เมื่อได้ยินคำที่คุณเหนือพูดสิ่งที่ฉันทำคือแกะมือเขาออกจากเอวแล้วเดินหนีทันที โดยไม่ฟังว่าคุณเหนือจะตะโกนเรียกตามหลังฉันรู้ว่าสถานะของตัวเองคือของเล่น แต่คำพูดแบบนั้นเขาก็ไม่ควรจะเที่ยวไปบอกคนอื่น คำว่าของเล่นแก้เบื่อแค่พูดกับฉันยังเจ็บ นี่เขาบอกให้คนอื่นได้รู้มันยิ่งตอกย้ำให้ฉันเจ็บปวดฉันเดินหนีคุณเหนือออกมาหน้างาน ไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะไปไหน ฉันแค่ไม่อยากยืนอยู่ตรงนั้นเพราะความอับอาย“ริน รินรอพี่ก่อน” ฉันหยุดเดินเพราะได้ยินเสียงของพี่เพชร จึงหันไปมองเป็นพี่เพชรที่วิ่งมา “รินจะไปไหน”“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ รินแค่ไม่อยากอยู่ในงาน”จบคำพูดของฉันคุณเหนือก็เดินตามหลังพี่เพชรมาติดๆ เขาจ้องหน้าฉันตาเขม็ง“เป็นอะไรหรือเปล่า ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ รินไม่อยากทำให้พี่เพชรเดือดร้อนเพราะริน”“เดือดร้อนอะไรกัน พี่เต็มใจนะริน”“กลับเข้าไปในงาน!!”สิ้นสุดคำถามของพี่เพชรเสียงของคุณเหนือก็ดังขึ้น ทำให้พี่เพชรหันไปมอง ทั้งคู่จ้องหน้ากันเขม็งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร“วาริน!! ฉันสั่งให้เธอกลับเข้าไปในงาน”ฉันก็ยืนนิ่งไม่ยอมเดินเข้าไปในงานตามคำสั่งของคุณเหนือ ส่วนพี่เพชรก็หันมามองฉันอีกครั้งแล้วพ
“อย่าเล่นกับความรู้สึกของรินอีกเลยนะคะ”“ฉันไม่ได้เล่นกับความรู้สึกของเธอ”“คุณเหนือกำลังจะบอกว่ารู้สึกดีกับรินอย่างนั้นเหรอคะ” ฉันถามออกไปด้วยความประหม่า แต่มันก็อยากจะรู้คำตอบของเขา“ถ้าเธออยากจะกลับฉันก็จะพาเธอกลับ” คุณเหนือบอกโดยที่ไม่ได้ตอบคำถามของฉันอีก มันทำให้ฉันรู้สึกหน้าเสียเพราะคิดเข้าข้างตัวเองไปแบบนั้นคำว่าสำคัญของคุณเหนือคงไม่ได้หมายถึงในสถานะผู้หญิงที่เขารัก…ฉันคิดไปเอง“คุณเหนือไม่ต้องเข้าไปในงานแล้วเหรอคะ” พอคุณเหนือไม่ยอมตอบคำถามนั้น ฉันก็ทำเหมือนว่าตัวเองไม่ได้พูดอะไรออกไปทั้งนั้น ทั้งที่ความรู้สึกมันอับอาย“ไหนเธออยากจะกลับ ?”“คุณเหนือให้ลูกน้องไปส่งรินก็ได้ค่ะ”“ฉันจะพาเธอกลับเอง ไม่ใช่คนอื่น” คุณเหนือบอกพร้อมกับสายตาที่ดุดัน ก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถแล้วหันมาบอก “ลงมานั่งเบาะข้างๆ คนขับสิฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอ”ฉันรีบลงจากรถตามคุณเหนือ ถึงมันจะงุนงงว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คุณเหนือเกือบจะฆ่าฉันอยู่แล้วนะ สายตาของเขาน่ะ แต่พอนึกอยากจะเปลี่ยนอารมณ์ก็เปลี่ยนซะดื้อๆ“เธออยากกินอะไรก่อนไหม” คุณเหนือหันมาถามขณะที่กำลังขับรถอยู่“รินอยากกินก๋วยเตี๋ยวค่
ฉันพยายามแกะมือคุณเหนือออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย และในตอนนี้ลดาเธอก็กำลังจ้องฉันเขม็ง“คุณเหนือรินจะไปทำงาน” ฉันพูดย้ำอีกครั้งแล้วสะบัดแขนแรงๆ แต่ทว่ากลับถูกคุณเหนือดึงร่างเข้ามาแนบชิดกับตัวเองฉันเงยหน้าขึ้นมองคุณเหนืออย่างไม่เข้าใจ ทั้งไม่เข้าใจเขาและไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไม ทำไมยิ่งเจ็บมันก็ยิ่งรักเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกฉันในตอนนี้มันขาดเขาไปไม่ได้ฉันเป็นบ้าไปแล้วหรือไง!!“คุณเหนือสนใจผู้หญิงคนนี้มากกว่าลดาอย่างนั้นเหรอคะ”สิ้นสุดคำพูดนั้นคุณเหนือก็หันไปมองเธอ แล้วพูด “จำได้หรือเปล่าว่าเธอทำกับฉันยังไง”“คุณเหนือยังรักลดาอยู่” ลดาเธอเดินมาดึงคุณเหนือไป “อย่าหลอกความรู้สึกตัวเองสิคะ”“ฉันเคยรักเธอ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”“คุณเหนือ!!”ลดาเธอตวัดสายตามาจ้องฉันเขม็ง ทั้งที่เมื่อกี้ฉันเห็นว่าคุณเหนือจูบกับเธอแล้วทำไมตอนนี้เขาถึงทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ไม่สนใจผู้หญิงคนนั้น หรือเป็นเพราะฉันยืนอยู่ตรงนี้อย่างนั้นเหรอ…“จะบอกลดาว่าคุณเหนือรักผู้หญิงคนนี้เหรอคะ”“……” คุณเหนือเงียบไม่ยอมตอบคำถามนั้น เขาคงไม่พูดแน่ๆ ว่ารักฉัน เพราะเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้น“ทำไมไม่ตอบลดาล่ะคะ”“ออกไปซะ แล้วอย่ามาให้ฉันเห
คุณเหนือเริ่มจูบหนักขึ้นและมือของเขาก็เริ่มไต่ไปมาเหมือนปลาหมึก ฉันจึงต้องรีบหยุดทุกอย่างเอาไว้ ก่อนที่มันจะเลยเถิดด้วยการดันแผงอกแกร่งให้ออกห่าง“รินเป็นประจำเดือนนะคะ” ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องให้ฉันพูดคำนี้ซ้ำอยู่เรื่อย“ฉันก็อยากจะลองว่ามันจะรู้สึกยังไง” คุณเหนือกระตุกยิ้มมุมปากแล้วโน้มใบหน้าลงมาอีกครั้งเขาพูดออกมาแบบนั้นมันน่าเกลียดจริงๆ นะ บ้าไปแล้วหรือยังไง“บะ บ้าเหรอคะ” ครั้งนี้ฉันรีบขยับตัวหนี กลัวว่าคุณเหนือจะทำอย่างที่พูดจริงๆหมับ!! คุณเหนือโอบเอวของฉันแล้วก้มหน้าลงมาใกล้ๆ จากนั้นเขาก็พูด “ฉันรอได้”“ไม่เห็นต้องรอเลยนี่คะ รินก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวของคุณเหนือสักหน่อย” ฉันแกะมือคุณเหนือออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย“แต่ฉันต้องการแค่เธอ” คุณเหนือจ้องฉันสายตาดุดัน “เลิกพูดสักทีว่าฉันต้องไปหาผู้หญิงคนไหน”“…….”คุณเหนือปล่อยกอดออก ฉันพูดแค่นั้นถึงกับต้องโกรธเลยหรือไง“วันนี้ฉันจะออกไปธุระข้างนอก”“ค่ะ”“เธอต้องไปกับฉัน”“ปะ ไปทำไมคะ รินไม่อยากถูกพนักงานคนอื่นมอง…” จริงๆ ตอนนี้พนักงานในบริษัทคนอื่นๆ ก็คงมองฉันในด้านลบไปแล้วแหละคุณเหนือไม่ได้บอกอะไรแถมยังไล่ให้ฉันมาเก็บของบนโต๊ะทำงานเพื่
ริมฝีปากของฉันถูกคุณเหนือดูดเม้มช้าๆ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ บรรจงจูบสลับกับขบเม้มและไล้เลียไปทั่วกลีบปากอย่างอ่อนโยน“เอาลิ้นออกมาสิ”ฉันค่อยๆ แลบลิ้นออกมาตามคำสั่ง คุณเหนือจึงใช้เรียวลิ้นของตัวเองตวัดลงมาเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นของฉัน ก่อนที่เขาจะดูดดุนมันเบาๆ แล้วสอดแทรกเข้ามาภายในโพรงปาก“อื้ม” เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นในลำคอ พร้อมกับมือที่สอดเข้ามาใต้แผ่นของฉันเพื่อปลดตะขอเสื้อใน แล้วเลื่อนลงมาถอดแพนตี้ข้างล่างเพียงไม่นานฉันก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเขาริมฝีปากหนาผละออกไป พร้อมๆ กับที่คุณเหนือโน้มใบหน้าลงมาขบกัดและทิ้งรอยแดงเอาไว้ที่ลำคอของฉัน“พะ พอแล้วค่ะที่คอรินมีแต่รอยแดงเต็มไปหมดแล้ว” ถึงจะห้ามออกไปแต่คุณเหนือก็ไม่คิดจะเชื่อฟัง แถมเขายังทำเป็นหูทวนลมแล้วพรมจูบไปทั่วใบหน้าคมคายเลื่อนต่ำลงมาจนอยู่ในระดับเดียวกันกับหน้าอก สองมือหนากอบกุมประคองเต้านมอวบ ก่อนจะใช้เรียวลิ้นละเลงเลียยอดถันสลับกันอย่างมูมมาม“อ๊า~” ฉันแอ่นกายขึ้นแล้วครางออกมาเบาๆ ความเสียวซ่านที่กำลังก่อตัวขึ้นพรากสติของฉันไปจนสิ้น ถึงแม้จะถูกฟันคมงับลงมาที่หน้าอกแรงๆ หลายต่อหลายจุด ทว่าฉันกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บ ตรงกันข้าม ฉันเสียวซ่า
มาถึงที่ไทยคุณเหนือก็ให้คนขับรถมาส่งฉันกับน้องสาวที่คอนโดเพราะเขามีธุระด่วนต้องรีบไปจัดการ คอนโดนี้ที่คุณเหนือซื้อให้ แล้วเขาก็บอกว่าจะมารับแต่ฉันปฏิเสธไปพร้อมกับบอกว่าจะนั่งแท็กซี่กลับเอง“โหย! พี่รินทำไมห้องถึงกว้างแล้วก็สวยขนาดนี้ล่ะคะ” นาลินหันขวับมามองหน้าฉัน “พี่รินเอาเงินที่ไหนมาซื้อคอนโดหรูขนาดนี้อยู่”“พะ พี่ทำงานดีคุณเหนือก็เลยยกห้องนี้ให้ เขาเอ็นดูพี่น่ะ”“คุณเหนือดูเป็นคนใจดีจังเลยนะคะพี่ริน ขนาดพี่รินเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานเขายังใจดีมาก”“อะ อื้อ” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่านาลินไม่ได้สงสัยอะไรมากไปกว่านี้“ว่าแต่ทำไมในห้องไม่มีของใช้หรือพวกเสื้อผ้าของพี่รินเลยล่ะคะ”“พี่ คือพี่เอาลงไปซักไว้น่ะ”จบคำพูดของฉันนาลินก็เดินไปเปิดดูตู้เสื้อผ้า “นี่พี่รินซักผ้าหมดตู้เลยเหรอคะ”“อื้อ พอดีนานๆ พี่จะซักที่น่ะ ช่วงนี้ก็ยุ่งๆ ด้วย”“อ๋อ”“คืนนี้หนูอยากนอนกับพี่ริน” นาลินเดินมากอดฉันแล้วเงยหน้าขึ้นมองอย่างออดอ้อน“ขอบคุณนะคะที่ทำให้หนูกลับมามีชีวิตที่สดใสอีกครั้ง ^_^”“พี่ก็ขอบคุณเธอเหมือนกันนะที่เข้มแข็งสู้กับโรคร้ายจนชนะได้ ^_^”“หมอที่นั่นเขาเก่งมากจริงๆ ค่ะ แถมยังดูแลหนู
ฉันเดินออกมาหน้าห้องแล้วปิดประตู เพราะกลัวว่านาลินจะได้ยินเข้า“คุณเหนือกลับไปก่อนนะคะ รินขอร้อง” สีหน้าของคุณเหนือในตอนนี้เหมือนว่าเขากำลังเมินคำขอร้องของฉันอยู่“คุณเหนือ”“ฉันง่วง” เขาตอบมาแค่สั้นๆ“ง่วงแล้วทำไมไม่ไปนอนที่บ้านล่ะคะ จะมาหารินทำไม”“ฉันนอนที่นี่ไม่ได้ ?”“มะ ไม่ได้ค่ะ รินบอกแล้วไงว่านาลินอยู่ในห้อง”“แต่คอนโดนี้ฉันเป็นคนจ่าย ฉันก็มีสิทธิ์จะนอน”“แต่ไม่ใช่เวลาแบบนี้นะคะ” คุณเหนือเอื้อมมือจะมาเปิดประตูห้อง ฉันจึงรีบผลักมือเขาออก “คุณเหนือไม่เข้าใจรินเลยใช่ไหมคะ”“หรือเธอจะให้ฉันเป็นคนพูดกับน้องสาวของเธอเอง” คุณเหนือหยุดพูดจากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าลงมา “…ว่าเธอเป็นอะไรกับฉัน”“มะ หมายความว่ายังไงคะ”ลมหายใจร้อนผ่าวของคุณเหนือกระทบลงมาใส่ใบหน้าของฉัน “นี่เธอไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งกันแน่ว่าริน”ฉันกำมือทั้งสองข้างแน่นพร้อมกับเม้มปาก หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเลยตอนนี้“ยะ อย่าทำแบบนั้นเลยค่ะ”“ถ้าไม่อยากให้ฉันพูดก็เปิดประตูห้อง”ตอนนี้ฉันต้องเลือก ไม่ว่าจะเลือกทางไหนมันก็ไม่เป็นผลดีทั้งนั้น เฮ้อ…สรุปแล้วฉันก็ต้องเลือกเปิดประตูให้คุณเหนือเข้ามาในห้อง ทางเลือกนี้คงจะดี
หลังจากเลิกงานคุณเหนือก็พาฉันมาที่บ้านของเขา เขากลายเป็นคนเงียบขรึมอีกแล้ว ตั้งแต่ออกจากบริษัทจนกระทั่งถึงบ้านไม่พูดอะไรเลยสักคำ“รินอยู่ได้ถึงหกโมงเย็นนะคะ เดี๋ยวนาลินจะสงสัยเอา” ฉันเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องของคุณเหนือแล้วคำพูดของฉันทำให้คุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนที่ร่างของฉันจะถูกดันให้มาชนเข้ากับกำแพงห้องคุณเหนือใช้มือข้างหนึ่งยกขึ้นมายันกับกำแพงห้องไว้ ส่วนมืออีกข้างของเขาก็จับปลายคางฉันให้เงยขึ้นฉันมองคุณเหนืออย่างไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไร และในตอนนี้สายตาของเขาก็กำลังมองฉันอยู่ เราทั้งคู่ต่างจ้องมองกันอยู่นาน จนในที่สุดคุณเหนือก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน“สักวันน้องสาวของเธอก็ต้องรู้ คิดว่าจะปิดได้ตลอดหรือไง”“แต่ตอนนี้รินยังไม่พร้อมจะบอกนี่คะ”“แค่พูดว่าเป็นแฟนฉันมันยากตรงไหน ?”ตึกตัก! ตึกตัก! คำพูดของคุณเหนือทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงอีกแล้ว“กะ ก็มันไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ รินไม่กล้าพูดหรอกค่ะ”“หรือเธออยากจะเป็นแฟนฉันจริงๆ ?”“มะ ไม่ค่ะ รินไม่กล้าคิดแบบนั้น…” ฉันรีบหลบสายตาเมื่อถูกถามแบบนั้นคำตอบของฉันมันขัดจากความรู้สึก ทั้งที่จริงแล้วฉันต้องการ แต่ก็ต้องพูดปฏิเสธออกไป