ยามเหมาจางซูฉีตื่นแล้ว กำลังลุกไปต้มน้ำอาบวันนี้จะเดินตามทางเล็กๆนั่นเพื่อไปในตัวตลาด เมืองหลวงเป็นเช่นไรนางไม่รู้เพราะร่างนี้ไม่เคยออกจากบ้าน แต่นางเป็นนักเดินป่าการสังเกตน่าจะไม่อยาก จุดสังเกตในเมืองนั้นทำได้ง่ายกว่า
"พี่ใหญ่ เหตุใดตื่นแต่เช้าเจ้าคะ นอนต่อเถอะเดี๋ยวข้าทำเอง"เสี่ยวเถาที่ตอนนี้ถูกสั่งห้ามเรียกนางว่าพระชายาเดินเข้าครัวมาก็ถามทันที
"อืม พี่จะไปตลาดสักหน่อยพี่จะลองดูว่าเงินนั้นยังใช้ได้หรือไม่ สามสิมปีแล้วไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง พวกเราไม่เคยได้ออกนอกจวนไปดูลาดเลาก่อน"
จางซูฉีลูบศีรษะเสี่ยวเถา เด็กสองคนพี่น้องนี้ ถูกตีถูกด่าแทนนางมาตลอด จางซุฉีคนเดิมสติไม่ดีบ่าวไพร่ในจวนรังเกียจไม่อยากรับใช้ วันๆนั่งน้ำลายไหลยืดน้ำท่าก็ไม่อาบ
เมื่อวานตอนอาบน้ำไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาไม่อาบน้ำ แต่ดูเหมือนเด็กสองคนนี้จะเอาเขม่าก้นหม้อเอยแป้งหมี่เอยมาทาให้นางเพื่อปกปิดความงามของจางซูฉี ร่างเดิมงามมากอย่างที่ในละครชอบกล่าวถึงว่างามล่มบ้านล่มเมืองอะไรเทือกนั้นแหละ
จางซูฉีเลือกชุดธรรมดามาหนึ่งชุดจากในหีบ จากนั้นก็เกล้าผมทรงสตรีที่แต่งงานแล้ว ทาแป้งหนานใช้ถ่านแต่งแต้มใฝเม็ดโตบริเวณหางคิ้ว ขีดเบาๆให้เป็นรอย รวมๆแล้วคล้ายกับสตรีอายุสี่สิบ เสี่ยวจูที่เพิ่งจะตื่นมาตะลึง
"พี่ใหญ่ ท่านเก่งจังข้าๆจำท่านแทบไม่ได้เลยเจ้าค่ะ"
"เห็นไหมเสี่ยวเถา เสี่ยวจูยังจำพี่ไม่ได้ขนาดอยู่ด้วยกันทุกวันแล้วจะห่วงอันใด เยี่ยอ๋องเจอหน้าพี่แค่วันแต่งกับเมื่อวานนี้ ถึงเจอกันเขาก็ไม่สนใจหรอก"
จางซูฉีรู้ดีว่าเด็กสองคนนี้เป็นห่วงพวกนางในตาแดงแล้ว จึงลูบหัวปลอบใจต้องรีบหาเงินแล้วพาพวกนางไปจากที่นี่ เขียนหนังสือวาบหวิวหรือไม่ๆๆๆมีเด็กอยู่ด้วยไม่ดี ขายแบบเครื่องประดับหรืออืมเมื่อคืนลองวาดไว้สองแบบ ส่วนสมุนไพรต้องขึ้นเขา ลองดูก่อนว่าวันนี้ได้เรื่องอะไรบ้าง
"พี่ไปแล้วอย่าลืมดายหญ้าให้เกลี้ยงนะตรงแปลงผักนั่น พี่จะดูว่าพอจะซื้ออะไรได้บ้างจะรับไปรีบกับนี่ยามเฉินแล้วกว่าจะเดินไปถึงอีก"
เสี่ยวเถากับเสี่ยวจูจับมือนางแน่นเด็กสองคนเป็นห่วงนางๆรู้ดี จากนั้นก็เดินไปด้านข้างฝั่งลำธารเดินข้ามลำธารก่อนจะถึงประตูบานเล็ก เดินมาตามทางที่สำรวจเมื่อวาน จางซูฉีเดินมาได้ครึ่งทางอยู่ๆก็เวียนหัวจึงจับต้นไม้ค่อยๆนั่งลง
"เป็นอะไรไป ฉันจะตายอีกรอบหรือไม่นะแต่ถ้าจริงขอเกิดใหม่เป็นเป็นศรษฐีนะ ไม่มีจะกินแบบนี้ไม่เอา" เวียนหัวจนต้องหลับตารู้สึกตัวอีกทีเพราะมีสายลมอ่อนๆมาปะทะ จางซูฉีลืมตาขึ้นตรงหน้านางเป็นทุ่งกว้างขนาดสนามฟุตบอล มีดอกไม้และสมุนไพรหลากหลายชนิดขึ้นอยู่ มีกระท่อมหลังเล็กๆหนึ่งหลัง มีสระน้ำกว้างประมาณสระว่ายน้ำขนาดมาตราฐาน มีกอไผ่สามกอ จางซูฉีหิวจริงๆจึงเดินไปดูผลไม้ตรงหน้าก่อนจะเด็ดองุ่นมาหนึ่งพวง มิติหรือมีแต่ต้นไม้ใบหญ้าเนี่ยนะ
"มีแต่ต้นไม้ใบหญ้าอะไร หัดดูก่อนค่อยติ"เสียงดังมาจากด้านหลังจางซูฉีหันกลับไปก็พบว่ามีชายชราผมขาวคนหนึ่งยืนอยู่
"เอ่อ คุณตาคะที่นี่คือมิติหรือคะแล้วไม่มีพวกซูเปอร์มาเก็ตหรือว่าเครื่องอำนวยความสะดวกสักหน่อยหรือคะ"
"นี่ๆๆๆน้อยๆหน่อยนี่ข้าก็ต้องเอาตะบะเซียนแลกมาให้เจ้าเชียวนะ ในกระท่อมนั่นเจ้าอยากได้อะไรก็แค่นึกเอา แต่ต้องเป็นของที่สามารถหาได้ในยุคนี้ ไม่ใช่เครื่องซักผ้าหม้อหุงข้าวไฟฟ้าอะไรเทือกนั้น"
"คุณตาทำไมของคนอื่นมีได้ ของหนูน้อยจังละคะคุณตาขาอยากได้อะไรก็นึกเอาเช่นนั้นใบหย่าขอได้ไหมเจ้าคะ"
"เฮ้อไม่ได้!!!! พวกนั้นนะทำงานพลาดชอบเก็บวิญญาณผิดเวลา เขาไม่ตายก็เร่งให้ตายจึงต้องชดเชยแต่เจ้าเนี่ยมาที่นี่เพราะเด็กคนนั้นเลือกเจ้านางเคยติดค้างเจ้าในอดีต ใช้ชีวิตต่อไปให้ดีเถอะ ยามมีภัยก็มาหลบคนนอกเข้าไม่ได้ มีเพียงหมดสติไม่รับรู้เท่านั้นจึงสามารถนำมาไว้ได้พวกเขาจะไม่ตื่นจนกว่าจะนำออกไป ข้าไปแล้วอีกอย่างอย่าด่าข้าที่มาช้าเพราะคิวมันยาว มีเซียนทำงานพลาดเยอะต้องไปต่อแถวแลกมิติเหล่านี้กว่าจะถึงคิวข้าก็ต้องรอนาน ข้าไปแล้วสิ่งของที่อยู่ในนี้ล้วนเป็นของดี อยากเข้ามาเพียงแค่แตะกลางฝ่ามือแล้วตั้งจิตเอา"
จางซูฉีถูกมารดาโทรเร่งตลอดเวลา วันนี้เธอเพิ่งจะฉลองยอดขายอีบุ๊คตัวเอง ได้เกือบหนึ่งแสนหยวน ถ้าไม่ใช่เพราะแม่นัดผู้ชายไว้ให้เธอคงดีใจกว่านี้ ไม่รู้ว่าจะอะไรกันนักกันหนา เพิ่งจะสามสิบเองแต่งงานก็ใช่ว่าชีวิตจะสมบูรณ์ปกติอยู่แต่ในป่าในเขา ทำวิจัยเกษตรและพันธุ์พืช งานอดิเรกออกแบบเครื่องประดับ ให้กับแบรนด์ต่างๆวันนี้เธอขี้เกียจขับรถจึงมารถเมล์ หลังจากลงจากรถเมล์ก็เดินตรงไปยังคาเฟ่ที่นัดกันไว้ กำลังจะข้ามทางม้าลายก็ได้ยินเสียงหวอของรถตำรวจดังมาแต่ไกลเธอชักเท้าที่กำลังจะข้ามทางม้าลาย มีรถเก๋งวิ่งมาอย่างรวดเร็ว มีการไล่ยิงกันระหว่างตำรวจและคนร้าย ผู้คนบนถนนต่างวิ่งหลบแบบไม่คิดชีวิตคนร้ายปล้นธนาคารใช้เส้นทางนี้หลบหนี ร้านกาแฟตรงหน้าปิดประตูทันที เสียงปืนดังขึ้นรัวๆจางซูฉีรู้สึกถึงมีอะไรอุ่นๆไหลออกจากอกเสื้อด้านซ้าย จากนั้นสติรับรู้ของเธอก็ดับทันทีเสียงร้องไห้ปลุกให้คนที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้นมาเห็นคนใส่ชุดโบราณอายุน่าจะสิบสี่สิบห้านั่งร้องไห้อยู่น้ำตาไหลพรากโอ้วแม่เจ้าสมจริงมากกองถ่ายไหนเนี่ย เห็นคนแต่งชุดโบราณหลายคนมองมาที่เธอรู้สึกคอแห้งจึงถามหาน้ำ"มีน้ำไหมน้ำเปล่าก็ได้ ถ้าได้ชาไข่มุกจะดีม
มองสภาพบ้านใช่ให้คนอยู่หรือ หยากไย่หนาเตอะตื่นมาสำลักฝุ่นก่อนเลย เสี่ยวเถาถูกตีนางยังอุตส่าห์หาอาหารมาให้จนได้จางซูฉีถอนหายใจ ลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกออก มองในกระจกทองเหลืองเก่าๆเห็นผู้หญิงคนหนึ่งทาหน้าหนายังกับคนเล่นงิ้วโรงเจเห้อทำไปได้แต่นางสติไม่ดีนี่นาจะโทษใครล่ะ เสียงท้องร้องประท้วงจึงหันไปถามสาวใช้"เสี่ยวเถา เสี่ยวจูมีอะไรกินไหมหิวจะตายอยู่แล้ว ""ไม่มีเพคะ พระชายาท่านๆหายเป็นปัญญาอ่อนแล้วหรือ ดีๆจังเลยหากท่านอ๋องทรงทราบอาจจะๆ" เสี่ยวเถาเห็นนางพูดรู้เรื่องก็ดีใจ"พอๆๆๆๆ รู้ไปก็เท่านั้นก็เท่านั้นไอ้หน้าโบทอกซ์นั่นชอบบุรุษไม่ได้ชอบสตรี ชายารองเขานางสวยหยาดเยิ้มขนาดนั้นเขายังไม่ชายตาแลเลย แม่นั่นก็กะไรอยากเป็นที่หนึ่งใจจะขาด อยากได้ยกให้เลยเหอะใครต้องการกันเลือดเย็นนัก ที่นี่ที่ไหนกันเสี่ยวเถา"สองพี่น้องมองหน้ากันพระชายาพูดอะไรแปลกๆฟังไม่ค่อยเข้าใจสักนิด"จวนด้านหลังเพคะ ห่างจากจวนใหญ่สองลี้ บ่าวจะไปขออาหารแต่มองไปทางไหนก็มีแต่หญ้าคาขึ้นสูงเต็มไปหมด ขออภัยนะเพคะ" เสี่ยเถาเอ่ยเสียงอ่อน" ช่างเถอะ ลุกไปดูกันเถอะว่าพอหาอะไรใส่ท้องได้บ้าง"เห็นเสี่ยวเถาถูกใบหญ้าคาบาดจนเลือดออกน
บริเวณบ้านคลุมไปด้วยหญ้าคาพรุ่งนี้จะถางหญ้า ห่างจากบ้านสักหกเมตรพอ ปลูกอะไรกินนิดหน่อย ดงหญ้าคาที่เหลือเอาไว้ปิดบังบ้านหลังนี้ กระท่อมหลังน้อยๆกลางดงหญ้าคาฟังดูดีเนาะ ดูเหมือนจะมีพืชล้มลุกประปราย เหมือนมีต้นพริกลูกแดงๆ มีเถาแตงด้วย"ไอ้มีปืนเฮงซวย เล็งทั้งทีก็ไม่ตรงเป้ารถตำรวจอยู่ทางเล็งปืนมาอีกทาง แม่นะแม่อยากได้ลูกเขยอยากให้หนูแต่งงาน ตอนนี้เป็นยังไงล่ะได้จัดงานศพแทนฮือๆๆ"จางซูฉีตะโกนด่าเทวดา ด่ามือปืนที่ยิงพลาด ด่าหนานกงเยี่ย ด่านรกสวรรค์วุ่นวาย กลับมาก็เห็นเสี่ยวเถานอนละเมอ"พระชายา พรุ่งนี้เสี่ยวเถาจะไปหาข้าวมาให้ท่านอย่าเสียใจเลย"จางซูฉีอุ้มเด็กทั้งสองมานอนบนเตียงด้วยกัน ก่อนจะห่มผ้าให้แล้วนอนลงข้างๆเพราะใบหน้างดงามแต่สติปัญญาไม่สมประกอบพวกนางเกรงว่าจะถูกรังแก สองพี่น้องจึงช่วยกันดูแลนางเสมอมาตั้งแต่แต่งงานมาจวนสกุลจางก็เหมือนจะตัดญาติขาดมิตรกับนางไปเลย สินสมรสมีไม่เท่าไหร่ มีค่าที่สุดก็คือเด็กสองคนนี้ที่ติดตามมานอนก่อนเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคิดหาทาง มันมีทางออกเสมอแหละหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นนะ"เด็กน้อย ขอบใจที่ภักดีมาตลอด ข้าสัญญาจะไม่ทอดทิ้งพวกเจ้าสองคนพี่น้อง"จางซูฉีรื้อเสื
เช้าแล้วสามคนนายบ่าวตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าสดชื่น แม้จะอยู่ห่างไกลจวนหลักแต่กลับมีความสุขมากกว่าที่เคยอยู่ที่นั่นเสี่ยวเถายังติดใจรสชาติปลาย่าง ปกติมีแค่ซาลาเปาแข็งๆกับน้ำข้าวต้ม ชายารองแต่งมาทีหลังเพียงครึ่งเดือนแต่กลับซื้อคนในจวนไปได้หลายคนหนานกงเยี่ยไม่อยากสนใจเรื่องหลังบ้านเขาให้แม่นมของเขาจัดการ ชายารองแม้จะซื้อบ่าวในจวนได้แต่ไม่สามารถซื้อแม่นมของเขาได้"พระชายา เหตุใดล้างแป้งออกเล่าเพคะ หากใครมาเห็นใบหน้านี้อาจมีคนไม่หวังดีได้ ตอนนี้เราอยู่ข้างนอกตำหนักด้วยนะเพคะ"เสี่ยวเถาเห็นใบหน้างามก็กังวลใจทันทีจางซูฉีงดงามมาก หากไม่เพราะตกน้ำไปตอนสิบขวบจากนั้นนางก็กลายเป็นคนสติไม่ดี ทั่วแคว้นอู๋นี้คงไม่มีใครงดงามเท่านางอีกแล้ว"เสี่ยวเถาคนงามเจ้าดูสิ จะมีใครมากันหญ้าท่วมหัวเพียงนี้ ถ้าไม่ใช่สืออินกับสือห่าวมีวิชาตัวเบา จะฝ่าดงหญ้าคาเอาเจ้ากับข้ามาโยนไว้ที่นี่ได้หรือ เมื่อข้าเห็นมีพืชอยู่หลายต้นลองหาดูเถอะเผื่อมีอะไรให้กิน จากนี้ไปประตูหลังตำหนักทางยาวเกือบห้าลี้มีแต่หญ้าคาสูงท่วมหัว ไม่มีใครดั้นด้นมาส่งข้าวส่งน้ำหรอก""กินกันเถอะ จะได้เข้านอนเอาแรง ดูท่าฝนคงตกอีก เราโชคดีเจอเทียนไขแล้วคืนนี