หลังจากที่พูดคำนั้นออกไป สายตาอำมหิตของคุณเหนือก็จ้องเขม็งมาที่ใบหน้าของฉันทันที ฉันรู้ว่าไม่ควรพูดแบบนั้น แต่ในบางความรู้สึกมันก็อยากจะหลุดพ้นจากเขา“มึงได้ยินหรือยังไอ้เหนือ” ผู้ชายคนนั้นถาม ก่อนที่เขาจะมองหน้าฉัน “ขึ้นรถไปกับฉัน”หมับ! สิ้นสุดคำพูดของผู้ชายคนนั้น คุณเหนือก็กระชากแขนฉันอย่างแรง ทั้งที่ฉันยังไม่ทันจะได้ก้าวขาเดินไปหาผู้ชายคนนั้นเลยด้วยซ้ำ“มึงไม่มีสิทธิ์เอาผู้หญิงของกูไปไหนทั้งนั้น”“มึงก็ได้ยินว่าเธออยากมาอยู่กับกู”“ถ้ากูไม่อนุญาตมึงก็ไม่มีสิทธิ์เอาผู้หญิงคนนี้ไป!!”คุณเหนือประกาศเสียงกร้าว จากนั้นเขาก็ลากตัวฉันให้เดินตามมาที่รถในขณะที่ฝนกำลังตกหนัก ทำให้ฉันเปียกไปทั้งตัว คุณเหนือเองก็เหมือนกันแถมการที่เขาลากฉันแบบนั้นมันยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บแผลที่เท้าของตัวเองเอามากๆพอมาถึงที่รถคุณเหนือก็ผลักร่างของฉันมากระแทกกับฝากระโปรง เขากดร่างของฉันให้นอนราบ เม็ดฝนมันตกมากระทบผิวทำให้รู้สึกเจ็บแสบไปหมดทั่วทั้งใบหน้า“ออกมาข้างนอกทำไม หรือเธอนัดกับมันไว้จริงๆ” คุณเหนือเค้นถามเสียงดัง เขายังคงกดร่างฉันให้นอนราบไม่ยอมให้ลุกขึ้น“รินจะไปนัดเขาได้ยังไง”“เธอจะบอกว่าเป็นเรื่องบังเอ
ตอนนี้เป็นเวลาตีสาม ร่างกายของฉันมันบอบช้ำทั้งตัวจากการกระทำดิบเถื่อนของคุณเหนือ ในตอนนี้ฉันกำลังนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง ส่วนคุณเหนือกำลังใส่เสื้อผ้า ฉันค่อยๆ ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองเอาไว้พอใส่เสื้อผ้าเสร็จคุณเหนือก็เดินมานั่งลงบนเตียง เขาใช้มือปัดไรผมของฉันมาทัดไว้หลังใบหูให้ ก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบบอก “หวังว่าเธอจะไม่คิดอะไรโง่ๆ แบบวันนี้อีก” “…รินคิดผิดเอง” ฉันมองหน้าคุณเหนือแล้วพูดออกไป“หมายความว่ายังไง ?”“เปล่าค่ะ”“ต่อให้เธออยากจะไปจากฉันแค่ไหน เธอก็ทำไม่ได้ อย่าลืมสิตอนนี้ฉันเป็นเจ้าของชีวิตเธอ”“….ค่ะ”“ไอ้ติณเป็นศัตรูของฉัน หวังว่าเธอจะไม่ไปให้ท่ามันอีก” คุณเหนือขบกรามแน่น แววตาของเขามันแฝงไปด้วยความอำมหิต“รินขออะไรคุณเหนือสักอย่างได้ไหมคะ”“อะไร ?”“รินอยากให้คุณเหนือแบ่งเวลาไปหาผู้หญิงคนอื่นบ้าง รินไม่ไหวแล้วจริงๆ รินเจ็บไปทั้งตัวแล้ว” ฉันบอกคำนี้ออกไปด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด มันไม่ไหวแล้วจริงๆ ฉันไม่อยากมีอะไรกับเขาอีกแล้วคุณเหนือเงียบเขาไม่พูดอะไร ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกไปจากห้องให้หลังจากที่คุณเหนือออกไปจากห้องแล้วฉันก็ร้องไห้ออกมา แรงจ
ฉันดันคุณเหนือออกห่าง ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรเขาก็เห็นแก่ตัวเหมือนเดิม“อยากให้ฉันนอนเฝ้าหรือเปล่า ?” คุณเหนือขมวดคิ้วพร้อมกับคำถาม และมันทำให้คนที่ได้ยินอย่างฉันแปลกใจเอามากๆ“มะ ไม่ค่ะ รินอยากพักผ่อน”“คิดว่าฉันอยากทำอะไรตอนที่เธอป่วยอยู่หรือไง”ใช่! ฉันคิดแบบนั้น ขนาดเมื่อกี้เขายังใช้ปากงับหน้าอกของฉันเลย หากนอนด้วยคืนนี้ฉันอาจจะไม่รอด“ไม่ต้องคอยดูแลรินหรอกค่ะ”“ฉันไม่ใช่คนใจดำขนาดนั้น”“……” ฉันเบือนหน้าหนีไม่พูดอะไรต่อ คุณเหนือจึงจัดการใส่เสื้อให้หลังจากที่ใส่เสื้อผ้าให้ฉันเรียบร้อยแล้ว คุณเหนือก็เดินหายออกไปจากห้อง ส่วนฉันก็ยังนอนซมอยู่บนเตียงเพราะพิษไข้ในขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับ เสียงประตูห้องที่ถูกเปิดเข้ามาทำให้ฉันค่อยๆ ปรือตามอง แล้วเห็นว่าเป็นคุณเหนือในมือของเขาถือชามอะไรสักอย่างมาวางไว้บนโต๊ะข้างๆ กับหัวเตียง เมื่อได้กลิ่นฉันถึงได้รู้ว่ามันคือข้าวต้ม“ลุกขึ้นมากินข้าวก่อน” ไม่พูดเปล่าคุณเหนือยังค่อยๆ ประคองฉันขึ้นโดยไม่ได้ถามสักคำว่าฉันหิวหรือเปล่า“คุณเหนือไม่กลับไปที่บริษัทเหรอคะ” ฉันถามเพราะตอนแรกคิดว่าเขากลับไปที่บริษัทแล้วซะอีก“สองทุ่มแล้วจะให้ฉันไปบริษัททำไม”สองทุ่มแล
ในตอนนี้ฉันอยากจะโทรหานาลินมาก แต่ก็ไม่อยากจะโทรไปรบกวนเพราะที่อังกฤษเวลานี้คงจะดึกแล้ว“คุณเหนือจะพารินไปรับนาลินที่อังกฤษใช่ไหมคะ”“อื้ม”“ขอบคุณมากนะคะ ^_^”น้ำตาของฉันมันคลอเบ้า ถึงแม้ว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำร้ายหัวใจของฉัน ทำร้ายความรู้สึกของฉันจากคำพูด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าไม่มีเขานาลินอาจจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วก็ได้ “เดี๋ยวฉันจะบอกให้ลูกน้องเอาอาหารมาให้แล้วกัน”ฉันพยักหน้าตอบจากนั้นคุณเหนือก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง ตอนนี้อารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว ฉันไม่ได้ปฏิเสธการกระทำของคุณเหนืออย่างก่อนหน้านี้ ในขณะที่กำลังกินข้าวอยู่ก็ถูกสายตาของคุณเหนือจ้องมองตลอดเวลา มันทำให้ฉันรู้สึกเกร็งจนแทบไม่กล้ายกช้อนเข้าปาก “ทำไมถึงเอาแต่มองรินแบบนั้นล่ะคะ”“มองไม่ได้ ?” คุณเหนือถามกลับด้วยน้ำเสียงที่ชวนหาเรื่อง“ไม่เข้าบริษัทเหรอคะ”“ไม่ว่าง”ฉันขมวดคิ้วเป็นปมทันทีเมื่อได้ยินที่คุณเหนือบอกว่าไม่ว่าง“ทำไมไม่ว่างล่ะคะ หรือคุณเหนือต้องออกไปเจอหุ้นส่วน” ถึงฉันจะอยู่ในฐานะผู้ช่วยเลขาของคุณเหนือ แต่ก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่องขนาดนั้น ถ้าพี่รุ้งไม่เอาตารางงานให้ฉันก็ไม่รู้อะไรเลย “ต้องดูแลคนป่วย”ตึกตัก! ตึก
เมื่อได้ยินคำที่คุณเหนือพูดสิ่งที่ฉันทำคือแกะมือเขาออกจากเอวแล้วเดินหนีทันที โดยไม่ฟังว่าคุณเหนือจะตะโกนเรียกตามหลังฉันรู้ว่าสถานะของตัวเองคือของเล่น แต่คำพูดแบบนั้นเขาก็ไม่ควรจะเที่ยวไปบอกคนอื่น คำว่าของเล่นแก้เบื่อแค่พูดกับฉันยังเจ็บ นี่เขาบอกให้คนอื่นได้รู้มันยิ่งตอกย้ำให้ฉันเจ็บปวดฉันเดินหนีคุณเหนือออกมาหน้างาน ไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะไปไหน ฉันแค่ไม่อยากยืนอยู่ตรงนั้นเพราะความอับอาย“ริน รินรอพี่ก่อน” ฉันหยุดเดินเพราะได้ยินเสียงของพี่เพชร จึงหันไปมองเป็นพี่เพชรที่วิ่งมา “รินจะไปไหน”“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ รินแค่ไม่อยากอยู่ในงาน”จบคำพูดของฉันคุณเหนือก็เดินตามหลังพี่เพชรมาติดๆ เขาจ้องหน้าฉันตาเขม็ง“เป็นอะไรหรือเปล่า ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ รินไม่อยากทำให้พี่เพชรเดือดร้อนเพราะริน”“เดือดร้อนอะไรกัน พี่เต็มใจนะริน”“กลับเข้าไปในงาน!!”สิ้นสุดคำถามของพี่เพชรเสียงของคุณเหนือก็ดังขึ้น ทำให้พี่เพชรหันไปมอง ทั้งคู่จ้องหน้ากันเขม็งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร“วาริน!! ฉันสั่งให้เธอกลับเข้าไปในงาน”ฉันก็ยืนนิ่งไม่ยอมเดินเข้าไปในงานตามคำสั่งของคุณเหนือ ส่วนพี่เพชรก็หันมามองฉันอีกครั้งแล้วพ
“อย่าเล่นกับความรู้สึกของรินอีกเลยนะคะ”“ฉันไม่ได้เล่นกับความรู้สึกของเธอ”“คุณเหนือกำลังจะบอกว่ารู้สึกดีกับรินอย่างนั้นเหรอคะ” ฉันถามออกไปด้วยความประหม่า แต่มันก็อยากจะรู้คำตอบของเขา“ถ้าเธออยากจะกลับฉันก็จะพาเธอกลับ” คุณเหนือบอกโดยที่ไม่ได้ตอบคำถามของฉันอีก มันทำให้ฉันรู้สึกหน้าเสียเพราะคิดเข้าข้างตัวเองไปแบบนั้นคำว่าสำคัญของคุณเหนือคงไม่ได้หมายถึงในสถานะผู้หญิงที่เขารัก…ฉันคิดไปเอง“คุณเหนือไม่ต้องเข้าไปในงานแล้วเหรอคะ” พอคุณเหนือไม่ยอมตอบคำถามนั้น ฉันก็ทำเหมือนว่าตัวเองไม่ได้พูดอะไรออกไปทั้งนั้น ทั้งที่ความรู้สึกมันอับอาย“ไหนเธออยากจะกลับ ?”“คุณเหนือให้ลูกน้องไปส่งรินก็ได้ค่ะ”“ฉันจะพาเธอกลับเอง ไม่ใช่คนอื่น” คุณเหนือบอกพร้อมกับสายตาที่ดุดัน ก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถแล้วหันมาบอก “ลงมานั่งเบาะข้างๆ คนขับสิฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอ”ฉันรีบลงจากรถตามคุณเหนือ ถึงมันจะงุนงงว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คุณเหนือเกือบจะฆ่าฉันอยู่แล้วนะ สายตาของเขาน่ะ แต่พอนึกอยากจะเปลี่ยนอารมณ์ก็เปลี่ยนซะดื้อๆ“เธออยากกินอะไรก่อนไหม” คุณเหนือหันมาถามขณะที่กำลังขับรถอยู่“รินอยากกินก๋วยเตี๋ยวค่
ฉันพยายามแกะมือคุณเหนือออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย และในตอนนี้ลดาเธอก็กำลังจ้องฉันเขม็ง“คุณเหนือรินจะไปทำงาน” ฉันพูดย้ำอีกครั้งแล้วสะบัดแขนแรงๆ แต่ทว่ากลับถูกคุณเหนือดึงร่างเข้ามาแนบชิดกับตัวเองฉันเงยหน้าขึ้นมองคุณเหนืออย่างไม่เข้าใจ ทั้งไม่เข้าใจเขาและไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไม ทำไมยิ่งเจ็บมันก็ยิ่งรักเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกฉันในตอนนี้มันขาดเขาไปไม่ได้ฉันเป็นบ้าไปแล้วหรือไง!!“คุณเหนือสนใจผู้หญิงคนนี้มากกว่าลดาอย่างนั้นเหรอคะ”สิ้นสุดคำพูดนั้นคุณเหนือก็หันไปมองเธอ แล้วพูด “จำได้หรือเปล่าว่าเธอทำกับฉันยังไง”“คุณเหนือยังรักลดาอยู่” ลดาเธอเดินมาดึงคุณเหนือไป “อย่าหลอกความรู้สึกตัวเองสิคะ”“ฉันเคยรักเธอ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”“คุณเหนือ!!”ลดาเธอตวัดสายตามาจ้องฉันเขม็ง ทั้งที่เมื่อกี้ฉันเห็นว่าคุณเหนือจูบกับเธอแล้วทำไมตอนนี้เขาถึงทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ไม่สนใจผู้หญิงคนนั้น หรือเป็นเพราะฉันยืนอยู่ตรงนี้อย่างนั้นเหรอ…“จะบอกลดาว่าคุณเหนือรักผู้หญิงคนนี้เหรอคะ”“……” คุณเหนือเงียบไม่ยอมตอบคำถามนั้น เขาคงไม่พูดแน่ๆ ว่ารักฉัน เพราะเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้น“ทำไมไม่ตอบลดาล่ะคะ”“ออกไปซะ แล้วอย่ามาให้ฉันเห
คุณเหนือเริ่มจูบหนักขึ้นและมือของเขาก็เริ่มไต่ไปมาเหมือนปลาหมึก ฉันจึงต้องรีบหยุดทุกอย่างเอาไว้ ก่อนที่มันจะเลยเถิดด้วยการดันแผงอกแกร่งให้ออกห่าง“รินเป็นประจำเดือนนะคะ” ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องให้ฉันพูดคำนี้ซ้ำอยู่เรื่อย“ฉันก็อยากจะลองว่ามันจะรู้สึกยังไง” คุณเหนือกระตุกยิ้มมุมปากแล้วโน้มใบหน้าลงมาอีกครั้งเขาพูดออกมาแบบนั้นมันน่าเกลียดจริงๆ นะ บ้าไปแล้วหรือยังไง“บะ บ้าเหรอคะ” ครั้งนี้ฉันรีบขยับตัวหนี กลัวว่าคุณเหนือจะทำอย่างที่พูดจริงๆหมับ!! คุณเหนือโอบเอวของฉันแล้วก้มหน้าลงมาใกล้ๆ จากนั้นเขาก็พูด “ฉันรอได้”“ไม่เห็นต้องรอเลยนี่คะ รินก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวของคุณเหนือสักหน่อย” ฉันแกะมือคุณเหนือออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย“แต่ฉันต้องการแค่เธอ” คุณเหนือจ้องฉันสายตาดุดัน “เลิกพูดสักทีว่าฉันต้องไปหาผู้หญิงคนไหน”“…….”คุณเหนือปล่อยกอดออก ฉันพูดแค่นั้นถึงกับต้องโกรธเลยหรือไง“วันนี้ฉันจะออกไปธุระข้างนอก”“ค่ะ”“เธอต้องไปกับฉัน”“ปะ ไปทำไมคะ รินไม่อยากถูกพนักงานคนอื่นมอง…” จริงๆ ตอนนี้พนักงานในบริษัทคนอื่นๆ ก็คงมองฉันในด้านลบไปแล้วแหละคุณเหนือไม่ได้บอกอะไรแถมยังไล่ให้ฉันมาเก็บของบนโต๊ะทำงานเพื่
ฉันตั้งใจว่าจะไปหาพราวที่บ้านแต่จู่ๆ มันก็หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม และก็ไม่รู้ว่าคุณเหนือมายังไง เขารีบวิ่งมาประคองตัวฉันไว้ ทั้งที่บอกว่าจะออกไปบริษัทแท้ๆ“ไปหาหมอ”“ไม่เอาค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไรมาก”“ทำไมถึงไม่ยอมไปหาหมอ เธอเป็นแบบนี้บ่อยเกินไปแล้วนะวาริน”“เดี๋ยวรินกับคุณเหนือก็ต่างคนต่างนอนคนละห้องตั้งหนึ่งเดือน อาการคงจะดีขึ้นค่ะเพราะรินได้พักผ่อนเต็มที่” ฉันพูดในเชิงประชดประชัน“ฝันไปเถอะ! แค่คืนเดียวฉันก็นอนไม่หลับ”“ไม่โกรธรินแล้วเหรอคะ ?” ฉันยิงคำถามใส่คุณเหนือก็ทำหน้างอนๆ นั่นแหละ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ “คิดว่าฉันทำได้หรือไง คิดว่าฉันไม่สนใจเธอได้หรือไง”“เมื่อกี้คุณเหนือก็เมินริน”“ฉันน้อยใจเธอต่างหาก แต่เธอแม่งไม่ง้อ” คุณเหนือบอกจากนั้นก็อุ้มตัวฉันขึ้นพาเดินมาที่ห้องรับแขก แล้ววางฉันลงบนโซฟาแปลกเนอะ เมื่อกี้เรายังทำเมินใส่กันแต่สุดท้ายเราก็ไม่สามารถโกรธกันได้นานกว่านี้จริงๆ“ไปหาหมอได้ไหม รู้บ้างไหมว่าฉันเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน” คุณเหนือแสดงความเป็นห่วงออกมาผ่านแววตาของเขา“งั้นหลังจากรับปริญญารินจะไปหาหมอนะคะ”“สัญญา ?”“ค่ะ ^_^” บางทีฉันก็คืดว่าตัวเองอารมณ์แปรปรวนแปลกๆ
#คฤหาสน์หลังใหญ่ตอนนี้ฉันกับคุณเหนือกำลังนั่งกินข้าวที่บ้านคุณพ่อของคุณเหนือ ที่ผ่านมาฉันได้เจอกับท่านบ่อยๆ จึงทำให้ไม่รู้สึกเกร็งแล้ว“ฉันได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้ว ฤกษ์ดีที่สุดก็อีกสองเดือน”หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเมื่อได้ยินแบบนั้น นี่ฉันใกล้จะได้แต่งงานแล้วหรอเนี่ย“แกก็พาหนูรินไปลองชุดเดี๋ยวต้องสั่งตัดชุดอีกคงใช้เวลานาน ส่วนเรื่องสถานที่ฉันจะจัดการให้เอง”“ครับพ่อ” คุณเหนือตอบก่อนจะหันมายิ้มกริ่มให้ฉัน“แล้วนี่พร้อมจะมีลูกเมื่อไหร่ ฉันว่าทำลูกมันซะตอนนี้เลยก็ดีเหมือนกันนะ ยังไงก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ฉันเองก็อยากเห็นหน้าหลานเร็วๆ”“อะ เอ่อคือเรื่องนั้นริน….”“ยังไม่พร้อมสินะ อืมๆ ฉันเข้าใจว่าการมีลูกมันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็อย่าให้มันนานจนเกินไปแล้วกัน”ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อพ่อของคุณเหนือนั้นเข้าใจและไม่ได้เร่งรัดอะไร แต่พอหันมองคุณเหนือก็ได้เห็นว่าตอนนี้เขากำลังทำหน้ายักษ์ใส่ฉันอยู่“กินข้าวสิคะ” ฉันยิ้มแบบกวนๆ ให้คุณเหนือไปหนึ่งกรุบก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วฉันกับคุณเหนือก็อยู่คุยเรื่องงานแต่งต่อสักพัก ด้วยความที่ฉันไม่มีญาติที่ไหนแล้วจึงไม่ต้องไปคุยกับผู
วันเวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งในวันที่ฉันฝึกงานจบ จริงๆ ก็ไม่ได้ฝึกงานหรอก นั่งๆ นอนๆ อยู่ที่บ้านซะมากกว่า พอฝึกงานจบแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่รับปริญญา วันนี้ฉันต้องเข้าไปทำธุระที่มหาวิทยาลัยด้วยไม่รู้ว่าคุณเหนือเป็นอะไรพอรู้ว่าฉันจะเข้าไปที่มหาวิทยาลัยก็ออกอาการงอแงบอกว่าจะไปด้วย จะรอที่รถ ซึ่งฉันเองก็นัดกับพราวไว้ว่าจะไปกับพราว“วันนี้รินเช็กตารางงานคุณเหนือกับพี่รุ้งแล้ว มีประชุมตอนเก้าโมงเช้านี่คะ จะไปกับรินได้ยังไง”“ไม่อยากให้ฉันไปด้วยถึงขนาดต้องโทรเช็กตารางงานเลยหรือไง” คุณเหนือชักสีหน้าใส่ฉัน มันใช่เรื่องหรือเปล่าเนี่ย นั่นงานของเขานะ“บอกเหตุผลมาได้ไหมคะว่าทำไมถึงอยากไปกับรินขนาดนั้น”“ก็หวง! อยากไปด้วยกลัวผู้ชายจะมายุ่งกับเมีย” คุณเหนือบอก เขาก้มหน้าลงแล้วทำแก้มป่อง น่าเอ็นดูจริงๆ พ่อคุณ“ให้รินใส่กระโปรงยาวจนถึงตาตุ่มแบบนี้ยังหวงอีกเหรอคะ” ฉันบอกพร้อมกับก้มมองกระโปรงที่ตัวเองใส่ มันยาวจนคลุมตาตุ่มเลยนะ ก็เพราะคุณเหนือนั่นแหละสั่งให้ใส่แบบนี้“เดี๋ยวฉันจะโทรไปเลื่อนประชุม” คุณเหนือทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ฉันจึงรีบค้านไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ แยกแยะหน่อยสิ”“แยกแยะแล้ว จะไป
#ภายในห้องตอนนี้เสื้อผ้าของฉันกับคุณเหนือถูกถอดและโยนทิ้งไว้บนพื้นจนมันกระจัดกระจายไปทั่วทั้งห้อง“ให้รินทำให้นะคะ รินอยากทำให้คุณเหนือบ้าง” ฉันพูดอย่างยั่วยวนก่อนจะผลักร่างกำยำลงไปนอนราบกับเตียงฉันคลานเข่ามาขึ้นคร่อมคุณเหนือเอาไว้ พร้อมกับใช้มือกุมแก่นกายใหญ่ที่ค่อยๆ ขยายตัวจนล้นอุ้งมือของฉัน“ทำไมวันนี้เธอถึงอยากทำ ?” คุณเหนือเงยศีรษะขึ้นมาขมวดคิ้วถาม“รินอยากทำให้คุณเหนือติดใจรินไงคะ ^_^”“แค่เธอนอนเฉยๆ ฉันก็แทบจะคลั่งตาย อ๊า~”ฉันใช้มือชักรูดแก่นกายในขณะที่คุณเหนือกำลังพูดอย่างกลั่นแกล้ง นั่นจึงทำให้เขาเผลอร้องครางออกมา“รินยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”“มือเธอกำลังทำให้ฉันหมดแรง ซี๊ด~”“แล้วถ้ารินใช้ปากละคะ”ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนก่อนจะก้มหน้าลงใช้ริมฝีปากสัมผัสกับแก่นกายใหญ่ รู้สึกได้ถึงร่างกายที่เริ่มเกร็งของคุณเหนือในตอนที่ฉันตวัดปลายลิ้นเลียหยอกเย้าหัวเห็ดแดงก่ำ“ริน อ๊า~ เธอคิดจะฆ่าฉันหรือไง”“ชอบไหมคะ รินทำเก่งไหม”ฉันเงยหน้าขึ้นถามจากนั้นก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่ลิ้น แต่ฉันใช้ริมฝีปากอุ่นร้อนครอบงำท่อนเนื้อดุ้นใหญ่แล้วอมให้ลึกจนขอบปากแนบชิดกับปลายโคนจากน
ถึงฉันจะเคยพูดว่ายังไม่พร้อม แต่พอมาถูกขอแต่งงานแบบนี้จะปฏิเสธลงได้ยังไงล่ะ คุณเหนือมัดมือชกกันชัดๆ เลย“อยากให้รินตอบตกลงใช่ไหมคะ” ฉันถามคุณเหนือเพราะคิดอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้ มันนึกอยากจะแกล้งเขาเล่นๆ“ทำขนาดนี้แล้วยังจะถามอีก”“ถ้าอย่างนั้นคุณเหนือก็ต้องลงไปแช่ในน้ำทะเลห้านาที แล้วรินจะตอบตกลง ^_^”คุณเหนือมองไปที่น้ำในทะเล “ตอนนี้?”“ก็ใช่ไงคะ ตอนนี้ ^_^”“ได้”คุณเหนือเก็บแหวนไว้ในกระเป๋ากางเกง จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อแล้วเดินดุ่มๆ ไปอย่างไม่ลังเลตอนนี้บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ทะเลตอนกลางคืนนั้นน่ากลัว แต่คุณเหนือกลับทำตามคำสั่งของฉันอย่างไม่คิดลังเลอะไรเลย เป็นแบบนี้ใครจะไม่ใจอ่อนยอมแต่งงานด้วยกันล่ะ“อ่า! น้ำเย็นชะมัด” คุณเหนือพูดขึ้น เขานั่งแช่อยู่ในน้ำอย่างเด็ดเดี่ยว ถึงปากจะบ่นว่าน้ำเย็นก็ตาม“จริงๆ ถ้าคุณเหนือไม่ลงไปแช่ในน้ำทะเลแบบนั้นรินก็คงตอบตกลงอยู่แล้วนะคะ ^_^” ฉันบอก ทำให้ถูกคุณเหนือจ้องเขม็ง“เธอแกล้งฉัน?”“หลอกง่ายเหมือนกันนะเนี่ย”จบคำพูดของฉันคุณเหนือก็ลุกขึ้นมาจากน้ำ เขาเดินตรงมาที่ฉัน“คะ คุณเหนือจะทำอะไรคะ” ฉันถามพร้อมกับถอยหนี รู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้“ไม
หมับ! คุณเหนือรีบเดินตามมาคว้าแขนฉันเอาไว้ จากนั้นก็ก้าวขามาหยุดตรงหน้าของฉัน“ปล่อย! รินจะไปซื้อบิกินี่”“ก็บอกว่าไม่ให้ใส่”“รินจะใส่”“ก็ลองดูว่าซื้อมาแล้วจะได้ใส่หรือเปล่า”ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างหงุดหงิด จากนั้นก็เมินหน้าหนีคุณเหนือ คิดว่าจะได้มาพักผ่อนแบบสบายใจ แต่กลับต้องมาหงุดหงิดแบบนี้ทำให้เสียบรรยากาศจริงๆ ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว อยากจะกลับไปกรุงเทพมันตอนนี้เลย“มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฉันจะมองผู้ชายหรือผู้หญิงที่เดินผ่านไปมาไม่ใช่หรือไง”“ค่ะมันไม่แปลก แต่การที่มองแล้วจ้องค้างแบบนั้นจะไม่ให้รินคิดอะไรคงไม่ได้หรอกนะคะ ถ้าเกิดว่ามีผู้ชายเดินผ่านแล้วรินมองแบบที่คุณเหนือมองผู้หญิงสองคนนั้นล่ะคะ คุณเหนือก็คงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”“ฉัน….”“ไม่ต้องมาเถียงหรอกค่ะ อีกอย่างผู้หญิงสองคนนั้นก็ส่งตาหวานเชื่อมให้ด้วยนิ หึ!”“โอเคต่อไปนี้ฉันจะไม่มองผู้หญิงคนไหน กลับไปกินข้าวก่อน ฉันหิวจนจะกินเธอได้ทั้งตัวอยู่แล้วนะ” คุณเหนือจับมือฉันหวังจะให้เดินตามตัวเอง แต่ฉันยังทำตัวแข็งทื่ออยู่ไม่ยอมขยับ“ไม่ค่ะ รินไม่กิน!!”“รินเธอจะงอนเอาเป็นเอาตายเลยหรือไง ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่ามองเลยนะ”
เช้าวันต่อมา….ฉันแทบจะลุกจากเตียงไม่ขึ้นเนื่องจากเมื่อคืนถูกทำโทษ กล่องถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วมันถูกทิ้งไว้เกลื่อนห้องไปหมดเลยตอนนี้โชคดีที่คุณเหนือไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยหมดทั้งแพ็กเพราะเขาเห็นใจฉัน แต่ก็หมดไปหลายกล่องเลย“ลุกขึ้นแต่งตัวสิ” คุณเหนือเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วบอกฉัน คิดว่าไปทำงานแล้วซะอีก“ไปไหนคะ รินลุกไม่ไหวหรอก”“ไปพัทยา”“หื้อ ไปทำไมคะ คุณเหนือมีงานที่นั่นเหรอคะ”“เปล่า ฉันจะพาเธอไปพักผ่อน”“ว่างเหรอคะ”“ฉันมีเวลาว่างให้เธอทั้งชีวิต” คุณเหนือบอกเสียงหวานจากนั้นก็เดินมาที่เตียงแล้วอุ้มฉันขึ้น“อื้อ อุ้มรินทำไมคะ”“จะพาไปอาบน้ำ เดินไม่ไหวไม่ใช่หรือไง”ฉันถามคุณเหนือเพราะมันรู้สึกเขิน ส่วนคุณเหนือเขาก็อุ้มฉันมาในห้องน้ำ แถมยังทำตัวน่ารักหวังจะถอดเสื้อออกให้ด้วย ฉันจึงรีบเบรกไว้ เพราะการให้คุณเหนือเห็นเรือนร่างมันรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้“เดี๋ยวรินถอดเองค่ะ คุณเหนือไปรอข้างนอกนะคะ”“แต่ฉันอยากถอดให้เธอ” คุณเหนือบอกจากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าลงมาจูบที่ต้นคอของฉันนี่อย่าบอกนะว่ากำลังจะเริ่มอีกแล้วน่ะ“หยุดนะคะ รินหมดแรงแล้ว”คุณเหนือหยุดชะงักพร้อมกับค่อยๆ ผละใบหน้าออก “
คุณเหนือแบกตัวของฉันมาที่ห้องนอน เขาไม่ยอมวางฉันลงไม่ว่าจะดิ้นแรงแค่ไหนตุบ! ร่างของฉันถูกโยนลงบนเตียง ย้ำนะคะว่าโยน ถึงเตียงมันจะนิ่มแต่ก็รู้สึกเจ็บอยู่ดี“ทำไมต้องรุนแรงด้วยล่ะคะ” บอกตามตรงว่ามันเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมาอีกครั้ง คุณเหนือจะวางฉันลงดีๆ ก็ได้นิ ไม่เห็นจำเป็นต้องโยนกันรุนแรงแบบนี้เลย“เธอพูดไม่ฟังเอง”“ก็คุณเหนือนั่นแหละงี่เง่า”“ฉันงี่เง่า ? งี่เง่าตรงไหน”“ก็ตรงที่ขี้น้อยใจเหมือนผู้หญิงไงล่ะคะ”โอเคฉันรู้แหละว่าการทะเลาะกันมันคือปัญหาปกติของชีวิตคู่ แต่ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้สักนิด แต่มันเหลืออดจริงๆคุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เขายกมือขึ้นมาเท้าเอวแล้วจ้องหน้าฉันพร้อมกับใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เหอะ! เขาคิดว่าตัวเองหงุดหงิดเป็นคนเดียวหรือไง“เธอก็เลยประชดฉันด้วยวิธีนี้ว่างั้น ?”“ทำไมไม่ปล่อยให้รินเดินออกไปนอกบ้านล่ะคะ จะได้รู้ว่าประชดหรือเปล่า”“เสื้อชั้นในก็ไม่ใส่ ใส่แค่กางเกงในแบบนี้มั่นใจว่าเธอจะเดินออกไปที่สนามหญ้า”“ค่ะ รินจะไป”“วาริน!!”“ไม่ต้องมาทำเสียงเข้มขู่รินหรอกค่ะ คุณเหนือจะไปไหนก็ไม่บอกรินสักคำ แถมโทรไปไม่รับด้วย”“แต่เธอก็ไม่ควรทำแบบน
ฉันรีบวิ่งขึ้นมาบนห้องเพื่อมาเอาโทรศัพท์กดโทรออกไปหาคุณเหนือ ไม่ได้จะโทรไปขอบคุณแต่จะโทรไปต่อว่าที่เขาใช้เงินมากมายซื้อของพวกนี้มา( ชอบของที่ฉันซื้อให้หรือเปล่า )พอฉันกดรับสายคุณเหนือก็ถามคำนี้ออกมา เขาดูจะมีความสุขไม่ได้เดือดร้อนที่เสียเงินไปมากมายมหาศาลเลยสักนิด เป็นฉันคนเดียวที่นึกเสียดาย( ไม่ชอบค่ะ )( ถ้าอย่างนั้นเธอชอบแบบไหน เดี๋ยวประชุมเสร็จฉันจะพาไปเลือกใหม่ )แทนที่จะหงุดหงิดหรือโกรธที่ฉันไม่ชอบ แต่คุณเหนือกลับอารมณ์ดีแถมจะพาฉันไม่เลือกใหม่อีกต่างหาก( รินไม่ชอบให้คุณเหนือใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ )( ฟุ่มเฟือยที่ไหนกัน เงินแค่ไม่กี่สิบล้าน )( สะ สิบล้านเลยเหรอคะ )( ห้าสิบกว่าล้าน ) คุณเหนือตอบกลับมาทำให้ฉันแทบจะเป็นลมจนต้องจับขอบเตียงเพื่อพยุงตัวเองเขาพูดออกมาง่ายๆ คำว่าห้าสิบล้าน ไม่รู้สึกเสียดายบ้างหรือไง( ต่อไปนี้ห้ามใช้เงินแบบนี้อีกนะคะ รินอยากให้คุณเหนือเก็บเงินไว้ )( เดือนๆ หนึ่งบริษัทฉันได้กำไรร้อยกว่าล้าน ของพวกนั้นฉันตั้งใจอยากจะซื้อให้ แต่ถ้าเธอไม่ชอบจะเอาไปทิ้งในถังขยะฉันก็ไม่ว่าอะไร )( อย่ามาประชดกันแบบนี้นะคะคุณเหนือ )( ในเมื่อฉันตั้งใจจะให้แต่เธอไม่รับ จ