งานชมดอกท้อในปีที่ผ่านๆ มานั้นน่าขายหน้าอย่างไร ปีนี้เธอก็คงต้องขายหน้าอย่างเดิม"อืม" ซูเนี่ยนหรี่ตาลง มองไปยังความจื่นเต้นในดวงตาของซูเยียนหรัน ในใจรู้สึกเหยียดหยาม"บ่าวเฒ่าพาพระชายาและคุณหนูทุกท่านเข้าจวน" หมัวมัวตกตะลึง เหงื่อออก มือเท้าเย็น เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจู่ๆ พระชายาหลีจะกลายเป็นคนฝีปากดีขนาดนี้ซูเนี่ยนเดินนำหน้า เธอรู้สึกได้ถึงสายตาอันแรงกล้าจากด้านหลัง จึงหันมองแวบหนึ่ง กู้อี๋ซิวตกตะลึงและรีบละสายตาหมัวมัวพาทุกคนเข้าสู่จวนทิวทัศน์ในจวนนั้นสวยงามมาก ทั้งภูเขาจำลอง ทางเดินหิน เขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์ มีดอกไม้นานาพรรณ ส่งกลิ่นหอมรัญจวนทุกคนเดินผ่านระเบียง จากนั้นจึงผ่านประตูเข้าไป และในที่สุด หมัวมัวก็พาทุกคนมาถึงสวนดอกท้อในสวนดอกท้อมีต้นท้อปลูกอยู่หลายต้น มีโต๊ะและเก้าอี้จัดวางอยู่มากมาย เหล่าคุณหนูจากตระกูลขุนนางทั้งหลายต่างก็ทักทายซึ่งกันและกันซูเนี่ยนและคนอื่นๆ เดินเข้ามา เหล่าคุณหนูพากันทิ้งซูเนี่ยนไว้ และทักทายซูเยียนหรันอย่างเป็นมิตร ทั้งที่เมื่อสักครู่ทักทายซูเนี่ยนที่หน้าประตูอย่างขอไปทีผู้คนพูดคุยกระซิบกระซาบกัน ไม่มีใครเข้าใครซูเนี่ยน"พระช
ในทุกปี ผู้ชมในงานชมดอกท้อ นอกจากจะดื่มเหล้าดอกท้อและชื่นชมดอกท้อแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นอีก นั่นคือการแข่งขันความสามารถพิเศษทั้งแต่งกวี ดีดพิณ วาดภาพ และอื่นๆ ผู้ชนะจะได้รับรางวัลจากองค์จักรพรรดิโดยตรงในงานเลี้ยงดอกโบตั๋นเดือนห้านี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนเข้าร่วมงานชมดอกท้อซูเนี่ยนในอดีต ไม่ใช่ว่าไม่เคยร่วมการแข่งขันใดๆ แต่ทุกการแข่งขันล้วนน่าสังเวชเป็นอย่างมาก เป็นที่โหล่เกือบทุกการแข่งขันไม่ได้ออกจากจวนมาสามปี ก็ไม่มีทางที่จะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากมาย ฉู่หลันฟางจึงจงใจทำให้เธอลำบากใจทุกคนรู้เรื่องนี้ดี แต่พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าซูเนี่ยนจะตอบตกลงหรือไม่องค์หญิงหกเป็นตัวแทนของราชวงศ์ แต่ตั้งแต่ที่ซูเนี่ยนแต่งงานกับหลีอ๋องไป ก็ยังไม่ได้มาเข้าร่วมงานชมดอกท้อสักครั้งคราวนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างราชวงศ์กับคจวนอ๋องหลี!ทุกคนมองไปยังซูเนี่ยน โดยคาดหวังว่าจะเห็นความกลัวและการปฏิเสธบนใบหน้าของเธอ แต่เหนือความคาดหมาย เธอไม่มีการแสดงออกอื่นใดนอกจากการดื่มเหล้าดอกท้ออย่างสงบในตอนนั้นเอง งานชมดอกท้อก็เริ่มขึ้นบุรุษหลายคนในชุดสีสันสดใสเดินเข้าไปในสวนดอกท้อ ผ
ซูเนี่ยนเคาะปลายนิ้วเบาๆ รู้สึกได้ถึงสายตาของซูเยียนหรัน แสดงท่าทีสงบนิ่ง ราวกับไม่ใส่ใจว่าต่อไปตนต้องทำอย่างไรกู้อี๋ซิวก็กำลังสังเกตซูเนี่ยนอยู่เช่นกัน สีหน้ายังคงดูว่างเปล่าซูเนี่ยนรู้สึกขำ ที่คุณหนูกู้เอาแต่สังเกตเธอนี่มีเรื่องอะไร? ความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น เกรงว่าจะมีแค่เธอกับซูเนี่ยนที่รู้ดีคุณหนูกู้เป็นคนที่ซ่อนความรู้สึกเก่งที่สุดคนหนึ่ง เมื่อเทียบกับซูเยียนหรัน ซูเยียนหรันดูค่อนข้างจะตื้นเขินกว่าสักหน่อยห้าปีก่อน คุณหนูกู้เคยพบกับซูเนี่ยนที่ริมสระบัวในพระราชวัง เธอจูงแขนซูเนี่ยน พูดคุยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มในตอนนั้นซูเนี่ยนไม่ได้เป็นที่นิยมนัก ไม่มีใครยอมเข้าใกล้เธอ กู้อี๋ซิวมากจากตระกูลร่ำรวยทั้งยังมีชื่อเสียง แถมยังมาคุยกับเธอ ซูเนี่ยนรู้สึดีใจมากแต่ต่อมากู้อี๋ซิวตกลงไปในน้ำ และได้ไท่จื่อที่บังเอิญผ่านมาช่วยไว้เหตุการณ์นี้ทำให้จักรพรรดิและฮองเฮาตื่นตระหนกมาก เพราะเมื่อทุกคนรีบเข้ามา ไท่จื่อและคุณหนูกู้ก็กอดกันด้วยตัวเปียกโชกแถมหลังจากที่กู้อี๋ซิวถูกช่วยขึ้นมาแล้ว ก็เอาแต่พูดว่าซูเนี่ยนเป็นคนผลักเธอลงน้ำชื่อเสียงของซูเนี่ยนตกต่ำอยู่แล้ว ทุกคนล้วนเชื่
"เป็นไปได้อย่างไร? อาจารย์ ท่านดูผิดหรือเปล่า?"ชายหนุ่มด้านล่างพูดเบาๆ จะเป็นซูเนี่ยนไปได้อย่างไร? นางคนไม่เอาไหนนี่เหรอ?"ไม่หรอก" ใบหน้าของอาจารย์หลิวเคร่งขรึมขึ้น"อาจารย์ นำกวีที่เหล่าสตรีทั้งหลายมาให้ทุกคนดูได้หรือไม่?" จิ้งอ๋องยิ้มเล็กน้อย"ได้สิ" อาจารย์หลิวก็กำลังมีความคิดเช่นนั้นพอดีตอนนั้น กวีของซูเนี่ยนและคนอื่นๆ ก็ถูกส่งต่อๆ ไป เหล่าคุณหนูคุณชายทั้งหลายล้วนต้องการอ่านกวีของซูเนี่ยน แต่เมื่ออ่านจบก็ตกตะลึงหน้าของกู้อี๋ซิวก็ซีดเผือด แม้จะเห็นกับตา แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อ"เมื่อรอจนเทศกาลฉงหยางมาถึงในฤดูใบไม้ร่วง ดอกเบญจมาศจะบานสะพรั่ง แต่บุปผาอื่นนับร้อยล้วนเหี่ยวเฉาลง""กลิ่นหอมของดอกเบญจมาศเบ่งบานอบอวลไปทั่วเมืองฉางอัน มีดอกเบญจมาศที่ดูเหมือนเกราะทองคำอยู่ทุกหนทุกแห่ง""พระชายาหลี เป็นกวีที่ดีจริงๆ ดียิ่งนัก" ใบหน้าของอาจารย์หลิวสงบนิ่ง แต่น้ำเสียงกลับตื่นเต้น แต่สิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นยิ่งกว่าคือผู้เขียนกวีบทนี้คือซูเนี่ยน"เป็นไปไม่ได้! กวีนี้ต้องเป็นกวีที่คนอื่นเขียนแน่" ฉู่หลันฟางลุกขึ้นพูดอย่างหนักแน่น"แต่ข้าเห็นกับตาว่านางเขียนเอง" มีคนพูด"แล้วอย่างไรเล่า
ซูเยียนหรันบรรเลงเพลงเซียวเซียงสุ่ยอวิ๋น หนึ่งในสามเพลงที่โด่งดัง หากใครที่เล่นดนตรีไม่เก่ง ก็อาจฟังดูแย่ จึงไม่มีใครกล้าลองเล่นง่ายๆใบหน้าเล็กๆ ของซูเยียนหรันเปล่งประกาย ใบหน้าขาวละเอียดราวเครื่องกระเบื้องเคลือบของเธอดูละมุนมากเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ คุณชายตระกูลขุนนางล้วนใจเต้นรัว แอบรู้สึกว่าหลีอ๋องช่างโชคดีเหลือเกิน"คุณหนู ยานั่นยังต้องขายให้ซูเยียนหรันหรือไม่เจ้าคะ?" หงเย่พูดเบาๆ ข้างหูซูเนี่ยน"ขายต่อไป" ดวงตาของซูเนี่ยนเป็นประกายยานั้นไม่ใช่ยาที่สามารถกำจัดรอยแผลเป็นได้จริงๆ แต่ระงับได้เพียงชั่วคราว เหมือนต้องเสพติด เมื่อเลิกใช้ ร่างกายจะถูกเหมือนแมลงมีพิษกัดเจียงซื่อเก่งมากจริงๆ ทั้งยังเต็มใจที่จะใช้เงินเพื่อซูเยียนหรัน แต่คราวนี้เขาคำนวณพลาดเมื่อหันไปมอง กำไลบนข้อมือของซูเยียนหรันได้ดึงดูดความสนใจของซูเนี่ยนกำไลข้อมือนั้นเป็นของแม่เธอ! พวกเขากล้าใช้สินเดิมของแม่เธออย่างโจ่งแจ้งในตอนนั้นซูกั๋วกงเป็นเพียงคนที่ไม่โดดเด่นของตระกูลซู หลังจากแต่งงานกับแม่ของเธอ เขาก็ค่อยๆ ก้าวเข้าสายงานสู่ราชการด้วยสินเดิมและวิชาแพทย์ของแม่ ตำแหน่งทางการของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซูเนี่ยนนั่งลงโดยมีพิณอยู่ในอ้อมแขนของเธอ ในหัวของเธอว่างเปล่า แต่มีภาพอื่นแวบขึ้นมาในใจของเธอผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กหญิงตัวเล็กๆ และนั่งข้างพิณโบราณ ผู้หญิงคนนั้นมีท่าทางอ่อนโยน สอนเด็กหญิงตัวเล็กๆ ถึงวิธีบรรเลงพิณ เด็กหญิงเรียนรู้อย่างจริงจังและบรรเลงได้ดีผู้หญิงคนนั้นยกริมฝีปากของเธอขึ้นด้วยความชื่นชมเด็กหญิงตัวเล็กๆ บรรเลงอย่างจริงจังขึ้น และเด็กชายตัวเล็กๆ ที่สวมชุดขาวก็เดินออกมาจากด้านหลังเด็กน้อยยังยกนิ้วให้เด็กหญิงด้วยใครกัน? เด็กผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? เด็กผู้หญิงคนนั้นล่ะเป็นใคร?ซู่เนี่ยนปวดหัว มองไปยังพิณในมือ ปลายนิ้วขยับอย่างไม่สามารถควบคุมได้มีทำนองแปลกๆ ดังขึ้น ใบหน้าของทุกคนว่างเปล่า แต่สีหน้าของอาจารย์หลิวเปลี่ยนไปเสียงต่างๆ ดังขึ้นทีละท่วงทำนอง ยาวบ้างสั้นบ้าง แต่ไม่ใช่การบรรเลงมั่ว คนอื่นฟังไม่ออกว่าเป็นเพลงอะไร แต่กลับเข้าใจว่าคนที่กำลังบรรเลงอยู่นี้มีทักษะการบรรเลงพิณสูง"นายน้อย"ในลานที่อยู่ตรงข้ามกำแพงจากลานดอกท้อ มีชายหนุ่มคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าและรองเท้าสีขาว เขาดูละมุนเหมือนหยก ตัวสูง มีใบหน้าที่ดูยุติธรรมและรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาดวงตาทั้งสองเป็นประ
ฉู่ชิงชิงก้มหน้าลง แต่ใบหน้าของเธอมีความสุขมาก ส่วนฉู่หลันฟางกลับรู้สึกอับอายมาก“อืม” ซูเนี่ยนพยักหน้า คนที่ฉู่หลันฟางติดค้างเอาไว้จริงๆ คือเจ้าของร่างเดิม วันนี้เธอจึงช่วยออกโรงแทนเจ้าของร่างเดิม“เอาล่ะ เอาล่ะ งานชมดอกท้อในวันนี้ทำให้ข้าตื่นตาตื่นใจจริงๆ นอกจากเหล้าดอกท้อแล้ว ยังมีขนมดอกท้ออีกด้วย ทุกคนลองชิมดูสิ” โหวฮูหยินพยายามทำให้ทุกอย่างราบรื่นและขยิบตาให้หมัวมัวหมัวมัวเข้าใจถึงสายตานั้น จึงนำอาหารและขนมอบนานาชนิดเข้ามาทุกคนกินขนมและดื่มเหล้าดอกท้อ และบรรยากาศดีขึ้นอีกครั้ง โหวฮูหยินถอนหายใจด้วยความโล่งอก“อ๊ะ ขออภัยเพคะพระชายา หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ” สาวใช้คนหนึ่งคุกเข่าลงข้างซูเนี่ยนและก้มหน้าขอโทษซูเนี่ยนมองดูชุดที่เปื้อนเหล้าดอกท้อแล้วขมวดคิ้วสายตาที่แรงกล้าได้มองมาทางนี้ นั่นคือซูเยียนหรัน ซูเนี่ยนเม้มปาก เป็นอย่างที่เธอคาดไว้ไม่มีผิด“ประมาทเลินเล่อนัก ยังไม่รีบพาพระชายาหลีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีก” โหวฮูหยินดุด้วยสีหน้าเคร่งขรึม"เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ พระชายา หม่อมฉันจะพาพระชายาไปเปลี่ยนชุดนะเพคะ" สาวใช้ลุกขึ้นและพูดด้วยเสียงสั่นเทา“ตกลง” ซูเนี่ยนเลิกคิ้ว ยืนขึ้น และเด
"ฮูหยิน ฮูหยิน แย่แล้วเจ้าค่ะ เกิดเรื่องกับพระชายาหลีแล้ว"ในงานเลี้ยง ระหว่างที่ทุกคนต่างพูดคุยและหัวเราะกัน สาวใช้กลับรีบคุกเข่าลงข้างๆ โหวฮูหยิน แล้วพูดด้วยความตื่นตระหนก“อะไรนะ อยู่ที่ไหน” โหวฮูหยินรีบลุกขึ้น แก้วที่อยู่ข้างๆ เธอร่วงลง และสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันตอนนี้ซูเนี่ยนเป็นพระชายาของหลีอ๋อง แลความคิดของหลีอ๋องที่มีต่อซูเนี่ยนนั้นก็ไม่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับซูเนี่ยน เกรงว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้หลีอ๋องผู้โหดเหี้ยมฟัง"ตอบฮูหยิน อยู่ในสวนซูฉงเจ้าค่ะ" สาวใช้ตอบ“เร็วเข้า พาข้าไปที่นั่น” โหวฮูหยินพูดอย่างเร่งรีบ แล้วยิ้มให้ทุกคน “มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพระชายาหลี ข้าขอตัวไปดูก่อน ทุกคนชมดอกท้อกันต่อเถิด”“ฮูหยิน เกิดอะไรขึ้นกับท่านพี่ ให้ข้าไปด้วยเถิด มีอะไรจะได้ช่วยกัน” ซูเยียนหรันยืนขึ้นด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลและมีร่องรอยของความตื่นเต้นที่ถูกระงับในดวงตาของเธอเธอเหลือบมองซุนปี้อวี้เงียบๆ ซุนปีอวี้ข้าใจและลุกขึ้นพูด "นั่นสิฮูหยิน เราไปด้วยกันเถอะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับพระชายาหลี ทุกคนจะได้ดูแลนางได้"โหวฮูหยินคิดอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้าแ
ซูเนี่ยนกรอกตาบน ครั้งแรกเลยที่ได้เห็นคนระลึกความหลังกันแบบนี้กลิ่นยาสมุนไพรลอยมา ขอบตาแดงๆ ของฉู่อี้หานค่อยๆ จางหายไป กลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเห็นซูเนี่ยนมองค้อนเขาทีหนึ่ง เขาก็กลับมามีสติอีกครั้งมีพวกเราอยู่ก็มีความหวังอย่างนั้นเหรอ?ประโยคนี้ตอนนั้นดูเหมือนเสด็จแม่ของเขาก็เคยพูดไว้ เหตุใดซูเนี่ยนถึงได้พูดประโยคเดียวกัน?เพลงเซียวเซียงเยียนอวี่ที่ซูเนี่ยนเล่นใรงานชมดอกท้อ ความจริงแล้วเป็นบทเพลงที่เสด็จแม่ของเขาเคยบรรเลงร่วมกับลู่เจียว พวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วิธีการดีดพิณก็เหมือนกันในหลายจุดซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถดีดพิณได้ วิธีการดีดยังได้รับการสืบทอดมาจากลู่เจียว ครั้งก่อนเขาได้ยินแล้วตอนอยู่อีกเรือน แถมยังส่งมั่วอีไปแอบดูมาแล้วด้วยเขาอยากฟังอีกสักครั้งจัง"ท่านอ๋อง รบกวนหลีกทางหน่อย" ซูเนี่ยนโบกมือไล่ฉู่อี้หานอย่างรำคาญแม่นมไป๋ที่อยู่ด้านหลังรีบเข็นฉู่อี้หานออกไปด้านข้างทันทีไทฮองไทเฮาเม้มปาก มองดูซูเนี่ยนที่ดึงมือของตัวเองไป ความจริงนางค่อนข้างตื่นเต้น เพราะว่านางไม่อยากกินยา และไม่อยากฝังเข็มซูเนี่ยนจับชีพจรให้ไทฮองไทเฮาอย่างละเอียด ทั้งยังตรวจดู
"หึ" แววตาของฉู่อี้หานค่อนข้างร้อนแรง ซูเนี่ยนรู้สึกตกใจจนต้องชักมือกลับไป"ข้าเห็นเจ้าเปลือยหมดแล้ว เจ้าเองก็เห็นข้าเปลือยหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ข้ายังไม่เอาเรื่องที่เจ้ามองข้าเลยนะ" น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง สายตาของฉู่อี้หานจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ขาวสะอาดของซูเนี่ยน"หุบปากนะ!" ซูเนี่ยนหน้าดำ นางเห็นเขาเปลือยตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ท่านอ๋อง พระชายา ไทฮองไทเฮาตื่นแล้วเพคะ" ในขณะที่ซูเนี่ยนกำลังจะพูดอะไร แม่นมไป๋ก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยความดีใจ"ตื่นแล้ว? ไปดูสิ" ซูเนี่ยนพยักหน้า ดูจากเวลา ตอนนี้ไทฮองไทเฮาก็ควรจะตื่นแล้วซูเนี่ยนเดินอยู่ด้านหน้า ฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อตามมาอยู่ด้านหลัง พวกเขาเดินอย่างรีบร้อนเข้าไปในตำหนักของไทฮองไทเฮาตอนนี้ไทฮองไทเฮากำลังนั่งเอนหลังกินข้าวต้มเปล่าด้วยการดูแลของนางกำนัลอยู่บนศรีษะของนางไม่มีเครื่องประดับผมใดๆ สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าเล็กมาก เห็นได้ชัดว่าในตอนสาวๆ ก็เป็นหญิงงามคนหนึ่ง"ไทฮองไทเฮา ท่านอ๋องหลีกับพระชายาหลีมาแล้วเพคะ" แม่นมไป๋พูดรายงานอย่างนอบน้อม"ไม่กินแล้ว" ไทฮองไทเฮาโบกมือให้กับนางกำนัล ข้าวต้ม
มั่วอีค้อมตัวเล็กน้อย เหตุใดใบหน้าของท่านอ๋องถึงมีรอยช้ำได้นะ?ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าพระชายาคงเป็นคนต่อยแน่ หรือว่าท่านอ๋องทำเรื่องอะไรไม่ดีกับพระชายาอีกแล้วเหรอ?มั่วอีคิดอย่างใจลอย เมื่อสายตาเย็นเยียบของฉู่อี้หานมองมา มั่วอีจึงต้องเร่งมือขึ้นอีกเขาเข็นฉู่อี้หานออกจากบ่อน้ำร้อน อ๋องคังกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นหน้าของฉู่อี้หานเขาก็ดีใจ แต่เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าเขาก็ต้องยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นใครกันที่ไม่กลัวตายแอบลอบทำร้ายเสด็จพี่! ใครกันที่บังอาจขนาดนี้ เขาจะต้องไปพบสักหน่อยแล้ว"ฮ่าๆๆ เสด็จพี่ มะ มุมปากท่าน" อ๋องคังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าเย็นชา มีแผลมาประดับไว้ ช่างดูมีสีสันเหลือเกินแค่รู้สึกตลกไปสักหน่อย"มั่วอี พาท่านอ๋องคังไปประลองดาบที่เรือนหน่อยสิ ไม่ต้องรุนแรงมากล่ะ อย่าได้รบกวนไทฮองไทเฮา ข้าอยากจะรู้ว่าหลายปีนี้ท่านอ๋องคังมีฝีมือดีขึ้นบ้างไหม" ฉู่อี้หานหรี่ตาลง มองไปที่อ๋องคังอย่างน่ากลัว เขาอยากจะยกมุมปากขึ้นเหลือเกิน แต่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ฉับพลันความโกรธก็ฉายขึ้นมาในแววตายัยซูเนี่ยนนั่น ไม่ออมมือเลยสักนิด"เอ่อ ฮ่าๆๆ" เดิมทีอ๋องคังก
ท่าทางการต่อสู้ของซูเนี่ยนแปลกประหลาด หลังจากที่ฉู่อี้หานแกล้งนางไปสักพักก็ไม่กล้าที่จะดูถูกฝีมือนางอีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำตามกติกาเลยหลังจากที่ซูเนี่ยนทุบตีจนพอใจก็รู้สึกโล่งที่ได้ระบายความแค้น ไม่อยากที่จะมองฉู่อี้หานอีก คิดที่จะออกไปจากสระน้ำทันทีแต่นางไม่ทันสังเกตว่าผ้าม่านที่นางใช้พันร่างกายตรงหน้าอกไว้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงจากการที่นางขยับร่างกายมากเกินไปผ้าม่านนั้นได้ล่วงลงในจังหวะเดียวกันกับที่ซูเนี่ยนหมุนตัวเดิมทีฉู่อี้หานที่คิดจะคว้าตัวนางไว้ก็ต้องนิ่งอึ้งไปกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าซูเนี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางรีบหันไปมองฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่อย่างตกใจในหัวสมองของฉู่อี้หานตอนนี้ถูกเจ้าลูกกลมๆ เด้งๆ สองลูกทำเอาเบลอไปหมด ในหัวสมองมีแต่สองคำนี้วนเวียนอยู่ใหญ่...มาก..."อ๊า!"ซูเนี่ยนกรี๊ดออกมาเสียงดัง รีบเอาผ้าม่านกลับมาพันไว้ทันที นางไม่อาจอดกลั้นความโกรธในใจได้อีกต่อไปเตะขาออกไปอย่างแรง จนฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่ต้องล้มลงไปในน้ำ"ข้าจะตีท่านให้ตาย ข้าจะทำให้ท่านจมน้ำตายไปเลย! ลามก! สารเลว!"เสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของซูเนี่ยนดังขึ้นไม่หยุด นางกำนัลสองคนที่เฝ
เมื่อซูเนี่ยนมองไปในดวงตาของเขา ก็พบว่าดวงตาของเขายิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าก็ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงล้มเลิกความคิดที่จะกลั่นแกล้งฉู่อี้หานไปนางอย่าได้ไปหาเรื่องคนโหดร้ายอย่างเขาเลย"หากข้าบอกว่าได้ล่ะ" เขากอดร่างกายของซูเนี่ยนที่พยายามดิ้นแน่นขึ้น ฉู่อี้หานพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับมองใบหน้าขาวละเอียดของซูเนี่ยนไปด้วยความสวยของซูเนี่ยนดูไกลๆ ก็น่าประทับใจแล้ว ดูใกล้ๆ ยิ่งราวกับรูปสลักของนางฟ้าบนสวรรค์ ตอนนั้นความสวยของลู่เจียวเป็นที่พูดถึงกันในเมืองหลวงเท่าไร ซูเนี่ยนก็ยิ่งเป็นมากกว่านั้นอีกเพียงแต่เมื่อก่อนซูเนี่ยนเป็นคนอ่อนแอเอาแต่เก็บตัว คนอื่นก็เลยละเลยความสวยของนาง แต่ในตอนนี้ซูเนี่ยนเปล่งประกายความมั่นใจและสงบเยือกเย็นออกมาจากภายใน ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้กับใบหน้าที่น่าหลงไหลนี้ เพียงแค่ไม่นานก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนริมฝีปากของซูเนี่ยนกระตุก ทำไมนางถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กำลังหยอกล้อฉู่อี้หาน แต่เป็นฉู่อี้หานที่กำลังหยอกล้อนางกันนะเมื่อมองฉู่อี้หานใกล้ๆ ก็ทำให้ซูเนี่ยนอดที่จะพิจรณาใบหน้าของคนเย็นชาอย่างเขาไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่เขาจ้องหน้าของนาง ราวกับว่านางเ
ใครให้ฉู่อี้หานดึงเสื้อของนางล่ะ เช่นนั้นนางก็จะทำกับเขาแบบเดียวกัน ดึงเสื้อของนาง นางก็จะให้เขารับรู้ความรู้สึกของการโดนดึงเสื้อบ้าง!ในตอนที่เสื้อถูกดึงออก นอกจากแผ่นหลังที่แข็งแรงและผิวขาวเนียนที่ซูเนี่ยนเห็นแล้ว ก็ยังมีรอยแผลเป็นริ้วๆ ตรงด้านหลังด้วยมีทั้งแผลจากมีดและดาบ รอยโดนลวก...เยอะจนนับไม่ไหว แต่แผลพวกนั้นไม่เพียงไม่ได้ทำให้ฉู่อี้หานน่าเกลียด กลับยังเพิ่มเสน่ห์แบบดิบๆ ให้เขาอีกด้วยฉู่อี้หานเพิ่งพบว่าเขาดูถูกฝีมือของซูเนี่ยนไป ใบหน้าปรากฎเป็นรอยยิ้มอันตรายแววตามีความสนุก ไม่เลว กล้าดึงเสื้อของเขา กล้าไม่เบา แต่ในเมื่อกล้าดึงเสื้อของเขา เช่นนั้นก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยซูเนี่ยนเก็บความได้ใจของตัวเองไป นางสัมผัสได้ถึงความอันตราย หลังจากโยนเสื้อทิ้งไปซูเนี่ยนก็เตรียมหันหลังจะหนี แต่ฉู่อี้หานก็ตามติดนางไม่ปล่อยอีกทั้งฉู่อี้หานยังไม่อยากที่จะเล่นเกมไล่จับอีกต่อไป เขารวบรวมกำลังภายในที่ฝ่ามือ กระแทกน้ำจนสาดกระเซ็นตัวของซูเนี่ยนกระเด็นลอยไปในอากาศ จากนั้นก็จะร่วงลงมาอย่างแรงหากว่าร่วงลงไปแบบนี้ นางคงไม่พ้นตายก็พิการแน่"ฉู่อี้หาน..."ซูเนี่ยนตะโกนออกมาอย่างดัง ใบหน้าเล
คลื่นน้ำนั้นพุ่งกระแทกมาทางซูเนี่ยนอย่างแรงซูเนี่ยนตกใจมาก รีบยื่นมือออกไปคว้าเสื้อเอาไว้ทันทีแต่แรงกระแทกจากคลื่นน้ำนั้นรุนแรง ทำให้ซูเนี่ยนคว้าไว้ได้เพียงแค่เสื้อชั้นในเท่านั้นหมุนตัวหลบการโจมตีจากคลื่นน้ำ ซูเนี่ยนอาศัยจังหวะระหว่างนั้นใช้เสื้อชั้นในห่อร่างกายของตัวเองไว้ แต่เนื่องจากรีบร้อนทำให้เสื้อชั้นในสามารถปกปิดไว้ได้เพียงส่วนสำคัญเท่านั้น ร่างกายส่วนอื่นยังเปิดเผยอยู่อย่างเห็นได้ชัดฉู่อี้หานหรี่ดวงตาทั้งสองข้างมองไปยังเรือนร่างเล็กที่ๆ ที่กำลังหันหลังว่ายหนีตัวเองอย่างรวดเร็วอยู่คิดหนี? ต้องดูด้วยว่าเขายินยอมหรือไม่!เดิมทีเขาก็ไม่วางใจทางด้านไทฮองไทเฮาอยู่แล้ว ดังนั้นเลยส่งสิบแปดองค์รักษ์มาคอยแอบคุ้มกันอีกที คิดไม่ถึงว่าจะมีแอบเข้ามาถึงบ่อน้ำร้อนนี้ได้ แถมยังถูกเขาจับได้พอดี เขาไม่มีทางปล่อยนางไปแน่!ฉู่อี้หานรีบคว้าเอาเสื้อที่อยู่ริมสระน้ำมาสวม จากนั้นก็ยื่นมือคว้าไปทางซูเนี่ยนซูเนี่ยนรับรู้ได้ถึงพลังรุนแรงของฝ่ามือจากด้านหลัง ก็ตกใจรีบหลบทันทีไอน้ำขุ่นมัวล้อมรอบทั้งสองคนเอาไว้ เนื่องจากควันจากไอน้ำหนาเกินไป อีกทั้งซูเนี่ยนก็หัวเหอยุ่งเหยิง ทำให้มองเห็นหน้าไม
"ทำยังไงดีพระชายายังอยู่ข้างในเลย" นางกำนัลที่เฝ้าอยู่ด้านนอกมีสีหน้ากระวนกระวายทำไมอ๋องหลีถึงมาตอนนี้ล่ะ ก่อนหน้านี้อ๋องหลีก็มาแช่น้ำร้อนของไทฮองไทเฮาเช่นกัน ไม่มีใครเคยขวาง แต่ละคนต่างก็เคยชินแล้ว ก็เลยไม่มีใครรายงานก่อนแต่ว่าวันนี้มันต่างกัน ที่ในบ่อน้ำร้อนยังมีคนอื่นอยู่ด้วย"ไม่ต้องกลัว ด้านในก็ไม่ใช่ใครอื่นสักหน่อย เป็นพระชายาอ๋องหลีนะ ท่านอ๋องกับพระชายาจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องดีหรือยังไง" นางกำนัลอีกคนหนึ่งไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาเรื่องนี้จะโทษพวกนางไม่ได้ เป็นท่านอ๋องหลีที่น่ากลัวเกินไป พวกนางเจอทีไรเป็นต้องพูดติดๆ ขัดๆ ตลอด รอตอนที่พวกนางจะพูดจริง ก็สายไปซะแล้ว อ๋องหลีเข้าไปแล้วมั่วอีที่ได้ยินบทสนทนาของนางกำนัลทั้งสองคนก็ตกใจ แต่ตอนนี้ใครก็ไม่สะดวกเข้าไปแล้ว จะขวางท่านอ๋องได้อย่างไร?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่อยากขวาง ก็เหมือนกับที่นางกำนัลสองคนนี้พูด ให้ท่านอ๋องกับพระชายาใช้เวลาอยู่ร่วมกันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอมั่วอีเปลี่ยนทิศทางการเดิน สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีเลสนัย เดินออกไปทางนอกตำหนักฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อไปทางสระน้ำ ที่ปากของหงส์ท
เยือกเย็นมาก สงบมาก ลักษณะเช่นนี้ขนาดลูกคุณหนูตระกูลใหญ่ทั่วไปยังทำไม่ได้เลยอีกทั้งการปฏิบัติตัวกับคนอื่นก็โอบอ้อมอารี มีมารยาท ใส่ใจแต่เรื่องพวกนี้ นางคิดว่าซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถเป็นฐานะพระชายาอ๋องหลีได้ แถมยังคู่ควรกับอ๋องหลีอีกด้วยอีกอย่างดูจากท่าทางของอ๋องหลีเมื่อคืนนี้ เกรงว่าเขาก็คงมีใจให้กับซูเนี่ยนเหมือนกันสิ่งที่แม่นมไป๋คิดอยู่ในใจ ซูเนี่ยนไม่ได้รู้เลยสักนิด นางคิดเพียงอยากจะรีบอาบน้ำ ตอนนี้นางเหม็นตัวเองจะตายอยู่แล้วแม่นมไป๋เดินนำซูเนี่ยนมาจนถึงบ่อน้ำร้อนนี่คือบ่อน้ำร้อนที่จักรพรรดิเต๋อคังสร้างให้ไทฮองไทเฮาโดยเฉพาะ ภายในยังใส่สมุนไพรจีนไว้มากมาย มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากซูเนี่ยนเป็นหมอย่อมต้องดมรู้อยู่แล้วภายในบ่อน้ำร้อนมีควันพวยพุ่ง ขมุกขมัว บ่อน้ำร้อนใหญ่มาก มีปุ่มกดรูปหงส์สยายปีกสร้างไว้โดยรอบ แม่นมไป๋กดปุ่มรูปหงส์อันหนึ่ง ก็เห็นว่าน้ำในบ่อถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็วไม่ใช่บ่อสมุนไพรอีกต่อไป แต่กลายเป็นบ่อน้ำนมสีขาวที่มีกลีบดอกท้อลอยอยู่ด้านบนแทนอุณหภูมิน้ำที่อุ่นทำให้กลิ่นหอมจากกลีบดอกท้อลอยโชยขึ้นมาในอากาศ ซูเนี่ยนสูดหายใจเข้าไปลึกๆ รู้สึกว่าหอมมากสมแ