ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่รู้ตัวอีกทีฉันก็เดินเข้ามาในงานเลี้ยงพร้อมกับท่านดยุคฮาสคลาวซะแล้ว แน่นอนว่าสายตาของเหล่าสตรีที่มองมานั้นราวกับต้องการจะแผดเผาฉันทั้งเป็นให้ได้ ก็แน่ล่ะนี่คือบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีอันดับหนึ่งของจักรวรรดินะ จะไม่ให้พวกนางแค้นได้อย่างไรกัน
“ไม่ยักรู้เลยนะคะว่าเคาน์เตสจะควงท่านดยุคฮาสคลาวเข้ามาในงานเลี้ยง..ไม่อย่างนั้นฉันคงมาพร้อมกับท่านเคาน์เตสแล้วค่ะ” อารีเอนกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มพิมพ์ใจให้ฟลอยด์ “อ่า..เราไม่ได้มาด้วยกันค่ะ พอดีว่าฉันนั่งอยู่ในสวนและได้พูดคุยกับท่านดยุค ..หัวใจของฉันนั้นเต้นแรงราวกับว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก เราไม่เคยพูดคุยทำความรู้จักกันมาก่อนเพราะแบบนั้นแล้วพอได้ลองเปิดใจก็พบว่าท่านดยุคและฉันนั้นมีหลายๆ อย่างที่คล้ายคลึงกัน..ใช่ไหมคะ” ฉันหันไปมองหน้าฟลอยด์พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเพื่อให้เขาตอบรับ “..ครับ ตามที่เคาน์เคสว่ามาเลย” “...เหรอคะ ดีจังเลยนะคะ” อ้าก!! หมั่นไส้ชะมัดเลย เกิดมาสวยแล้วยังคว้าท่านดยุคที่สตรีทุกคนในจักรวรรดิหมายตาไปเป็นคู่ควงอีกงั้นเรอะ ฉันไม่ควรแนะนำให้เคาน์เตสมาที่งานนี้เลยแม้แต่น้อย ไม่ควรบอกนางตั้งแต่แรกเลย!! อารีเอนได้แต่ด่าตัวเองในใจ เธอมองตามท่านดยุคที่ควงแขนเคาน์เตสไปทางนั้นที ทางนี้ที ด้วยสายตาละห้อย แล้วทำไมทั้งสองคน..เหมาะสมกันขนาดนั้นนะ มันควรจะไม่เหมาะสมสิ ควรจะค้านสายตา ไม่ควรรู้สึกแบบนี้เลยสิพับผ่าเถอะ “งดงามมากเลยนะคะ ข้าเคยเห็นเคาน์เตสจากไกลๆ ครั้งหนึ่ง เมื่อได้ลองมายลโฉมใกล้ๆแล้ว หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลยขนาดว่าข้าคือสตรี ไม่น่าแปลกใจหรอกค่ะที่ท่าน ดยุคจะตกหลุมรักเคาน์เตสตั้งแต่แรกเห็น” เธอกำลังทะเลาะกับตัวเองอยู่และยัยนี่เป็นใครถึงมาเห็นดีเห็นงามกับทั้งสองคนกันฟะ “แต่เคาน์เตสเคยต่างงานมาแล้วนะคะ” “ท่านดยุคก็เคยแต่งงานมาแล้วค่ะ..ในบางทีบุตรของทั้งสองท่านอาจจะดีใจที่พวกเขากำลังจะมีพี่น้อง” ...เออ ท่านดยุคเองก็เคยแต่งงานมาแล้วนี่หว่า “เคาน์เตสกำลังอยู่ในช่วงหมดตัวนะคะ เรื่องใบหน้าและฐานะทางสังคมอาจจะเหมาะสมกันแต่เรื่องเงินทอง..หากมีการแต่งงานกันจริงๆ เคาน์เตสอาจจะไม่มีสินสอดติดตัวไปเลยก็ได้ค่ะ” ควรจะหาคนที่อยู่ในฐานะเดียวกันสิ กล้าดียังไงถึงได้เอื้อมมือที่สกปรกของหล่อนไปคว้าท่านดยุคลงมาคลุกโคลนตมกัน อารีเอนมองหน้าของบารอนเนสเบียงก้าที่ช่วยเถียงแทนเคาน์เตสซารังต์ “เรื่องนั้น..ข้ามองว่าท่านเคาน์เตสสู้มามากแล้วนะคะ เดิมทีนางคือบุตรีของท่านดยุคจากแดนใต้แต่ต้องแต่งงานกับเคาน์ที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร อีกทั้งก่อนที่เคาน์ซารังต์จะตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเขาก็สร้างปัญหาเอาไว้เยอะแยะมากมายทีเดียวทั้งเรื่องการพนันและสตรี..ไม่ผิดหรอกนะคะที่แม่หม้ายจะสู้เพื่อตัวเองและลูก ท่านเคาน์เตสก็แค่ไปหาความรักที่ดีกว่าเท่านั้นเอง..นางกำลังต่อสู้เพื่อลูกสาวของนางนะคะ แทนที่จะมองด้วยสายตาริษยา เลดี้ลองมองนางใหม่เถอะนะคะว่านางจะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งแค่ไหน..ครอบครัวสามีก็ทอดทิ้ง ครอบครัวตัวเองก็กลับไปหาไม่ได้..” อารีเอนชะงักในทันทีที่เบียงก้ากล่าวจบ เธอยังไม่ได้แต่งงานจึงไม่เข้าใจบทบาทของภรรยาขุนนางมากนัก แต่เมื่อได้ลองมองตามมุมที่บารอนเนสเบียงก้าเล่ามานั้น..ชีวิตของหญิงงามอย่างเคาน์เตสเองก็น่าสงสารมากเลยนี่ ท่านเคาน์เตสมาหาเธอเพื่อถามว่าทำอย่างไรจะสามารถหาสามีใหม่ได้..นั่นคือการยินยอมละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อลูกสาวแล้ว ยัยนั่น..ไม่ได้มีดีแค่ใบหน้านั้นสินะ ยิ่งมองก็ยิ่งไม่ชอบ..ชิ! ....................... “ข้าเหนื่อยแล้วค่ะ..ข้าอยากจะไปพัก..” โรวีนากระซิบบอกท่านดยุคอย่างแผ่วเบาแต่ทว่าในขณะที่เธอกำลังบอกกล่าวนั้นเคาน์เจโรมกลับเดินเข้ามาทักทายท่านดยุค “ดูสิครับ เมื่อครู่ตอนที่ท่านดยุคเดินเข้ามาในงานท่านยังอยู่คนเดียวอยู่เลย แต่ทว่าในยามนี้ท่านกลับพบเจอสาวงามที่จะใช้ค่ำคืนนี้ด้วยกันแล้วอย่างนั้นหรือครับ..ยินดีที่ได้รู้จักนะครับเลดี้ข้ามีชื่อว่า..เจ..โรม” เขายื่นมือมาให้โรวีนาแต่ทว่ามือของเจโรมกลับแข็งค้างอยู่กลางอากาศพร้อมกับใบหน้าที่ตื่นตะลึงของเขา เขาไม่เคยเห็นเลดี้ผู้นี้มาก่อนเลยไม่ว่าจะงานเลี้ยงไหนๆ ที่เมืองหลวง นางงดงามชนิดที่ว่าเพียงพบเจอใบหน้านั้นเขาแทบลืมการหายใจไปชั่วขณะ เจโรมเบนสายตามองหน้าของฟลอยด์ด้วยแววตาไม่พอใจเท่าไหร่นัก สายตาของเขานั้นมันทั้งแข็งกร้าวและไม่ยอมแพ้ “นางมิใช่เลดี้หรอกเจโรม นี่คือเคาน์เตสซารังต์..” บางอย่างในแววตาของเจโรมยิ่งแตกต่างไปจากเดิมเมื่อเขาล่วงรู้ว่าสตรีผู้นี้เป็นใคร นี่คือเคาน์เตสซารังต์ หญิงหม้ายที่ได้ชื่อว่าเป็นสตรีชั่วช้าแห่งยุค คบชู้ ผลาญเงินสามีและทุบตีลูกสาว.. นี่ฟลอยด์กำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้ไปยุ่งเกี่ยวกับสตรีที่มีข่าวลือไม่ดีเช่นนั้นกัน จริงอยู่ที่ว่านางงดงามแต่แค่ความงามเพียงอย่างเดียวมันคุ้มค่าให้เสี่ยงหรือ? “ข้ามีนามว่าโรวีนาค่ะ..ท่านเคาน์จัดงานได้อย่างยอดเยี่ยมเลยนะคะ” สายตาของเจโรมมันสะท้อนทุกความรู้สึกดูถูกเธอออกมาโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำพูด เขากำลังดูแคลนเธอทางสายตาพร้อมกับมองหน้าของฟลอยด์ด้วยท่าทีหัวเราะเยาะที่ท่านดยุคเลือกเธอเป็นคู่ควง แต่..สายตาพวกนั้นกลับเปลี่ยนไปอีกครั้งเมื่อเขาได้ยินเสียงของโรวีนา น้ำเสียงที่คุ้นหูและรอยยิ้มที่คุ้นเคยเช่นนี้ “เราเคย..พบเจอกันมาก่อนไหมครับเลดี้..อ่าไม่สิ เคาน์เตส” อันที่จริงเจโรมคือบุรุษรูปงามมากทีเดียว หากเธอบอกว่าเขาไม่หล่อสายตาของเธอดูน่าจะมีปัญหาแต่ทว่า..เขาเลวไปหน่อยแถมยังไม่ทันคนอีกต่างหาก “อ่า ข้าไม่เคยออกนอกคฤหาสน์ซารังต์เลยนะคะ ดูท่าว่าท่านเคาน์คงจะจำคนผิดซะแล้ว หรือว่านี่คือมุกจีบสตรีของท่านเคาน์กันคะ..ข้าจะได้ตอบสนองถูกว่าควรจะปฏิเสธหรือว่าตอบรับ..คำกล่าวนั้น” สายตาของฟลอยด์เฉียบคมขึ้นมาเมื่อเขามองเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ ท่าทีของเจโรมดูผิดแปลกไปจากเดิมมากทีเดียว แววตาที่เขามองโรวีนาไม่เหยียดหยามอีกต่อไปแต่มันคือแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง ในขณะที่โรวีนามองเจโรมด้วยสายตาที่เชือดเฉือนไม่ยอมใคร มุมปากของฟลอยด์กระตุกยิ้มขึ้นมาด้วยความสนุก นานแล้วนะที่เขาไม่ได้เห็นเจโรมโกรธ..ท่าทางว่าคืนนี้จะมีเรื่องสนุกแล้วละสิ“อย่างนั้นเองสินะ ขออภัยด้วยนะครับเคาน์เตส ข้าคงจะจำคนผิด..สตรีชั่วช้าที่อาจหาญกล้าหลอกเงินข้าจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน เป็นข้าเองที่เลอะเลือนไปชั่วขณะ..”น้ำเสียงของเขานั้นหนักแน่นพร้อมกับเน้นย้ำที่ประโยคสำคัญ แต่แน่นอนว่ารอยยิ้มแสนงดงามที่ดูเหมือนกับดอกไม้กำลังผลิบานของฉันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย การค่อนแคะเล็กๆ น้อยๆ นี่ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก“ไม่เป็นค่ะท่านเคาน์ ข้าเข้าใจว่าคนเรานั้นสามารถทำเรื่องผิดพลาดกันได้ แต่ไม่ยักรู้เลยนะคะว่าท่านเคาน์ถูกสตรีหลอกลวง..ให้ตายสิท่านเองก็เป็นบุรุษที่หลงใหลในความงดงามเหมือนกันอย่างนั้นสินะคะ”น้ำเสียงของโรวีนานั้นอ่อนละมุนราวกับว่ากำลังมีมือมาแตะลงบนบ่าของเจโรม และนั่นไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยพับผ่าสิ เขาอยากจะฉุดรั้งข้อมือเล็กๆ ของสตรีผู้นี้แล้วพานางไปคุยในที่ที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้เพื่อหาข้อสรุปว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างที่เขาสงสัยรึเปล่า เธอคือสตรีในคืนนั้นหรือไม่ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ปากเล็กๆ นั่นอ้าออกมาบอกเล่าความจริง..“ข้าเหนื่อยแล้วล่ะ เห็นทีว่าข้าคงจะต้องขอตัวกลับก่อนนะเจโรม..ถึงแม้จะยังอยากเล่นสนุกอยู่ที่นี่ต่ออีกหน่อย แต่ทว่าข้าอยา
“จะแต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะท่าน เคาน์เตส..”ยูนีกเอ่ยถามเมื่อโรวีนาเริ่มลงมือหาเอกสารของอิไล มันถึงเวลาที่จะต้องไปแจ้งแก่ทางการได้แล้วว่าเขาได้ตายจากชีวิตของโรวีนาและตายจากโลกนี้ไปแล้ว หากไม่ตายเขาควรจะกลับมาหาภรรยาและลูกสาวของเขาสิ..แต่นี่สามปีแล้วเขายังไม่กลับมานั่นหมายความว่าเขาตายไปแล้ว หรือไม่ก็..เขาไม่ต้องการโรวีนาและลูกสาวอีกต่อไป“อืม..ข้าปล่อยให้ทางการมาเรียกคืนบรรดาศักดิ์ของเมลลี่ไม่ได้หรอก..เมลลี่ของข้าจะต้องเติบโตขึ้นมาในฐานะเลดี้ของตระกูลซารังต์ที่แสนร่ำรวย..”ฉันตอบคำถามของยูนีกด้วยรอยยิ้ม และนั่นทำให้ยูนีกได้แต่ถอนหายใจออกมา..“ขอแค่ชายผู้นั้นไม่ทำร้ายและเป็นคนดีก็พอค่ะ..”เธอรู้รสนิยมความชอบของท่านเคาน์เตสดี เรื่องหน้าตานั้นตัดทิ้งไปได้เลย ท่านเคาน์เตสไม่ชอบบุรุษรูปหล่ออีกทั้งไม่มีทางที่สามีคนใหม่ของท่านจะเป็นขุนนาง..คราวนี้เป็นใครกันนะ คนสวนหรือว่าชาวไร่กัน“รถม้าของตระกูลฮาสคลาวเดินทางมาถึงแล้วค่ะท่านเคาน์เตส”โรวีนาพยักหน้าเมื่อสาวใช้คนใหม่เดินเข้ามาแจ้งข่าว“มีธุระอะไรที่คฤหาสน์ฮาสคลาวอย่างนั้นหรือคะท่านเคาน์เตส..?”เธอมองยูนีกด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุข“ข้าจ
สมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มขึ้นอย่างนั้นหรือ? คาเรนมองหน้าของท่านพ่อด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง มุมปากของเด็กน้อยโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม..เขาเองก็สามารถมีครอบครัวได้เหมือนกัน“เอาล่ะคาเรน ถึงเวลาที่ลูกจะต้องไปอยู่กับไมเนอร์เป็นการชั่วคราวแล้ว เพราะว่าพ่อและท่านแม่คนใหม่ของลูกนั้นมีเรื่องมากมายที่จะต้องพูดคุยกัน..”นี่คงเป็นครั้งแรกที่คาเรนไม่อยากปล่อยมือออกจากมือของท่านพ่อเลย เขาอยากจะอยู่กับท่านพ่อและท่านแม่คนใหม่ให้มากกว่านี้“ไม่เป็นไร หลังจากที่พ่อและแม่คุยกันจบแล้ว..พ่อย่อมยินยอมให้เจ้าและท่านแม่ทำความรู้จักกัน..”เมื่อได้ยินถ้อยคำที่ยืนยันหนักแน่นเช่นนั้นแล้วคาเรนก็ยิ้มออก เขาปล่อยมือออกจากมือของท่านพ่อและยินยอมเดินตามไมเนอร์ไปถึงแม้ว่าสายตาของเขาจะยังคงจับจ้องที่ใบหน้าของท่านแม่คนใหม่อยู่ก็ตามที“ลูกชายของท่าน..เขา..น่ารักมากๆ เลยค่ะ ให้ตายสิเขาดูเหมือนกับท่านในช่วงเวลาที่ท่านกำลังย่อส่วนอยู่เลย..”รอยยิ้มของโรวีนาแข็งค้างอยู่บนใบหน้าของเธอเมื่อเธอตระหนักได้ว่าตัวเองพูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดออกไป เธอไม่ควรชมเชยรูปลักษณ์ของท่านดยุคและคาเรน เรื่องเช่นนี้มันละเอียดอ่อนมากไปหน่
“ชื่อคาเรนสินะคะ ลูกสามารถเรียกแม่ว่าแม่ได้เลยน้า..อันที่จริงแม่เองก็มีลูกสาวที่น่ารักคนหนึ่งเหมือนกัน การเป็นลูกคนเดียวมันเหงามากใช่ไหมล่ะ จากนี้ไปคาเรนจะมีพี่สาว ส่วนเมลลี่ก็จะมีน้องชายที่แสนน่ารัก..”คาเรนยกยิ้มขึ้นมา เขาพยักหน้าตามคำบอกเล่าของท่านแม่ มือของเขานั้นจับมือของท่านแม่โรวีนาเอาไว้ไม่ยอมปล่อยจริงอยู่ที่ท่านพ่อรักเขามากแต่ความรักนั้นมันมักจะมาในรูปแบบของสิ่งของมากกว่าเวลา งานของท่านพ่อยุ่งมากพอสมควร ทำให้เขาและท่านพ่อไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันสักเท่าไหร่“ข้า..ชอบท่านแม่ครับ และข้าอยากมีพี่สาว พี่เมลลี่จะต้องสวยเหมือนท่านแม่แน่ๆ เลย”โรวีนาพยักหน้าเร็วๆ“ลูกเองก็งดงามและเจิดจรัสเหมือนท่านพ่อมากเลยนะคาเรน จากนี้ไปก็ขอฝากตัวด้วยนะ”อยากอุ้มกลับไปที่ซารังต์ด้วยชะมัด อยากพาคาเรนไปหาเมลลี่ อยากพาเด็กทั้งสองคนไปทำความรู้จักกันตามเนื้อเรื่องเดิมคาเรนคือพระเอก ส่วนเมลลี่คือตัวร้าย..แต่เมลลี่ไม่ใช่ตัวร้ายที่มาชอบพระเอก แค่นางมีปมในใจและต้องการทำลายนางเอกที่ได้รับความรักจากทุกคนเท่านั้นเอง..อันที่จริงคนแรกที่เมลลี่สังหารคือโรวีนา มารดาของนาง..แต่เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ท่
ฉันนั่งอยู่ด้านหลังของเมลลี่ มือทั้งสองข้างกำลังขยับไปมาเพื่อถักเปียผมทั้งสองข้างให้แก่ลูกสาว ไม่อยากยอมรับเท่าไหร่นักแต่ในตอนนี้ฉันกลายเป็นคุณแม่ไปเรียบร้อยแล้ว แถมยังมีลูกสาวที่น่ารักราวกับตุ๊กตาอีกด้วย เรือนผมสีแดงของเมลลี่มันโดดเด่นมากทีเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นหน้าของอิไล พ่อของเมลลี่มาก่อนแต่ในนิยายบรรยายเอาไว้ว่าเขาหล่อมาก ดูท่าว่าเขาคงจะหล่อเหลามากจริงๆ นั่นแหละลูกสาวของเราทั้งสองคนถึงได้น่ารักและฉายแววความสวยงามมากขนาดนี้“สีผมของลูกนั้นมันงดงามมากๆ เลยนะเมลลี่”เมื่อได้ยินเช่นนั้นเด็กน้อยก็ฉีกยิ้มกว้างจนอวดฟันขาว“ลูกอยากจะมีเส้นผมสีเหมือนท่านแม่มากกว่า..”มือของโรวีนากำลังกอบกุมใบหน้าของลูกสาวเอาไว้“ลูกงดงามมากเมลลี่ สตรีทุกคนล้วนแล้วแต่มีความงดงามในแบบฉบับของตัวเอง ลูกไม่จำเป็นต้องอยากเหมือนแม่มากขนาดนั้นก็ได้ ลูกสวยและน่ารักในแบบของตัวเองอยู่แล้ว ขาดแค่ความมั่นใจเท่านั้นเอง เป็นเลดี้จะต้องยืดหลังตรงและอยู่ในท่วงท่าที่สง่างาม..”ฉันเองก็ไม่ได้รู้เรื่องการเป็นชั้นสูงมากนัก เพราะแบบนั้นเพื่อที่จะสอนเมลลี่ให้รู้จักกับมารยาททางสังคม ช่วงเวลาในยามกลางคืน ฉันถึงต้องอ่านหนังสื
“โรวีนา ซารังต์? บอกหน่อยว่าเราไม่ได้อ่านชื่อของสตรีที่อยู่ในใบทะเบียนสมรสนี่ผิด”ฟลอยด์ส่งยิ้มให้แก่ท่านอาของเขา หรือองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแห่งนี้“ไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะแต่งงานกับโรวีนาจริงๆ”องค์จักรพรรดิคาลิโซมองไปที่จักรพรรดินีของพระองค์ที่กำลังยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใครๆต่างก็ล่วงรู้ถึงชื่อเสียงของสตรีที่ฉาวโฉ่แห่งยุค“ชาล็อต หลานชายของเจ้ากำลังจะแต่งงานใหม่นะ ฟลอยด์กำลังจะแต่งงานกับ..เคาน์เตสซารังต์”จักรพรรดินีชาล็อตวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะ พระนางมองหน้าของหลานชายก่อนจะหยักยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เขาแตกต่างจากเมื่อหกปีก่อนมากทีเดียว ในตอนที่เขามาร้องขอแก่เธอ เพื่อให้เธอพระราชทานสมรสให้แก่เขาและเบลินดาการแต่งงานในครั้งนี้ดูท่าว่าจะไม่ได้เกิดจากความรักอย่างนั้นสินะ..อีกทั้งฟลอยด์เองก็อายุสามสิบแล้ว เขามีสิทธิ์เลือกคู่ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่“โรวีนาถือเป็นสาวงามที่งดงามมากที่สุดจนได้ฉายาว่าเป็นดอกไม้แห่งแดนใต้ เลือกได้ดีนี่ฟลอยด์”มุมปากของฟลอยด์กดลึกเป็นรอยยิ้ม“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ..”เมื่อจักรพรรดินีกล่าวเช่นนั้นแล้วองค์จักรพรรดิยังจะทำเช่นไรได้อีก นอกจ
ที่เงียบไม่ใช่เพราะว่าฉันหวาดกลัวแต่มันเป็นเพราะว่าฉันกำลังคิดคำด่าหมอนี่ต่างหาก ในขณะที่ฉันกำลังจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ป้าเพื่อพ่นคำหยาบคาย ที่เจโรมจะไม่มีวันจินตนาการถึง อยู่ๆ ก็มีมือมาจับเข้าที่ไหล่ของฉันเพื่อดึงรั้งให้ฉันเดินถอยไปข้างหลัง ริมฝีปากที่กำลังเผยอออกมาเพื่อที่จะสบถด่าปิดลงในทันทีพร้อมกับความปลื้มปีติที่ท่วมท้นในหัวใจนี่ฉันกำลังคิดไปเองรึเปล่าเรื่องที่ว่าท่านดยุคกำลังปกป้องฉันเอาไว้ คิดไปเองรึเปล่าว่าเขากำลังกันฉันให้ออกห่างจากเจโรม“แหม สนิทสนมกันไวจังนะครับ ทั้งๆ ที่พึ่งจะพบเจอกันครั้งแรกตอนที่อยู่ที่งานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันแท้ๆ แสดงความเป็นเจ้าของไวจังเลยนะครับ”ฟลอยด์หรี่ตามองหน้าของเจโรม เขายกมือขึ้นพร้อมกับกับกางเอกสารใบสำคัญการสมรสของเขาและโรวีนาให้เจโรมดู ในนั้นมีการลงนามของเขาและโรวีนา อีกทั้งยังมีตราประทับขององค์จักรพรรดิอีกต่างหาก“นางมิใช่เคาน์เตสแล้วเจโรมแต่โรวีนาคือดัชเชสต่างหาก ดัชเชสแห่งฮาสคลาว”ความอ่อนหวานเข้ากอบกุมหัวใจของฉันในทันที ราวกับโลกใบนี้กำลังหยุดหมุนเลย เหมือนหยาดฝนที่ชุ่มฉ่ำกำลังตกลงมาในหัวใจที่แห้งแล้ง หัวใจของฉันกำลังเต้นผิดจังหวะอย่างไม
แววตาของฟลอยด์กำลังจับจ้องไปที่โรวีนา..เธอกำลังตักอาหารหลายอย่างใส่จานของลูกชายเขา แต่ทว่าโรวีนาก็ไม่ลืมตักอาหารชนิดเดียวกันใส่จานของลูกสาวเธอด้วย บนใบหน้าแสนงดงามนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานที่ระบายออกมา“รู้ใช่ไหมว่าเด็กที่ดีควรทำยังไง รีบๆ ทานอาหารให้เยอะๆ เพื่อที่จะได้โตไวๆ ยังไงล่ะ”เมลลี่ยกยิ้มพร้อมกับมองหน้าท่านแม่ของนางอย่างไม่คลาดสายตา เด็กน้อยผู้นั้นไม่เห็นมีร่องรอยจากการถูกทำร้ายเลย นางดูปกติมากๆ และความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกก็ดีมากด้วย เขาคิดว่าวันนี้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนจนอาหารไม่ย่อยซะอีก แต่กลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้ไม่ได้แย่เท่าที่คิดเอาไว้อีกทั้งคาเรนทานมื้อเย็นได้มากกว่าในยามปกติอีกด้วย“ข้าเองก็อยากจะโตเร็วๆ ..”ฉันพยายามห้ามใจตัวเองแล้วไม่ให้ยกมือนี่ไปลูบผมของคาเรน แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆโรวีนาลูบผมของคาเรนด้วยความรู้สึกเอ็นดู หากทำได้เธออยากอุ้มเจ้าเด็กแก้มพองนี่ขึ้นมาหอมซักฟอด ถ้าเธอทำแบบนั้นท่านดยุคได้มองตาเขียวอย่างแน่นอน เรายังไม่สนิทสนมกันมากขนาดนั้น เธอไม่ควรล้ำเส้นมากเกินไป“ข้าเองก็เหมือนกันค่ะท่านแม่..ข้าจะรีบโตไวๆ เหมือนกัน”ข้าจะปกป้องท่านแม่จากทุกสิ่งทุกอย่าง
“หนังสือมาส่งแล้วครับ..”เจ้าของร้านหนังสือรีบออกมารับหนังสือที่ถูกส่งมาในทันที นี่คือหนังสือเดินทางที่ขายดีมากๆ ในช่วงนี้ ไม่ว่าเขาจะสั่งมาขายมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเพียงพอต่อความต้องการของผู้คนได้เลยเจ้าของหนังสือคือบุรุษผู้หนึ่งที่เขียนแทนตัวเองว่าเมล เขาเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกดินแดน แล้วเขียนเรื่องเล่ามากมายพร้อมแนบรูปวาดมาในหนังสือด้วย การเขียนที่สนุกเหมือนกับได้ฟังนักเล่าเรื่องเล่า และรูปวาดที่สวยงามเหมือนกับได้มองสถานที่ที่ถุกกล่าวถึงด้วยสายตาของตัวเอง มันยิ่งยกระดับให้หนังสือเล่มนี้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น“รีบๆ ยกเข้ามาได้เลย..แล้วสั่งเพิ่มมาอีกสองร้อยเล่มนะ ชาวเมืองชอบหนังสือการเดินทางนี้มากเลย..”เด็กส่งหนังสือก้มหน้าขอบคุณ“ได้เลยครับนายท่าน..”เพียงแค่วางหนังสือพวกนั้นที่หน้าร้าน ผู้คนมากมายก็เดินทางเข้ามาจับจองหนังสือกันอย่างคับคั่งเมลลี่กำลังยืนมองหนังสือของตัวเองที่ถูกขายออกอย่างรวดเร็ว เธอยกยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะสวมหมวกเพื่อปิดบังใบหน้าเธอออกเดินทางครั้งแรกตั้งแต่ตอนอายุสิบห้า มันคือการออกเดินทางไปที่แกรนด์ดัชชีแมทสันกับท่านตา และหลังจากนั้นเธอก็พบกับท่านลุงอาเดน พี่ชาย
“นี่มันอะไรกันอาริ?”โรวีนาเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจเมื่ออารีเอนส่งบัตรเชิญมาให้เธอ มันเป็นบัตรเชิญการแต่งงานระหว่างอาริเอนและลอร์ดเวนสัน เธอไม่คิดว่ามันจะกะทันหันมากขนาดนี้ นี่ทั้งสองคนไปตกหลุมรักกันตอนนี้ก่อน“กับบางคน ที่ใช่มันจะใช่เลยโรวี่ ท่านบาทีอัสนั้นไม่เรื่องมาก ท่านเป็นคนดี ไม่นอกใจและยกเรื่องเงินทั้งหมดในเวนสันให้ฉันเป็นผู้จัดการ ท่านบอกเกี่ยวกับการใช้ชีวิตสามีภรรยาของเราเอาไว้อย่างชัดเจน ท่านไม่ใช่คนขี้หึงและไม่มีเหตุผล แต่ท่านก็ห้ามไม่ให้ฉันไม่ร่วมงานเลี้ยงโดยที่ไม่มีท่านไปด้วย ท่านยินดีจะไปงานเลี้ยงทุกงานที่ฉันอยากไป และหากว่าเรามีลูกจะใช้ชื่อตระกูลเวนสันก่อน ส่วนลูกคนที่สองจะใช้ชื่อตระกูลแรนเซล โรวี่..เจ้าคิดว่ามีกี่คนกันที่คุยเรื่องการแต่งงานชัดเจนมากขนาดนั้น ฉันคิดว่าฉันหาพ่อของลูกเจอแล้วเพราะแบบนั้นก็เลยตกลงแต่งงานกับเขาในทันที”โรวีนายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ ส่วน เบียงก้าเธอกำลังหัวเราะอยู่“เรื่องนั้นก็สมกับที่เป็นอารินะคะ ขอให้อาริมีความสุขมากๆ กับการแต่งงานในครั้งนี้”เบียงก้าหย่ากับบารอนลัคเน่แล้ว ตอนนี้นางคือมาดามเจ้าของร้านตัดเสื้อเท่านั้น ไม่ใช่ชนชั้นสูงหรือว่าบ
ฟลอยด์กุมมือของโรวีนาเอาไว้ เขามองท่านพ่อตาที่กำลังอุ้มลูกสาวของเราอยู่ ก่อนจะส่งยิ้มให้ท่าน..“มีใครจะขัดขวางงานแต่งในครั้งนี้ของข้าอีกรึเปล่า หากมีก็ก้าวเท้าออกมาได้เลย!!”เขาตะโกนออกมาเสียงดังลั่นเพื่อให้ทุกคนได้ยินหลังจากที่ทหารของพระราชคุมตัวของอิไลออกไปแล้วเจโรมมองฟลอยด์และโรวีนาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเลย แผนการของเขาล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะถูกฟลอยด์อ่านแผนการออกจนหมด นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ที่ฟลอยด์จะงัดหลักฐานการหย่าและหลักฐานการจดทะเบียนสมรสของเขาออกมา เขาเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดีขัดขวางไม่ได้จริงๆ สินะ งานแต่งในครั้งนี้ เขาไม่สามารถดึงรั้งสตรีผู้นั้นมาอยู่ข้างกายได้เลยจริงๆ ..เขาแพ้แบบไม่เป็นท่าเลย พ่ายแพ้แบบที่ไม่ได้เฉียดเข้าใกล้โรวีนาแม้แต่นิดเดียว คู่แข่งของเขานั้นน่ากลัวมากจริงๆ“ท่านเคาน์เวลลิงตันครับ นี่เป็นเช็คเงินสดที่ท่านดยุคฝากมาให้พร้อมกับจดหมายครับ”ไมเนอร์เดินเข้าไปส่งมอบของที่ท่าน ดยุคสั่งให้เขาจัดเตรียมเอาไว้ ให้แก่ท่านเคาน์เวลลิงตันเจโรมเปิดจดหมายออกก็พบว่าในจดหม
คาดินันกระแอมออกมาเบาๆ เพราะว่าในยามนี้ท่านดยุคและท่านดัชเชสกำลังแสดงความรักที่มากมายต่อกัน ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาทำหน้าที่ต่อไปได้อย่างลำบากโรวีนาละริมฝีปากออกจากกลีบปากของฟลอยด์ด้วยความนึกเสียดาย เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนที่เราจะกอบกุมมือกันแน่น“พิธีสาบานของคู่บ่าวสาวทั้งสองเสร็จสิ้นแล้วครับ มีใครจะคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้รึเปล่า? ..”นั่นคือสิ่งที่ฟลอยด์กังวล เขาปรายสายตามองไปที่ยังที่นั่งของแขกที่มาร่วมงาน ราวกับกำลังรอคอยบางอย่างอยู่“ข้าขอคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้ครับ!!..”เจโรมแสยะยิ้มออกมาเมื่ออิไลแสดงตัวในการคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ตามแผนการที่เขาวางเอาไว้ แน่นอนว่าฟลอยด์ไม่ได้คิดยินยอมให้อิไลเข้ามาในงานนี้โดยง่าย รอบๆ วิหารศักดิ์สิทธิ์นั้นเต็มไปด้วยทหารของฮาวคลาวที่กำลังเฝ้าประตูเพื่อตรวจสอบแขกที่เข้ามา หากว่าเขาไม่ให้อิไลปลอมตัวมาก็คงไม่มีทางเข้าในนี้ได้อย่างแน่นอนและเมื่ออิไลซึ่งเป็นสามีเก่าของโรวีนาแสดงตัวออกมา เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นในทันทีท่านดยุคแมทสันจับดาบที่เอว เขาตั้งใจว่าจะพุ่งเข้าไปจัดการ อิไลให้สาสมกับที่ไอ้คนสารเลวนั่นทำให้ลูกสาวของเขาเจ็บปวด แต่ทว่าไมเนอร์จับมื
ฉันกำลังนั่งอยู่ที่ด้านหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ในห้องแต่งตัวภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งหรูหราและคุ้นตาเอาซะเลย สาวใช้จากพระราชวังสามารถทำงานของพวกนางได้อย่างคล่องแคล่วจนน่าตกใจ ในเวลาไม่นานการแต่งกายที่แสนยากลำบากก็เสร็จสิ้นลง มีชุดที่ต้องสวมทับหลายชั้นมากๆ ชุดแต่งงานของดัชเชสนั้นยุ่งยากมาทีเดียว จะต้องสวมกระโปรงที่มีโครงด้านในเพื่อให้กระโปรงบานออกและเป็นรูปทรงที่สวยงาม อีกทั้งยังต้องสวมใส่คลอเซ็ตเพื่อรัดเอวที่เล็กอยู่แล้วในคอดกิ่วยิ่งกว่าเดิม และยังมีการดันทรงชุดชั้นในเพื่อให้เนินอกโผล่พ้นออกมานอกชุดเล็กน้อย แต่การพยายามอย่างหนักของสาวใช้ก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคุ้มค่า ภาพที่สะท้อนในกระจกดูเหมือนกับเทพธิดาที่งดงามราวกับไม่มีอยู่จริง จากเดิมที่โรวีนานั้นงดงามมากๆ อยู่แล้ว แต่ในยามนี้ดูท่าว่าผู้ที่พบเห็นใบหน้านี้ของเธอจะต้องจดจำความงดงามนี้ไปตลอดแน่ๆ“เสร็จเร็วกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะโรวี่..”ท่านพ่อของเธออยู่ในชุดดยุคเต็มยศ ท่านแย้มยิ้มออกมาด้วยความอารมณ์ดี..“ลูกงดงามมากจริงๆ ให้ตายเถอะ..ลูกเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อยๆ เลย”นางฟ้าตัวน้อยงั้นเหรอ? ทั้งๆ ที่เธอโตมากพอที่จะมีลูกและมีสามีแล้วแต่
“ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องเป็นกังวลนะครับคุณหนู แค่ท่านยิ้มออกมา แล้วโปรยดอกไม้ไปตามทางเดินเท่านั้นเอง..ท่านดัชเชสจะต้องดีใจมากๆ ที่คุณหนูเป็นผู้โปรยดอกไม้ตามทางเดินของท่าน”โลแวนกำลังให้กำลังใจคาเรนที่แสดงท่าทีประหม่า เขารู้มาว่าคุณหนูตัวน้อยไม่เคยออกงานหรือว่าอยู่ในที่ที่คนเยอะๆ มาก่อน เพราะแบบนั้นจึงหลีกเลี่ยงอาการตื่นเต้นและประหม่าของเด็กชายอายุห้าขวบไม่ได้“...ท่านแม่..จะดีใจมากๆ เลยใช่ไหมโลแวน หากท่านแม่เห็นข้ากำลังโปรยดอกไม้”โลแวนพยักหน้า“เพราะว่าคุณหนู..คือแก้วตาดวงใจของท่านดัชเชสไงครับ วันนี้คือวันที่ท่านดยุคและท่านดัชเชสแต่งงานกัน วันที่ทั้งสองท่านจะประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าทั้งสองท่านเป็นครอบครัวเดียวกันโดยสมบูรณ์..”คราแรกที่ท่านดัชเชสบอกกับเขาว่างานของเขามันคือการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก บอกตามตรงว่าโลแวนกังวลมากๆ เพราะเขากับเด็กไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เขาเติบโตมาในเส้นทางที่เปียกปอนไปด้วยเลือด ต้องต่อสู้เท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอด ต้องดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองได้หายใจต่อไป..แล้วเขาจะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้ยังไงกันแต่เมื่อเขาได้พบเจอคุณหนูทั้งสอง มันเหมือนกับว่าโลแวนได้พบเจอนางฟ้าและเทพบุต
“ดูเหมือนว่าท่านดัชเชสจะเข้าใจเบลินดาเป็นอย่างดีเลยนะครับ..อันที่จริงผมเองก็คิดมาสักพักแล้วเรื่องการมีภรรยาและการสร้างครอบครัว พรุ่งนี้ผมมีนัดกับเลดี้แรน เชล ..ตามมารยาทแล้วผมควรจะมีของติดไม้ติดมือไปในครั้งแรกที่เรานัดกันใช่ไหมครับ ท่านดัชเชสพอจะรู้ไหมว่าเลดี้แรนเชลชอบหรือว่าไม่ชอบอะไร”มีนัดกับอารีเอนงั้นเหรอ? เธอไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลยว่าอารีเอนสนใจท่านลอร์ด..แต่ความดีของเขาอาจจะทำให้ชีวิตที่แสนวุ่นวายของอารีเอนสงบลงก็ได้นะ ก็นับว่านี่คือคู่ที่เหมาะสมกันมากทีเดียว“ช่อดอกไม้สักช่อก็พอแล้วค่ะ อาริไม่ต้องการของขวัญหรือว่าของมีค่าอะไรหรอก..แค่ท่านไปตามนัดกับนาง นางก็น่าจะดีใจแล้ว”ความไม่มั่นใจของบาทีอัสนั้นจางหายไปนิดหน่อย ตัวเขานั้นไม่เคยคิดถึงเรื่องความรัก จนท่านดัชเชสกล่าวถึงเจตนาที่แท้จริงของเบลินดา นั่นทำให้เขารู้ว่าตัวเองอาจจะใส่ใจน้องสาวมากเกินไป จนทำให้นางรู้สึกผิดกับความหวังดีของเขาก็เป็นได้..“กำลัง..คุยอะไรกันอยู่ครับ?”ฟลอยด์ไม่ค่อยชอบใจที่เขาเห็นรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของลอร์ดเวนสันในยามที่หมอนี่มองหน้าของโรวีนาเลย เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงเป็นพวกขี้หึงจนไม่สนใจส
“ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ..”ฉันกล่าวออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้ท่านลอร์ดบาทีอัส ฟลอยด์บอกกับฉันว่าเขาอยากจะลองต่อสู้กับความกลัวของตัวเองดู เพราะแบบนั้นเขาจึงขอเข้าไปพูดคุยกับ เบลินดาตามลำพัง ฉันก็เลยมานั่งรอที่ด้านนอกกับท่านลอร์ดบาทีอัส“ผมเองก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นครับ เบลินดาขอย้ายไปอยู่ที่บ้านพักของตระกูลเวนสันในแกรนด์ดัชชีทางเหนือ ที่นั่นอากาศบริสุทธิ์มากกว่าที่เมืองหลวง อีกทั้งยังเงียบสงบมากกว่า..บอกตามตรงว่าผมเองก็อดใจหายไม่ได้เลยครับ เราสองคนพี่น้องอยู่ด้วยกันมาตลอด แต่อีกไม่นานเราต้องแยกจากกันแล้ว..มันอดใจหายไม่ได้เลย”โรวีนาส่งยิ้มให้กับลอร์ดบาทีอัส“ฉันเข้าใจเลดี้เบลินดานะคะ เธอคงคิดว่าเธออยากให้พี่ชายที่แสนดีของเธอได้มีชีวิตของตัวเองบ้าง เพราะที่ผ่านมาท่านทุ่มเทดูแลน้องสาวเพียงอย่างเดียวเลยนี่คะ มันคงถึงเวลาที่ท่านจะหาภรรยาของตัวเองได้สักทีแล้ว ช่วยเข้าใจความหวังดีขอเลดี้เบลินดาด้วยเถอะนะคะ”บาทีอัสมองหน้าของโรวีนาด้วยใบหน้าที่เขินอายเล็กน้อย เขาไม่ได้เขินที่อีกฝ่ายคือสาวงามที่สุดในจักรวรรดิ แต่เขาเขินที่เธอสามารถมองเห็นเจตนาของเบลินดาได้ และเขาเองก็ไม่เคยคิดถึงเ
หลังจากที่เดินขึ้นรถม้าแล้ว ยังไม่ทันที่ฉันจะได้นั่งลงในอีกฝั่งของรถม้า ฟลอยด์ก็เป็นฝ่ายดึงฉันให้นั่งลงบนตักของเขา มือของเขาโอบกอดร่างกายของฉันเอาไว้ในขณะที่รถม้ากำลังเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ตามถนนหนทางโรวีนาเงียบไปพักหนึ่ง ในยามนี้มีเพียงเสียงหัวใจของใครสักคนดังก้องขึ้นมาเขาซบใบหน้าลงบนไหล่ของเธอเบาๆ ราวกับว่าไหล่เล็กๆของเธอนั้นคือที่พึ่งเพียงสุดท้ายของเขาอย่างน้อยที่สุดในวันนี้ก็มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้น นั่นก็คือจักรพรรดินีรับปากเขาว่าจะไม่ให้ริโอนามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีก เขาวางใจได้ในระดับหนึ่งว่าชีวิตของเขามันไม่ต้องไปพัวพันกับเรื่องที่เขาไม่อยากให้เกิดอีกแล้ว“..จักรพรรดินีรับปากแล้วว่าจะไม่ให้องค์หญิงมารบกวนท่านอีก เช่นนั้นแล้ว..การแต่งงานของเราก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วอย่างนั้นสินะคะ.."เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและไม่มั่นคง โรวีนาไม่ได้อยากทำลายบรรยากาศดีๆ ระหว่างเราเลย แต่ทุกคนย่อมต้องยอมรับความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นเมื่อหน้าที่ของเธอจบลงแล้ว เธอไม่จำเป็นจะต้องทำให้เขาเดือดร้อนไปกับเธอด้วย ท่านพ่อเดินทางมาแล้ว เธอไม่ต้องรอคอยบรรดาศักดิ์ของซารังต์อีกต่อไป เมลลี่ก็จะสามารถเป