Share

บทที่ 2 รับบทเป็นยู่หลงแล้วหนึ่ง

Aвтор: Futhaone
last update Последнее обновление: 2025-04-02 21:43:50

 

ทุกอย่างมืดสนิทไปชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะปรากฎร่างกายของตน ยืนตัวตรงอย่างสงบเสงี่ยม อยู่ในสถานที่ไม่คุ้นตา เสี่ยวเยาขยี้ดวงตาเบาๆ แววตาใสเปล่งประกายพองโต เมื่อมองไปรอบๆตัว

ที่บัดนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้กระทั้งชุดที่นางสวมใส พริ้วไหวงดงามราวกับเทพธิดา

"เอ๊ะ!!" ทว่าไม่ได้มีเพียงนางเท่านั้น

"..." ดวงตาทุกคู่จับจ้องมายังนาง ราวกับว่าเป็นตัวประหลาด เสี่ยวเยาสูบหายใจลึกเพื่อผ่อนคลาย ก่อนจะสงบนิ่งลงเพื่อไม่ให้ผู้ใดสงสัยในตัวนาง แม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้นางควรตกใจแทบสลบเสียให้ได้ แต่ทว่านางมีสติมากพอที่ยับยั้งชั่งใจไว้มิให้เกิดภัยร้ายกับตนเอง 

เสี่ยวเยาชำเลืองมองผู้ที่เดินเคียงข้างนาง สังเกตการแต่งตัวที่เหมือนกัน รวมทั้งท่าทางการวางตัว ต้องเป็นเหล่านางกำนัลแน่นอน

"เรากำลังไปไหนเหรอ?" เสี่ยวเยาเอ่ยถามนางกำนัลใกล้ตัว

"เข้าเฝ้าฮ่องเต้" 

"ฮ่องเต้!!! คือใครกัน?"

"บังอาจ! เจ้าคงเสียสติไปแล้วเหรอ เจ้าไม่รู้จักฮ่องเต้ไทจู่ได้อย่างไรกัน?" ดูเหมือนว่านางผู้นี้จะเป็นนางกำนัลรับใช้ชั้นผู้มีอาวุโส

"กูกู ข้าว่าอย่าเสียเวลากับนางเลย นางคงพักผ่อนน้อยเกินไป สติเลยเลอะเลือน"นางกำนัลผู้น้อยเอ่ยขึ้น

'ท่านผู้นี้คงเป็นนางกำนัลรับใช้ผู้มีอาวุโส หมายถึงอยู่ทำงานรับใช้ในวังนานจนใกล้เกษียณออกจากวังแล้วสินะ!!' เสี่ยวคิดภายในใจ 

"เช่นนั้นก่อนจะออกจากวังไป ข้าต้องอบรมฝึกฝนพวกเจ้าเสียก่อน แต่เจ้านะ!โชคดี เพราะความฉลาดของเจ้า จึงได้รับราชโองการจากฮ่องเต้ เข้ารับใช้ในจวนท่านแม่ทัพ จึงไม่ต้องฝึกฝนเจ้ามากนัก โชคดีของเจ้าเสียจริง หึหึ"

"เอ๊ะ!!"

'นางผู้นี้เผยรอยยิ้มตรงมุมปากอย่างมีเลคนัย แต่ช่างเถอะ! ไม่คิดจะอยู่ที่แห่งนี้นานนักหรอก เมื่อมีทางเข้าย่อมมีทางออก'

'จักรพรรคไทจู่ หรือจ้าวควงอิ้น เป็นบุญตาเราเสียจริง ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้เจอตัวจริงเช่นนี้ หากอิงอิงรู้ว่าเข้าจะทำหน้าอย่างไรนะ อิอิ^^ ว่าแต่ฮ่องเต้ดูดีกว่าในภาพวาดนั่นตั้งเยอะ! หนอยไอเจ้าคนวาดมันอยู่ไหนกัน อยากจะเห็นหน้านักเชียว' นางได้แต่คิดในใจ

"เจ้าชื่ออะไร?" กูกูถามขึ้นด้วยความไม่พอใจในท่าทางกิริยา และคำพูดของเธอที่เปลี่ยนแปลงไป

"เสี่ยวเยาเจ้าค่ะ" นางรีบก้มหน้าลงต่ำ เพราะกูกูท่านนี้มียศที่สูงกว่านางนัก และอาจจะมีสิทธิในการลงโทษนางก็ได้ เหตุใดต้องมาเจ็บตัว ณ ที่สถานแห่งนี้ด้วย สงบเสงี่ยมเจียมตัวไว้ยังเสียดีกว่า

"ได้เวลาที่เจ้าจะต้องเดินทางไปจวนท่านแม่ทัพตามพระราชโองการของฮ่องเต้ ควรแสดงกิริยามารยาทของเจ้า ให้สงบเสงี่ยมเรียบร้อยดั่งใบหน้าที่งดงาม ยิ่งนางกำนัลผู้ใดในที่นี้ ครั้งนี้ข้าจะไม่เอาความเจ้า"

"เอ๊ะ!! ตำนักท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย!!!.ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ทัพผู้โหดเหี้ยม ไม่ได้! ข้าไม่ไป! ขอเปลี่ยนเป็นจวนท่านอ๋องเถอะท่านกูกู.." น้ำเสียงสิ้นหวังถูกเปล่งออกไปโดยไม่ไตร่ตรอง ท่านกูกูนิ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงอ่อนโยน

"เสี่ยวเยาเอ๋ย...นี่คือโชคชะตาของเจ้า เจ้าไม่มีสามารถหลีกเลี่ยงลิขิตของสวรรค์ได้ พระบัญชาของฮ้องเต้ เมื่อตรัสออกมาแล้ว ก็ยากจะคืนคำได้ จงก้มหน้ายอมรับมัน แล้วสักวันเจ้าจะขอบคุณสววรค์ ที่ได้มาเยือน ณ ที่แห่งนี้" ท่านกูกูพูดออกมาพร้อมยิ้มกว้างถึงตา รอยยิ้มนั้นช่างดูงดงาม และจริงใจยิ่งนัก

" ให้ข้าไปบุกน้ำลุยไฟ หรือปีนเขายังเสียดีกว่า ขืนอยู่ที่นั่น ข้าได้ตายก่อนจะกลับบ้านแน่ๆ"

"เสี่ยวเยา...."

"รับราชโองการเพคะ!" เสี่ยวเยาจำใจโค้งคำนับรับราชโองการแต่โดยดี  แม้ประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่า 'แม่ทัพผู้นี้ใช้ดาบคู่กายสบั่นคอผู้บริสุทธิ์อย่างไร้ปราณี หากเป็นฝ่ายศัตรู แม้มีลูกเด็กเล็กแดงก็ไม่เว้น ไร้ความเมตตา ป่าเถือน  นางกำนัลที่ทำงานในจวนหากไม่พอใจ ก็จะถูกทะลกหนังนิ้วมือออกจนหมดสิ้น เหล่าทหารที่ทำให้โกรธกริ้วก็จะถูกทะลกหนังตา ให้หมาป่า สัตว์เลี้ยงคู่กายกิน ' คราวนี้เจ้าได้ตายจริงๆ แน่เสี่ยวเยา

"หากเจ้าอยากจะกลับไป สถานที่เจ้าจากมา ก็ต้องทำให้แม่ทัพเจิ้งเจี๋ยพึงพอใจในตัวเจ้า เจอกันครั้งหน้า ข้าจะตอบคำถามทุกอย่างที่เจ้าสังสัย หึ หึ เจ้าเด็กน้อยเอ่ย "

"นางรู้! นางเป็นใครกันแน่?"

"ได้เวลาแม่ทัพกลับจวนแล้ว รีบไปรายงานตัว ต่อท่านแม่ทัพเถิด" กูกูเดินจากไปโดยไม่ได้อธิบายให้นางหายครางแครงใจ สิ่งที่นางสัมผัสได้ในตอนนี้คือ กูกูผู้นี้อาจรู้เหตุผลที่เธอมาอยู่ที่นี่

"ฝากเจ้าดูแลนางด้วย" 

"เป็นหน้าทีของข้าอยู่แล้ว ท่านย่อมรู้ดีว่าข้าเป็นห่วงนางยิ่งกว่าผู้ใด้ " เสียงทุ้มเอ่ยตอบ อย่างมันคง ร่างกายสูง กำยำ สง่างาม มองไปยังนางกำนัลด้วยแววตาอันอบอุ่น 

เสี่ยวเยาเหลือบมองทหารผู้นี้ก่อนครุ่นคิดในว่า 'หน้าตาผิวพรรณก็แตกต่างจากชาวบ้านธรรมดายิ่งนัก ต่างจากทหารผู้อื่นโดยสิ้นเชิง ท่าทางการเดินอรชรอ้อนแอ้นแบบนี้จะปกป้องแม่ทัพได้อย่างไรกัน ไม่ไหว ไม่ไหว'

"นี่ เสี่ยวเยาไม่ว่าเธอจะเจออะไรในจวนแม่ทัพจงอดทนไว้ ห้ามโต้ตอบเป็นอันขาดเข้าใจไหม" 

"นายรู้จักฉัน! ไม่ซิ ท่านรู้จักข้าเหรอ"

"........."

ไร้เสียงตอบกลับ ทหารชั้นผู้น้อยนำทางเธอมาหยุดหน้าที่จวนโทรมๆหลังหนึ่ง ที่ดูเหมือนว่าจะร้างนานนับปี

"เสื้อผ้าอยู่ในห้องไปเปลี่ยนซะ! เร็วเข้าซิใกล้เวลารายงานตัวแล้ว"

"ฮ่ะ! ต้องเปลี่ยนเสื้อด้วยเหรอ..."

"เพื่อความปลอดภัยของเจ้า ต่อไปนี้ตัวตนของเจ้าจะถูกปกปิด เจ้าคือ นายทหาร ยู่หลง ไปซ่ะ ก่อนที่มีใครมากันเห็นเข้า ไว้ข้าจะอธิบายทีหลัง"

"อืมๆๆ ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เฮ่ออ"

ภายในห้องเต็มไปด้วยหยากใยแมงมุม ขี้ฝุ่นที่หนาเขอะ ผ้าม้านขาดหลุดลุ้ย กลิ่นอับตลบอบอวลไปทั่วห้อง! แต่ข้าวของเครื่องใช้ยังอยู่คบคัน พร้อมกระจกเก่าๆที่ตั้งอยู่โต๊ะเครื่องแป้ง

เสี่ยวเยามองใบหน้าตัวเอง โล่งใจที่ใบหน้ายังคงเดิม แต่ดูอ่อนเยาว์กว่าเดิมเป็นสิบเท่า

"ดูอ่อนวัยกว่าเดิม สวยเหมือนกันนะเรา^^"

นางมองบนโต๊ะพบว่ามีชุดเครื่องแบบทหาร และดาบหนึ่งเล่มหนึ่งวางคู่กัน พร้อมป้ายชื่อประจำตัว

"ยู่หลง ชื่อผู้ชาย หรือว่านี่จะเป็นคือภารกิจสอดแนนท่านแม่ทัพ ตาย ตาย รนหาที่ตายตายแท้ๆเสี่ยวเยา วรยุทธก็ไม่มี ทักษะฟันดาบก็ไม่เป็น ทำไงดี เสี่ยวเยา " ตอนนี้เธอสบสนวุ่นวายใจกับการเอาตัวรอด ณ ที่แห่งนี้ ความวิตกกังวล มโนภาพไปต่างๆนาๆหัวเธอแทบจะระเบิดเสียให้ได้

"ถ้าหากเราเป็นผู้หญิง เกิดแม่ทัพนั่นหน้ามืดขึ้นมาจับเราทำเมีย ก็คงเหมือนตกนรกทั้งเป็น ไม่ได้ๆ !ปลอมเป็นชายปลอดภัยที่สุดแล้วอย่างน้อยเราเองก็ยังมีนายทหารผู้นี้คอยดูแลอยู่ ไม่ต้องกลัวไปเสี่ยวหยา เธอต้องได้แน่ อีกไม่นานต้องได้กลับบ้านแน่นอน"

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapter

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 3 หมาป่าจอมทมิฬ

    บัดนี้'เสี่ยวเยา'กลับกลายเป็น'ยู่หลง'ทหารชั้นผู้น้อย ที่ต้องไปรายงานตัวกับท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย แม้ชุดทหารนั้นหนาแน่นเพียงใด ก็ไม่อาจปกปิดเรือนร่างซูบผอมของนางไว้ได้ดวงตาทุกคู่ของสหายร่วมทัพต่างเพ่งมองมายังร่างของนางด้วยความใคร่รู้ บ้างก็ยังซุบซิบนินทา หัวเราะเยาะเย้ยว่านางนั้น ผอมแห้งแรงน้อย จะเอาเรี่ยวแรงจากไหนมาต่อกรผู้อื่นได้ ไม่แม้แต่จะผ่านด่านคัดเลือกเป็นทหารไปได้แน่นอน แต่ทว่ายังดีที่โชคชะตายังเข้าข้างนาง ไม่มีผู้ใดครางแครงใจในตัวตนที่แท้จริงของตนก็เพียงพอแล้วไม่รีรอต่างมุ่งหน้าไปยังจวนท่านแม่ทัพ ดวงตาสวยยังคงสอดส่องเหล่าทหารหน้าใหม่ ต่างยืนอย่างสง่าผ่าเผย แววตามุ่งมั่น ตั้งใจ ไร้ความกลัวแต่อย่างใด ช่างน่าประทับใจเสียจริง ยกเว้นแต่นาง ที่ยังคงครางแครงใจว่า เหตุใดถึงทะลุมิติมาที่แห่งนี้ได้"ข้า เฟ่ยหลง คาราวะท่านแม่ทัพ"น้ำเสียงเข้มขึมเรียกสตินางคืนกลับมา แท้จริงนี้คือนามของทหารผู้น้อยท่านนี้ ท่าทางเคร่งขรึมช่างแตกต่างออกไปจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิงทหารทุกคนต่างแสดงความเคารพอีก ทั้งยังรายงายชื่อของตนเอง ต่อท่านแม่ทัพผู้นี้จนกระทั้งถึงทีของเสี่ยวเยาแล้ว"อะ แฮ้ม!ข้ายู่หลง คารา

    Последнее обновление : 2025-04-02
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 4 ความรู้สึกที่ยากจะเข้าใจ

    เจิ้งเจี๋ยมองใบหน้าขาวซีด ที่หมดสติภายใต้ออมแขนของตน พร้อมความสับสนวุ่นวายใจ ด้วยเหตุใดกัน ตัวเขาถึงเลือกที่ทิ้งกระบี่มังกรคู่ใจ เพียงเพื่อรับร่างไร้สติของทหารอ่อนแอผู้นี้ได้ ดวงตาเข้มยังคงพินิจพิจารณาทุกส่วนของใบหน้า ขนตาที่เรียวยาว ปากชมพูอันอวบอิ่ม แก้มแดงราวกับมะเขือเทศ มันช่างดูงดงามราวกับสตรีเหลือเกินตึก! ตึก! ตึก! เสียงหัวใจดังขึ้น เต้นแรงอย่างผิดปกติ เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความกังวลและความสับสนเช่นนี้ เป็นเพราะอะไรกันดอกเหมยฮวาร่วงโรยลงมาบนใบหน้าของเสี่ยวเยาอย่างนุ่มนวล แม่ทัพจ้องมองนางอย่างไม่ละสายตา ก่อนเงยหน้ามองต้นเหมยฮวาด้วยความตกตลึง เหตุใดต้นไม้ที่โดนสาปไปพร้อมกับเขา ถึงร่วงโรยลงมาในเวลานี้ นับสิบปีที่เขาเฝ้ารอคอยให้มีผู้ใดมาแก้คำสาปของตน กลิ่นหอมของดอกเหมยฮวาที่มันปลิวละล่องไปทั่วทุกทิศทาง ท่ามกลางเสียงเอะอะโวยวายของเหล่าทหาร ที่ยินดีกับปรากฎการณ์นี้ "เหตุใดดอกเหมยฮวาถึงร่วงโรยลงมา ในขณะที่เจ้าอยู่ในอ้อมแขนข้า หู่หลง? "ร่างบางอ่อนระทวยในชุดทหาร ถูกโอบอุ้มด้วยเเขนแกร่งอันทรงพลัง มุ่งตรงไปยังจวนท่านแม่ทัพ ท่ามกลางเหล่าทหารที่ยืนมองด้วยความสงสัยในพฤติกรรมที่เปลี่ยน

    Последнее обновление : 2025-04-02
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 5 คนของข้าใครอย่าแตะ!

    "จะ..เจ้า..!" ".........."เสี่ยวเยาประคองนางกำนัลผู้ไร้เรี่ยวแรง แม้จะลุกขึ้นยืน เพื่อความปลอดภัยของนาง อย่างไรเสียก็ต้องออกจากจวนแห่งนี้อย่างเร็วที่สุด "ฮ่า ฮ่า ฮ่า เยี่ยม! เยี่ยม! ข้าเริ่มสนใจนายทหารผู้นี้แล้วซิ! มาอยู่กับข้าดีไหม? "ไม่เพียงแต่พูด ท่านอ๋องผู้นี้ได้มุ่งตรงมายังเสี่ยวเยา ด้วยท่าทางสง่าสมเป็นเชื้อพระวงศ์ แววตาดุดัน ชวนให้น่าหวาดหวั่นยิ่ง ปลายหางคิ้วมีร่องรอยแผลขนาดเล็ก แต่ไม่อาจซ่อนเร้นความหล่อไว้ได้ ข้างกายยังมีกระบี่คู่ใจ เสี่ยวเยาไม่รอช้ารีบใช้กำปั้นของตน หมายจะทุบตรงศีรษะ ไม่เช่นนั้นพวกนางอาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับไปได้"อึก!!" นางทำได้เพียงยืนใจดีสู้เสือ แม้จะกลืนน้ำลายลงคอนับครั้งไม่ถ้วน"เจ้าเป็นผู้หญิงซินะ..."เสียงกระซิบเพียงแผ่วเบา ทำให้ดวงตาคู่สวยเบิกโต สบตาเขาด้วยความบังเอิญ ซึ่งเผยยิ้มอย่างมีเลขนัย'ไม่คิดว่าเขาจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเราได้ ช่างเจ้าเล่ห์ อันตรายกว่าเจิ้งเจี๋ยเสียอีก ทำอย่างไรดี?' ทำได้เพียงแค่คิดในใจ ไม่อาจเอ่ยคำพูดใดออกมาในช่วงเวลานี้"........""ท่านเหยียดหยามข้าเช่นนี้ ไม่สมกับเป็นบุรุษ" เสี่ยวเยาพยายามพูดบ่ายเบี่ยง เพื่อกลบเกลื่อนอาการร

    Последнее обновление : 2025-04-11
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 6

    "บังอาจ! กล้าใส่ความท่านอ๋อง สมควรตาย องครักษ์จับนายทหารผู้นี้"ข้ารับใช้คนสนิทของจี๋ชงเอ่ยขึ้นด้วยแววตาขุ่นเคือง "ไม่เป็นไรๆ เจ้าเด็กน้อย ช่างฉลาดยิ่ง นามว่าอะไร " ฝ่าบาทจ้องมองนาง ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาทั้งคู่ทะเลาะกันเพียง เพราะทหารคนเดียว ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่วังหลวงแห่งนี้ ไม่มีความสงบเรียบร้อย แต่ยังคงความเป็นตัวเอง คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น ไม่สนใจผู้ใด แต่ทว่าท่านผู้นี้คือ องค์จักรพรรดิของแผ่นดิน ที่เธอมิอาจทำตัวไร้มารยาทได้ เพราะประวัติศาสตร์ได้จารึกแต่คุณงามความดีไว้มากมาย มันน่าละอายใจเหลือเกินหากเธอทำตัวไร้มารยาท"ข้าน้อย ยู่หลง คารวะฝ่าบาท ขอให้อายุยืนหมื่นๆ ปี" เสี่ยวเยาคุกเข่าลง เพื่อแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม แลดูจริงใจ ยิ่งทำให้ฝ่าบาทเอ็นดูเขามากขึ้นไปอีก"ไม่ต้องพิธี เอาล่ะๆ ลุกขึ้นเถิด.." รอยยิ้มอันอ่อนโยนได้ปรากฏบนใบหน้าสง่างาม มีเมตตา เหมาะสมตามคำร่ำลือตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน"ขอบพระทัยฝ่าบาท" น้ำเสียงอันหนักแน่น เพื่อกลบเกลื่อนความเป็นสตรีไว้ เสี่ยวเยาเหลือบมองฝ่าบาท ก่อนที่จะกะพริบตาข้างหนึ่ง ส่งสัญญาณให้นางกำนัลรีบหาช่องทางหลบหนีออกไป

    Последнее обновление : 2025-04-11
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 7 ท่านแม่ทัพ

    แสงสว่างจากดวงจันทราสาดส่องเพียงพอให้นางมองเห็นสภาพภายในจวน เสี่ยวเยาต้องแปลกใจปนความสงสัย เมื่อพบว่ามันช่างว่างเปล่า ไร้ซึ่งสิ่งของมีค่าอย่างที่ผู้คนต่างร่ำลือไว้ มีเพียงโต๊ะไม้เก่าๆ ไว้ดื่มชา กับเตียงนอนเรียบง่ายที่ไม่อลังการ พร้อมแกะสลักลวดลายหมาป่าที่น่าเกรงขามไว้เท่านั้น ไม่สมกับเป็นเชื้อสายพระวงศ์ แม้แต่น้อย ผิดจากภายนอกจวนที่ตกแต่งหรูหรา ดูอลังการสง่างาม จนน่าอิจฉาแท้จริงแล้วด้านในกลับมีแต่ความว่างเปล่า ไม่เหมือนดั่งที่ประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่า "ท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ยผู้นี้ใช้ชีวิตสุขสบาย หรูหราฟุ่มเฟือย ข้าวของเครื่องใช้ทำด้วยทองคำ ร่ำรวยกว่าองค์จักรพรรค์เสียอีก สาเหตุเพราะยึดทรัพย์สมบัติของเหล่ารัฐที่ตนไปทำสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน โดยได้รับอนุญาตจากฝ่าบาท เพื่อเป็นรางวัลชนะศึก""อะไรเนี่ย!!" เสี่ยวเยาเดินสำรวจรอบๆ ไม่วายคลางแคลงใจ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองไปยังผู้กำลังหลับใหล ด้วยใบหน้าซีดเผือด ผิดมนุษย์มนา หรือ เขากำลังแอบซ่อนอะไรไว้"........""หลับสบายเชียวนะ! ปล่อยให้ข้ายืนรอตั้งนานสองนาน มันน่าฆ่าให้ตายเสียจริง ฮึ! " นางเอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิดใจ ที่ตนต้องยืนรอตั้งสองชั่วยาม เห

    Последнее обновление : 2025-04-12
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 8 ท่านแม่ทัพ

    ภาพคนทั้งคู่หนุนเตียงกันได้สร้างบาดแผลครั้งใหญ่ต่อเจิ้งเจี๋ย ความคับแค้นใจก่อตัวขึ้น จนลืมไปว่าแท้จริงแล้วนางเป็นผู้หญิงเช่นไร "เอานายทหารผู้นี้ไปโบยสามร้อยครั้ง แล้วจงโรยด้วยเกลือ!!" น้ำเสียงเคร่งขรึมของเขาสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้คนทั้งคู่ ที่ตื่นขึ้นมาพบว่าอยู่ใต้ผ้าห่มฝืนเดียวกัน ด้วยร่างอันเปลือยเปล่า โดยเฉพาะเหมยหลินคนรักเขาของเขา ที่พยายามจะอธิบายให้ท่านแม่ทัพเข้าใจทั้งน้ำตาด้วยใจทุกข์ระทม เจิ้งเจี๋ยเองก็เจ็บลึกในทรวงไม่แพ้กัน เพียงเก็บอาการไว้ เพื่อเห็นแก่ความผลงานและความดีที่ผ่านมาจึงไม่ฆ่าทหารผู้นั้นทิ้ง ก็นับว่าเมตตามากพอแล้ว "อึก! ท่านแม่ทัพ ได้โปรดเชื่อข้าเถอะ! ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นเช่นนี้...อึก" น้ำเสียงอันสั่นเครือของนาง แววตาดูจริงใจเปล่งประกายขึ้น แม้ว่าขอบตาจะเอ่อล้นไปด้วยน้ำใสที่ไหลรินอาบสองแก้มอันอวบอิ่มก็ตามเจิ้งเจี๋ยก้าวฝีเท้ามายังนาง เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเฉกเช่นเดียวกับนาง ดวงตาฉายแววผิดหวังบ่นความขุ่นเคืองใจ จ้องมองพวกเขาทั้งคู่ แม้จะเคยเห็นทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อกันปล่อยๆ แค่คิดว่าเป็นเพราะความสนิทดั่งมิตรสหายเท่านั้น ไม่น่ามาลงเอยเช่นนี้เลย"เ

    Последнее обновление : 2025-04-12
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 9 ความรู้สึกเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    หลานจิน และเสี่ยวเยา เขาทั้งสองต่างมุ่งหน้าไปยังที่พักของตนเอง ท่ามกลางความมืดมิด มีเพียงความสว่างจากโคมไฟนำทาง เสี่ยวเยาเหลือบมองหลานจิน ผู้หล่อเหลา ตั้งแต่ทะลุมิติมา เจอสหายคนแรกที่พึ่งพาได้ตอนนี้ มีเพียงเขาผู้นี้เท่านั้น "นี่หลานจิน หากข้าต้องการไปหน้าผาอสรพิษ ต้องทำอย่างไรเหรอ?" เสี่ยวเยาเอ่ยขึ้นในขณะที่เดินมาถึงสระน้ำกว้างใหญ่ ของจวนท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย"ยู่หลงนี่เจ้าคิด...อุ๊บ" ไม่ทันที่เขาจะพูดจบกลับโดนปิดปากไว้ด้วยมือของเสี่ยวเยา แต่ทว่าเขารู้สึกประหลาดใจเมื่อสัมผัสถึงผิวที่เรียบเนียน พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเครื่องหอมปรุงแต่งกลิ่นจากบุพผา"อย่าเสียงดังสิ! ข้าตามหาพี่สาวของข้า เจ้าก็รู้นี้!!" เสียงเข้มของนาง สลัดความสงสัยนั้นออกไปจนหมดสิ้น "ยู่หลง เจ้าช่างรนหาที่ตายเสียจริง ผู้ใดที่ได้ไปเยือน ยากนักจะได้กลับมา มีเพียงท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย และทหารคนสนิทเท่านั้นที่รู้เส้นทางที่ปลอดภัย ""ทหารคนสนินเหรอ... ลี่เจิน กับลี่ซานใช่ไหม?""อืม...หยุดคิดซะเถอะ พรุ่งนี้พวกเขาก็ออกเดินทางแล้ว" เสี่ยวเยาเบิกตาพองโต ดวงตาเปล่งประกายอย่างมีความหวัง ก่อนยิ้มแย้มแจ่มใสสุขสมดั่งใจที่ไม่เคยเป็นมาก

    Последнее обновление : 2025-04-12
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 10 การเดินทาวมาพร้อมความหวั่นไหว

    รถม้าเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยว ผ่านทิวทัศน์อันงดงามของภูเขา และแม่น้ำใสสะอาดจนเห็นโขดหินอย่างชัดเจน สายลมหนาวยังคงพัดเย็นๆ ผ่านเบื้องหน้าของทุกคน ทำให้รู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายลง"หลานจิน เมื่อไหร่จะถึงหุบเขาอสรพิษดำ" เสี่ยวเยาถามขึ้น เมื่อพบว่าระยะทางที่ผ่านมามันช่างยาวนานนัก "พรุ่งนี้ ยามอาทิตย์ตกดินคงจะถึงจะที่หมาย ข้าก็เคยมาเป็นครั้งแรกเหมือนเจ้า ""เอ๊ะ! แล้วคืนนี้จะนอนที่ไหน บริเวณนี้มีป่าไม้ไผ่ ต้นไม้หนา นานแล้วที่ข้าไม่เห็นโรงเตี้ยมเลย เริ่มจะมืดแล้วด้วย" ความตระหนกตกใจของนาง ทำให้เขาดูเป็นกังวลใจยิ่งนัก"เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องเจ้าเอง""ข้าไม่ได้กลัวภัยอันตราย แต่ข้ากลัวความมืดมากกว่า.." นางกระซิบเบาๆ จนเขาหัวร่อต่อกระซิก ไม่คิดว่าทหารกล้าหาญอย่างเขา จะกลัวความมืดได้ถึงเพียงนี้"หยุดหัวเราะนะ หลานจิน""ได้ๆ ข้าหยุดก็ได้ ทางข้างหน้าแคบ เจ้าระวังตัวด้วย "สิ้นคำพูดของเขา ทางเดินข้างหน้าเริ่มแคบ และชันลง รถม้าของท่านแม่ทัพไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปไดเ"หยุด" สิ้นเสียงท่านแม่ทัพ รถม้าหยุดลง ดวงตาคมกริบเหลือบมอง ทหารร่างบางที่บนนั่งม้าด้วยท่าทางเหม่อลอย เหมือนครุ่นคิดสิ่

    Последнее обновление : 2025-04-13

Latest chapter

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 16 ป่วนใจท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย

    แสงสีทองลับขอบฟ้า วิหคน้อยฝูงใหญ่บินล่องลอยกลางเวหามุ่งสู่รัง ทางด้านเสี่ยวเยาแปรสภาพเป็น ยู่หลงเช่นเดิม อย่างไรก็ตามนางไม่วายคลางแคลงใจในสิ่งที่เกิดขึ้น คงเป็นเพราะพบเจอแต่เรื่องประหลาดมากมาย จนนางอดคิดไม่ได้ว่า เหตุใดวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันถึงง่ายดายเหมือนถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า"ทุกสิ่งในวันนี้ช่างพอเหมาะ ได้ทั้งปิ่นปักผมที่ชอบ และเสื้อผ้าสวยๆ มาฟรี หรือเราคิดมากไปเองนะ!" นางซ่อนทุกอย่างไว้ในห้องเป็นอย่างดี อย่างไรเสีย คือมันของล้ำค่าที่สุดในชีวิตนาง ณ เวลาอยู่ที่แห่งนี้ ร่างบางย่างก้าวไปยังที่พักของท่านแม่ทัพ เพื่อรายงานตัว แววตาใสจ้องมองบุรุษผู้มุ่งมั่นอยู่กับการอ่านตำรายุทธศาสตร์ ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน จนนางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างเผลอตัว "เก่งไปทุกด้านเสียจริงๆ" เจิ้งเจี๋ยปิดตำราก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างสง่าผ่าเผย สายตาคมคลายหล่อเหลาจับจ้องมองที่นาง "วันนี้ดูเจ้าสุขอุรา ใบหน้าอิ่มเอมเหลือเกิน" ดวงตาดอกท้อช้อนสายตาขึ้นมองอย่างไม่คิดจะหลบตา "คงเพราะความเมตตาของท่านแม่ทัพ ข้าเลยเที่ยวเพลินเลย เอ๊ะ! ลี่ซาน ลี่หวัง! " นางยิ้มแห้งๆ ก่อนจะหยุดยิ้มลง ดวงตาสีนิลจ้องเขม็งอย่างกริ้วโก

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 15 เข้าไปอยู่ในสายตา ท่านแม่ทัพผู้นี้ซะแล้ว!

    เจิ้งเจี๋ยหยุดหน้าร้านขายชุดฮั่นฟู ดวงตาคมเพ่งมองหาใครผู้หนึ่ง ที่หายเข้าไปในร้านนานสองนาน การที่เขาสะกดรอยตามนางเช่นนี้ ตรงข้ามกับนิสัยของตนเองยิ่งนัก เพียงแต่ว่าครั้งนี้รู้สึกเป็นกังวลใจ กลัวว่านางจะนำความเดือดร้อนมาสู่ตัวเองเข้าสักวันหนึ่ง ทว่าเป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด เมื่อพบคนของอ๋องจี๋ชงสะกดรอยตามนางอย่างไม่ขาดสาย คนอย่างอ๋องจี๋ชง หากต้องการผู้ใดแล้วย่อมต้องได้มา แม้ไร้ซึ่งลมหายใจก็ตาม โชคดีที่ฟ้ายังมีเมตตา คนผู้นั้นเปลี่ยนไปทิศทางอื่น"โอ๊ะ!" "นางผู้นั้น สวยงดงามเหลือเกิน" เสียงซุบซิบของชาวบ้านดังขึ้น ดวงตาต่างจ้องมองไปยังสตรีนางหนึ่ง ที่ก้าวเท้ายาวออกมาจากร้านชุดฮั่นฟู ไม่เว้นแม้กระทั่งเจิ้งเจี๋ย ดวงตาคมกริบเพ่งมองสตรี ด้วยชุดฮั่นฟู่ที่ทำจากผ้าฝ้ายชมพูสลับขาว พลิ้วไสวไปตามแรงลม ผมดำเงางามยาวสลวยบนแผ่นหลังบาง ตกแต่งด้วยเครื่องประดับดูสง่างามยิ่งนัก นางเผยยิ้มหวานอย่างสดใส อีกทั้งดวงตาคู่สวยจ้องมองไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น ริมฝีปากแดงระเรื่อได้รูป สร้างความตกตะลึงให้ผู้พบเจอ โดยเฉพาะดวงตาคมจ้องมองนางอย่างไม่วางตา "งดงามจริงๆ " เขาเผยยิ้มกว้างอย่างลืมตา ไม่คิดว่าทหารหนุ่มผู้น

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 14 ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของท่านแม่ทัพ

    เสียงนกน้อยขับร้องไพเราะ ดังสนั่นไปทั่วหุบเขา แสงอรุณกระทบบุพผา ราวกับต้อนรับเช้าวันใหม่อันสดใสในเหมันตฤดู ซึ่งมีเพียงดอกเหมยฮวาเท่านั้นที่คงความงาม และความสดชื่นอยู่จนถึงต้นวสันตฤดู จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการมาของวสันตฤดูด้วย รวมถึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขเกษม เบิกบานสำราญใจของผู้คน ท่านแม่ทัพลืมตาตื่น ด้วยความรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย ดวงตาคมเบิกกว้าง เมื่อพบว่าเสี่ยวเยานอนหลับใหลอยู่ข้างเตียงเขา ใบหน้านั้นแสดงถึงความอ่อนล้า เจิ้งเจี๋ยลุกนั่งเพ่งพินิจ ขนตางอน แก้มอิ่มเอิบไร้สีสันแต่งแต้ม และริมฝีปากบางชมพู เพียงเท่านี้นางยังดูงดงามเหลือเกิน หากนางแต่งองค์ทรงเครื่องจะสวยงามมากเพียงใดกัน "หากนางแต่งหญิงจะเป็นเช่นไรนะ!" น้ำเสียงเพียงแผ่วเบา ไม่สามารถทำให้ผู้หลับลึกได้ยิน เจิ้งเจี๋ยเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนหลบยิ้มลงเมื่อนึกถึงฝันร้ายของตน "อย่างไรเสีย! ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทรยศข้า เหมือนดั่งเช่นพี่สาวของเจ้า" ถึงแม้น้ำเสียงนั้นจะเย็นชา แต่แอบแฝงไปด้วยความห่วงใย ทั้งที่ควรกำจัดนางไปเสีย แต่เขากลับทำเช่นนั้นไม่ได้ อย่างไรเสียในสายตาเขา นางยังเป็นเด็กสาวที่ไร้เดียงสา ไม่มีพิษภัย แววตาใสซื่ออย่า

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 13 ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป...

    เสี่ยวเยายังคงใช้ชีวิตอย่างปกติ ซ้อมประลองกระบี่อย่างกล้าหาญ ดั่งเช่นทหารทั่วไป โดยไม่ปริปากบ่นเลยสักนิด นางไม่รู้เลยว่า ทุกการกระทำของนางนั้น ได้อยู่ในสายตาของท่านแม่ทัพตลอดเวลา ผู้เดียวที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของนาง อีกทั้งยังมองนางเปลี่ยนไปจากเดิม"ลี่ซาน ข้าว่าพักหลังมานี่ ท่านแม่ทัพดูจะสนใจยู่หลงเป็นพิเศษ หรือเจ้าว่าข้าคิดผิดไปเอง" "ข้าเห็นด้วยกับเจ้า หากเป็นเช่นนี้ หรือว่า""หรือว่าอะไร""ท่านแม่ทัพจะหลงเสน่ห์ยู่หลง!""เสียสติไปแล้วหรือไง พวกเขาเป็นบุรุษทั้งคู่ ช่างเถอะๆ ถามเจ้าไปก็เท่านั้น " ลี่หวังสะบัดหน้าเดินหนีเขาไปอย่างเอือมระอา"นี่..ลี่หวัง!! เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" ลี่ซานเดินตามผู้เป็นน้องไปอย่างไม่เข้าใจว่าตนนั้นพูดอะไรผิดไปแม้ว่าท่านแม่ทัพจะทำทุกอย่างเหมือนเช่นที่เคยเป็นต่อหน้าทุกคน แต่ส่วนลึกในจิตใจ ยังคงคิดถึง ความจริงที่เขาเพิ่งรู้ ทางกลับกันเสี่ยวเยายังคงค้นหา เส้นทางลับที่อาจจะนำนางไปยังหน้าผาอสรพิษดำได้ แม้จะเป็นสถานที่ต้องห้ามอีกทั้งน่าหวาดกลัว หากฟังไม่ผิดคงอยู่ด้านหลังค่ายทหาร ที่มีทหารเฝ้ายามกันอย่างแน่นหนาจนน่าสงสัย ยามว่างของนางวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 12 ท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย

    ท่านแม่ทัพเดินนำทางไปยังที่พักด้วยความนิ่งสงบ ไม่เอ่ยคำพูดใดๆ ออกมา จนน่าประหลาดใจ เพราะดวงตาคมมัวสอดส่องไปทั่วบริเวณ เมื่อพบว่าตลอดเส้นทางในป่าแห่งนี้ มันช่างเงียบผิดปกติเหลือเกิน เสี่ยวเยาเลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัย 'แค่มาอาบน้ำเอง ไม่พอใจขนาดนี้เลยเหรอ' น้ำเสียงเพียงแผ่วเบา ทำให้เขาพินหน้ามองนาง ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ด้วยแววตานิ่งแต่มีนัยแอบแฝง"เจ้าต่อสู้ได้ใช่ไหม?""เอ๊ะ! อืม สบายมาก"สิ้นคำตอบนาง เจิ้งเจี๋ยนำกระบี่ออกมา ดวงตาสวยพองโตขึ้น สะดุ้งเฮือก เมื่อเขายื่นกระบี่คู่กายให้นางอย่างไม่ลังเล"เริ่ม!" แววตาคมกริบเพ่งมองไปด้านหน้าในขณะเดียวกันที่ปรากฏกลุ่มชายชุดดำ กระโจนโจมตีทั้งคู่"พวกเจ้าเป็นโจรป่าใช่ไหม?" "....." มีเพียงเสียงคมกระบี่ที่ให้คำตอบนาง เจิ้งเจี๋ยใช้เพียงมือเปล่าจัดการพวกมันได้อย่างง่ายดาย ไม่แปลกใจที่เขาจะเป็นที่ไว้วางใจขององค์จักรพรรดิ เพราะสติปัญญา มาพร้อมความเจ้าระเบียบรอบคอบ อีกทั้งวรยุทธ์ที่เก่งกาจของเขา ได้สร้างคุณงามความดีต่อบ้านเมืองไว้อย่างมากมาย แม้ว่าจะโดนตราหน้าว่า เป็นผู้นำทัพทำสงครามอย่างเหี้ยมโหดก็ตาม "ยู่หลง ระวัง! " น้ำเสียงเข้มแฝงความห่วงใยเรียกสติ

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 11 ท่านแม่ทัพ ผู้กำความลับของนาง

    เนื่องด้วยอาการหนาวเย็นยะเยือกแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณป่าทึบ เสี่ยวเยา นอนคดคู้ เพราะชุดทหารไม่ได้หนาพอที่จะให้ความอบอุ่นได้ตลอดทั้งคืน ทว่าว่ากลับได้รับความอบอุ่นจากกองเพลิงที่ลุกโชนอย่างดี ในทางกลับกันหากนางนอนฝั่งเดียวกับหลานจิน ที่อยู่ห่างไกลจากกองไฟ คงจะหนาวสั่นจนตายเเน่นอน เสี่ยวเยาเพ่งสายตาไปยังบุรุษที่นอนพิงพาย ใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่ห่างไกลจากตนเองมากนัก ใบหน้าหล่อเหลา กระทบกับแสงจันทร์ เป็นบุรุษที่ยิ่งดู ยิ่งมีเสน่ห์ ไม่อาจรู้ได้ว่าเนื้อในที่จริงเป็นอย่างที่จารึกไว้หรือเปล่า ทั้งโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน ไร้ความเมตตา ตรงกันข้ามนางสัมผัสถึงความใส่ใจ และห่วงใยต่อนาง แต่ทว่าเสี่ยวเยาไม่รู้อะไรเลย แท้จริงแล้วเจิ้งเจี๋ยปฏิบัติต่อนางแตกต่างจากผู้อื่น.."ไม่เห็นเหมือนที่อ่านไว้เลย""มองข้าพอหรือยัง" เสียงทุ้มดังขึ้น แม้ว่าเขายังหลับตาอยู่ก็ตาม"ข้าไม่ได้ตั้งใจจะมองท่าน มองชุดที่ท่านสวมใส ดูอบอุ่นดีต่างหากล่ะ " นางยิ้มแห้งๆ "อย่างนั้นเหรอ!" "เอ๊ะ! จะทำอะไรนะ!" เสี่ยวเยาลุกพรวดอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันตัว ขณะที่ท่านแม่ทัพถอดชุดคลุมขนสัตว์ ก่อนจะนั่งยองๆ ห่มมันให้กับนาง โดยไม่สบตา เดินกลับไปนอนตา

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 10 การเดินทาวมาพร้อมความหวั่นไหว

    รถม้าเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยว ผ่านทิวทัศน์อันงดงามของภูเขา และแม่น้ำใสสะอาดจนเห็นโขดหินอย่างชัดเจน สายลมหนาวยังคงพัดเย็นๆ ผ่านเบื้องหน้าของทุกคน ทำให้รู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายลง"หลานจิน เมื่อไหร่จะถึงหุบเขาอสรพิษดำ" เสี่ยวเยาถามขึ้น เมื่อพบว่าระยะทางที่ผ่านมามันช่างยาวนานนัก "พรุ่งนี้ ยามอาทิตย์ตกดินคงจะถึงจะที่หมาย ข้าก็เคยมาเป็นครั้งแรกเหมือนเจ้า ""เอ๊ะ! แล้วคืนนี้จะนอนที่ไหน บริเวณนี้มีป่าไม้ไผ่ ต้นไม้หนา นานแล้วที่ข้าไม่เห็นโรงเตี้ยมเลย เริ่มจะมืดแล้วด้วย" ความตระหนกตกใจของนาง ทำให้เขาดูเป็นกังวลใจยิ่งนัก"เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องเจ้าเอง""ข้าไม่ได้กลัวภัยอันตราย แต่ข้ากลัวความมืดมากกว่า.." นางกระซิบเบาๆ จนเขาหัวร่อต่อกระซิก ไม่คิดว่าทหารกล้าหาญอย่างเขา จะกลัวความมืดได้ถึงเพียงนี้"หยุดหัวเราะนะ หลานจิน""ได้ๆ ข้าหยุดก็ได้ ทางข้างหน้าแคบ เจ้าระวังตัวด้วย "สิ้นคำพูดของเขา ทางเดินข้างหน้าเริ่มแคบ และชันลง รถม้าของท่านแม่ทัพไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปไดเ"หยุด" สิ้นเสียงท่านแม่ทัพ รถม้าหยุดลง ดวงตาคมกริบเหลือบมอง ทหารร่างบางที่บนนั่งม้าด้วยท่าทางเหม่อลอย เหมือนครุ่นคิดสิ่

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 9 ความรู้สึกเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    หลานจิน และเสี่ยวเยา เขาทั้งสองต่างมุ่งหน้าไปยังที่พักของตนเอง ท่ามกลางความมืดมิด มีเพียงความสว่างจากโคมไฟนำทาง เสี่ยวเยาเหลือบมองหลานจิน ผู้หล่อเหลา ตั้งแต่ทะลุมิติมา เจอสหายคนแรกที่พึ่งพาได้ตอนนี้ มีเพียงเขาผู้นี้เท่านั้น "นี่หลานจิน หากข้าต้องการไปหน้าผาอสรพิษ ต้องทำอย่างไรเหรอ?" เสี่ยวเยาเอ่ยขึ้นในขณะที่เดินมาถึงสระน้ำกว้างใหญ่ ของจวนท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย"ยู่หลงนี่เจ้าคิด...อุ๊บ" ไม่ทันที่เขาจะพูดจบกลับโดนปิดปากไว้ด้วยมือของเสี่ยวเยา แต่ทว่าเขารู้สึกประหลาดใจเมื่อสัมผัสถึงผิวที่เรียบเนียน พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเครื่องหอมปรุงแต่งกลิ่นจากบุพผา"อย่าเสียงดังสิ! ข้าตามหาพี่สาวของข้า เจ้าก็รู้นี้!!" เสียงเข้มของนาง สลัดความสงสัยนั้นออกไปจนหมดสิ้น "ยู่หลง เจ้าช่างรนหาที่ตายเสียจริง ผู้ใดที่ได้ไปเยือน ยากนักจะได้กลับมา มีเพียงท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย และทหารคนสนิทเท่านั้นที่รู้เส้นทางที่ปลอดภัย ""ทหารคนสนินเหรอ... ลี่เจิน กับลี่ซานใช่ไหม?""อืม...หยุดคิดซะเถอะ พรุ่งนี้พวกเขาก็ออกเดินทางแล้ว" เสี่ยวเยาเบิกตาพองโต ดวงตาเปล่งประกายอย่างมีความหวัง ก่อนยิ้มแย้มแจ่มใสสุขสมดั่งใจที่ไม่เคยเป็นมาก

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 8 ท่านแม่ทัพ

    ภาพคนทั้งคู่หนุนเตียงกันได้สร้างบาดแผลครั้งใหญ่ต่อเจิ้งเจี๋ย ความคับแค้นใจก่อตัวขึ้น จนลืมไปว่าแท้จริงแล้วนางเป็นผู้หญิงเช่นไร "เอานายทหารผู้นี้ไปโบยสามร้อยครั้ง แล้วจงโรยด้วยเกลือ!!" น้ำเสียงเคร่งขรึมของเขาสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้คนทั้งคู่ ที่ตื่นขึ้นมาพบว่าอยู่ใต้ผ้าห่มฝืนเดียวกัน ด้วยร่างอันเปลือยเปล่า โดยเฉพาะเหมยหลินคนรักเขาของเขา ที่พยายามจะอธิบายให้ท่านแม่ทัพเข้าใจทั้งน้ำตาด้วยใจทุกข์ระทม เจิ้งเจี๋ยเองก็เจ็บลึกในทรวงไม่แพ้กัน เพียงเก็บอาการไว้ เพื่อเห็นแก่ความผลงานและความดีที่ผ่านมาจึงไม่ฆ่าทหารผู้นั้นทิ้ง ก็นับว่าเมตตามากพอแล้ว "อึก! ท่านแม่ทัพ ได้โปรดเชื่อข้าเถอะ! ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นเช่นนี้...อึก" น้ำเสียงอันสั่นเครือของนาง แววตาดูจริงใจเปล่งประกายขึ้น แม้ว่าขอบตาจะเอ่อล้นไปด้วยน้ำใสที่ไหลรินอาบสองแก้มอันอวบอิ่มก็ตามเจิ้งเจี๋ยก้าวฝีเท้ามายังนาง เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเฉกเช่นเดียวกับนาง ดวงตาฉายแววผิดหวังบ่นความขุ่นเคืองใจ จ้องมองพวกเขาทั้งคู่ แม้จะเคยเห็นทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อกันปล่อยๆ แค่คิดว่าเป็นเพราะความสนิทดั่งมิตรสหายเท่านั้น ไม่น่ามาลงเอยเช่นนี้เลย"เ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status