Share

นางคือภูติผีหรือเทพธิดา

มองสภาพบ้านใช่ให้คนอยู่หรือ หยากไย่หนาเตอะตื่นมาสำลักฝุ่นก่อนเลย เสี่ยวเถาถูกตีนางยังอุตส่าห์หาอาหารมาให้จนได้

จางซูฉีถอนหายใจ ลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกออก มองในกระจกทองเหลืองเก่าๆเห็นผู้หญิงคนหนึ่งทาหน้าหนายังกับคนเล่นงิ้วโรงเจเห้อทำไปได้

แต่นางสติไม่ดีนี่นาจะโทษใครล่ะ เสียงท้องร้องประท้วงจึงหันไปถามสาวใช้

"เสี่ยวเถา เสี่ยวจูมีอะไรกินไหมหิวจะตายอยู่แล้ว "

"ไม่มีเพคะ พระชายาท่านๆหายเป็นปัญญาอ่อนแล้วหรือ ดีๆจังเลยหากท่านอ๋องทรงทราบอาจจะๆ" เสี่ยวเถาเห็นนางพูดรู้เรื่องก็ดีใจ

"พอๆๆๆๆ รู้ไปก็เท่านั้นก็เท่านั้นไอ้หน้าโบทอกซ์นั่นชอบบุรุษไม่ได้ชอบสตรี ชายารองเขานางสวยหยาดเยิ้มขนาดนั้นเขายังไม่ชายตาแลเลย แม่นั่นก็กะไรอยากเป็นที่หนึ่งใจจะขาด อยากได้ยกให้เลยเหอะใครต้องการกันเลือดเย็นนัก ที่นี่ที่ไหนกันเสี่ยวเถา"

สองพี่น้องมองหน้ากันพระชายาพูดอะไรแปลกๆฟังไม่ค่อยเข้าใจสักนิด

"จวนด้านหลังเพคะ ห่างจากจวนใหญ่สองลี้ บ่าวจะไปขออาหารแต่มองไปทางไหนก็มีแต่หญ้าคาขึ้นสูงเต็มไปหมด ขออภัยนะเพคะ" เสี่ยเถาเอ่ยเสียงอ่อน

" ช่างเถอะ ลุกไปดูกันเถอะว่าพอหาอะไรใส่ท้องได้บ้าง"

เห็นเสี่ยวเถาถูกใบหญ้าคาบาดจนเลือดออกนางก็ปวดใจ เด็กเพียงนี้ยังจงรักภักดี

เดินออกมาจากกระท่อมถึงจะเป็นกระท่อมก็กระท่อมจวนอ๋องที่มีห้าห้องมุงกระเบื้องเชียวนะ

ถึงแม้ว่าจะเห็นแต่หญ้าคาสูงท่วมหัว มองเห็นรอยทางยาวที่พวกนางถูกลากมาโยนไว้ เฮ้อเดิมทีอีอ๋องนั่นก็ไม่ต้องการแต่งงาน แต่จวนจางดันจับเอาคนปัญญาอ่อนมาแต่งให้เขา

กว่าจะรู้เรื่องว่าไม่ใช่บุตรสาวบ้านใหญ่ก็กราบไหว้ฟ้าดินเสร็จแล้ว หนานกงเยี่ยตั้งใจจะไล่นางแต่พอเปิดผ้าคลุมหน้าก็เปลี่ยนใจเป็นอยากฆ่าทันที

สกุลจางตัวดีเห็นเขาเป็นตัวตลกหรือ หนานกงเยี่ยบีบคอจางซูฉีอย่างแรงจนเด็กนั่นตกใจอาการเลยหนักกว่าเดิม

ยังดีมีสาวใช้ตัวน้อยคอยดูแล

บ้านร้างนี้หลังบ้านเป็นกำแพงสูงด้านหลังเป็นภูเขา มีลำธารสายเล็กจากภูเขาไหลผ่านกระท่อม

"เสี่ยวเถา เสี่ยวจูไปดูลำธารกันเผื่อได้ปลาสักตัว หิวจะตายแล้ว"

สามนายบ่าวเดินไปลำธารมีปลาแหวกว่ายอยู่มากมาย แต่ปัญหาคือจะจับยังไง

จางซูฉีกลับไปในกระท่อมรื้อข้าวของในลังไม้ มีมีดเก่าๆกับจอบเล็กๆอยู่จึงนำออกมา เหลาปลายไม้จนแหลมไล่แทงปลากันสนุกสนาน

นี่คืออิสระไล่ออกมาแล้วไงทางที่ดีอย่ามาตามกลับนะ ได้ปลามาสามตัวก็หากิ่งไม้มาก่อไฟโชคดีบ้านนี้มีห้องครัว

มื้อนี้เป็นอันเรียบร้อย ตะวันตกดินแล้วเสื้อผ้าถูกเอามาโยนไว้ให้ อนาถาแท้ๆฝนก็ทำท่าจะตก

"เสี่ยวเถา เสี่ยวจูเข้าบ้านเถอะ อย่างน้อยที่นี่ก็คุ้มฟ้าคุ้มฝนได้"

ทั้งสามจึงพากันเข้าบ้าน ทางด้านคนในจวนอย่างชายารองก็รอเวลาเก็บศพแห้งของนางอย่างเดียว

ใครก็รู้บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่มาสามสิบปีแล้ว จากหน้าบ้านไปถึงทางประตูหลังจวนใหญ่ยาวเกือบสองลี้

กว่าจะแหวกเอาพวกนางมาโยนทิ้งได้คงลำบากน่าดู อีกอย่างห่างขนาดนี้มีทางเดียวคืออดตาย

หลี่ม่านม่านคงสั่งทุกคนห้ามให้ข้าวให้น้ำนาง ตำแหน่งพระชายาเอกต้องเป็นของนางคนเดียวเหอะใครสนกันฉันต้องหาทางหนีจากที่นี่ให้ได้คอยดู อันดับแรกหาเงินก่อนเลย ไม่มีเงินจะไปไหนได้เล่า

จางซูฉีนอนไม่ค่อยหลับ นางเหนียวตัวมากฝนด้านนอกหยุดแล้ว จึงพยายามค่อยๆย่องกลัวเสี่ยวเถาและเสี่ยวจูจะตื่น

คืนนี้เดือนหงาย จางซูฉีนั่งลงข้างลำธารล้างหน้าเอาแป้งที่หนาเตอะเหล่านั้นออก

ก็มองเห็นใบหน้ากระจ่างใสงดงามของสตรีนางหนึ่ง ดวงตาสุกใสโครงหน้าปากคอคิ้วคางถือว่าสวยที่เดียว

นี่ถ้าไม่เป็นคนปัญญาอ่อนคงมีหนุ่มมาติดพันมากมาย จางซูฉีค่อยๆล้างเนื้อล้างตัว จากนั้นก็ถอดอาภรณ์ลงอาบน้ำในลำธารแหวกว่าย

ที่นี่คือตำหนักอ๋องมีกำแพงสูงกั้นไว้ ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้ อาบน้ำจนรู้สึกสะอาดผิวที่เคยกระดำกระด่างจากการไม่เคยดูแลตนเองถูกล้างจนนวลเนียน ร่างเดิมเป็นคนสวยมาก นางโชคดีที่ได้ร่างนี้มาครอง

สวมเสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อยก็นั่งลงบนโขดหินใช้มือสยายผมที่เพิ่งจะสระเสร็จ ใบหน้าหวานงดงามราวเทพธิดามาลงเล่นน้ำ

หนานกงเยี่ยดีดตัวผ่านยอดไม้หลังจากตามจับสายลับชาวซ่งสำเร็จกำลังจะกลับตำหนัก แต่เขาไม่เคยจำว่าตรงนี้คือที่ไหน

จวนของเขาเป็นเสด็จพ่อประทานมาให้ตอนนี้เสด็จพี่ครองราชย์ อีกอย่างตำหนักอ๋องแห่งนี้กว้างขวางมากเขาเดินไม่เคยทั่ว

มีเพียงตำหนักหลักและเรือนรับรองอีกหลายหลัง มีสวนผลไม้และสวนดอกไม้ แต่ที่ดินตรงนี้ไกลออกมาจากตำหนังใหญ่ห้าลี้ห่างจากกำแพงจวนสองลี้

เขาไม่เคยรู้มีมันอยู่และที่สำคัญมันอยู่ติดเชิงเขา ครั้งก่อนที่ไท่ซ่างหวงยังเป็นรัชทายาทก็สั่งล้อมกำแพงอิฐทั้งจวน จนมาถึงที่นี่เพราะด้านหลังติดภูเขาเพราะ กลัวว่าอาจมีสัตว์ป่าบนเขาลงมาทำร้ายคนในเรือนได้

ตอนนั้นฮองเฮาชอบมาพักกับบุตรชายคนเล็ก หนานกงเยี่ยสั่งองครักษ์ให้โยนพวกนางที่เรือนท้ายจวน

เขาหมายถึงตำหนักเล็กทิศตะวันตกที่เรียกว่าจวนท้ายเรือน ไม่ใช่เรือนท้ายสวน

แต่สือห่าวกับสืออินเข้าใจผิดนำนางมาโยนเรือนท้ายสวนที่ติดเชิงเขาที่คนทั้งจวนลืมไปแล้วว่ามีมันอยู่ หนานกงเยี่ยไม่รู้เรื่องที่คนของเขารับคำสั่งผิดพลาด

หนานกงเยี่ยที่กำลังดีดตัวจากยอดไม้เพื่อจะกลับตำหนักของเขา เผลอมองลงมาก็เห็นสตรีงดงามนั่งอยู่บนโขดหินกลางแสงจันทร์นวลผ่อง

นางเงยหน้ามองท้องฟ้าเขาสบตานางพอดีแต่เหมือนนางไม่เห็นเขา หนานกงเยี่ยเหมือนถูกมนต์สะกด

กลับคิดไปว่าเสมือนนางมองเขาต้องการให้เขาเข้าไปหา นี่คือสิ่งที่หนานกงเยี่ยนเห็นและคิด

"งามยิ่งนัก นางเป็นเทพธิดาหรือว่าภูตผีกันแน่"

ความจริงแล้วจางซูฉีที่เงยหน้ามองท้องฟ้าอยู่นั้นที่จริงนางกำลังด่าสวรรค์อยู่รวมถึงตัวเขาด้วย

"เฮ้อชีวิตเฮงซวย สวรรค์ท่านจะเฮงซวยไปถึงเมื่อไหร่ ตัวช่วยมีมั้ยมิติหรือซูเปอร์มาเก็ต หรือมิติเก็บของอะไรแบบนี้ ส่งมาเกิดใหม่ทั้งทีก็เจอคนประสาท หน้าฉีดโบท็อกซ์มาหรือไงก็ไม่รู้ สงสัยจะทอกซ์ทั้งตัวเลยมั้งตึงเกิน ข้าอาภัพเรื่องผู้ชายก็จริงแต่ท่านก็ควรหาคนดีกว่านี้ ไม่ใช่ดีแค่หน้าตา เจ๊อยากตายฮือๆๆ"

จากนั้นก็ด่าไปเดินไปกลับมาตามทางนางแหวกดงหญ้าคากลับบ้าน ที่บริเวณนี้คงถูกทิ้งมานานหญ้าคาสูงเกือบสองจั้ง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status