พระชายาเฉียนทอดมองไกลออกไปอย่างเหม่อลอย ในใจหนาวเหน็บยิ่งนักก่อนหน้านี้เรื่องที่คิดว่าไม่มีปัญหา ถึงตอนนี้มาคิดดูแล้ว กลับเต็มไปด้วยข้อพิรุธอย่างเช่น ยามที่ตั้งครรภ์ ทางเส้นนั้นที่เดินอยู่ทุกวัน วันนั้นดันถูกคนเผลอเอาน้ำแข็งก้อนหนึ่งไปวางเอาไว้น้ำแข็งก้อนนั้นมิได้ปรากฏขึ้นโดยบังเอิญ ทว่ามีคนจงใจว
“ฉินเหยี่ยนเย่ว์พยักหน้า “ข้าจะตั้งใจฟัง”“ขั้นตอนการทำตั๋วเงินยุ่งยากมาก อยากจะปลอมแปลงขึ้นมานั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก มีกับดักอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ผู้ที่รับผิดชอบจัดทำตั๋วเงินจะผ่านขั้นตอนมากมาย ทั้งยากลำบากสิ้นเปลืองแรงกาย ดังนั้น ในความคิดของคน การทำขึ้นมานั้นยากลำบากยิ่งนัก จนแทบจะไม่มีคนไปแตะต้อ
พอดีกับที่เฟ่ยชุ่ยซึ่งหมดสติอยู่ถูกนำตัวกลับมาที่เรือนโยวหลาน และจำเป็นต้องได้รับการรักษาหัวใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์จมดิ่งลง และตัดสินใจไปรักษาบาดแผลของเฟ่ยชุ่ยก่อนในขณะเดียวกันณ ตำหนักหมิงอวี้ตงฟางหลีแทบจะรอให้ฉินเหยี่ยนเย่ว์กลับมาไม่ไหว สีหน้าของเขามืดมนลงเขายืนเอามือไพร่หลังอยู่ข้างหน้าต่าง ในใจ
จีอู๋เยียนแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา “ไม่มีอารมณ์”“เช่นนั้นถึงได้พูดไง เล่นหมากสักกระดานกันเถอะ” ตงฟางหลีหยิบตัวหมากขึ้นมาหนึ่งเม็ด และวางไว้บนกระดานหมากรุก “ถ้าข้าแพ้ ข้าจะรับปากท่านเรื่องหนึ่ง หากท่านแพ้ แค่ตอบคำถามของข้าแต่โดยดี”“ท่านอย่าเอาแต่ด่วนปฏิเสธเลย เรื่องที่ข้าจะรับปากท่านก็คือเรื่องที่เหย
ตู้เหิง คนผู้นี้เขาจำได้อยู่บ้าง คนที่ดูไม่ค่อยฉลาดนักหลังจากถูกตงฟางหลีทรมานมานาน เอาตู้เหิงมาฝึกมือก็อาจไม่เลวจีอู๋เยียนคิด ทันใดนั้นก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาตู้เหิงกำลังรู้สึกว่างจนเบื่อ และสุ่มสั่งให้ผู้คนย้ายดอกไม้ในที่ตั้งอยู่ตรงทางเดินไปยังที่อื่น เมื่อจีอู๋เยียนมาหาเขาราวกับผี เขาก็ตกใจมาก
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่าตงฟางหลีแปลกไปก็จริงที่ว่านางรั้งอยู่ที่นี่ไปมันไม่มีประโยชน์อะไร จึงกำชับกับไป๋โค้วและชื่อเจี้ยนสองสามคำ ก่อนจะออกไปกับเขา“พี่สะใภ้ใหญ่มาเพื่อขอโทษน่ะ” หลังออกจากเรือนโยวหลาน นางถอนหายใจยาวแล้วพูดขึ้น “นางขอโทษเรื่องงานเลี้ยงชมบุปผา หม่อมฉันยกโทษให้นางไปแล้ว”ตงฟางหลีชะงัก
หลังจากท้องฟ้ามืดลง ตะเกียงในจวนอ๋องพลันสว่างไสวขึ้น เรียงรายเป็นแถว ตะเกียงเงินเอียงเล็กน้อย คบไฟดอกบัวชูชัน เปลวไฟวูบไหวแสงสีแดงถูกผ้าโปร่งสีเขียวคลุม ปลิวไสวตามสายลม เงาเยียบเย็นสีแดงสั่นคลอนฉินเหยี่ยนเย่ว์และตงฟางหลีเดินเคียงข้างกันท่ามกลางแสงไฟ แสงเทียนดุจสายรุ้ง เพิ่มสีสันสดใสให้กับค่ำคืนอัน
คนสองคนพูดคุยกัน ทว่าเขากลับเอาแต่ใจลอย นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกัน?นางสะบัดเขาออก แล้วเร่งฝีเท้าก้าวไปข้างหน้าสองก้าว “หากท่านไม่อยากฟัง หม่อมฉันก็จะไม่พูดแล้ว ที่นี่มีแค่พวกเราสองคนนะเพคะ ท่านยังคิดฟุ้งซ่านอยู่ได้ มิใช่ว่าไม่ให้เกียรติกันเกินไปหรือ?”ตงฟางหลีรีบดึงนางกลับมา พลางแย้มรอยยิ้มไปจนถึงดวง
นางกำชับทุกคนให้เปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อยแสงเทียนทั้งหมดกระจุกตัวกันอยู่ในจุด ๆ เดียวเมื่อแสงยังสว่างไม่มากพอ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้องครักษ์จื่ออวี๋นำไข่มุกราตรีในคลังเก็บสมบัติมาแสงสว่างของไข่มุกราตรีสะท้อนอยู่ภายในห้องจนดูคล้ายกับตอนกลางวันฉินเหยี่ยนเย่ว์มิสนใจพูดขอบคุณ หลังจากแบ่งงานกันอย่างช
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกลำบากใจยิ่งนักในสายตานาง เทียบกับชีวิตแล้ว ความเป็นส่วนตัวเท่านี้ไม่นับว่าเป็นอันใดด้วยซ้ำ“ป้าฉา บางครั้งเจ้ามิอาจเข้าใจได้ ทว่าข้ายังจะต้องบอกกับเจ้าว่า ในระหว่างขั้นตอนการผ่าตัด ต่อให้สวมอาภรณ์ก็จำเป็นต้องตัดทิ้ง โดยเฉพาะสถานการณ์ในยามนี้นั้นยากลำบากยิ่งนัก”การผ่าตัดเปิดช่อ
นางจับข้อมือของพระสนมอวิ๋น หากแต่ยังไร้ชีพจร หัวใจก็แทบหยุดเต้น “เสด็จแม่ ขอประทานอภัยเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกผิดอย่างยิ่งยวดนางรู้มาตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าพระสนมอวิ๋นสุขภาพไม่ดี ควรจะเตรียมการให้รอบด้านถึงจะถูกนางมั่นใจในตัวเองมากเกินไป มิได้คำนึงว่ากระเพาะอาหารจะยังมีแมลงพิษกู่ด้วยเช่นกัน จึง
ฮ่องเต้ทรงกุมมือของพระสนมอวิ๋นแน่น“เรื่องเช่นนั้น สามารถทำได้หรือ?” เขามองพระสนมอวิ๋นที่อ่อนแรง ก่อนตรัสถามด้วยเสียงเบาทำเอาฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจยาวเหยียดตามหลักแล้วทำไม่ได้พระสนมอวิ๋นมีความดันโลหิตต่ำ ชีพจรแทบจะไม่มี ไม่เหมาะจะฉีดยาชา และไม่เหมาะจะทำการผ่าตัดเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงื่อนไข
หากมิใช่เพราะนางยังสามารถสัมผัสได้ถึงชีพจรที่เต้นอย่างอ่อนแรง ก็แทบจะคิดว่าพระสนมอวิ๋นตายไปแล้วต้องเกิดปัญหาขึ้นที่ไหนสักที่!ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำมือแน่น สมองหมุนวนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกำจัดกู่นั้น นางได้ตรวจร่างกายของพระสนมอวิ๋นแล้ว นอกเสียจากถูกพิษกู่กัดกร่อนจนทำให้รู้สึกเจ็บปวดร่างกาย แล้ว ก็มีเพี
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงกับสะดุ้งตกใจจะเป็นไปได้อย่างไร?พระสนมอวิ๋นจะไม่หายใจได้อย่างไร!หลังจากขับแมลงพิษกู่ออกมา แม้ชีพจรของพระสนมอวิ๋นจะอ่อนแรง หากแต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิตอันตรายถึงแก่ชีวิตที่แท้จริงคือขั้นตอนต่อไปต่างหากนางสาวเท้าเข้าไปหยุดที่ข้างกายพระสนมอวิ๋นอย่างรวดเร็ว นิ้วก็สัมผัสชีพจรของพระสน
“จับได้แล้วหรือเพคะ?” ป้าฉาไม่อยากจะเชื่อ“อืม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สูดลมหยใจเข้าลึกจับได้แล้ว!ในลัทธิเต๋า มีคำพูดที่ว่าโคจรรอบเสี่ยวโจวเทียนและโคจรรอบต้าโจวเทียนสิ่งที่เรียกว่าโคจรรอบต้าโจวเทียนก็คือการโคจรพลังชี่ไหลไปรอบ ๆ ร่างกายหนึ่งรอบใหญ่โคจรรอบเสี่ยวโจวเทียน คือพลังชี่ออกจากจุดตันเถียนล่าง ผ่า
อุณหภูมิของยากำลังพอดีพระสนมอวิ๋นถอดอาภรณ์ออกอย่างช้า ๆ การถอดอาภรณ์ต่อหน้าลูกสะใภ้ ทำเอานางรู้สึกเขินอายเอามาก ๆ จึงใช้มือบังเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปด้วยความขัดเขิน“เสด็จแม่ นี่เป็นชามสุดท้ายแล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกยาที่ทั้งดำทั้งขมชามหนึ่งเข้ามา พลางพูดกล่อม “สามวันนี้ แมลงกู่พิษมีร่องรอยกา
บางที ใช้ปรสิตมาอธิบายจะดูสมเหตุสมผลกว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า แมลงพิษกู่ก็จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้การเต้นของหัวใจได้รับผลกระทบ และส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนโลหิต และอวัยวะภายในส่วนท้องจะได้รับผลกระทบเป็นที่แรก และจะค่อย ๆ กระจายไปทั่วร่างกาย ภายใต้ผลกระทบของการอักเสบและเลือดไหลเวียนไม่สะดวก