ภรรยาคู่ที่ชอบด้วยกฎหมายในครอบครัวทั่วไปนั้น สถานะทางสังคมแทบจะไม่ต่างกับภรรยาเอกทว่าในราชวงศ์นั้น ภรรยาเอกมีเพียงคนเดียวหลังจากที่เย่ว์ลู่แต่งงานเข้าจวนอ๋องสามแล้ว สถานะของนางจะสูงกว่าอนุชายาธรรมดาหนึ่งระดับ ทว่าสถานะของนางจะยังคงต่ำกว่าพระชายาเอก“วันนี้ข้ามาที่นี่ก็เพียงเพื่อแจ้งอ๋องเจ็ดและชายา
“ไม่ล่ะ ข้ายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ” ตงฟางหลีย้ายกองสมุดบันทึกไป “ถ้าตอนกลางวันทำไม่เสร็จ ก็ต้องตื่นแต่เช้ามาทำชดเชย”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลิกดูไปอย่างไม่ใส่ใจ และเห็นว่ามันเป็นฎีกาที่ส่งมอบมาจากสถานที่ต่าง ๆ “ท่านตรวจฎีกาหรือ?“ทุกวันมีฎีกาส่งเข้าวังเป็นจำนวนมาก หากไม่ใส่เครื่องหมายว่าเร่งด่วน ก็ไม่จ
ขณะที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าเขาจะดื่มมันทั้งหมดรวดเดียว จู่ ๆ เขาก็วางชามยาลงข้าง ๆ และดึงนางมาตรงหน้าไม่รอให้นางได้โต้ตอบ เขาก็พลิกตัวขึ้นความหวานของผลไม้หวานในปากทำให้ได้กลิ่นเต็มจมูกและลำคอ มันยาวนานจนหายใจไม่ออกเป็นเวลาที่เนิ่นนาน ในที่สุดตงฟางหลีก็ปล่อยนางไปอย่างพึงพอใจ หมุนตัวไปดื่มยาจนหมดเก
สีหน้าของอ๋องสามมืดมนหลังจากวันมงคล เมื่อรู้ว่าเย่ว์ลู่ฟื้นจากความตายก็ตระหนกอกสั่นขวัญแขวนหลังจากที่เย่ว์ลู่ฟื้นขึ้นมา เขาไม่มีโอกาสที่จะติดต่อกับนางอีกเลย ยิ่งไม่กล้าไปเยี่ยมนางด้วยซ้ำ ไม่สบายใจตลอดเวลาอย่างไรก็ตาม ในพริบตาเดียวได้ผ่านไปหลายวันแล้ว เย่ว์ลู่ที่ฟื้นขึ้นมาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกี่
ทว่าความต่างทางพละกำลังระหว่างบุรุษสตรีนั้นมากเกินไป นางจึงไม่สามารถหลุดออกไปได้เลยชายตรงหน้ามีสีหน้าดุร้าย และไม่มีความตั้งใจที่จะละมือเลยเรี่ยวแรงค่อย ๆ หมดลงทีละน้อย ดวงตาของนางก็พลิกกลับเป็นสีขาว ความขยาดกลัวต่อความตายครอบงำเต็มจิตใจ ร่างกายดิ้นรนไม่หยุดยั้งเองก็ห้อยลงอย่างแผ่วเบา“ท่านอ๋อง ตร
เมื่อได้ยินว่าเรื่องเกี่ยวกับฉินเหยี่ยนเย่ว์ สีหน้าของอ๋องสามก็ดูน่าเกลียดเป็นอย่างมากในฉับพลัน ตบมือลงบนโต๊ะฉาดใหญ่พลังของเขาแข็งแกร่งมากจนโต๊ะแตก และร่วงลงสู่พื้น“สตรีคนนั้นอีกแล้ว สตรีเจ้าปัญหาคนนั้น” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแววสังหาร “วันมงคล คนที่พาเจ้าเจ็ดไปที่อื่นก็คือนาง คนที่ช่วยชีวิตเย่ว์ลู
ใบหน้าชั่วร้ายน่ากลัวนั้นเต็มเปี่ยมอยู่ในดวงตา น่าหวาดผวายิ่งกว่าฝันร้าย“เสาเย้า เตรียมรถม้า ข้าอยากกลับสกุลฉิน”นางไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปได้แล้ว“พระชายา” ใบหน้าของสาวใช้ซีดเผือดลง “นี่ไม่ดีกระมังเพคะ”“หยุดพูดเหลวไหล แล้วกลับไป” ฉินเสวี่ยเย่ว์ถูกพะเน้าพะนอตั้งแต่เด็ก ถูกฮูหยินรองโอ๋ไว้ในฝ
จวนอ๋องเจ็ด ตำหนักหมิงอวี้ข้างนอกอากาศหนาวเย็นมากเตาผิงไฟในห้องกำลังโหมลุกไหม้ เต็มไปด้วยความอบอุ่นตงฟางหลีพิงเบาะนุ่ม เล่นหมากรุกกับตงฟางอิงอย่างใคร่ไม่ไยดีนักฉินเหยี่ยนเย่ว์รักษาบาดแผลบนตัวของตงฟางจิ่วอย่างระมัดระวังเด็กมีความสามารถในการรักษาบาดแผลให้หายสนิทที่แข็งแกร่งมาก ในเวลาเพียงสองสามวั
ฉินเหยี่ยนเย่ว์มิได้คำตอบกลับ อารมณ์ไม่ดีนัก จึงดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ ไม่สนใจตงฟางหลี“เลิกคลุมได้แล้ว” ตงฟางหลีถืออาภรณ์ตัวใหม่มา ก่อนจะช่วยสวมให้นางอย่างเบามือฉินเหยี่ยนเย่ว์ยังคงพูดพึมพำนางดึงตัวตงฟางหลีเข้ามา “พี่เจ็ด ท่านไม่คิดว่าท่านทำเกินไปบ้างหรือ?”ตงฟางหลีฉวยโอกาสนี้โอบนางไว้ในอ้อมแขน “
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่อยู่ในความฝันไม่ได้ยินเสียง ทว่ากลับได้กลิ่นที่คุ้นเคยนั้นนั่นเป็นกลิ่นที่ทำให้คนสงบจิตใจได้ฉินเหยี่ยนเย่ว์ผ่อนคลายลงโดยไม่รู้ตัวนางพลิกตัว และใช้มือตีคนข้าง ๆ อย่างแรง“ยัยหนู!”ใบหน้าของตงฟางหลีทะมึนทึน “ท่านอนของเจ้านี่!”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินสิ่งที่ตงฟางหลีกำลังพูดไม่ค่อยชัด
เมื่อคิดว่านางอาจจะจากไป เมื่อคิดว่าจะสูญเสียนางไป เมื่อคิดถึงภาพเหตุการณ์ในแต่ละเหตุการณ์ที่ไม่มีนางอยู่ด้วยแล้ว เขาไม่สามารถยอมรับได้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหากนางทิ้งเขาไป เขาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง“ยัยหนู” เขาก้มหน้าลง แล้วกดหน้าผากลงบนหน้าผากของนาง “ข้ากลัวมาก จนถึงตอนนี้มือข้ายังสั่นอยู่เลย จนกระทั
ตู้เหิงคิดถึงสุ่ยเยียนที่เย็นชาและไม่ชอบพบปะผู้คน หัวใจก็คันยุบยิบยิ่งสุ่ยเยียนไม่สนใจเขามากเท่าใด เขาก็ยิ่งอยากเข้าใกล้มากขึ้นแม้ว่าจะถูกนางจ้องเขม็ง แต่เขาก็สามารถมีความสุขไปได้อีกครึ่งวันในฐานะบุรุษสง่าผ่าเผย จะต้องยึดมั่นจนถึงที่สุด ไม่ละทิ้งกลางคัน ที่สำคัญกว่านั้นคือต้องรักษาตนให้บริสุทธิ์ด
“ไปทำตามที่พระชายาบอก” ตงฟางหลีรับช่วงต่อ “ข้าจะไปขอประทานอภัยจากเสด็จพ่อ เจ้าออกไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”หลี่เวยหลิงลังเลมากการจุดไฟเผาในพระราชวัง เป็นเรื่องที่พระชายาอ๋องเจ็ดเท่านั้นที่กล้าทำทว่า นอกจากการเผาแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีวิธีอื่นแก้ปัญหาที่ดีเลยเขารับคำสั่งแล้วออกไปตงฟางหลีมองไปที่ห้องโถงให
พระสนมเหยามองดูท่าทางของป้าหวนแล้วหันหลังกลับแม้ว่านางไม่มีวรยุทธ์ แต่ก็มองออกว่าชีพจรหัวใจของป้าหวนปริแตกแล้ว คงไม่รอดแล้วถูกผิด บุญคุณความแค้น จบลงเมื่อตายป้าหวนถือม้วนหนังวัวไว้ติดกับหัวใจราวกับกำลังถือสมบัติล้ำค่าอยู่สุดท้ายชีพจรหัวใจที่ตัดบัวยังเหลือใยถูกทำลาย เนื่องจากการจู่โจมของยาคลั่งสง
“เจ้าพูดเหลวไหล” ป้าหวนเอ่ยขัดคำพูดของนาง “นี่เป็นไปไม่ได้ คนอย่างพวกเขา จะตามหาข้าได้อย่างไร?”“ตอนที่ข้าถูกคนทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม พวกเขาอยู่ที่ไหน? ตอนที่ข้าต้องการพวกเขามากที่สุด พวกเขาอยู่ที่ไหน? จนถึงตอนนี้เจ้ายังมาพูดคำสวยหรูอะไรอีก”“เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่า เจ้าได้สังหารคนหลายร้อยคนในครอบครัว
พระสนมเหยาค่อย ๆ เดินออกมาจากห้องลับทั่วร่างของนางเต็มไปด้วยเลือด และไม่สามารถมองเห็นสีดั้งเดิมของเสื้อผ้าได้เลยร่างกายอ่อนแอมาก ต้องมีชื่อเจี้ยนประคองถึงจะสามารถฝืนยืนได้“สนมเหยา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นว่านางยังมีชีวิตอยู่ หัวใจที่แขวนไว้กลางอากาศก็ร่วงหล่นลงมา “พระองค์อย่าขยับ ยังต้องพักฟื้นอย่างร
ป้าหวนฝืนร่างกายตนถอยหลังไปสองสามก้าว และกระอักเลือดออกมาสองสามคำ“พวกท่าน!” หลังจากที่จิตใจของป้าหวนสับสนวุ่นวาย จึงเต็มไปด้วยช่องโหว่ นางถูกตงฟางหลีโจมตี และชีพจรหัวใจก็ได้รับผลกระทบเลือดลมชี่สูบฉีดพุ่งสูงขึ้น ชีพจรหัวใจถูกจำกัด และลมหายใจผิดปกติเมื่อรู้ว่านางไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ จึงยัดยาคลั