จากนั้นฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเห็นได้อย่างชัดเจน ว่ามีรอยประทับฝ่ามืออันโอหังสองรอยบนใบหน้าของเฟ่ยชุ่ย“สาวใช้ข้างกายฮูหยินรองตบเจ้าหรือ?”เฟ่ยชุ่ยพยักหน้าและสูดจมูก “พระนาง บ่าวไม่เป็นไรเพคะ”“เป็นสิ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แอบเสียใจทีหลังนางอยากจะแกล้งทำเป็นอ่อนแอให้คู่ต่อสู้ตายใจ แล้วถือโอกาสคว้าชัยในท้ายที่
ระยะห่างระหว่างจวนอ๋องเจ็ดและจวนอ๋องสามนั้นอยู่ไม่ไกลเท่าใดนักฮูหยินรองไล่สาวใช้ทั้งสองลงจากรถม้า และบอกให้คนขับรถม้า ขับช้า ๆ ไปยังจวนอ๋องสามนางดึงม่านรถแน่น แล้วปิดม่านผ้าโปร่งก่อนจะหยิบห่อผ้าออกมาอย่างระมัดระวังสมบัติล้ำค่าอยู่ตรงหน้านาง นางวางมันลงไม่ได้ถูสมบัติล้ำค่าแต่ละชิ้นบนแก้มหลายครั้ง
นางกำชายเสื้อผ้าแน่นการที่ยุ่งอยู่กับหน้าที่ราชการเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ช่วงนี้ท่านอ๋องสามเย็นชาต่อนางมากฮูหยินรองทอดถอนหายใจอยู่นาน “เสด็จแม่ขององค์ชายใหญ่มาจากเป่ยลู่ และองค์ชายรองก็พิการ ไม่ว่าจะเป็นคุณวุฒิอาวุโสหรือความแข็งแกร่ง ท่านอ๋องสามล้วนเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับรัชทายาท เสวี่ยเ
“พระชายา ท่านเป็นอันใดไปเพคะ?” สาวใช้ที่ได้ยินเสียง ก็รีบเดินเข้ามาใบหน้าฉินเสวี่ยเย่ว์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ชี้ไปที่คันฉ่อง “เจ้าดูสิว่ามีอะไรอยู่ข้างในคันฉ่อง?”ยามที่นางยื่นมือออกมานั้น คนในคันฉ่องก็ยื่นออกมาเช่นเดียวกัน บนนิ้วยังสวมแหวนที่คล้ายกับของนางทุกประการ“เจ้าดูสิ นางกำลังเลียนแบบข้า!
หงเซียวถูกต่อว่าจนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมยิ่งนักเดิมนางคือนางกำนัลที่คอยสอนเรื่องทางโลกให้กับท่านอ๋องสาม พออายุสิบห้าปีก็ติดตามท่านอ๋อง เรื่องนี้ทุกคนต่างรู้กันทั่วคนในจวนอ๋องแห่งนี้ไม่มีผู้ใดกล้ามองหรือปฏิบัติต่อนางเป็นคนใช้ ทว่านางรู้ฐานะของตนเองดี จึงไม่แย่งชิงความโปรดปราน ปรนนิบัติท่านอ๋อง
เสวี่ยเอ๋อร์ เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” ท่านอ๋องสามถามด้วยเสียงเย็นชา“มิใช่หม่อมฉัน หาได้เกี่ยวข้องกับหม่อมฉันไม่เพคะ” แขนฉินเสวี่ยเย่ว์ถูกแทงด้วยปิ่น ศีรษะกระแทกขาโต๊ะจนแตก อีกทั้งก้นยังถูกทิ่มด้วยเศษแจกัน หนังศีรษะถูกดึงจนเลือดไหลสร้างความเจ็บปวดให้มากยิ่งขึ้นกระทั่งจะลุกขึ้นยืนนางยังลุกไม่ได้ ทำได้เ
บนต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะที่อยู่ไกลออกไปกำลังขยับเบา ๆ เงาสีขาวร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากผู้ใดเงาสีขาวนี้ คือเฟยอิ่งที่ตู้เหิงส่งไปติดตามฮูหยินรองขณะที่เฟยอิ่งกำลังจะกลับไปรายงานที่จวนท่านอ๋องเจ็ดนั้น พลันเห็นราชองครักษ์ของจวนท่านอ๋องสามยัดสาวใช้ที่ตายไปแล้วใส่กระสอบ
“ข้าเขียนแทนเจ้าเอง” ตงฟางหลีหยิบพู่กันขึ้นมาหลังจากฉินเหยี่ยนเย่ว์สั่งเทียบยาที่สามารถยืดอายุแล้ว ก็เรียกหาแหวน ต้องการยาที่ใช้สำหรับฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ทว่าแหวนยังคงไม่สนใจนางเหมือนดั่งเช่นเคย“ตู้เหิง ยังต้องให้ลู่ซิวมาดูสักครั้ง” นางมองเลือดที่อาบเต็มศีรษะก็รู้สึกอับจนหนทางอยู่บ้าง “ข้าจักรักษาแ
ป้าหวนฝืนร่างกายตนถอยหลังไปสองสามก้าว และกระอักเลือดออกมาสองสามคำ“พวกท่าน!” หลังจากที่จิตใจของป้าหวนสับสนวุ่นวาย จึงเต็มไปด้วยช่องโหว่ นางถูกตงฟางหลีโจมตี และชีพจรหัวใจก็ได้รับผลกระทบเลือดลมชี่สูบฉีดพุ่งสูงขึ้น ชีพจรหัวใจถูกจำกัด และลมหายใจผิดปกติเมื่อรู้ว่านางไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ จึงยัดยาคลั
“นี่” จีอู๋เยียนเก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วพูดขึ้นเสียงเย็น “กองทัพที่ไม่เป็นโล้เป็นพายเก็บกวาดหมดแล้ว คนผู้นี้จะจัดการเช่นไร?”เขาชี้ไปที่ป้าหวนซึ่งดูใบหน้าซีดเซียวป้าหวนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้มากจนพูดไม่ออกนางมองลูกน้องของนางที่ล้มลงอยู่บนพื้น ดวงตาเบิกโพล่งปรมาจารย์ชั้นยอดหลายสิบคน ใ
“หากบุรุษผู้นี้มิใช่เฟิ่งหลี ข้าจะสับเขาเป็นชิ้น ๆ แน่นอน” ตงฟางหลีพูดแล้วหยิบขวดยาออกมาป้อนให้แก่เฟิ่งหลีฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดไม่ออกแม้ว่าองครักษ์จื่ออวี๋จะไม่ใช่เฟิ่งหลี แต่เป็นคนอื่น นางก็ยังคงทำอย่างนั้นในสถานการณ์เช่นนั้นประเด็นความหึงหวงก็แปลกพิลึกเช่นเคย“ท่านป้อนอะไรให้ท่านพี่?” นางถาม“ยาถอ
ไม่รอให้ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตอบกลับ ตงฟางหลีก็เตะเขาออกไป“ตงฟางหลี ท่านทำอะไรน่ะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจเฟิ่งหลีใกล้จะตายอยู่แล้ว ถูกตงฟางหลีกระทำอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ไหนเลยจะรับไหว?นางรีบคว้าเฟิ่งหลีเอาไว้ และวางมือที่สั่นเทาบนข้อมือของเขาเกราะเม่นอ่อนของเฟิ่งหลีที่มอบให้นาง ช่วยป้องกันการโจมตีส่วนให
“เหยี่ยนเย่ว์!”ในตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าตนกำลังจะตาย สุ้มเสียงที่เป็นกังวลก็ดังขึ้น“เหยี่ยนเย่ว์ เจ้าเป็นไรหรือไม่?”“ยัยหนู เจ้าห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดนะ”เสียงหนึ่ง ตอนแรกฟังดูเหมือนมาจากมิติอันไกลโพ้น ยากที่จะได้ยินชัดเจนแต่แล้วเสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆผ่านชั้นสีเลือด ขจัดความกลัว ข
หลังจากที่ป้าหวนออกคำสั่ง ทุกคนต่างรวมตัวกันรอบฉินเหยี่ยนเย่ว์และเฟิ่งหลีกระบี่ยาวหอบลมปะทะมา ทั้งหมดโจมตีลงมาที่พวกเขาฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อนครั้งก่อนที่ถูกคนของอีกาดำโจมตี อีกาดำตัวนั้นไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตาเลย และการเคลื่อนไหวของฝ่ามือช่างเชื่องช้ายิ่งนัก นางหลบหนีได้ภา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่าเถาวัลย์โลหิตถูกคนตัดออกไป ร่างกายเบาขึ้นดูเหมือนมีคนตบใบหน้านางอย่างแรงคนผู้นั้นยังคงพูดอะไรบางอย่างร้อนใจด้วยเสียงที่ห่างไกลฟื้นคืนกลับมาทีละน้อย และสมองที่ค้างเติ่งว่างเปล่าก็เริ่มต้นใหม่เช่นกัน“สาวน้อย ตื่นได้แล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองไปยังแหล่งที่มาของเสียงด้านหน้า ใบ
องครักษ์จื่ออวี๋ในยามนี้ตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากทั้งสองด้านแล้วหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บ สีหน้าย่ำแย่อย่างรวดเร็วบนกระบี่มีพิษ!ภายใต้ผลกระทบของพิษ สติขององครักษ์จื่ออวี๋พร่ามัวเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะรีบผนึกจุดฝังเข็มที่สำคัญหลายจุดจุดฝังเข็มถูกผนึกกะทันหัน และเมื่อเลือดลมพุ่งทะยานขึ้น เขาจึงกระอัก
นอกจากกำแพงที่มิอาจเข้าใกล้ได้แล้ว อีกสามทิศที่เหลือล้วนถูกยึดครองทั้งหมดภายใต้วงล้อมที่โอบล้อมหลายชั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์และองครักษ์จื่ออวี๋เหลือเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยฝั่งตรงข้ามมีคนจำนวนมาก ส่วนพวกเขามีกันเพียงสองคน การต่อสู้แบบเวียนเทียนสามารถทำให้พวกเขาเหนื่อยล้าจนหมดแรงได้เช่นกัน“รีบสู้รีบจบเถิ