ฉู่อี้หาน "...""เจ้าพักผ่อนเถอะ ข้าจะไปแล้ว" ฉู่อี้หานเจรจาเงื่อนไขกับซูเนี่ยนเสร็จ ก็เก็บรอยยิ้มบนใบหน้าแล้วเดินจากไปไม่เช้าแล้ว เขาควรไปประชุมเช้าเสียทีหลังจากฉู่อี้หานเดินออกไป ซูเนี่ยนจึงไปนอนต่อหลังจากตื่นขึ้นมา"ได้ยินหรือยัง เมื่อวานนี้ท่านอ๋องกับพระชายาอยู่ด้วยกันทั้งคืนที่เรือนซู่หลีด้วย""เรื่องนี้ข้ารู้ ได้ยินว่าท่านอ๋องกอดพระชายาเข้าไปด้วย""จริงหรือ? ดูท่าพระชายาจะได้รับการเอ็นดูจริงๆ เสียแล้ว เอ๋? แล้วพระชายารองทางนั้นเกิดอะไรขึ้นกัน?""เรื่องนี้ไม่รู้เหมือนักน คงไม่ได้หมดความเอ็นดูแล้วกระมัง"ดวงตะวันลอยสูงแล้ว สาวใช้เด็กรับใช้ล้อมอยู่ด้วยกันในส่วนดอกไม้ วิพากษ์วิจารณ์กันจอแจ เสียงไม่ดังมาก แต่ก็ยังดังลอดเข้าไปถึงหูซูเยียนหรันเป็นระยะ"คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งโกรธเลย ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าท่านหลีอ๋องเกลียดคุณหนูใหญ่เป็นที่สุด" มั่วเอ๋อร์เห็นสีหน้าซูเยียนหรันไม่ค่อยดี เอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง"คนที่ส่งไปเมื่อคืนนี้มีข่าวคราวมาบ้างไหม" ซูเยียนหรันเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา"ไม่มีเจ้าค่ะ" มั่วเอ๋อร์ตอบกลับอย่างระวัง"ขยะทั้งนั้น ส่งคนไปหาข่าวต่อ ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ต้องตรว
กรงเล็บแหลมคมข่วนมือของมั่วเอ๋อร์เป็นแผลสามรอย"อ๊า"มั่วเอ๋อร์กรีดร้องขึ้น ปล่อยมือออก แมวตัวนั้นก็ปีนขึ้นไปบนหน้ามั่วเอ๋อร์ จากนั้นก็ตะปบลงไปอีก ใบหน้ามั่วเอ๋อร์ถูกกรงเล็บข่วนไปอีกรอย"อ๊า คุณหนู ช่วยข้าด้วย"มั่วเอ๋อร์เจ็บจะตายอยู่แล้ว แต่แมวตัวนั้นกลับไม่ยอมปล่อยนาง ทั้งตบทั้งเกาไปบนเส้นผมของนาง เสื้อผ้าเองก็ถูกฉีกทึ้งซูเยียนหรันตกใจจนบื้อไปแล้วมุมปากซูเนี่ยนยกขึ้น ปากแอบขยับแมวตั้วนั้นถลึงดวงตาขนาดหยกมุกเบิกโพลง หมอบอยู่บนตัวมั่วเอ๋อร์แล้วหันไปมองซูเยียนหรัน"เจ้าอย่าเข้ามานะ ใครก็ได้ อ๊า" ซูเยียนหรันเห็นแมวมองนาง ก็อดร้องเสียงหลงขึ้นมาไม่ได้จากเสียงร้องเรียกของนาง แมวตัวนั้นก็กระโจนตัว กระโดดขึ้นไปบนหัวของซูเยียนหรัน"เมี๊ยว"แมวเลียๆ กรงเล็บ ร้องขึ้นมาเสียงหนึ่ง เสียงนี้ร้องออกมาจนซูเยียนหรันขนลุกพองแมวตัวนั้นพอเลียกรงเล็บเสร็จ ก็เริ่มตะปบลงไปบนเส้นผมซูเยียนหรัน"อ๊าๆๆ ใครก็ได้ รีบมาเร็ว" ซูเยียนหรันที่มีแมวตัวหนึ่งอยู่บนหัววิ่งแจ้นออกไป ร้องไปด้วยวิ่งไปด้วย"พระชายารอง เป็นอะไรไป"เหล่าสาวใช้ขึ้นหน้ามา คิดจะไล่แมวออกไป แต่แมวตัวนั้นก็ปราดเปรียวเหลือเกิน ทั้ง
"คุณชายน้อยขับถ่ายน้อยมาก" แม่นมตอบกลับตามจริง คุณชายน้อยกินน้อยขับถ่ายก็น้อย พวกนางจึงไม่ได้ใส่ใจเด็กน้อยล้วนเป็นเช่นนี้"เอาล่ะ ข้ารู้แล้ว" ซูเนี่ยนเข้าใจ นี่ไม่ใช่ว่าถ่ายได้น้อย แต่เป็นถ่ายไม่ออกต่างหาก"เกิดอะไรขึ้นกันแน่?" องค์หญิงใหญ่ถามขึ้น"เด็กคนนี้ในท้อง มีแต่อุจจาระ" ซูเนี่ยนลูบจมูก เอ่ยขึ้นมาตรงๆ"หมายความว่าอย่างไร" องค์หญิงใหญ่หน้าดำคร่ำเคร่ง"ก็ตามที่บอกเลย ไม่ใช่ว่าเด็กคนนี้ไม่ขับถ่าย แต่ว่าถ่ายไม่ออก ในท้องไม่ราบรื่น จนทำให้เขาหิวแต่ก็ไม่กิน ดังนั้นจึงเอาแต่ร้องไห้"ซูเนี่ยนเดินมาข้างโต๊ะ หยิบพู่กันเขียนใบสั่งยาขึ้นมาชุดหนึ่ง ยื่นส่งให้สาวใช้"นำชะเอมจีนไปต้มน้ำตามใบสั่งยานี้ จำไว้ว่าขั้นตอนต้องทำตามใบสั่งยานี้" ซูเนี่ยนเอ่ยกำชับเด็กเล็กท้องผูก โชคดีที่เพื่อนร่วมงานที่มีเด็กของนางก่อนหน้านี้เคยเล่าไว้ ไม่เช่นนั้นนางเองก็ไม่รู้จะจ่ายยาอย่างไร"เจ้าค่ะ"สาวใช้พอรับการกำชับแล้วก็รีบเดินออกไป"ซูเนี่ยน มีวิธีทำให้เขาไม่ร้องไห้ไหม" องค์หญิงใหญ่ได้ยินเสียงเด็กร้องจนเสียงแหบแล้ว เอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน"วางเด็กไว้บนเตียง""ได้"ซูเนี่ยนมองเด็ก ล้วงมือเข้าไปในผ้าห
วิธีนี้ในแพทย์แผนจีนเองก็มีการบันทึกไว้ เพื่อนร่วมงานของนางคนนั้นก็เคยใช้วิธีนี้ ได้ผลไม่เลวเลย"ได้ เช่นนั้นก็ทำตามวิธีของเจ้า" องค์หญิงใหญ่รังเกียจขาหมูที่สุด แต่พอเห็นว่าเพื่อเด็กก็จำใจต้องกินแล้ว"ตอนที่ต้มขาหมูกับทงเฉ่าไม่ต้องใส่เกลือลงไปเลย ไม่เช่นนั้นตอนที่เด็กกินลงไปจะท้องเสีย ต้มขาหมูให้เปื่อย จนน้ำแกงข้นมีสีขาวขุ่นก็พอ" ซูเนี่ยนเอ่ยเสริมขึ้นมา"อืม จำได้หรือยัง ทำตามที่พระชายาว่าเลย" องค์หญิงใหญ่สะกดความขยะแขยงในใจตนเอง เอ่ยขึ้นมา"เพคะ"ซูเนี่ยนในดวงตามีประกายยิ้ม อันที่จริงยังมีวิธีอื่นอีก แต่นางกลัวว่าองค์หญิงใหญ่น่าจะรับไม่ไหว"ไปหยิบปิ่นทองหยกมรกตเล่มนั้นของข้ามามอบให้กับพระชายาหลี" องค์หญิงใหญ่กำชับขึ้นมาอีกที"เพคะ"สาวใช้ใหญ่ไปหยิบปิ่นเปล่งประกายแสงทองเล่มหนึ่งออกมาจากในตู้ ตรงกลายปิ่นฝังเลี่ยมหยกใสไว้ก้อนหนึ่ง ด้านล่างยังมีห้อยระย้า งดงามจับตาอย่างมาก"เจ้าช่วยข้ามาหลายครั้ง ปิ่นนี้ถือเป็นคำขอบคุณ" องค์หญิงใหญ่เอ่ยขึ้น"ได้ เช่นนั้นก็ขอบพระทัยองค์หญิงใหญ่มาก จริงด้วย ยาขวดนี้องค์หญิงใหญ่นำไปทาต่อด้วย มีประโยชน์ต่อบาดแผลที่ท้อง" ซูเนี่ยนรับปิ่นทองมา แล้วล้วง
"เฟิ่งเอ๋อร์ พรุ่งนี้เจ้ากับข้าไปด้วยกัน" ซูเนี่ยเอ่ยขึ้น"เจ้าค่ะ แล้วคุณชายน้อยล่ะเจ้าคะ?" เฟิ่งเอ๋อร์ถามขึ้น"เรื่องนี้ข้าคิดไว้แล้ว" ซูเนี่ยนเดินออกจากข้างหน้าต่าง มานั่งอยู่บนโต๊ะกลมในห้อง รินชาออกมาแก้วหนึ่ง"เจ้าส่งคนไปแจ้งผู้ดูแลหน่อย ให้เขาซื้อตัวสาวใช้มา ข้าจะเลือกสองคนไว้ปรนนิบัติรับใช้"ซูเนี่ยนจิบน้ำชา คำนวณเอาไว้แล้วใจใน ตอนนี้เรือนลั่วสุ่ยมสาวใช้แค่เฟิ่งเอ๋อร์คนเดียวไม่เพียงพอแต่ว่านางก็ขี้เกียจจะไปคอยเสี้ยมสอนคนอื่นแล้ว ให้หงซิ่งกับหงเย่มาเลยแล้วกันสองปีก่อนในคืนหนึ่ง นางออกจากจวนอ๋องไปทำธุระ แล้วบังเอิญไปช่วยยายคนหนึ่งเอาไว้ เดิมทีก็เป็นเรื่องเล็กนิดเดียว แต่กลับไม่คิดว่าตัวตนฐานะของยายคนนั้นจะยิ่งใหญ่เสียเหลือเกินยายคนนี้ชื่อว่าหวายซาง ซูเนี่ยนเรียกนางว่าท่ายยายหวายซางท่านยายหวายซางมีหอศาลาอยู่แห่งหนึ่ง มีชื่อว่าศาลาหงอู๋ ศาลาหงอู๋นอกจากจะทำการแพทย์แล้วยังขายข่าวสารอีกด้วยท่านยายหวายซางชอบซูเนี่ยนมากและให้ความสำคัญกับวิชาแพทย์ของซูเนี่ยน ก็เลยรับซูเนี่ยนเป็นศิษย์ จนซูเนี่ยนกลายเป็นคุณหนูของศาลาหงอู๋ไปหลายปีนี้ศาลาหงอู๋ภายใต้การดูแลของนานงมีชื่อเสียงโด่
"เฟิ่งเอ๋อร์ หงซิ่งกับหงเย่เป็นคนของข้าเอง นับจากวันนี้เรือนลั่วสุ่ยก็ส่งให้พวกเจ้าทั้งสามคนแล้วนะ" ซูเนี่ยนเอ่ยขึ้น"เจ้าคะ คุณหนู" เฟิ่งเอ๋อร์พยักหน้า นางรู้ว่าคุณหนูมีฝีมือ จึงเชื่อฟังต่อสิ่งที่นางจัดวาง"คุณหนู หงเย่คิดถึงท่านมากเลย" หงเย่กระพริบตาโตจ้องมองซูเนี่ยน สีหน้าโศกเศร้าเล็กๆหนึ่งปีแล้ว คุณหนูไม่ได้กลับไปศาลาหงอู๋มาหนึ่งปีแล้ว พวกนางหลายคนคิดถึงคุณหนูมาก"นี่ก็เจอกันแล้วไม่ใช่หรือ" ซูเนี่ยนยิ้มตอบ นางช่วงปีนี้ยุ่งมาก แต่ยังดีที่พวกของหงซิ่งทำงานมีประสิทธิภาพ ศาลาหงอู๋จึงถูกพวกนางดูแลจัดการได้ดีมาก"หงเย่ อย่ารบกวนคุณหนู" หงซิ่งจูงมือเสียวเป่า เตือนขึ้นเสียงเบา"อื้อ" หงเย่ปากมุ่ย จากนั้นก็มองไปทางเฟิ่งเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ กระพริบตาอย่างเป็นมิตรให้กับนางเฟิ่งเอ๋อร์เขินอาย นางรู้สึกว่าหงเย่น่ารักมากซูเนี่ยนยิ้มๆ หงเย่เด็กสาวคนนี้มีนิสัยร่าเริงมาก ถูกนางแหย่เข้าเช่นนี้ บรรยากาศก็ผ่อนคลายลงมามากเลย"เฟิ่งเอ๋อร์ หงซิ่ง พรุ่งนี้พวกเจ้าสองคนอยู่ที่นี่คอยดูแลเสียวเป่า หงเย่ไปงานชมดอกท้อกับข้า" ซูเนี่ยนเปลี่ยนความคิด พรุ่งนี้ซูเยียนหรันจะต้องเล่นไม่ซื่อแน่ นางพาสาวใช้ใหม่ไป
หมัวมัวเองก็คิดในใจ ยืนตัวตรง หวังว่าวันนี้พระชายาหลีจะหยุดก่อเรื่องขณะกำลังคิด รถม้าที่สลักสัญลักษณ์จวนอ๋องหลีก็มาจอดที่ประตูจวนฮูหยินและเหล่าคุณหนูที่กำลังจะเข้าจวนก็หยุดเท้าลง ลังเลเล็กน้อย พวกนางได้ยินว่างานชมดอกท้อวันนี้ซูเนี่ยนก็จะมา พวกนางไม่อยากเดินใกล้กับซูเนี่ยนนักแต่กลับอยากจะมีความสัมพันธ์อันดีกับซูเยียนหรันอยู่ซูเยียนหรันเลิกม่านรถม้าออก มีมั่วเอ๋อร์ประคองลงมาก่อนจากนั้นซูเยียนหรันก็ลงจากรถ ในกลุ่มคนก็มีเสียงสูดปากดังขึ้นและได้เห็นซูเยียนหรันในชุดกระโปรงระบายผ้าไหมลายดอกไม้ ด้านบนมีด้ายทองปักเป็นดอกท้อ จากการเคลื่อนไหวลงจากรถม้าของซูเยียนหรัน ดอกท้อนั่นก็ยิ่งสาดสีชมพูอ่อนโยนขึ้นภายใต้แสงตะวัน บนศีรษะมีปิ่นระย้าผีเสื้อหยกไข่มุก เดินลงจากรถม้าราวกิ่งหลิวต้องลม จนผู้คนรู้สึกเหมือนผีเสื้อกำลังเริงระบำอยู่กลางดอกท้อเลยทีเดียวซูเยียนหรันยกมุมปาก ใบหน้าเล็กสวยสดมีดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก"ซูหรัน เจ้ามาแล้ว" หญิงสาวชุดกระโปรงยาวสีขาวคนหนึ่งเดินมาพูดคุยกับซูเยียนหรัน จากนั้นก็แสร้งทำท่าตกใจเอ่ยขึ้นว่า "ไอ๊หยา ตอนนี้ต้องเรียกว่าท่านพระชายารองแล้วนี่ คารวะท่านพระชาย
"คุณหนู น้องสาวของท่านดูรื่นเริงเกินไปแล้ว ต้องการให้ข้า..."ทุกคนในศาลาหงอู๋รู้เรื่องซูเนี่ยนดี หงเย่รักความยุติธรรมเป็นอย่างมาก เมื่อได้เห็นซูเยียนหรันปฏิบัติตนต่อซูเนี่ยนอย่างไร้ซึ่งความเคารพกับตา หงเย่ก็โกรธเคืองยิ่งขึ้นเธอไม่เข้าใจว่าทั้งที่คุณหนูมีอำนาจในการจัดการซูเยียนหรันได้ ทำไมกลับไม่ลงมือ"เมื่อแมวจับหนู แมวจะค่อยๆ ตะปบ ให้หนูหวาดกลัวและค่อยๆ หมดเรี่ยวแรงไป นั่นแหละถึงจะสนุก" มุมปากของซูเนี่ยนโค้งขึ้นเธอต้องการให้ซูเยียนหรันค่อยๆ สูญเสียสิ่งที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยในตอนนี้ ต้องการให้ต่อไปต้องใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความหวาดกลัว สิ่งที่ตัวซูเนี่ยนเคยประสบมาก่อน เธอเองก็ต้องลิ้มรสด้วย"เอ๋" เมื่อหงเย่เห็นซูเนี่ยนยิ้มมุมปาก หงเย่ก็สั่นสะท้าน เกรงว่าคืนวันในอนาคตของคุณหนูรองจะลำบากเสียแล้ว"พระชายา ถึงจวนโหวแล้วเพคะ" เสียงของคนขับรถม้าดังเข้ามาขณะที่รถม้าได้หยุดลงหงเย่กระโดดลงไปก่อน แน่นอนว่าที่ประตูจวนได้มีสตรีผู้สูงศักดิ์มารวมตัวกันอยู่แล้ว มองรถม้าจากจวนอ๋องหลีราวกับกำลังเฝ้ารอคอยหลังจากหงเย่ช่วยประคองซูเนี่ยนลงจากรถม้า ทุกคนก็เห็นได้เห็นลักษณะและการแต่งกายของเธออย่า
ซูเนี่ยนกรอกตาบน ครั้งแรกเลยที่ได้เห็นคนระลึกความหลังกันแบบนี้กลิ่นยาสมุนไพรลอยมา ขอบตาแดงๆ ของฉู่อี้หานค่อยๆ จางหายไป กลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเห็นซูเนี่ยนมองค้อนเขาทีหนึ่ง เขาก็กลับมามีสติอีกครั้งมีพวกเราอยู่ก็มีความหวังอย่างนั้นเหรอ?ประโยคนี้ตอนนั้นดูเหมือนเสด็จแม่ของเขาก็เคยพูดไว้ เหตุใดซูเนี่ยนถึงได้พูดประโยคเดียวกัน?เพลงเซียวเซียงเยียนอวี่ที่ซูเนี่ยนเล่นใรงานชมดอกท้อ ความจริงแล้วเป็นบทเพลงที่เสด็จแม่ของเขาเคยบรรเลงร่วมกับลู่เจียว พวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วิธีการดีดพิณก็เหมือนกันในหลายจุดซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถดีดพิณได้ วิธีการดีดยังได้รับการสืบทอดมาจากลู่เจียว ครั้งก่อนเขาได้ยินแล้วตอนอยู่อีกเรือน แถมยังส่งมั่วอีไปแอบดูมาแล้วด้วยเขาอยากฟังอีกสักครั้งจัง"ท่านอ๋อง รบกวนหลีกทางหน่อย" ซูเนี่ยนโบกมือไล่ฉู่อี้หานอย่างรำคาญแม่นมไป๋ที่อยู่ด้านหลังรีบเข็นฉู่อี้หานออกไปด้านข้างทันทีไทฮองไทเฮาเม้มปาก มองดูซูเนี่ยนที่ดึงมือของตัวเองไป ความจริงนางค่อนข้างตื่นเต้น เพราะว่านางไม่อยากกินยา และไม่อยากฝังเข็มซูเนี่ยนจับชีพจรให้ไทฮองไทเฮาอย่างละเอียด ทั้งยังตรวจดู
"หึ" แววตาของฉู่อี้หานค่อนข้างร้อนแรง ซูเนี่ยนรู้สึกตกใจจนต้องชักมือกลับไป"ข้าเห็นเจ้าเปลือยหมดแล้ว เจ้าเองก็เห็นข้าเปลือยหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ข้ายังไม่เอาเรื่องที่เจ้ามองข้าเลยนะ" น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง สายตาของฉู่อี้หานจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ขาวสะอาดของซูเนี่ยน"หุบปากนะ!" ซูเนี่ยนหน้าดำ นางเห็นเขาเปลือยตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ท่านอ๋อง พระชายา ไทฮองไทเฮาตื่นแล้วเพคะ" ในขณะที่ซูเนี่ยนกำลังจะพูดอะไร แม่นมไป๋ก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยความดีใจ"ตื่นแล้ว? ไปดูสิ" ซูเนี่ยนพยักหน้า ดูจากเวลา ตอนนี้ไทฮองไทเฮาก็ควรจะตื่นแล้วซูเนี่ยนเดินอยู่ด้านหน้า ฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อตามมาอยู่ด้านหลัง พวกเขาเดินอย่างรีบร้อนเข้าไปในตำหนักของไทฮองไทเฮาตอนนี้ไทฮองไทเฮากำลังนั่งเอนหลังกินข้าวต้มเปล่าด้วยการดูแลของนางกำนัลอยู่บนศรีษะของนางไม่มีเครื่องประดับผมใดๆ สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าเล็กมาก เห็นได้ชัดว่าในตอนสาวๆ ก็เป็นหญิงงามคนหนึ่ง"ไทฮองไทเฮา ท่านอ๋องหลีกับพระชายาหลีมาแล้วเพคะ" แม่นมไป๋พูดรายงานอย่างนอบน้อม"ไม่กินแล้ว" ไทฮองไทเฮาโบกมือให้กับนางกำนัล ข้าวต้ม
มั่วอีค้อมตัวเล็กน้อย เหตุใดใบหน้าของท่านอ๋องถึงมีรอยช้ำได้นะ?ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าพระชายาคงเป็นคนต่อยแน่ หรือว่าท่านอ๋องทำเรื่องอะไรไม่ดีกับพระชายาอีกแล้วเหรอ?มั่วอีคิดอย่างใจลอย เมื่อสายตาเย็นเยียบของฉู่อี้หานมองมา มั่วอีจึงต้องเร่งมือขึ้นอีกเขาเข็นฉู่อี้หานออกจากบ่อน้ำร้อน อ๋องคังกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นหน้าของฉู่อี้หานเขาก็ดีใจ แต่เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าเขาก็ต้องยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นใครกันที่ไม่กลัวตายแอบลอบทำร้ายเสด็จพี่! ใครกันที่บังอาจขนาดนี้ เขาจะต้องไปพบสักหน่อยแล้ว"ฮ่าๆๆ เสด็จพี่ มะ มุมปากท่าน" อ๋องคังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าเย็นชา มีแผลมาประดับไว้ ช่างดูมีสีสันเหลือเกินแค่รู้สึกตลกไปสักหน่อย"มั่วอี พาท่านอ๋องคังไปประลองดาบที่เรือนหน่อยสิ ไม่ต้องรุนแรงมากล่ะ อย่าได้รบกวนไทฮองไทเฮา ข้าอยากจะรู้ว่าหลายปีนี้ท่านอ๋องคังมีฝีมือดีขึ้นบ้างไหม" ฉู่อี้หานหรี่ตาลง มองไปที่อ๋องคังอย่างน่ากลัว เขาอยากจะยกมุมปากขึ้นเหลือเกิน แต่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ฉับพลันความโกรธก็ฉายขึ้นมาในแววตายัยซูเนี่ยนนั่น ไม่ออมมือเลยสักนิด"เอ่อ ฮ่าๆๆ" เดิมทีอ๋องคังก
ท่าทางการต่อสู้ของซูเนี่ยนแปลกประหลาด หลังจากที่ฉู่อี้หานแกล้งนางไปสักพักก็ไม่กล้าที่จะดูถูกฝีมือนางอีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำตามกติกาเลยหลังจากที่ซูเนี่ยนทุบตีจนพอใจก็รู้สึกโล่งที่ได้ระบายความแค้น ไม่อยากที่จะมองฉู่อี้หานอีก คิดที่จะออกไปจากสระน้ำทันทีแต่นางไม่ทันสังเกตว่าผ้าม่านที่นางใช้พันร่างกายตรงหน้าอกไว้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงจากการที่นางขยับร่างกายมากเกินไปผ้าม่านนั้นได้ล่วงลงในจังหวะเดียวกันกับที่ซูเนี่ยนหมุนตัวเดิมทีฉู่อี้หานที่คิดจะคว้าตัวนางไว้ก็ต้องนิ่งอึ้งไปกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าซูเนี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางรีบหันไปมองฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่อย่างตกใจในหัวสมองของฉู่อี้หานตอนนี้ถูกเจ้าลูกกลมๆ เด้งๆ สองลูกทำเอาเบลอไปหมด ในหัวสมองมีแต่สองคำนี้วนเวียนอยู่ใหญ่...มาก..."อ๊า!"ซูเนี่ยนกรี๊ดออกมาเสียงดัง รีบเอาผ้าม่านกลับมาพันไว้ทันที นางไม่อาจอดกลั้นความโกรธในใจได้อีกต่อไปเตะขาออกไปอย่างแรง จนฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่ต้องล้มลงไปในน้ำ"ข้าจะตีท่านให้ตาย ข้าจะทำให้ท่านจมน้ำตายไปเลย! ลามก! สารเลว!"เสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของซูเนี่ยนดังขึ้นไม่หยุด นางกำนัลสองคนที่เฝ
เมื่อซูเนี่ยนมองไปในดวงตาของเขา ก็พบว่าดวงตาของเขายิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าก็ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงล้มเลิกความคิดที่จะกลั่นแกล้งฉู่อี้หานไปนางอย่าได้ไปหาเรื่องคนโหดร้ายอย่างเขาเลย"หากข้าบอกว่าได้ล่ะ" เขากอดร่างกายของซูเนี่ยนที่พยายามดิ้นแน่นขึ้น ฉู่อี้หานพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับมองใบหน้าขาวละเอียดของซูเนี่ยนไปด้วยความสวยของซูเนี่ยนดูไกลๆ ก็น่าประทับใจแล้ว ดูใกล้ๆ ยิ่งราวกับรูปสลักของนางฟ้าบนสวรรค์ ตอนนั้นความสวยของลู่เจียวเป็นที่พูดถึงกันในเมืองหลวงเท่าไร ซูเนี่ยนก็ยิ่งเป็นมากกว่านั้นอีกเพียงแต่เมื่อก่อนซูเนี่ยนเป็นคนอ่อนแอเอาแต่เก็บตัว คนอื่นก็เลยละเลยความสวยของนาง แต่ในตอนนี้ซูเนี่ยนเปล่งประกายความมั่นใจและสงบเยือกเย็นออกมาจากภายใน ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้กับใบหน้าที่น่าหลงไหลนี้ เพียงแค่ไม่นานก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนริมฝีปากของซูเนี่ยนกระตุก ทำไมนางถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กำลังหยอกล้อฉู่อี้หาน แต่เป็นฉู่อี้หานที่กำลังหยอกล้อนางกันนะเมื่อมองฉู่อี้หานใกล้ๆ ก็ทำให้ซูเนี่ยนอดที่จะพิจรณาใบหน้าของคนเย็นชาอย่างเขาไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่เขาจ้องหน้าของนาง ราวกับว่านางเ
ใครให้ฉู่อี้หานดึงเสื้อของนางล่ะ เช่นนั้นนางก็จะทำกับเขาแบบเดียวกัน ดึงเสื้อของนาง นางก็จะให้เขารับรู้ความรู้สึกของการโดนดึงเสื้อบ้าง!ในตอนที่เสื้อถูกดึงออก นอกจากแผ่นหลังที่แข็งแรงและผิวขาวเนียนที่ซูเนี่ยนเห็นแล้ว ก็ยังมีรอยแผลเป็นริ้วๆ ตรงด้านหลังด้วยมีทั้งแผลจากมีดและดาบ รอยโดนลวก...เยอะจนนับไม่ไหว แต่แผลพวกนั้นไม่เพียงไม่ได้ทำให้ฉู่อี้หานน่าเกลียด กลับยังเพิ่มเสน่ห์แบบดิบๆ ให้เขาอีกด้วยฉู่อี้หานเพิ่งพบว่าเขาดูถูกฝีมือของซูเนี่ยนไป ใบหน้าปรากฎเป็นรอยยิ้มอันตรายแววตามีความสนุก ไม่เลว กล้าดึงเสื้อของเขา กล้าไม่เบา แต่ในเมื่อกล้าดึงเสื้อของเขา เช่นนั้นก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยซูเนี่ยนเก็บความได้ใจของตัวเองไป นางสัมผัสได้ถึงความอันตราย หลังจากโยนเสื้อทิ้งไปซูเนี่ยนก็เตรียมหันหลังจะหนี แต่ฉู่อี้หานก็ตามติดนางไม่ปล่อยอีกทั้งฉู่อี้หานยังไม่อยากที่จะเล่นเกมไล่จับอีกต่อไป เขารวบรวมกำลังภายในที่ฝ่ามือ กระแทกน้ำจนสาดกระเซ็นตัวของซูเนี่ยนกระเด็นลอยไปในอากาศ จากนั้นก็จะร่วงลงมาอย่างแรงหากว่าร่วงลงไปแบบนี้ นางคงไม่พ้นตายก็พิการแน่"ฉู่อี้หาน..."ซูเนี่ยนตะโกนออกมาอย่างดัง ใบหน้าเล
คลื่นน้ำนั้นพุ่งกระแทกมาทางซูเนี่ยนอย่างแรงซูเนี่ยนตกใจมาก รีบยื่นมือออกไปคว้าเสื้อเอาไว้ทันทีแต่แรงกระแทกจากคลื่นน้ำนั้นรุนแรง ทำให้ซูเนี่ยนคว้าไว้ได้เพียงแค่เสื้อชั้นในเท่านั้นหมุนตัวหลบการโจมตีจากคลื่นน้ำ ซูเนี่ยนอาศัยจังหวะระหว่างนั้นใช้เสื้อชั้นในห่อร่างกายของตัวเองไว้ แต่เนื่องจากรีบร้อนทำให้เสื้อชั้นในสามารถปกปิดไว้ได้เพียงส่วนสำคัญเท่านั้น ร่างกายส่วนอื่นยังเปิดเผยอยู่อย่างเห็นได้ชัดฉู่อี้หานหรี่ดวงตาทั้งสองข้างมองไปยังเรือนร่างเล็กที่ๆ ที่กำลังหันหลังว่ายหนีตัวเองอย่างรวดเร็วอยู่คิดหนี? ต้องดูด้วยว่าเขายินยอมหรือไม่!เดิมทีเขาก็ไม่วางใจทางด้านไทฮองไทเฮาอยู่แล้ว ดังนั้นเลยส่งสิบแปดองค์รักษ์มาคอยแอบคุ้มกันอีกที คิดไม่ถึงว่าจะมีแอบเข้ามาถึงบ่อน้ำร้อนนี้ได้ แถมยังถูกเขาจับได้พอดี เขาไม่มีทางปล่อยนางไปแน่!ฉู่อี้หานรีบคว้าเอาเสื้อที่อยู่ริมสระน้ำมาสวม จากนั้นก็ยื่นมือคว้าไปทางซูเนี่ยนซูเนี่ยนรับรู้ได้ถึงพลังรุนแรงของฝ่ามือจากด้านหลัง ก็ตกใจรีบหลบทันทีไอน้ำขุ่นมัวล้อมรอบทั้งสองคนเอาไว้ เนื่องจากควันจากไอน้ำหนาเกินไป อีกทั้งซูเนี่ยนก็หัวเหอยุ่งเหยิง ทำให้มองเห็นหน้าไม
"ทำยังไงดีพระชายายังอยู่ข้างในเลย" นางกำนัลที่เฝ้าอยู่ด้านนอกมีสีหน้ากระวนกระวายทำไมอ๋องหลีถึงมาตอนนี้ล่ะ ก่อนหน้านี้อ๋องหลีก็มาแช่น้ำร้อนของไทฮองไทเฮาเช่นกัน ไม่มีใครเคยขวาง แต่ละคนต่างก็เคยชินแล้ว ก็เลยไม่มีใครรายงานก่อนแต่ว่าวันนี้มันต่างกัน ที่ในบ่อน้ำร้อนยังมีคนอื่นอยู่ด้วย"ไม่ต้องกลัว ด้านในก็ไม่ใช่ใครอื่นสักหน่อย เป็นพระชายาอ๋องหลีนะ ท่านอ๋องกับพระชายาจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องดีหรือยังไง" นางกำนัลอีกคนหนึ่งไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาเรื่องนี้จะโทษพวกนางไม่ได้ เป็นท่านอ๋องหลีที่น่ากลัวเกินไป พวกนางเจอทีไรเป็นต้องพูดติดๆ ขัดๆ ตลอด รอตอนที่พวกนางจะพูดจริง ก็สายไปซะแล้ว อ๋องหลีเข้าไปแล้วมั่วอีที่ได้ยินบทสนทนาของนางกำนัลทั้งสองคนก็ตกใจ แต่ตอนนี้ใครก็ไม่สะดวกเข้าไปแล้ว จะขวางท่านอ๋องได้อย่างไร?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่อยากขวาง ก็เหมือนกับที่นางกำนัลสองคนนี้พูด ให้ท่านอ๋องกับพระชายาใช้เวลาอยู่ร่วมกันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอมั่วอีเปลี่ยนทิศทางการเดิน สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีเลสนัย เดินออกไปทางนอกตำหนักฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อไปทางสระน้ำ ที่ปากของหงส์ท
เยือกเย็นมาก สงบมาก ลักษณะเช่นนี้ขนาดลูกคุณหนูตระกูลใหญ่ทั่วไปยังทำไม่ได้เลยอีกทั้งการปฏิบัติตัวกับคนอื่นก็โอบอ้อมอารี มีมารยาท ใส่ใจแต่เรื่องพวกนี้ นางคิดว่าซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถเป็นฐานะพระชายาอ๋องหลีได้ แถมยังคู่ควรกับอ๋องหลีอีกด้วยอีกอย่างดูจากท่าทางของอ๋องหลีเมื่อคืนนี้ เกรงว่าเขาก็คงมีใจให้กับซูเนี่ยนเหมือนกันสิ่งที่แม่นมไป๋คิดอยู่ในใจ ซูเนี่ยนไม่ได้รู้เลยสักนิด นางคิดเพียงอยากจะรีบอาบน้ำ ตอนนี้นางเหม็นตัวเองจะตายอยู่แล้วแม่นมไป๋เดินนำซูเนี่ยนมาจนถึงบ่อน้ำร้อนนี่คือบ่อน้ำร้อนที่จักรพรรดิเต๋อคังสร้างให้ไทฮองไทเฮาโดยเฉพาะ ภายในยังใส่สมุนไพรจีนไว้มากมาย มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากซูเนี่ยนเป็นหมอย่อมต้องดมรู้อยู่แล้วภายในบ่อน้ำร้อนมีควันพวยพุ่ง ขมุกขมัว บ่อน้ำร้อนใหญ่มาก มีปุ่มกดรูปหงส์สยายปีกสร้างไว้โดยรอบ แม่นมไป๋กดปุ่มรูปหงส์อันหนึ่ง ก็เห็นว่าน้ำในบ่อถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็วไม่ใช่บ่อสมุนไพรอีกต่อไป แต่กลายเป็นบ่อน้ำนมสีขาวที่มีกลีบดอกท้อลอยอยู่ด้านบนแทนอุณหภูมิน้ำที่อุ่นทำให้กลิ่นหอมจากกลีบดอกท้อลอยโชยขึ้นมาในอากาศ ซูเนี่ยนสูดหายใจเข้าไปลึกๆ รู้สึกว่าหอมมากสมแ