นางมองดูมีซาลาเปาที่เพิ่งจะออกจากหม้อในห้องครัวยามนี้เลยเวลาอาหารมานานแล้ว ซาลาเปาเป็นอาหารที่สะดวกและสามารถแก้หิวได้ เหมาะสำหรับเป็นมื้อของว่างอาหารที่จีอู๋เยียนโปรดปรานมากที่สุดคือซาลาเปา นางจึงหยิบใส่ในถุงสิบกว่าลูก“พระชายา นั่นเป็นซาลาเปาของฮูหยินรองนะเพคะ” แม่นมคนหนึ่งสะดุ้งตกใจ รีบเอ่ยขึ้น
ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิ้วขมวดพลางมองตรงไปนางจำสาวใช้รุ่นใหญ่สองคนนี้ได้ พวกนางเคยติดตามฮูหยินรองไปที่จวนอ๋องเจ็ด เหมือนว่าจะชื่อชุ่ยเหมยและชุ่ยจวี๋สักอย่างในตอนนั้นเฝ่ยชุ่ยยังถูกสาวใช้สองคนนี้ตบหน้าอีกด้วยดูจากลักษณะท่าทางในยามนี้แล้ว สาวใช้รุ่นใหญ่สองคนนี้น่าจะรู้ว่าเฝ่ยชุ่ยกลับมาที่จวนสกุลฉิน จึงตั้ง
หลายวันมานี้ นางคิดว่าเฝ่ยชุ่ยขลุกอยู่กับไป๋โค้วทุกวัน ย่อมเรียนรู้ความสามารถมาไม่มากก็น้อยคาดไม่ถึงเลยว่า เฝ่ยชุ่ยยังคงเป็นเฝ่ยชุ่ยในอดีตอยู่ ความขี้ขลาดก็มากขึ้นกว่าเดิม“รังแกกันเกินไปแล้ว” นางคิดจะลุกขึ้นยืนจีอู๋เยียนกลับยิ้มพรายอย่างเย็นชา “ครานี้ถูกเจ้าพบเข้าแล้ว หากคราต่อไปเจ้าไม่อยู่ด้วยเล
ฉินเหยี่ยนเย่ว์โกรธมากเสียจนหัวแทบจะระเบิดออกมาแล้วคราวก่อนนางซื้อเครื่องประดับจากหอคอยหมิงเยว์มาไม่น้อยเลย นอกจากจะส่งเป็นของขวัญมอบให้เย่ว์ลู่แล้ว ยังมีเครื่องประดับอื่น ๆ ที่นางแจกให้กับเด็กสาวทั้งสามอีกด้วยของไป๋โค้วคือสร้อยข้อมือ ชื่อเจี้ยนคือปิ่นปักผม เฟ่ยชุ่ยคือสร้อยคอยามที่เฟ่ยชุ่ยได้รับส
“ปล่อยข้านะ” นางพยายามสะบัดไม้สะบัดมือมาเพื่อปัดเฟ่ยชุ่ยออกไปให้พ้นทางเฟ่ยชุ่ยที่มิรู้ว่าไปเอาพละกำลังมาจากที่ใด หาได้ยอมปล่อยมือไม่ทั้งสามคนยื้อยุดฉุดกระชากกันไปกันมา ยามที่สถานการณ์กำลังตึงเครียด หวีไม้เล่มหนึ่งพลันลอยออกมา ก่อนจะไปกระทบเข้าที่ดวงตาของชุ่ยจวี๋ชุ่ยจวี๋กรีดร้องออกมาสองครั้ง ก่อนจ
ทั้งชุ่ยเหมยและชุ่ยจวี๋ต่างก็ตกตะลึงกับกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเฟ่ยชุ่ยพวกนางต่างก็มองหน้ากัน “เฟ่ยชุ่ย เจ้าจะทำอะไร? หากเจ้าไม่อยากถูกตบอีกละก็ ทำตัวดี ๆ อย่าได้คิดต่อต้านพวกข้า”“เฮอะ” เฟ่ยชุ่ยยิ้มเยาะออกมาด้วยความเย็นชาเชื่อฟัง ทำตัวเงียบ อย่าสร้างปัญหา อย่าต่อต้าน...นางถือคตินี้มานานน
เฟ่ยชุ่ยมองดูท่าทางที่น่าขยะแขยงของพวกนางด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะหยิบเข็มเงินที่ซ่อนอยู่เอาไว้ออกมา พลางกัดฟันตนเองเอาไว้แน่น ก่อนจะฉวยโอกาสที่ชุ่ยเหมยและชุ่ยจวี๋มัวแต่เก็บเครื่องประดับทองนั้น ใช้เข็มเงินแทงไปที่คอของพวกนางอย่างเต็มแรงทั้งชุ่ยเหมยและชุ่ยจวี๋ที่รู้สึกเจ็บปวดนั้น พวกนางถึงกับสะดุ้งขึ้น
เฟ่ยชุ่ยตบพวกนางทั้งแรงทั้งรวดเร็ว ทำเอาทั้งชุ่ยเหมยและชุ่ยจวี๋ใช้เวลานานกว่าจะได้สติกลับคืนมาดวงตาของพวกนางพลันเบิกกว้างไปในทันที “เจ้า เจ้ากล้าตบพวกข้างั้นหรือ?”“เหตุใดข้าต้องไม่กล้าด้วยเล่า?” เฟ่ยชุ่ยยิ้มเยาะออกมา“นังสารเลวนี่ กล้าดียังไงมาตบพวกข้า เจ้าเป็นตัวอันใดกัน?” ทั้งชุ่ยเหมยและชุ่ยจวี๋
นางกำชับทุกคนให้เปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อยแสงเทียนทั้งหมดกระจุกตัวกันอยู่ในจุด ๆ เดียวเมื่อแสงยังสว่างไม่มากพอ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้องครักษ์จื่ออวี๋นำไข่มุกราตรีในคลังเก็บสมบัติมาแสงสว่างของไข่มุกราตรีสะท้อนอยู่ภายในห้องจนดูคล้ายกับตอนกลางวันฉินเหยี่ยนเย่ว์มิสนใจพูดขอบคุณ หลังจากแบ่งงานกันอย่างช
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกลำบากใจยิ่งนักในสายตานาง เทียบกับชีวิตแล้ว ความเป็นส่วนตัวเท่านี้ไม่นับว่าเป็นอันใดด้วยซ้ำ“ป้าฉา บางครั้งเจ้ามิอาจเข้าใจได้ ทว่าข้ายังจะต้องบอกกับเจ้าว่า ในระหว่างขั้นตอนการผ่าตัด ต่อให้สวมอาภรณ์ก็จำเป็นต้องตัดทิ้ง โดยเฉพาะสถานการณ์ในยามนี้นั้นยากลำบากยิ่งนัก”การผ่าตัดเปิดช่อ
นางจับข้อมือของพระสนมอวิ๋น หากแต่ยังไร้ชีพจร หัวใจก็แทบหยุดเต้น “เสด็จแม่ ขอประทานอภัยเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกผิดอย่างยิ่งยวดนางรู้มาตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าพระสนมอวิ๋นสุขภาพไม่ดี ควรจะเตรียมการให้รอบด้านถึงจะถูกนางมั่นใจในตัวเองมากเกินไป มิได้คำนึงว่ากระเพาะอาหารจะยังมีแมลงพิษกู่ด้วยเช่นกัน จึง
ฮ่องเต้ทรงกุมมือของพระสนมอวิ๋นแน่น“เรื่องเช่นนั้น สามารถทำได้หรือ?” เขามองพระสนมอวิ๋นที่อ่อนแรง ก่อนตรัสถามด้วยเสียงเบาทำเอาฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจยาวเหยียดตามหลักแล้วทำไม่ได้พระสนมอวิ๋นมีความดันโลหิตต่ำ ชีพจรแทบจะไม่มี ไม่เหมาะจะฉีดยาชา และไม่เหมาะจะทำการผ่าตัดเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงื่อนไข
หากมิใช่เพราะนางยังสามารถสัมผัสได้ถึงชีพจรที่เต้นอย่างอ่อนแรง ก็แทบจะคิดว่าพระสนมอวิ๋นตายไปแล้วต้องเกิดปัญหาขึ้นที่ไหนสักที่!ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำมือแน่น สมองหมุนวนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกำจัดกู่นั้น นางได้ตรวจร่างกายของพระสนมอวิ๋นแล้ว นอกเสียจากถูกพิษกู่กัดกร่อนจนทำให้รู้สึกเจ็บปวดร่างกาย แล้ว ก็มีเพี
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงกับสะดุ้งตกใจจะเป็นไปได้อย่างไร?พระสนมอวิ๋นจะไม่หายใจได้อย่างไร!หลังจากขับแมลงพิษกู่ออกมา แม้ชีพจรของพระสนมอวิ๋นจะอ่อนแรง หากแต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิตอันตรายถึงแก่ชีวิตที่แท้จริงคือขั้นตอนต่อไปต่างหากนางสาวเท้าเข้าไปหยุดที่ข้างกายพระสนมอวิ๋นอย่างรวดเร็ว นิ้วก็สัมผัสชีพจรของพระสน
“จับได้แล้วหรือเพคะ?” ป้าฉาไม่อยากจะเชื่อ“อืม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สูดลมหยใจเข้าลึกจับได้แล้ว!ในลัทธิเต๋า มีคำพูดที่ว่าโคจรรอบเสี่ยวโจวเทียนและโคจรรอบต้าโจวเทียนสิ่งที่เรียกว่าโคจรรอบต้าโจวเทียนก็คือการโคจรพลังชี่ไหลไปรอบ ๆ ร่างกายหนึ่งรอบใหญ่โคจรรอบเสี่ยวโจวเทียน คือพลังชี่ออกจากจุดตันเถียนล่าง ผ่า
อุณหภูมิของยากำลังพอดีพระสนมอวิ๋นถอดอาภรณ์ออกอย่างช้า ๆ การถอดอาภรณ์ต่อหน้าลูกสะใภ้ ทำเอานางรู้สึกเขินอายเอามาก ๆ จึงใช้มือบังเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปด้วยความขัดเขิน“เสด็จแม่ นี่เป็นชามสุดท้ายแล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกยาที่ทั้งดำทั้งขมชามหนึ่งเข้ามา พลางพูดกล่อม “สามวันนี้ แมลงกู่พิษมีร่องรอยกา
บางที ใช้ปรสิตมาอธิบายจะดูสมเหตุสมผลกว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า แมลงพิษกู่ก็จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้การเต้นของหัวใจได้รับผลกระทบ และส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนโลหิต และอวัยวะภายในส่วนท้องจะได้รับผลกระทบเป็นที่แรก และจะค่อย ๆ กระจายไปทั่วร่างกาย ภายใต้ผลกระทบของการอักเสบและเลือดไหลเวียนไม่สะดวก