“อย่างนั้นเองสินะ ขออภัยด้วยนะครับเคาน์เตส ข้าคงจะจำคนผิด..สตรีชั่วช้าที่อาจหาญกล้าหลอกเงินข้าจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน เป็นข้าเองที่เลอะเลือนไปชั่วขณะ..”
น้ำเสียงของเขานั้นหนักแน่นพร้อมกับเน้นย้ำที่ประโยคสำคัญ แต่แน่นอนว่ารอยยิ้มแสนงดงามที่ดูเหมือนกับดอกไม้กำลังผลิบานของฉันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย การค่อนแคะเล็กๆ น้อยๆ นี่ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก “ไม่เป็นค่ะท่านเคาน์ ข้าเข้าใจว่าคนเรานั้นสามารถทำเรื่องผิดพลาดกันได้ แต่ไม่ยักรู้เลยนะคะว่าท่านเคาน์ถูกสตรีหลอกลวง..ให้ตายสิท่านเองก็เป็นบุรุษที่หลงใหลในความงดงามเหมือนกันอย่างนั้นสินะคะ” น้ำเสียงของโรวีนานั้นอ่อนละมุนราวกับว่ากำลังมีมือมาแตะลงบนบ่าของเจโรม และนั่นไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยพับผ่าสิ เขาอยากจะฉุดรั้งข้อมือเล็กๆ ของสตรีผู้นี้แล้วพานางไปคุยในที่ที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้เพื่อหาข้อสรุปว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างที่เขาสงสัยรึเปล่า เธอคือสตรีในคืนนั้นหรือไม่ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ปากเล็กๆ นั่นอ้าออกมาบอกเล่าความจริง.. “ข้าเหนื่อยแล้วล่ะ เห็นทีว่าข้าคงจะต้องขอตัวกลับก่อนนะเจโรม..ถึงแม้จะยังอยากเล่นสนุกอยู่ที่นี่ต่ออีกหน่อย แต่ทว่าข้าอยากจะพาโรวีนาไปในที่ส่วนตัวเพื่อพูดคุยกับตามลำพัง หวังอย่างยิ่งว่านี่คงไม่ใช่การกระทำที่เสียมารยาทนะ” ฟลอยด์กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม เขายกมือขึ้นแล้วจับลงบนเอวที่คอดกิ่วของโรวีนาเพื่อพาเธอเดินต่อไป “ขอบคุณนะคะ..” เธอเอ่ยคำขอบคุณพร้อมกับเหงื่อที่เปียกโชกทั่วใบหน้า มือของโรวีนายกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเองเอาไว้..เขารู้ดีว่าเธอไม่ชอบเขาแต่ไม่เห็นต้องทำท่าทางรังเกียจกันถึงเพียงนั้นเลยนี่ แค่เขาสัมผัสร่างกายของเธอนิดๆ หน่อยๆ ก็เหงื่อออกขนาดนี้แล้วอย่างนั้นหรือ เห็นทีว่าครั้งต่อไปเขาจะต้องระมัดระวังมากกว่านี้ซะแล้วสิ ...ฉันตายไปแล้วรึยังนะ นี่เมนของฉันกำลังกอดเอวฉันอยู่ แถมเราทั้งคู่ยังอยู่ในท่าทีแนบชิดกันจนไหล่ของเขามันแทบจะเกยกัน เธอได้กลิ่นหอมที่แสนสะอาดของเขามันคือกลิ่นไม้สนที่พอได้กลิ่นแล้วทำให้รู้สึกสบายใจ ได้ลอบมองใบหน้านั้นด้วยระยะประชิดเช่นนี้.. ชีวิตติ่งของฉัน..คอมพลีสแล้วสินะ “เรามีเรื่องต้องคุยกันครับ” โรวีนามองหน้าของฟลอยด์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถามเมื่อเขาพาเธอเดินมาที่รถม้าของตระกูลฮาสคลาวแทนที่จะเป็นรถม้าโทรมๆ ของเธอ “ขึ้นไปสิครับ ข้ารับปากว่าจะไม่ทำอะไรที่เป็นการล่วงเกินเคาน์เตสอย่างแน่นอน” ทำเถอะค่ะ! ท่านทำมันได้เท่าที่ต้องการเลย..เพราะแบบนั้นไม่ต้องทำหน้าสำนึกผิดขนาดนั้นก็ได้ “ค่ะ..ฉันไม่ได้หวาดกลัวท่านดยุคหรอกนะคะ” ฟลอยด์หรี่ตาลงเป็นสัญญาณบอกถึงการไม่เชื่อถือ แต่เอาเถอะ..เพราะว่าเราต้องทำงานร่วมกันและเขาล่วงรู้แล้วว่าโรวีนาผู้นี้ไม่ชอบให้เขาสัมผัสหรือว่าแตะต้องร่างกายของเธอ “เรื่องที่ลานประมูล..ฝีมือของเคาน์เตสใช่ไหมครับ บอกก่อนว่าข้าไม่ได้จะจับท่านไปส่งให้เจโรมหรอกนะครับ ข้าแค่ไม่อยากให้ระหว่างเรามีความลับต่อกัน และ..ข้าจะได้ปกป้องท่านได้ อำนาจของเจโรมนั้นไม่ได้มีน้อยๆ เลยนะครับ” คราแรกเขาไม่มั่นใจ แต่เมื่อเห็นท่าทางของเจโรมแล้วมันยิ่งตอกย้ำว่าความสงสัยของเขามันคือเรื่องจริง โรวีนา ซารังต์คือสตรีที่หลอกเงินเจโรมไปพันเหรียญอย่างแน่นอน ความอ่อนไหวปรากฏในสายตาของโรวีนา เขาเอ่ยถามพร้อมกับบอกว่าเขาไม่อยากให้เรามีความลับต่อกัน แค่นั้นก็บอกแล้วไม่ใช่เรอะว่าเขารู้คำตอบก่อนที่จะเอ่ยถามอยู่แล้วน่ะ.. “ค่ะ ข้าไม่ได้อยากจะทำเช่นนั้นแต่..เพราะชีวิตที่ผ่านมาของข้านั้นมันเดินไปในทางที่ผิด ข้าต้องการ..หาเงินประทังชีวิตเท่านั้นเอง..แล้วหนึ่งพันเหรียญก็น้อยมากเมื่อเทียบกับเงินของเคาน์เวลลิงตัน” หนึ่งพันเหรียญนั้นมากมายพอสมควร ครอบครัวของขุนนางยังใช้เงินแค่ปีละไม่กี่ร้อยเหรียญเลย ขนาดซื้อทั้งเครื่องประดับและว่าจ้างสาวใช้คนงาน.. “ที่ข้าจะสื่อ ข้าไม่ได้โทษท่านแต่ว่า..ในตอนที่เจโรมเอ่ยถามท่าน นั่นหมายความว่าเขาล่วงรู้แล้วว่าท่านคือสตรีในคืนนั้น และจากนี้ไปชีวิตของท่านอาจจะไม่สงบสุขเหมือนเมื่อก่อนก็ได้ครับ” มันไม่สงบสุขตั้งแต่ที่เขาบังคับให้เธอเป็นคู่ควงของเขาแล้วไหม.. “ข้ามีวิธีค่ะ อีกทั้งท่านเคาน์เวลลิงตันไม่กล้าพอที่จะเอาเรื่องข้าหลอก” เพราะว่าเธอรู้ความลับของเขา เจโรมไม่ได้โกรธที่ถูกหลอก แต่เขาโกรธเรื่องที่เธอรู้วิธีการทำยารักษาโรคกามต่างหาก ในยุคสมัยที่ไม่มีการป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์กัน โรคต่างๆ ก็เกิดขึ้นมาและติดต่อกันอย่างรวดเร็วตามหมู่ขุนนาง โรคซิฟิลิส โรคหนองในและอีกมากมายที่ชนชั้นสูงมักจะเป็น แต่โรคพวกนี้มันน่าอับอายเพราะอย่างนั้นสำหรับชนชั้นสูงที่มีเงินมากพอจะจ่ายค่ารักษา พวกเขาจึงเรียกหมอไปที่บ้านแล้วแอบรักษาอย่างลับๆ เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ กลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาลเวลลิงตันไม่ใช่สามัญชนตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่เป็นพวกชนชั้นสูงต่างหาก ฟลอยด์อยากจะถามออกไปเหลือเกินว่าอะไรกันที่ทำให้เธอมั่นใจถึงขนาดนั้น..แต่เพราะเราคือว่าที่สามีภรรยาที่แต่งงานกันภายใต้ข้อสัญญา แน่นอนว่าเขาต้องการความสมจริงแต่เขาไม่ได้จะล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของเธอ “มาอยู่ที่ฮาสคลาวนะครับ หลังจากที่เราหมั้นหมายเสร็จแล้ว ข้าต้องการให้ท่านไปอยู่ด้วยกันที่นั่น..ส่วนที่ซารังต์ข้าจะส่งพ่อบ้านฝีมือดีมาดูแล” นั่นมันคือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดเลย ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันกับเมนตัวเองและได้มองหน้าเขาทั้งวัน..แต่ทว่าเราไม่ได้แต่งงานกันถาวรตลอดไป วันที่สิ้นสุดสัญญาการแต่งงานจะต้องเดินทางมาถึงในสักวัน และเธอมีลูกสาวที่จะขึ้นเป็นเคาน์เตสซารังต์ในอนาคตด้วย เธอพึ่งพาสามีปลอมๆอย่างเขาตลอดไปไม่ได้หรอก “เรื่องนั้นฉันไม่มีปัญหาเลยค่ะ แต่ว่าฉันอยากจะขอทำงานของตัวเองต่อไป..ฉันไม่สามารถพึ่งพาท่านดยุคได้ตลอด อีกทั้งเรื่องเงินไม่ได้อยู่ในสัญญา ฉันจะเป็นภรรยาในนามที่ดีของท่านแต่ขอให้ฉันได้ออกไปหาเงินของตัวเองด้วยนะคะ..” นี่คือสตรีชั่วช้าแห่งยุคจริงๆ นะหรือ? สตรีที่เอาแต่คบชู้ ผลาญเงินสามีและทำร้ายลูกสาว ทำไมโรวีนาที่กำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าของเขานี้ไม่มีวี่แววของความร้ายกาจให้เห็นเลยนะ เขามองเห็นเพียงสตรีที่มีแววตากระจ่างใสและรอยยิ้มที่แสนงดงามเท่านั้นเอง “เรื่องนั้นข้าไม่คิดขัดข้องอยู่แล้วครับ”“จะแต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะท่าน เคาน์เตส..”ยูนีกเอ่ยถามเมื่อโรวีนาเริ่มลงมือหาเอกสารของอิไล มันถึงเวลาที่จะต้องไปแจ้งแก่ทางการได้แล้วว่าเขาได้ตายจากชีวิตของโรวีนาและตายจากโลกนี้ไปแล้ว หากไม่ตายเขาควรจะกลับมาหาภรรยาและลูกสาวของเขาสิ..แต่นี่สามปีแล้วเขายังไม่กลับมานั่นหมายความว่าเขาตายไปแล้ว หรือไม่ก็..เขาไม่ต้องการโรวีนาและลูกสาวอีกต่อไป“อืม..ข้าปล่อยให้ทางการมาเรียกคืนบรรดาศักดิ์ของเมลลี่ไม่ได้หรอก..เมลลี่ของข้าจะต้องเติบโตขึ้นมาในฐานะเลดี้ของตระกูลซารังต์ที่แสนร่ำรวย..”ฉันตอบคำถามของยูนีกด้วยรอยยิ้ม และนั่นทำให้ยูนีกได้แต่ถอนหายใจออกมา..“ขอแค่ชายผู้นั้นไม่ทำร้ายและเป็นคนดีก็พอค่ะ..”เธอรู้รสนิยมความชอบของท่านเคาน์เตสดี เรื่องหน้าตานั้นตัดทิ้งไปได้เลย ท่านเคาน์เตสไม่ชอบบุรุษรูปหล่ออีกทั้งไม่มีทางที่สามีคนใหม่ของท่านจะเป็นขุนนาง..คราวนี้เป็นใครกันนะ คนสวนหรือว่าชาวไร่กัน“รถม้าของตระกูลฮาสคลาวเดินทางมาถึงแล้วค่ะท่านเคาน์เตส”โรวีนาพยักหน้าเมื่อสาวใช้คนใหม่เดินเข้ามาแจ้งข่าว“มีธุระอะไรที่คฤหาสน์ฮาสคลาวอย่างนั้นหรือคะท่านเคาน์เตส..?”เธอมองยูนีกด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุข“ข้าจ
สมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มขึ้นอย่างนั้นหรือ? คาเรนมองหน้าของท่านพ่อด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง มุมปากของเด็กน้อยโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม..เขาเองก็สามารถมีครอบครัวได้เหมือนกัน“เอาล่ะคาเรน ถึงเวลาที่ลูกจะต้องไปอยู่กับไมเนอร์เป็นการชั่วคราวแล้ว เพราะว่าพ่อและท่านแม่คนใหม่ของลูกนั้นมีเรื่องมากมายที่จะต้องพูดคุยกัน..”นี่คงเป็นครั้งแรกที่คาเรนไม่อยากปล่อยมือออกจากมือของท่านพ่อเลย เขาอยากจะอยู่กับท่านพ่อและท่านแม่คนใหม่ให้มากกว่านี้“ไม่เป็นไร หลังจากที่พ่อและแม่คุยกันจบแล้ว..พ่อย่อมยินยอมให้เจ้าและท่านแม่ทำความรู้จักกัน..”เมื่อได้ยินถ้อยคำที่ยืนยันหนักแน่นเช่นนั้นแล้วคาเรนก็ยิ้มออก เขาปล่อยมือออกจากมือของท่านพ่อและยินยอมเดินตามไมเนอร์ไปถึงแม้ว่าสายตาของเขาจะยังคงจับจ้องที่ใบหน้าของท่านแม่คนใหม่อยู่ก็ตามที“ลูกชายของท่าน..เขา..น่ารักมากๆ เลยค่ะ ให้ตายสิเขาดูเหมือนกับท่านในช่วงเวลาที่ท่านกำลังย่อส่วนอยู่เลย..”รอยยิ้มของโรวีนาแข็งค้างอยู่บนใบหน้าของเธอเมื่อเธอตระหนักได้ว่าตัวเองพูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดออกไป เธอไม่ควรชมเชยรูปลักษณ์ของท่านดยุคและคาเรน เรื่องเช่นนี้มันละเอียดอ่อนมากไปหน่
“ชื่อคาเรนสินะคะ ลูกสามารถเรียกแม่ว่าแม่ได้เลยน้า..อันที่จริงแม่เองก็มีลูกสาวที่น่ารักคนหนึ่งเหมือนกัน การเป็นลูกคนเดียวมันเหงามากใช่ไหมล่ะ จากนี้ไปคาเรนจะมีพี่สาว ส่วนเมลลี่ก็จะมีน้องชายที่แสนน่ารัก..”คาเรนยกยิ้มขึ้นมา เขาพยักหน้าตามคำบอกเล่าของท่านแม่ มือของเขานั้นจับมือของท่านแม่โรวีนาเอาไว้ไม่ยอมปล่อยจริงอยู่ที่ท่านพ่อรักเขามากแต่ความรักนั้นมันมักจะมาในรูปแบบของสิ่งของมากกว่าเวลา งานของท่านพ่อยุ่งมากพอสมควร ทำให้เขาและท่านพ่อไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันสักเท่าไหร่“ข้า..ชอบท่านแม่ครับ และข้าอยากมีพี่สาว พี่เมลลี่จะต้องสวยเหมือนท่านแม่แน่ๆ เลย”โรวีนาพยักหน้าเร็วๆ“ลูกเองก็งดงามและเจิดจรัสเหมือนท่านพ่อมากเลยนะคาเรน จากนี้ไปก็ขอฝากตัวด้วยนะ”อยากอุ้มกลับไปที่ซารังต์ด้วยชะมัด อยากพาคาเรนไปหาเมลลี่ อยากพาเด็กทั้งสองคนไปทำความรู้จักกันตามเนื้อเรื่องเดิมคาเรนคือพระเอก ส่วนเมลลี่คือตัวร้าย..แต่เมลลี่ไม่ใช่ตัวร้ายที่มาชอบพระเอก แค่นางมีปมในใจและต้องการทำลายนางเอกที่ได้รับความรักจากทุกคนเท่านั้นเอง..อันที่จริงคนแรกที่เมลลี่สังหารคือโรวีนา มารดาของนาง..แต่เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ท่
ฉันนั่งอยู่ด้านหลังของเมลลี่ มือทั้งสองข้างกำลังขยับไปมาเพื่อถักเปียผมทั้งสองข้างให้แก่ลูกสาว ไม่อยากยอมรับเท่าไหร่นักแต่ในตอนนี้ฉันกลายเป็นคุณแม่ไปเรียบร้อยแล้ว แถมยังมีลูกสาวที่น่ารักราวกับตุ๊กตาอีกด้วย เรือนผมสีแดงของเมลลี่มันโดดเด่นมากทีเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นหน้าของอิไล พ่อของเมลลี่มาก่อนแต่ในนิยายบรรยายเอาไว้ว่าเขาหล่อมาก ดูท่าว่าเขาคงจะหล่อเหลามากจริงๆ นั่นแหละลูกสาวของเราทั้งสองคนถึงได้น่ารักและฉายแววความสวยงามมากขนาดนี้“สีผมของลูกนั้นมันงดงามมากๆ เลยนะเมลลี่”เมื่อได้ยินเช่นนั้นเด็กน้อยก็ฉีกยิ้มกว้างจนอวดฟันขาว“ลูกอยากจะมีเส้นผมสีเหมือนท่านแม่มากกว่า..”มือของโรวีนากำลังกอบกุมใบหน้าของลูกสาวเอาไว้“ลูกงดงามมากเมลลี่ สตรีทุกคนล้วนแล้วแต่มีความงดงามในแบบฉบับของตัวเอง ลูกไม่จำเป็นต้องอยากเหมือนแม่มากขนาดนั้นก็ได้ ลูกสวยและน่ารักในแบบของตัวเองอยู่แล้ว ขาดแค่ความมั่นใจเท่านั้นเอง เป็นเลดี้จะต้องยืดหลังตรงและอยู่ในท่วงท่าที่สง่างาม..”ฉันเองก็ไม่ได้รู้เรื่องการเป็นชั้นสูงมากนัก เพราะแบบนั้นเพื่อที่จะสอนเมลลี่ให้รู้จักกับมารยาททางสังคม ช่วงเวลาในยามกลางคืน ฉันถึงต้องอ่านหนังสื
“โรวีนา ซารังต์? บอกหน่อยว่าเราไม่ได้อ่านชื่อของสตรีที่อยู่ในใบทะเบียนสมรสนี่ผิด”ฟลอยด์ส่งยิ้มให้แก่ท่านอาของเขา หรือองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแห่งนี้“ไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะแต่งงานกับโรวีนาจริงๆ”องค์จักรพรรดิคาลิโซมองไปที่จักรพรรดินีของพระองค์ที่กำลังยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใครๆต่างก็ล่วงรู้ถึงชื่อเสียงของสตรีที่ฉาวโฉ่แห่งยุค“ชาล็อต หลานชายของเจ้ากำลังจะแต่งงานใหม่นะ ฟลอยด์กำลังจะแต่งงานกับ..เคาน์เตสซารังต์”จักรพรรดินีชาล็อตวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะ พระนางมองหน้าของหลานชายก่อนจะหยักยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เขาแตกต่างจากเมื่อหกปีก่อนมากทีเดียว ในตอนที่เขามาร้องขอแก่เธอ เพื่อให้เธอพระราชทานสมรสให้แก่เขาและเบลินดาการแต่งงานในครั้งนี้ดูท่าว่าจะไม่ได้เกิดจากความรักอย่างนั้นสินะ..อีกทั้งฟลอยด์เองก็อายุสามสิบแล้ว เขามีสิทธิ์เลือกคู่ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่“โรวีนาถือเป็นสาวงามที่งดงามมากที่สุดจนได้ฉายาว่าเป็นดอกไม้แห่งแดนใต้ เลือกได้ดีนี่ฟลอยด์”มุมปากของฟลอยด์กดลึกเป็นรอยยิ้ม“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ..”เมื่อจักรพรรดินีกล่าวเช่นนั้นแล้วองค์จักรพรรดิยังจะทำเช่นไรได้อีก นอกจ
ที่เงียบไม่ใช่เพราะว่าฉันหวาดกลัวแต่มันเป็นเพราะว่าฉันกำลังคิดคำด่าหมอนี่ต่างหาก ในขณะที่ฉันกำลังจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ป้าเพื่อพ่นคำหยาบคาย ที่เจโรมจะไม่มีวันจินตนาการถึง อยู่ๆ ก็มีมือมาจับเข้าที่ไหล่ของฉันเพื่อดึงรั้งให้ฉันเดินถอยไปข้างหลัง ริมฝีปากที่กำลังเผยอออกมาเพื่อที่จะสบถด่าปิดลงในทันทีพร้อมกับความปลื้มปีติที่ท่วมท้นในหัวใจนี่ฉันกำลังคิดไปเองรึเปล่าเรื่องที่ว่าท่านดยุคกำลังปกป้องฉันเอาไว้ คิดไปเองรึเปล่าว่าเขากำลังกันฉันให้ออกห่างจากเจโรม“แหม สนิทสนมกันไวจังนะครับ ทั้งๆ ที่พึ่งจะพบเจอกันครั้งแรกตอนที่อยู่ที่งานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันแท้ๆ แสดงความเป็นเจ้าของไวจังเลยนะครับ”ฟลอยด์หรี่ตามองหน้าของเจโรม เขายกมือขึ้นพร้อมกับกับกางเอกสารใบสำคัญการสมรสของเขาและโรวีนาให้เจโรมดู ในนั้นมีการลงนามของเขาและโรวีนา อีกทั้งยังมีตราประทับขององค์จักรพรรดิอีกต่างหาก“นางมิใช่เคาน์เตสแล้วเจโรมแต่โรวีนาคือดัชเชสต่างหาก ดัชเชสแห่งฮาสคลาว”ความอ่อนหวานเข้ากอบกุมหัวใจของฉันในทันที ราวกับโลกใบนี้กำลังหยุดหมุนเลย เหมือนหยาดฝนที่ชุ่มฉ่ำกำลังตกลงมาในหัวใจที่แห้งแล้ง หัวใจของฉันกำลังเต้นผิดจังหวะอย่างไม
แววตาของฟลอยด์กำลังจับจ้องไปที่โรวีนา..เธอกำลังตักอาหารหลายอย่างใส่จานของลูกชายเขา แต่ทว่าโรวีนาก็ไม่ลืมตักอาหารชนิดเดียวกันใส่จานของลูกสาวเธอด้วย บนใบหน้าแสนงดงามนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานที่ระบายออกมา“รู้ใช่ไหมว่าเด็กที่ดีควรทำยังไง รีบๆ ทานอาหารให้เยอะๆ เพื่อที่จะได้โตไวๆ ยังไงล่ะ”เมลลี่ยกยิ้มพร้อมกับมองหน้าท่านแม่ของนางอย่างไม่คลาดสายตา เด็กน้อยผู้นั้นไม่เห็นมีร่องรอยจากการถูกทำร้ายเลย นางดูปกติมากๆ และความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกก็ดีมากด้วย เขาคิดว่าวันนี้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนจนอาหารไม่ย่อยซะอีก แต่กลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้ไม่ได้แย่เท่าที่คิดเอาไว้อีกทั้งคาเรนทานมื้อเย็นได้มากกว่าในยามปกติอีกด้วย“ข้าเองก็อยากจะโตเร็วๆ ..”ฉันพยายามห้ามใจตัวเองแล้วไม่ให้ยกมือนี่ไปลูบผมของคาเรน แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆโรวีนาลูบผมของคาเรนด้วยความรู้สึกเอ็นดู หากทำได้เธออยากอุ้มเจ้าเด็กแก้มพองนี่ขึ้นมาหอมซักฟอด ถ้าเธอทำแบบนั้นท่านดยุคได้มองตาเขียวอย่างแน่นอน เรายังไม่สนิทสนมกันมากขนาดนั้น เธอไม่ควรล้ำเส้นมากเกินไป“ข้าเองก็เหมือนกันค่ะท่านแม่..ข้าจะรีบโตไวๆ เหมือนกัน”ข้าจะปกป้องท่านแม่จากทุกสิ่งทุกอย่าง
“เรื่องนั้นไม่ใช่แค่ข่าวลือนะคะ ในตอนนั้นข้าก็อยู่ที่งานแต่งด้วย ท่านเบลินดาสีหน้าไม่ดีเลยถึงแม้ว่าจะอยู่ในงานแต่งของตัวเองก็ตาม”อารีเอนเล่าเรื่องในงานแต่งครั้งที่แล้วของท่านดยุคและเลดี้เบลินดาให้โรวีนาได้ฟัง“เช่นนั้นแล้ว..ใครกันคะที่กล้าลงมือกับดัชเชสแห่งฮาสคลาว อำนาจของท่านดยุคก็มีไม่น้อยเลยนี่คะ”ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อารีเอนถึงพาตัวเองมาที่คฤหาสน์ตระกูลซารังต์..ทั้งๆ ที่เธอตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรีที่ซื่อบื้อเช่นเคาน์เตสโรวีนา แต่ทว่าพอกลับไปถึงบ้านก็นึกขึ้นได้ว่าในงานแต่งงานครั้งที่แล้วของท่านดยุคมีเรื่องแปลกประหลาดเต็มไปหมด“นั่นสินะคะ คนที่ทำก็คือคนที่จะต้องมีอำนาจมากกว่าท่านดยุคถูกต้องไหมคะท่านเคาน์เตส..”คนที่มีอำนาจมากกว่าท่านดยุคอย่างนั้นหรือ? หรือว่าจะเป็นองค์หญิง?“ฉันอยากจะบอกกับเลดี้มาตั้งนานแล้ว..เลดี้สามารถเรียกชื่อของฉันแทนยศได้นะคะ”โรวีนากล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่อารีเอน เธอไม่มีเพื่อนมาก่อนเลย ทั้งเธอและทั้งโรวีนาคนเก่า เราทั้งสองคนคือพวกอินโทเวิส หรือว่ายังไงกันนะ ถึงไม่ค่อยคิดอยากจะเข้าสังคม มันก็เลยทำให้เราไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวในสายตาของโรวีนา เ
ฟลอยด์ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขารู้ดีว่าทั้งองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีรอคอยการพบเจอกับโรวีนามากแค่ไหน และการที่เขาพาเธอมาที่นี่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่านี่คือ..หนึ่งในสัญญาของเราเมื่อคืนเขาไม่ได้นอน เขาไม่ได้นอนเป็นประจำอยู่แล้วนั่นคือเหตุผลว่าทำไมต่อให้เขาไม่ได้หลับตาลงเลย ใบหน้าของเขาก็ดูปกติเหมือนกับคนที่นอนเต็มอิ่มเขาคิดมากทั้งเรื่องที่เราพึ่งจะจุมพิตกัน เรื่องที่ตัวเองเผลอไผลหลงใหลดอกไม้งามที่มีหนามแหลมคมดอกนั้น และยังเรื่องที่มีสตรีบุกเข้าไปในห้องอาบน้ำของเขาอีกด้วย มีเรื่องราวมากมายให้เขาต้องใช้ความคิด และหนึ่งในความคิดที่ผุดขึ้นมาคือเขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรกับ โรวีนาเลย ไม่ควรมีความรักหรือว่าความผูกพันใดๆ ทั้งนั้น นั่นคือเรื่องที่ไม่ถูกต้องเขาต้องการแบ่งเขตความสัมพันธ์ของเราอีกครั้ง นั่นคือเหตุว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่ เพื่อให้เธอกันริโอนาให้ออกห่างจากเขาไป“นางงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นสตรีที่เพียงแค่มองครั้งเดียวก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาได้ ฟลอยด์...อารู้ว่าบุรุษเช่นเรานั้นไม่อาจสู้รบกับสตรีได้ชนะหรอก แต่ทว่า..นั่นคือโรวีนา..นางไม่คู่ควรกับการเป็นดัชเชสฮาสคลาว เจ้าจะอับอายใน
อารีเอนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอกำลังลอบมองสีหน้าของเลดี้เบลินดาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆบอกตามตรงว่าในตอนที่เธอเอ่ยปากชวนโรวี่มาที่นี่ เธอคาดหวังนะ เพราะหากโรวี่มางานนี้จะสนุกอย่างแน่นอนและคงจะได้เห็นโรวี่ตอกกลับเลดี้เบลินดาแบบสนุกๆ แต่โรวี่ไม่มาก็ถือว่านั่นคือเรื่องที่ดีอีกหนึ่งอย่างสตรีที่งดงามปานรูปสลักผู้นั้นมีความคิดที่เดาทางไม่ได้จริงๆ“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปงานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาเพื่อเล่นงานฉันทำไม..”“แต่หากว่าท่านไม่ไปทุกคนจะมองว่าท่านเสียมารยาทนะคะ”โรวีนายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ“แล้วทำไมฉันจะต้องสนใจความคิดของคนอื่นขนาดนั้นกันคะ..ในเมื่อช่วงเวลาที่แย่มากที่สุดในชีวิตของฉันก็ไม่เห็นจะมีใครมาคอยช่วยเหลืออะไรฉันสักหน่อย”นั่นแหละมันน่าทึ่งตรงนั้น..โรวีนาลอยตัวอยู่เหนือปัญหาโดยที่นางไม่สนใจใครทั้งนั้น ช่างน่านับถือจริงๆ“นี่เคาน์เตสไม่มาอย่างนั้นหรือคะเนี่ย.. แสดงว่างานนี้เลดี้เวนสันก็เสียเงินจัดฟรีๆ เลยอย่างนั้นสินะคะ”“นั่นนะสิ เป็นภรรยาเก่าที่พยายามจะอวดเบ่งใส่ภรรยาใหม่ แต่แผนการที่วางเอาไว้ซะดิบดีกลับไม่สำเร็จด้วยซ้ำ ดูท่าว่าเลดี้คงจะโมโหมากๆ เลยนะคะ”พรุ่งนี้จะต้องมีข่าวดังอย่างแน่น
ราวกับร่างกายของเธอกำลังร่วงหล่นลงไปสู่ห้วงเหวที่ไร้ก้นบึ้ง ความหอมหวานที่ไม่เคยคาดคิดและจินตนาการมาก่อนในชีวิตมันกำลังเกิดขึ้นมาเธอแค่คิดว่าจุมพิตนี้คงทำให้เบลินดานั่งไม่ติดพื้นและทำให้องค์หญิงริโอนาทานข้าวไม่อร่อยไปสักสามวันแต่เธอลืมคิดไปว่าจุมพิตนี้ก็กำลังทำให้เธอรู้สึกเจียนตายเหมือนกัน หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก ปลายนิ้วเลื่อนไล้ไปตามลำคอในขณะที่ริมฝีปากของเรายังคงแนบชิด ต่างฝ่ายต่างดูดริมฝีปากของอีกฝ่ายทั้งยังเปลี่ยนมุมเพื่อให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น มันคือจูบที่เริ่มต้นช้าๆ และค่อยๆ เร่าร้อนมากยิ่งขึ้นฟลอยด์แน่ใจว่าเขาไม่ชอบการสัมผัสร่างกายของสตรีอย่างแน่นอน ชีวิตของเขานั้นมักจะเกิดเรื่องยุ่งๆ ขึ้นมาเพราะสตรี เช่นนั้นแล้วเขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความใกล้ชิด แต่ทว่าในยามที่โรวีนาร้องขอจุมพิตจากเขานั้น เขากลับไม่มีความลังเลใดๆ อยู่เลย เขารู้ว่าเธอกำลังต้องการทำสิ่งใด และจุมพิตนี้มันเอาไว้ใช้เพื่อตอบโต้เหล่าสตรีที่ตั้งใจจะทำร้ายเธอ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยินยอมส่งมอบจุมพิตให้เธอ ถึงแม้ว่าหัวใจของเขาจะรู้สึกประหม่ามากก็ตามทีการเริ่มจูบของเรามันเป็นไปอย่างเงอะงะ แต่เม
แววตาของเมลลี่สลดลงเล็กน้อยเมื่อเธอคิดถึงตรงนี้ อันที่จริงเธอนั้นมีทั้งท่านพ่อและท่านแม่เพียงแต่พวกท่านไม่ค่อยแสดงความรักต่อเธอเท่านั้นเองท่านพ่อที่ต่อว่าด่าทอว่าเธอคือตัวซวย และท่านแม่ที่ทุบตีเธอด้วยความเจ็บปวดในทุกครั้ง..เมลลี่ยื่นมือไปแตะสัมผัสลงบนใบหน้าของท่านแม่“ท่านแม่คะ..ท่านแม่ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่รึเปล่า”คำถามนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่โรวีนาเป็นอย่างมาก“เจ็บสิลูกรัก แม่เจ็บปวดแทบทุกครั้งที่เห็นหน้าลูกเลย มันคือความรู้สึกผิดที่กำลังกัดกินหัวใจของแม่ หากว่าแม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แม่จะไม่มีวันทำร้ายลูกเช่นนั้นอย่างแน่นอน..แม่ขอโทษนะเมล..แม่ไม่ควรทำสิ่งที่เลวร้ายพวกนั้นกับลูกเลย”เมลลี่ขบเม้มริมฝีปากแน่น เด็กน้อยที่เคยแตกสลายมานับครั้งไม่ถ้วนเพราะถูกบิดาและมารดาทำร้าย ในยามนี้เธอกำลังเกิดใหม่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของมารดา..“ข้าไม่เคยโกรธหรือว่าเกลียดชังท่านแม่เลยนะคะ”นั่นแหละที่มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม พ่อแม่คือโลกทั้งใบของลูก แต่โลกทั้งใบของเมลลี่มันหมองหม่นเพราะพ่อและแม่ที่แม่งโคตรจะเฮงซวยเลย พวกเขาไม่รักกันนั่นไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ไม่รักกันก็ไม่เป็นไ
“แต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะ? ฟลอยด์เนี่ยนะจะแต่งงานใหม่”เบลินดาเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อหูเมื่อสาวใช้ของเธอบอกกล่าวข่าวลือที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ดยุคฮาสคลาวด์กำลังจะแต่งงานใหม่ และสตรีที่เขาจะแต่งงานด้วยคือเคาน์เตสโรวีนา ซารังต์..เรื่องความงดงามเธอไม่เถียงอยู่แล้ว เพราะในเมืองหลวงแห่งนี้เคาน์เตสผู้นั้นงดงามที่สุด แต่เรื่องฐานะทางสังคม นิสัยใจคอ และข่าวลืออีกมากมายนั่นทำให้ในหัวของเบลินดาเต็มไปด้วยคำถามเขาไปสนใจสตรีที่มีดีแค่ความงามผู้นั้นได้อย่างไรกัน ไม่เห็นจะเข้าใจเลย..“อยากให้พี่เสนอฎีกาคัดค้านการแต่งงานนี้รึเปล่า เพราะถึงอย่างไรน้องก็คือมารดาของคาเรน..น้องมีสิทธิ์ในการคัดค้านงานแต่งใหม่ของท่านดยุคอยู่แล้ว”บาทีอัสนั่งลงข้างๆ น้องสาวที่ทำท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมา เขาเข้าใจความรู้สึกของเบลินดาดีว่านางคงจะเจ็บปวด น้องสาวของเขาหลงรักท่านดยุคมากแค่ไหนเรื่องนั้นเราต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ ตั้งแต่ที่มีการหย่าร้างกัน ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานถึงห้าปี แต่เบลินดาไม่เคยลืมท่านดยุคเลยแม้แต่นิดเดียว“ไม่ค่ะ ข้าไม่ต้องยื่นหนังสือคัดค้านเพื่อทำให้ท่านดยุครู้สึกไม่ดีกับข้า แต่ข้า
“เรื่องนั้นไม่ใช่แค่ข่าวลือนะคะ ในตอนนั้นข้าก็อยู่ที่งานแต่งด้วย ท่านเบลินดาสีหน้าไม่ดีเลยถึงแม้ว่าจะอยู่ในงานแต่งของตัวเองก็ตาม”อารีเอนเล่าเรื่องในงานแต่งครั้งที่แล้วของท่านดยุคและเลดี้เบลินดาให้โรวีนาได้ฟัง“เช่นนั้นแล้ว..ใครกันคะที่กล้าลงมือกับดัชเชสแห่งฮาสคลาว อำนาจของท่านดยุคก็มีไม่น้อยเลยนี่คะ”ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อารีเอนถึงพาตัวเองมาที่คฤหาสน์ตระกูลซารังต์..ทั้งๆ ที่เธอตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรีที่ซื่อบื้อเช่นเคาน์เตสโรวีนา แต่ทว่าพอกลับไปถึงบ้านก็นึกขึ้นได้ว่าในงานแต่งงานครั้งที่แล้วของท่านดยุคมีเรื่องแปลกประหลาดเต็มไปหมด“นั่นสินะคะ คนที่ทำก็คือคนที่จะต้องมีอำนาจมากกว่าท่านดยุคถูกต้องไหมคะท่านเคาน์เตส..”คนที่มีอำนาจมากกว่าท่านดยุคอย่างนั้นหรือ? หรือว่าจะเป็นองค์หญิง?“ฉันอยากจะบอกกับเลดี้มาตั้งนานแล้ว..เลดี้สามารถเรียกชื่อของฉันแทนยศได้นะคะ”โรวีนากล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่อารีเอน เธอไม่มีเพื่อนมาก่อนเลย ทั้งเธอและทั้งโรวีนาคนเก่า เราทั้งสองคนคือพวกอินโทเวิส หรือว่ายังไงกันนะ ถึงไม่ค่อยคิดอยากจะเข้าสังคม มันก็เลยทำให้เราไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวในสายตาของโรวีนา เ
แววตาของฟลอยด์กำลังจับจ้องไปที่โรวีนา..เธอกำลังตักอาหารหลายอย่างใส่จานของลูกชายเขา แต่ทว่าโรวีนาก็ไม่ลืมตักอาหารชนิดเดียวกันใส่จานของลูกสาวเธอด้วย บนใบหน้าแสนงดงามนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานที่ระบายออกมา“รู้ใช่ไหมว่าเด็กที่ดีควรทำยังไง รีบๆ ทานอาหารให้เยอะๆ เพื่อที่จะได้โตไวๆ ยังไงล่ะ”เมลลี่ยกยิ้มพร้อมกับมองหน้าท่านแม่ของนางอย่างไม่คลาดสายตา เด็กน้อยผู้นั้นไม่เห็นมีร่องรอยจากการถูกทำร้ายเลย นางดูปกติมากๆ และความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกก็ดีมากด้วย เขาคิดว่าวันนี้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนจนอาหารไม่ย่อยซะอีก แต่กลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้ไม่ได้แย่เท่าที่คิดเอาไว้อีกทั้งคาเรนทานมื้อเย็นได้มากกว่าในยามปกติอีกด้วย“ข้าเองก็อยากจะโตเร็วๆ ..”ฉันพยายามห้ามใจตัวเองแล้วไม่ให้ยกมือนี่ไปลูบผมของคาเรน แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆโรวีนาลูบผมของคาเรนด้วยความรู้สึกเอ็นดู หากทำได้เธออยากอุ้มเจ้าเด็กแก้มพองนี่ขึ้นมาหอมซักฟอด ถ้าเธอทำแบบนั้นท่านดยุคได้มองตาเขียวอย่างแน่นอน เรายังไม่สนิทสนมกันมากขนาดนั้น เธอไม่ควรล้ำเส้นมากเกินไป“ข้าเองก็เหมือนกันค่ะท่านแม่..ข้าจะรีบโตไวๆ เหมือนกัน”ข้าจะปกป้องท่านแม่จากทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่เงียบไม่ใช่เพราะว่าฉันหวาดกลัวแต่มันเป็นเพราะว่าฉันกำลังคิดคำด่าหมอนี่ต่างหาก ในขณะที่ฉันกำลังจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ป้าเพื่อพ่นคำหยาบคาย ที่เจโรมจะไม่มีวันจินตนาการถึง อยู่ๆ ก็มีมือมาจับเข้าที่ไหล่ของฉันเพื่อดึงรั้งให้ฉันเดินถอยไปข้างหลัง ริมฝีปากที่กำลังเผยอออกมาเพื่อที่จะสบถด่าปิดลงในทันทีพร้อมกับความปลื้มปีติที่ท่วมท้นในหัวใจนี่ฉันกำลังคิดไปเองรึเปล่าเรื่องที่ว่าท่านดยุคกำลังปกป้องฉันเอาไว้ คิดไปเองรึเปล่าว่าเขากำลังกันฉันให้ออกห่างจากเจโรม“แหม สนิทสนมกันไวจังนะครับ ทั้งๆ ที่พึ่งจะพบเจอกันครั้งแรกตอนที่อยู่ที่งานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันแท้ๆ แสดงความเป็นเจ้าของไวจังเลยนะครับ”ฟลอยด์หรี่ตามองหน้าของเจโรม เขายกมือขึ้นพร้อมกับกับกางเอกสารใบสำคัญการสมรสของเขาและโรวีนาให้เจโรมดู ในนั้นมีการลงนามของเขาและโรวีนา อีกทั้งยังมีตราประทับขององค์จักรพรรดิอีกต่างหาก“นางมิใช่เคาน์เตสแล้วเจโรมแต่โรวีนาคือดัชเชสต่างหาก ดัชเชสแห่งฮาสคลาว”ความอ่อนหวานเข้ากอบกุมหัวใจของฉันในทันที ราวกับโลกใบนี้กำลังหยุดหมุนเลย เหมือนหยาดฝนที่ชุ่มฉ่ำกำลังตกลงมาในหัวใจที่แห้งแล้ง หัวใจของฉันกำลังเต้นผิดจังหวะอย่างไม
“โรวีนา ซารังต์? บอกหน่อยว่าเราไม่ได้อ่านชื่อของสตรีที่อยู่ในใบทะเบียนสมรสนี่ผิด”ฟลอยด์ส่งยิ้มให้แก่ท่านอาของเขา หรือองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแห่งนี้“ไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะแต่งงานกับโรวีนาจริงๆ”องค์จักรพรรดิคาลิโซมองไปที่จักรพรรดินีของพระองค์ที่กำลังยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใครๆต่างก็ล่วงรู้ถึงชื่อเสียงของสตรีที่ฉาวโฉ่แห่งยุค“ชาล็อต หลานชายของเจ้ากำลังจะแต่งงานใหม่นะ ฟลอยด์กำลังจะแต่งงานกับ..เคาน์เตสซารังต์”จักรพรรดินีชาล็อตวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะ พระนางมองหน้าของหลานชายก่อนจะหยักยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เขาแตกต่างจากเมื่อหกปีก่อนมากทีเดียว ในตอนที่เขามาร้องขอแก่เธอ เพื่อให้เธอพระราชทานสมรสให้แก่เขาและเบลินดาการแต่งงานในครั้งนี้ดูท่าว่าจะไม่ได้เกิดจากความรักอย่างนั้นสินะ..อีกทั้งฟลอยด์เองก็อายุสามสิบแล้ว เขามีสิทธิ์เลือกคู่ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่“โรวีนาถือเป็นสาวงามที่งดงามมากที่สุดจนได้ฉายาว่าเป็นดอกไม้แห่งแดนใต้ เลือกได้ดีนี่ฟลอยด์”มุมปากของฟลอยด์กดลึกเป็นรอยยิ้ม“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ..”เมื่อจักรพรรดินีกล่าวเช่นนั้นแล้วองค์จักรพรรดิยังจะทำเช่นไรได้อีก นอกจ