“จะแต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะท่าน เคาน์เตส..”
ยูนีกเอ่ยถามเมื่อโรวีนาเริ่มลงมือหาเอกสารของอิไล มันถึงเวลาที่จะต้องไปแจ้งแก่ทางการได้แล้วว่าเขาได้ตายจากชีวิตของโรวีนาและตายจากโลกนี้ไปแล้ว หากไม่ตายเขาควรจะกลับมาหาภรรยาและลูกสาวของเขาสิ..แต่นี่สามปีแล้วเขายังไม่กลับมานั่นหมายความว่าเขาตายไปแล้ว หรือไม่ก็..เขาไม่ต้องการโรวีนาและลูกสาวอีกต่อไป “อืม..ข้าปล่อยให้ทางการมาเรียกคืนบรรดาศักดิ์ของเมลลี่ไม่ได้หรอก..เมลลี่ของข้าจะต้องเติบโตขึ้นมาในฐานะเลดี้ของตระกูลซารังต์ที่แสนร่ำรวย..” ฉันตอบคำถามของยูนีกด้วยรอยยิ้ม และนั่นทำให้ยูนีกได้แต่ถอนหายใจออกมา.. “ขอแค่ชายผู้นั้นไม่ทำร้ายและเป็นคนดีก็พอค่ะ..” เธอรู้รสนิยมความชอบของท่านเคาน์เตสดี เรื่องหน้าตานั้นตัดทิ้งไปได้เลย ท่านเคาน์เตสไม่ชอบบุรุษรูปหล่ออีกทั้งไม่มีทางที่สามีคนใหม่ของท่านจะเป็นขุนนาง.. คราวนี้เป็นใครกันนะ คนสวนหรือว่าชาวไร่กัน “รถม้าของตระกูลฮาสคลาวเดินทางมาถึงแล้วค่ะท่านเคาน์เตส” โรวีนาพยักหน้าเมื่อสาวใช้คนใหม่เดินเข้ามาแจ้งข่าว “มีธุระอะไรที่คฤหาสน์ฮาสคลาวอย่างนั้นหรือคะท่านเคาน์เตส..?” เธอมองยูนีกด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุข “ข้าจะแต่งงานใหม่..กับท่านดยุคฮาสคลาวล่ะ ช่วงสองสามวันนี่ข้าอาจจะยุ่ง ฝากดูแลเมลลี่ด้วยนะ..แล้วก็เรื่องแต่งงานใหม่..ข้าจะกลับมาบอกกล่าวกับนางเอง ไม่ต้องเป็นห่วง” นั่นมันคือเรื่องน่าเป็นห่วงสุดๆ เลยไม่ใช่รึไง นายหญิงของเธอเลิกตาบอดแล้วใช่ไหม ในที่สุดท่านก็สามารถแยกแยะความหล่อเหลาได้ถูกต้องสักที “ข้ามีนามว่าไมเนอร์ครับเคาน์เตส ท่านดยุคส่งข้ามาช่วยเหลือท่านในการยื่นเอกสารต่อทางการ..” เซอร์ไมเนอร์เป็นผู้ช่วยคนสำคัญของท่านดยุค เธอเคยเห็นชื่อของเขาปรากฏขึ้นมาในนิยายบ่อยๆ เมื่ออ่านเรื่องราวเกี่ยวกับท่านดยุค “ขอบคุณนะคะ” งดงามมากจริงๆ ..ไม่น่าแปลกใจที่ท่านดยุคจะขอแต่งงานสายฟ้าแลบขนาดที่เขาเองก็ตั้งตัวไม่ทันหรอกนะ เมื่อคืนหลังจากที่ท่านดยุคกลับมาที่คฤหาสน์ฮาสคลาวเขาก็ไม่ได้นอนอีกเลย “ข้ากำลังจะแต่งงานไมเนอร์ ข้าต้องการให้เจ้าร่างเอกสารการทำสัญญาแต่งงานมาให้ข้าหน่อย..อ่อ แล้วก็วันพรุ่งนี้เจ้าจงไปช่วยว่าที่ดัชเชสในการจัดเตรียมเอกสารของนางด้วย” ด้วยเหตุนั้นเองเขาจึงทำงานโต้รุ่งตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เวลาจะงีบสัก5นาทียังไม่มีเลย “อันที่จริงเรื่องการยื่นเอกสารเกี่ยวกับสามีเก่านั้นข้าทำเองก็ได้ค่ะ เซอร์รอข้าอยู่ที่ด้านหน้าห้องกับพอแล้ว” ไมเนอร์หัวเราะออกมาเบาๆ ตามมารยาท “เรื่องนั้นไม่ได้หรอกนะครับ ท่านดยุคกำชับมาว่าให้ข้าช่วยเหลือท่านเคาน์เตสให้เอกสารทุกอย่างผ่านพ้นและได้รับตราประทับจากทางการให้เรียบร้อยทุกแผ่นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา” ในตอนแรกโรวีนาก็ไม่เข้าใจคำกล่าวของไมเนอร์เท่าไหร่นัก จนเมื่อเขาพาเธอเดินเข้าไปด้านใน เพราะเขาเป็นคนของท่านดยุคถึงได้พาเธอเข้ามานั่งด้านในได้โดยไม่ต้องรอคิว แถมคนของทางการไม่ซักถามเธอเลยแม้แต่ครึ่งคำ เขาประทับตราของพระราชวังลงไปบนใบมรณะบัตรและใบหย่าของเธอเรียบร้อยแล้ว “เสร็จเรียบร้อยแล้วครับท่านเคาน์เตส..” ไมเนอร์ยื่นเอกสารมากมายพวกนั้นให้แก่เธอ และในใบสุดท้ายมันคือทะเบียนสมรสใบใหม่ “เรื่องสัญญาเราจะไปพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอและการเรียกร้องของท่านเคาน์เตสที่คฤหาสน์ฮาสคลาวนะครับ” ฉันพยักหน้าเบาๆ “ท่านดยุค..มีอำนาจเยอะดีจังเลยนะคะ” ฉันพูดออกเสียงแผ่วเบาแต่ไมเนอร์กลับได้ยินมันอย่างชัดเจน “เพราะท่านคือฮาสคลาวยังไงล่ะครับ คืออัญมณีที่เปล่งประกายที่สุดในจักรวรรดิ และเพราะเปล่งประกายมากเกินไปทำให้ท่านใช้ชีวิตลำบากมากทีเดียว..” อ่า..เรื่องนั้นเธอรู้ว่าฟลอยด์ใช้ชีวิตของเขามาแบบไหน เขาถูกคุกคามจากเหล่าสตรีมากมายทีเดียว จนหาความสงบสุขแทบไม่เจอ อีกทั้งสาเหตุการหย่าของเขาและเบลินดา ภรรยาเก่าของเขาคือการที่เธอคลั่งไคล้เขามากจนเกิน ฉันไม่แปลกใจว่าทำไมข้อตกลงแรกของการทำสัญญาแต่งงานของเรามันคือการที่เขาจะยุติข้อตกลงนี้ในทันทีที่ฉันรักเขา ฟลอยด์ไม่ได้ต้องการความรักเขาแค่ต้องการความสงบสุขเท่านั้นเอง และเธอจะมอบสิ่งที่เขาต้องการให้เขาเอง คฤหาสน์ฮาสคลาวนั้นใหญ่โตมากเทียบเท่าพระราชวัง สวนด้านหน้าที่เดินทั้งวันยังไม่ทั่ว ภายในคฤหาสน์ตกแต่งอย่างหรูหราและมีระดับ ความร่ำรวยที่ไม่อาจทำใจให้ชินได้เลยเมื่อพบเจอ เขาเป็นบุรุษที่เกิดมาสมบูรณ์แบบจริงๆ ทั้งด้านใบหน้าและฐานะ “ยินดีต้อนรับสู่ฮาสคลาวนะครับ..เรามาพูดคุยเรื่องสำคัญกันต่อ..” ฟลอยด์หยุดพูดเมื่อสายตาของโรวีนาไม่ได้มองมาที่เขาเลย เธอกำลังจ้องมองไปที่คาเรนด้วยดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน และลูกชายวัยห้าขวบของเขาก็กำลังจ้องมองสตรีที่งดงามราวกับนางฟ้าแม่ทูนหัวอย่างโรวีนา เขาเงียบเพื่อให้ทั้งสองคนจ้องมองกันให้เพียงพอ ทว่าโรวีนาเดินเข้ามาหาเขาก่อนที่เธอจะนั่งลงเบื้องหน้าของคาเรนที่กำลังจับมือเขาอยู่ “สวัสดีครับ..คุณนางฟ้า” อ้าก!! จะ..ใจของฉันมันเหมือนจะทะลุออกมานอกอก คาเรนคุณพระเอกของเรื่องนี้ทำไมเขาช่างน่ารักจนใจเจ็บขนาดนี้กันนะ หน้ากลมๆ นั้นทำให้รู้สึกเหมือนอยากจะยื่นมือไปสัมผัสแก้มจังเลย ระดับความน่ารักที่มหาศาลนี้มันคืออะไรกัน “ไม่ใช่นางฟ้าหรอกคาเรน นี่คือโรวีนาที่กำลังจะมาเป็นท่านแม่ของลูก..ไง” เด็กน้อยหน้าแดงมากกว่าเดิม “ทะ..ท่านแม่เหรอครับ” น่าเศร้าที่ชีวิตที่ดีพร้อมของคาเรนมีทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการ เงินทอง ของเล่น สหายความรักที่มากมายจากท่านพ่อ ชีวิตของเขานั้นขาดเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้นนั่นคือ..ท่านแม่ เขาไม่เคยได้พูดคุยกับท่านแม่เลย และคาเรนไม่กล้าเอ่ยถามคนในคฤหาสน์แห่งนี้ด้วยซ้ำว่าท่านแม่ของเขาไปไหน เขารู้ดีว่าพี่นางฟ้าคนนี้ไม่ใช่มารดาผู้ให้กำเนิดของเขา แต่คาเรนไม่ติดขัดเลยหากว่าพี่นางฟ้าคนนี้จะมาเป็นท่านแม่ของเขาน่ะ “...ใช่แล้วค่ะ คาเรนสามารถเรียกแม่..ว่าท่านแม่ได้เลย แม่เองก็มีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง..คาเรนจะมีทั้งแม่และทั้งพี่สาวเลยน้า” พี่สาวงั้นเหรอ เขาอยากมีพี่น้องมานานแล้ว “ข้าอยากมีครับ ข้าอยากมีทั้งท่านแม่และพี่สาวเลย!” สายตาที่ฟลอยด์มองคาเรนมักจะอ่อนโยนอยู่เสมอ และในยามนี้เมื่อเขาเห็นลูกชายดูจะชื่นชอบสมาชิกใหม่ในครอบครัวของเรา เขาก็รู้สึกว่าที่เขาเลือกเคาน์เตส ซารังต์นั้นอาจจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องก็ได้ แต่..เขาไม่คิดจะปล่อยลูกชายผู้ล้ำค่าของเขาเอาไว้กับสตรีที่มีประวัติทำร้ายเด็กหรอก เพราะอย่างนั้นเขายังคงต้องส่งอัศวินของเขาตามติดเพื่อดูท่าทีของสตรีที่งดงามผู้นี้และลูกชายของเขาสมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มขึ้นอย่างนั้นหรือ? คาเรนมองหน้าของท่านพ่อด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง มุมปากของเด็กน้อยโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม..เขาเองก็สามารถมีครอบครัวได้เหมือนกัน“เอาล่ะคาเรน ถึงเวลาที่ลูกจะต้องไปอยู่กับไมเนอร์เป็นการชั่วคราวแล้ว เพราะว่าพ่อและท่านแม่คนใหม่ของลูกนั้นมีเรื่องมากมายที่จะต้องพูดคุยกัน..”นี่คงเป็นครั้งแรกที่คาเรนไม่อยากปล่อยมือออกจากมือของท่านพ่อเลย เขาอยากจะอยู่กับท่านพ่อและท่านแม่คนใหม่ให้มากกว่านี้“ไม่เป็นไร หลังจากที่พ่อและแม่คุยกันจบแล้ว..พ่อย่อมยินยอมให้เจ้าและท่านแม่ทำความรู้จักกัน..”เมื่อได้ยินถ้อยคำที่ยืนยันหนักแน่นเช่นนั้นแล้วคาเรนก็ยิ้มออก เขาปล่อยมือออกจากมือของท่านพ่อและยินยอมเดินตามไมเนอร์ไปถึงแม้ว่าสายตาของเขาจะยังคงจับจ้องที่ใบหน้าของท่านแม่คนใหม่อยู่ก็ตามที“ลูกชายของท่าน..เขา..น่ารักมากๆ เลยค่ะ ให้ตายสิเขาดูเหมือนกับท่านในช่วงเวลาที่ท่านกำลังย่อส่วนอยู่เลย..”รอยยิ้มของโรวีนาแข็งค้างอยู่บนใบหน้าของเธอเมื่อเธอตระหนักได้ว่าตัวเองพูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดออกไป เธอไม่ควรชมเชยรูปลักษณ์ของท่านดยุคและคาเรน เรื่องเช่นนี้มันละเอียดอ่อนมากไปหน่
“ชื่อคาเรนสินะคะ ลูกสามารถเรียกแม่ว่าแม่ได้เลยน้า..อันที่จริงแม่เองก็มีลูกสาวที่น่ารักคนหนึ่งเหมือนกัน การเป็นลูกคนเดียวมันเหงามากใช่ไหมล่ะ จากนี้ไปคาเรนจะมีพี่สาว ส่วนเมลลี่ก็จะมีน้องชายที่แสนน่ารัก..”คาเรนยกยิ้มขึ้นมา เขาพยักหน้าตามคำบอกเล่าของท่านแม่ มือของเขานั้นจับมือของท่านแม่โรวีนาเอาไว้ไม่ยอมปล่อยจริงอยู่ที่ท่านพ่อรักเขามากแต่ความรักนั้นมันมักจะมาในรูปแบบของสิ่งของมากกว่าเวลา งานของท่านพ่อยุ่งมากพอสมควร ทำให้เขาและท่านพ่อไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันสักเท่าไหร่“ข้า..ชอบท่านแม่ครับ และข้าอยากมีพี่สาว พี่เมลลี่จะต้องสวยเหมือนท่านแม่แน่ๆ เลย”โรวีนาพยักหน้าเร็วๆ“ลูกเองก็งดงามและเจิดจรัสเหมือนท่านพ่อมากเลยนะคาเรน จากนี้ไปก็ขอฝากตัวด้วยนะ”อยากอุ้มกลับไปที่ซารังต์ด้วยชะมัด อยากพาคาเรนไปหาเมลลี่ อยากพาเด็กทั้งสองคนไปทำความรู้จักกันตามเนื้อเรื่องเดิมคาเรนคือพระเอก ส่วนเมลลี่คือตัวร้าย..แต่เมลลี่ไม่ใช่ตัวร้ายที่มาชอบพระเอก แค่นางมีปมในใจและต้องการทำลายนางเอกที่ได้รับความรักจากทุกคนเท่านั้นเอง..อันที่จริงคนแรกที่เมลลี่สังหารคือโรวีนา มารดาของนาง..แต่เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ท่
ฉันนั่งอยู่ด้านหลังของเมลลี่ มือทั้งสองข้างกำลังขยับไปมาเพื่อถักเปียผมทั้งสองข้างให้แก่ลูกสาว ไม่อยากยอมรับเท่าไหร่นักแต่ในตอนนี้ฉันกลายเป็นคุณแม่ไปเรียบร้อยแล้ว แถมยังมีลูกสาวที่น่ารักราวกับตุ๊กตาอีกด้วย เรือนผมสีแดงของเมลลี่มันโดดเด่นมากทีเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นหน้าของอิไล พ่อของเมลลี่มาก่อนแต่ในนิยายบรรยายเอาไว้ว่าเขาหล่อมาก ดูท่าว่าเขาคงจะหล่อเหลามากจริงๆ นั่นแหละลูกสาวของเราทั้งสองคนถึงได้น่ารักและฉายแววความสวยงามมากขนาดนี้“สีผมของลูกนั้นมันงดงามมากๆ เลยนะเมลลี่”เมื่อได้ยินเช่นนั้นเด็กน้อยก็ฉีกยิ้มกว้างจนอวดฟันขาว“ลูกอยากจะมีเส้นผมสีเหมือนท่านแม่มากกว่า..”มือของโรวีนากำลังกอบกุมใบหน้าของลูกสาวเอาไว้“ลูกงดงามมากเมลลี่ สตรีทุกคนล้วนแล้วแต่มีความงดงามในแบบฉบับของตัวเอง ลูกไม่จำเป็นต้องอยากเหมือนแม่มากขนาดนั้นก็ได้ ลูกสวยและน่ารักในแบบของตัวเองอยู่แล้ว ขาดแค่ความมั่นใจเท่านั้นเอง เป็นเลดี้จะต้องยืดหลังตรงและอยู่ในท่วงท่าที่สง่างาม..”ฉันเองก็ไม่ได้รู้เรื่องการเป็นชั้นสูงมากนัก เพราะแบบนั้นเพื่อที่จะสอนเมลลี่ให้รู้จักกับมารยาททางสังคม ช่วงเวลาในยามกลางคืน ฉันถึงต้องอ่านหนังสื
“โรวีนา ซารังต์? บอกหน่อยว่าเราไม่ได้อ่านชื่อของสตรีที่อยู่ในใบทะเบียนสมรสนี่ผิด”ฟลอยด์ส่งยิ้มให้แก่ท่านอาของเขา หรือองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแห่งนี้“ไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะแต่งงานกับโรวีนาจริงๆ”องค์จักรพรรดิคาลิโซมองไปที่จักรพรรดินีของพระองค์ที่กำลังยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใครๆต่างก็ล่วงรู้ถึงชื่อเสียงของสตรีที่ฉาวโฉ่แห่งยุค“ชาล็อต หลานชายของเจ้ากำลังจะแต่งงานใหม่นะ ฟลอยด์กำลังจะแต่งงานกับ..เคาน์เตสซารังต์”จักรพรรดินีชาล็อตวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะ พระนางมองหน้าของหลานชายก่อนจะหยักยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เขาแตกต่างจากเมื่อหกปีก่อนมากทีเดียว ในตอนที่เขามาร้องขอแก่เธอ เพื่อให้เธอพระราชทานสมรสให้แก่เขาและเบลินดาการแต่งงานในครั้งนี้ดูท่าว่าจะไม่ได้เกิดจากความรักอย่างนั้นสินะ..อีกทั้งฟลอยด์เองก็อายุสามสิบแล้ว เขามีสิทธิ์เลือกคู่ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่“โรวีนาถือเป็นสาวงามที่งดงามมากที่สุดจนได้ฉายาว่าเป็นดอกไม้แห่งแดนใต้ เลือกได้ดีนี่ฟลอยด์”มุมปากของฟลอยด์กดลึกเป็นรอยยิ้ม“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ..”เมื่อจักรพรรดินีกล่าวเช่นนั้นแล้วองค์จักรพรรดิยังจะทำเช่นไรได้อีก นอกจ
ที่เงียบไม่ใช่เพราะว่าฉันหวาดกลัวแต่มันเป็นเพราะว่าฉันกำลังคิดคำด่าหมอนี่ต่างหาก ในขณะที่ฉันกำลังจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ป้าเพื่อพ่นคำหยาบคาย ที่เจโรมจะไม่มีวันจินตนาการถึง อยู่ๆ ก็มีมือมาจับเข้าที่ไหล่ของฉันเพื่อดึงรั้งให้ฉันเดินถอยไปข้างหลัง ริมฝีปากที่กำลังเผยอออกมาเพื่อที่จะสบถด่าปิดลงในทันทีพร้อมกับความปลื้มปีติที่ท่วมท้นในหัวใจนี่ฉันกำลังคิดไปเองรึเปล่าเรื่องที่ว่าท่านดยุคกำลังปกป้องฉันเอาไว้ คิดไปเองรึเปล่าว่าเขากำลังกันฉันให้ออกห่างจากเจโรม“แหม สนิทสนมกันไวจังนะครับ ทั้งๆ ที่พึ่งจะพบเจอกันครั้งแรกตอนที่อยู่ที่งานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันแท้ๆ แสดงความเป็นเจ้าของไวจังเลยนะครับ”ฟลอยด์หรี่ตามองหน้าของเจโรม เขายกมือขึ้นพร้อมกับกับกางเอกสารใบสำคัญการสมรสของเขาและโรวีนาให้เจโรมดู ในนั้นมีการลงนามของเขาและโรวีนา อีกทั้งยังมีตราประทับขององค์จักรพรรดิอีกต่างหาก“นางมิใช่เคาน์เตสแล้วเจโรมแต่โรวีนาคือดัชเชสต่างหาก ดัชเชสแห่งฮาสคลาว”ความอ่อนหวานเข้ากอบกุมหัวใจของฉันในทันที ราวกับโลกใบนี้กำลังหยุดหมุนเลย เหมือนหยาดฝนที่ชุ่มฉ่ำกำลังตกลงมาในหัวใจที่แห้งแล้ง หัวใจของฉันกำลังเต้นผิดจังหวะอย่างไม
แววตาของฟลอยด์กำลังจับจ้องไปที่โรวีนา..เธอกำลังตักอาหารหลายอย่างใส่จานของลูกชายเขา แต่ทว่าโรวีนาก็ไม่ลืมตักอาหารชนิดเดียวกันใส่จานของลูกสาวเธอด้วย บนใบหน้าแสนงดงามนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานที่ระบายออกมา“รู้ใช่ไหมว่าเด็กที่ดีควรทำยังไง รีบๆ ทานอาหารให้เยอะๆ เพื่อที่จะได้โตไวๆ ยังไงล่ะ”เมลลี่ยกยิ้มพร้อมกับมองหน้าท่านแม่ของนางอย่างไม่คลาดสายตา เด็กน้อยผู้นั้นไม่เห็นมีร่องรอยจากการถูกทำร้ายเลย นางดูปกติมากๆ และความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกก็ดีมากด้วย เขาคิดว่าวันนี้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนจนอาหารไม่ย่อยซะอีก แต่กลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้ไม่ได้แย่เท่าที่คิดเอาไว้อีกทั้งคาเรนทานมื้อเย็นได้มากกว่าในยามปกติอีกด้วย“ข้าเองก็อยากจะโตเร็วๆ ..”ฉันพยายามห้ามใจตัวเองแล้วไม่ให้ยกมือนี่ไปลูบผมของคาเรน แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆโรวีนาลูบผมของคาเรนด้วยความรู้สึกเอ็นดู หากทำได้เธออยากอุ้มเจ้าเด็กแก้มพองนี่ขึ้นมาหอมซักฟอด ถ้าเธอทำแบบนั้นท่านดยุคได้มองตาเขียวอย่างแน่นอน เรายังไม่สนิทสนมกันมากขนาดนั้น เธอไม่ควรล้ำเส้นมากเกินไป“ข้าเองก็เหมือนกันค่ะท่านแม่..ข้าจะรีบโตไวๆ เหมือนกัน”ข้าจะปกป้องท่านแม่จากทุกสิ่งทุกอย่าง
“เรื่องนั้นไม่ใช่แค่ข่าวลือนะคะ ในตอนนั้นข้าก็อยู่ที่งานแต่งด้วย ท่านเบลินดาสีหน้าไม่ดีเลยถึงแม้ว่าจะอยู่ในงานแต่งของตัวเองก็ตาม”อารีเอนเล่าเรื่องในงานแต่งครั้งที่แล้วของท่านดยุคและเลดี้เบลินดาให้โรวีนาได้ฟัง“เช่นนั้นแล้ว..ใครกันคะที่กล้าลงมือกับดัชเชสแห่งฮาสคลาว อำนาจของท่านดยุคก็มีไม่น้อยเลยนี่คะ”ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อารีเอนถึงพาตัวเองมาที่คฤหาสน์ตระกูลซารังต์..ทั้งๆ ที่เธอตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรีที่ซื่อบื้อเช่นเคาน์เตสโรวีนา แต่ทว่าพอกลับไปถึงบ้านก็นึกขึ้นได้ว่าในงานแต่งงานครั้งที่แล้วของท่านดยุคมีเรื่องแปลกประหลาดเต็มไปหมด“นั่นสินะคะ คนที่ทำก็คือคนที่จะต้องมีอำนาจมากกว่าท่านดยุคถูกต้องไหมคะท่านเคาน์เตส..”คนที่มีอำนาจมากกว่าท่านดยุคอย่างนั้นหรือ? หรือว่าจะเป็นองค์หญิง?“ฉันอยากจะบอกกับเลดี้มาตั้งนานแล้ว..เลดี้สามารถเรียกชื่อของฉันแทนยศได้นะคะ”โรวีนากล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่อารีเอน เธอไม่มีเพื่อนมาก่อนเลย ทั้งเธอและทั้งโรวีนาคนเก่า เราทั้งสองคนคือพวกอินโทเวิส หรือว่ายังไงกันนะ ถึงไม่ค่อยคิดอยากจะเข้าสังคม มันก็เลยทำให้เราไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวในสายตาของโรวีนา เ
“แต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะ? ฟลอยด์เนี่ยนะจะแต่งงานใหม่”เบลินดาเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อหูเมื่อสาวใช้ของเธอบอกกล่าวข่าวลือที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ดยุคฮาสคลาวด์กำลังจะแต่งงานใหม่ และสตรีที่เขาจะแต่งงานด้วยคือเคาน์เตสโรวีนา ซารังต์..เรื่องความงดงามเธอไม่เถียงอยู่แล้ว เพราะในเมืองหลวงแห่งนี้เคาน์เตสผู้นั้นงดงามที่สุด แต่เรื่องฐานะทางสังคม นิสัยใจคอ และข่าวลืออีกมากมายนั่นทำให้ในหัวของเบลินดาเต็มไปด้วยคำถามเขาไปสนใจสตรีที่มีดีแค่ความงามผู้นั้นได้อย่างไรกัน ไม่เห็นจะเข้าใจเลย..“อยากให้พี่เสนอฎีกาคัดค้านการแต่งงานนี้รึเปล่า เพราะถึงอย่างไรน้องก็คือมารดาของคาเรน..น้องมีสิทธิ์ในการคัดค้านงานแต่งใหม่ของท่านดยุคอยู่แล้ว”บาทีอัสนั่งลงข้างๆ น้องสาวที่ทำท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมา เขาเข้าใจความรู้สึกของเบลินดาดีว่านางคงจะเจ็บปวด น้องสาวของเขาหลงรักท่านดยุคมากแค่ไหนเรื่องนั้นเราต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ ตั้งแต่ที่มีการหย่าร้างกัน ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานถึงห้าปี แต่เบลินดาไม่เคยลืมท่านดยุคเลยแม้แต่นิดเดียว“ไม่ค่ะ ข้าไม่ต้องยื่นหนังสือคัดค้านเพื่อทำให้ท่านดยุครู้สึกไม่ดีกับข้า แต่ข้า
ฟลอยด์ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขารู้ดีว่าทั้งองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีรอคอยการพบเจอกับโรวีนามากแค่ไหน และการที่เขาพาเธอมาที่นี่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่านี่คือ..หนึ่งในสัญญาของเราเมื่อคืนเขาไม่ได้นอน เขาไม่ได้นอนเป็นประจำอยู่แล้วนั่นคือเหตุผลว่าทำไมต่อให้เขาไม่ได้หลับตาลงเลย ใบหน้าของเขาก็ดูปกติเหมือนกับคนที่นอนเต็มอิ่มเขาคิดมากทั้งเรื่องที่เราพึ่งจะจุมพิตกัน เรื่องที่ตัวเองเผลอไผลหลงใหลดอกไม้งามที่มีหนามแหลมคมดอกนั้น และยังเรื่องที่มีสตรีบุกเข้าไปในห้องอาบน้ำของเขาอีกด้วย มีเรื่องราวมากมายให้เขาต้องใช้ความคิด และหนึ่งในความคิดที่ผุดขึ้นมาคือเขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรกับ โรวีนาเลย ไม่ควรมีความรักหรือว่าความผูกพันใดๆ ทั้งนั้น นั่นคือเรื่องที่ไม่ถูกต้องเขาต้องการแบ่งเขตความสัมพันธ์ของเราอีกครั้ง นั่นคือเหตุว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่ เพื่อให้เธอกันริโอนาให้ออกห่างจากเขาไป“นางงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นสตรีที่เพียงแค่มองครั้งเดียวก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาได้ ฟลอยด์...อารู้ว่าบุรุษเช่นเรานั้นไม่อาจสู้รบกับสตรีได้ชนะหรอก แต่ทว่า..นั่นคือโรวีนา..นางไม่คู่ควรกับการเป็นดัชเชสฮาสคลาว เจ้าจะอับอายใน
อารีเอนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอกำลังลอบมองสีหน้าของเลดี้เบลินดาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆบอกตามตรงว่าในตอนที่เธอเอ่ยปากชวนโรวี่มาที่นี่ เธอคาดหวังนะ เพราะหากโรวี่มางานนี้จะสนุกอย่างแน่นอนและคงจะได้เห็นโรวี่ตอกกลับเลดี้เบลินดาแบบสนุกๆ แต่โรวี่ไม่มาก็ถือว่านั่นคือเรื่องที่ดีอีกหนึ่งอย่างสตรีที่งดงามปานรูปสลักผู้นั้นมีความคิดที่เดาทางไม่ได้จริงๆ“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปงานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาเพื่อเล่นงานฉันทำไม..”“แต่หากว่าท่านไม่ไปทุกคนจะมองว่าท่านเสียมารยาทนะคะ”โรวีนายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ“แล้วทำไมฉันจะต้องสนใจความคิดของคนอื่นขนาดนั้นกันคะ..ในเมื่อช่วงเวลาที่แย่มากที่สุดในชีวิตของฉันก็ไม่เห็นจะมีใครมาคอยช่วยเหลืออะไรฉันสักหน่อย”นั่นแหละมันน่าทึ่งตรงนั้น..โรวีนาลอยตัวอยู่เหนือปัญหาโดยที่นางไม่สนใจใครทั้งนั้น ช่างน่านับถือจริงๆ“นี่เคาน์เตสไม่มาอย่างนั้นหรือคะเนี่ย.. แสดงว่างานนี้เลดี้เวนสันก็เสียเงินจัดฟรีๆ เลยอย่างนั้นสินะคะ”“นั่นนะสิ เป็นภรรยาเก่าที่พยายามจะอวดเบ่งใส่ภรรยาใหม่ แต่แผนการที่วางเอาไว้ซะดิบดีกลับไม่สำเร็จด้วยซ้ำ ดูท่าว่าเลดี้คงจะโมโหมากๆ เลยนะคะ”พรุ่งนี้จะต้องมีข่าวดังอย่างแน่น
ราวกับร่างกายของเธอกำลังร่วงหล่นลงไปสู่ห้วงเหวที่ไร้ก้นบึ้ง ความหอมหวานที่ไม่เคยคาดคิดและจินตนาการมาก่อนในชีวิตมันกำลังเกิดขึ้นมาเธอแค่คิดว่าจุมพิตนี้คงทำให้เบลินดานั่งไม่ติดพื้นและทำให้องค์หญิงริโอนาทานข้าวไม่อร่อยไปสักสามวันแต่เธอลืมคิดไปว่าจุมพิตนี้ก็กำลังทำให้เธอรู้สึกเจียนตายเหมือนกัน หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก ปลายนิ้วเลื่อนไล้ไปตามลำคอในขณะที่ริมฝีปากของเรายังคงแนบชิด ต่างฝ่ายต่างดูดริมฝีปากของอีกฝ่ายทั้งยังเปลี่ยนมุมเพื่อให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น มันคือจูบที่เริ่มต้นช้าๆ และค่อยๆ เร่าร้อนมากยิ่งขึ้นฟลอยด์แน่ใจว่าเขาไม่ชอบการสัมผัสร่างกายของสตรีอย่างแน่นอน ชีวิตของเขานั้นมักจะเกิดเรื่องยุ่งๆ ขึ้นมาเพราะสตรี เช่นนั้นแล้วเขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความใกล้ชิด แต่ทว่าในยามที่โรวีนาร้องขอจุมพิตจากเขานั้น เขากลับไม่มีความลังเลใดๆ อยู่เลย เขารู้ว่าเธอกำลังต้องการทำสิ่งใด และจุมพิตนี้มันเอาไว้ใช้เพื่อตอบโต้เหล่าสตรีที่ตั้งใจจะทำร้ายเธอ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยินยอมส่งมอบจุมพิตให้เธอ ถึงแม้ว่าหัวใจของเขาจะรู้สึกประหม่ามากก็ตามทีการเริ่มจูบของเรามันเป็นไปอย่างเงอะงะ แต่เม
แววตาของเมลลี่สลดลงเล็กน้อยเมื่อเธอคิดถึงตรงนี้ อันที่จริงเธอนั้นมีทั้งท่านพ่อและท่านแม่เพียงแต่พวกท่านไม่ค่อยแสดงความรักต่อเธอเท่านั้นเองท่านพ่อที่ต่อว่าด่าทอว่าเธอคือตัวซวย และท่านแม่ที่ทุบตีเธอด้วยความเจ็บปวดในทุกครั้ง..เมลลี่ยื่นมือไปแตะสัมผัสลงบนใบหน้าของท่านแม่“ท่านแม่คะ..ท่านแม่ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่รึเปล่า”คำถามนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่โรวีนาเป็นอย่างมาก“เจ็บสิลูกรัก แม่เจ็บปวดแทบทุกครั้งที่เห็นหน้าลูกเลย มันคือความรู้สึกผิดที่กำลังกัดกินหัวใจของแม่ หากว่าแม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แม่จะไม่มีวันทำร้ายลูกเช่นนั้นอย่างแน่นอน..แม่ขอโทษนะเมล..แม่ไม่ควรทำสิ่งที่เลวร้ายพวกนั้นกับลูกเลย”เมลลี่ขบเม้มริมฝีปากแน่น เด็กน้อยที่เคยแตกสลายมานับครั้งไม่ถ้วนเพราะถูกบิดาและมารดาทำร้าย ในยามนี้เธอกำลังเกิดใหม่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของมารดา..“ข้าไม่เคยโกรธหรือว่าเกลียดชังท่านแม่เลยนะคะ”นั่นแหละที่มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม พ่อแม่คือโลกทั้งใบของลูก แต่โลกทั้งใบของเมลลี่มันหมองหม่นเพราะพ่อและแม่ที่แม่งโคตรจะเฮงซวยเลย พวกเขาไม่รักกันนั่นไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ไม่รักกันก็ไม่เป็นไ
“แต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะ? ฟลอยด์เนี่ยนะจะแต่งงานใหม่”เบลินดาเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อหูเมื่อสาวใช้ของเธอบอกกล่าวข่าวลือที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ดยุคฮาสคลาวด์กำลังจะแต่งงานใหม่ และสตรีที่เขาจะแต่งงานด้วยคือเคาน์เตสโรวีนา ซารังต์..เรื่องความงดงามเธอไม่เถียงอยู่แล้ว เพราะในเมืองหลวงแห่งนี้เคาน์เตสผู้นั้นงดงามที่สุด แต่เรื่องฐานะทางสังคม นิสัยใจคอ และข่าวลืออีกมากมายนั่นทำให้ในหัวของเบลินดาเต็มไปด้วยคำถามเขาไปสนใจสตรีที่มีดีแค่ความงามผู้นั้นได้อย่างไรกัน ไม่เห็นจะเข้าใจเลย..“อยากให้พี่เสนอฎีกาคัดค้านการแต่งงานนี้รึเปล่า เพราะถึงอย่างไรน้องก็คือมารดาของคาเรน..น้องมีสิทธิ์ในการคัดค้านงานแต่งใหม่ของท่านดยุคอยู่แล้ว”บาทีอัสนั่งลงข้างๆ น้องสาวที่ทำท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมา เขาเข้าใจความรู้สึกของเบลินดาดีว่านางคงจะเจ็บปวด น้องสาวของเขาหลงรักท่านดยุคมากแค่ไหนเรื่องนั้นเราต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ ตั้งแต่ที่มีการหย่าร้างกัน ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานถึงห้าปี แต่เบลินดาไม่เคยลืมท่านดยุคเลยแม้แต่นิดเดียว“ไม่ค่ะ ข้าไม่ต้องยื่นหนังสือคัดค้านเพื่อทำให้ท่านดยุครู้สึกไม่ดีกับข้า แต่ข้า
“เรื่องนั้นไม่ใช่แค่ข่าวลือนะคะ ในตอนนั้นข้าก็อยู่ที่งานแต่งด้วย ท่านเบลินดาสีหน้าไม่ดีเลยถึงแม้ว่าจะอยู่ในงานแต่งของตัวเองก็ตาม”อารีเอนเล่าเรื่องในงานแต่งครั้งที่แล้วของท่านดยุคและเลดี้เบลินดาให้โรวีนาได้ฟัง“เช่นนั้นแล้ว..ใครกันคะที่กล้าลงมือกับดัชเชสแห่งฮาสคลาว อำนาจของท่านดยุคก็มีไม่น้อยเลยนี่คะ”ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อารีเอนถึงพาตัวเองมาที่คฤหาสน์ตระกูลซารังต์..ทั้งๆ ที่เธอตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรีที่ซื่อบื้อเช่นเคาน์เตสโรวีนา แต่ทว่าพอกลับไปถึงบ้านก็นึกขึ้นได้ว่าในงานแต่งงานครั้งที่แล้วของท่านดยุคมีเรื่องแปลกประหลาดเต็มไปหมด“นั่นสินะคะ คนที่ทำก็คือคนที่จะต้องมีอำนาจมากกว่าท่านดยุคถูกต้องไหมคะท่านเคาน์เตส..”คนที่มีอำนาจมากกว่าท่านดยุคอย่างนั้นหรือ? หรือว่าจะเป็นองค์หญิง?“ฉันอยากจะบอกกับเลดี้มาตั้งนานแล้ว..เลดี้สามารถเรียกชื่อของฉันแทนยศได้นะคะ”โรวีนากล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่อารีเอน เธอไม่มีเพื่อนมาก่อนเลย ทั้งเธอและทั้งโรวีนาคนเก่า เราทั้งสองคนคือพวกอินโทเวิส หรือว่ายังไงกันนะ ถึงไม่ค่อยคิดอยากจะเข้าสังคม มันก็เลยทำให้เราไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวในสายตาของโรวีนา เ
แววตาของฟลอยด์กำลังจับจ้องไปที่โรวีนา..เธอกำลังตักอาหารหลายอย่างใส่จานของลูกชายเขา แต่ทว่าโรวีนาก็ไม่ลืมตักอาหารชนิดเดียวกันใส่จานของลูกสาวเธอด้วย บนใบหน้าแสนงดงามนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานที่ระบายออกมา“รู้ใช่ไหมว่าเด็กที่ดีควรทำยังไง รีบๆ ทานอาหารให้เยอะๆ เพื่อที่จะได้โตไวๆ ยังไงล่ะ”เมลลี่ยกยิ้มพร้อมกับมองหน้าท่านแม่ของนางอย่างไม่คลาดสายตา เด็กน้อยผู้นั้นไม่เห็นมีร่องรอยจากการถูกทำร้ายเลย นางดูปกติมากๆ และความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกก็ดีมากด้วย เขาคิดว่าวันนี้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนจนอาหารไม่ย่อยซะอีก แต่กลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้ไม่ได้แย่เท่าที่คิดเอาไว้อีกทั้งคาเรนทานมื้อเย็นได้มากกว่าในยามปกติอีกด้วย“ข้าเองก็อยากจะโตเร็วๆ ..”ฉันพยายามห้ามใจตัวเองแล้วไม่ให้ยกมือนี่ไปลูบผมของคาเรน แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆโรวีนาลูบผมของคาเรนด้วยความรู้สึกเอ็นดู หากทำได้เธออยากอุ้มเจ้าเด็กแก้มพองนี่ขึ้นมาหอมซักฟอด ถ้าเธอทำแบบนั้นท่านดยุคได้มองตาเขียวอย่างแน่นอน เรายังไม่สนิทสนมกันมากขนาดนั้น เธอไม่ควรล้ำเส้นมากเกินไป“ข้าเองก็เหมือนกันค่ะท่านแม่..ข้าจะรีบโตไวๆ เหมือนกัน”ข้าจะปกป้องท่านแม่จากทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่เงียบไม่ใช่เพราะว่าฉันหวาดกลัวแต่มันเป็นเพราะว่าฉันกำลังคิดคำด่าหมอนี่ต่างหาก ในขณะที่ฉันกำลังจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ป้าเพื่อพ่นคำหยาบคาย ที่เจโรมจะไม่มีวันจินตนาการถึง อยู่ๆ ก็มีมือมาจับเข้าที่ไหล่ของฉันเพื่อดึงรั้งให้ฉันเดินถอยไปข้างหลัง ริมฝีปากที่กำลังเผยอออกมาเพื่อที่จะสบถด่าปิดลงในทันทีพร้อมกับความปลื้มปีติที่ท่วมท้นในหัวใจนี่ฉันกำลังคิดไปเองรึเปล่าเรื่องที่ว่าท่านดยุคกำลังปกป้องฉันเอาไว้ คิดไปเองรึเปล่าว่าเขากำลังกันฉันให้ออกห่างจากเจโรม“แหม สนิทสนมกันไวจังนะครับ ทั้งๆ ที่พึ่งจะพบเจอกันครั้งแรกตอนที่อยู่ที่งานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันแท้ๆ แสดงความเป็นเจ้าของไวจังเลยนะครับ”ฟลอยด์หรี่ตามองหน้าของเจโรม เขายกมือขึ้นพร้อมกับกับกางเอกสารใบสำคัญการสมรสของเขาและโรวีนาให้เจโรมดู ในนั้นมีการลงนามของเขาและโรวีนา อีกทั้งยังมีตราประทับขององค์จักรพรรดิอีกต่างหาก“นางมิใช่เคาน์เตสแล้วเจโรมแต่โรวีนาคือดัชเชสต่างหาก ดัชเชสแห่งฮาสคลาว”ความอ่อนหวานเข้ากอบกุมหัวใจของฉันในทันที ราวกับโลกใบนี้กำลังหยุดหมุนเลย เหมือนหยาดฝนที่ชุ่มฉ่ำกำลังตกลงมาในหัวใจที่แห้งแล้ง หัวใจของฉันกำลังเต้นผิดจังหวะอย่างไม
“โรวีนา ซารังต์? บอกหน่อยว่าเราไม่ได้อ่านชื่อของสตรีที่อยู่ในใบทะเบียนสมรสนี่ผิด”ฟลอยด์ส่งยิ้มให้แก่ท่านอาของเขา หรือองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแห่งนี้“ไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะแต่งงานกับโรวีนาจริงๆ”องค์จักรพรรดิคาลิโซมองไปที่จักรพรรดินีของพระองค์ที่กำลังยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใครๆต่างก็ล่วงรู้ถึงชื่อเสียงของสตรีที่ฉาวโฉ่แห่งยุค“ชาล็อต หลานชายของเจ้ากำลังจะแต่งงานใหม่นะ ฟลอยด์กำลังจะแต่งงานกับ..เคาน์เตสซารังต์”จักรพรรดินีชาล็อตวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะ พระนางมองหน้าของหลานชายก่อนจะหยักยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เขาแตกต่างจากเมื่อหกปีก่อนมากทีเดียว ในตอนที่เขามาร้องขอแก่เธอ เพื่อให้เธอพระราชทานสมรสให้แก่เขาและเบลินดาการแต่งงานในครั้งนี้ดูท่าว่าจะไม่ได้เกิดจากความรักอย่างนั้นสินะ..อีกทั้งฟลอยด์เองก็อายุสามสิบแล้ว เขามีสิทธิ์เลือกคู่ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่“โรวีนาถือเป็นสาวงามที่งดงามมากที่สุดจนได้ฉายาว่าเป็นดอกไม้แห่งแดนใต้ เลือกได้ดีนี่ฟลอยด์”มุมปากของฟลอยด์กดลึกเป็นรอยยิ้ม“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ..”เมื่อจักรพรรดินีกล่าวเช่นนั้นแล้วองค์จักรพรรดิยังจะทำเช่นไรได้อีก นอกจ