การที่ถูกชายผู้นี้จ้องมอง ทำให้รู้สึกอึดอัดไปทั่วสรรพางค์ราวกับถูกงูพิษเข้ามาพันเกี่ยว น่าขยะแขยง น่ากลัว อีกทั้งพิษร้ายหาสิ่งใดเทียบได้นางไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว“หมอหลวงหลิน ข้าแค่มาเยี่ยมเยียนท่าน ไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงหรอก ท่านก็ระวังตัวด้วย” นางพูดต่อ “นี่ก็สายแล้ว ข้ากลับก่อน หวังว่าท่
เมื่อกลับมาถึงจวนอ๋องเจ็ด มีรถม้าที่คุ้นตาจอดอยู่ที่ประตูจวนอ๋องเป็นรถม้าของจวนอ๋องหลูหยางหัวใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์บีบรัดแน่นขึ้น กลัวว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับองค์หญิงเย่ว์ลู่ นางจึงเดินกลับตำหนักหมิงอวี้ในไม่กี่ก้าวในลานตำหนัก ชายชราที่แข็งแรงกำลังเล่นสนุกสนานอยู่กับตงฟางอิงและตงฟางจิ่ว“อ๋องหล
ภรรยาคู่ที่ชอบด้วยกฎหมายในครอบครัวทั่วไปนั้น สถานะทางสังคมแทบจะไม่ต่างกับภรรยาเอกทว่าในราชวงศ์นั้น ภรรยาเอกมีเพียงคนเดียวหลังจากที่เย่ว์ลู่แต่งงานเข้าจวนอ๋องสามแล้ว สถานะของนางจะสูงกว่าอนุชายาธรรมดาหนึ่งระดับ ทว่าสถานะของนางจะยังคงต่ำกว่าพระชายาเอก“วันนี้ข้ามาที่นี่ก็เพียงเพื่อแจ้งอ๋องเจ็ดและชายา
“ไม่ล่ะ ข้ายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ” ตงฟางหลีย้ายกองสมุดบันทึกไป “ถ้าตอนกลางวันทำไม่เสร็จ ก็ต้องตื่นแต่เช้ามาทำชดเชย”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลิกดูไปอย่างไม่ใส่ใจ และเห็นว่ามันเป็นฎีกาที่ส่งมอบมาจากสถานที่ต่าง ๆ “ท่านตรวจฎีกาหรือ?“ทุกวันมีฎีกาส่งเข้าวังเป็นจำนวนมาก หากไม่ใส่เครื่องหมายว่าเร่งด่วน ก็ไม่จ
ขณะที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าเขาจะดื่มมันทั้งหมดรวดเดียว จู่ ๆ เขาก็วางชามยาลงข้าง ๆ และดึงนางมาตรงหน้าไม่รอให้นางได้โต้ตอบ เขาก็พลิกตัวขึ้นความหวานของผลไม้หวานในปากทำให้ได้กลิ่นเต็มจมูกและลำคอ มันยาวนานจนหายใจไม่ออกเป็นเวลาที่เนิ่นนาน ในที่สุดตงฟางหลีก็ปล่อยนางไปอย่างพึงพอใจ หมุนตัวไปดื่มยาจนหมดเก
สีหน้าของอ๋องสามมืดมนหลังจากวันมงคล เมื่อรู้ว่าเย่ว์ลู่ฟื้นจากความตายก็ตระหนกอกสั่นขวัญแขวนหลังจากที่เย่ว์ลู่ฟื้นขึ้นมา เขาไม่มีโอกาสที่จะติดต่อกับนางอีกเลย ยิ่งไม่กล้าไปเยี่ยมนางด้วยซ้ำ ไม่สบายใจตลอดเวลาอย่างไรก็ตาม ในพริบตาเดียวได้ผ่านไปหลายวันแล้ว เย่ว์ลู่ที่ฟื้นขึ้นมาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกี่
ทว่าความต่างทางพละกำลังระหว่างบุรุษสตรีนั้นมากเกินไป นางจึงไม่สามารถหลุดออกไปได้เลยชายตรงหน้ามีสีหน้าดุร้าย และไม่มีความตั้งใจที่จะละมือเลยเรี่ยวแรงค่อย ๆ หมดลงทีละน้อย ดวงตาของนางก็พลิกกลับเป็นสีขาว ความขยาดกลัวต่อความตายครอบงำเต็มจิตใจ ร่างกายดิ้นรนไม่หยุดยั้งเองก็ห้อยลงอย่างแผ่วเบา“ท่านอ๋อง ตร
เมื่อได้ยินว่าเรื่องเกี่ยวกับฉินเหยี่ยนเย่ว์ สีหน้าของอ๋องสามก็ดูน่าเกลียดเป็นอย่างมากในฉับพลัน ตบมือลงบนโต๊ะฉาดใหญ่พลังของเขาแข็งแกร่งมากจนโต๊ะแตก และร่วงลงสู่พื้น“สตรีคนนั้นอีกแล้ว สตรีเจ้าปัญหาคนนั้น” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแววสังหาร “วันมงคล คนที่พาเจ้าเจ็ดไปที่อื่นก็คือนาง คนที่ช่วยชีวิตเย่ว์ลู
“ใต้เท้าหลี่วางใจได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้น “พวกเราเพียงเข้าไปตรวจสอบฮูหยินของหลิงอวิ๋นจวินเท่านั้น หาได้เกี่ยวข้องกับองค์ชายหกไม่ พวกเราไม่รู้ว่าองค์ชายหกจะมาอยู่ที่นี่ และองค์ชายหกคงไม่ออกมาพบพวกเราเช่นกัน มิใช่หรือ?”หลี่ชิงอวิ๋นชะงักงันไปชั่วขณะ “พระชายาอ๋องเจ็ดหมายความว่า...”ฉินเหยี่ยนเย่ว์หั
“เจ็บ” ตงฟางหลีเจ็บจนลมหายใจสะดุด สีหน้าซีดขาว“ยัยหนู เจ้าคิดจะลอบสังหารสามีหรือ?”“ก่อนหน้านี้ก็ชนกระดูกซี่โครงของข้าจนหัก ยังมาซวยซ้ำซวยซ้อนอีก เจ้าใจกล้ามากแล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงนึกขึ้นได้ว่าคนผู้นี้เพิ่งถูกนางวิ่งชนจนกระดูกซี่โครงหักไปถึงสามท่อนเคราะห์ยังดี ที่เป็นเพียงกระดูกหักธรรมดา มิได้ม
รูปลักษณ์นั้นอย่างมากที่สุดคือเกินระดับมาตรฐานดูย่ำแย่กว่าหรูอวิ๋นเหม่ยเหรินที่อยู่ข้างกายองค์ชายหกอยู่มากโขหากพูดว่ารักแท้คือการอยู่เคียงข้างกัน ไม่ว่าจะอายุเท่าไร รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ผู้ที่มีความรักท้ายที่สุดก็จะได้ครองคู่กัน นี่คือคำพูดสวยหรูหากแต่สตรีในยุคนี้ สถานภาพดีกว่าที่นางรู้มาเล็ก
สถานที่ที่สายตาของตงฟางหลีมองเห็นก็คือจวนของหลิงอวิ๋นจวินหน้าจวนมีรถม้าหนึ่งคันจอดอยู่อ๋องหกกระโดดลงจากรถม้า ก่อนจะเดินเข้าไปในลานจวนอย่างเปิดเผยและรู้ลู่ทางดี“อ๋องหกเป็นชายรูปงาม ว่ากันว่าสตรีนับไม่ถ้วนในเมืองเหวินจิงต่างหลงใหล มีสตรีข้างกายไม่ขาดสาย เขาสามารถรับมือได้อย่างชำนาญ นับเป็นเรื่องที่
“นางสิสมควรตาย ไม่ใช่ข้า พวกท่านจับคนผิดแล้ว”ฉินเสวี่ยเย่ว์ไม่สามารถส่งเสียงใด ๆ ออกมาได้อีกแล้ว ได้แต่ตะโกนอยู่ในใจเท่านั้นเลือดสาดกระจายเต็มพื้น ย้อมทั้งห้องกลายเป็นสีแดงฉานนางล้มจมกองโลหิต ยืดคอไปข้างหน้าอย่างสิ้นหวัง ก่อนเสียชีวิตยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กระทั่งตายนางก็ยังไม่เข้าใจ เ
ปวดหัว!ปวดหัวหนักมาก!ปวดหัวจนจะตายอยู่แล้ว!ความเจ็บปวดที่น่าหวาดกลัวและไม่อาจควบคุมได้มาเยือนกะทันหันเช่นเดียวกับทหารเรือนพันม้าเรือนหมื่น พุ่งพรวดเข้ามาอย่างรวดเร็วและดุเดือดมากจนไม่ทันได้โต้ตอบเลย“อ๊าก ทำไมกัน? หัวข้าปวดหัวเหลือเกิน”“เหตุใดถึงเป็นข้า?”“อ๊าก ปวด ปวดมากเลย”“ท่านน้า ช่วยข้าด้
“เสวี่ยเอ๋อร์ไม่จำเป็นต้องกังวลอีก เพราะเกรงว่าเจ้าอาจจะไม่มีวันได้พบกับฉินเหยี่ยนเย่ว์อีกแล้วล่ะ” หมิ่นจูกล่าว “ข้าไม่สบาย เจ้ากินอาหารให้อิ่มท้องเถอะ”ฉินเสวี่ยเย่ว์ไม่วางใจนางทุบประตูอย่างแรง “ท่านน้า ท่านน้า ท่านทำอีกครั้งเถอะ ถ้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่ตายอีกเจ็ดแปดครั้งข้าก็ไม่พอใจหรอกนะ”หมิ่นจูหล
หลังจากที่หมิ่นจูดื่มชาครบสามแก้วรวด ก็หยิบเหรียญทองแดงสามเหรียญออกมาจากด้านในแขนเสื้อนางเห็นสัญลักษณ์การทำนายจากเหรียญ ดวงตาหรี่ลงเดินเตร่ร่ำไห้เป็นสายโลหิต ทรายเหลืองเต็มนภา และพลังชีวิตทั้งหมดก็กลายเป็นฝุ่นในชั้นดินลึก——เป็นคำทำนายที่ไม่ดีอย่างยิ่งยวดหมิ่นจูจ้องมองสัญลักษณ์นี้อยู่นานแม้ว่าเป
“ข้าอยากให้นางตาย”“อ๊าก ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไปตายซะ”ดวงตาทั้งสองข้างของนางเป็นสีแดงโลหิต ใบหน้าดุร้าย มองบุคลิกที่มีเสน่ห์ในอดีตไม่ออกเลยสักนิดหมิ่นจูจ้องมองฉินเสวี่ยเย่ว์ที่โฉมหน้าเปลี่ยนไป พลางส่ายหัวเล็กน้อยฉินเสวี่ยเย่ว์ผู้นี้ ราวกับถูกแกะสลักจากแม่พิมพ์เดียวกันกับหมิ่นอวี้ไร้วิสัยทัศน์เช่นเดียว