียบร้อยแล้ว คุณเหนือก็เดินหายออกไปจากห้อง ส่วนฉันก็ยังนอนซมอยู่บนเตียงเพราะพิษไข้ในขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับ เสียงประตูห้องที่ถูกเปิดเข้ามาทำให้ฉันค่อยๆ ปรือตามอง แล้วเห็นว่าเป็นคุณเหนือในมือของเขาถือชามอะไรสักอย่างมาวางไว้บนโต๊ะข้างๆ กับหัวเตียง เมื่อได้กลิ่นฉันถึงได้รู้ว่ามันคือข้าวต้ม“ลุกขึ้นมากินข้าวก่อน” ไม่พูดเปล่าคุณเหนือยังค่อยๆ ประคองฉันขึ้นโดยไม่ได้ถามสักคำว่าฉันหิวหรือเปล่า“คุณเหนือไม่กลับไปที่บริษัทเหรอคะ” ฉันถามเพราะตอนแรกคิดว่าเขากลับไปที่บริษัทแล้วซะอีก“สองทุ่มแล้วจะให้ฉันไปบริษัททำไม”สองทุ่มแล
ในตอนนี้ฉันอยากจะโทรหานาลินมาก แต่ก็ไม่อยากจะโทรไปรบกวนเพราะที่อังกฤษเวลานี้คงจะดึกแล้ว“คุณเหนือจะพารินไปรับนาลินที่อังกฤษใช่ไหมคะ”“อื้ม”“ขอบคุณมากนะคะ ^_^”น้ำตาของฉันมันคลอเบ้า ถึงแม้ว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำร้ายหัวใจของฉัน ทำร้ายความรู้สึกของฉันจากคำพูด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าไม่มีเขานาลินอาจจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วก็ได้ “เดี๋ยวฉันจะบอกให้ลูกน้องเอาอาหารมาให้แล้วกัน”ฉันพยักหน้าตอบจากนั้นคุณเหนือก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง ตอนนี้อารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว ฉันไม่ได้ปฏิเสธการกระทำของคุณเหนืออย่างก่อนหน้านี้ ในขณะที่กำลังกินข้าวอยู่ก็ถูกสายตาของคุณเหนือจ้องมองตลอดเวลา มันทำให้ฉันรู้สึกเกร็งจนแทบไม่กล้ายกช้อนเข้าปาก “ทำไมถึงเอาแต่มองรินแบบนั้นล่ะคะ”“มองไม่ได้ ?” คุณเหนือถามกลับด้วยน้ำเสียงที่ชวนหาเรื่อง“ไม่เข้าบริษัทเหรอคะ”“ไม่ว่าง”ฉันขมวดคิ้วเป็นปมทันทีเมื่อได้ยินที่คุณเหนือบอกว่าไม่ว่าง“ทำไมไม่ว่างล่ะคะ หรือคุณเหนือต้องออกไปเจอหุ้นส่วน” ถึงฉันจะอยู่ในฐานะผู้ช่วยเลขาของคุณเหนือ แต่ก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่องขนาดนั้น ถ้าพี่รุ้งไม่เอาตารางงานให้ฉันก็ไม่รู้อะไรเลย “ต้องดูแลคนป่วย”ตึกตัก! ตึก
เมื่อได้ยินคำที่คุณเหนือพูดสิ่งที่ฉันทำคือแกะมือเขาออกจากเอวแล้วเดินหนีทันที โดยไม่ฟังว่าคุณเหนือจะตะโกนเรียกตามหลังฉันรู้ว่าสถานะของตัวเองคือของเล่น แต่คำพูดแบบนั้นเขาก็ไม่ควรจะเที่ยวไปบอกคนอื่น คำว่าของเล่นแก้เบื่อแค่พูดกับฉันยังเจ็บ นี่เขาบอกให้คนอื่นได้รู้มันยิ่งตอกย้ำให้ฉันเจ็บปวดฉันเดินหนีคุณเหนือออกมาหน้างาน ไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะไปไหน ฉันแค่ไม่อยากยืนอยู่ตรงนั้นเพราะความอับอาย“ริน รินรอพี่ก่อน” ฉันหยุดเดินเพราะได้ยินเสียงของพี่เพชร จึงหันไปมองเป็นพี่เพชรที่วิ่งมา “รินจะไปไหน”“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ รินแค่ไม่อยากอยู่ในงาน”จบคำพูดของฉันคุณเหนือก็เดินตามหลังพี่เพชรมาติดๆ เขาจ้องหน้าฉันตาเขม็ง“เป็นอะไรหรือเปล่า ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ รินไม่อยากทำให้พี่เพชรเดือดร้อนเพราะริน”“เดือดร้อนอะไรกัน พี่เต็มใจนะริน”“กลับเข้าไปในงาน!!”สิ้นสุดคำถามของพี่เพชรเสียงของคุณเหนือก็ดังขึ้น ทำให้พี่เพชรหันไปมอง ทั้งคู่จ้องหน้ากันเขม็งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร“วาริน!! ฉันสั่งให้เธอกลับเข้าไปในงาน”ฉันก็ยืนนิ่งไม่ยอมเดินเข้าไปในงานตามคำสั่งของคุณเหนือ ส่วนพี่เพชรก็หันมามองฉันอีกครั้งแล้วพ
“อย่าเล่นกับความรู้สึกของรินอีกเลยนะคะ”“ฉันไม่ได้เล่นกับความรู้สึกของเธอ”“คุณเหนือกำลังจะบอกว่ารู้สึกดีกับรินอย่างนั้นเหรอคะ” ฉันถามออกไปด้วยความประหม่า แต่มันก็อยากจะรู้คำตอบของเขา“ถ้าเธออยากจะกลับฉันก็จะพาเธอกลับ” คุณเหนือบอกโดยที่ไม่ได้ตอบคำถามของฉันอีก มันทำให้ฉันรู้สึกหน้าเสียเพราะคิดเข้าข้างตัวเองไปแบบนั้นคำว่าสำคัญของคุณเหนือคงไม่ได้หมายถึงในสถานะผู้หญิงที่เขารัก…ฉันคิดไปเอง“คุณเหนือไม่ต้องเข้าไปในงานแล้วเหรอคะ” พอคุณเหนือไม่ยอมตอบคำถามนั้น ฉันก็ทำเหมือนว่าตัวเองไม่ได้พูดอะไรออกไปทั้งนั้น ทั้งที่ความรู้สึกมันอับอาย“ไหนเธออยากจะกลับ ?”“คุณเหนือให้ลูกน้องไปส่งรินก็ได้ค่ะ”“ฉันจะพาเธอกลับเอง ไม่ใช่คนอื่น” คุณเหนือบอกพร้อมกับสายตาที่ดุดัน ก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถแล้วหันมาบอก “ลงมานั่งเบาะข้างๆ คนขับสิฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอ”ฉันรีบลงจากรถตามคุณเหนือ ถึงมันจะงุนงงว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คุณเหนือเกือบจะฆ่าฉันอยู่แล้วนะ สายตาของเขาน่ะ แต่พอนึกอยากจะเปลี่ยนอารมณ์ก็เปลี่ยนซะดื้อๆ“เธออยากกินอะไรก่อนไหม” คุณเหนือหันมาถามขณะที่กำลังขับรถอยู่“รินอยากกินก๋วยเตี๋ยวค่
ฉันพยายามแกะมือคุณเหนือออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย และในตอนนี้ลดาเธอก็กำลังจ้องฉันเขม็ง“คุณเหนือรินจะไปทำงาน” ฉันพูดย้ำอีกครั้งแล้วสะบัดแขนแรงๆ แต่ทว่ากลับถูกคุณเหนือดึงร่างเข้ามาแนบชิดกับตัวเองฉันเงยหน้าขึ้นมองคุณเหนืออย่างไม่เข้าใจ ทั้งไม่เข้าใจเขาและไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไม ทำไมยิ่งเจ็บมันก็ยิ่งรักเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกฉันในตอนนี้มันขาดเขาไปไม่ได้ฉันเป็นบ้าไปแล้วหรือไง!!“คุณเหนือสนใจผู้หญิงคนนี้มากกว่าลดาอย่างนั้นเหรอคะ”สิ้นสุดคำพูดนั้นคุณเหนือก็หันไปมองเธอ แล้วพูด “จำได้หรือเปล่าว่าเธอทำกับฉันยังไง”“คุณเหนือยังรักลดาอยู่” ลดาเธอเดินมาดึงคุณเหนือไป “อย่าหลอกความรู้สึกตัวเองสิคะ”“ฉันเคยรักเธอ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”“คุณเหนือ!!”ลดาเธอตวัดสายตามาจ้องฉันเขม็ง ทั้งที่เมื่อกี้ฉันเห็นว่าคุณเหนือจูบกับเธอแล้วทำไมตอนนี้เขาถึงทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ไม่สนใจผู้หญิงคนนั้น หรือเป็นเพราะฉันยืนอยู่ตรงนี้อย่างนั้นเหรอ…“จะบอกลดาว่าคุณเหนือรักผู้หญิงคนนี้เหรอคะ”“……” คุณเหนือเงียบไม่ยอมตอบคำถามนั้น เขาคงไม่พูดแน่ๆ ว่ารักฉัน เพราะเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้น“ทำไมไม่ตอบลดาล่ะคะ”“ออกไปซะ แล้วอย่ามาให้ฉันเห
คุณเหนือเริ่มจูบหนักขึ้นและมือของเขาก็เริ่มไต่ไปมาเหมือนปลาหมึก ฉันจึงต้องรีบหยุดทุกอย่างเอาไว้ ก่อนที่มันจะเลยเถิดด้วยการดันแผงอกแกร่งให้ออกห่าง“รินเป็นประจำเดือนนะคะ” ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องให้ฉันพูดคำนี้ซ้ำอยู่เรื่อย“ฉันก็อยากจะลองว่ามันจะรู้สึกยังไง” คุณเหนือกระตุกยิ้มมุมปากแล้วโน้มใบหน้าลงมาอีกครั้งเขาพูดออกมาแบบนั้นมันน่าเกลียดจริงๆ นะ บ้าไปแล้วหรือยังไง“บะ บ้าเหรอคะ” ครั้งนี้ฉันรีบขยับตัวหนี กลัวว่าคุณเหนือจะทำอย่างที่พูดจริงๆหมับ!! คุณเหนือโอบเอวของฉันแล้วก้มหน้าลงมาใกล้ๆ จากนั้นเขาก็พูด “ฉันรอได้”“ไม่เห็นต้องรอเลยนี่คะ รินก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวของคุณเหนือสักหน่อย” ฉันแกะมือคุณเหนือออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย“แต่ฉันต้องการแค่เธอ” คุณเหนือจ้องฉันสายตาดุดัน “เลิกพูดสักทีว่าฉันต้องไปหาผู้หญิงคนไหน”“…….”คุณเหนือปล่อยกอดออก ฉันพูดแค่นั้นถึงกับต้องโกรธเลยหรือไง“วันนี้ฉันจะออกไปธุระข้างนอก”“ค่ะ”“เธอต้องไปกับฉัน”“ปะ ไปทำไมคะ รินไม่อยากถูกพนักงานคนอื่นมอง…” จริงๆ ตอนนี้พนักงานในบริษัทคนอื่นๆ ก็คงมองฉันในด้านลบไปแล้วแหละคุณเหนือไม่ได้บอกอะไรแถมยังไล่ให้ฉันมาเก็บของบนโต๊ะทำงานเพื่
ริมฝีปากของฉันถูกคุณเหนือดูดเม้มช้าๆ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ บรรจงจูบสลับกับขบเม้มและไล้เลียไปทั่วกลีบปากอย่างอ่อนโยน“เอาลิ้นออกมาสิ”ฉันค่อยๆ แลบลิ้นออกมาตามคำสั่ง คุณเหนือจึงใช้เรียวลิ้นของตัวเองตวัดลงมาเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นของฉัน ก่อนที่เขาจะดูดดุนมันเบาๆ แล้วสอดแทรกเข้ามาภายในโพรงปาก“อื้ม” เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นในลำคอ พร้อมกับมือที่สอดเข้ามาใต้แผ่นของฉันเพื่อปลดตะขอเสื้อใน แล้วเลื่อนลงมาถอดแพนตี้ข้างล่างเพียงไม่นานฉันก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเขาริมฝีปากหนาผละออกไป พร้อมๆ กับที่คุณเหนือโน้มใบหน้าลงมาขบกัดและทิ้งรอยแดงเอาไว้ที่ลำคอของฉัน“พะ พอแล้วค่ะที่คอรินมีแต่รอยแดงเต็มไปหมดแล้ว” ถึงจะห้ามออกไปแต่คุณเหนือก็ไม่คิดจะเชื่อฟัง แถมเขายังทำเป็นหูทวนลมแล้วพรมจูบไปทั่วใบหน้าคมคายเลื่อนต่ำลงมาจนอยู่ในระดับเดียวกันกับหน้าอก สองมือหนากอบกุมประคองเต้านมอวบ ก่อนจะใช้เรียวลิ้นละเลงเลียยอดถันสลับกันอย่างมูมมาม“อ๊า~” ฉันแอ่นกายขึ้นแล้วครางออกมาเบาๆ ความเสียวซ่านที่กำลังก่อตัวขึ้นพรากสติของฉันไปจนสิ้น ถึงแม้จะถูกฟันคมงับลงมาที่หน้าอกแรงๆ หลายต่อหลายจุด ทว่าฉันกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บ ตรงกันข้าม ฉันเสียวซ่า