“พี่เจ็ดพี่สะใภ้เจ็ด พวกท่านล่าช้าอันใดกัน?” ตงฟางอิงเห็นพวกเขาเยื่องย่างเชื่องช้า ก็กระทืบเท้าด้วยความร้อนรน ก่อนวิ่งตรงมาตรงหน้าพวกเขา “ข้ารอพวกท่านมานานมากแล้วนะ” เขาชี้ไปข้างหน้า “ข้านึกออกแล้ว ข้าเคยเจอเหมาเหมา ตอนที่ข้ากำลังฝึกวรยุทธ์ เหมาเหมากระโดดผ่านตรงนี้ไป ทิศทางที่มันกระโดดไปก็คือทางนี้
เรื่องเช่นการตามหาแมว เหล่าท่านอ๋องผู้มีคุณธรรมและบารมีสูงส่งรู้สึกไม่ดีที่จะไปเข้าร่วม แล้วก็ไม่ยินยอมเข้าร่วมเช่นกัน หลังจากที่ออกจากตำหนักเฟิ่งอวี้แล้ว ท่านอ๋องหลายคนล้วนเดินทางกลับจวนกันหมด มีคนส่วนเล็ก ๆ ที่ขึ้นหอสูงทอดมองไกลออกไป ร่ำสุราหาความสุข ผู้ที่ตามหาแมวล้วนเป็นพระชายาและองค์หญิงทั้งสิ้
ทันทีฉินเสวี่ยเย่ว์ส่งเสียงเรียก ทุกคนต่างพากันถลาเข้ามาฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็มาถึงใต้ภูเขาจำลองเช่นกันภูเขาจำลองลูกนี้มีความสูงประมาณหอสองชั้น มิได้สูงมากนัก ทว่า ภูเขาจำลองแตกต่างจากภูเขาจริง ตรงที่รูปร่างแปลกประหลาด ปีนป่ายได้ง่าย ทว่าสูงชันอยู่มากหากไม่ระวังแม้แต่นิดเดียวแล้วล้มลงมา ผลที่ตามมาอาจเ
ยามที่เขาคิดจะอุ้มแมวลงจากเขาจำลองนั้น ฉินเสวี่ยเย่ว์ก็ได้ปีนขึ้นมาจนถึงยอดเขาจำลองแล้วครั้นนางเห็นน้องสิบอุ้มแมวไว้แล้ว สีหน้าพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อยในแผนเดิมของนาง คือต้องการใช้ประโยชน์จากโอกาสในการจับแมวตัวนี้ หาจุดที่ความสูงไม่มาก แล้วตกลงมาจากเขาจำลองโดยไม่ทันระวัง ช่วงเวลาที่ตกลงมานั้น เด็กที
ระวัง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นตงฟางอิงตกลงมาจากข้างบน ก็ตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน “เร็ว ผ้าห่ม ใช้ผ้าห่มรับน้องสิบไว้”ตงฟางอิงเป็นวรยุทธ์ ครั้นตกลงมาจากภูเขาจำลอง หลังจากที่ตีลังกาบนกลางอากาศแล้ว ก็ตกลงบนผ้าห่มอย่างมั่นคงมีผ้าห่มช่วยลดการกระแทก เขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?” ฉินเหยี่ยน
“พี่สะใภ้เจ็ด ท่านยิ้มได้ประหลาดมาก” ตงฟางอิงเงยหน้าเห็นสีหน้าของนาง ก็ขมวดคิ้ว “คิดอะไรออกงั้นหรือ?” “ข้าน่าจะรู้แล้วว่าเหมาเหมาได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “น้องสิบ ทางฝั่งนั้นผิดปกติ มาทางนี้”นางได้กลิ่นคาวเลือดอันเข้มข้นตอนที่เหมาเหมาผ่านที่แห่งนี้ ด้วยความเร็วที่รวดเร็ว รอยเ
“เหมียว!” เหมาเหมารีบเข้ามากัดในทันทีฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่มีการเตรียมตัวมาก่อนนั้น ยามที่ลูกแมวกำลังจะกระโจนเข้ามากัด นางก็ชักมือกลับมา พร้อมทั้งฉวยโอกาสที่ลูกแมวมิทันตั้งตัว ฉวยโอกาสลูบที่หัวมันอย่างรวดเร็วเหมาเหมาที่ชื่นชอบให้คนลูบหัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อสัมผัสได้ว่ามือของนางทั้งอบอุ่นและสบายนั
เลือดบนร่างกายของฉินเสวี่ยเย่ว์ไหลออกมาราวกับแม่น้ำก็ไม่ปาน ทั้งยังไหลออกมาไม่หยุดอีกด้วย เพียงพริบตาเดียวถึงกับไหลเปรอะเปื้อนไปทั่วท้องฟ้าและพื้นดินย้อมไปด้วยสีแดงฉาน พร้อมทั้งกลิ่นคาวเลือดที่ลอยอบอวลเต็มอากาศใบหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์ค่อย ๆ ซีดเผือด พร้อมทั่วร่างที่สั่นเทาออกมาไม่หยุด“พี่สะใภ้เจ็
นอกจากกำแพงที่มิอาจเข้าใกล้ได้แล้ว อีกสามทิศที่เหลือล้วนถูกยึดครองทั้งหมดภายใต้วงล้อมที่โอบล้อมหลายชั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์และองครักษ์จื่ออวี๋เหลือเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยฝั่งตรงข้ามมีคนจำนวนมาก ส่วนพวกเขามีกันเพียงสองคน การต่อสู้แบบเวียนเทียนสามารถทำให้พวกเขาเหนื่อยล้าจนหมดแรงได้เช่นกัน“รีบสู้รีบจบเถิ
องครักษ์จื่ออวี๋หยุดชะงักไปชั่วขณะศัตรูมีจำนวนมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด สถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤต เขาเพียงคนเดียวรับมือกับคนจำนวนมากเพียงนี้ อาจทำให้มิอาจดูแลไปพร้อม ๆ กันได้“สวมสิ่งนี้ไว้” เขาถอดเกราะเม่นอ่อนของตนเองออก“นี่คือ...” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกตะลึงเกราะเม่นอ่อนที่ดาบแทงไม่เข้า เป็นสิ่งของในตำน
องครักษ์จื่ออวี๋มีวรยุทธ์ที่สูงส่ง มีความเป็นไปได้ที่จะหลบหนีออกไปได้“มิอาจให้พวกเขาหลบหนีออกไปได้” ป้าหวนกำหมัดแน่นอย่างดุดัน “ตามไป จะต้องสงหารพวกเขาในกองรักษาระเบียบนี้ให้ได้”“หากพวกเขาออกจากกองรักษาระเบียบไปได้แล้ว พวกเราทั้งหมดก็ต้องตาย”สีหน้าของเหล่านางกำนัลพลันกลายเป็นเหี้ยมโหดขึ้นมามีนาง
“ไม่ได้” ใบหน้าเล็ก ๆ ของตงฟางอิงซีดขาว “พวกนางล้วนมีวรยุทธ์กันทั้งนั้น ท่านไม่เป็นวรยุทธ์ สู้พวกนางไม่ได้หรอก”นางกำนัลเหล่านี้ไม่รู้ว่ามีที่มาอย่างไร แต่ละคนล้วนมีฝีมือสูงส่งทั้งนั้นด้วยวรยุทธ์ของเขาในตอนนี้ อย่างมากที่สุดก็คืออาศัยวิชาตัวเบาที่ซุยเยียนสอนหลบหนีไป คิดจะเอาชนะพวกเขาได้นั้นเป็นไปไม
ป้าหวนจับจ้องกระดาษแผ่นนั้นสักพัก ใบหน้าเคร่งขรึมนั้นเปี่ยมล้นด้วยรังสีอาฆาตเสียงของนางแทบจะเค้นลอดไรฟันออกมา “ฝ่าบาทให้ท่านมารับตัวพระสนมเหยาหรือ?”“ถูกต้อง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “คดีของพระพันปีเป่าเปิดเผยความจริงทั้งหมดแล้ว พระสนมเหยาเป็นผู้ถูกข้อครหา เสด็จพ่อจึงมีพระราชโองการให้ข้ากับองค์ชายสิบมาร
“องครักษ์จื่ออวี๋” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขานเรียกคำหนึ่ง“พ่ะย่ะค่ะ”องครักษ์จื่ออวี๋สองนายปรากฎตัวขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกัน“พวกเจ้าใครก็ได้ช่วยข้าถีบกำแพงนี่ให้เปิดออกหน่อย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดกำชับ“พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์จื่วอวี๋ไม่ลังเลแม้แต่น้อยหนึ่งในนั้นก้าวขึ้นมาข้างหน้า กำหมัดแน่น รวบรวมพลังเงียบ ๆต่อ
ครั้นมองจากมุมของพวกเขา ข้างในยังคงว่างเปล่าไร้ผู้คน“ไม่มีกับดัก และไม่มีคนด้วย” ตงฟางอิงห่อไหล่ลง “แต่ข้าได้ยินเสียงจริง ๆ นะ” ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาซีดเผือดลงอีกครั้ง “พี่สะใภ้เจ็ด คงมิได้มีผีจริง ๆ กระมัง?”“ผีมิทำเรื่องไร้สาระพรรค์นี้หรอก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก้าวเข้าไปข้างในกลิ่นเลือดภายในห้องรุนแรง
สีหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็ดูไม่ดีเช่นกันกองรักษาระเบียบเป็นหน่วยตรวจสอบของวังหลวง หัวหน้าหน่วยตรวจสอบใช้บทลงโทษอะไรมาลงโทษลูกน้อง มิอาจใช้บทลงโทษกับผู้กระทำความผิดโดยไร้เหตุผลได้กองรักษาระเบียบแห่งนี้ผิดปกติจจริง ๆเห็นได้ชัดว่าแม่นมสองคนที่หน้าประตูก็ปิดบังเรื่องบางอย่างจากพวกเขา ท่าทีอึกอัก สีหน
นางยื่นกระดาษขาวไปตรงหน้าพวกนาง “หรือว่า พวกเจ้าคิดจะขัดพระราชโองการ?”เหล่าแม่นมมีเหงื่อเย็นผุดขึ้นมาที่หน้าผากเล็กน้อยพวกนางขัดขวางไว้ไม่ได้ ทำได้เพียงเปิดประตูให้ “พระชายาอ๋องเจ็ด องค์ชายสิบ เชิญเข้าไปได้เพคะ”ครั้นฉินเหยี่ยนพับกระดาษเก็บไว้ในแขนเสื้อเรียบร้อยแล้ว ก็พาเจ้าสิบเดินเข้าไปข้างในแม่