หยางเอ้อหลางจุมพิตหยาดน้ำตาที่หยดไหลลงมาเป็นทางด้วยความทะนุถนอม กระพรวนผู้พิทักษ์ดูเหมือนว่าจะเริ่มทำงานแล้วบาดแผลของนางเล็กน้อยเพียงเท่านี้ชั่วครู่องค์หญิงสิบสามพลันไม่เจ็บปวด ครั้นหยางเอ้อหลางขยับกายองค์หญิงกลับพบความเสียวซ่านรุนแรง "อื้อ เหมือนในนิทานแล้ว" นางเอ่ยขึ้น"อย่างไร" เป็นหยางเอ้อหลางที่แปลกใจด้วยหัวใจเขาห่อเหี่ยวเพราะทำผู้เป็นภรรยาเจ็บจนน้ำตาเล็ดเมื่อจู่ๆ ภรรยาเอ่ยเช่นนี้ทำให้เขามึนงงเล็กน้อย"ข้าไม่เจ็บแล้ว ท่านเป็นของดีจริงๆ ""จริงหรือ""จริงไม่เจ็บเลยสักนิดเดียว""แล้วรู้สึกเช่นไร"นางไม่ตอบแล้วเพียงแต่ยิ้มแล้วขยับกายจุมพิตที่ริมฝีปากเขาแผ่วเบา ใบหน้าหวานล้ำของนางทำให้เขาต้องครางออกมาหยางเอ้อหลางไม่มั่นใจว่านางเอ่ยเรื่องจริงหรือไม่เหตุใดหายเจ็บว่องไวเช่นนี้ แต่เมื่อเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยเสน่หาของผู้เป็นภรรยาจึงใจชื้น ในเมื่อนางบอกว่าไม่เจ็บเช่นนั้นเขาน่าจะทำอย่างที่ต้องการได้ เขาขยับร่างกายนำพาสิ่งใหญ่โตประสานเข้าออกเป็นจังหวะอย่างรุนแรง บ้าคลั่ง ช่างเร่าร้อนและทรมานผสมกับความเสียวกระสันอย่างที่สุดที่องค์หญิงสิบสามได้รับ แต่นางไม่อาจกรีดร้องให้อับอายได้จึงได้แต่
อ๋องฉางอันล้างหน้าบ้วนปากก่อนจะสวมอาภรณ์ตัวนอกพร้อมกับบอกนางกำนัลให้ยกชาร้อนมาต้อนรับผู้เป็นน้องเขย ใบหน้าหล่อเหลาสงบนิ่งคล้ายจะรู้อยู่แล้วว่าแม่ทัพหยางเร่งรีบมาด้วยเรื่องใด "เรื่องสำคัญเพียงนี้เหตุใดท่านยังปกปิดข้าอีก"หยางเอ้อหลางเอ่ยพลางนั่งลงตามคำเชื้อเชิญของท่านอ๋อง"เรื่องนี้ต้องแล้วแต่สิบสามเป็นผู้ตัดสินการที่นางไว้ใจเจ้าแล้วนับเป็นเรื่องดี ข้าผู้เป็นพี่ชายคงต้องส่งมอบนางให้เจ้าด้วยใจจริงแล้ว"อ๋องฉางอันได้แต่ทอดถอนใจ ในชีวิตของเขานั้นคงเหลือเพียงแต่องค์หญิงสิบสามที่เขาห่วงใยยิ่งกว่าชีวิตในใจตนจะคิดกับนางเช่นไรนั้นช่างเถิดอย่างไรเสียเขาก็ไม่อาจทำเรื่องที่กระทบจิตใจและทำให้นางมองเขาแปลกประหลาดไปได้ หยางเอ้อหลางผู้นี้นับเป็นบุรุษห้าวหาญอีกทั้งคงได้มอบใจให้องค์หญิงสิบสามจนหมดสิ้นแล้ว เขาจะหวงนางเอาไว้ด้วยเหตุผลใดอีกเล่า "ข้าถามท่านเหตุใดนางจึงกินหินจันทราเข้าไปได้"หยางเอ้อหลางยิ่งรู้ความจริงขององค์หญิงสิบสาม ยิ่งรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ องค์หญิงสิบสามมีหินจันทราอยู่ในร่างกายเกิดจากสิ่งใดกันแน่ อีกทั้งนางยังสารภาพว่านางกำลังค้นหาตำราจันทราในจวนของเขา ตำราจ
หยางเอ้อหลางแย้มยิ้มเยือกเย็น สองบุรุษหนุ่มสนทนากันจวบจนแสงตะวันยามเช้าโผล่พ้น หยางเอ้อหลางจึงออกจากกระโจมของอ๋องฉางอัน ภายนอกมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาเรื่องหมาป่าเมื่อคืนดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของป่าแห่งนี้ที่มักพบสัตว์ดุร้ายอยู่เสมอ ฝ่าบาทเข้าใจว่าคนที่ถูกสังหารนั้นเป็นเพียงชาวบ้านหรือนายพรานล่าสัตว์ จึงสั่งให้ฝังศพพวกเขาให้ดีอย่าให้สัตว์อื่นมาแทะกินให้อุจาดตาหลังจากนั้นเรื่องนี้ก็ผ่านไปราวกับสายลม สำหรับฮ่องเต้ที่ผ่านสมรภูมิรบอีกทั้งเคยชินกับความเป็นความตายมานักต่อนักจึงนับเป็นเรื่องเล็กนักหลินฮุ่ยหมินตื่นขึ้นมาไม่เห็นสามีแล้ว ในใจพลันสงสัยว่าเขาออกไปที่ใดตั้งแต่เช้า เมื่อคืนนอกจากจะใช้เรี่ยวแรงในการพูดคุยกันแล้ว เขาและนางยังได้ร่วมเสพสุขกันจนนางแทบไม่ได้นอน เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ไม่ได้นอนสักชั่วยามแล้วเขาไปที่ใดกันแน่ องค์หญิงสิบสามลุกขึ้นเห็นร่องรอยแห่งความยุ่งเหยิงพลันหน้าแดง เมื่อคืนนางรุกเขารุนแรงหรือเป็นเขาที่รุนแรงกัน"องค์หญิง" อาชิงเข้ามาพร้อมกับน้ำอุ่นในอ่าง"อาชิง" องค์หญิงมองอาชิงแล้วยิ้มเอียงอาย"ท่านทำสำเร็จแล้วหรือ อาชิงยินดีด้วยไม่นานอาชิงคงได้เลี้ยงเด็กตัวน้อยแล้
องค์หญิงสิบสามครั้นเห็นสามีก็แย้มยิ้มด้วยความดีใจ รูปร่างสูงของเขาบดบังแสงแดดอ่อนๆที่ส่องเข้ามาทำให้ภายในกระโจมมืดลงทันใด เบื้องหลังเขาคือองครักษ์ฝานที่ยืนทำหน้าพิกลอยู่ตรงนั้น"ท่านแม่ทัพไปที่ใดมาหรือข้าตื่นมาไม่เห็นท่านแล้ว""ข้าไปพบพี่ชายเจ้าคุยเรื่องสำคัญ" เขาเดินมาหานางก่อนกระแอมหลายครั้งแล้วเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ เห็นองค์หญิงสิบสามพูดคุยกับอาชิงอย่างเปิดอกในเรื่องที่แม้กระทั่งตัวเขายังไม่กล้าเปิดเผยกับองครักษ์ฝานแล้วก็ได้แต่หน้าแดง ภรรยาของเขาไว้ใจอาชิงมากจริงๆ"ข้าเตือนพวกเจ้า เรื่องที่สตรีไม่ควรเอ่ยนั้นมีมากหากจะพูดจาอันใดต้องระวังผู้อื่นได้ยินเข้าใจหรือไม่""ท่านแม่ทัพท่านพูดเรื่องใด ข้าหาได้เข้าใจ" องค์หญิงสิบสามขมวดคิ้วไม่เข้าใจที่สามีพูด"ข้า...เอ้อ..ข้าจะบอกเจ้าว่าเรื่องที่พวกเจ้าสนทนากันสักครู่ไม่สมควรเอ่ยเสียงดังหรือเอ่ยให้ผู้ใดได้ยินเป็นสตรีหากผู้ใดรู้เข้าจะไม่งาม"เรื่องมารยาทพวกนี้สงสัยเขาต้องสอนภรรยาให้อยู่ในกรอบเสียบ้าง"ข้ากับท่านเป็นสามีภรรยากัน เรื่องอันใดไม่งามอีกทั้งข้าหาได้พูดกับคนอื่นอีกทั้งยังหวังดีแนะนำให้อาชิงทำแต่งกับองครักษ์ฝานพวกท่านเห็นว่าเป็นเช่นไ
องค์หญิงสิบสามเป็นกังวล ด้วยสายตาสามีในตอนนี้ดูโกรธแค้นนัก เขาฉลาดเพียงนี้ได้อย่างไรมองเหตุการณ์เพียงผ่านก็รู้ต้นสายปลายเหตุแล้ว"นางโหดเหี้ยมแม้แต่น้องสาวยังไม่ละเว้น ท่านยังคิดจะปล่อยนางไปอีกหรือ""ข้าถือว่าได้ใช้คืนชีวิตที่นางให้มาแล้ว ข้าและนางขาดกันต่อไปอย่าได้เกี่ยวข้องอีกหากนางยังไม่วางมือ ข้าก็ไม่ปล่อยนางเช่นกัน""ท่านจะต้องระวังให้มาก สตรีผู้นี้มีฮองเฮาหนุนหลังอีกทั้งยังเป็นที่รักของฝ่าบาทข้าเกรงนางจะนำภัยมาให้ท่าน""คนที่นำภัยมาให้ข้าความจริงแล้วคือท่านต่างหาก" นางจิ้มมือเข้าไปที่อกของเขา"ข้าหรือ""ใช่ หากนางไม่หึงหวงท่านจะทำเรื่องเช่นนี้หรือหากไม่เป็นเพราะท่านจะเป็นเพราะผู้ใด""เรื่องนี้ข้าขอไม่รับสตรีที่หึงหวงข้าได้มีเพียงเจ้า ส่วนนางจะคิดเช่นไรนั้นข้าหาได้สนใจ"เขาเอ่ยจริงจังเพียงนั้นทั้งที่องค์หญิงสิบสามตั้งใจกล่าวให้เป็นเรื่องตลก องค์หญิงสิบสามได้แต่ถอนหายใจ ใบหน้าหล่อเหลาที่แนบชิดทำให้ใจของนางเต้นแรง ในดวงตาซึ่งถูกแสงยามเช้าสาดส่องอบอุ่นลึกซึ้งนางจึงอดรั้งศีรษะของเขาลงมาแนบชิดแล้วจุมพิตที่ริมฝีปากบางเบาไม่ได้หยางเอ้อหลางมองนางด้วยดวงตาที่เปลี่ยนไปก่อนจะเอ่ยเสียงดังขึ
ครานี้นางรู้แน่ชัดแล้วว่าเขากำลังไต่ปากของเขาไล่ลงตั้งแต่ลำคอระหงจวบจนดอมดมมาถึงแก้มเนียนนุ่ม "ถอดเพียงตัวนอก ข้ากลัวท่านว่านอนทั้งแต่งกายเต็มยศเช่นนี้จะอึดอัด"เขารีบแก้ตัวเป็นพัลวัลไม่ได้คิดจะล่วงเกินภรรยาในยามฟ้าสางเช่นนี้แม้ในใจจะรุ่มร้อนเพียงใด แต่เขาก็ไม่อยากเป็นคนตะกละในสายตาของนาง"สามีเช่นนั้นท่านก็ถอดด้วยเถิด"องค์หญิงสิบสามแย้มยิ้มในใจสามีของนางเป็นสุภาพบุรุษเกินไปแล้ว นางหายง่วงเป็นปลิดทิ้งก่อนจะค่อยๆ ถอดสายรัดเอวของเขาออกเพียงชั่วครู่เขากลับถูกนางถอดอาภรณ์จนหมดสิ้นองค์หญิงสิบสามไต่นิ้วไปตามเรือนร่างแข็งแกร่งแล้วเปรยขึ้นแผ่วเบา"อุ๊ย ข้าเผลอล่วงเกินท่านแล้วสามี"ริมฝีปากได้รูปสวยของนางแนบชิดลงบนผิวร้อนของเขา หยางเอ้อหลางพลันสมองอื้ออึงปล่อยให้นางขบเม้มร่างของตนเองตามใจชอบองค์หญิงสิบสามดันร่างของเขาให้ล้มลงบนเตียงลากกายเล็กของตนเองขึ้นทาบทับ มือของหยางเอ้อหลางรวบเอวนางไว้กระชับร่างอรชรให้แนบชิด ปล่อยให้นางดูดกินริมฝีปากตนเองแล้วสัมผัสกับความหอมหวานที่นางมอบให้"เช่นนั้นก็ล่วงเกินมาเถิดข้ายินยอม"เพียงนางขยับปลายลิ้นเขากลับใช้ลิ้นของตนเองแทรกกลีบปากบาง ลิ้นอุ่นชื้นของนางเ
องค์หญิงสิบสามกรีดร้องในลำคอส่งเสียงครางไม่หยุด ในขณะที่เขาไต่นิ้วลงมาจวบจนพบปากทางแห่งความหฤหรรษ์ก่อนจะค่อยๆกดเข้าไปในขณะที่ปลายลิ้นเล่นงานส่วนอ่อนไหวของผู้เป็นภรรยาเขาปัดลิ้นผ่านจุดเสียวสยิวของนางราวกับกลั่นแกล้ง องค์หญิงสิบสามดิ้นรนหยัดกายมอบร่างของตนเองให้เขา ในคราแรกตั้งใจเป็นผู้กลั่นแกล้งครานี้กลับถูกเขาทวงคืนอย่างน่าละอายสายตาหวานฉ่ำที่มองมายังนางช่างยั่วยวนให้คนหลงใหลนักนางถูกเขาปั่นป่วนจนต้องอ้วนวอนแล้ว หยางเอ้อหลางขยับกายขึ้นมาขยับส่วนแข็งขืนใหญ่โตจ่อเข้าที่ปากทางรัก ก่อนจะจุมพิตริมฝีปากงดงามยั่วยวนนั่น เขาดูดดึงนางพร้อมกับแยกขาเรียวกดร่างของตนเองเข้าไป ภายในของนางคับแน่นตอดรัดเขาจนหยางเอ้อหลางครางเสียงแหบพร่าเขายิ่งขยับนางยิ่งตอดรัด เขาปวดหนึบยิ่งพลันขยับกายเข้าหานางรุนแรง ความบ้าคลั่งที่เขาเริ่มปลดปล่อยนางตอดรัดเขาจนหยางเอ้อหลางรู้สึกถึงบางสิ่งที่ใกล้ถึงจุดสูงสุด องค์หญิงสิบสามสั่นสะท้านร่างกายหอบระริกด้วยความเสียวซ่านร่างกายของเขาปลดปล่อยน้ำสีขุ่นออกมาในขณะที่ภรรยาถูกเขาจุมพิตดับเสียงกรีดร้องของนางเช่นกัน สองร่างหอบหายใจคล้ายเหนื่อยอ่อน เขายังแน่นิ่งไม่ขยับกายในขณะที
เสี่ยวผิงม้าคู่ใจร้องขึ้นมาขัดจังหวะราวกับจะบอกว่าเลิกร่ำไรได้แล้วเมื่อไหร่จะได้ออกไปทำเรื่องสนุกเสียที หยางเอ้อหลางไม่อาจตัดใจปล่อยให้นางไปโดยไม่มีเขาได้ ตั้งใจจะทูลขอให้ฝ่าบาทเปลี่ยนกลุ่มเสียใหม่จวบจนอ๋องฉางอันเอ่ยขึ้น"ข้าดูแลนางเองเจ้าวางใจได้"อ๋องฉางอันตบไหล่ของหยางเอ้อหลางก่อนกระโจนขึ้นม้า "ท่านแม่ทัพ ไม่ต้องห่วงข้าดูแลตนเองได้ ใครมาทำร้ายสังหารให้สิ้น"ครานี้เป็นองค์หญิงสิบสามที่ตบไหล่เขาแล้วกระโดดขึ้นขี่หลังเสี่ยวผิงพร้อมทะยานม้าตามอ๋องฉางอันไป"ท่านแม่ทัพรอเพียงท่านแล้ว"เป็นองค์หญิงใหญ่ที่เอ่ยขึ้น ความห่วงใยของหยางเอ้อหลางที่มีต่อองค์หญิงสิบสามทำให้นางริษยาขึ้นมา หลังจากเหตุลอบฆ่าวันนั้นองค์หญิงสิบสามก็มาหานางถึงกระโจม องค์หญิงใหญ่เพียงแต่ปฏิเสธไปว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เห็นชัดว่าองค์หญิงสิบสามนั้นยังคงระแวง แต่ระแวงแล้วอย่างไรคนอย่างองค์หญิงสิบสามจะเอาสิ่งใดมาสู้นางได้ ฉับพลันที่องค์หญิงใหญ่ขยับกายหยางเอ้อหลางได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น กระพรวนเช่นนั้นหรือ หยางเอ้อหลางมองตามเสียงนั้นพลันเห็นที่มาของเสียง กระพรวนนั้นดังมาจากข้อเท้าขององค์หญิงใหญ่"เอ้อท่านอาจจะคิดว่ามันคงดังร
ส่วนองค์หญิงใหญ่นั้นแทบจะไม่เคยถามถึงเด็กเลยทั้งนี้คงเป็นเพราะเด็กคนนั้นคือตราบาปของนาง องค์หญิงใหญ่จึงรังเกียจเด็กยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือในหัวคิดเพียงแต่เรื่องสังหารเด็กนั่นให้ตายไปเสียให้พ้น องค์หญิงสิบสามถอนหายใจคิดแล้วก็รู้สึกหดหู่ยิ่งหลังออกจากตำหนักองค์หญิงใหญ่ สามีจึงพานางเข้าร่วมงานเลี้ยง ท่านย่าของหยางเอ้อหลางพาท่านชายทั้งสองเข้าร่วมงานด้วย ทุกคนห้อมล้อมเอาอกเอาใจอีกทั้งเด็กทั้งสองยังเป็นหลานรักของฝ่าบาทและขององค์รัชทายาทยิ่ง ไม่ว่าใครต่างก็แสดงความชื่นชมออกมา ก้อนแป้งน้อยของนางทั้งสองยังเด็กแต่รู้ความนัก เมื่อเห็นมารดาเพียงแต่โผหานางเบาๆ ไม่ได้งอแงเหมือนเด็กทั่วไป ภรรยาของขุนนางใหญ่หลายคนต่างหมายตาพวกเขาเอาไว้ พยายามทาบทามตั้งแต่ยังเด็ก องค์หญิงสิบสามเอ่ยปากปฏิเสธเพราะคิดว่าบุตรยังเล็กนัก การกระทำของนางไม่ไว้หน้าผู้ใดกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าตำหนิ กลางดึกคืนนั้นหยางเอ้อหลางนอนกอดภรรยาที่ร่างกายเปล่าเปลือยเอาไว้ในอ้อมกอด คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างพวกเขาแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ องค์หญิงสิบสามหลับแล้วเขากลับยังคงต้องการ เช่นนั้นจึงจับขานางแยกออกแล้วดันกายเข้าไประหว่างขา องค์หญ
องค์รัชทายาทครั้นเห็นว่าพี่หญิงของเขาและพี่เขยมาถึงแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็สดใสขึ้น องค์หญิงสิบสามยิ้มให้กำลังใจ องค์รัชทายาทที่มีชันษาแปดขวบอีกทั้งรู้ความเป็นอันมากด้วยถูกฮูหยินชราและสตรีสกุลหยางอบรมมาด้วยตนเองจึงเข้าพิธีสถาปนาอย่างกล้าหาญ องค์หญิงสิบสามเห็นน้องชายกำลังเติบโตเช่นนั้นก็ตื้นตันใจนัก นางเกือบหยุดน้ำตาไม่ได้อยู่หลายคราคิดถึงเพื่อนของนางมารดาของรัชทายาทที่จากไปก็พลันสบายใจ คนผู้นั้นคงตายตาหลับแล้วหยางเอ้อหลางเห็นภรรยาเหม่อลอย อีกทั้งมีน้ำใสคลอที่หน่วยตาจึงกุมมือของนางเอาไว้ จวบจนพิธีจบสิ้นองค์รัชทายาทก็ก้าวเข้ามาหาพวกเขาอย่างสง่างามสิ่งที่เอ่ยออกมาคำแรกสร้างความตื้นตันให้กับองค์หญิงสิบสามยิ่ง นางรู้สึกว่าองค์รัชทายาทช่างกตัญญูนักไม่เสียแรงที่นางปกป้องซาลาเปาน้อยก้อนนี้ด้วยชีวิต"พี่หญิงเมื่อข้าโตแล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าข้าจะยกให้ท่าน"เพราะรัชทายาทพูดแบบนี้นางจึงซาบซึ้งจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป หยางเอ้อหลางได้แต่ส่ายหน้าโรคบ้าสมบัติของภรรยาเห็นทีว่าจะรักษาไม่หายจริงๆ หลังจากนั้นแฝดผู้น้องของซาลาเปาน้อยพลันวิ่งมาหานางวันนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้รับ
ในขณะที่หยางเอ้อหลางจุมพิตประกบขยี้ไปบนริมฝีปากงามอีกทั้งนิ้วมือของเขายังไต่ลงไปบดขยี้ปลายเกสรเพิ่มความต้องการกระสันอยากให้ภรรยามากขึ้นอีกทั้งยังจ้วงแทงลงมาใช้แรงกระแทกนางถี่ยิบ อ้าปากคว้าเต้าอวบกลมใหญ่ของนาง ปากดูดกลืนสองเต้าเต็มรัก สะโพกแข็งแรงซอยกระแทกรุนแรงจนทำให้ร่างกายขององค์หญิงสิบสามเต้นระริกองค์หญิงสิบสามกอดศีรษะของเขาไว้ ก่อนที่เขาจะจับนางพลิกร่างให้หันหลังอีกทั้งยังขยับสะโพกของนางเข้าหาตน แนบร่างลงมาหานางจากด้านหลัง ให้นางคุกเข่าอยู่บนเก้าอี้กอดตระกองรวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนหยางเอ้อหลางดูดแผ่นหลังของนางแรงๆ อีกทั้งยังลากลิ้นเลียนางจนทั่วแผ่นหลังเนียนนุ่มในขณะที่เร่งจังหวะของสะโพกตนอัดร่างลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปากครางบอกรักภรรยา เนื้อนุ่มนิ่มในอ้อมกอดหอมกรุ่นทำให้มัวเมายิ่ง เขาจุมพิตแผ่นหลังนางจนทั่ว ฝากรอยแดงเอาไว้แทบทุกตารางผิวองค์หญิงสิบสามแหงนใบหน้าหาเขา อ้าปากเย้ายวน หยางเอ้อหลางประกบปากของตนลงมาทันใด สองลิ้นพัวพันต่างคนต่างสูบลมหายใจซึ่งกันและกันแลกจุมพิตหวานฉ่ำรุนแรง ยิ่งจุมพิตยิ่งมัวเมาส่วนสะโพกบดเบียดและจ้วงแทงลงมาจากด้านหลัง นางบีบรัดเขาจนเขาต้องห่อปาก กระนั
หยางเอ้อหลางสัมผัสได้ถึงกลีบอวบอูมที่เต็มปากของตน น้ำหวานพรั่งพรูออกมา เขาสูดปากแรงๆ พร้อมดูดนางเต็มรัก นางบิดกายเร่งเร้า หยางเอ้อหลางหยอกเย้ากลีบนุ่มของนางจนอิ่มเอม ลิ้นร้อนของเขาห่อเป็นแท่งกระแทกเข้าไปในร่องลึก ไซร้สัมผัสกับปลายเกสรสีแดงที่สั่นระริกอยู่ที่ปลายลิ้น ก่อนจะดุนลิ้นตนเองลงมาหนักๆ จนภรรยาแทบจะแดดิ้นอยู่เบื้องล่างองค์หญิงสิบสามที่กำลังสติกระเจิงไปกับรสสวาทบัดนี้หาได้สนใจสิ่งใดไม่ นางยกสะโพกค้างให้เขาใช้ลิ้นรักนางอย่างเต็มที่ ความงดงามอวบอูมของภรรยาทำให้เขาฉ่ำเยิ้มเช่นกัน พูเนื้อของนางช่างเย้ายวนใจโดยแท้"ตรงนี้ของท่านงดงามมากรู้หรือไม่" เขากล่าวจบพลันสูดปากลากลิ้นแทงลงมาเต็มๆ องค์หญิงสิบสามกำเก้าอี้แน่น เขากำลังทำให้นางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว"อ๊า ท่านพี่ อื้อ" นางครางไม่หยุดปากในขณะที่สามีละเลงลิ้นลากดุนวนไซร้ไปตามกลีบเกสร ดูดกลืนปลายสีแดงสดที่สั่นระริกเต้นเร้า หญิงงามที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เบื้องหน้าดวงตาฉ่ำเยิ้มประดุจมีหมอกจาง ๆ อยู่ด้านในดวงตาคู่งามนั้นช่างยั่วยวนเขายิ่งนักเขาเงยหน้าเพ่งพิศที่เต้าคู่งาม ขยับกายว่องไวอ้าปากแล้วดูดรวบปลายถันไว้ในปาก ดูดแรงๆคล้ายกลั่นแกล
เขาเอ่ยเสียงพร่า พร้อมทั้งแลบลิ้นปาดเลียกลีบเกสรหอมหวานล้ำค่าของภรรยาอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อเห็นภรรยาบิดกายร้อนรุ่ม อีกทั้งส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาหยางเอ้อหลางเร่งเติมเชื้อไฟสวาทด้วยการลากไล้นิ้วมือเรียวไปตามโคนขาอ่อนขาวเนียนแผ่วเบา ร่างงามสั่นสะท้านระทดระทวยเอนหลังพิงกำแพงเพื่อช่วยพยุงกายของตนไม่ให้ล้มลงด้วยพลังปลายลิ้นของเขา"ทะท่านพี่ อือ อือ"ปากงดงงามครางครวญ หยางเอ้อหลางยิ่งปลุกเร้าลงบนเนื้ออูมตรงหน้า ร่างของนางกระตุกบิดไปมาอีกทั้งยังอ้าขาของตนให้เขาดูดกินได้ลึกขึ้น จากเดิมที่หวังจะให้เขากระทำการอย่างว่องไวบัดนี้กลับไม่คิดจะเร่งรัดแล้ว ปล่อยให้เขากระทำการอ้อยอิ่งกับร่างกายของตนเองเช่นนี้โดยไร้ซึ่งสติเมื่อเห็นว่าตนเองจู่โจมภรรยาจนนางยืนไม่ติดแล้ว เขาจึงอุ้มนางขึ้นแล้วพานางมานั่งยังเก้าอี้บุขนแกะนุ่ม จับขาของภรรยาแยกออกให้พาดไปที่พนักเก้าอี้ทั้งสองข้าง เผยความงดงามสีแดงสดเบื้องหน้าอย่างเต็มที่ในเวลานี้เป็นเวลากลางวันจึงมองเห็นนางแจ่มชัดเต็มสองตาประตูด้านหน้าถูกปิดแน่นหนาชนิดที่เรียกว่าไม่อาจมีแม้แต่แมลงสักตัวที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ หยางเอ้อหลางจึงกระทำกับภรรยาอย่างหย่ามใจอีกทั้ง
คิดแล้วก็ต้องขอบคุณสามีเช่นเขา ทำให้ชะตาชีวิตของนางเปลี่ยนได้ดุจพลิกฝ่ามือนางจึงอดขยับกายจุมพิตปลายคางของเขาอย่างขอบคุณไม่ได้ อีกทั้งมือน้อยยังสอดเข้าไปในสาบเสื้อเพื่อสัมผัสความอบอุ่นด้านในอย่างแนบชิดแม้จะอยู่ในชุดคลุมที่มิดชิดจึงไม่มีผู้ใดเห็นการกระทำอุกอาจไร้ยางอายของนาง แต่หยางเอ้อหลางนั้นรับรู้อีกทั้งยังถูกนางลูบคลำอกของตนไปมาไม่หยุดเช่นนี้ ใบหน้าจึงแดงก่ำ สิ่งที่ควรอ่อนลงกลับผงาดแข็งกร้าวมากกว่าเดิมเพราะนางลูบไล้อกของเขาอีกทั้งซุกอยู่ในอ้อมกอด กลิ่นกายของนางก็หอมยิ่งหอมจนทำให้เขากลัวว่าผู้อื่นจะได้กลิ่นจนทำให้รู้สึกหึงหวงขึ้นมา เขากอดนางแน่นขึ้น เห็นสายตาทหารหลายคนแอบลอบมองภรรยาตนแล้วก็รู้สึกโมโหนัก กระนั้นก็ไม่อาจปัดเรื่องอยากกินนางในตอนนี้ออกจากสมองได้ หัวหน้าขันทีนำพวกสองสามีภรรยาไปยังตำหนักปีกรับรอง อีกทั้งยังรายงานกำหนดการต่าง ๆ ในพิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาทอย่างละเอียดให้พวกเขาฟังหยางเอ้อหลางทั้งพยายามควบคุมตนเองจึงทำท่าสนใจข้อมูลที่หัวหน้าขันทีรายงาน แต่องค์หญิงสิบสามนั้นไม่สนใจฟังแม้แต่น้อย สามีพาทำสิ่งใดนางก็แค่ปฏิบัติตามเท่านั้น มือของนางจึงยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวหัวนมเล
หยางเอ้อหลางพลันอมยิ้ม เขาชอบที่นางชอบเขาที่สุด แม้จะเป็นสิ่งของเขาก็อดหึงหวงไม่ได้กล่าวจบพลันนางโน้มคอเขาลงมาจุมพิตดูดดื่ม เนื้อตัวของนางนุ่มนิ่ม แม้จะมีบุตรถึงสองคนแล้วร่างกายหาได้เปลี่ยนแปลงไปเช่นสตรีอื่น ที่ควรมีก็มีมากขึ้น อีกทั้งยังตึงแน่นยิ่งกว่าเดิม นับวันเขายิ่งหลงใหลภรรยาจนทนแยกห่างจากนางนานๆ ไม่ได้ยามที่เขาห่างนางต้องไปทำงานต่างเมือง หลายครั้งที่มีสตรีมากมายพยายามปีนขึ้นเตียงส่งสายตาหวานเยิ้มให้ ในใจหยางเอ้อหลางมองพวกนางเหล่านั้นแล้วรู้สึกว่าช่างดูน่ารำคาญ ในสายตาของเขามีเพียงภรรยาผู้เดียวที่สำคัญยิ่ง เขาไม่มีวันชายตาแลสตรีอื่นให้นางน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอันขาดองค์หญิงสิบสามเบียดกายเข้าหาเขา หยางเอ้อหลางใช้ผ้าห่มขนสุนัขจิ้งจอกห่อร่างเขาและนางเข้าด้วยกัน พันกายหนาแน่นด้วยกลัวว่านางจะต้องลมเย็นจากด้านนอกจนเจ็บป่วย ร่างกายของเขาแข็งแรง อึกทั้งยังอบอุ่นองค์หญิงสิบสามชอบซุกในอกแข็งแกร่งยิ่งมือของนางซุกซนล้วงเข้าไปในกางเกงเขาแล้วลูบอาวุธเขาเล่นจนผงาดแข็งชัน หยางเอ้อหลางปล่อยให้นางซนเสมอ นางชอบทำอะไรเขาล้วนตามใจโดยเฉพาะเรื่องนี้ เขายิ่งตามใจนางยิ่งกว่าเรื่องใด“ท่านพี่มันโตแล้ว”“
ผู้ช่วยหมอทำคลอดพลันเปิดประตูออกมา หยางเอ้อหลางไม่รอช้า ผลักประตูเข้าไปด้านในแม้คนจะทัดทานเขาก็ไม่สนใจแล้วเขาโผไปหาภรรยาที่เหนื่อยจนหมดสติไปแล้วอย่างว่องไว กุมมือนางไว้ด้วยใบหน้าซีดเซียว"หมินเออร์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง""องค์หญิงปลอดภัยดีเจ้าค่ะ เพียงแต่เหนื่อยมากจึงหลับไป"หมอหญิงผู้เก่งกาจประจำจวนเอ่ยขึ้น หยางเอ้อหลางพยักหน้าแต่ไม่วางใจ เขาดึงภรรยามากอดไว้ สำรวจร่างที่ยังเปียกชื้นด้วยเหงื่อของนางปากก็พร่ำขอโทษภรรยาที่ทำให้นางเจ็บปวดด้วยสำนึกผิดเป็นอย่างยิ่ง"ข้าจะไม่ให้ท่านท้องอีกแล้ว ขอสัญญา ข้าขอโทษ"ความเจ็บปวดของภรรยาในวันนี้ทำให้เขารู้สึกปวดร้าวยิ่ง เขาจะไม่มีวันยอมให้นางเป็นเช่นนี้อีกจวบจนแม่นมอุ้มก้อนแป้งอวบก้อนหนึ่งมาหาเขา หยางเอ้อหลางเห็นหน้าบุตรเป็นครั้งแรก พลันตื้นตันจวบจนน้ำตาจะไหล ความรู้สึกรักและผูกพันท่วมท้นในอก บัดนี้เขาเข้าใจลึกซึ้งแล้ว ว่าบิดามารดารักเขาเพียงใด เขาค่อย ๆ วางร่างภรรยาลงบนเตียงให้ท่านหมอดูแลเต็มที่ ส่วนตัวเองยื่นมือไปรับห่อผ้าสีแดงนั้นมาไว้ในอ้อมกอด"เป็นท่านชายเจ้าค่ะ" แม่นมเอ่ยด้วยความยินดี"ดีมาก ดีจริงๆ "หยางเอ้อหลางหัวเราะทั้งน้ำตาแล้ว ความตื้
กินเสร็จได้ไม่นาน องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกอยากอาบน้ำ"ท่านพี่นอกจากเขาจะเลือกกินแล้ว ยังรักสะอาดยิ่ง อากาศหนาวเช่นนี้ข้ากลับอยากอาบน้ำวันละหลายรอบ"หยางเอ้อหลางจึงสั่งอาชิงให้เตรียมน้ำอุ่น หลังจากนั้นเขากลับเป็นฝ่ายดูแลนางด้วยตนเอง ถอดอาภรณ์ให้นาง ค่อยๆ พานางลงอ่างอย่างระวัง ผิวขององค์หญิงสิบสามเปล่งประกายบอบบาง ส่วนข้อเท้าเนียนนุ่มเล็กๆ ของนาง ยิ่งไม่อาจรับร่างกายที่หนักอึ้งของครรภ์ได้ หยางเอ้อหลางจึงต้องระวังเป็นพิเศษอาบน้ำยังไม่ทันเสร็จ องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติยิ่ง มีเลือดไหลออกมาจากช่องทางลับของนาง ก่อนที่ความรู้สึกเจ็บปวดจะวิ่งจากท้องน้อยถึงไขสันหลัง นางจับข้อมือของหยางเอ้อหลางแน่นห่อปากด้วยความเจ็บปวด"ท่านพี่ ข้าเจ็บ"เพียงเห็นเลือดที่เริ่มไหลออกมาปนกับน้ำในอ่าง เทพสงครามเช่นหยางเอ้อหลางแทบเป็นลมหมดสติยิ่งเห็นนางเจ็บปวดยิ่งรู้สึกคล้ายหายใจไม่ออก ช่วงท้องบิดมวน ปากร้องตะโกนให้อาชิงที่รออยู่ด้านนอกรีบตามหมอตำแยที่เขานำมาเลี้ยงดูในจวนตั้งแต่เดือนก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมให้ภรรยาหยางเอ้อหลางตั้งใจจะอุ้มนางขึ้นจากอ่างน้ำ แต่กลับถูกองค์หญิงสิบสามทั้งข่วนทั้งตบตี