“ข้าไม่ได้พูดเหลวไหลนะ” ตงฟางอิงยกมือจับคาง “เป็นสตรีที่อยู่ข้างกายท่านที่มีดวงตาหงส์สีแดงทั้งเย็นชามากและนิสัยไม่ดีมากผู้นั้นน่ะ ห้าวันมานี้ นางคอยรบกวนกับพี่เก้าทุกวันเลย ข้าอยากจะคุยกับพี่เก้า นางก็ยังเอาแต่จ้องข้า”เขาพูดแล้วย่นไหล่สตรีผู้นั้นไม่เพียงแต่ดูเย็นชา ทว่าแววตาของนางก็น่ากลัวเช่นกัน
น่องขาของเขาดูเหมือนจะมีความยืดหยุ่นมาก ดีดตัวแรงจนควบคุมไม่อยู่ ชนเข้ากับโคมแขวนบนเพดานหลังจากที่โคมแขวนกระทบหัว เขารู้สึกเจ็บ และล้มลงกับพื้นด้วยเสียงดัง “ตึง”“บรรพบุรุษ โคมแขวนของท่านแขวนต่ำเกินไปแล้ว” ตงฟางอิงหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บปวด“ไม่ได้แขวนต่ำ เจ้าแค่กระโดดสูงเกินไป” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหา
“ศิษย์น้องหญิง เขาด่าข้า” ลู่จิ้นรู้สึกน้อยใจ “เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนเริ่มหาเรื่องก่อน”“เฮอะ” ตงฟางหลีดึงดันไม่ยอมแพ้ “แก่แล้วยังใช้ชีวิตเสียเปล่าเฉกเช่นสุนัข ไร้ยางอายเช่นนี้ ชอบธรรมแล้วจริง ๆ ”“เจ้าเจ็ด เจ้าเด็กนี่จงใจแน่แท้!” ลู่จิ้นโกรธมากจนแทบจะระเบิด “ศิษย์น้องหญิง วันนี้เจ้าต้องให้ความยุติธ
คิ้วงามของตงฟางหลีกระตุกเล็กน้อย เขากอดนาง “ข้าเหนื่อยนิดหน่อย อาบน้ำกับข้าแล้วพักผ่อนเป็นเช่นไร?”“ท่านยังไม่ได้ตอบหม่อมฉันเลย...”ตงฟางหลีวางนิ้วบนริมฝีปากของนาง โน้มตัวเข้าชิดริมหูพลางกระซิบ “ข้าอยากพักผ่อนให้เต็มที่เสียหน่อย”ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองสีหน้าเหนื่อยล้าของเขา และให้คนเอาน้ำร้อนมาหลังจากอ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ทานอาหารเช้าอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอาภรณ์สีขาวเรียบ ๆ ที่สำหรับสวมใส่เข้าพระราชวังเพื่อขอรับโทษ ไม่สวมเครื่องประดับและไม่ประทินโฉมตงฟางหลีก็แต่งกายด้วยอาภรณ์แบบเดียวกันเมื่อเตรียมพร้อมแล้ว นางจึงสั่งให้ตู้เหิงเปิดประตูทันทีที่ประตูถูกเปิด พระสนมซูซึ่งรออยู่ข้างนอกก็โผเข้าม
“พระสนมซูอยากให้หม่อมฉันตายหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กอดอกแล้วก้าวไปข้างหน้าสองก้าว“เหยี่ยนเย่ว์” ตงฟางหลีดึงแขนเสื้อของนาง “เจ้าไม่ใช่บอกว่าแส้มีพิษรึ? ระวังไว้ดีกว่า”“สำหรับท่านมันคือพิษ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองเขาด้วยสายตาที่ขอให้เขาวางใจ “พิษนี้ ไม่มีประโยชน์สำหรับหม่อมฉันเพคะ ท่านถอยหลังไปสามเมตรเถอะ
“เจ้าทำอะไรน่ะ?” พระสนมซูเจ็บปวดจากพิษเป็นอย่างมาก นางเกาบาดแผลอย่างแรงเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดจากพิษเข้าโจมตี “เจ้าคนต่ำทราม”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เย้ยหยัน “สิ่งที่พระสนมซูพูดนี้ตลกยิ่งนัก คนที่นี่ต่างก็เห็นกันอยู่ เป็นท่านเองที่ตวัดแส้ใส่หม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมือเท้ารวดเร็วจึงหลบได้ทัน ท่านออกแรงมากเกินไป แ
ขันทีสองสามคนที่อยู่ด้านหลังถลาขึ้นมา ไม่นานก็ควบคุมตัวพระสนมซูไว้ได้“ปล่อยข้า พวกเจ้าปล่อยข้านะ พวกเจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร? กล้าทำเช่นนี้กับข้า ข้าจะตีพวกเจ้าให้ตายเสีย” พระสนมซูผมเผ้ายุ่งเหยิงรุงรัง ดิ้นรนอย่างแรงราวกับคนเสียสติเหล่าขันทีควบคุมตัวคนโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าพระสนมซูดิ้นรนไม่หลุด จึงดิ
ไป๋หลินยวนไม่เหมือนกับจีอู๋เยียนจีอู๋เยียนเพื่ออวี้เอ๋อร์แล้วได้ทำเรื่องแปลกประหลาดลงไปมากมาย พูดได้ว่าทุกคนต่างรังเกียจเดียดฉันก็ไม่เกินไปไป๋หลินยวนรังเกียจที่จะคบหากับมนุษย์ธรรมดาสามัญ ชื่อเสียงโด่งดัง ภายนอกดูสะอาดสะอ้านมีเพียงนางที่รู้ว่าเขาเป็นคนโรคจิตคนหนึ่ง“เทพพิษและหมอเทวดามีชื่อเสียงทัด
ฮ่องเต้ยังคงมิตรัสสิ่งใดบรรยากาศจึงดูมืดมนเดิมทีตงฟางอิงคิดจะแอบขอร้องเสด็จพ่อ ให้เสด็จพ่ออนุญาตให้พี่สะใภ้เจ็ดสอนวิชากลให้เขาครั้นเห็นเสด็จพ่อมีสีหน้าไม่สู้ดี และมีทีท่าจะลงโทษพระสนมเหยา ก็ไม่สนใจเรื่องนี้อีก รีบพูดขึ้นมา “เสด็จพ่อ พระสนมเหยาต้องถูกใส่ร้ายแน่นอน ขอร้องท่านปล่อยพระสนมเหยาไปเถิดพ่
“พวกแม่นมออกไปก่อนเถิด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลงเรื่องนับจากนี้ นางไม่อยากให้คนที่ไม่มีความสำคัญเห็นเท่าใดนักบรรดาแม่นมต่างมองหน้ากัน“ออกไป” ฮ่องเต้ทรงตรัสเสียงเย็นชาครั้นตงฟางอิงเห็นคนออกไปหมดแล้ว ก็เม้มปากพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้เจ็ด ท่านต้องเชื่อข้านะ พระสนมเหยามิได้ทำเรื่องเช่นนั้นจริง ๆ ท่านต้อง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจโรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่รู้จักกันดี และโดยทั่วไปไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตทว่า โรคเบาหวานอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้โรคแทรกซ้อนสิ ถึงจะเป็นกุญแจสู่ความตาย“พูดให้ถูกต้องก็คือ โรคของพระพันปีเป่าไม่ได้เรียกว่าโรคกระหายน้ำ แต่เรียกว่าโรคเบาหวาน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “
สาลี่เป็นผลไม้ และก็เป็นยาจีนชนิดหนึ่งเมื่อเข้าสู่เส้นลมปราณของไตและปอด จะขจัดความร้อนและแก้เสมหะ ผลิตของเหลวทำให้ความแห้งกร้านชุ่มชื้น และมีประสิทธิภาพมากในการรักษาโรคกระหายน้ำจากการบอกเล่าของหมอหลวงและแม่นม ตลอดจนการวินิจฉัยของนาง เกือบจะยืนยันอาการป่วยของพระพันปีเป่าได้“พระชายาอ๋องเจ็ด” หมอหลว
“พระพันปีเป่าหมดสติ เข้าขั้นวิกฤต นี่คืออาการประชวรในปัจจุบันพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงหลินไม่รู้ว่านางหมายถึงอะไร“ไม่ใช่ สิ่งที่ข้าต้องการคือการวินิจฉัยก่อนหน้านี้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เดินมาที่ข้างเตียง และทำความเคารพฮ่องเต้ครั้นฮ่องเต้เห็นนางมาถึง คิ้วที่ขมวดแน่นก็ผ่อนคลายลงและเขาหลีกทางไปเองนิ้วของฉินเหย
“ไม่ได้”“แต่ว่า อาจารย์ของเจ้าเก้าหน้าตาดีมาก...”“ได้”“ถ้าเช่นนั้น ท่านช่วยสอนวิธีแต่งกายเป็นสตรีให้ข้าได้หรือไม่?”“ไม่ได้”“แต่อาจารย์ของเจ้าเก้าเป็นสตรี…”“เขาเป็นบุรุษ บุรุษปลอมตัวเป็นสตรี ถ้าเจ้าให้ข้าเลียนแบบเขา ข้าก็จะฆ่าเสี่ยวจีจวินและเจ้าเก้าในปากของเจ้าทิ้งเสีย เจ้าว่าดีหรือไม่?” ไป๋หลิ
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็ตกตะลึงอยู่ตรงนั้นคนวิปริตไร้คู่ต่อสู้ผู้นี้ต้องการรับเจ้าสิบเป็นศิษย์?ตงฟางอิงเองก็ตกตะลึงเช่นกัน ใบหน้าแดงก่ำพลันเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ร่างกายสั่นงันงกเขาไม่ต้องการกราบคนที่จะกินเด็กมาเป็นอาจารย์ไป๋หลินยวนบีบคางของตงฟางอิง และพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ตั
“ท่านต้องการทำอะไรกันแน่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยังคงเดินไปข้างหน้าสีหน้าของนางเย็นชา “ท่านเป็นคนวิปริต จัดการกับเด็กคนหนึ่งจะนับเป็นอะไรได้? ปล่อยเจ้าสิบไปเสีย หากมีอะไรก็มาหาข้า”ไป๋หลินยวนยกตงฟางอิงขึ้น และจ้องมองเขาอย่างถี่ถ้วนอย่างไรก็ตามตงฟางอิงยังเป็นเด็ก เมื่อถูกคนวิปริตจ้องมองเหมือนจะเขมือบกินเ